D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

อิอิ ....ผมเดาว่า :rain::rain::rain::rain::rain::rain::rain::rain:

ติดหัวฉีดน้ำที่แผงคลอย์ร้อน แน่ๆๆ เลย

 

เสียใจด้วยครับ
ว่าแต่มันเกี่ยวกับระบบแก๊สหรือเปล่าครับ

 

...........เดาผิดครับผม...............

 

เล่าให้ฟัง

ผมเดินทางประมาณบ่ายสามโมงครึ่งของวันอาทิตย์ที่ ๒๘ เม.ย. พร้อมกับบุตรชายและบุตรสาว(ปิดเทอมอยู่ กะจะมาเที่ยววัดพระแก้วด้วยหลังเสร็จงานที่ศาลล้มละลายกลาง สาธรใต้) วันเดินทางก็เจอพายุฝนเต็มๆที่หนองกี่จนถึงโคราชเลย ระบบทุกอย่างก็ปรกติ(ที่สปีดลมสูงสุดทำความเย็นเฉลี่ยในห้องโดยสารได้ประมาณ๑๔องศา ลมเย็นส่งออกมาที่สปีดนี้ -๕.๕องศา) จอดพักรถที่โคราชสองคืน เช้าวันที่๒๙ ตอนตีสี่ออกเดินทางจากโคราชเข้ากรุงเทพ ทุกอย่างตอนออกเดินทางก็ปรกติทุกอย่าง คอมแอร์ก็ตัดตลอดการเดินทาง ไม่มีอาการใดๆเตือนหรือออกอาการผิดปรกติให้เห็นหรือรับรู้ได้เลย เหมือนกับคราวก่อน ที่เดินทางมาอยุธยา ก็เย็นมาตลอด แต่พอเลี้ยววังน้อยเท่านั้น(ท่อโลว์ขาดแล้ว) กลับเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆโดยที่เราไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร จนมาถึงอยุธยา พอเปิดฝากระโปรง ถึงเห็นท่อมันขาด แล้วก็มาเปลี่ยนที่โคราชที่เจอน้ำยาปลอมนั่นล่ะ แต่ตอนนั้นมาเป็นอาร์๑๒

หนนี้มันก็ปรกติดีทุกอย่าง ผมใช้ความเร็วประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง(๑๒๐จริงๆไมล์ไม่อ่อนไม่แข็ง) วิ่งฉิวมาตลอด แอร์ก็เย็นเจี๊ยบจนลูกต้องสวมเสื้อหนาว ช่วงลงเขาผมลองกดดูเล่นๆ ๑๕๐ ไหลติดเท้าเลยเรียกมาในแว๊บเดียว แต่เป็นช่วงสั้นๆตอนลงเนินเท่านั้น ตอนเกิดเหตุนั้น จำได้ว่าเหมือนกับว่ารถกระแทกกับพื้นถนนที่ไม่ค่อยเรียบ ซึ่งมันก็เป็นปรกติทั่วไปเหมือนทุกๆครั้งที่เจอ แต่ครั้งนี้กลับมีเสียงดับพรึบ(หนเดียว แต่รู้สึกว่าดังมากๆทีเดียว ขนาดรถผมเก็บเสียงได้ดีเยี่ยมยังได้ยินชัดเจน ) เสียงนี้คุ้นๆ เป็นเสียงเดียวกันกับตอนเราติดเตาแก๊สหุงต้มที่บ้านเลยครับ ตอนบิดสวิทซ์ แล้วมันดีดกลับ จะตามด้วยเสียงพรึบแบบเดียวกันนี้ล่ะ แต่ที่ผมได้ยินนั้นมันดังกว่ามากเลยครับ

แรกทีเดียวก็บอกกับตัวเองว่า ไม่ ไม่.............ไม่ใช่แน่ ทำไมหากมันระเบิดเราถึงไม่เห็นเปลวไฟล่ะ ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเอง แต่อีกใจก็บอกว่าอย่าประมาท มันต้องมีอะไรผิดปรกติแน่ จอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในระหว่างที่ผมยังลังเลอยู่นั่น เจ้าลูกชายคนโตดันตื่นมา แล้วบอกว่าป๊า ได้กลิ่นไฟไหม้ เท่านั้นล่ะผมก็รีบตบไฟเลี้ยวซ้ายจอดแอบเข้าข้างทางทันที ก่อนเปิดฝากระโปรง(เคยมีประสพการณ์ รถโจโจ้ไฟไหม้มาแล้วหนหนึ่ง ที่แยกสนามบินน้ำนนทบุรีเมื่อสิบปีก่อน) ผมรีบเปิดกระโปรงหลังหยิบเครื่องดับเพลิงที่ติดรถตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุโจโจ้ไฟไหม้ครั้งนั้น มันลุกท่วมหัวเราเลยเปลวไฟ(รถโจโจ้)เลยเป็นบทเรียนที่จำไม่ลืม เมื่อได้เครื่องดับเพลิง ก็ค่อยๆเปิดฝากกระโปรงหน้า ไฟลุกอยู่สามจุด คือที่ใต้คาบูร์ ที่ไดชาร์ท และที่คอมแอร์ ผมก็ฉีดเครื่องดับเพลิงก็ดับสนิทเลย แต่ก็ไหม้ไปเยอะหลายส่วนทีเดียว สายหัวเทียวสี่เส้นไหม้จนเป็นผงถึงไสในเลย สายไฟที่เดินมาไดชาร์ท ไหม้หมดจนเหลือแต่ทองแดง ซึ่งก็ไหม้มือผมด้วยแผลยังไม่หายเลยตอนนี้ แล้วก็ท่อไฮและท่อโลว์ที่ต่อจากคอมแอร์หักทั้งสองท่อ

ตอนนี้ผมก็ยังมึนอยู่ ไม่ทราบว่ามันเกิดได้อย่างไร แต่ได้แต่เดา ว่าจังหวะที่มันกระแทกนั้น ท่อแอร์มันหักหรือแตก (ตอนที่ดูนั้นขาดทั้งสองท่อแล้ว) น้ำยาคูล๑๒ พุ่งออกมา แล้วเกิดการช็อท หรือไม่ก็มีประกายไฟที่ไดร์ชาร์ท ซึ่งอยู่ด้านบน ตรงตำแหน่งที่ท่อหักสองท่อแล้วพ่นน้ำยาออกมา แต่ว่าน้ำยาแค่ประมาณสี่ร้อยกรัม คงทำให้มันรุกไหม้ได้สักหลายวินาที ตอนที่เสียงดังพรึบครั้งแรก ได้ยินแค่ครั้งเดียว ถึงตอนจอดนั้นกินเวลาประมาณสองถึงสามนาที แต่แค่น้ำยาแค่นี้ก็สร้างความเสียหายได้พอสมควร

ผมถ่ายภาพไว้ก่อนซ่อมกลับคืน เดวส่งมาให้ดูกันไว้ให้พวกเราช่วยกันวิเคราะห์หน่อย งานนี้ไม่เกี่ยวกับแก๊สครับ ยังห่างอยู่เยอะพอควร เกิดจากน้ำยาคูล๑๒ครับ เด๋วจะค่อยๆทะยอยโหลดภาพมาให้ดู ตอนนี้ก็ซ่อมเสร็จไปบางส่วนแล้ว แต่ต้องยกเครื่องลงมาอีกครั้งเพื่อเดินสายไฟใหม่หมดทั้งระบบ เพื่อความปลอดภัย จากที่ยกเครื่องเมื่อวันที่ยี่สิบกว่าๆเดือนมีนา ถึงวันนี้วิ่งมา ๑๓๖๐๐ กิโลเมตรแล้วครับ


คุณยุทธครับ เครื่องดับเพลิงของผมนั้นใช้ได้หลายครั้งครับ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่เป็นแบบที่ออกแบบมาให้ใช้ในรถยนต์โดยเฉพาะครับ แต่ยังไม่ได้ว่างไปถ่ายภาพมาให้ดู วันนี้หาซื้อไม่ได้แล้วครับ เฉพาะเครื่องนี้ ซื้อมาใช้งานน่าจะเกือบสิบปีแล้ว แต่ประสิทธิภาพยังสูงมากๆอยู่เลยครับ ครั้งก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ ได้ช่วยชีวิตกับทรัพย์สินของเพื่อนบ้าน ที่เป็นร้านซ่อมรถอยู่ติดกับตึกที่ผมอยู่ ไม่ทราบไปทำอีท่าไหนไฟลุกท่วมหลังคาร้านซ่อมเขาเลยแถมเป็นบ้านไม้ซะอีก ลูกชายคนเล็กรีบวิ่งขึ้นไปปลุกผมว่า ไฟไหม้ร้านน้าตู่ ป๊าตื่นไปช่วยหน่อย ผมก็รีบตื่นลงมาเปิดท้ายรถแล้วก็เอาเจ้าเครื่องนี้ล่ะ ฉีดแค่สองปื๊ด ดับสนิทเลยครับ ทั้งที่ไฟลุกท่วมขนาดนั้น จนช่างตู่ที่อยู่ข้างบ้านมาถามว่าผมซื้อที่ไหน เจ้าเครื่องนี่ จะไปซื้อมาใช้มั่ง แต่มันไม่มีแล้วครับที่บ้านผม(อุบล) เหตุการณ์นั้นประมาณสามปีมาแล้ว เจ้าเครื่องนี้ก็วางสงบนิ่งอยู่ท้ายรถผมตลอด จนมาใช้งานในวันที่๒๙เม.ย.นี้นี่ล่ะ กรุงเทพอาจจะพอมีนะครับ ว่างก่อนผมจะถ่ายมาให้ดู จำยี่ห้อก็ไม่ได้ แต่เทพครับอันนี้ช่วยชีวิตผมมาหลายครั้งแล้ว

 

ท่อแอร์มันหักทั้งสองท่อเลยครับคุณเตอร์

ผมไม่เป็นไรครับ ปลอดภัย รถก็เสียหายพอควรสายไฟไหม้หมดถึงทองแดง ผมก็ใช้ความพยายามใช้เทปพันสายไฟพันมันทุกๆเส้น เสียเวลาประมาณชั่วโมงกว่า ก็เดินทางต่อเข้ามาว่าความที่กรุงเทพเฉย แต่ไม่มีแอร์แล้ว ระบบแอร์มันไม่รั่วหรอกคุณเตอร์ แต่ท่อมันหักทั้งสองท่อเลย เด๋วผมโพสต์ภาพมาให้วิเคราะห์กันดู ตอนนี้ก็ยังมึนๆเดาไม่ถูกว่ามันเป็นอะไร ผมว่าจะยกเครื่องลงมาอีกหาแล้วเดินสายไฟใหม่ทั้งระบบเลย ซื้ออุปกรณ์มาครบแล้ว แต่เวลาไม่ค่อยมี ต้องค่อยๆทำไปครับ ตอนนี้ก็ปลอดภัย ไว้เดินสายใหม่แล้วจะใช้คูลอีกครับ ตอนนี้ผมทิ้งระบบยุโรปหมดสิ้นแล้ว มะกี้ก็เพิ่งไปซื้อตูดคอมแอร์๕๐๘ ซึ่งเป็นเกลียวแบบญี่ปุ่น และท่อโลและไฮมา พร้อมซ่อมแล้วครับ แต่คงใช้อาร์๑๒ ทดสอบไปก่อนจนกว่าจะแน่ใจว่า ที่มันไหม้ เสียงดังพรึบนั้นมันเกิดจากอะไร แล้วท่อที่ว่ามันก็จ่อไดชาร์ทซะด้วยสิ ดันหักตรงนั้นด้วย

 

ขอบคุณครับ ไม่เกี่ยวกับระบบแก๊สครับ หากเกี่ยวผมคงไม่ได้มาโพสต์แล้วครับ อิอิอิ

 

ส่วนที่เสียหาย

ฝาน้ำมัน สายหัวเทียนสี่เส้นโดนหมด สายไฟตรงไดชาร์ทไหม้ถึงทองแดงทุกเส้น แต่ในภาพผมพันเทปแล้ว เรียกว่าเครื่องยนต์ระบบไฟไม่เสียหาย พันเทปเสร็จก็วิ่งเข้ามาว่าความต่อเฉย แล้วก็ขี่กลับอุบลเ
ฉยอีกเช่นกัน อิอิอิ

 

ต่อ

ด้านนี้ก็ลามมาถึงฝาครอบจานจ่าย ด้านล่างไหม้พลาสติคละลายติดกันเลย สายคันเร่งก็โดนหางเลขไปด้วย แต่ดูเหมือนว่าไฟมันจะลุกลงข้างล่างนะ สายไฟด้านล่างก็ละลายไปหลายเส้นเหมือนกัน ภาพสุดท้ายกำลังเริ่มทะยอยซ่อม(ยังไม่เสร็จ ต้องพันเทปสามเอ็มทับอีกสองชั้น) หวังว่าคงเป็นข้อระวังสำหรับสาวกคูลทั้งหลาย และขอให้มันเกิดกับรถผมแค่คันเดียว อย่าให้มีคันที่สองเลย ลองช่วยกันวิเคราะห์กันครับ เป็นกรณีศึกษาแล้วกัน

 

ก่อนเกิดเหตุการณ์ ก็เย็นจนหนาวครับ

ภาพนี้ถ่ายในคืนวันที่ ๒๘ เดินทาง อุณหภูมิภายในห้องโดยสารเฉลี่ย ๑๔ องศา ที่ลมเย็นสปิดสูงสุด ส่วนลมเย็นที่ส่งออกมา-๕.๕องศาครับ ตอนเกิดเหตุก็ไม่มีสัญญาณอะไรเตือนให้ทราบหรือรู้ตัวเลย แอร์ก็เย็นจนหนาวเหมือนเดิม อยู่ๆก็พรึบ แล้วก็มีกลิ่นไหม้เข้ามาในห้องโดยสาร ช่วงเวลาเกิดแค่สองสามนาทีเองครับ ประสพการเล็กๆที่เก็บมาเล่าให้ฟังครับ อิอิ

 

เดาว่าหุ้ม คอมเพรสเซอร์ทั้งตัวมั้ง มันก็จะไม่เหลือมุขให้เล่นมากแล้วนี่นา

 

ดูรูปแล้ว ท่อแอร์ทั้ง2ท่อที่เข้า compressor ทำไมมันขาดทั้ง 2 อันอย่างนั้นล่ะครับ ท่อขาดน้ำยาแกสทั้ง 400 กรัมพุ่งเข้าหาไดชาร์ทซึ่งมีประกายไฟอยู่ ในห้องเครื่องที่มีพื้นที่จำกัดนิดเดียว ความเข้มข้นของแกสกับอากาศได้ที่ อย่างนี้ก็พรึ่บแบบเตาแกสอย่างที่คุณจินนี้ว่านั่นแหละ

ที่ผมสงสัยคือท่อน้ำยาที่ท้ายคอมแอร์มันขาดได้อย่างไรครับ พอจะหาสาเหตุได้ไหม?

อยากดูรูปเครื่องดับเพลิงครับ น่าหามาติดรถบ้าง ขนาดความจุผงน้ำยา 3 กิโลได้ไหม? เป็นแบบที่พ่นออกมาแล้วเป็นผงขาวๆหรือเปล่าครับ

คุณจินนี่เด็ดมาก ไฟติดขนาดนี้ยังพันสายไฟแล้วขับต่อได้อีก สุดยอดจริงๆ ใจถึงครับ เป็นผมนี้ต้องรื้อสายไฟใหม่หมดก่อน ซ่อมให้เสร็จถึงกล้าขับต่อ

 

เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน่ะครับพี่จินนี่...............ดูที่ท่อแอร์มันขาดทั้งสองท่อนั้นผมเดาเอาว่า
1. น่าจะมาจากแรงดันของน้ำยาcold12ภายในระบบรึป่าวครับ(((เหมือนกับระบบแก็สระหว่าง LPG กับ NGV ที่ NGV จะมีแรงดันหรือแรงอัดภายในระบบมากกว่าLPG หลายๆเท่า))) อันนี้ต้องให้คุณเตอร์มาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับแรงดันหรือแรงอัดของน้ำยาCOLD12 ให้ฟังอีกครั้งน่ะครับ
2. น่าจะมาจากสาเหตุที่ระบบแอร์ของเราเย็นเกินไป คือเย็นจนเป็นน้ำแข็งเกาะที่ท่อน้ำยาชนิดหนาเตอะ จนทำให้ท่อน้ำยาแอร์เปราะ(แข็งแต่เปราะ)เลยส่งผลทำให้ท่อน้ำยาขาดได้

 

..........เดาผิดครับ..........

 

คุณเตอร์ครับ เรื่องใช้ R12 แทน 134 แล้วใช้น้ำมันคอมเดิมด้วย ตามกระทู้หน้า 59 ได้ใช่ป่าวครับ
แล้วรถที่บริษัทฯที่ใช้แล้วฝ้าขึ้นกระจก ตอนนี้ยังใช้ได้อยู่ป่าวครับ

 

ผมจำได้ว่าเคยแนะนำคุณหนุ่มไปหนหนึ่งว่าควรเพิ่มพัดลมด้านหน้า นานแล้วแต่ว่ายังจำได้ ผมเดาว่าคุณหนุ่มฯ คงเดินตามรอยนี้แน่แม่นบ่อ ติดพัดลมหน้าคอยล์ร้อนเพิ่มแม่นบ่อ ไม่ก็ใช้ระบบพ่นน้ำที่หน้าคอยล์ร้อน อิอิ

แต่ผมกำลังจะพัฒนา ระบบน้ำหยดหน้าคอยล์ร้อนอยู่(โดยเอาน้ำเย็นที่ไหลทิ้งจากคอยล์เย็นกลับมาใช้ใหม่) กาลังจาหาเวลายกเครื่องลงมาเดินสายไฟใหม่(ถือโอกาสทำเลย) เชื่อว่าประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าที่เป็นแน่ แต่ไม่รู้เท่าไรเพราะยังไม่ได้ทดลองทำเท่านั้นเอง ผมยังติดใจแอร์รถระบบไอน้ำอยู่(ยังไม่เห็นของจริง) เร็วๆนี้ได้มีโอกาสไปทำบุญใหญ่(สร้างกุฏิ) ให้อ.ลูกชายที่ไปบวช ยังไงผมจะไปขอดูเครื่องต้นแบบ(ที่เคยเล่าให้ฟัง)ให้เป็นบุญตาสักหน

 

อ่านเหตุการณ์ของพี่จินนี่แล้วทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเองเมื่อ 2-3 ปีก่อนครับ

รถผมเคยมีอาการท่อน้ำยาแอร์ที่ย้ำมาจากโรงงานหลุดจากหัวอลูมิเนียมด้าน Hi ที่ต่อออกจากคอมแอร์มา 2 รอบแล้ว
รอบแรกอาการเหมือนของพี่จินนี่เลย คือวิ่งมาประมาณ 100-120 บนถนนราชพฤกษ์ พอวิ่งจั๊มป์คอสะพานปุ๊บ เสียงดังพรึบแล้วตามมาด้วยควันโขมง
ผมรีบจอดรถเข้าข้างทางเปิดฝากระโปรงดู จึงรู้ว่าสายน้ำยาแอร์ที่ย้ำไว้หลุด ทำให้น้ำยาแอร์+น้ำมันคอมฉีดกระเด็นไปโดนเขาควายท่อไอเสียเต็ม ๆ
เลยทำให้ควันท่วม ผมเลยจอดเปิดฝากระโปรงให้น้ำมันคอมที่ติดอยู่ที่เขาควายเผาไหมจนหมดแล้วค่อยไปต่อ
ส่วนอีกครั้งรถติด ๆ อยู่สี่แยกอโศก แท๊กซี่ที่อยู่ข้าง ๆ ชี้มาที่รถผมแล้วบอกว่ามีควัน
ผมเลยดับเครื่องแล้วลงไปเปิดฝากระโปรงดู มันก็เป็นที่จุดเดิมอีกแล้ว (ท่อน้ำยาเส้นนี้ซื้อมาจากเซียงกง สภาพภายนอกยังดีมากๆ)
ทั้งสองครั้งถ้าไฟติดแบบพี่จินนี่ ผมคงไม่รอดแน่ ๆ เพราะในรถไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรเลย

ทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้น แอร์รถยังทำงานได้ปกติ ไม่มีอาการอะไรฟ้องออกมาเลย
ตอนนี้ผมก็ยังใช้ท่อน้ำยาเซียงกงเหมือนเดิม แต่เพิ่มพัดลมไปเป่าหน้าคอล์ยร้อนอีกตัว (เป็นแบบ 2 สปีดตัวใหญ่ที่ติดในรถอีโว)
จนถึงวันนี้เกือบสองปีแล้วก็ยังปกติอยู่ แต่ผมวัดแรงดันด้าน Hi บนท่อน้ำยาไม่ได้ เพราะหัวต่อมันเป็นคนละแบบกับเกจ์วัดที่มีอยู่ครับ

เคสของพี่จินนี่ ผมเดาว่าต้องลองหาสาเหตุที่ทำให้ท่อน้ำยาแอร์หลุดออกจากคอมแอร์ครับ

ปล. ไปศาลล้มละลายกลาง ถนนสาทรใต้ นั่นมันปากซอยบ้านผมเลยนะครับ งวดหน้าขอสั่งออเดอร์หมูยออุบลซักกล่องนะครับ ติดใจมานานแล้ววววว

 

.........เดาผิดครับ...............

....ยังไม่ได้เพิ่มพัดลมครับ..........

 

............เฉลยครับ..............

เอาลมมาระบายความร้อนให้กับคอมแอร์ครับ วิธีการแบบนี้จะใช้ได้ผล100%ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่บนถนนน่ะครับ

.....ผลการทดลอง.....

1. ก่อนใส่ท่อดักลม...ขับรถกลับบ้านเวลา16.30น.เปิดแอร์ปรับอุณหภูมิไว้ตรงกลาง พัดลมเปิดเบอร์2 ความเร็วรถ80-90 กม./ชม. ได้ความเย็นที่ 10 องศา ตลอดทางจนถึงบ้าน
2. ใส่ท่อดักลมเพื่อระบายความร้อนคอมแอร์...ขับรถกลับบ้านเวลา16.30น.เปิดแอร์ปรับอุณหภูมิไว้ตรงกลาง พัดลมเปิดเบอร์2 ความเร็วรถ80-90 กม./ชม. ได้ความเย็นที่ 7.2 องศา ตลอดทางจนถึงบ้าน ทดลองแบบนี้2วัน!!!!!!!!!!!!...ยังไม่อยากเชื่อ...วันที่3 หาเทปกาวมาปิดท่อดักลมไว้ ขับรถกลับบ้านปกติทุกอย่าง อุณหภูมิก็กลับมาที่8.5 องศาเหมือนเดิม......!!!!!!!!!! ตอนนี้เชื่อสนิทเลยนำมาบอกต่อคร้าบบบบบบผม

..........ข้อควรระวัง.........
ท่านจะหนาวเย็น จนเป็นไข้หวัด55

 

COLD12 แรงดันน้ำยาต่ำกว่า R12 ครับ จึงไม่น่าเป็นสาเหตุทำให้ท่อขาด แรงดันฝั่ง lo น่าจะไม่เกิน 30 , hi แถวๆ 200 คุณจินนี่ช่วยเสริมตรงนี้ด้วยครับว่าวัดได้เท่าไร ผมยังไม่ได้ใช้ cold กับรถสักที

ความเย็นของท่อกลับอาจจะ 0 องศาหรือไม่ต่ำกว่า -5 องศา(กะเอา) ไม่น่าจะทำให้ท่อเปราะจนขาดทั้ง 2 ท่อพร้อมกัน เพราะที่ท่อ hi ยังไงก็ร้อนเกิน 20 องศาแน่ๆ

ผมยังนึกไม่ออกว่าท่อทำไมมันขาด 2 ท่อพร้อมกัน

 

ติด scoop ดักลมเลย รับเต็มๆ ฮา ฮา ฮา

idea เข้าท่า น่าเล่นแฮะ ทำได้ง่ายๆด้วย เดี๋ยวกลับไปเล่นด้วยคน

คุณหนุ่ม โปรเจคหน้า ติด heat sink ให้คอมแอร์สิ ลดได้อีก 2 องศาเชียวนา...............

 

....โปรเจ็คหน้า....คิดว่าจะเอาตัวเพลเทียร์มาติดที่ตัวคอมแอร์เลย ติดสัก2 ตัว ...น่าจะworkน่ะพี่ยุทธ

 

..........บทความให้ความรู้จากผู้ใช้ก่อนตัดสินใจเติม..............((((((ไปเจอมาครับ)))))))

cold 22 เป็นน้ำยาที่ใช้ในทางยุโรป ญี่ปุ่นมามากกว่า 10 ปี ทางเยอรมันก็ใช้กันเยอะ ในด้าความปลอดภัยก็ผ่านมาตรฐาน ยุโรป ญี่ปุ่น น้ำยาตัวนี้ติดไฟเพราะมีส่วนประกอบpropane ที่มีอยู่ในแก็สหุงต้มบ้านเรานี้และ มันไม่เป็นอันตรายมากไปกว่าเตาแก็สในครัวที่อยู่ในบ้านเรา น้ำยาตัวนี้สามารถเติมแทนน้ำยา R 22 ได้เลยโดยที่ไม่ทำให้ระบบภายในมีปัญหา ข้อดีก็คือ ใช้น้ำยาน้อยลง เย็นกว่าน้ำยาตัวเดิม แอร์ประหยัดไฟมากกว่าเดิม เนื่องจากน้ำยาตัวใหม่เปลี่ยนสถานะได้ง่ากว่าน้ำยาตัวเก่า คอมเพรสเซอร์ก็เลยกินแรงน้อยลง ประหยัดไฟประมาณ 12 - 16 % เมื่อเทียบกันกับ R 22 มีการทดสอบโดย เทคโนลาดกระบัง น้ำยา COLD 134 กับ COLD 22 เป็นน้ำยาตระกูลเดียวกัน เป็นส่วนประกอบของ R600 a กับ R290 เขียนไว้ข้างกล่องผมเลยหาข้อมูล R290 ที่เรารู้จักกัน propane โพรเพนเป็นก็ซติดไฟที่อยู่ในก็ซหุงต้มบ้านเรา ตัวนี้ติดไฟและมีส่วนประกอบของ COLD 134 COLD 12 COLD 22 เลยทำให้น้ำยาพวกนี้ติดไฟด้วย R600 a นี่ก็ติดไฟเป็นสาร Hydrocarbon ที่ใช้สำหรับทดแทนR 134 A , R 22 โดยเฉพาะR600 กับR290 ทั้งสองตัวนี้ผสมกันเป็น COLD 134 COLD 12 COLD 22 มีน้ำหนักน้อยกว่าอากาศถ้ารั่วจะลอยต่ำติดพื้นเหมือนแก็สหุงต้มทั่วไป แต่ว่าได้รับการอนุญาตให้ใช้กับอุปกรณ์ความเย็นภายในบ้าน เนื่องจากปริมาณแก็สที่ใช้นั้นแค่ 25 - 40 กรัมมากกว่าไฟแช็คที่จุดบุหรี่หน่อยนึง ในกรณีที่แอร์รั่วจะเป็นการซึมอย่างช้าๆใช้เวลาหลายวันกว่าจะหมดถ้ารั่วในห้องเครื่องมันจะกระจายในอากาศหมดโดยไม่ติดไฟ การใช้ R600 กับR290 มีประโยชน์มากกว่าข้อเสีย มีการพูดกันถึงความปลอดภัยในการใช้งานหลายประเทศในเยอรมัน ออสเตเรีย ก็นำไปใช้กันเยอะแล้ว แถมยังประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม 16% แนวโน้มในอนาตคสารทำความเย็นแบบ COLD 134 COLD 12 COLD 22 จะค่อยเข้ามาแทนที่อย่างช้าๆเรืองการติดไฟนี้เป็นประเด็นที่ผู้ผลิต กับช่างแอร์มักเอามาโจมตีกันเป็นประจำ แต่เมื่อเปลี่ยบเทียบกับผลดีแล้วนั้น ส่วนใหญ่ผู้ใช้มัจะเปลี่ยนมาใช้สาทำความเย็นตระกูล HC หรือไฮโดรเจน COLD 134 COLD 12 COLD 22 สำหรับการใช้ COLD 22 กับแอร์บ้านยิ่งไม่น่าห่วง เพราะถ้ารั่วจริงมักจะรั่วนอกบ้าน มันจะระเหยไปกับอากาศหมดเพราะตำแหน่งคอมเพรสเซอร์จะอยู่ในตำแหน่งที่ระบายความร้อนได้ดีอยู่แล้ว การทดสอบการรั่วของสารทำความเย็นยืนยันว่าติดไฟ แต่มีความเสี่ยงน้อยมากในการใช้งาน

 

อาการท่อดูดจับเป็นน้ำแข็ง เกิดจาก expansion valve ไม่ได้ติด sensor pulp เข้ากับทางออกของ แผง evap
ทำให้น้ำยาเหลวท่วมแผง และไหลออกมาทางท่อดูดของคอมเพรสเซอร์

ถ้า expansion valve ทำงานถูกต้อง จะไม่เกิดน้ำแข็งจับมากขนาดนี้ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิไอน้ำยาจะติดลบก็ตาม
อาการน้ำแข็งจับจะถือว่าปกติ ถ้า อุณหภูมิใช้งานของแผง evap ต่ำๆ เช่น ตู้แช่แข็ง
แต่ในกรณี ระบบปรับอากาศ อุณหภูมิแผงสูง ไม่ควรเกิดน้ำแข็งจับ

ในกรณีน้ำแข็งจับจะเกิดได้อีกกรณีหนึ่งก็คือ แผง evap สกปรก ทำให้การถ่ายเทความร้อนไม่ดี แผงจึงมีอุณหภูมิต่ำ
ซึ่งคุณคนปากช่อง ได้ comment เรื่องนี้ไว้แล้ว

 

บทความนี้คุ้นๆครับ.......................ก็ผมเขียนเอง ทำไมจะไม่คุ้น...........น่าจะมาจาก pantip หรือไม่ก็web ขายแอร์ที่เขามาขออนุญาตเอาไปลง ผมก็ก็บอกให้เขาเอาไปเผยแพร่ตามสบาย ให้คนทั่วไปได้ความรู้ที่ถูกต้อง แล้วตัดสินใจเลือกเอง

ได้ท่อดักลมแบบของคุณหนุ่มแล้ว เดี๋ยวเสาร์นี้จะลองติดดู

 

แม็กไกเวอร์ อิอิ

นึกไม่ถึง มันมีผลถึงขนาดนั้นเลยหรอคุณหนุ่ม อิอิ เยี่ยมๆๆๆ

 

เค ได้เลยครับยินดีครับ เด๋ววันที่ ๒๐นี้ลงมาอีก (พระนครศรีอยุธยา) ๒๑ ต่อที่ ธ.กรุงเทพสำนักงานใหญ่(ใกล้ๆกับศาลล้มฯนั่นล่ะ ติดใจเจ้าไหนล่ะคุณกบ จาได้ซื้อมาฝากได้ถูก อิอิอิ) เอาแบบแก่พริกไทย หรือแบบกลมกล่อมดีล่ะครับ มีหลายเจ้าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ ขอเบอร์โทรกลับด้วยครับ เด๋วใกล้วันค่อยโทรติดต่อกันนะครับ

 

คุณ professor เคยเจอกรณีที่ท่อน้ำยาแอร์ขาดแบบที่เกิดกับรถคุณจินนี่ไหมครับ?
ผมคิดว่าไม่ใช่เพราะสาเหตุจากแรงดันของ COLD12 แน่ๆ แรงดันมันไม่มีทางสูงขนาดนั้น

พูดถึงเรื่องน้ำยาล้นมาถึงท่อดูดของคอมเพรสเซอร์ จะเกิดจากเติมน้ำยามากเกินไปได้ไหมครับ?
เพราะน้ำยาล้นนี่ temp ของ evap มันคงต่ำจนลมออกได้ -15 อย่างที่คุณจินนี่รายงานไว้ได้ แถมตามมาเดือต่อที่ท่อดูดอีกจนเป็นน้ำแข็งพอก แต่คงไม่น่าเหลือเป็นของเหลวกลับเข้าคอมเพราะ temp ในห้องเครื่องมันร้อนแล้วไม่ได้หุ้มท่อดูดไว้ด้วย ที่พูดมานี่สันนิษฐานเอา รอคุณ professor มายืนยันอีกที

 

ทำไมวันนี้กระทู้ ยาวๆๆ มากๆๆ
พึ่งกลับมาแล้วนั่งอ่านพี่หลายๆ ท่านวิเคาระห์ไว้ + วิเคาระห์ส่วนตัวเลยนะครับ

ตามที่ K. Professor บอกไว้อะคับ ท่อมันเป็นน้ำแข็งเกาะ แล้วเกิดการ บิดตัว นิดนึง
ท่ออลูมิเนียมที่มีน้ำแข็งเกาะ มันเลยแตก (เหมือนที่พี่หนุ่ม..บางบัวทองเอาภาพให้ดู)
ตามที่พี่กบ E30 บอกมา ผมเองโดนกะตัวแล้วพี่ พัดลมคลอย์ร้อนไม่ทำงาน
จอดเฉยๆ น้ำยาแอร์มัน Blow ทิ้ง คราบน้ำมันคอมก็พ่นไปโดนท่อไอเสียแถวๆ เฮอด์เดอร์
กลิ่นนี้ไหม้ เหม็นมากๆๆ
ตามที่พี่ยุทธบอกเลยครับ น้ำยาแอร์ Cold แรงดันมันต่ำกว่า R12 แน่นอน ดูจาก Hi side ค่ามันไม่สูง
เท่ากับ R12 ,R134a เรื่องแรงดันสูงข้อนี้ตัดไปได้เลย

ท่อทำไมแตกพร้อมกัน 2 เส้น ...
ตามหลักที่ผมนั่งคิดเองดูนะครับ เหมือนกับเคทรรถเพื่อนผม
รถ Evo4 ไปลองเทสรถกันดู กดแบบเต็ม เบครแบบเต็มๆ พอวิ่งกลับมา
แล้วเอารถเข้าล้างต่อ เด็กล้างรถเขาไม่รู้ เขาเอาน้ำเปล่าไปฉีด ตรงตัวจานเบครคู่หน้า
เท่านั้นแหละครับ จากเบครร้าวทันที
...เคทรรถพี่จินนี่ ท่อ Lo กับท่อ hi มันอยุ่ติดกัน พอท่อ Lo แตก น้ำยาแอร์มันก็พุ่งไปโดนที่ตัวท่อ hi
มันเลยเกิดการร้าวตัวทันที ที่พี่จินนี่บอกว่ามีการสะเทือนนิดหน่อย น่าจะเป็นช่วงนั้นที่ท่อ lo มันเป็น
น้ำแข็งแล้วเกิดการปิดตัวนิดหนึ่งมันเลยแตก น้ำยาแอร์ Cold มันเลยพุ่งไปโดน ท่อ hiอ่ะคับ
แล้วก็มีน้ำยาแอร์ส่วนหนึ่งวิ่งไปโดนที่ ถ่านไดชาจร์ มันเลยเกิดอาการ ไฟวาบ + กับสียงพรึบ ที่พี่
ได้ยินแหละครับ แล้วพอปริมาณขอ Cold มันหมดไปพร้อมไฟที่มันวาบขึ้นก็ดับไป
แต่อุปกรณ์ในห้องเครื่องมันเป็นยาง + น้ำมันคอมมันไปติดชิ้นส่วนต่างๆ เลยทำให้มี
เปรวไฟติดอยู่จุดต่างๆ ที่เป็นยาง

บริษัทฯ ผมผลิต Chiller & Condenser ขายอยู่
อาทิตย์ที่แล้ว ก็พึ่งมีลูกค้าเอาของยี่ห้ออื่นมาให้ซ่อม โดยการเปลี่ยนท่อทองแดง 4 เส้น
อาการคือ Flow Swith น้ำมันเสีย มันเลยไม่ไปสั่งให้คอมตัดทำงาน คอมแอร์ก็ทำงาน
ตลอด ส่วนตัว Chiller นั้น มันไม่มีน้ำวิ่งมาถ่ายเถความร้อนใน ตัว chiller มันเลยทำให้
ท่อทองแดงในตัว Chiller เกิดเป็นน้ำแข็งเกาะ จนท่อทองแดงแตกครับ
เลยคิดได้ว่าเป็นเคทรคล้ายๆ กับรถพี่จินนี่เลยครับ

ถ้าพี่จินนี่ อยากใช้น้ำยาแอร์ cold อีก เดี๋ยวผมจัดให้คับ แต่รบกวนให้พี่จินนี่ลอง
- ใช้ R12 ตามที่พี่ว่าแล้วดูว่าไม่มีน้ำแข็งเกาะกลับมาที่ท่อกลับ
- ติดตัวเทอร์โมสตาด์ ไว้ให้มันเย็นไม่ติด - ก็ได้ฮะ เดี๋ยวท่อกลับมันเป็นน้ำแข็งอีกอ่ะคับ

ขอบคุณ พี่ๆ ทั้งหลายที่ช่วยกัน วิเคาระห์ให้ครับ

ต้องขอบคุณที่พี่จินนี่เอามาลงให้ดูครับ ถามผมว่าผลเสียกับสินค้ามีไหม ....
มีแน่นอนครับ แต่ผมมองว่ามันเป็น case study ให้ผม ซึ่งทำให้ผมรู้ปัญหาจากผู้ใช้โดยตรง
มันเป็นผลดีสำหรับผมด้วยครับ จะมีข้อมูลเพิ่มเติม + ถ้ามีเคทรที่น้ำแข็งเกาะที่ท่อ lo อีก
ผมจะได้บอกกับลูกค้าได้ว่า มันไม่ปลอดภัยนะ เพราะมีเคทรพี่จินนี่

ยังไงก็ขอให้พี่ซ่อมรถเสร็จไวๆ นะครับ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยเหลือ
พี่จินนี่บอกได้เลยนะครับ ตรงไหนผมสามารถช่วยได้ ผมช่วยเต็มที่เลยครับ

 

ผมว่าเป้นที่ K.Professor บอกไว้นะคับ เพราะถ้าแผงคลอย์เย็นระบายความเย็น
ออกไปไม่ทัน น้ำยาแอร์ส่วนที่เย็นอยู่ มันออกมาโดนความชื้นในห้องเครื่องมัน
เลยจับตัวเป็นน้ำแข็ง ภายในท่อ Lo ที่วิ่งกลับมายั่งคอมแอร์ ภายในยังต้องเป็น
สถานะลองเหลวอยู่นะคับ ไม่งั้นถ้ามันเป็นสถานะ แก๊ส ท่อมันคงไม่เป็นน้ำแข็ง
ได้ขนาดนั้นอะคับ + และถ้าท่อแตกออกมาในสถานะ แก๊ส มันก็คงไม่ติดไฟด้วย

ที่เกิดอาการ ไฟวาบได้นั้น ตัวน้ำยาแอร์ที่พุ่งออกไปนั้น มันเป็นสถานะเป็นของ
เหลวมันเลยเข้าไปเกาะที่ตัวไดชาจร์หรือไดสตาดร์ จึงทำให้เกิดเปรวไฟ พรึบ
ได้อะคับ

เพราะอย่าง E30 ผมที่ได้ - 34 องศานั้นท่อกลับมันก็ไม่เป็นน้ำแข็งนะครับ
ก็เลยเข้าใจว่า แผงคลอย์เย็นมันสามารถถ่ายเถความเย็นของน้ำยาแอร์ได้หมด
จนภายในท่อกลับมันกับไปยังสถานะแก๊สคับ

 

ตอนนี้ก็ยังมึนๆอยู่คุณยุทธ นึกไม่ออกว่าทำไมมันขาดพร้อมกันทั้งสองท่อ แต่วันนี้รื้อคอมแอร์ออกมาล้างแล้วก็เปลี่ยนตูดคอมเป็นญี่ปุ่นแล้ว :cry::cry::cry::cry:เพี้ยนไปหมดเลยครับ เติมอาร์๑๒ ลมเย็นลงแค่ ๑๗ องศาเอง(ผมว่ามันต้องมีผลกับคอมแอร์ด้วยครับ ยังไม่ได้เช็คละเอียด คงต้องถอดอีกที ปรกติอาร์๑๒ ทำเล่นๆให้ตายยังไงมันก็ต้องลงต่ำกว่า๑๐องศาครับ ) แต่หนนี้มาแปลกมาก มันดันมีหยดน้ำเกาะที่คอมแอร์เต็มไปหมด เอามือจับที่วาวล์ ท่อกลับก็ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควรความเย็นกลับไปที่ปลายท่อที่คอมแอร์แทน มันยังไงกันเนี่ย แต่ที่ท่อดูดตรงคอมแอร์กลับเย็นกว่าและมีหยดน้ำเกาะที่คอมแอร์ทั่วไปหมดเลย (ซึ่งไม่เคยเกิดลักษณะนี้ ยังงงๆอยู่) แค่พรึบเดียวมันมีผลถึงเพียงนี้เลยหรอเนี่ย พรุ่งนี้เช้าก็ต้องเดินทางไกลอีก แต่ว่าผมน่าจะพบสาเหตุที่มันพรึบแล้วล่ะ คุณยุทธพูดถูกเดะ

ไฟมันลุกที่ไดชาร์ทตอนล่างครับ เห็นรอยไหม้ชัดเจนเลย(ถอดออกมาวิเคราะห์ดู) แต่ท่อหักสองท่อพร้อมกันนี้ไม่ทราบจริงๆ แต่หากให้ผมเดาและทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเกิดผมนึกสนุกกดคันเร่งรอบเครื่องเกินขีดแดงไปเยอะครับ(ขีดแดงรถผม๕๕๐๐รอบ) มันจะไหลขึ้นเกิน๗๐๐๐ รอบ/นาที ผมก็เลี้ยงไว้ที่๗๐๐๐รอบอยู่ประมาณสิบนาทีแล้วก็วิ่งปรกติ(ยักกะจรวดทางเรียบไม่ได้ซิงนาน นึกสนุกลองกดดูวันนั้นที่เกิดเหตุประมาณยี่สิบนาที เป็นไปได้ไหมที่ใช้รอบเครื่องสูงเกินขีดแดงขนาดนั้นประมาณสิบนาที ท่อโลว์ซึ่งตรวจดูอย่างละเอียดอีกทีแล้วมันบางมากๆๆๆๆๆๆๆและทำด้วยโลหะทองเหลือง มันจะเกิดรอยร้าว พอมาเจอทางไม่เรียบมีการกระแทก ก็เลยขาดทันทีเลยผมเดาว่าท่อโลว์ขาดก่อน ทีนี้ เจ้าคูล๑๒ ก็พ่นเข้าสู่ไดชาร์ทซึ่งอยู่ด้านบนตรงจุดนั้นเต็มๆเลย พร้อมกับจุดระเบิดพรึบทันที แต่คอมแอร์ยังคงทำงานอยู่ตอนที่เกิดเหตุ รอบเครื่องน่าจะ๔๐๐๐บวกๆขึ้น ไฟมันก็ดูดไม่ก็ระเบิดกลับเข้าไปในคอมจนทำให้ท่อไฮขาดอย่างที่เห็น ที่ว่ามาเนี่ยเดาเอานะ ไม่ซีเรียสหรอกครับ รอดตายมาได้ก็บุญมากๆแล้วครับพี่น้อง ที่เดาอย่างนี้เพราะคอมผมตอนนี้มันเพี้ยนๆออกอาการแปลกๆแบบไม่เคยเจอมาก่อน ผมว่าน่าจะเสียหายไม่มากก็น้อย ก่อนประกอบก็เช็คแรงดันทั้งอัดและดูดก็ปรกติ แต่มันเพี้ยนครับ คงต้องหาเวลาว่างรื้อดูอีกรอบ

ตอนที่เติมผมจับเกจเฉพาะโลว์อย่างเดียวครับคุณยุทธ เลยไม่รู้ว่าไฮมันเท่าไร ได้ประมาณ๓๐กว่าๆPSI ต้องลองย้อนกลับไปดูที่ผมโพสต์ไว้ในนี้ ค่อยๆเติมค่อยๆปล่อยน้ำยาเข้าไปพร้อมกับดูที่เทอร์โม ตอนอยู่นิ่งๆก็-๒กว่าๆแล้วครับ พอออกมาวิ่งก็-๑๕เลย แต่ที่เนื้อโลหะไม่รู้เท่าไร อาจจะมากกว่า-๑๕ ไปมาก เรื่องโลหะวิทยาเนี่ยผมก็ไม่ค่อยรู้นัก หรือว่าไม่รู้เลยล่ะ ต้องให้คุณโปรมาวิเคราะห์อีกที

คุณหนุ่มให้ความเห็นไว้ก็น่าสนใจนะครับ แต่ภาพที่ลงนั่นตอนนั้นผมใช้อาร์๑๒ครับ ท่อโลว์ตัวที่ถ่ายภาพที่คุณหนุ่มวิเคราะห์ก็ขาดไปแล้วครับ ท่อใหม่เป็นอีกภาพครับ(ที่ขาดในครั้งนี้) ตัวนี้ใช้คูล๑๒ครับ เย็นโหดกว่าภาพที่คุณหนุ่มนำมาวิเคราะห์เยอะทีเดียว

คุณโปร ผมบายพาสเทอร์โมครับถึงได้เย็นขนานนั้น มันเกินขีดจำกัดของเทอร์โมไปเยอะเลยครับ พูดง่ายๆก็คือไปข่มขืนระบบมันนั่นล่ะครับ หากใช้งานปรกติ ไม่บายพาส ลมเย็นส่งออกมา ๕.๕-๖.๕ องศาก็ตัดแล้วครับ(บิดสุด) อุณหภูมิในห้องโดยสารก็ได้ประมาณ๒๒องศาครับ แต่ถ้าบายพาสมันก็เย็นติดลบอย่างที่เห็นนั่นล่ะครับ ที่นี้รบกวนคุณโปรหน่อย ที่คุณหนุ่มวิเคราะห์ไว้ว่าโลหะมันเปราะที่ความเย็นมากๆนั้น มีส่วนยังไงครับ ผมก็อยากรู้เป็นวิทยาทานเหมือนกันครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

คุณเตอร์ครับ ผมว่าน่าจะทราบสาเหตุแล้วล่ะ ทีนี้จะหาวิธีป้องกันหากท่อมันหักแบบนี้อีก ผมเปลี่ยนมาเป็นระบบญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว เป็นเทเปอร์ขันกดไม่มีโอริ่งเหมือนของเดิม จะมีโอกาศขาดอีกไหมเนี่ย จะกลับมาใช้คูลอีกครับ ยังประทับใจอยู่(เย็นได้ใจจริงๆ) แต่เวลาที่มันเกเรเนี่ยวันนั้นถ้าไม่มีเครื่องดับเพลิง ไม่รู้จะเป็นยังไง นึกภาพไม่ออกจริงๆ ตอนนี้สบายใจและสบายมากครับไม่ซีเรียสด้วย อิอิ
ตั้งหน้าตั้งตาซ่อมให้มันกลับคืนดังเดิม แล้วก็ค่อยหาทางป้องกันมิให้มันเกิดอีก ตอนนี้คิดไว้ว่า หากหาแผ่นกั้นมากั้นระหว่างคอมกับไดชาร์ท เพื่อป้องกันอันตรายหากเกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำอีก ไม่ก็หาทางเบี่ยงเบนทิศทางของน้ำยาที่มันพ่นออกมาเวลาที่ท่อหักเหมือนที่ผมเจอมาสองครั้งติดๆกัน เวลาไม่นานนัก แต่ระยะทางที่ห่างกันสองครั้งน่าจะสองหมื่นกิโลนะ ไม่ให้เจ้าคูล๑๒พ่นเข้าไปที่ไดชาร์ทซึ่งมีประกายไฟอยู่ตลอดเวลา(ที่แปรงถ่านด้านหลัง)

น่าจะป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ได้หรือไม่ เป็นอะไรที่น่าคิดตอนนี้คิดวิธีป้องกันได้เท่านี้ครับ รึว่าใครมีไอเดียดีๆก็ชี้แนะเลยครับ ขอบคุณจะนั๊กหลายๆเด้อ อิอิอิ

จบรายงานแค่นี้นะครับ อิอิอิ เด๋วภาพตามมาโหลดก่อน อิอิอิ