D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

คุณเตอร์ครับ

สิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทยแค่ชั่วโมงเดียวครับ

 

แหะๆๆๆๆ

อายจัง แหะๆๆๆๆๆ :cry::cry::cry::cry:

 

ขอรบกวนถามคุณ ter เรื่องเปลี่ยนไปใช้น้ำยา R12 แทน 134
ถ้าจะทำจริงๆ ผมต้องถ่ายน้ำมันคอมออกด้วยไหมครับ พอดีหากระทู้ suzuki ที่คุณ ter บอกไม่เจอ (web มันช้ากว่าจะขึ้นทีละหน้า)
หรือท่านที่รู้ช่วยทำ link ไปหาให้หน่อยได้ไหมครับ จะตามไปอ่านหาข้อมูลก่อน
เพราะถ้าเปลี่ยนท่อน้ำยาสำหรับ 134A ก็ต้องตัดต่อใหม่ ยุ่งเหมือนกัน
เปลี่ยนน้ำยาน่าจะง่ายกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เลยใช่ไหมครับ แล้วความเย็นของน้ำยา R12 กับ 134A ใกล้เคียงกันไหมครับ ถ้าทำได้ก็อยากลอง cold 12 บ้างเหมือนกันครับ

 

http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=88171&page=53
หน้า 53 ครับลองอ่านดูก่อนฮะ

ไม่ต้องทำไรเลยครับ ถ่ายน้ำยาแอร์ R134a ออก แล้วเติมน้ำแอร์ R12 เข้าไปก็ใช้ได้แล้วครับ
ใช้น้ำมันคอมของ R134a ด้วยนะครับ

 

อิอิอิ นึกว่าหายวับไปไหน แต่ก็ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ๆ ดีครับๆ นี่ล่ะแฟนพันธ์แท้ตัวจริง

อยากจาร่วมแชร์หน่อยนะครับ เราต่างใช้รถเก่าด้วยกัน ผมว่าไม่ต้องรอให้มันเสียหรอกครับ ให้ทำการจดบันทึกไว้ พอถึงเวลาหรือถึงระยะที่โรงงานกำหนดเราก็เปลี่ยนออกเสีย จาได้ไม่ต้องอายน้องๆที่ป้ายรถเมล์ไง เผลอๆก็ลองจอดรถชวนน้องๆเค้านั่งไปส่งบ้านด้วยก็น่าจาดีนิ อิอิอิ ยากกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้งจังๆ แบบว่าใจมันสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอะ แต่ช่วยหามป๋าไปนั่งจีบน้องทีจิ อิอิอิ ตอนนี้ชักไม่ไหวแระ แบบว่ายังไม่ค่อยแก่เด้ แค่ผมหงอกสองเส้นเองอะคับ ผมใช้วิธีนี้ เลยตัดปัญหาอายน้องๆแบบคุณกบได้เป็นปลิดทิ้งเลยครับ ห้าหมื่นก็ยกลง ยกเครื่องใหม่ขึ้นประจำการ สลับกันไปครับ ที่เหลือก็ขับมันไปทั่วประเทศอย่างเดียว มะวานเพิ่งกลับมาจากการเดินทางมาราทนหลายจังหวัด วันนี้ได้พัก(แต่ก็ไม่ได้พักหรอกเด๋วก็ไป ยื่นฟ้องชาวบ้านเค้าอีกหลายเรื่อง) พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางต่อ แล้วกลับมาลุ้นคุณยุทธ เติมน้ำยาคูล๒๒ วันเสาร์อาทิตย์พอดี

ผมก็รอคุณกบอยู่นานเชียวนะ(จาเดินตามรอยเรื่องคูลแอร์บ้านครับ) แต่เห็นว่ากาลังดูแลบ้าน เลยไม่อยากแซวมาก อิอิ ล้อเล่นงับ แบบว่าผมเคยซื้อบ้านเมื่อสิบกว่าปีก่อน กะว่าจาไปอยู่เฉพาะนอนตอนกลางคืน แล้วเช้าก็ตื่นขับรถมาทำงานที่ตึกที่อยู่ในตัวเมือง แต่คุณกบครับ ผมได้ไปนอนเอาฤกษ์แค่ สองวันจริงๆครับ มันไม่ไหวเหนื่อยมาก สุดท้ายก็ต้องให้คนเช่าราคาถูกๆไป(กำของตู อยู่ดีๆไม่ชอบ) เพราะหกเดือนว่างไปดูที เห็นแล้วเกือบเป็นลมครับ บ้านที่ไม่มีคนอยู่เนี่ย ทั้งมดทั้งปลวกทั้งแขกไม่ได้รับเชิญอีกเพียบ ตอนนี้ก็เลยต้องทำงานและอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมเหมียนเดิมคร๊าบ อิอิอิ ที่อยากจาบอกด้วยความจริงใจ ก็คืออย่าไปทุ่มเทให้มันมาก อย่าไปติว่าวัสดุที่เขาใช้มันไม่ดี ต้องเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่เหมือนผมล่ะ บานปลายครับ วันๆเอาแต่แต่งบ้าน(งานท่วมหัวอยู่ดันไม่ค่อยทำ เหอะๆๆๆ) สุดท้ายเราก็ไปตกแต่งบ้านให้เขาเช่าอยู่ กำ อย่าเป็นเหมือนผมก็พอครับ ตอนนี้พอแระ ทำใจ วางลงได้เกือบหมด อิอิอิ

เห็นด้วยครับ ไปหาคุณทรัพย์เลย แล้วก็เรียนรู้จากท่าน จาได้อะไรกลับมาอีกเยอะเกินระยะทางที่ต้องเดินทางไปหามาก คำว่าถูกแต่ดีมีในโลกเบี้ยวๆใบนี้แน่แต่กว่าจาหาเจอก็ต้องเหนื่อยหน่อยจิ สำคัญต้องพกดวงไปด้วยนะ เด๋วนี้ท่านดังระเบิดเถิดเทิงคิวยาวถึงบางนาแน่ ดังนั้นคุณกบควรกะว่าตื่นแต่ตีสีไปรอเลย ผมว่าได้คิวแรกเหง๋ม คุณยุทธก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม(หวาน):teeth::teeth::teeth: ผมเห็นบ่นอยู่อย่างเดียวว่าทำไมมันเย็นจังๆ:snow::snow: ผมยังหาเวลาไปทำตามสูตรของคุณทรัพย์ยังไม่ได้เลย เดินทางตลอด ตอนนี้ก็รอให้มันพังก็ยังมึนไม่พังซักที ผมจาได้เอาคูล๑๒ใส่ ครับ ครั้นจาปล่อยทิ้งเลยก็กลัวพ่อหลวงเบิ้ดกาโหลกเอาว่า เอ็งทามไมใช้ของไม่รู้จักคุณค่าไม่คุ้มค่าเลย ความพอเพียงหน่ะเข้าใจป่ะควรใช้จนมันใจขาดจิ ปล่อยออกทามไมรึว่ามีเครื่องมือเยอะกะเวลาเยอะจัด เด๋วพ่อบ้องหูเยย ที่ดูล่าสุด น็อตยึดหลุดหายตอนไหนก็ไม่รู้ ขนาดยาวกว่าหกนิ้วนะ เหอะๆๆมันเป็นไปแล้ว เด๋วสายๆคงไปหามาใส่ นี่ขนาดเลิกซิ่งแล้ว น็อตหลุดยังไม่รู้ตัว คงเป็นเพราะเดินทางตลอด ทริปนี้เหนื่อยจริงๆ พรุ่งนี้ก็ต้องออกแต่เช้าอีก วันนี้ชาร์ทแบตให้เต็ม เพื่อลุยต่อ:car::car::car:

 

น่านๆๆๆ ยังว่านู๋อาร์๑๑กะเอฟ๑๑ ยังไม่ทันรัยเยย โดนตัวเองเข้าจนได้นิ อิอิอิ กรรมมานติดจรวดจิงๆนะคุณเตอร์ อิอิอิ (ขอแซวหน่อย แต่ก็ขอบคุณครับฟามจิงนู๋ก็คงแก่จิงดั่งว่าน่านล่ะ เหอะๆๆๆๆ แต่ก็ยังมีไฟอยู่เด้ สิ บอก ไห่ แม้จารุ่นป๋าคุณเตอร์ก็ตามทีมะรู้ใครแก่ฟ่ากาน อิอิ แต่รูปป๋าคุณเตอร์หล่อจังๆ เท่ด้วยฝากไปบอกด้วยนะ อิอิอิ ส่วนผมฟามหล่อนั้นตอนนี้เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ซึ่งผบ.ทบ.ผมก็ชอบแถมสะจัยด้วย จาได้ไม่ต้องมีสาวๆมารุมจีบไง เวลาไปไกลๆเค้าจาได้ซาบายจัย อิอิ หากมีตูก็ไม่บอก ถึงบอกตูก็ว่าไม่มี อิอิอิ ลูกเด๋ว )

ว่าแต่ว่า เอาอาร์๑๒ ใส่แทน อาร์๑๓๔ แล้วผลมันเป็นยังไง เย็นขึ้นมาป่ะตามไปย้อนดูก็ยังไม่มีรายงานอะงับ แต่ว่าผมยังสงสัย เวลาเปลี่ยนจาก๑๓๔ เป็น๑๒ แล้วทามมัยไม่เปลี่ยนน้ำมันคอมแอร์เป็นของอาร์๑๒อะงับ

ไม่ต้องทำไรเลยครับ ถ่ายน้ำยาแอร์ R134a ออก แล้วเติมน้ำแอร์ R12 เข้าไปก็ใช้ได้แล้วครับ
ใช้น้ำมันคอมของ R134a ด้วยนะครับ

ตกลงพอเปลี่ยนมาเป็นอาร์๑๒ แล้ว ให้ใช้น้ำมันคอมของอาร์๑๓๔ แม่นบ่อ รึว่าคุณเตอร์.....วานบอกโหน่ยจ้า แล้วบอกผลด้วยว่ามานเย็นฟ่าเดิมหรือลดลง แต่ที่แน่ๆแรงดันไฮต้องลดลงอีกเท่าตัวชัวร์ไม่มั่วนิ่มแน่ๆ

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทั้งเรื่องรถและเรื่องบ้านครับ

เรื่องแต่งบ้าน พอดีมันเป็นบ้านมือสาม แถมเจ้าของเก่าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย โดนช่างซ่อมคนเก่าหมกเม็ดไว้ตั้งเยอะ
เอาง่าย ๆ ตู้เมนไฟอยู่ชั้นสอง ช่างไฟเล่นเดินสายลงมาชั้นล่างเส้นเดียว ขนาด 2.0 สแควร์มิ
ล แล้วพ่วงปั๊มน้ำ, เครื่องทำน้ำอุ่น, ปลั๊กและหลอดไฟอีกยี่สิบกว่าจุด ผมกลัวมันเหนื่อยก็เลยเดินแยกลงมาอีกสองเส้น
หรือเรื่องเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้ต่อสายดิน ผมก็ไม่กล้าใช้ กลัวชาตินี้จะไม่ได้แต่งงานเหมือนชาวบ้านเค้า
ก็เลยต้องจัดการเรื่องไฟฟ้าเกือบทั้งหมด :sad: :sad: :sad:
ตอนนี้เหลือแต่เรื่องเดินไฟเพิ่มอีกนิดหน่อย กับทาสีภายใน งานก็คงหมดแล้ว


เรื่องบ้านที่ซื้อแล้วให้พวกปลวก+แมลงอื่น ๆ อยู่ผมก็มีอยู่ครับ
ซื้อไว้ตอนเริ่มทำงานใหม่ ๆ ตอนนี้โทรมสุด ๆ สิบปีแล้ว ตั้งใจจะซ่อมและขายขาดทุนทิ้งแล้วครับ
คิดเสียว่าเป็นการออมเงินแบบหนึ่งก็แล้วกัน จะได้ไม่เครียดเพราะขาดทุนเยอะมาก (ซื้อก่อนเศรษฐกิจฟองสบู่แตก)


เดี๋ยววันอาทิตย์ว่าจะเอารถไปให้ช่างแอร์ตัวจริงช่วยแก้ปัญหาให้ครับ
ได้ผลยังไงจะมาเล่าให้ฟังครับ

 

น้ำมันแบบ PAG ที่ใช้ใน R134a นันเป็นน้ำมันที่ถูกกลั่นออกมาแบบบริสุทธ์มากๆแล้วครับพี่
ถ้าเป็นน้ำมันที่ใช้ใน R12 จะเป็นน้ำมันเกดร MO ยังไม่ดีเท่า PAG คับผม...

พี่ยุทธ เห็นป๋าผมครั้งแรก พี่ยุทธยัง งง เลยฮะ นึกว่าพี่ชายผม (เห็นหน้าผมแก่หรือไงก็ไม่รู้...)

จากระบบ R134a แล้วเปลี่ยนมาใช่ น้ำยาแอร์ R12 แล้วผลที่ได้ก็คือจะเย็นขึ้นครับ เพราะแผงคอลย์ร้อน
มันมีขนาดใหญ่ จึงทำให้ R12 ระบายความร้อนได้ดีขึ้นกว่าเดิม และแรงดันของ R12 ก็ต่ำกว่า R134a
อยู่แล้วด้วยครับ เลยทำให้ระบายดีครับผม

 

จากที่ตามไปอ่านหน้า 53 สรุปว่า เปลี่ยนจาก 134 A มาเป็น R12 ไม่ต้องทำอะไรเลย
นอกจาก
1.ปล่อยน้ำยา 134a ออก
2.เติมน้ำมันคอม PAG เพิ่มซัก 10-50 cc
3. vac ระบบใหม่
4. เติมน้ำยา R12 เข้าไปได้เลย

แต่ที่ยังสงสัยคือคุณเตอร์บอกว่า expansion valve ต้องเลือกให้ตรงกับชนิดของน้ำยาแอร์ ไม่อย่างนั้นจะเย็นไม่ฉ่ำ
ถ้าอย่างนั้น expan ของ 134a มันจะฉีด R12 ได้ดีหรือเปล่าครับ
dryer ของ R12 กับ 134 ก็คนละแบบกัน ไม่ต้องเปลี่ยนใช่ไหมครับ

 

มันก็ช่ายอย่างที่คุณรุ่งตั้งข้อส่งสัยไว้นะคับ

แต่เท่าที่ผมลองดูกับรถที่บริษัทฯ ที่เป็นระบบ R134a นะครับ แล้วจะมาใช้ น้ำยาแอร์ R12
ก็เป็นฝ้าขึ้นกระจกทุกคันเลยอ่ะคับ อันนี้เป็นข้อมูลที่ผมทำการทดลองจิง
แต่ถ้าทางหลักวิชาการนั้นไม่มีอะคับ

ไดเออร์นั้น ตัวของ R134a ผมเองก็ยังไม่เคยผ่าครึ้งออกมาดูเหมือนกันอะคับ
แต่ภายในไดเออร์เกือบทั้งหมด แอร์บ้าน แอร์รถ ภายในก็จะเป็นเม็ด เซริกาเจว นะคับ
ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ ก็จะเป็น Core คือ มอเล็คกุล่า4 อัดเป็นก้อนๆๆ คับ

พวกนี้ก็ทำหน้าที่ดูดความชื้นเท่านั้นเองครับ เหมือนกับห่อเล็กๆ ที่ติดมาในซองขนมอ่ะคับ

 

แอร์สู้แดดไม่ไหว

คือผมใช้รถ toyota ae111 (เป็น taxi) ผมอยากให้แอร์มันเย็นสู้แดดได้อะครับ
1. ช่วยแนะนำร้านทำที่ราคาไม่สูงหน่อยครับ
2.ถ้าจะใช้น้ำยาcool 134 ราคากระป๋องเท่าไรครับ แล้วใช้กี่กระป๋อง
ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ

 

ตอบเลยนะครับ
- อ่านกระทู้หน้าแรกที่ผมเขียนไว้ แล้วลองทำเองก่อนคับ ไม่ยากครับ ไม่ยาก
- ราคาที่ไม่สูง ก็ทำเองคับ อ่านหน้าแรกดูคับ แล้วก็จะได้คำตอบครับผม
- ใช้อยู่ 1กระป๋องกับอีกครึ่งหนึ่งครับ (ซื้อ 2 กระป๋องอ่ะคับ) เหลือเก็บไว้ใช้คราวหน้าได้
ต้องคว่ำกระป๋องเติมนะครับ อย่าลืม ซื้อได้ที่บ้านหม้อครับ ซอยจราจรกลาง ถามคนแถวนั้นก็ได้ว่า
ร้านขายอะไหล่แอร์ของอมรอยู่ตรงไหน ป้ายชื่อหน้าร้านเขียนว่า โอกิ ตัวใหญ่มากๆๆคับ

ขอบคุณมากครับที่ให้ความสนใจตัว Cold ครับผม

 

ae111 รุ่นเดียวกับผม แอร์เดิมๆทำให้ถูกต้องก็เย็นมากๆ แนะนำให้โทรหาพี่ทรัพย์ที่เบอร์ 081 614 6270 แล้วจะเย็นในราคาสบายๆๆ จากอาการที่คุณบอกต้องแก้ปัญหาให้จบก่อนจึงค่อยเปลี่ยนมาใช้น้ำยา cold ถ้าแอร์เดิมไม่เย็น เปลี่ยนเป็น cold ก็ช่วยได้ไม่มาก

 

cold22 กับ Daikin inverter

มาแล้วครับผลทดสอบ cold 22 กับ diakin inverter 10900 btu เติมแล้วประหยัดไฟขึ้นไปอีก
เพิ่งได้ของมาวันนี้ก็รีบเอาไปเติมเลย ผมวัดค่าการกินไฟของแอร์รุ่นเดียวกัน 2 ตัว ที่อยู่คนละห้องในเวลาไล่เลี่ยกัน

ตั้งให้แอร์ทำงานแบบ full power ซึ่งกินไฟเต็มที่ วัดข้อมูลทุก 30 วินาที เป็นเวลา 30นาที เพื่อ plot graph ไม่ต้องวัดนานกว่านี้เพราะแอร์จะเริ่มรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่ได้ตั้งแต่นาทีที่ 20 เป็นต้นไป ซึ่งจะอยู่ในโหมดกินไฟน้อยที่สุด 1.01 amp สำหรับ COLD 22 และ 1.47 amp สำหรับ R22 พอเลย 30 นาทีไปแล้วแอร์หรี่จนสุดก็ยังทำความเย็นได้มากเกินไป จะทำให้ห้องอุณหภูมิลดต่ำกว่าที่ตั้งไว้ แอร์เลยมีการตัดการทำงานเป็นระยะ ซึ่งทำให้ประหยัดไฟมากไปอีก

จะตัดเฉพาะข้อมูลบางส่วนมาให้ดู
............................................R22......................COLD22...............ประหยัดไป
ช่วงที่กินไฟสูงสูด.............. 6.4 amp..............4.4 amp...........(6.4-4.4)/6.4 = 31.25%
ช่วงที่กินไฟต่ำสุด.............. 1.47 amp.............1.01 amp.........(1.47-1.01)/1.47 =31.29%

จากข้อมูลนี้ ทำให้ผมต้องรีบไปเปลี่ยนน้ำยาเจ้า daikin inverter อีก 2 ตัวที่เหลือโดยด่วน เพราะประหยัดไฟ 31% แบบเห็นๆ แถมทำความเย็นห้องได้เร็วกว่าเดิม R22 วัดที่ช่องลมออกได้ต่ำสุด 10.5 องศา COLD 22 วัดต่ำสุดได้ 6.0 องศา จะเห็นว่าลมที่ออกมาเย็นกว่า ห้องจะเย็นเร็วกว่า คอมแอร์จะเข้าสู่โหมดประหยัดไฟได้เร็วขึ้น ส่วนวิธีเติมน้ำยาแอร์ inverter ต้องอุบไว้ก่อน กว่าจะคลำวิธีเจอ แทบตาย ดีกว่าคุณ ter ชว่ยแนะนำทางโทรศัพท์ ไม่งั้นเติมไม่เสร็จสักที วัดเกจ์แรงดัน ดูยังไงก็แรงดันไม่ถึง มันมีเทคนิค เหอๆๆๆๆๆๆๆ.................

จากเดิมที่ค่าไฟประหยัดอยู่แล้ว คราวนี้ยิ่งประหยัดหนักเข้าไปอีก มีที่ไหนแอร์ 1 ตัน กินไฟ 1 แอมป์............

ข้อมูลแบบละเอียดยิบ ตัวเลขตรึม เดี๋ยวส่งให้คุณ ter ไว้ดูเล่น graph ตัวนี้เอาไว้ดูนิสัยแอร์ inverter โดยเฉพาะ

 

เก็บข้อมูลได้ละเอียดยิบ ได้ใจจิงๆ เลยคับ พี่ยุทธ

ขอบคุณคร้าบบ ที่เก็บข้อมูลมาให้ชมกันครับ

เริ่มทำบ่าย 2 โมง มาเสร็จตอน 2 ทุ่ม
สุดยอดดดด

 

graph ของ daikin inverterกับ COLD22

เอากราฟที่เก็บข้อมูลมาให้ดู ค่าแรงดันน้ำยาดูทางแกน Y ทางซ้าย ค่ากระแสดูทางแกน Y ทางขวา

 

:first:โห ประหยัดตั้งสามสิบเปอร์ น่าสนใจมากครับ คุณยุทธ ลองทดสอบการทำความเย็นต่ำสุดหรือยังครับ ผมอยากรู้ว่าลงต่ำสุดได้เท่าไร รบกวนรายงานหน่อยครับ ใช้เวลาเท่าไรเก็บข้อมูลให้ละเอียดยิบเลยครับ แอร์ห้องนอนผมรุ่นเก๋ากึ๊กอายุประมาณ๑๗ ปี ลมเย็นออกมาได้๔ องศาพอดีครับ แต่กว่าจาลงถึง ๔ องศาก็ต้องเปิดนานเป็นสามสิบนาทีขึ้นไปครับ เชื่อว่าน้ำยาคูลจาใช้เวลาน้อยกว่า แต่อยากรู้ว่าเท่าไรครับ รบกวนรายงานเพื่อเป็นแนวทางหน่อย ขอบคุณครับ

แล้วแรงดันของระบบเปรียบเทียบกะอาร์๒๒ มันเพิ่มหรือลดลงครับคุณยุทธ

ถามคุณเตอร์ คูล ๑๒ กะ ๒๒ นั้นต่างกันหรือไม่ครับ ระหว่าคูลด้วยกันนะครับ ทีนี้เอาคูล ๒๒ มาใส่ในรถได้หรือไม่ มันจารั่วออกเหมือนอาร์๒๒ หรือไม่ครับ

แอร์รุ่นเก่าติดหน้าต่าง(แบบติดหน้าต่าง) ของพานาโซนิคขนาดประมาณหนึ่งตัน วันนี้น่าจาเกินยี่สิบปีแล้วแต่ยังทำงานได้ดีอยู่ครับ ผมอยากรู้ว่าใช้น้ำยาอะไร ตำราบางเล่มก็ว่าถ้าเป็นระบบหน้าต่างจะใช้อาร์๑๒ ตกลงมันใช้อาร์๑๒ หรือ๒๒ ครับ

 

Cold12 กับ Cold22 สัดส่วนของสารภายในมันคนละตัวกันครับ Cold22 ใส่แอร์รถยนต์ไม่ได้ครับ
แอร์ Panasonic ของพี่จินนี่ นั้นผมว่าต้องดูที่ตัวคอมเพรส์เซอร์ครับ ถึงจะรู้ว่าใช้น้ำยาแอร์เบอร์อะไรคับ

 

การทำความเย็นต่ำสุดไม่ทดลองครับ เพราะเปลืองไฟและไม่ใช่ลักษณะการใช้งานจริงของผม แต่ถ้าทดลองว่าจะทำความเย็นถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ 25 องศาในกี่นาทีอันนี้ทำได้ เพราะใช้อยู่ครับ

แรงดันระบบเปรียบเทียบนี่ผมว่าน่าจะพอๆกัน เพราะตอนเติมน้ำยา cold ก็ดูให้ได้ที่ 80 psi เหมือนกัน พอดีแอร์ตัวนี้น้ำยามันขาดอยู่ตอนแรก เลยไม่สามารถวัดค่าก่อน กับหลังเติม cold 22 ได้ รอตอนเปลี่ยนน้ำยาแอร์ตัวที่ 2 แล้วจะวัดเทียบกันดู จุดนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่คุณ ter บอกไว้ว่าแรงดันน้ำยาดูให้เท่ากับของเดิม เติมน้ำยาแอร์ inverter ยากชมัด กว่าจะคุมแรงดันให้ได้ 80 psi ได้เล่นไปหลาย ชม เลย

ผมว่าแอร์หน้าต่างใช้ R22 นะ ดูที่คอมแล้วกัน น่าเปลี่ยนมาใช้ cold แอร์เก่าๆยิ่งน่าจะเห็นผลชัด

 

เมื่อคืนเริ่มเก็บข้อมูลแอร์ inverter ที่ใช้ R22 ทั้ง 2 ตัว วัดการกินไฟตั้งแต่ 23:30 - 07:10 ได้ 2.2 หน่วย ตั้งที่ 26 องศา หลับสบายต้องห่มผ้าห่มนอน แอร์ 1 ตัวกินไฟแค่ 1 หน่วย/คืน 7ชม 40 นาทีเท่านั้น ไฟอีก 0.2 หน่วยเป็นของตู้เย็นขนาด 14 คิว ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว อากาศข้างนอกก็เย็นอยู่แล้วแอร์เลยทำงานน้อย กะว่าจะเก็บข้อมูลหลายๆคืน เดี๋ยวพอเปลี่ยนน้ำยาแล้ววัดการกินไฟอีกครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน ก็พอจะได้ตัวเลขการกินไฟคร่าวๆว่าลดไปกี่หน่วย/คืน

แอร์ตัวที่ 2 ที่เตรียมจะเปลี่ยนน้ำยาทำอุณหภูมิที่ช่องลมแอร์ต่ำสุดแค่ 14.1 องศาในโหดการทำงานแบบประหยัดไฟ ถ้าโหมดทำงานเต็มกำลังวัดได้ต่ำสุดที่ 10.5 องศา แต่ตัวที่ใช้ COLD ต่ำสุด 6 องศา

 

เปลี่ยนน้ำยาตัวที่ 2 พึ่งเสร็จ เหอๆๆๆๆ คราวนี้ไม่นานเหมือนตัวแรกแล้ว ชั่วโมงกว่าๆเสร็จ เก็บข้อมูลครบทั้งก่อนและหลังเปลี่ยน

 

ขอแชร์ความเห็นหน่อยซึ่งผมอาจจาผิดก็ได้(เอาเป็นว่าเป็นความเห็นเล็กๆส่วนตัวนะครับ) ความจริงแล้ว การทดสอบถึงประสิทธิภาพการทำความเย็นที่ได้ต่ำสุด + ระยะเวลาที่น้อยลง(เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำยาเดิมก่อนเติม) นั้นเป็นการทดสอบประสิทธิภาพสูงสุดของแอร์เครื่องนั้นๆเป็นการเฉพาะเจาะจง ที่จะใช้งานโดยปรกติต่อไป ดังนั้นเหตุผลที่ว่ามันเปลืองไฟจึงฟังดูแม่งๆชอบกลอยู่นะครับคุณยุทธ(มันจาเปลืองไฟสักเท่าไรกัน ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเราจาต้องการไปให้ถึงจุดสูงสุดที่แอร์ของเราสามารถทำความเย็นได้หรือไม่เท่านั้น หากไม่ต้องการก็พอฟังได้อยู่) ก่อนที่เราจาใช้งานปรกติต่อไป ให้มันได้อุณหภูมิที่ตั้งไว้ ๒๕ องศา รึเท่าไรก็ตามที จุดเริ่มต้นก็ควรทดสอบว่ามันทำความเย็นได้ต่ำสุดเท่าไรก่อน(ซึ่งผมจาทำเช่นนี้กับแอร์ทุกเครื่องหรือแม้แต่แอร์รถยนต์แล้วเก็บข้อมูลไว้) เพื่อที่เราจะได้รู้ถึงประสิทธิภาพสูงสุดของมัน ณ ขณะนั้นก่อน และเชื่อว่ามีผลโดยตรงต่อการเติมน้ำยาที่ถูกต้องด้วย(มากไป ก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น) ผมเคยพบกับความลับนี้โดยบังเอิญเมื่อครั้งปล่อยน้ำยาออก(แอร์รถยนต์) ซึ่งก็ย้อนไปถึงคำถามยอดฮิตว่า จุดไหนที่มันเติมพอดีซึ่งแต่ละเครื่องแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อต่างกันไม่เท่ากันแน่ ดังนั้น เมื่อเรายังไม่ทราบว่าประสิทธิภาพสูงสุดของมันทำความเย็นได้เท่าไร(ผลจากการวัดลมเย็นที่ออกมา) ก็ย่อมมีผลตามมาอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ กล่าวคือ แม้อาจจะยังไม่ได้แค่ใกล้เคียง เจ้าเทอร์โมเวลาใช้งานจริงมันก็ทำงานอย่างซื่อสัตย์และเที่ยงตรงอยู่แล้วล่ะ ไม่ว่าเราจะตั้งอุณหภูมิไว้เท่าไร เว้นแต่ตั้งไว้ต่ำสุด

ซึ่งจากผลผลอยได้อันนี้ ทำให้ผมใช้แอร์รถยนต์อย่างประหยัดครับ กล่าวคือ หลังจากที่ได้ทำการทดสอบมหาโหด ทนนั่งหนาวสั่นขากรรไกสั่นแกรกๆดูมันสังเกตุมันในตอนแรกๆ แต่ตอนหลังก็สวมเสื้อนวม(กันหนาวต่างประเทศใส่ทดสอบกันจะๆเลย)จนได้ข้อสรุปในเรื่องน้ำยาแอร์อาร์๑๒ไปแล้วนั้น แต่เวลาใช้งานจริงผมก็ใช้เทอร์โมสตัทนะครับ ทำงานแป๊ปเดียวก็ตัดแม้บิดจนสุดก็ตามที ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่น้ำยาชนิดนั้นๆจาพึงทำได้ไงครับ ตอนนี้ ๖ องศาที่ว่าต่ำสุดผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าแอร์รุ่นใหม่น่าจาให้ความเย็นได้ต่ำกว่านี้ครับ แอร์ห้องนอนผมยังได้ ๔ องศาเลยครับ ซึ่งเป็นรุ่นโบราณ อายุกว่า๑๗ปีแล้วครับ ผลก็คือมันทำงานเดี๋ยวเดียวก็ตัด ซึ่งแม้ว่ามันจะกินไฟมากกว่าแต่เมื่อถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ มันก็ตัดอย่างรวดเร็ว เรียกว่ามันให้ประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่มันจะทำได้ครับ คุณยุทธมองข้ามประเด็นนี้ไปรึเปล่าครับ เราตั้งเทอร์โมไว้แค่ ๒๕ ลมมันออกมาแค่๑๐ กว่าๆ เทอร์โมก็ตัดครับ แต่ถ้าประสิทธิภาพสูงสุดของมันซึ่งออกแบบมาจากโรงงาน(แต่เรายังเรียกออกมาใช้ไม่ถึงร้อย) สมมติว่ามันให้ลมเย็นต่ำสุดที่ ๑ หรือ ๒ องศา ก็ต้องย้อนกลับมาที่เดิมอีกว่า อ้าว ถ้างั้นเวลาที่เราตั้งไว้ที่ ๒๕ องศา มันก็ต้องทำงานน้อยลงกว่าเดิมสิ แม่นบ่อครับ แชร์แค่นี้พอ อิอิอิ

ที่เขียนมาซะยืดยาวเนี่ย เพียงแค่อยากทราบข้อมูลเก็บสะสมไว้ให้ครบถ้วนเท่านั้นครับ ยิ่งโดยเฉพาะแรงดันไฮ หากมันลดลง ยิ่งทำให้กินไฟน้อยลงอีกนะครับ ผมเชื่อว่าเป็นคุณสมบัติของคูล๒๒ อยู่แล้วนะครับ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ให้มาทั้งหมดนะครับ

 

คุณจินนี่นี่ประเภท hardcore จริงๆ จะเทสต์กันให้สุดความสามารถเครื่องไปเลย อันนี้เรียก fine tune เลยล่ะครับ ซึ่งบอกตรงๆว่าผมยังขี้เกียจทำขนาดนั้น อีกอย่างแอร์ inverter มันเดินเครื่องแบบเต็มกำลังต่อเนื่องแค่ทีละ 20 นาที พอครบเวลามันจะตัดเป็นเดินแบบหรี่ๆ ตอนผมจับเวลาเก็บข้อมูลแอร์ตัวที่สองที่เปลี่ยนเป็น COLD22 ก็เห็นแล้วครับว่าแอร์ตัดเร็วกว่าเดิมที่ใช้ R22 ถึง 6 นาที ตามนี้ อันนี้ทำให้เห็นความสามารถการทำความเย็นของ cold 22 ชัดเลย

ใช้ R22 ตัดที่ 22:50 นาที ใช้ COLD22 ตัดที่ 16:30 นาที ลดไป 6 นาทีที่โหมดเดินเต็มกำลัง

พอดีกำลังวัดค่ากินไฟ 30 นาที แต่แอร์มันตัดที่ 22 นาที เลยต้องให้มันเดินเต็มกำลังอีก คราวนี้เห็นว่าลมแอร์เย็นต่ำสุดที่ 5 องศา พอครบ 15-20 นาทีหรือเมื่อถึงจุดที่เครืองมันคิดว่าเบ็นพอแล้ว มันก็ตัดเองอีก ไม่รอให้ครบเวาลา 20 นาทีของโหมดเต็มกำลังด้วยซ้ำ การจะเดินแอร์ inverter หาว่าทำอุณหภูมิต่ำสุดจึงยาก เพระามันตัดทุก 15-20 นาที ผมเลยไม่ทำ

อีกอย่างก็อย่างที่พูดไปครับว่า ผมไม่ได้ใช้งานจริงที่จุดที่แอร์ทำความเย็นต่ำสุด ดังนั้นลองที่ค่านี้จึงไม่ใช่จุดที่ผมสนใจ ผมใช้งานจริงที่ 26 องศา ดังนั้นการวัดทั้งหมดจึงตั้งที่ 26 องศาแล้วดูว่ามันประหยัดไฟไปเท่าไร แอร์ตัดเร็วกว่าเดิมไหม การกินกระแสลดลงจริงไหม ข้อสรุปที่ได้คือประหยัดไฟไปประมาณ 25-30% แล้วแต่รอบการทำงาน แอร์ตัดเร็วขึ้น 6 นาที แรงดันน้ำยา ก็ใกล้เคียงอันเดิม ต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย ด้วยซ้ำ ผมลองเติมน้ำยาเพิ่ม แรงดันมันก็ไม่ขึ้นจนเติมเกินไป คุยกับคุณ ter ว่าทำไมแรงดันไม่ขึ้นเสียทีจึงรู้ว่าเติมเกินไปแล้ว ต้องปล่อยน้ำยาออกอีก เสียของ

สรุปคือคือผมได้คำตอบที่อยากรู้แล้ว ก็เลยพอ กับทำแบบที่คุณจินนี่อยากรู้มันทำยาก ได้ผลมาแล้วสุดท้ายผมก็ต้องใช้แอร์ที่ 26 องศาอยู่ดี เลยไม่ทำ แต่ผมจะรอดูคุณจินนนี่ทำแทนครับ เพราะรู้อยู่แล้วว่าต่อให้ผมทำ พอคุณจินนี่ซื้อแอร์ inverter มาใหม่ คุณจินนี่ก็ต้องทำอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องทำ 2 ทีไง

อีกอย่างที่ยากคือแอร์ inverter จะเดินคอมแอร์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่คงที่ ต่างจากแอร์ธรรมมดาที่จะเดิน 100% ตัด 100% ตัดซึ่งจะวัดแรงดันขณะเดินเต็มกำลังได้ง่าย และสามารถปล่อยน้ำยาเข้า-ออก เพื่อปรับค่าการทำงานแอร์ให้ทำงานได้เต็มที่เหมือนที่คุณจินนี่ปล่อยน้ำยาแอร์รถออกแล้วแอร์เย็นขึ้น

แอร์ inverter จะเดินเครื่องที่ละระดับ แล้วก็ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ค่าแรงดันน้ำยาเปลี่ยนตลอด การกินไฟก็ไม่คงที่ โอกาศที่จะปล่อยน้ำยาเข้า-ออก เพื่อหาจุดที่แอร์ทำความเย็นได้ดีที่สุดนั้นยากมากๆ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเติมน้ำยาแอร์ inverter คืออย่าไปสนใจแรงดัน เพราะแรงดันไม่คงที่

ถ้าคุณจินนี่ติดแอร์ใหม่ตัวต่อไป แนะนำให้ลอง inverter ครับ จะมีเรื่องให้เล่นอีกเยอะเลยแหละ เอาแค่ปรับน้ำยาให้พอดีก็ยากแล้ว ผมเติมน้ำยามา 2 ตัวแล้วซึ้งเลยล่ะ:sad:

แรงดัน hi ไม่มีข้อมูลครับ แอร์ตัวเล็กไม่มีช่องวัด hi อยู่แล้ว ถึงมีก็ไม่อยากต่อ มันยากตรงแรงดันสูงน้ำยาพุ่งออกอื้อเลย

 

เห็นภาพเลยครับคุณยุทธ เรื่องของเรื่องผมไม่ทราบการทำงานของระบบมันอะคับ แรกๆก็เข้าใจว่าอินเวอร์เตอร์ เนี่ยมานทำงานโดยใช้คอมแอร์เป็นระบบแปลงไฟดีซี แทนไฟเอซี อะไรประมาณนั้น มานถึงได้ประหยัดกว่าชาวบ้านเขา แต่พออ่านที่เล่ามาทำให้เห็นภาพเลยครับ เป็นกรณีที่จาไปทำแบบผมว่าไม่ได้แน่ ขอโทษทีคับ(ปล่อยไก่แจ้สุ่มเบอเร่อเลย อิอิอิ) ใครจารู้ว่ามันทำงานผันแปรได้ เด๋วสั่งให้ทำเต็มที่ เด๋วสั่งให้หรี่ เป็นอะไรที่ก้าวหน้าไปมากทีเดียวเชียว คนสิงค์โปรถึงได้นิยมแม่นบ่อคับ อิอิอิ

ทำให้นึกถึง แอร์ไดกิ้นของญาติผม ซึ่งเปิดห้องอาหารที่บ้าน เดิมเค้าใช้สามตัว(ตัวเล็กแต่ไม่ใช่ไดกิ้น) ปรากฎว่าค่าไฟเดือนหนึ่งๆตกประมาณเจ็ดถึงแปดพันบาท แต่พอเปลี่ยนมาเป็นแอร์ไดกิ้น(ตัวใหญ่แค่ตัวเดียว) ผมไม่แน่ใจว่าสามหรือมากกว่าสามตัน แต่ที่เขาเล่าให้ฟังเป็นแบบไฟสามเฟท ความเย็นที่ได้ก็เย็นเร็วกว่าที่ใช้สามตัวพร้อมกันอีก(สามตัวมันไม่เคยตัดเลยทำงานเต็มที่ตลอด แต่เจ้าตัวใหญ่ตัวเดียวดันตัดเฉย) เรียกว่าฉ่ำทั้งห้องอาหารเลยล่ะเย็นกว่าใช้สามตัวอีก แถมค่าไฟลดลงอีกเหลือเดือนละสามพันกว่าบาท ครึ่งต่อครึ่งเลยครับ แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นอินเวอร์เตอร์รึเปล่า วันหลังเจอเด๋วจาลองถามรายละเอียดมาเล่าให้ฟังครับ ปัจจุบันก็ยังใช้งานอยู่ครับ

 

เปลี่ยนน้ำยาตัวที่สองเสร็จเมื่อวาน ตัวที่สามเอาไว้ก่อนเพิ่งติดมาแค่อาทิตย์เดียว ยังไม่อยากไปเปลี่ยนอะไรมาก

ผมเอากราฟแสดง แรงดันน้ำยา และกระแสไฟฟ้าของแอร์ตัวเดียวกัน ก่อนและหลังเปลี่ยนมาใช้ cold 22 เทียบให้ดู

ีเส้นสีเหลืองคือการกินไฟของแอร์ที่ใช้น้ำยา COLD
เส้นสีน้ำเงินคือการกินไฟของแอร์ที่ใช้น้ำยา R22
พื้นที่ ใต้กราฟเส้นสีเหลือง และสีน้ำเงินคือพลังงานไฟฟ้าที่แอร์ใช้ ในการทำความเย็น คุณจะเห็นว่ากราฟสีเหลืองมีพื้นที่ใต้กราฟน้อยกว่าเส้นสีน้ำเงินมาก ประมาณ 30% หรือพูดได้ว่าแอร์ inverter เปลี่ยนมาใช้น้ำยา COLD22 แล้วประหยัดไฟไปอีก 30% :teeth:

เส้นสีม่วง คือแรงดันน้ำยา R22
เส้นสีฟ้า คือแรงดันน้ำยา COLD22 จะเห็นว่าแรงดันไม่คงที่

แกน Y ทางซ้ายคือค่าแรงดันน้ำยา
แกน Y ทางขวาคือค่ากระแสไฟฟ้า

ให้ดูช่วงทีเส้นสีเหลืองหักลงตอน 17:14 ซึ่งก็คือแอร์ตัดการทำงาน การกินกระแสจะลดเหลือ0.3 แอมป์ แต่แรงดันน้ำยาเส้นสีฟ้าโดดไปเป็น 110 psi เลย

ถ้าดูเส้นสีน้ำเงินจะเห็นว่าการกินไฟของ inverter ตอนใช้ R22 จะกินไฟเป็นขั้นๆแบ่งเป็น 3 ระดับ เริ่มจากต่ำอยู่ 6 นาทีแล้ว เข้าระดับกลาง 4 นาที จากนั้นเดินเต็มที่กินไฟสุดๆอีก 10 นาทีก่อนจะตัดการทำงาน

ดูแรงดันที่เส้นสีม่วกับสีฟ้าก็จะเห็นว่ามันแบ่งเป็นขั้นๆเหมือนกัน ไอ้ตรงนี้ทำให้ไม่สามารถเติมน้ำยาเข้า หรือปล่อยออกโดยดูจากแรงดันได้

ช่วงเวลาที่ทำการวัดจะเปิดแอร์ในโหมด powerful ให้เดินเต็มกำลังเพื่อทำความเย็นให้เร็วที่สุด ค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้จะสูงสุด น้ำยา R22 จะใช้ไฟถึง 6.8 แอมป์ น้ำยา COL22 จะใช้ไฟเต็มที่แค่ 4.8 แอมป์เท่านั้น ประหยัดไปเห็นๆถึง 2 แอมป์

แอร์ที่ใช้น้ำยา COLD22 แอร์ตัดการทำงานเร็วขึ้น 6.5 นาที

แอร์ daikin inverter รุ่น 10900 btu อายุ 1 ปี 9 เดือน

ตอนที่ตอบอันนี้อยู่ก็เปิดแอร์ไว้ตอน 12:35 วัดไฟดู แอร์มันเดินในโหมดหรี่ๆ กินไฟแค่ 1.2 แอมป์ตลอดเวลา แอร์ 1 ตันกินแค่ 1.2 แอมป์ครับ ถ้าไม่ใช่ inverter ไม่มีทางทำได้แน่ ค่าไฟมันถึงได้ถูกนัก ถ้าเป็นตอนที่ใช้ R22 มันจะกินไฟในโหมดหรี่ๆที่ประมาณ 1.7 แอมป์ครับ ประหยัดไป 0.5 แอมป์เห็นๆ แล้วปกติแอร์มันจะเดินในโหมดหรี่ๆทั้งวัน เพื่อรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่ บอก 0.5 แอมป์อาจดูไม่เยอะ แต่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วคือ 0.5 / 1.7 = 29.41% ครับ

 

R22 กะ Cold22 ทั้งแรงดันกับการกินไฟ มัน Drift กันเยอะเลยนะคับ

แจ่มเลยครับ ละเอียดมากๆๆๆ คับบบ

ขอบคุณพี่ยุทธมากๆๆ เลยครับ ที่ทำผลทดสอบมาให้ดูเป็นแบบเป็นกราฟ เข้าใจง่ายดีฮะ
เห็นความแตกต่างค่อนข้างเยอะเลยคับ

 

วันนี้ว่างๆ ครับ เลยลองเช็คตัววัดอุณหภูมิที่มีอยู่ 3 ประเภท ว่ามันเที่ยงตรงกันดีหรือเปล่าคับ

1 แบบโบราณเลยเป็นเข็มฮะ ตามภาพเลยคับ (ไม่แน่ใจว่าผลิตที่ไหน)
2 แบบดิจิตอล ทั่วไปที่ใช้ๆ กันอยู่ (จีนหรือ ไตหวั่น)
3 แบบปืนเลเซอร์ ของ (USA)

สรุป 3 อัน อุณหภูมิเท่ากันแตกต่างกันเป็น จุดทศนิยมนิดหน่อย ก็ถือว่า ok คับ
ผมเองก็ไม่เคยลองเทียบกันดู วันนี้ได้ลองดูแล้ว ก็เลยถ่ายภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันด้วยคับ

เท่ากับว่าได้ยืนยันความเที่ยงตรงของตัววัดอุณหภูมิ

ปีที่แล้วที่ผมได้เคยลองเช็คอุณหภูมิความเย็นของรถ Bmw e30 ของผมที่ใช้ Cold12
วัดหน้าช่องแอร์ ได้อุณหภูมิ -34.5 ก็แสดงว่าถูกต้องนะครับ

 

คุณจินนี่อ่านที่นี่ครับ มีคำตอบของการปรับน้ำยาแอร์บ้าน ลองไปอ่านดูครับ ละเอียดดี คลิ๊กตาม link ในคำตอบที่ 10 ครับ

http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R6034087/R6034087.html#7

 

มาอัพ

 

แจ่มมมมเลยคร้าบ พี่ยุทธ