เห็นไหมคำภาวนาของผมเป็นจริง อิอิอิ เครื่องยนต์มันไม่มีรัยหรอกครับหากศึกษามันอย่างจริงจังและลงมือทำด้วยตนเอง ผมโชคดีครับได้หยุดหนึ่งวัน พอดีศาลท่านใจดีกรุณาไกล่เกลี่ยคู่ความให้ตกลงกันได้เรียบร้อยเลยไม่ต้องสืบพยานโจทก์จำเลย ยกเลิกวันนัดวันนี้(๑๕) เลยได้กลับก่อน ไม่งั้นนอนบุรีรัมย์อีกคืนแล้วก็ถึงอุบลคืนวันศุกร์แน่ๆ เข้าใจเล่นนะคุณยุทธ เอาอาหารมายั่วน้ำลายเพื่อนๆพี่น้อง มิน่ามีใครเคยบอกว่าเนื้อย่างเกาหลีนั้นเป็นอาหารของเกาหลี เพิ่งมีโอกาสได้เห็นของจริงวันนี้เอง รสชาดต่างจากของเรามากป่าวครับต้นตำหรับหรือของเลียนแบบอย่างไหนแซบกว่ากันครับ แล้วน้ำจิ้มรสแซบแบบไทยๆป่าวครับ อิอิอิ แต่ลำธารนั้นได้บรรยากาศดีจริงๆ ทำให้ผมหวลนึกไปถึงสิ่งตรงข้ามครับ ลำธารคล้ายๆกันล่ะ แต่เป็นลำธารที่เกิดจากน้ำพุร้อนครับ หากมาจากเชียงใหม่จาเข้าเชียงรายจะอยู่ทางขวามือ ผมจำอำเภอไม่ได้ครับ คล้ายกันแต่คนละบรรยากาศ แล้วผมเกือบศีลแตกเพราะสาวเจ้าที่ขายของอยู่ที่นั่น สวยแต้สวนตั๊กสวยนั๊กสวยหนา อิอิอิไร้ที่ติจริงๆมิน่าคนโบราณท่านบอกว่าช้างเผือกมักอยู่ในป่า (แต่ก็แค่แป๊ปเดียวก็ปลงตกแล้วครับ ใครรึจาสู้แม่ของลูกเราได้ อิอิอิ) แล้วสาวเกาหลีเป็นแบบที่ลูกความผมเคยบรรยายไว้ป่ะ อิอิ.............ผมฟังล่ะเคลิ้มเยย..................รายนั้นก็ไปมาหมดทั่วโลกเลย บรรยายเรื่องสาวเกาหลีไว้ซะผมหลับตานึกภาพได้เลย มานเปงแบบนั้นป่าวคุณยุทธ อิอิอิอิ....รึว่าไปยังไม่ถึงเกาหลี...อิอิอิอิ...............(อันนี้ไม่ต้องตอบก็ได้นิแซวเล่นครับ) ตอนตีมาจากขอนแก่นเมื่อบ่ายวันพุธ(๑๓) เข้าที่พักบุรีรัมย์ดันเห็นน้ำรั่วหยดติ๋งๆใต้ท้องรถ ส่องดู เหอะๆๆๆ ปั๊มน้ำแตกครับ มะวานประคองขับกลับเติมน้ำสองหน(โรงแรมที่พัก) แล้วก็ปั๊มปตท.ศรีขรภูมิ(สุรินทร์) แล้วก็ยาวโลดถึงอุบลเลย น้ำหมดพอดีทั้งสองครั้ง ตอนนี้เจ้าจินนี่จอดรอเปลี่ยนปั๊มน้ำสงบนิ่งในโรงรถแล้ว (มีอะไหล่สำรองอีกสามสี่ตัว) พรุ่งนี้แทนที่จาได้พักคงต้องเปลี่ยนปั๊มน้ำเจ้าจินนี่ประมาณครึ่งวันล่ะ(เอาจนได้เพราะหาเวลายกเครื่องยังไม่ได้เลย เดินทางตลอด) เพื่อเตรียมเดินทางเข้ากรุงในวันอาทิตย์อีก กลับมาค่อยยกเครื่องครับ ถ้าเป็นญี่ปุ่นเจอสภาพแบบผมต้องจอดสถานเดียว จาประคองขี่กลับแบบผมไม่ได้แน่ สองร้อยกว่ากิโล(ฝาสูบโก่งแน่ครับแต่เจ้าจินนี่บ่อเปงหยังดอก) ใช้ความเร็วแปดเก้าสิบ อาศัยดูเข็มความร้อนไม่ให้ขึ้นเกิน แต่มันก็ดันปรกติทั้งที่ปั๊มน้ำแตกแล้ว วิ่งไปดันออกไปร้อยกิโลก็เกลี่ยงแล้วก็จอดเติมประมาณสี่ลิตร วิ่งกลับบ้ายเฉย พรุ่งนี้ก่อนถอดเปลี่ยนคงหน้าด้านขับมันไปที่ดิน(เพราะเค้าโทรตามตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วตอนอยู่อยุธยากะเชียงราย ดันจำวันผิดว่าว่างแค่วันศุกร์วันเดียว(๑๕)ที่ไหนได้ว่างแค่วันจันทร์วันเดียว เหอะๆๆๆดีที่ได้กลับก่อน ไม่งั้นฝ่ายตรงข้ามคงสวดยับแน่งานนี้สู้กับเจ้าพ่อนักการเมืองคนดังเมืองดอกบัวซะด้วยดิ วัยรุ่นรอบสี่ซักเซง อิอิอิอิ เอาความรู้ต่อคุณยุทธ เรื่องปั๊มน้ำมันเครื่องผมนั่งยันนอนยันยืนยันเลยว่ามันทนสุดๆครับ ไม่ว่ารถยี่ห้อรัย หากมีการสึกหรอบ้างก็ยังคงทำงานได้เต็มที่เหมือนเดิมล่ะ หากพิจารณาดูดีๆจะเห็นมีวาวล์กันแรงดันเกินไว้โบล์ทิ้ง หากเป็นเจ้าตัวใหญ่จะมีเข็มบอกระดับแรงดันมาจากโรงงานเลยทำงานสองหน้าที่ดูเหมือนว่าเคยลงภาพนะนานแล้วตอนก่อนติดเครื่องมันจาวัดระดับน้ำมันเครื่องในห้องเครื่อง พอติดเครื่องแล้วเครื่องยนต์ทำงานมันจาเปลี่ยนหน้าที่เป็นเข็มวัดระดับแรงดันน้ำมันเครื่องซึ่งทำให้เรารู้ว่าปั๊มน้ำมันเครื่องเรายังทำงานดีอยู่ เหมือนเจ้ามังกรทองกะไมตี้เอ็กซ์นั่นล่ะ แต่ถ้าเป็นเจ้าตัวเล็กจะใช้แค่ไฟเตือน หากมันดับหลังสตาร์ทก็ถือว่าแรงดันได้ที่แล้ว ลากยาวถึงเชียงรายก็ไม่พังแน่ สำคัญน้ำมันเครื่องที่ใช้(อย่างที่บอก อย่าให้มันเสื่อมก็พอครับ) กรณีปั๊มน้ำมันเครื่องของคุณยุทธ แค่หากระจกหนาๆหน่อยแล้วก็เรียบๆ เอากระดาษทรายน้ำเบอร์ละเอียดวาง แล้วก็เอาเฟืองที่สึกแล้วก็เสื้อกะฝาของปั๊มน้ำมันทีสึกมาวนๆฝนไปฝนมามือให้เที่ยงๆหน่อยมันก็จะสึกเสมอกันแล้วครับ กลับเฟืองก็เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทางหนึ่งเหมือนกันไม่มีผลอะไรหรอกครับ เพียงแต่ส่วนที่สึกกลับไปอยู่อีกด้าน เท่านั้นครับ เจ้าโจโจ้ผมเกิดในปี๒๕๑๕ครับ หกสูบเบนซิน๓๓๑๐ซีซี ใช้งานมากว่าล้านกิโลเมตรครับ โอเวอร์ฮอลเครื่องแค่หนเดียวปั๊มยังเป็นรอยแค่นิดเดียวครับไม่ได้ทำอะไรเลย วาวล์ก็เป็นไฮดรอลิคอีก ทั้งที่เป็นรถปี๑๙๗๒ ทะเบียนปี๒๕๑๕ ตอนนั้นน้ำมันลิตรละไม่ถึงสิบบาท แก๊สแค่สี่บาท ผมเลิกใช้ตอนน้ำมันขึ้นมาเป็น๑๓บาท จอดไว้เฉย ตอนหลังมีคนมาขอซื้อตื้อแล้วตื้ออีก แต่ไม่ยอมขาย อิอิอิ เพราะเขาจาเอาไปเปลี่ยนเครื่องดีเซล ผมเสียดายเครื่องเดิมของมัน แต่พอบอกว่าจาเอาไปทำดีๆถวายพระผมก็รีบยกให้ทันทีครับ แห่ะๆๆๆ คนมานชอบทำบุญดันไม่บอกแต่แรก หากบอกแต่แรกก็ให้ไปตั้งนานแล้ว สาเหตุที่ต้องเลิกใช้ ตอนน้ำมันลิตรละ๑๓ บาทนั้น เจ้าจินนี่ไปกลับโคราช ๗๕๐ บาทยังเหลือวิ่งในเมืองอีกเป็นร้อยกิโล แต่เจ้าโจโจ้นั้นสามพันบาทเกลี้ยงถังเลยครับ ผมเลยต้องจอดไม่ไหวมันกินจุจริงๆ ๓ ถึง๕กิโลลิตร เครื่องก็ตัวเดียวกันล่ะกับเจ้าเซอร์โรกีนั่นล่ะอะไหล่อันเดียวกันเลยแต่เจ้านี่โหดกว่าสี่ลิตร มะกันไม่เคยชอบของเล็กๆ มีแต่ใหญ่เข้าว่าแต่มันอึดจริงๆ ผมแทบลงไปกราบมันเลยล่ะเวลาวิ่งไกลๆเป็นพันๆกิโล เพราะมันไม่เป็นรัย แต่คนขับสิตายเพราะไม่ถึงซักกะที อิอิอิ เรื่องรันอินที่ว่า ผมยังไม่เคยลองและไม่กล้าลองครับ ผิดพลาดมาก็คือเสียเงินก้อนโตกันเลย(กรณีลูกสูบมันติด) ผมว่างานนี้ฝรั่งมันจาหลอกเราเหมือนวายทูเคอีกรึป่าวมิน่าถึงเถียงกันในเวปดังที่คุณโปรฯเล่ามา เนื้อลูกสูบรถผมเป็นเนื้อฟ๊อซ(สงสัยสะกดผิดแน่ อ่านว่าฟ๊-อ-ด) เนื้อเดียวเลยที่ใช้ในรถแข่ง ช่างระดับเกจิที่ศูนย์ดอนเมือง บอกความลับที่คนทั่วไปไม่รู้นี้ ว่ามันรันอินมาจากโรงงานแล้วเนื้อเดียวกันเลยกะที่ใช้ในรถแข่งฟอร์มูล่าวัน(ไม่ต้องรันอินใส่ก็อัดได้เลย มันจาไม่ขยายหรือหดตัว)มิน่าอะไหล่บางตัวมันแพงกว่าเบนซ์อีก แต่สมัยที่ผมเป็นหนุ่มนั้นผมใช้วิธีรันอินโดยการเดินเบาอยู่กะที่จนน้ำมันหมดถังหนึ่งถังรึสองสามถัง(สองจังหวะแรงสูง) เวลาทำเสร็จแล้วจาไปแข่งกินเงินกัน แถมยังเอาลูกสูบมาเผาในน้ำมันเครื่องอีกเป็นวันๆ ซึ่งเป็นสูตรลับสุดยอดของช่างโบราณ เก็บความลับนี้มากว่ายี่สิบปี แข่งครั้งใดได้เงินใช้ทุกครั้งล่ะครับ ผมว่าคุณยุทธเดินเบาทิ้งไว้สักครึ่งวันก็น่าจะโอเคแล้วครับ เว้นแต่อะไหล่ที่ใส่เข้าไปเป็นอะไหล่เทียบนะครับ อะไหล่แท้ๆโรงงานจะให้ตัวได้พอดีครับหากทำอย่างว่า ครึ่งวันน่าจะพอครับ จิบวุ้นหรือดูหนังหรือทำรัยก็ได้ครับ ที่เหลือก็ใช้จนลืมล่ะ ไปเล่นเกมส์ออนไลน์ดีฟ่า อิอิอิ มะได้เล่นมาหลายวันแล้ว(เล่นกะลูกสามคน เล่นไม่เปงอยู่คนเดียวคือแม่ของลูก อิอิอิ ) ไปแระ
สลับฉากมาคุยเรื่องแอร์รถมั่งครับ วันนี้โทรหาคุณเตอร์ เนื่องจากซีวิคไดเมนชั่นของน้องที่ทำงานแอร์ไม่เย็นตอนรถติดอยู่บนถนนร้อน ๆ เมื่อวันก่อนเขาเอารถไปทิ้งไว้ที่ศูนย์เพื่อหาสาเหตุ วันแรกช่างหาสาเหตุไม่เจอ เลยบอกช่างให้เอาไปใช้ขับนาน ๆ ตอนถนนร้อน ๆ เลยจอดทิ้งไว้ให้ช่างศูนย์เช็คอีกวัน วันรุ่งขึ้นก็ยังบอกสาเหตุให้ไม่ได้อีก แต่ตามหลักสูตรของศูนย์ที่ไม่นิยมซ่อม แต่นิยมทดลองเปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าของรถบอกว่าเงินเริ่มหมดหรือหมดใจแล้วเลิกมากวนใจช่างในศูนย์ สุดท้ายช่างในศูนย์ก็เลยเปิดคู่มือช่างแล้วอ่านบทวิเคราะห์ให้เจ้าของรถฟังเหมือนกระทู้ของพี่ทรัพย์ในเว็บ gasthai เลยว่า...
ประเมินราคาค่าเปลี่ยนอะไหล่(ที่เดา)ไว้ 8000 กว่าบาทเหมือนซิตี้เลย วันนี้ง่วงแล้วครับ ขอไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเล่าว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้างครับ
กลับมาถึงบ้านเมื่อคืนตี 2 กว่าๆ ง่วงมากเลยไปนอนก่อน ตื่นมาสายๆก็มาติดเครื่องดู ปรากฏว่าเสียงเงียบเป็นปกติแล้ว ขับไปซื้อของที่ตลาดก็พบว่าเครื่องตอบสนองดีขึ้น กดคันเร่งนิดเดียวก็ไปทันที รู้สึกว่าเครื่องมันเดินลื่นกว่าเดิม โดยเฉพาะคันเร่งนี่ไวมาก แตะนิดไปเลย ก็รู้สึกดีครับค่อยคุ้มกับเงินที่เสียไปหน่อย แต่ยังไม่มีถนนโล่งๆให้ลองอัดดูสักตั้ง ขับใน กทมนี่คงลองยาก จะรันอินโหดๆตามสูตรเขาคงทำไม่ได้ จนป่านนี้ผมยังไม่รู้อยู่ดีว่าไอ้เสียงจากเครื่องนั่นมาจากอะไร ปั๊มน้ำมันเครื่อง แหวนหัก ชาร์ปก้าน หรือ บูทที่หัวลูกสูบกับก้านสูบ มันทำไปหลายอย่างเลยสรุปยังไม่ได้
เนื้อย่างเกาหลีผมชอบครับ กินออกบ่อนๆ มันก็เนื้อสดธรรมดานี่แหละ แต่คัดมาดีเลยนิ่ม ไม่เหนียว กินกับสารพัดกิมจิ อร่อยดีครับ งวดนี้กลับมาเร็ว ยังกินไม่ครบทุกอย่างเลย เดี๋ยวหาเรื่องไปอีก สาวเกลาหลีก็ขาวหมวยนั่นแหละครับ มีทั้งน่ารัก ทั้งหน้าตาธรรมดา แต่แต่งตัวดี แต่งตัวเก่งกันทุกคน ดูเพลินดี ไม่ได้สำรวจละเอียดแบบนั้นหรอกครับ วันๆอยู่ที่ทำงานเท่านั้น แล้วก็กลับโรงแรม ยังไม่ยกเครื่องอีกหรือครับ ป่านนี้ 6 หมื่นโลแล้วมั้ง ปั๊มน้ำมันเครื่องคงไม่ทำอะไรแล้วครับ มันประกอปกลับไปแล้ว วิ่งดีก็ไม่อยากไปยุ่งอะไร ถ้าเสียแล้วค่อยว่ากัน ยังข้องใจคือมันเสียตรงไหนกันแน่ เรื่องรันอินน่าสนใจ แต่ไม่มีโอกาศทำครับ ไม่มีถนนจะให้ลองกันขนาดนั้น เพราะคงต้องซัดกัน 130-160 เลยถึงจะได้รอบสูงๆ
ถูกเลยพี่ ผมไปตอนนั้นเห็นสาวเกาหลีขายลูกชิ้นปิ้ง โค - ตา - ระ สวยเลยครับ สวยมากๆๆ สวยกว่าผู้หญิงญี่ปุ่นเยอะเลยฮะ สาวญี่ปุ่นส่วนมากหาน่ารักยาก แต่ถ้าไปเกาหลี มองไปทางไหนก็เจอแต่น่ารัก เพลินตาจริงๆ คับพี่ยุทธ
อย่าเพิ่ง"งง"ครับ คือ... สรุปว่าถ้ารถฮอนด้าแอร์ไม่เย็น แล้วเอารถไปเข้าศูนย์ ช่างในศูนย์(น่าจะเกือบทุกศูนย์)จะบอกว่าให้เปลี่ยนอะไหล่สองตัวที่ว่า (คลัทช์แอร์กับฟิลคอล์ย(ไม่รู้คืออะไร)) ก่อนเลย ซึ่งราคารวมค่าแรงประมาณ 8000 กว่าบาท โดยที่ไม่รับรองว่าเปลี่ยนแล้วจะหายด้วย... ยอดเยี่ยมไหมล่ะ :doh: แต่พี่ทรัพย์บอกว่าอาการนี้เจอบ่อยในฮอนด้า ค่าซ่อมกับแกแค่หลักร้อยเองครับ
มาเล่าต่อ... หลังจากเจ้าของรถทราบว่าค่าซ่อมแปดพันกว่า ๆ ก็เดินหน้าจ๋อยมาหาผม เพราะไอ้คนขับแกรนด์เชอโรกีมันโฆษณาให้ผมไว้เยอะ (ตอนนี้เรียกหนาวครับ ไม่ใช่เย็นธรรมดา) พอตกบ่ายวันศุกร์งานไม่เยอะก็เลยลงไปดูกับเจ้าของรถ หลังจากผมถลกแขนเสื้อทำงานจากพนักงานคอมพิวเตอร์มาเป็นช่างแอร์ตัวปลอมแข่งกับพี่ทรัพย์ สิ่งแรกที่ผมทำก่อนเลยคือมองหาไดเออร์เพื่อดูตาแมวว่าน้ำยาในระบบเป็นยังไง ผลก็คือ..... ไม่สามารถมองดูตาแมวได้ เนื่องจากฝุ่นมันเกาะเยอะมาก!!!! ผมเลยอุทานแบบงง ๆ ไปว่า เฮ้ย... ช่างที่ไหนซ่อมแอร์ไม่เย็นโดยที่ไม่ต้องเช็คน้ำยาแอร์บนไดเออร์วะ คำตอบคือช่างที่ศูนย์ฮอนด้าไงครับท่าน ทิ้งรถไว้ 2 วันเต็ม ๆ เพื่อให้แก้ปัญหาแอร์ แต่พี่ท่านไม่ได้ตรวจดูระดับน้ำยาแอร์หรือวัดแรงดันคอมเพรซเซอร์เลย (ฝุ่นเกาะหัวจุกปิดวาล์วเหมือนกัน) ผมเลยค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปเอาทิชชู่เช็ดตาแมวให้สะอาดเพื่อตรวจระดับน้ำยา ก็พบว่าน้ำยาขาดไปจริง ๆ เลยโทรหาคุณปีเตอร์เพื่อถามสาเหตุว่าจะเป็นไปได้หรือไม่กับอาการนี้ และอยากซื้อน้ำยาแอร์ R134a แบบกระป๋องมาเติมให้ใช้งานก่อน แต่คุณปีเตอร์ก็แนะนำเหมือนคันแกรนด์เชอโรกี คือแว็ค+เปลี่ยนน้ำยาเป็น R12 ไปเลย เย็นกว่า แรงดันน้อยกว่า แถมไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม เพราะมีอยู่แล้ว เดี๋ยวตอนเย็นอาทิตย์หน้าจะเริ่มตามที่คุณปีเตอร์บอกครับ แต่คันนี้จะใช้สูตรของพี่ทรัพย์เพื่อเบรคเรคคอร์ด 3 องศาของแกรนด์เชอโรกี :third: ถ้าสะดวกจะถ่ายภาพมาให้ชมครับ (จะเอาให้ได้เท่านี้ครับ ---> :first: )
ลืมบอกไปว่า ข้อความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนตัว ใครที่มีกะตังค์ อยากเข้าศูนย์ทดลองเปลี่ยนอะไหล่แล้วรถใช้งานได้ดีเป็นปกติ ก็อย่าเคืองผมนะ พอดีที่ทำงานมีคนรู้จักใช้ฮอนด้าเยอะ พอเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คระยะตามปกติ แต่จะต้องมาวิ่งถามผมว่า ช่างเช็คแล้วปรากฏว่าไอ้โน่นเสีย ไอ้นี่พัง จะทำยังไง มีเคสนึง พูดจนเจ๊แกยอมโอเวอร์ฮอลเกียร์ออโต้ ตีงบไว้เกินครึ่งแสน! พอผมได้ยินก็เลยเกินอคติกับศูนย์ฮอนด้าแห่งนี้ (คนละที่กับเรื่องแอร์) คือผมไม่ใช่คนรวยแต่ถ้าจะต้องจ่ายในสิ่งที่จำเป็นก็ยอมที่จะจ่าย แต่ถ้าจ่ายโดยไม่สมเหตุสมผลแบบนี้ไม่ไหวครับ แบบว่าถ้าจะใช้รถยี่ห้อ XXX (<-- ไม่ได้ระบุยี่ห้อนะครับ) แล้ว รวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วยแบบนี้ ยอมโหนรถเมล์ดีกว่าครับ :hand::hand::hand:
ขอแจมเรื่องแอร์รถที่เสียหน่อยครับ :computer:มาสมัครเป็นสมาชิก ณ บ้านแห่งนี้ด้วยคนครับคุณเตอร์.....ผมเอกชัยครับ ที่อยู่ฐานฯ ครับ... เมื่อช่วงปีใหม่ที่เคยโทรและเอ็มถามเรื่องแอร์รถยนต์ที่เสีย....กรณีฟิวล์ใต้คอนโซลขนาด 20 แอมป์ขาด ตอนขับรถไปพัทยา...พัดลมแอร์หายไปเฉยๆ จากที่เย็นอยู่ดีๆ...ที่ผมมุดหาสาเหตุยังไงก็ไม่เจอ เปลี่ยนฟิวล์ขนาดลดลงมาหน่อย (15 แอมป์) พอเปิดอีกไม่เกิน 30 วินาทีก็ขาดอีก....ลองใส่ไป 2- 3 ตัว เป็นเหมือนกันหมด....สรุปวันนั้นขับแบบรถร้อนปาดเหงื่อไปตลอดเพราะ 29/12/50 ขาออกไปทางพัทยารถติดขนาดหนัก.... หลังปีใหม่ออนเอ็มมาคุยกับคุณเตอร์....และพยายามหาข้อมูล และขอเบอร์พี่ยุทธ์ แต่ช่วงนั้นพี่เขาถ้าจำไม่ผิดน่าจะกำลังไปอินเดียหรือไงเนี่ย.....เพราะจะหาลายแทงไปหาพี่ทรัพย์ ณ บางบ่อ.....ช่วยดูแลรถร้อนคันนี้หน่อย....เพราะเว๊บเดิมของสตราด้าที่เคยแอด Favorites ไว้โดนปิดไปแล้วเปิดหาไม่ได้....อีก 2 วันลอง Search หา "ช่างแอร์ตัวจริง" จึงพบ....และ "หาเวลา" เพราะเป็นแผนกที่คนน้อย เวลาทำงานเยอะ.....ไม่มีวันหยุด(ยกเว้นป่วยจริงๆ) .....จนต้องขอเวลาลูกๆ ช่วงครึ่งวันบ่ายของวันเด็ก แวะไปรอพี่ทรัพย์เลิกงาน... ไปถึงตั้งแต่ บ่าย 2 โมงครึ่งเพราะไม่เคยไปแถวนั้นเลยกลัวหลง และเพื่อเป็นการศึกษาเส้นทาง ดันไปทางที่เขากำลังทำถนน เทพารักษ์ วิ่งยาวดู....สุดยาวได้ปาดเหงื่ออีดเช่นเดิม..... เมื่อถึงคิว(หลบให้รถแพงๆ เข้าไปใช้บริการก่อนก็เป็น BMW ซะ 2 คันติด คั่นด้วยซิฟิโร่ ตามด้วยรถที่แพงสุดวันนั้น BMW อีกคันที่พาสาวสวย 2-3 คนมาด้วย) ปรากฏว่าคันซ้ายเสร็จไป คันขวาเสร็จไป..หมดไป 2 คิวรถผมเริ่มเข้าที่ พี่เขาเข้ามาดูเปิดกระโปรงหน้ารถให้ติดเครื่องเปิดแอร์ทดสอบ (ใส่ฟิวล์25แอมป์รอไว้ก่อน)....ติดตอนแรกดีครับแอร์เปิดติดไม่ตัด แอร์เริ่มเย็น ออกไปจับตัวคอม ดูการหมุนหน้าครัชคอม....แล้วพี่เขาก็เขามาในรถ ปรากฏว่ามีกลิ่นไหม้ครับในรถ.....สาย ครับสายไฟที่ไปครัชคอมเริ่มไหม้ละลาย....รีบปิดเครื่องและแอร์ด่วน....สายไหม้เล็กน้อยแค่เริ่มละลาย...ไม่มีอะไรเสียหายตรงนั้น...พี่แก่หาสายไฟสายอ่อนมาตรงตรงจากแบตฯ ไปยังสายไฟครัชคอม เพื่อเช็ค "คลัตซ์แม่เหล็กคอมแอร์ " **ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่านะ** ปรากฏว่าเสียครับ....ควันเริ่มออกมาเลยเมื่อต่อตรง...วันนั้นพี่ทรัพย์แก่บอกรถผม "งานละเอียด" ต้องค่อยๆ ทำ และผมเองเลยช่วยลงมือทำไปด้วยเลยในส่วนที่พอทำได้...ทำได้ที่ละน้อยช้าหน่อยแด้ความรู้...."ไม่ต้องถ่ายน้ำยาออกไม่ต้องถอดคอม(หย่อนลง)" เพราะก่อนนั้นเคยเอารถไปทำแอร์มาเมื่อ 2 ปีก่อนคือเปลี่ยนลูกปืนครัชคอมไป ขนาดวันนั้นยังเก็บลูกปืนไว้ เอากล่องเก็บไว้เพื่อไว้หาซื้ออะไหล่ได้คราวหลัง (วันนั้นซื้อไปเผื่อด้วยทั้งลูกปืนครัชคอม+ลูกปืนลูกลอกตั้งสายพาน+ไดเออร์+ซีลคอม)...พี่ทรัพย์ให้เริ่มถ่ายน้ำหม้อน้ำออก ถอดหม้อน้ำออกเพื่อจะได้สะดวกในการถอดหน้าครัชคอมในพื้นที่แคบๆ หน้าห้องเครื่องบางจังหวะต้องส่งผ่านเครื่องมือผ่านช่องใต้แผงคอนเดนเซอร์ไข เพื่อเอาหน้าครัชคอมออกมานับว่าตอนี้ยากมากหน่อย(พี่ให้ทีมงานกับผมช่วยกันบางส่วนแล้วพี่เขาไปดูแลคันอื่นๆไปด้วย....แถมยังต้องวิ่งหาอะไหล่ตอน 2 ทุ่มกว่าแล้วอีก......สรุปรถผมกว่าจะเสร็จ คันสุดท้ายคืนนั้น เกือยเที่ยงคืนนิดเดียว.....ได้คุยกันเล็กน้อยเพื่อเทสระบบความเย็นที่ได้ถึงติดลบ (-2) ผมเลยลองเร่งดูที่ 1000 รอบว่าจะได้ลงอีกไหม ครับลงได้ถึง -5 แต่เกรงใจเขานอนกันแล้ว.....ซึ่งวันนั้นผมทราบว่ารุ่งขึ้นพี่เขาจะรีบไประยอง.....พอเสร็จผมถามเรื่องราคา....พี่เขาไม่ตอบซักที....(ผมไม่รู้เลยว่าอะไหล่ที่ว่า"คลัตซ์แม่เหล็กคอมแอร์ " ราคาเท่าไหร่) ณ วันนี้ผมจำไม่ได้แน่นอนว่าให้พี่เขาไปเท่าไหร่แน่ แต่ไม่เกิน 650 บาทชัวร์...... :cry:แต่การกลับบ้านคืนนั้น....ลำบากมากๆ เพราะเพราะมองทางไม่เห็นต้องปิดแอร์เปิดหน้าต่าง แถมจอดคอยให้ฝ้าหายไปก่อนออกถนนใหญ่.....ออกจากบ้านพี่ทรัพย์มากก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว..... พี่เขาว่ารถผมระบบแอร์เดิมดีอยู่แล้ว เพียงแค่ล้างแผงคอนเดนเซอร์เพิ่มให้ระบายความร้อนดีๆ จึงสามารถทำความเย็นได้ขนาดนี้....เห็นพี่แก่บอกว่ารถกระบะสตราด้าผม "ที่ทำมาคันนี้เย็นสุดเลย แก่ลงสมุดบันทึกไว้ ที่ -2 องศา" มาแบ่งบันความดี(ของพี่ๆ เพื่อนๆ หลายๆ เว๊บเพื่อคลายร้อนให้กับรถขี้ร้อนหรือผู้ที่หาที่ผึ้งเมื่อมีทุกข์) และจากเคสรถผม-สาเหตุที่แอร์พัดลมแอร์หายไปเฉยๆ (ตัดไปเลย)
ทำแบบคุณเตอร์แนะนำครับ ใจเย็นๆช่างมีหลายประเภทครับ บางทีเราก็เจอลูกEชั่งเปลี่ยนลูกเดียว ซึ่งอาจทำให้เราหงุดหงิดได้ตลอดเวลา(แต่ไม่ควรหงุดหงิดเกินวันละสองครั้ง โปรดอ่านคำเตือนข้างขวด อิอิอิ) จะที่ศูนย์หรือที่ไหนก็เหมือนกันครับ แต่ขณะเดียวกันช่างดีๆก็มีครับ แต่เราต้องแสวงหาเอง ยกตัวอย่างเช่นช่างทรัพย์เป็นต้น แล้วก็ช่างอ.แอ้มLPGแห่งแก๊สไทย และยังช่างปีเตอร์และช่างอื่นๆในเวปนี้เยอะจนบรรยายไม่หมด เพราะฉะนั้นใจเย็นๆครับคุณช่างกบ เด๋วเจ้าฮอนด้าคันที่ว่าแอร์ต้องกลับมาเย็นกว่าเดิมแน่ สำคัญขอแต่เพียงอย่ารั่วก็พอ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาครับสำหรับการใช้งานปรกติ ไม่รั่วช้าก็เร็วแต่รั่วแน่ ที่สำคัญคุณช่างกบต้องหาจุดรั่วซึมให้เจอก่อน ถึงค่อยทำตามที่อ.เตอร์แนะนำครับ เด๋วก็ลงเขาเซ้าหลินได้แระ เห็นไหม ไม่ยากเลยใช่ไหม เชอร์โรกีก็เคยเป็นตำราหนึ่งเล่มที่ผ่านการสอบผ่านมาแล้วนี่ครับ ส่วนที่ไปเจอมาก็ผ่านไปเหอะครับ เราไม่ไปจ่ายตังค์เพราะอาจตกเป็นหนูลองยาก็ดีแล้ว ผมเห็นด้วยเต็มร้อยและเป็นผู้หนึ่งที่จะจ่ายตังอะไรต้องสมเหตุสมผล ก่อนอื่นช่างที่ว่าก็สอบตกแล้วครับ ตีราคาซ่อมแปดพันให้เปลี่ยนอะไหล่แค่สองตัวบวกค่าแรงค่าบริการ แต่ดันไม่มั่นใจว่าเปลี่ยนแล้วจะกลับมาเย็นหรือไม่ นั่นก็แสดงว่าเขาทำตามโยบายของศูนย์หรือผู้บริหารที่นั่น อย่าไปโทษเขาเลยช่างพวกนี้กินเงินเดือน เรื่องของเรื่อง คุณกบได้พบช่างระดับเทพจริงๆแล้ว ใช้องค์ความรู้ของพี่ทรัพย์และอาจารย์เตอร์ให้เป็นประโยชน์สิคับ ที่เหลือก็ลงมือจัดการเองเลย ความภูมิใจรออยู่ข้างหน้าแล้วล่ะ แต่ว่าแต่ว่า....... (จะเอาให้ได้เท่านี้ครับ ---> :first: ) เลยหรอเนี่ย เจ้าอีสามสิบของคุณเตอร์เคยทำไว้ที่ลบสามสิบสี่องศานะ อย่าลืมๆ รึว่าเทียบกับเจ้าตะกระ(เชอร์โรกี)กันแน่ แฮะๆๆๆ โทดทีที่พูดตรงไปหน่อย เพื่อนผมญาติพี่น้องขายทิ้งไปหมดแล้วที่ใช้เจ้าเนี่ย แค่กรุงเทพมาบุรีรัมย์เที่ยวเดียวเติมไปสองพันห้าครับ เจ้าจินนี่ไม่เกินสามสี่ร้อยครับพี่น้องตอนนั้นซูเปอร์ลิตรละ๑๑บาทครับ เหอะๆๆๆ จนผมต้องด่ามาน(ญาติ) เปงเศรษฐีแล้วยังเหนียวค่าน้ำมันอีก ทีมีเงินซื้อรถคันเปงล้านยังซื้อได้แค่ค่าน้ำมันสองพันฟ่ายังมาทำเป็นบ่น เหอะๆๆๆๆๆ เรื่องศูนย์คงหายเครียดบ้างแล้วนะครับ พอดีจำได้ว่าเคยถามเรื่องแก๊สโซฮอล แล้วตอบสาวเจ้ามะได้ เด๋วจาเล่าให้ฟังที่เคยพบกะตัวเอง แล้วเอาไปตอบสาวเจ้าเยย แต่มะต้องบอกว่ามาจากไหนนะเด๋วสาวจาปันใจมาทางนี้แล้วจายุ่ง อิอิอิ แบบว่ามานดูดีอีตอนจ่ายตังค์หลังเต็มเสร็จ ดูเหมือนว่าเงินเหลือในกระเป๋าพอควร แต่ในทางใช้งานจริงกับวิ่งได้ระยะทางน้อยกว่า๙๕จริงๆ อันนี้เอาเจ้าจินนี่เทียบนะครับ คันอื่นบ่อฮู้ มีส่วนต่างตรงนี้ประมาณสิบกว่าเปอร์ หากนำไปคิดเฉลี่ยออกจาค่าตัวซูเปอร์ที่แพงกว่ากลับไม่ประหยัดกว่านะ มีผลเสียตามมาอีกเยอะพอควรนะสิบอกไห่ ผมไม่ทราบทางวิชาการหรือทฤษฎีหรือสูตรเคมีรัยของมันหรอก แต่ทราบและรู้เต็มออกว่าเวลาใช้งานจริงแล้วมันเป็นเช่นนี้ กล่าวคือไม่รู้ว่ามันเป็นกรดหรือด่าง แต่กัดมือแสบโคตๆเยยล่ะ สีก็ออกน้ำตาลขุ่นๆ พอถูกอากาศมากก็เพี้ยนไปครับขุ่นขาวให้เห็นจะๆเลย อันนี้เห็นๆเลย เหมือนของผสมที่ไม่เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ที่บอกเช่นนี้เพราะเคยเอามาล้างเครื่องยนต์เวลาถอดประกอบ ซึ่งยังทิ้งคราบเหนียวๆไว้ล้างออกไม่หมดแม้จะใช้โบรเวอร์เป่าแล้วก็ยังทิ้งคราบอยู่(เชื่อว่าเป็นสารเคมีในตัวมัน) แต่เบนซินหากใช้งานแบบเดียวกันไม่ทิ้งคราบแห้งสนิทครับ แล้วยังกัดชิ้นส่วนที่เป็นยาง หรือเป็นพลาสติก บางจำพวกอีก ลูกลอยในถ้วยคาบูร์เจ้าจินนี่โดนกัดเสียจนทะลุน้ำมันท่วมเลยครับ กว่าจะวิเคราะห์หาสาเหตุว่าเป็นเพราะเจ้านี่ ก็เสียหายไปเยอะเหมือนกัน ปั๊มติ๊กยี่ห้อมิตซูฯใหม่ป้ายแดง จากร้านอะไหล่เพื่อนกันที่บ้าน ก็กลับบ้านเก่าภายในเวลาไม่ถึงสามสิบนาที แค่โอเวอร์ฮอลเครื่องแล้วก็เปลี่ยนปั๊มติ๊กใหม่แทนปั๊มหัวฉีดยี่ห้อกีกิ แล้วอุ่นเครื่องไว้ ผ้าติ๊กขาดเลยครับ ไม่รู้ว่ามันกัดเอาอีท่าไหน จนต้องถอดไปคืนเพื่อนนั่นล่ะแล้วเอาปั๊มกีกิใส่เหมือนเดิมเสียเวลาอีกเป็นวัน สรุป เรื่องแก๊สโซฮอล หากรถเราโรงงานไม่ได้ออกแบบหรือสร้างมาสำหรับมันแล้ว ให้ผ่านไปเลยครับอย่างไปเติมเด็ดขาด มีปัญหาอย่างที่บอกแน่เพราะผมเจอมากะตัวเอง ก่อนที่จะมีโฆษณากวนเบื้องต่ำและปิดบังความจริงนี้ต่อสาธารณะซะอีก มีอย่างที่ไหนเครื่องหายทั้งเครื่องมันก็โทษแก๊สโซฮอล แต่แทนที่จะให้องค์ความรู้และข้อควรระวังแก่ผู้บริโภค กลับมุ่งหวังขายลูกเดียว เวรจริงๆ ที่แม๊กซิโกใช้ทั้งประเทศ เป็นตัวอย่างที่ดีที่เราควรศึกษาจากเขา แต่ก็ไม่ทำ สำหรับผม(เจ้าจินนี่)ใช้ไม่ได้ครับ อาจได้บ้างเป็นครั้งคราวแต่หากใช้ต่อเนื่องกันก็จะมีผลอย่างที่เล่ามาครับ ผมเลยเลี่ยงไม่ใช้มัน สุดท้ายก็แอลพีจีร้อยเปอร์แล้วในตอนนี้ แม้สตาร์ก็แอลพีจิ ประหยัดสุดยอด แถมยังมีHHOเสริมอีกยิ่งประหยัดเข้าไปอีก
ยินดีเลยครับพี่เอก งานจบที่ราคาไม่เกิน 1000 บาทแจ่มมมมคับ สรุปเป็นที่หน้าคลัสคอมใช่ไหมฮะพี่เอก ดีใจด้วยครับ ที่หาเจอไม่ยากฮะ ได้ตั้ง - 2 เยี่ยมเลยพี่
เข้าศูนย์ทีราคาก็ประมาณนั้นแหละครับ เราก็ต้องเข้าใจทางศูนย์รถยนต์ เขาเหมือนกันอ่ะคับ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของศูนย์ ค่อนข้างเยอะ กว่าร้านซ่อมแอร์ข้างนอกอะคับ :sad::sad: ครั้งหน้าก็ลองเช็คราคาร้านซ่อมข้างนอกดูก่อนละกันฮะ ผมขอฝากข้อคิดไว้หน่อยนะครับ - ดูการรับประกันด้วยว่า ทางร้านเขารับประกันให้สินค้าเรายังไงบ้าง - ดูงานที่เขาซ่อมรถคันอื่นๆ ภายในร้านว่า ok ไหมอ่ะคับ - บางร้านให้เด็กที่ไม่มีความชำนาญมาทำรถเรา แล้วถ้าเกิดตอนรื้อซ่อม เกิดทำไม่ระวังแล้วของเราเสียหายขึ้นมา แล้วทางร้านเขาจะรับผิดชอบไหม ทางสิ่งบางอย่าง บางทีเราก็ต้องซ่อมที่ศูนย์รถยนต์อ่ะคับ เพราะบางอย่าง มันเป็นงานที่อาจจะใช้ความละเอียด ความชำนาญในการทำอ่ะคับ
รบกวนถามปัญหาเรื่องแอร์นิดหนึ่งนะครับ รบกวนถามปัญหาเรื่องแอร์นิดหนึ่งนะครับ ผมใช้รถ city ปี 1997 รุ่นแรกสุด ปัญหามีอยู่ว่าแอร์ไม่เย็นสู้แดดไม่ไหว แต่ตอนเย็นและเช้าไม่ค่อยเท่าไร และมีแสงดังแต๊กๆบริเวณใต้คอนโซนด้านซ้าย เคยล้างแอร์แบบถอดตู้ก็เจอเศษถุงพลาสติกอยู่ข้างใน เมื่อล้างเสร็จอาการดังกล่าวก็หาไปแต่กับมีปัญหาใหม่แทนนั่นคือมักได้ยินแสงแหลมๆ คล้ายคนผิวปาก และมีเสียงดังมากไม่รู้ว่าเสียงอะไรมักเกิดเมื่ออุณหภูมิในรถค่อนข้างเย็น อีกอย่างเมื่อปิดแอร์และเปิดให้ลมภายนอกเข้ามักมีเศษน่าจะเป็นฟองน้ำดำๆปลิวออกมาตามช่อง ไม่รู้ว่ามาจากไหน อย่างสุดท้ายระยะหลังมักได้ยินเสียงคล้ายว่าพัดลมแอร์มันเสียดสีกับกับกรอบพัดลมของมันเองดังมากๆ ทั้งหมดนี่ไม่รู้ต้องแก้ไขยังไง ปัจจุบันไม่ค่อยเย็นแล้วรบกวนด้วยครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า
ตอบเลยนะครับ - แอร์เย็นสู้แดดไม่ได้นั้น ลองเช็คปริมาณน้ำยาแอร์ดูก่อนนะครับที่ตัวไดเออร์ (หน้าแรกมีภาพรูป ไดเออร์ให้ดูครับ) ในระบบแอร์ถ้า น้ำยาแอร์มีปริมาณน้อย ก็มีผลทำให้แอร์เย็นสู้แดดไม่ได้ครับ + แผงคลอย์ร้อนสกปรกหรือเปล่า ทำความสะอาดด้วยก็ดีครับ ช่วยได้เยอะ(หน้าแรกๆ มีรูปภาพวิธีทำความสะอาด) - เสียงที่บอกมานั้นเป็นเสียงของการเปิดปิดวาวร์ฉีดน้ำยาแอร์ครับ วาวร์มันจะหรี่ปิดเกือบสุด เลยทำให้มีทางวิ่งน้ำยานิดเดียว เลยทำให้มีเสียง คล้ายๆ คนฝิวปากครับ (รถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้เป็นเกือบทุกรุ่นเลยครับ รถที่บ้านผม camry, accord, cr-v, vios , city เป็นทุกคันเลยครับ เลยคิดว่าเป็นเรื่องปรกติ สำหรับรถสมัยนี้ครับ 555 ถ้าเทียบกับรถรุ่นเก่าๆ นะครับวัสดุต่างๆ ดีกว่าเยอะเลย รถใหม่ๆเดี๋ยวนี้ผมว่าคุณภาพมันห่วยมาก ๆ คงลดต้นทุนของสินค้าแต่ละชิ้น เลยทำให้วัสดุแต่ละอย่างมันไม่ได้คุณภาพอ่ะครับ) - ส่วนเรื่องที่มีฟองน้ำปลิวเข้ามาจากช่องแอร์นั้น คือแผ่นกรองฝุ่นครับ เวลากด สวิทย์ให้มีอากาศภายนอกเข้ามานั้น มันจะมีฟองน้ำอยู่ชิ้นหนึ่งเล็กๆ ครับ กรองฝุ่น ผง ก่อนเข้าห้องโดยสารครับ - เสียงที่พัดลมมันดังกับตัวกรอบพลาสติกที่รอบนั้น เกิดขึ้นจากการประกอบกลับ ไม่ดีครับ เหมือนเคทรคำถามกระทู้ข้างบนครับ " ที่บอกว่าล้างแอร์ที่ศูนย์ 4000 ล้างข้างนอก 1000 เดียว" นี่แหละครับ ถ้าคนซ่อมที่ไม่มีความละเอียดของงาน ผลเสียก็จะเป็นอย่างงี้อ่ะครับ แนะนำก็ต้องถอดออกมาแล้วทำการประกอบ เข้าไปใหม่ครับ บางทีพลาสติกมันไม่เข้าร่องของมันเท่านั้นเองครับ
ขอถามบ้างครับ รถผม Handa JAZZ อายุ 3 ปีครึ่ง วิ่งมา 120,000 โล้ว อาการคือ เมื่อ 2 ปีก่อน จู่รถแอร์ก็ไม่เย็นเลย เหมือนคอมไม่ทำงาน แต่พอวิ่งไปสัก 10 นาที แอร์ก็กลับมาเย็นอีก เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้ง ในระยะ ครึ่งปี แต่ก็ไม่ได้เข้า 0 ครับเพราะแอร์กลับมาเย็นเหมือนเดิมเลยไม่ได้สนใจ จนครั้งสุดท้าย แอร์ไม่เย็นประมาณ 30 นาที เลยคิดว่า น่าจะต้องเอาไปตรวจแล้ว แต่ก็ไม่ได้เข้า 0 เพราะมีร้านประจำ ที่ช่างเค๊าลาออกจาก 0 มาเปิดเอง ช่างบอกว่า ครัสแอร์จับมากไป แอร์เลยไม่ทำงาน ช่างเลยถอด ชริม ออกไปชิ้นนึง (ไม่รู้ถูกหรือเปล่า) เพื่อให้ครัสไม่จับกันมากไป จากนั้นมา จนปัจจุบัน อาการดังกล่าวก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย แต่เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บางช่วงเวลา จะมีเสียงดังเอี๊ยดๆ ตอนที่แอร์ทำงาน แต่จะไม่ได้ดังทุกครั้ง เพราะเคยเอาไปให้ช่างที่ร้านเดิมดู มันก็ไม่ดัง ทำยังไงมันก็ไม่ดัง แต่ช่วงนี้มันดังเกือบตลอดเลย ครั้งแรกคิดว่าสายพานเก่า เลยไปเปลี่ยนสายพานมาใหม่ ก็ไม่หายดัง อย่างนี้จะเป็นที่อะไรครับ ครัสมันจับกันไม่ดีหรือเปล่า หรือมีวิธีแก้ไขยังไงครับ แต่แอร์ก็ยังเย็นปกติดีนะครับ
เคทรงี้ต้อองฟังเองอะครับ เดายากจิงๆครับ แต่เท่าที่ผมเจอมากับตัวเองนะครับ เป็นรถตู้แกนเวีย ของที่บ้าน - สายพานย่อนครับ พอสายพานมันไม่ตึง มันก็เลยหมุนฟรี แล้วทำให้เกิดเสียงเอี้ยดๆๆๆ ตอนที่เปิดแอร์ พอเร่งเครื่อง บางทีมันก็ดังตลอด บางทีก็ไม่ดัง ผมลองตั้งสายพานให้มันตึงกว่าเดิมก็หายไปช่วงหนึ่ง พอซักพัก หลายเดือนเหมือนกัน ก็กลับมาดังอีก ผมก็ตั้งสายพาน แล้วเสียงมันก็หายไปอีกครับ ตอนนี้ไม่อาการดังอีกแล้วคับ คุณลองให้ช่างเขาลองตั้งสายพานดูก่อนครับ เอาให้ตึงกว่าเดิมหน่อยหนึ่งคับ