D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

สุดท้ายละครับ

การเลือกซื้อคลอย์เย็น

แนะนำให้ซื้อของแท้นะครับ สำหรับผู้ที่คิดจะเปลี่ยนคลอย์เย็น...อย่าพึ่งเชื่อผม
ดูข้อมูลที่ผมหามาให้ก่อนแล้วตัดสินใจกันเอง

ผมมีภาพมาให้ได้วิเคราห์กันนะครับ ขออ้างอิงของยี่ห้อ Denso ละกันนะครับ
ที่ผมพอทราบมาว่า Denso ได้ผลิตคลอย์เย็น ที่มีราคาถูกกว่าของมาตาฐาน
เพื่อออกมาสู่กับของเทียม

ผมขอเปรีบบเทียบกับรุ่น
AE101 R12 ของมาตาฐาน ดูภาพจิงๆ ได้ที่ Link http://vanichanan.com/products/Evapo/denso.htm
AE101 R12 Coolgear ดูภาพจิงๆ ได้ที่ Link http://vanichanan.com/Coolgear/Evacool.htm

รุ่นอื่นขอยังไม่วิเคราห์ให้ฟังนะครับ เพราะดูในภาพมันก็เหมือนๆ กัน ต้องเห็นของจิงๆ
ถึงจะวิเคราห์ให้ได้คับ และรุ่นที่มาวิเคราห์กันให้ฟังคือรุ่นที่ใช้กับ toyota ae101
เพราะดูภาพแล้วมันแตกต่างกันเห็นๆ เลย และผมเองก็ใช้ของรุ่นนี้อยู่ด้วยครับ


ตามภาพที่ผมแนบมาให้ดูกันนะคับ เป็นภาพตัวอย่างเฉยๆ
- ภาพแรกนั้น เป็นคลอย์ที่เป็นรุ่นถูกของ denso รุ่น Coolgrar
ลองดูช่องที่น้ำยาแอร์วิ่งนะครับ วิ่งไปกลับอยู่ 8 ช่องเท่านั้นเอง
แผ่นฟิลคลอย์จะมีมากกว่า ช่องที่น้ำยาแอร์วิ่งไปวิ่งกลับอีก
แต่รูที่ลมจะผ่านนั้น ค่อนข้างโล่ง ลมระบายออกได้เร็ว
(คือ..ลมผ่านคลอย์เย็นได้แป็บเดียวเองหมดแล้ว)
ที่บางคนบอกใส่ของเทียมแล้วมันเย็นไม่ฉ่ำไงครับ

- ภาพ 2 ของของ denso ที่ผลิตออกมาแบบมาตาฐาน ลองดูที่ช่องที่เป็นเส้นๆ นั้นคือ
ทางวิ่งของน้ำยาแอร์ไปกลับ นับแล้วได้ 19 ช่อง แผ่นคลอย์จะมีช่วงสั่นๆ เท่านั้น เพื่อให้
ท่อที่น้ำยาแอร์วิ่งนั้น มีการกระจายความเย็นให้ฟิลคลอย์ได้เต็มที่จิงๆ
และรูที่ลมจะผ่านมานั้น มันเล็กเหลือเกิน อาจจะต้องการให้ลมที่ผ่านคลอย์เย็นนั้น ระบายออกมา
ได้ช้าหน่อย เพื่อที่ลมวิ่งผ่านคลอย์เย็นนานๆ แล้วลมที่ออกมาจะได้มีความเย็นฉ่ำๆ
แต่ข้อเสียผมวิเคราห์ของผมเองนะครับ ผมว่ายั่งงี้มันน่าจะตันเร็วมากๆ เลยนะคับ
เพราะรูที่ลมจะผ่านนั้นมันเล็กซะเหลือเกิน ฝุ่นเข้าไปเกาะไม่นานก็ตันฮะ

ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราห์จากความคิดเห็นส่วนตัวผมคนเดียวนะครับ ไม่สามารถไปอ้างอิงที่ไหนได้
ท่านผู้อ่านก็ตัดสินใจกันเอาเองนะครับ มันเป็นผลประโยชน์แก่ท่านๆๆ ทั้งหลายที่ได้เข้ามาอ่าน
ผมไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วมกับท่าน แต่อันไหนผมใช้แล้วมันดีก็มาคุยให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันครับ

จบ

หมายเหตุ.... ถ้าผมหายไปหลายวันไม่ได้มาตอบกระทู้ แสดงว่า.......ผมโดนอุ้มไปแล้วนะครับ

 

ลองราคาร้านนี้ดูก่อนครับ ผมเล็งๆอยู่
www.newcoolingair.com

 

คุณ ter อุณหภูมิในช่องแอร์ต่ำกว่า 10 องศามันง่ายไป รถใหม่ๆก็ทำได้สบายอ่ะ 5 องศานั่นแหละ ท้าทายหน่อย

 

ผมดูรูปคอล์ยเย็นของ AE111 ทั้ง 2 แบบเทียบกัน จำนวนท่อที่น้ำยาวิ่งผ่าน 8 ทบ เท่ากันครับ ถ้าราคาต่างกันมากคงเอา denso coolgear ไว้ก่อน เพราะยังไงก็ denso เหมือนกัน

 

วีโก้ ใช้ระบบนี้อยู่ครับ

 

แหะๆๆ ไม่ทันแล้วคร้าบบพี่ยุทธ เหลือของรางวัลอีก 2 ชุดเองคร้าบ
เดี๋ยวของวดหน้าละกันคับพี่ เดี๋ยวอาจจะจัดของรางวัลชิ้นใหญ่กว่านี้ฮะ
แล้วเอาแบบท่าทายกว่านี้แน่ๆ คับพี่

 

พี่ยุทธคับ ถ้าพี่ได้เห็นของจิง แล้วเปรียบเทียบดูแล้วถ้ามันไม่แตกต่างกันเยอะ
พี่บอกผมอีกทีด้วยนะฮะ ผมอยากรู้เหมือนกันอะคับ เดี๋ยวผมจะลองหาข้อมูล
ดูถ้าได้มีโอกาศไปร้านที่ขายอะไหล่แอร์คับ เพราะว่าถ้ามันไม่แตกต่างกันเท่าไร
แล้วทำไมราคามันโดดกันเยอะอะคับ จะได้มีข้อมูลมาแนะนำเพื่อนๆ กันเพิ่มอีกคับ

 

เดี๋ยวถ้ามีโอกาศ จะลองไปก้มดูคับ thank จ้า

 

ในที่สุดก็ได้เห็นและได้คำตอบกันเสียที อิอิ

ตามหมายกำหนดการเดิมต้องกลับคืนวันศุกร์ แต่ทริปหนองคายเลื่อนไปเป็นอาทิตย์หน้า เลยได้กลับมาก่อนมะคืนนี้ครับ พร้อมกับมีเรื่องเล่าเรื่องทดสอบแอร์มาฝากเพื่อนสมาชิก ทริปนี้พันกว่ากิโล ได้เรียนรู้และได้คำตอบในคำถามที่ผมและคุณเตอร์งงแล้วครับ

สรุป ในสภาพใช้งานจริงนั้น เจ้าจินนี่ทำอุณภูมิได้ต่ำกว่า ๑.๐ องศา C ครับ(ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าต่ำกว่าไปเท่าไร ไว้ติดตั้งสวิทซ์บายพาสเทอร์โมเสร็จก่อน แล้วทำการทดสอบอีกทีจารายงานให้ทราบครับ) ๑.๐ องศาวัดที่ลมแอร์ออกมาที่ปลายช่องแอร์กลางครับ

วันนี้ มันเย็นเกินขีดจำกัดของโรงงานที่ได้กำหนดมาแล้วครับ หมายความว่าบิดเทอร์โมจนสุดเปิดสปีดพัดลมจนสุดยังตัดเฉย ทั้งที่อุณหภูมิภายนอกรถเกิน๔๐ องศา เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน มันเย็นจัดยังกะตู้แช่แข็งวิ่งได้ อะไรประมาณนั้นล่ะครับ ทริปนี้ผมไปทำคดีอุบัติเหตุ เลยต้องเอากล้องไปด้วย ภาพที่พยายามเก็บมา บางภาพอาจจะไม่ชัดเพราะต้องขับรถไปด้วย บันทึกภาพไปด้วย ตามองทางไปด้วย ถือเป็นผลพลอยได้จากการไปทำงาน เก็บภาพไว้เกือบตลอดการเดินทางหลายร้อยภาพครับ และเป็นการไขข้อกังขาข้องสงสัยที่เราๆต่างงง ดังที่ผมรายงานมาทริปที่แล้ว เจ้าจินนี่มันเป็นอะไรที่ต้องเดินทางไปทั่วประเทศทุกสภาพอากาศ เฉพาะเดือนที่แล้วกันยายน ผมลองเช็คบันทึกย้อนหลังไปดู แปดพันกว่ากิโลครับพี่น้อง(เดือนเดียวเอง) ดูภาพบางส่วนที่ผมเลือกมา แล้วค่อยอ่านรายงานการทดสอบจากสภาพใช้งานจริงๆต่อไปครับ(คำตอบทั้งหมดอยู่ในรายงานนี้ครับ ) :snow::snow::snow:

 

ในที่สุดก็ได้เห็นและได้คำตอบกันเสียที อิอิ

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ กันยายนนี้ เวลาประมาณ ๑๓.๑๕ น. ผมได้ออกเดินทางจากอุบลเข้าขอนแก่น ทริปที่แล้วที่รายงานมา ผมเองก็งง คุณเตอร์เองก็งง ว่าอุณหภูมิมันเท่ากัน แต่เทอร์โมฯดันตัดกะไม่ตัดได้ยังไง หาคำตอบในตอนนั้นยังไม่ได้ จึงต้องมาเฝ้าสังเกตุการทำงานในทริปนี้ให้ได้คำตอบให้ได้ว่ามันเป็นฉะไหน อิอิ วันนั้นอุณหภูมิภายนอกรถเกิน๔๐องศาครับ เรียกว่าร้อนระอุเลยที่เดียวเป็นวันที่อากาศร้อนจัดมากที่สุดวันหนึ่ง ท้องฟ้าก็มีเมฆบ้าง แต่แดดจัดมากครับและส่องตรงเข้ามาทางกระจกหน้าด้วยให้สังเกตุดูเงาของรถที่อยู่ข้างหน้า แต่ภายในรถกลับตรงข้ามเย็นเจี๊ยบครับ ลมเย็นที่ส่งออกมาช่วงที่รถติดก่อนหลุดออกจากตัวเมืองได้ ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเหลือค่าเฉลี่ยต่ำกว่า ๑๐ องศาแล้วครับ เห็นเป็นเลขตัวเดียวตลอดช่วงที่คลานอยู่ในตัวเมือง ป้วนเี้ยนอยู่ระหว่าง ๗.๕๙ องศาครับ(ทริปนี้ขอรายงานอย่างละเอียดหน่อย เพื่อค้นหาคำตอบที่งงๆกันที่ผ่านมา) เงื่อนไขเดิมครับ เปิดพัดลมสปีดแรงสุด เทอร์โมบิดให้เย็นสุด พอหลุดออกนอกเมืองได้ ก็ใช้ความเร็วเดินทางปรกติ แต่ว่าการขับรถมือเดียวแล้วจับกล้องถ่ายภาพด้วยนี่สิพี่น้อง(มันเสียวจิงๆ) ขณะเดียวกันตาก็ต้องคอยมองทางไปด้วย มันอันตรายอย่างยิ่งยวดครับ แต่เพื่อการทดสอบและหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้และยังไม่รู้ งานนี้จำต้องยอมสละเพื่อรายงานให้เพื่อนสมาชิกทราบอย่างตรงไปตรงมา อันจะมีผลในการวิเคราะห์วิจัยหาเหตุปัจจัยต่างๆซึ่งมีอยู่มากมายและตัวแปรต่างๆ ในการที่จะทำให้แอร์เย็นหรือไม่เย็น หรือมีปัญหาใดๆที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ผมจึงต้องรายงานการทดสอบ โดยไม่ตั้งใจแต่ดูเหมือนตั้งใจว่ามันเป็นจะได๋ อิอิอิ

เอ้า พร่ามต่อ พอออกนอกเมืองใช้ความเร็วเดินทาง อุณหภูมิก็ลดลงมาอีกครับได้ ๖.๕ องศาพร้อมกับเทอร์โมก็ตัดอีกหลายครั้งครับร้อนจนตับแลบแดดเปรี๊ยงๆเกือบตรงหัวนี่ล่ะ มันก็ยังตัดเฉย บางทีก็ตัดที่ ๖.๕ - ๖.๑ แต่ช่วงที่มันจาตัดนั้นมันรูดลงเร็วมากครับจนเราสังเกตแทบไม่ทันเลยล่ะ กรำๆๆๆๆๆๆๆๆ ทีนี้ตูจารู้ไหมว่ามันลดลงได้ต่ำสุดเท่าไรกานเนีย ดันทะลึ่งตัดซะแล้ว กรำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขับไปก็ทบทวนองค์ความรู้ที่พอมีบ้างไป นั่งสมาธิไปเพื่อให้จิตสงบแล้วใช้ปัญญาทบทวนกะมันว่าตูจิทำจังได๋ดี พอดีเกิดปิ๊งในดวงจิตขึ้นมา เลยจอดรถ ก้มลงไปกระชากเจ้าท่อเทอร์โมสตัสที่เสียบไว้ที่ช่องแอร์ด้านซ้ายออกมาไว้ข้างนอก เหอะๆๆๆๆ เป็นไรเป็นกัน วันนี้พ่อต้องรู้ให้ได้ว่าจินนี่มันทำสถิติได้เท่าไร เหอะๆๆ

 

เมื่อต้องปลดเทอร์โมสตัท

และแล้วดวงตาก็มองเห็นธรรมะนู๋ก็ได้มีโอกาสเห็นของจิงจนได้ หลังจากดึงท่อเทอร์โมออกมาไว้ภายนอก ก็บิดสุดไว้เช่นเดิมล่ะไม่ได้ไปแตะต้องมัน ทีนี้ลง ๖.๕องศาไม่ตัดแล้วครับพี่น้อง มันยังลงอีกลงอย่างรวดเร็ว จนไปหยุดที่ ๕.๐องศา แต่วันที่ทำการทดสอบนั้นมันร้อนปานซาอุดิอาระเบีย แดดเปรียงๆเลยครับอุณหภูมภายนอกเกิน ๔๐ องศาครับ แต่อุณหภูมิภายในนั้นเย็นจัดจนมือเหี่ยวซีดเลยครับ เย็นได้จัยจิงๆผ่าจิ รู้งี้ตูถอดออกตั้งนานแล้วเจ้าเทอร์โมสตัสเนี่ย กดสวิทซ์เอซีเอาก็พอ ถึงขอนแก่นประมาณ ๑๖.๔๐ น. ทำธุระเสร็จสรรพทานข้าวเย็นก็ออกเดินทางเข้าโคราชต่อ (โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

Haynes automotive Heating & air conditioning

http://upload.siamza.com/download.php?id=79671 12MB เอง.

ไหนๆก็คิดจะลุยเรื่อง แอร์รถแล้ว เอาเล่มนี้ไปอ่านหน่อยก็คงดี

 

ผลของการตัดเทอร์โมสตัทครับ

 

คำตอบอยู่ที่นี่

งานนี้มีเฮครับพี่น้อง เอารถเข้าไปเติมแก๊สเต็มถัง วิ่งมา ๒๙๙ กิโลทั้งในเมืองรถติดด้วย เปิดแอร์สุดตลอด หมดค่าแก๊สไป ๓๘๔ บาท ใช้ความเร็วเดินทางเฉลี่ยประมาณ๙๐๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ไมล์มันแข็งเป็นสากกะเบือ ประมาณไมล์รถทัวร์ล่ะ นึกเอาเอง ๙๐ รถทัวร์มันจาเร็วขนาดไหนเจ้าจินนี่ไปเร็วกว่าเพราะแซงรถทัวร์ได้เฉยล่ะ พอก่อนจะออกเดินทางเข้าโคราช ได้หยิบน้ำเย็นมาดื่มสองอึกแล้วก็วางขวดน้ำนั้นไว้ที่คอนโซลกลาง น้ำขวดนี้มีก้อนน้ำแข็งอยู่ภายในด้วยครับซึ่งทีแรกไม่ได้คิดอะไรแต่พอถึงโคราชหยิบขึ้นมาดื่มอีกครั้งนี่สิ จ๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมใช้เวลาเดินทาง ๒ชั่วโมงกะอีก ๔๕ นาที(รถช้าเยอะมากแม้ถนนสี่เลนส์) จากปั๊มแก๊สถนนศรีจันทร์ขอนแก่น จนถึงโคราช ผมว่าน้ำแข็งที่มีในขวดน้ำนี้ที่ผมดื่มที่ปั้มแก๊สขอนแก่น มันไม่ละลายเลยสักนิดครับเป็นไปได้ยังไง ยังเห็นเป็นก้อนอยู่เท่าเดิมเลย เหอะๆๆๆ เรื่องจิงครับ ทีแรกก็งงเป็นไก่ตาแตกว่าไมมันไม่ละลาย แต่พอรับรู้ถึงความเย็นของลมเย็นที่ส่งออกมาและเราถูกโอบอุ้มด้วยความเย็นจัดดังกล่าว ผมก็ได้คำตอบอยู่ในใจว่า(มันก็น่าอยู่หรอกเย็นโหดขนาดนั้น) ตอนที่ถึงโคราชแล้วหยิบขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ป๊าดๆๆๆๆๆๆ แสดงว่าเจ้าจินนี่มันกำลังจากลายเป็นตู้เย็นแช่แข็งเข้าไปทุกทีแล้วล่ะพี่น้อง เด๋วสิเล่าให้ฟังต่อ

วิ่งอยู่ในเมืองลมแอร์เป็นเลขตัวเดียวตลอดครับ แต่แค่พอออกนอกเมืองหลุดจากไฟแดงมหาโหดของเมืองขอนแก่น ยังไม่ถึงท่าพระผมก็เห็นตัวเลขที่ ๒ องศากว่าๆแล้วครับ ป๊าดๆๆๆ เพิ่งเคยเห็นก็วันนี้ล่ะที่ถอดท่อเทอร์โมออกมา เหอะๆๆๆๆๆ แค่จอดติดไฟแดงที่แยกท่าพระ ไม่ถึงครึ่งนาทีครับ ฝ้าจับกระจกทุกบานทันทีเลยครับ(ตอนวิ่งมาไม่มีสักกะนิด พอจอดติดไฟแดงไม่รู้ฝ้ามาจากไหน พอวิ่งไปสักพักก็ค่อยๆหายไปครับ) เลยถ่ายภาพมาให้ชมกันแก้เขินนิดๆ อิอิ แต่ผมบอกได้ว่ามัน โค ตะ ระ เย็นเลยครับ วันนี้มันเย็นยิ่งกว่าหนาวที่เคยรู้สึกหรือเคยรับรู้มาก่อนที่ยังไม่ถอดเทอร์โม แต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันจิเป็นจังได๋ต่อ เลยจำต้องทนหนาวนั่งขากรรไกรสั่นขับต่อไป แต่ปัดช่องแอร์ขึ้นบนหลบตัวเรา มันก็ยังเย็นๆๆๆๆสุดๆสุดขั้วอยู่ดีครับ รับรู้ได้เลยครับกับอากาศเย็นที่เราหายใจเข้าปอด เย็นยะเยือกจับจิตจริงๆ ทีนี้ก็มุ่งสู่โคราชต่อ งานนี้มีงงและเฮตามมาจริงๆ

พอออกไฟแดงก็ส่งยาวเลยครับพี่น้อง ทีนี้ท่อเทอโมที่มันอยู่ด้านนอกแล้ว มันดันทะลึ่งตัดขึ้นมาอีก ที่ประมาณ ๑.๒ - ๑.๐ องศาครับ ห้วย ถอดออกมาแล้วดันตัดอีก ตกลงตูจารู้ไหมว่ามันลงต่ำสุดได้เท่าไรกันเนี่ย เอามาไว้ข้างนอกยังตัดอีกครับ แต่ผมเชื่อว่าอุณหภูมิของห้องโดยสารหรือทางลมผ่านที่ผ่านท่อเทอร์โมที่อยู่ด้านนอก(ดึงออกมาแล้ว)ต้องไม่ต่ำกว่า๖.๕องศาอย่างแน่นอน(เพราะมันตัดที่อุณหภูมินี้ตลอดทุกครั้งที่วิ่ง แต่จอดดันมึนไม่ตัดเฉย อันเป็นสาเหตุที่ทำให้หาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น และต้องกระชากท่อนี้ออกมา ให้เห็นดำเห็นแดงกันไปเลย) กลับถึงบ้านผมต้องต่อสวิทซ์บายพาสจุดนี้ไม่ให้มันตัดแน่ เพื่อจะดูอีกครั้งว่ามันจะลงได้ต่ำกว่า ๑ องศาหรือไม่ ผมว่าต่ำกว่าแน่ขนาดจ้องกดชัตเตอร์ยังกดไม่ทันตั้งหลายครั้ง มันลงเร็วจริงๆและตัดก่อน พอตัวเลข ๑.๗ ปรากฎก็ต้องกดไปเรื่อยๆล่ะ มีภาพหนึ่งบันทึกไว้ได้ ๑.๐ องศาครับแล้วเทอร์โมก็ตัดทันที(แต่รถมันวิ่งอยู่เลยไม่ค่อยชัดเท่าที่ควรนะครับ) พอวิ่งมาถึงโคราชก็หยิบขวดน้ำข้างๆที่วางไว้ที่คอนโซลขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ถึงได้เห็นว่าน้ำแข็งมันไม่ได้ละลายนี่หว่าดื่มที่ขอนแก่นยังไง ถึงโคราชไม่ละลายเฉย ห้วย วิ่งมาตั้งเกือบสามชั่วโมง ยังเป็นก้อนอยู่เหมียนเดิม ออกจากรถแว่นก็พรึบทันที ทีนี้ถ่ายภาพมาให้ดูด้วย หน้าปัทม์นาฬิกาก็พรึบเหมือนแว่นตาขวาโพนไปหมดมองไม่เห็นเข็มสักอัน ป๊าด ซี่ โท้ๆๆๆ มันเย็นได้จัยจิงๆคร๊าบ สงสัยคราวหน้าหากมีการทดสอบแบบนี้อีก ผมคงต้องเอาเสื้อหนาวที่ใส่ในประเทศหนาวไปด้วยแน่

จากการทดสอบที่ผ่านมาพอบอกได้ว่ามันต้องมีตัวแปรอยู่มากมายทั้งที่เรารู้และไม่รู้แฝงอยู่ โดยเฉพาะเรื่องอุณหภูมิภายนอก กับเรื่องเวลากลางวันกลางคืนหรือเรื่องความชื้นสัมพัสและเรื่องอื่นๆที่เราไม่รู้อีกมากมายอย่างแน่นอน ที่เป็นข้อจำกัดทำให้แอร์เย็นหรือไม่เย็น เย็นช้าหรือเย็นเร็ว ขนาดเจ้าจินนี่ยังไม่ได้ทำตามสูตรของคุณยุทธและช่างแอร์ตัวจิงเลยนะครับ เด๋วว่างมะไรจาไปหาซื้อน้ำยาที่ว่ามาล้างคอยล์ร้อนกันหน่อย ให้มันจิระบายโล่งๆกว่านี้ขนาดไหน ผมไม่ได้ล้างมาเป็นปีแระครับ งานนี้คงเย็นติดจรวดเหมือนรถคุณยุทธแน่ๆ แต่ที่แน่ๆวันนี้ผมได้เห็นตัวเลขลมเย็นของเจ้าจินนี่ที่ ๑.๐ องศา C แล้วครับพี่น้องเป็นบุญตาจริงๆ(คงไม่เสียบเทอร์โมอีกนานล่ะงานนี้ เหอะ ๆๆๆๆ ไม่พอยังต้องมีรายการต่อสวิทซ์บายพาสด้วย อิอิ )
เมื่อถอดเทอร์โม ก็ได้เห็นอะไรๆที่อยากเห็นและสงสัยงงงวยกับคำตอบมานาน จนได้คำตอบหลายๆอย่างบันทึกไว้ในใจแล้ว เช้าวันจันทร์ที่ ๑ ตุลาคมนี้วันรุ่งขึ้นครับ เวลา ๘.๑๐ น. อุณหภูมิภายนอก ๒๖ องศา ผมอุ่นเครื่องเจ้าจินนี่อยู่กับที่พร้อมเปิดแอร์ตามเงือนไขเดิม เปิดสุดบิดสุด แต่ตอนนี้เทอร์โมออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว ถ้าไม่ลงต่ำกว่า ๑ องศาเป็นไม่ตัดแน่ ไม่ถึงห้านาทีครับพี่น้อง อุณหภูมิลดลงมาเป็นเลขตัวเดียวจาก ๒๔.๕องศา พอได้สิบนาที ก็มาหยุดอยู่ที่ ๔.๓ องศาC โดยไม่ได้ฉีดน้ำหรือทำอะไรเลยนะครับ จอดนิ่งๆทำการทดสอบกับสภาพใช้งานจริงๆว่ามันจาลงได้เท่าไร ไม่มีหมกเม็ดไม่มีฉีดน้ำ ทดลองดิบๆแห้งๆจากสภาวะจริงในขณะนั้นและจอดนิ่งๆแบบวัดใจกันว่ามันสิเป็นจังได๋กันน้อ ตอนนี้ผมบอกได้ว่ารถผมได้ลมเย็นที่ปลายช่องแอร์หลังจากที่ถอดเทอร์โมออก ต่ำกว่า ๕ องศา แล้วนะครับคุณเตอร์ ตอนที่ทดสอบนั้นแดดมันออกแระ แต่ฝ้าก็ยังจับกระจกอยู่เหมียนเดิมนะครับพี่น้อง แหม่ มานเย็นได้ใจ นู๋ จิงๆ เด้ สิ บอก ไห่

 

ภาพตอนติดไฟแดงที่ท่าพระต่อ

 

ภาพขวดน้ำที่ถึงโคราชแล้วน้ำแข็งมันไม่ละลายเลย วางไว้กลางคอนโซล แต่ปัดแอร์ขึ้นข้างบนก็ยังหนาวจัดมาก จนเทอร์โมเอาออกมาข้างนอกแล้วมันยังตัดตั้งหลายครั้ง

 

ตอนที่มันตัดหลายครั้งนั้น ผมพยายามสังเกตดู อุณหภูมิที่ลมเย็นประมาณ ๑ องศาครับ พอลงมา ๑ กว่าๆก็ต้องรีบบันทึกภาพไว้ครับ เพราะมันลงเร็วมาก ที่บันทึกได้ ชัดสุดน่าจาเป็น ๑.๗ ๑.๕ ภาพเบรอๆไม่ ๑.๑ก็ ๑.๐ แต่ที่เห็นกะตาคือไม่เกิน ๑.๐ ก็ตัดครับ แค่แว๊ปเดียวจริงๆ

 

สงสัยตาลายเห็น๒.๗ เป็น ๑.๐ ภาพนี้ครับ ๑.๐ องศาC ก่อนเทอร์โมตัดเป็นช่วงที่บันทึกได้ในเสี้ยววินาทีเลยครับ

 

ทดสอบตอนเช้าวันถัดมา

เช้าวันจันทร์ที่ ๑ ตุลาคมนี้วันรุ่งขึ้นครับ เวลา ๘.๑๐ น. อุณหภูมิภายนอก ๒๖ องศา ผมอุ่นเครื่องเจ้าจินนี่อยู่กับที่พร้อมเปิดแอร์ตามเงือนไขเดิม เปิดสุดบิดสุด แต่ตอนนี้เทอร์โมออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว ถ้าไม่ลงต่ำกว่า ๑ องศาเป็นไม่ตัดแน่ ไม่ถึงห้านาทีครับพี่น้อง อุณหภูมิลดลงมาเป็นเลขตัวเดียวจาก ๒๔.๕องศา พอได้สิบนาที ก็มาหยุดอยู่ที่ ๔.๓ องศาC โดยไม่ได้ฉีดน้ำหรือทำอะไรเลยนะครับ จอดนิ่งๆทำการทดสอบกับสภาพใช้งานจริงๆว่ามันจาลงได้เท่าไร ไม่มีหมกเม็ดไม่มีฉีดน้ำ ทดลองดิบๆแห้งๆจากสภาวะจริงในขณะนั้นและจอดนิ่งๆแบบวัดใจกันว่ามันสิเป็นจังได๋กันน้อ ตอนนี้ผมบอกได้ว่ารถผมได้ลมเย็นที่ปลายช่องแอร์หลังจากที่ถอดเทอร์โมออก ต่ำกว่า ๕ องศา แล้วนะครับคุณเตอร์ ตอนที่ทดสอบนั้นแดดมันออกแระ แต่ฝ้าก็ยังจับกระจกอยู่เหมียนเดิมนะครับพี่น้อง แหม่ มานเย็นได้ใจ นู๋ จิงๆ เด้ สิ บอก ไห่

 

ตอนจอดนิ่งๆยังเป็นฝ้า

ต่อจากมะกี้ครับ

 

มารอชมด้วย

 

มันเย็นได้จัยวันสะรุ่นรอบสาม จิงๆผับผ่าจิ ให้ตายเหอะโรบิ้น อารัยมานจาปานนั้น อิอิอิ ทีนี้ถ้าผมจาเทสมันอีกครั้ง ผมจะต้องต่อสวิทซ์บายพาสเทอร์โม ให้มันทำงานตลอดแม้ ๑ องศาก็ไม่ให้ตัด(ใครจารู้ว่ามันจาทะลึงตัดทั้งที่ดึงมาไว้ข้างนอกแล้ว) แบบนี้ผมมีสิทธิใด้เห็นเลข ๐ หรือเลขติดลบป่าวเนี่ย อิอิ เก็บไว้รอเวลาว่างและโอกาสที่เหมาะสมต่อไปค่อยว่ากาน แต่หากจะเทสอีกครั้ง ผมจิไปหาน้ำยาล้างคอยล์ร้อนยี่ห้อ อาปาเช่ แม่นบ่อคุณยุทธ มาล้างเจ้าจินนี่ให้โล่งโจ้งระบายได้ลื่นยิ่งกว่ายาระบายแก้ท้องผูก ตราลิงขี่จรวด ซะอีกนะสิ บอก ไห่

มะวานตอนออกจากโคราช วิ่งกลับเข้าขอนแก่น เวลาประมาณ ๙.๓๐ น. อุณหภูมิภายนอกรถวัดได้ ๓๔.๕ องศา ลมเย็นที่ออกมาเฉลี่ยประมาณ ๒ กว่าๆ แดดออกตลอดการเดินทาง ผมมีผู้โดยสารไปด้วย สังเกตตอนที่ผมพูดนั้น มันมีไอน้ำออกจากปากเราเห็นๆเลยครับ ยังกะเราอยู่ที่เมืองหนาวเลยครับ แต่ตอนเดินทางช่วงกลางวันนั้นเทอร์โมไม่ตัดครับ อุณหภูมิในห้องโดยสารประมาณ ๑๑ องศาครับ แต่พอเสร็จงานเลื่อนงานหนองคายออกไป เดินทางกลับอุบลฯตอนนี้เริ่มมืดแล้ว ๑๘.๑๕ น. เทอร์โมตัดตลอดครับ แต่มันมืดผมไม่ได้เอาแสงจากมือถือไปส่อง(เพราะได้ทดสอบไปแล้วตอนตีรถจากขอนแก่นเข้าโคราชเมื่อวานซืน) แต่อยากจะฝากเพื่อนๆสมาชิกไว้ว่า การที่มันเย็นจัดจนขนาดน้นมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ ตกลงงานนี้กลายเป็นทุกข์ครับพี่น้อง เพราะหากเราใช้ความเร็วไม่เกิน ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว มันจะมีฝ้าและหยดน้ำเกาะกระจกทุกบานทำให้ทัศนะวิสัยในการมองรอบข้างของเราปิดสนิทเลยครับ ครั้งจาใช้ความเร็วมากกว่านี้ก็อันตรายเกินไปพลาดมามีสิทธิลงไปกลิ้งได้ ยิ่งตอนจอดรถติดไฟแดงก็ไม่ต้องมองหาอะไรกันทางข้างเลยครับเพราะมันขาวโพลนไปหมด นอกจากข้างหน้าอย่างเดียว แต่ต้องใช้ปัดน้ำฝนปัดฝ้าและหยดน้ำเหล่านั้นออกตลอดการเดินทางจึงมองทางเห็นครับทั้งที่ฝนก็ไม่ได้ตก จุดนี้น่าจะเป็นคำตอบได้ว่า ทำไม่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์เขาถึงกำหนดให้เทอร์โมสตัทตัดการทำงานในช่วงที่เหมาะสม ซึ่งอุณหภูมิภายในห้องโดยสารจะได้ประมาณ ๑๙ ถึง ๒๐ องศา (หมายถึงรถผมตอนตั้งไว้เย็นสุด) ส่วนอุณหภูมิของลมเย็นที่ออกมาก็ประมาณ ๖.๕ ดังได้รายงานมาแล้ว แต่สภาพใช้งานจริงนั้นผมตั้งไว้ที่หนึ่งนาฬิกา ก็เย็นเหลือเฟือแล้วครับ สำหรับการสู้กับแดดจัดหรือทุกสภาพ แต่เพราะความอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง เลยถอดเทอร์โมออกครับ คงต่อสวิทซ์บายพาสไว้แต่ก็ต้องเอากลับเข้าที่ตามเดิมครับ ไว้ยามที่นึกอยากไปต่างประเทศ ผมก็เสกให้รถเราเย็นเหมียนอยู่เมืองนอก อิอิ ก็กดสวิทซ์บายพาสนี้ใช้งานเลย เทอร์โมไม่ต้องตัด หนาวคางกรรไกรสั่นพรึบๆอยู่ในรถล่ะ หากไม่เอาเสื้อหนาวใส่ไปด้วย ส่วนยามปรกติเราก็ใช้งานตามที่โรงงานเค้ากำหนดมา



คุณอาจารย์เตอร์ครับ ผมสอบผ่านภาคปฏิบัติหรือยังครับ อิอิอิ

 

คุณเตอร์คร้าบ... ผมเพิ่งวัดอุณหภูมิในรถมาเมื่อกี้ ฝากน้องเค้าซื้อปรอทวัดอุณหภูมิก็ลองเลย (ลูกทุ่งเลยอ่ะ...)
ก่อน-หลังเปิดแอร์
หลังเปิดแอร์สุดมันต่ำไปถึง 8 C แต่พอจะถ่ายจริงยกขึ้นยกลงไม่ค่อยชัดเลย ขยับไปขยับมาเลยขึ้นมาที่ 10 C (แต่มีรูปที่ลงไป 8 C แต่อยู่ในกล้อง เอ่อ....พอจะไหวมั๊ยครับ :sad::sad::sad:..)

 

สุดยอดครับพี่.........เขียนได้ละเอียดสมกับเป็นทนายความจิงๆ ครับ

สุดยอดกล้วยทอดจิงๆๆ ครับ

อย่าลืมส่งที่อยู่มาที่ mail ผมด้วยละครับ จะได้จัดส่งน้ำยาแอร์ Cold12 ไปให้คับ

 

จัดไปครับอีก 1 ชุด
(อยากแจก ครับอยากแจก)


ส่งที่อยู่มาเลยครับที่ mail ผมคับ

 

คุณเตอร์ ผมส่งที่อยู่ไปแล้ววววว 134A นะครับ (อย่างรวดเร็ว .......)

 

ได้ที่อยู่แล้วนะครับ
เหลือแต่ค่าจัดส่งนะครับ โอนมาแล้วยืนยันทาง mail ผมอีกที
แล้วจะจัดส่งให้ไม่เกิน 7 วันครับ

 

load มาอ่านแล้วนะครับ ขอบคุณคับ
มีรูปภาพด้วยคับ ดีมากๆๆเลย

(แต่ดันเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยอ่ะ)

 

คุณ จินนี่เอาจริงแฮะ เขียนตั้งยาว

ผมบอกแล้วยังไงของคุณจินนี่ก็ต่ำกว่า 5 องศาได้ ขับทางไกลยังไงก็ได้อยู่แล้ว

ปล ผมไม่เอาเทอร์โมออก เพราะอยากให้คอมแอร์ตัดเร็ว และคอมแอร์เดินน้อยที่สุด จะได้ไม่กินแรงเครื่อง กับประหยัดน้ำมันครับ

 

ถ้าต่อเทอร์โมตรงตลอด ตู้แอร์เป็นน้ำแข็ง มักจะไม่ได้อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ครับ ต้องให้มันตัดการทำงานบ้าง เป็นการละลายน้ำแข็งครับ