D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

ขออภัยคุณยุทธด้วยนะครับ

ขอแก้ไขเวลาสิ้นพระชนม์ ตอนเวลา 2 นาฬิกา 54 นาที ของวันนี้ (2 มกราคม 2551) ครับ

ผมก็ติดตามข่าวจากสำนักพระราชวังทุกวัน เช้าวันนี้อ่านหนังสือพิมพ์เห็นพาดหัวข่าวแล้วยังวิตกอยู่เลย
เพิ่งมาทราบข่าวเมื่อมาถึงที่ทำงานนี่แหละครับ

 

วันหยุดปีใหม่ ดูรายการของปตท เค้าใช้ gas มาเผาสารที่เรียกว่า ลิเทียมโปรไมด์ (ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่าครับ) แล้วเอาสารนี้ไปทำความเย็นให้กับน้ำ เพือทำความเย็น เหมือนแอร์ชิลเลอร์ ต่างกันตรงที่ไม่ใช้ไฟฟ้า แต่ใช้ความร้อนจากแก๊สมาต้มแทน
ถามผู้รู้ครับว่ามันประหยัดกว่าการใช้ไฟฟ้าหรือเปล่าครับ

และผมคิดต่อว่า ถ้าเอาเจ้าลิเทียมโบลไมด์มาใช้ในรถยนต์ โดยใช้ความร้อนจากท่อไอเสียมาเผา จะได้หรือเปล่าครับ เพราะความร้อนจากท่อไอเสีย เราไม่ได้ใช้งานเลย ถ้าทำได้ น่าจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันไปได้มากเลย เพราะไม่ต้องใช้แรงเครื่องไปปั่นคอมเพรสเซอร์

ถามคุณเตอร์ว่า ตู้เย็นที่บ้านเป็น misubishi แบบ 2 ประตู no frozz เคยรั่วที่แคปทิว ช่างมาซ่อมแล้วบอกว่าเป็นน้ำยา 134A
ถ้าผมเปลี่ยนมาใช้ cold 134 จะช่วยให้ประหยัดไฟขึ้นไหมครับ เพราะช่างทำลูกศรไว้แล้ว ถ้าปล่อยน้ำยาออก vac ระบบ ก็น่าจะเติม cold 134 ได้เลย มีใครเคยลองเอาไปใช้กับตู้เย็นบ้างหรือยังครับ

 

สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ ขอพรใดอันประเสริฐจงดลบันดานให้เพื่อนสมาขิกทุกท่านจงมีความสุขความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ และเป็นคนดีเป็นที่รักใคร่ของทุกๆคนครับ

คุณยุทธ ในห้องนอนผมพอดีวันนี้เพิ่งว่างนิดนึง เข้ามาอ่านเลยเหลือบไปดู อุณหภูมิในห้องนอนเช้านี้ ๖.๕๕ น. ๑๘.๓ องศาครับ ยอดหญ้าบ่อมีให้วัด แต่ข้างนอกห้องนอนก็คงหนาวจับจิตกว่านี้แน่ครับ น่าจาเอาเลขสิบฟ่าๆไปลบ ต่ำกว่าสิบองศาครับ ออกนอกบ้านต้องสวมเสื้อหนาวแล้วครับ

มะวานไปเทศบาลนครอุบล ไปถ่ายทะเบียนบ้านจำเลยเพื่อปิดหมาย เห็นเขาชักธงลงครึ่งเสาก็น้ำตาซึมครับ พระองค์ท่านไปเบื้องบนแล้ว ไปอย่างสงบครับ เป็นแบบอย่างของคนที่ป่วยหนักที่เปี่ยมล้นด้วยกำลังใจ เราๆต่างหากที่ยังมีกรรมต้องชดใช้อยู่ พระองค์ท่านประเสริฐครับ เป็นแบบอย่างให้ทุกๆคนหากพอทำได้ หรือเดินตามรอยพระองค์ท่านได้ ก็จะเป็นมงคลแก่ชีวิตไม่น้อยเลยครับ ผมเพิ่งได้หยุดยาวๆก็ช่วงนี้ แต่พอเปิดวันแรกก็ทำงานต่อเลย วันนี้เด๋วสายๆก็ต้องไปอีก ยังหาเวลายกเครื่องรถยังไม่ได้เลยครับ (คงประมาณสามวันติดกัน) เกินระยะเช็คไปหลายพันกิโลแล้วแต่ก็ยังหน้ามึนใช้อยู่ แฮ่ๆๆ

อิสาน โดยเฉพาะอุบล(ใกล้ทเะเลฝั่งเวียดนามหากลากเป็นเส้นตรงแค่ไม่ถึงสองร้อยกิโลครับ) หนาวจับจิตไม่แพ้ทางเหนือหรือภูกะดึงครับ มาพิสูจน์ได้ ผมมาเมืองอุบลเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วใหม่ๆแล้วอยู่บ้านไม้ เหอะๆๆๆๆ ขนาดใส่เสื้อสี่ห้าตัว(แจ๊คเก็ตฟีน)ทับอีกชั้นบวกผ้านวม ยังนอนไม่หลับเลยครับ หนาวระดับน้ำค้างที่ยอดหญ้าเป็นวุ้นให้เห็นจะๆเลยครับ วันนี้น่าจาเป็นแบบนั้นอีก แต่ผมอยู่ตึกอุณหภูมิภายในยังเย็นจัดกว่าเปิดแอร์อีก แสดงว่าข้างนอกไม่ต้องเซดกันแล้วครับ

 

ผมไม่ทราบชื่อหรือมีความรู้เรื่องนี้หรอก หากมีก็น้อยนิดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ขอบอกว่าระบบทำความเย็นในสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ใช้ระบบใช้ท่อน้ำเย็นวนไปวนมาที่พื้น ผมอ่านดูแรกๆก็งง แต่พอเห็นภาพก็หายงงครับพวกเล่นฝั้งท่อน้ำไว้ใต้พื้นที่เราเดินเลยครับ ไอเย็นมันก็แผ่ขึ้นมาจากข้างล่าง แต่ก่อนที่จะส่งน้ำเย็นมานั้น ผมเชื่อว่าใช้ระบบเดียวกันกับที่คุณรุ่งถามมาชั่วร์ไม่มั่วนิ่มครับ ที่พอจับประเด็นได้ก็คือมีโรงผลิตไฟฟ้าแล้วใช้ความร้อนที่ได้จากการผลิตไฟฟ้าไปผลิตน้ำเย็น แล้วส่งมาในระบบทำความเย็นของสนามบินดังกล่าวทั้งสนามครับ แต่ป่าวส่งมาให้ฟรีๆนะ ขายเด้อขายครับ อิอิอิ อันนี้เป็นรายละเอียด

แล้วยังมีอีก เมื่อสักสามสิบปีมาแล้ว บ.อีเลคโตรลักซ์ ได้ผลิตตู้เย็นที่ใช้แค่ตะเกียง ทำความเย็น น่าจาเป็นจำเลยเดียวกันที่คุณรุ่งถามมานะ

แฮ่ๆๆๆๆ ที่เหลือ คุณเตอร์ คุณโปรฯ และท่านผู้รู้มาตอบดีฟ่า อิอิอิ ผมไปทำงานแระเด้อครับ

สุขสันต์วันปีใหม่ทุกๆท่านเด้อครับเด้อ อิอิอิ

 

สามารถใช้ได้ครับ แต่ลงประหยัดไฟได้นิดหน่อยเองครับ
ผมคิดว่าคงไม่ค่อยเห็นผลซักเท่าไรอะคับ

มีเรื่อง update สุดๆๆ ครับ
ตู้แช่ไอติม วอร์ รุ่นใหม่ก็ใช้น้ำยาแอร์ R290 (Cold22) เหมือนกันครับผม

 

Happy New year man. You want You get it.

 

ลองทำเองครับ

ใช้ R12

 

เวลาประมาณ14.00น.ครับ

 

ถ้าใช้น้ำยาของคุณ ปีเตอร์ น่าจะเย็นมากกว่านี้น่ะครับ

 

มาแบบ ม้ามืด เลยนะครับคุณหนุ่ม...บางบัวทอง
แค่นี้ผมว่าก็หนาวสุดๆ แล้วละคับ
ไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม...บางบัวทองนี้ ใครอ่ะคับ อยู่แถวไหนอ่ะคับ
แล้วเราเคยคุยกันเปล่าคับ..... คิดไม่ออกอะ เห็นภาพรถแล้วก็ยังคิดไม่ออก...
น้อยคนที่จะเรียกชื่อเต็มนะฮะเนี่ย ท่าทางจะรู้จักผมดีเลย......

 

ถึงคุณปีเตอร์

ครับคุณปีเตอร์.....ผมก็ติดตามอ่านและศึกษาในบอร์ดนี้มานานเหมือนกันครับ แต่ไม่ได้เข้ามาโพสข้อความอะไรทิ้งไว้ นั่งเสพเอาความรู้อย่างเดียวว่างั้นเถอะ555 ผมศึกษาทั้งบอร์ดนี้และบอร์ดเว็ปแก็สไทย...ลงทุนไม่เกิน100บาทแอร์เย็นฉ่ำ...อะไรประมาณเนี๊ย
....พอถึงเวลาก่อนเที่ยวปีใหม่ก็ลองทำดู มันก็ได้ผลงานอย่างภาพที่เห็นอ่ะนะ เรียกว่าเวลาขับรถเปิดแอร์นิดเดียว หนาวตลอดทาง
....จริงๆแล้วผมได้เข้าไปซื้อน้ำยาแอร์ที่โรงงานของคุณปีเตอร์มาแล้วครับ2กระป๋อง ถามคุณกรีนก็น่าจะจำผมได้ เมื่อไม่นานนี้เอง(งงล่ะสิ55)แต่ผมยังไม่ได้ลองใส่รถเลยดันลืมไว้ที่บ้าน ตจว.ไม่รู้ป่านนี้จะยังอยู่รึป่าว..แหะๆ:teeth:

 

แหมมมมม ก็ว่าอยู่... มาเปิดตัวแบบ.... ม้ามืด จิงๆ คับ
เปิดตัวที เล่นถ่ายภาพมาให้เพื่อนๆ อิจฉาเล่นว่างั้นเหอะครับ อิอิ
ทำได้ขนาดนี้ แจ่ม จิงๆ ครับ

อื่มมม ก็ว่าแล้ว...ต้องรู้จักที่บ้านผมแน่ๆๆ เลย อิอิ
(เรียก เตอร์ เฉยๆ ก็ได้ฮะ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มยศขนาดนั้นก็ได้ฮะ..(- -')
ถามคุณกรีนละคับ จำได้คับ วันนั้นผมไม่อยู่บ้านก็เลยไม่ได้เจอเลยย เดี๋ยวคราวหน้ามีโอกาศคงได้เจอกันนะครับ
ไม่ทราบว่าอยู่แถวบางบัวทองหลอครับ

ถ้าไงก็เข้ามาคุยกันในนี้บ่อยๆ ละกันนะคับ
ที่นี้เป็นครอบครัวเล็กๆ แต่ใจดีให้ความรู้ ความช่วยเหลือกันทุกคนเลยครับ

 

pp

เจอ web นี้ดีใจจริงเลยได้ความรู้ดี เลยอยากปรึกษาอาการของ แอร์รถ civic ef ปี88 แอร์ก็ยังเย็นดีอยู่แต่
1 ตอนแอร์ทำงาน สังเกตตอนแอร์ทำงาน ตรงตาแมวจะมีฟองฟู่เป็นฟองเล็กๆ กระจายเต็มไปหมด แต่พอแอร์ตัดน้ำยาจะนิ่งไม่มีฟอง ปกติไหม
2 น้ำยาแอร์ค่อนข้างออกเหลืองๆ
3 ขณะขับรถตอนที่แอร์ทำงาน บางจังหวะที่พอเหยียบคันเร่ง จะได้ยินเสียงหวีดที่หน้ารถ ไม่รู้ว่าใช่ที่คอนแอร์หรือเปล่า

 

ถ่ายน้ำยาลงกระป๋อง

ได้คืนมาจากบ้าน ตจว.แล้วครับแต่เป็นกระป๋องเปล่าๆ(โดนพวกฉีดเล่นหมดเลย...แป๊วว!!!!) เลยเกิดไอเดียนิดๆถ่ายน้ำยาR12ลงในกระป๋อง เอาเก็บไว้ในรถเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินได้

 

เอ...เป็นไปได้ใหมที่เราจะเอากระป๋องเปล่าๆไปให้คุณเตอร์เติมน้ำยาCold12หรือCold134 (คิดแบบประหยัดตังค์น๊ะครับ)โดยที่เราไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งกระป๋องเพียงแต่ซื้อแค่น้ำยา

 

ผมก็เคยมีความคิดแบบนี้เหมือนกันครับ ตอนนี้มีน้ำยา R12 แบบถัง 13.6 กก.ทีซื้อจากคุณปีเตอร์มา
เวลาไปเติมให้รถเพื่อน ๆ ยังต้องแบกไปทั้งถังเลย ถ้าทำได้จะได้ไม่ต้องแบกให้เมื่อย


ถ้าทำได้จริง ๆ เราเอากระป๋องแช่น้ำเย็นหรือเอาน้ำร้อนราดถังน้ำยาแอร์ น่าจะช่วยให้น้ำยาแอร์ไหลไปที่กระป๋องง่ายขึ้นนะครับ

 

E30DET

ถ้าทำได้จริง ๆ เราเอากระป๋องแช่น้ำเย็นหรือเอาน้ำร้อนราดถังน้ำยาแอร์ น่าจะช่วยให้น้ำยาแอร์ไหลไปที่กระป๋องง่ายขึ้นนะครับ

...ทำได้ครับจริงตามรูปที่ลงไว้เลย ไม่ต้องนำไปแช่น้ำเย็นหรือน้ำร้อนอะไรทั้งนั้น เพราะว่าแรงดันในถังมันมีมากกว่าในกระป๋องครับ แล้วถ้าเราคว่ำถังลงยิ่งมีแรงดันเยอะขึ้นไปอีก ตอนนี้ผมมีCOLD12อยู่2ป๋องแต่น้ำยาข้างในเป็นR12.....แจ่มป่าวล่ะ555

....ที่ถามคุณ..เตอร์..ก็เพราะว่าอยากได้น้ำยาของCOLD12โดยที่เราไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งกระป๋อง แค่นำกระป๋องไปให้คุณเตอร์เติมCOLD12ให้...ถูกตังค์ด้วยน่ะ...จริงมั๊ยครับ

 

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ในทางทฤษฎีได้ครับ

ในทางปฏิบัติ หรือในโลกของธุรกิจ การเติมน้ำยาลงกระป๋อง เขาไม่ได้ใช้คนเติมด้วยมือทีละใบ แต่เขาใช้เครื่องเติมแบบใส่กระป๋องเข้าไปทีละเยอะๆแล้วเครื่องมันทำงานทีได้นาทีละหลายกระป๋องเลย ไม่มีโรงงานผู้ผลิตรายไหนที่ขายน้ำยาแอร์เติมทีละ 2-3 กระป๋องหรอกครับ ที่คุณter ขายให้พวกเราทีละ 1-2 กระป๋องในราคาพิเศษนั่นก็กรณีพิเศษแล้ว นัดส่งของแทบจะถึงที่อีกต่างหาก ผมเดาว่าเราได้ในราคาขายส่งด้วยซ้ำ เพราะเห็นราคาขายปลีกที่อมรแล้วมันสูงกว่าพอสมควร

ถ้าหิ้วถังขนาด 13.5 กก ไปขอเติมเฉพาะน้ำยานั่นก็อาจเป็นไปได้ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรับหรือเปล่า แต่ถ้ากระป๋อง 200 กรัมนี่ท่าจะยากครับ

ไม่ได้เข้าข้างใครครับ ว่ากันไปตามหลักธุรกิจทั่วๆไป

 

ทำพอจะทำได้ครับ แต่บ.คงไม่รับเติมให้ครับ

อันนี้ตอบให้แบบกลางๆไม่เข้าข้างใครนะครับ

ที่ถามว่าทำได้ไหมนั้น ขอตอบว่าทำได้ครับ

แล้วทำไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ติดท้ายรถไว้ใช้ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนเวลาเดินทาง ก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นทั้งสิ้นครับ แต่......

เราจาเอากระป๋องที่เหลือใช้แล้วหรือว่าหมดแล้ว ไปให้บริษัทเขาเติมเนี่ย ผมว่ามันแม่งๆอยู่นาพี่น้อง โอเคเป็นสิทธิของเราที่มีความชอบธรรมที่จะคิดเช่นนั้น ไม่ผิดครับ แต่หากเราลองนึกดูถึงความเป็นจริงแล้วผมฟันธงให้ว่าคงไม่มีบริษัทไหนทำเช่นนั้นแน่ครับ คุณยุทธตอบแทนคุณเตอร์นั้นถูกต้อง ทีนี้มาฟังเหตุผลของคนที่อยู่กลางๆ บ้างว่ามันพอฟังขึ้นอะป่าว อิอิอิ

ลองคิดดูดิพี่น้อง สมมุตินะ ว่า..... เราซื้อสีกระป๋องมา หรือ ซื้อยาฉีดยุงมา รึว่าซื้อสเปร์ล้างหัวเทป ล้างอุปกรณ์อีเลคทรอนิค รึว่าสินค้าไรก็ตามทีที่บรรจุกระป๋อง ทีนี้พอท่านใช้มานหมด ท่านก็จะวิ่งไปบริษัทสี หรือบริษัททำยาฉีดยุงหรือน้ำยาล้างหัวเทปหรือบริษัทไรก็ตามทีที่ผลิตสินค้านั้นๆบรรจุใส่กระป๋องให้เราใช้ ไปบอกกับพนักงานเขาว่า ให้เติมสี หรือยาฉีดยุ ฯลฯ ที่หมดให้ที แบบนี้เรียกว่ามันแม่งๆป่าวคับ แต่ไม่ได้ว่าใครนะครับ เพียงแค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่ามันเป็นไปบ่อได้ดอกเด้อพี่น้อง แต่ๆๆๆๆๆ....แต่ก็อีกนั่นล่ะ สิ่งที่ยกตัวอย่างมาคงเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เป็นไปได้นั้น มี และมีคนทำแล้วในโลกเบี้ยวๆใบนี้ครับ ตามมาๆๆๆๆเด๋วจาบอกเคล็ดลับไม่ลับให้ฟัง


หากจุดประสงค์เราเพียงแค่ที่เล่ามาในเบื้องแรกละก็ ไม่ยากๆ แต่ด้วยความเคารพคุณหนุ่ม บางบัวทอง วิธีทำเช่นนี้เราจาอัดน้ำยาR12 เข้าไปในกระป๋องเปล่าได้น้อยครับ ไม่พอกับการใช้งานจริงในสนามครับ หากมีจุดประสงค์ที่จะเติมจริง ให้ทำดังนี้ครับ เอาท่อที่ต่อจากถังใหญ่ไปต่อที่ท่อไฮในรถเราเลยครับ เดินเครื่องยนต์เปิดแอร์ แล้วก็กดที่หัวกระป๋อง(กดเติม เหมือนกับเปิดวาวล์ล่ะ) น้ำยาแอร์R12ก็จะอัดเข้าไปจนเกินน้ำหนักที่เขากำหนดไว้ข้างกระป๋องเลยล่ะครับ แต่จะมีรั่วออกมาบ้างบางส่วน ผมเคยทำเมื่อครั้งปล่อยน้ำยาออกที่โคราชครับ เมื่อหลายเดือนก่อนเคยโพสต์ไว้แต่ไม่มีใครถามจนถึงวันนี้มีคนมาถาม เลยต้องตอบกันหน่อยเพื่อให้หายข้องใจ ผมไม่ได้ปล่อยน้ำยาทิ้งครับ แต่ปล่อยกลับเข้ากระป๋องเดิมที่ซื้อที่อมรโคราชครับ น้ำหนักของน้ำยาตอนที่เราอัดมันเข้าไป(เข้าอย่างรวดเร็วมากครับ จนเรารับรู้ว่ามันเกินที่บริษัทเขาบรรจุมา เป็นเท่าตัวเลยล่ะ แล้วเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หากไม่ฉุกเฉินก็ถัง ๑๓.๖ กิโลน่านล่ะครับ ความจริงผมใช้วิธีนี้ปล่อยน้ำยากลับเข้าถังใหม่ ก่อนที่จะทำการเช็คระบบหากมีปัญหามานานแล้วครับ แต่เราจะเอากลับมาใช้ได้ไม่ถึงร้อยครับ จะมีการตกหล่นหายที่ต้นทางบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยทิ้งไปทั้งหมด เพราะที่บ้านผมนั้น แค่R12 ยังจำหน่ายกันกิโลละ ๓๘๐ บาท ผมปล่อยกลับเข้าถังแบบว่า ก็สามารถประหยัดไปได้กว่าครึ่งหนึ่งในการเช็คแอร์แต่ละครั้ง ถึงจุดหนึ่งจะออกมาไม่หมดครับ ส่วนนี้เรายอมเสียไป

ที่เล่ามาซะยืดยาวเนี่ย สรุปทำได้ แต่ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น กระป๋องของผมแค่๒๐๐ กรัม แต่มันอัดเข้าไปน่าจะสามสี่ร้อยได้มั๊ง(มันเข้าเร็วมากปิดไม่ทัน)หนักจนรู้สึกได้เลยต้องหยุด (กลัวกระป๋องระเบิด) ตอนนี้ก็ยังติดท้ายรถอยู่เลย นับแต่วันปล่อยน่าจาต.ค.ที่แล้วนะ ลองย้อนกลับไปเปิดดู จำหน้าไม่ได้แล้ว ห้าสิบหกสิบนี่ล่ะย้อนไปดู แต่หากมีการเติมหรือบำรุงรักษาผมก็ใช้ถังใหญ่และทำที่บ้าน เจ้ากระป๋องที่ว่าไว้ยามฉุกเฉินในสนามเวลาเดินทางไกลเท่านั้น แต่มันก็ยังไม่ได้ใช้อยู่ดีเพราะไม่มีปัญหาเลย คงเป็นเพราะเวปนี้ล่ะ ทำให้เราละเอียดขึ้น ปัญหาที่ตามมาเลยน้อยครับ เอาพอหอมปากหอมคอแค่นี้ก่อนนะครับ

 

แค่คิดเท่านั้น....!!!!!!!!!!!!!!

แหม......ก็แค่ความคิดเท่านั้นแหละครับพี่น้อง ในโลกความจริงก็ไม่มีใครเค้าทำกันหรอก(ขาดทุนตาย....)แต่มันเป็นไอเดียที่เราเอาไว้แก้ยามฉุกเฉิน..ตามที่พี่จินนี่ท่านได้กล่าวเอาไว้...โดยที่เราไม่ต้องวิ่งหาร้านซ่อมแอร์ ยกตัวอย่างง่ายๆ
....ในขณะที่เราขับรถเดินทางอยู่ อยู่ๆเกิดแอร์มันไม่เย็นขึ้นมาหรือว่าความเย็นมันหายไป(เย็นแต่ไม่ฉ่ำ)อันนี้แหละไอ้น้ำยาแอร์ที่อยู่ในกระป๋องที่เราเก็บไว้ท้ายรถมันจะมีประโยชน์ขึ้นมาทันที คือเราสามารถเติมเพิ่มเข้าไปได้และก็คงน่าจะพอเพียง เพราะว่ามันไม่ได้รั่วออกจากระบบจนหมดเกลี้ยง....

....และผมก็ได้มีไอเดียใหม่ๆอีกอย่างก็คือ......คิดว่าจะลองเอาตัวที่ทำความเย็นที่ภาษาช่างเขาเรียกว่า..เพลเทียร์..(ไม่รู้เรียกชื่อถูกหรือเปล่า)เป็นอุปกรณ์Electronicsตัวหนึ่งที่ทำงานด้วยไฟเลี้ยง12v.มีลักษณะแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆขนาด4x4cm.หนาประมาณ5mm.โดยที่ตัวมันเองจะทำงานคือด้านหนึ่งสร้างความเย็น(เย็นมากๆ)และอีกด้านจะถ่ายเทความร้อนที้ง.....ไอเดียคิดว่าถ้าเรานำเอาแผ่นนี้สักหลายๆแผ่นโดยเอาด้านที่มันสร้างความเย็นมาติดกับแผงคอล์ยเย็น แล้วอีกด้านของแผ่นนี้ก็หาฮีตซิ้งค์(แผ่นระบายความร้อน)มาติดเพิ่มเข้าไปเพื่อให้มันระบายความร้อนให้ดีขึ้น น่าจะทำได้น่ะครับ......ถ้าๆทำได้รถเราก็จะไม่มี
1. คอมแอร์
2. แผงคอล์ยร้อน
3..น้ำยาแอร์
4.ท่อน้ำยาH/L
5.พัดลม
....ผลที่ตามมาคือการประหยัดทั้งเงิน-เชื้อเพลิง-แก็สและพลังงานต่างๆ แต่ราคาแผ่นนี้เดินดูที่บ้านหม้อราคาแผ่นประมาณ600บาท คงจะใช้หลายแผ่นและคงจะยังไม่มีใครเคยทดลองกับแอร์รถยนต์ ที่มีใช้กันก็อยู่ในวงการอิเล็คทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนน่ะครับ

 

ผมชอบ idea อัดจากท่อ hi อย่างที่คุณจินนี่ว่าครับ แต่ว่ากระป๋องขนาด 200 กรัม อัดเข้าไป 400 กรัมนี่เสียวอ่ะ

ส่วนเรื่องเพลเทียร์ มันราคาแพงไปเมื่อเทียบกับความสามารถในการทำความเย็น ถ้าจะให้เย็นเท่ากับแอร์ติดรถ ค่าเพลเทียร์ 4 หมื่นก็ยังไม่พอมั้งครับ ยังไม่นับอายุการใช้งานของมันอีก คงต้อวรออีกนานกว่าเพลเทียร์จะเอามาใช้ได้กับรถ

 

สานต่อ....

มีคนทดลองทำแล้วครับ...ช้าไปอีกแล้ว...(แป๊วว)ที่..มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม...เมื่อปี2547 การทดลองประสพผลสำเร็จครับ แต่ยังไม่สามรถใช้งานจริงๆกับรถยนต์ยังมีปัจจัยอื่นๆประกอบอีก สนใจลองโทรคุยกับ อ.วิชัย จิตต์ประสงค์ 089-4025249 เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ

 

งั้นเอาการบ้านไปศึกษากันเลยครับ ผมกำลังซุ่มทดลองพัฒนาอยู่ ไปช่วยกันต่อยอดครับ คนไทยก็คิดได้ แต่ต่างชาตินั้นก้าวหน้ากว่าเราไปหลายขุมแล้ว คนไทยแค่เอามาใช้ ยี่สิบถึงสามสิบเปอร์เท่านั้น แต่เพื่อนร่วมโลกเรานั้นใช้แทนน้ำมันได้ร้อยเปอร์เลยครับ เห็นพวกเราชอบทดลองเจ้าความคิดเจ้าไอเดียจังๆ เอาไปเยยจัดให้ครับ


ที่กล่าวมาคือการนำน้ำธรรมดาๆนี่ละ มาแทนเชื้อเพลิงครับ แต่วิธีแยกมันมีหลากหลายวิธี(ไม่นับรวมถึงเซลเชื้อเพลิงนะครับ เทคโนดลยีมันห่างไกลไป) แต่จาพูดหรือกล่าวถึงการแยกน้ำด้วยไฟฟ้าครับ จะได้ไฮโดรเจน สองโมเลกุล กะ อ๊อกซิเจนอีกหนึ่งโมเลกุล (ระเบิดไฮโดรเจนดีๆนี่ล่ะ) นำไปใช้แทนเชื้อเพลิงที่แสนแพงได้ทันทีครับ เก็บมาฝากเป็นการบ้าน พรุ่งนี้ผมไม่อยู่จาเดินทางไกลอีกรอบ เด๋วกลับมาค่อยมาเม้าท์ต่อ

ตามลิงค์นี้ไปครับ อันนี้เป็นของคนไทย ส่วนยูทู๊ปนั้น มีภาพวีทีอาร์ให้เห็นจะๆเลยครับ คนแรกที่คิดได้เป็นชาวเยอรมันครับ พวกรวยแค่ข้ามคืน เพราะจำเลยคือโอเปคกะมะกัน เอาน้ำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร้อยเปอร์เลย ดังระเบิดเถิดเทิง ตอนนี้มะกัน ญี่ปุ่น เยอรมัน แม้แต่ตากาล็อคเพื่นบ้านอาเซี่ยนเรา ก็ก้าวหน้าไปถึงขั้นเอามาใช้ได้ร้อยเปอร์แล้วครับ แบ่งๆกันไป อิอิอิ

คนไทยเก่งๆมีเยอะครับ แต่คนไทยด้วยกัน(โดยเฉพาะพวกที่มีอำนาจ)มักไม่เปิดโอกาสให้คนพวกนี้ได้เกิด แต่จะปัดแข้งปัดขาและปิดกั้น กะไม่ส่งเสริมคนไทยด้วยกัน ไม่รู้รุ่นหลานผมความคิดแคบๆแบบนี้จะหมดไปจากแผ่นดินนี้หรือไม่ สำหรับผมปลงตกแระ อิอิอิ ถึงได้ทำการซุ่มเงี่ยบทำการทดลองและใช้สอยอยู่เพียงคนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น เลยอยากแบ่งปันให้เพื่อนๆเป็นวิทยาทานครับ

http://www.siamhho.com/ ตอนนี้กาลังโดนไวรัส รออีกนิด(เรื่องนี้อันตราย ลองคิดดูดิ น้ำที่มีออกดาดดื่นลองมีใครเอามาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้(ซึ่งวันนี้ทำได้แล้ว เหอะๆๆๆ) แล้วพวกที่คอยจ้องสูบเลือดพวกเราทีละ ๔๐ สตางค์ๆ มันจะไม่เต้นผางๆได้งัย แม่นบ่อ ผมถึงได้ซุ่มเงี่ยบทดลองต่อยอดอยู่ แต่ไม่ต้องถามเรื่องนี้ต่อนะครับ ผมแค่จะชี้ทางให้แล้วก็ไปต่อยอดกันเอาเองครับ มีคนทำสำเร็จแล้ว ไม่ยากๆลงทุนก็เบาๆแค่หลักพัน แต่ผลที่ได้เปงหลักหมื่นหรือหลายๆหมื่น ค่าเชื้อเพลิงที่ประหยัดหรือได้มาโดยต้นทุนที่ต่ำ)



http://www.youtube.com/watch?v=a74uarqap2E&feature=related อันนี้ใช้น้ำร้อยเปอร์เลย

เอาแค่สองลิ้งค์ก่อนนะ ฟามจิงมีอีกเพียบ พอเรียกน้ำย่อยครับ

 

พลังงานทางเลือก....

ครับก็ศึกษามาเหมือนกันครับ การแยกสารHHOออกจากน้ำ...หลักการตามลิ้งนี้ครับ
http://waterpoweredcar.com/images/hydrobooster.pdf

 

พลังงานทางเลือก....

ในบ้านเราก็มีครับ แต่ยังน้อยคนที่รู้จักและก็มีขายด้วยราคาอยู่ที่ประมาณ6-7พันบาทต่อชุด
ลิ้งของเว็ปฝรั่ง...http://www.water4gas.com/2books.htm

 

เว็ปนี้ก็แจ๋ว....ของคนไทยครับ
http://www.watercar.th.gs/

 

ไม่สบายหลายวันเลยไม่ได้เข้ามา update เลย
ตอบเลยนะครับ
- ฟองขาวๆ แสดงว่าน้ำยาแอร์ขาดครับ ถ้าฟองเล็กๆ ใสๆ แสดงว่าน้ำยาแอร์
ไม่ขาดครับ แล้วปัญหาที่ถามมานั้นเป็นปรกติครับ
- ไดเออร์อาจจะสกปรกครับ แต่ถ้าแอร์ยังเย็นอยู่ก็ยังไม่ต้องไปทำไรมันครับ
ถ้ามีการซ่อมแอร์เมื่อไรก็เปลี่ยนไดเออร์ด้วยก็ดีครับ
- น่าจะเป็นเสียง ลูกปืน มูเล่หน้าเครื่องยนต์หรือเปล่าครับ ลองเช็คดูก่อนครับ

 

แหะๆๆ อ่านมาซะยืดยาวขอตอบเลยนะครับ พี่ๆ ทั้งหลาย
- จิงๆ แล้วอย่างที่คุณหนุ่ม...บางบัวทองทำนั้นก็สามารถทำได้ครับ เอาไว้ใช้ฉุกเฉิน
- อย่าที่พี่กบบอกวิธีนั้นถูกครับ (ไม่ต้องย่ำชื่อผมก็ได้เพ่ เอาซะตัวใหญ่เลย)
- ขอบคุณพี่ยุทธกับพี่จินนี่ตอบครับ ถูกต้องเลยนะครับบบ
- ส่วนเครื่องการอัด สารลงกระป๋องนั้น ถ้าเป็นน้ำยาแอร์ที่ผมบรรจุใส่กระป๋องอยู่นั้น
เครื่องผมมันจะมีการVac อากาศภายในกระป๋องออกก่อนครับ แล้วค่อยเติมน้ำยาแอร์ลงไป
ซึ่งวิธีนี้มันจะทำให้มีอากาศเข้าไปผสมน้อยมากครับ เลยทำให้น้ำยาแอร์มีความบริสุทย์สูงครับ
- แล้วอย่างที่คุณหนุ่ม...บางบัวทองทำนั้น กระป๋องตัว Cold ซึ่งบรรจุ
น้ำยาแอร์ Cold ได้ 200 G เพราะตัว Cold มันใหญ่ แต่ถ้านำมาบรรจุ R12
นั้นผมว่าเต็มที่น่าจะได้ถึง 350 - 400G ครับแต่ไม่ควรเกิน 400G จะดีมาก
เพราะมันต้องมีที่ให้น้ำยาภายในกระป๋อง ขยายตัวด้วยครับเพราะว่าถ้ากระป๋องโดน
ความร้อนสูง มันสามารถระเบิดได้เลยนะครับ อันนี้ต้องระวังด้วยน่า
- มีลูกค้าแม่ผมเหมือนกันครับ ซื้อน้ำยาแอร์แล้วไปบรรจุใส่กระป๋องเอง
เขาเอาไปทำใส่กับ ปืนอัดแก๊ส

ช่วงนี้อากาศแปลป่วนจิงๆ พี่ๆ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ เดี่ยวไม่สบายเหมือนผม

 

ส่วนไอ้ตัว เพนเทียมนั้น ทางป๋าผมเคยลองมาเกือบ 10 ปีได้แล้วครับ
ไม่เหมาะเอามาทำเกี่ยวกับแอร์รถครับ เหมาะใช้สำหรับพวก คอมพิวเตอร์ครับ
ตอนนั้นผมซื้อมา 300 บาท ลองแล้วงงเมหือนกันครับ มันเย็นจนเป็นน้ำแข็งเลย
ดูง่ายๆ ตู้กดน้ำยาเย็นสมัยใหม่นั้น เขาก็ใช้ตัว เพนเทียม นี้แหละครับ
ที่มันมีทั้งน้ำร้อน และก็น้ำเย็น ลองกดน้ำกินดูมัน เย็นแบบชืดๆ อะครับ
แต่น้ำร้อนนั้น ร้อนดีจิงๆ ครับ เลยไม่เหมาะกับการใช้ในเครื่องปรับอากาศ

แล้วไอ้ตัว เพนเทียมนี้ เขาจะใช้ในตู้เย็นที่พกพาในรถยนต์อะครับ ที่ขายกันอยู่ 2 พันกว่าบาท
ใช้ไฟ 12V ที่จัดบุหรี่ ถ้าสับขั่วที่ตัวปลั้กตู้เย็นมันก็จะทำความเย็น
ถ้าสับอีกขั่วมันก็จะเป็นความร้อนคับ

 

หลังจากได้น้ำยาแอร์มาจากคุณเตอร์ เลยได้โอกาสลองเปลี่ยนน้ำยามาใช้ Cold134 โดยเปลี่ยนที่ร้านคุณติ๊ก Sira_Ja (ที่เอาน้ำยาแอร์แบบกระป๋องไปให้เปลี่ยน) เมื่อสิ้นเดือนธันวา ใช้น้ำยาไปประมาณ 1กระป๋องครึ่ง
หลังจากเปลี่ยนมาแอร์เย็นเร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้..: ของเขาดีจริง ใครขึ้นมาก็บ่นกันทุกคนเลย ...... แอร์เย็นจัง
วันนี้เลยมาลองตรวจสอบระบบแอร์หน่อย หลังจากได้ยินเสียงฉีดน้ำยาแอร์ดัง ฟี้ดๆ ลองมองที่ตาแมวดู โห..ทำไมฟองอย่างเยอะเลย มิน่าละ(ตอนเปลี่ยนใหม่ๆยังไม่มีฟองเลยนะ) ถึงมีเสียง แสดงว่าต้องมีรั่วแน่เลย เลยลองดูจากหัวเติมน้ำยาแอร์ก่อน เจอเลยที่รั่วอยู่นี่นี่เอง เลยลองขันลูกศรให้แน่นขึ้น น่าจะหายรั่วซึมและ เลยเติมน้ำยาแอร์เพิ่มเองสักหน่อย เลยค่อยๆกดเพิ่มไป จนหมดกระป๋อง เลยดูที่ตาแมวต่อ ยังมีฟองนิดๆ ...แต่น้ำยาหมดกระป๋องซะแล้ว..
รูปแรก...จุดที่รั่วซึม