D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

ลูกปืนคอมแอร์อยู่ที่พูลเล่ที่หมุนๆอยู่ที่ด้านหน้าคอมแอร์ ถอดยากสำหรับมือสมัครเล่น เพราะควรใช้เครื่องมือสำหรับถอดโดยเฉพาะ ลูกปืนลูกละ 200 บาท แต่ตอนถอดต้องถอดคอมแอร์ ถอดพูลเล่ ถอดลูกปืน แล้วใส่กลับอีก ตั้งสายพาน vac เติมน้ำยา น้ำมันคอม

ถ้าเป็นผมนะ จ้างช่างดีกว่า งานนี้ยากไป เสียเวลา กับต้องใช้เครื่องมือเฉพาะด้วย

 

ผมเดาว่าคอล์ยร้อนระบายไม่ค่อยออก โดยเฉพาะตอนรถติด ความร้อนในคอล์ยร้อนสูงมาก คอมแอร์เลยไม่ทำงาน วิธีทดสอบคือตอนที่ร้อนจนคอมแอร์ไม่ทำงาน เอาน้ำ 1 กระป๋องสาดให้ทั่วคอล์ยร้อน แล้วดูว่าคอมจะกลับมาทำงานไหม ถ้าใช่ผมก็เดาถูก ล้างคอล์ยร้อนให้สะอาด

ส่วนคอมแอร์มีเสียง ตัดต่อทุก 5 วิ งานนี้เสียตังแน่ แต่รอคุณ Ter มาตอบดีกว่า อาการนี้เกี่ยวกับคอม กับคอล์ยร้อนที่ระบายความร้อนไม่ออก

เคยซ่อมแอร์มาก่อนไหม
ซ่อมครั้งสุดท้ายเมื่อไร
ทำอะไรไปบ้าง

 

แหะๆๆ ไม่รู้จิงๆ คับ

 

ตามที่พี่ยุทธบอกครับ (คนปากช่อง)
เดี๋ยวนี้พี่ยุทธตอบเป็นเซียนเลยครับ ยังงี้แสดงว่าแฟนตัวจิง อ่านทุกหน้าจิงๆ ครับ พี่ยุทธช่วยเข้ามาตอบบ่อยๆ นะครับบ


แล้วที่บอกว่าคอมตัดต่อนั้น ผมอยากให้ลองเช็คน้ำยาแอร์ที่ตาแมวดูก่อนว่ามีเต็มหรือเปล่า
เพราะถ้ามีไม่พอนั้น จะมีเพสเชอร์สวิทย์ เพื่อตัดการทำงานต่อเมื่อน้ำยาแอร์ขาด หรือ
ระบบมีความร้อนสูงคับ ยั่งงี้ต้องจับเกร์แล้วครับ จะได้รู้ว่าแผงคลอย์ร้อนละยายออกหรือเปล่า

 

เคยทำตอนเปลี่ยนคอมแอร์อ่ะครับเป็นของเชียงกง ตอนเปลี่ยนคอมก็มี แว็กน้ำยา เปลี่ยนวาวล์ในคอยเย็น เปลี่ยนดรายเออร์ หลังจากนั้นก็ใช้งานได้ดีประมาณ 3 - 4 เดือนก็เริ่มมีอาการแบบที่ว่าอ่ะครับ

 

น้ำยาแอร์เต็มครับไม่ขาดครับ ้ตอนนี้เลยอยากทราบสาเหตุคร่าวๆก่อนน่ะครับ
เพราะกลัวว่าถ้าไปร้านซ่อมแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยมีหวังโดนฟันเละแน่ๆเลยครับ

ถ้าคอยร้อนระบายไม่ทันเนี่ยจะแก้ไขยังไงครับผมลองดูที่แผงคอยร้อนก็ไม่มีเศษหินหรืออะไรไปอุดตัน
ิ่อ่ะครับ

 

หัดวิเคราะห์อาการไปเรื่อยๆครับ แล้วรอคุณ ter มาตรวจไงว่าผมวิเคราะห์ถูกหรือเปล่า หัดมากๆจะได้เป็นกับเขาบ้าง กรณีนี้ผมลืมคิดเรื่องดูน้ำยา กับวัดเพรสเชอร์ที่ด้าน Hi ครับ ต้องจำไว้ปรับปรุงคราวหน้า ทำเองไม่เก่ง แต่พอวิเคราะห์อาการได้บ้างก็พอใจแล้ว เวลาไปหาช่างจะได้ไม่โดนช่างแหกตาอีก

ล่าสุดไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ auto ที่ Proserve บอกช่างให้ขันน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์จากข้างล่าง อย่าใช้เครื่องดูด ช่างบอกขันน๊อตถ่ายออกแล้วเกียร์จะพังง่าย ส่วนใหญ่เขาดูดออก ผมฟังแล้วรู้เลยว่าช่างมันแหกตาอีกแล้ว ก็เลยสั่งให้ขันน๊อตถ่ายไม่ต้องดูด ห่วงก็แต่คนที่ไม่รู้ เชื่อตามช่างว่าไปหมดนี่แหละครับ

 

ok น้ำยาเต็ม ตัดไป

ต้องวัดความดันที่ด้าน Hi ของแอร์ดูว่าความดันเท่าไร ถ้าความดันสูงเกิน 250 psi นี่ระบายความร้อนไม่ออกแน่ๆ

ซึ่งถ้าความดันสูง ช่วยลองราดน้ำที่คอล์ยร้อนดูตอนที่เครื่องร้อนจัดๆ ดูว่าคอมแอร์จะกลับมาทำงานไหม แล้วความดันลงเหลือเท่าไรหลังจากราดน้ำ

ตรวจเช็คพัดลมระบายความร้อนแอร์ด้วยว่าทำงานเป็นปกติดี หมุนแรงอยู่หรือเปล่า ถ้าพัดลมไม่ดีระบายความร้อนออกไม่ทันก็เป็นได้

ถ้าความดัน Hi ไม่เกิน 250 psi, พัดลมระบายความร้อนทำงานปกติ งานนี้สงสัยที่คอมแอร์ครับ คอมแรงอัดไม่ดี

ส่วเรื่องเสียงที่คอมแอร์ ถ้าไม่ใช่เป็นที่คอมพัง ก็อาจเป็นที่หน้าคลัชคอมมันจับไม่แน่น คลัชลื่น เลยมีเสียง

มันมีหลายสาเหตุ ต้องไล่ไปทีละประเด็น ลองตรวจทีละอย่าง ตัดรายการที่ไม่มีปัญหาออกไป

เอ้า คุณ Ter มาตรวจการบ้านหน่อย...............

 

มันน่าจะเป็นฉะนี้นะ(เดาแบบมีหลักการ)

ที่อ่านมาทั้งหมด หากให้เดาว่าควรเป็นเช่นไร ผมมีความเห็นว่าอาการที่เล่ามาทั้งหมดนั้น เกิดจากสาเหตุวาวล์ตันครับ สาเหตุน่าจะเกิดจากคุณใช้ดายเออร์ที่ไม่มีคุณภาพ มันจะหลุดออกมาเป็นเม็ดเล็กๆแล้ววิ่งเข้าไปในระบบแต่ไม่สามารถผ่านวาวล์แรงดันสูงไปได้ เสียงที่ได้ยินฟีดๆ น่าจะเกิดจากสาเหตุนี้ พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือว่าวาวล์มันเล็กลงเพราะมีเจ้าเม็ดซิลลิค่อนในดายเออร์ วิ่งเข้าไปตันที่เข็มปรับแรงดันทำให้มันฉีดไม่สะดวกหรือแทบจะฉีดไม่ได้ แรงดันก็เพิ่มสูงปรี๊ด ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของเสียงฟี๊ดๆนั่น รถคุณเป็นรถรุ่นใหม่ จะมีอุปกรณ์ที่คอยป้องกันระบบไม่ให้พังไปก่อน มันจึงตัดทุกๆห้าวิไงครับ แรงดันสูงไปหรือต่ำกว่ากำหนดก็ตัด กรณีแรงดันสูงก็คือระบบมันตันไม่สามารถฉีดน้ำยาได้ แต่คอมยังมีแรงดันดีอยู่ มันก็ดันไปเรื่อยๆจนถึงแรงดันที่ตั้งไว้มันก็ตัดครับ พอตัดที่ว่ามันตันก็ยังตันไม่สนิท เมื่อแรงดันลดลงมันก็ทำงานอีก จึงตัดๆต่อๆให้คุณสะดุ้งเล่นไงครับ ซึ่งหากไม่มีระบบนี้คอมของคุณถูกน็อคไม่ต้องนับหามลงรถคุณแน่ครับ รถผมก็มีระบบป้องกันนี้เหมียนกานครับ อีกกรณีหากเกิดการรั่ว ระบบไม่มีน้ำยาแรงดันมันก็ไม่มี มันก็ตัดอีกครับ

วิธีแก้ให้หาช่างที่ไว้ใจได้ไม่มั่ว ไม่ฟัน ไม่วางยา ถอดวาวล์ออกมาก็น่าจะเห็นเจ้าเม็ดเล็กๆอุดอยู่เต็มไปหมด หากผมเดาไม่ผิดนะครับ หากผิดไปจากนี้แล้วก็จนปัญญานึกไม่ออกจิงๆว่ามันน่าจะเกิดจากสาเหตุไร จิงๆ ขอให้แก้ไขปัญหาได้จบนะครับ หากเจ้าจินนี่ผมเป็นเช่นนี้ผมใช้เวลาแก้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็กลับมาเย็นเจี๊ยบเหมียนเดิมแล้ว คร๊าบ เจ้า นาย อิอิ

 

ไปให้ที่ร้านเดิมที่ทำตอนแรกมาเช็คดูให้แล้วครับ ปรากฎว่า มันรั่วตรงแป็บที่ออกจากดรายเออร์ไปเข้าในรถอ่าครับ โดนไปเบ็ดเสร็จ 600 ครับ แพงมั้ยอ่ะครับ เปลี่ยนแป็บ+แว๊กน้ำยาอ่าครับ เสียงวี๊ดๆหายเลยครับ ขอบคุณ คุณเตอร์และคนอื่นๆที่ช่วยแนะนำน่ะครับ ขอบคุณครับ

 

เท่าที่ดูมาน่าจะตามที่คุณเตอร์บอกนะครับ ยังไงก็ลองเอามาดูก่อนดีกว่าครับ เพื่อความชัวส์

 

ว้าว คุณจินนี่วิเคราะห์ได้เข้าทีมาก เป็นไปได้ทีเดียว งานนี้ต้องชำแหละมาดูครับ รอเจ้าของรถเอาไปซ่อมแล้วเอามารายงานผลด้วยว่าทำอะไรไปบ้าง ตัว dryer ถ้าจะเปลี่ยนก็ใช้ของดีๆหน่อยนะครับ ซื้อไปเองจากร้านขายอะหลั่ยแอร์ได้ยิ่งดี จะได้ระบุยี่ห้อได้

 

พี่ยุทธคร้าบ วันนี้แปลกมากๆๆ การบ้านเยอะมากๆๆๆ

อย่างที่พี่ยุทธกับคุณ จินนี่ บอกเลยครับ

แต่ส่วนตัวผมนะครับ
- อยากให้จับเกร์ดูก่อนครับ ว่าเกร์ด้าน Lo กะ ด้าน Hi ขึ้นเท่าไร
- ดูที่คลอย์หน้าคลัส มันจะมีสายไฟอยู่เส้นหนึ่ง ลองเอาสายไฟจิ่มขั่วบวกจาก แบตตารี่ แล้วเอาพันกับ
สายไปที่ตัวคอมแอร์ดูว่ามันยังตัดๆ ต่อๆ อยู่หรือเปล่าครับ (บางทีคอย์หน้าคลัสมันเสื่อมก็เป็นตัดๆ ต่อๆครับ)
- ถ้าไม่เป็นก็ต้องไปดูที่ตัว สวิทย์ HI หรือ LO เพรเชอร์แล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดสามารถต่อตรงได้
โดยเอาสายไฟเส้นเล็กๆ สั้น เสียบไปที่ตัวเมียเข้าหากัน ของ สวิทย์ HI หรือ LO ได้เลยครับ
ถ้าคอมแอร์มันไม่ตัดๆ ต่อๆ แล้ว ก็แสดงว่าสวิทย์ ด้าน Hi หรือ ด้าน Lo เสียครับ
- และตอนเป็นดูตัววาวร์ที่คลอย์เย็น ลองดูว่าวาวร์มันมีน้ำแข็งเกาะหรือเปล่าถ้ามีก็ จะเป็นเหมือนที่คุณ จินนี่
บอกเลยครับ

ลองเช็คตามนี้ดูก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

 

นั่งเขียนคำตอบแป็บเดียว โผล่มาจากไหนเนี่ย อีกตั้ง 3 กระทู้แนะ

วันนี้การบ้านเยอะจิงๆๆ แต่ก็ชอบครับอิอิ

 

ไม่แพงครับ ราคา ok เลยครับ

 

พี่ยุทธ ถ้าเป็นผมนะ ผมจะบอกว่า แล้วเขาจะมี น๊อตถ่ายน้ำมันทำส้นตึกอะไรว่ะ อิอิอิ

 

อ้าว กลายเป็นน้ำยารั่วไปเสียนี่ อันนี้เข้าใจได้ เพราะความดันลดต่ำ คอมเลยไม่เดิน แอร์ไม่เย็น
ง่ายกว่าที่คิด มันต้องเห็นหน้างานจริงๆ ต่อเกจ์เข้าไปวัด ถึงจะบอกได้แม่นยำ งวดหน้าลองใหม่

600 ไม่แพงครับ ร้านแถวไหน?

 

เห็นด้วยครับ แต่พูดไม่ได้ งวดหน้าน้ำมันเกียร์ ถ่ายเองดีกว่า ทุกวันนี้ก็ถ่ายน้ำมันเครื่องเองอยู่แล้ว

ผมใช้ PTT Semi Syn 10W-40 คุณ Ter ใช้ตัวไหน?

เหลือแต่ไล่ลมเบรค ที่รู้แต่ภาคทฤษฎี ปฏิบัติยังไม่เคยลอง มันต้องมุดใต้ท้อง ใช้ 2 คนด้วย ผมมีคนเดียวเอง สำหรับคุณ jinny ไม่ต้องเดา ผมว่าแกทำมาหมดแล้ว

 

จิงครับพี่ ของทุกอย่างต้องอยู่หน้างาน ถึงจะฟันธงได้คับ
ถ้าไม่อยู่หน้างาน เราก็ทำได้แค่เพียงวิเคราะห์ในสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ในปัญหานั้นๆ คับ

 

ก่อนหน้านี้ใช้ของ วาวอลีน 10 - 40w ครับ
ตอนนี้เพิ่งเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใหม่ เพื่อนพึ่งแนะนำให้ใช้ของ Top 1 ครับ เป็น 5 - 30w คับ
มันบอกได้มาถูก ซื้อมา 1400 บาทครับ ตอนนี้อยู่ในรถยังไม่ได้เปลี่ยนเลยครับ

ไล่ลมเบรคต้อง 2 คน คนหนึ่งคอยย่ำเบรค อีกคนต้องขันน๊อตอยู่ใต้ท้องรถ ช่ายไหมครับพี่
เคยทำเหมือนกันตอนนี้เรียนอยู่ ปวช ตอนนั้นใช้ รถเต่า เบรคไม่ค่อยอยู่ เพื่อนมันช่วยไล่ลมให้
แม่ง ไล่ไปไล่มา ขับออกจากโรงเรียนซักพัก ตายห๋า เบรคจม... เบรคหายหมดเลย ย่ำเบรคไป
หายเกลื้ยงเลย ต้องค่อยๆ ขับกลับบ้านโดยใช้ดึงเบครมือเอา :cry: :cry: :cry: :cry:

 

ล่าสุดไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ auto ที่ Proserve บอกช่างให้ขันน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์จากข้างล่าง อย่าใช้เครื่องดูด ช่างบอกขันน๊อตถ่ายออกแล้วเกียร์จะพังง่าย ส่วนใหญ่เขาดูดออก ผมฟังแล้วรู้เลยว่าช่างมันแหกตาอีกแล้ว ก็เลยสั่งให้ขันน๊อตถ่ายไม่ต้องดูด ห่วงก็แต่คนที่ไม่รู้ เชื่อตามช่างว่าไปหมดนี่แหละครับ[/QUOTE]

คุณยุทธ ให้ฟังหูไว้หูก่อน ผมไม่รู้ระบบของโตต้าหรือยี่ห้ออื่นเป็นยังไง แต่นางจิ๋ว(R21AUTO)ของผม น็อตที่เดิมเข้าใจว่าไว้ถ่ายน้ำมันเกียร์โอโต้ด้านล่างนั้น มันดันทะลึ่งไม่ใช่นะครับ ผมตอนที่ได้นางจิ๋วมาควบใหม่ๆก็บอกช่างให้ทำเหมือนอย่างคุณยุทธนี่ล่ะ แต่ไหงไขออกมาดันมีน้ำมันเกียรออกมานิดเดียวไม่น่าถึงร้อยซีซีด้วยซ้ำ ทีแรกก็งงเป็นไก่ตาแตก ว่าสเปคมันตั้งหลายลิตร(เกินสามลิตรแต่จำไม่ได้แน่ชัดว่าเท่าไร) แต่ไหงพอไขน็อตดันออกมาแค่จิ๊ดเดียวจิงๆแล้วมันหายไปไหน หรือว่าไม่มีน้ำมันเกียร์ เดือดร้อนต้องโทร.เข้าถามช่างที่ศูนย์ว่ามันเป็นอะไรกันหวา จึงได้ถึงบางอ้อว่า เจ้าน็อตที่อยู่ใต้แคร๊งค์นั้นเป็นตัววัดระดับน้ำมันเกียรโอโต้ครับ ไม่ใช่ไว้ถ่ายทิ้ง หากจาถ่ายทิ้งต้องใช้เครื่องดูดออกสถานเดียว เหอะๆๆ วิธีถ่ายช่างที่ศูนย์ก็บอกว่าต้องใช้เครื่องดูดเหมียนกับที่ช่างบอกคุณยุทธนั่นล่ะ แต่ที่บ้านผมมันดันไม่มีเครื่องดูด เขาเลยแนะนำว่ากรณีไม่มีเครื่องดูดก็ไม่ต้องซีเรียส ให้ถอดฝาแคร๊งค์น้ำมันเกียร์ออกมาเลย พอถอดออกมาน้ำมันเกียร์ค้างอยู่เต็มฝาเลยครับหลายลิตรล่ะ ทั้งในระบบอีก เจ้าน็อตที่ว่ามันก็แค่เป็นน็อตวัดระดับน้ำมันเครื่องดีๆนั่นเอง มันเป็นท่อยาวประมาณสามสี่นิ้วครับเชื่อมติดกับฝาแคร๊งค์แล้วน็อตขันอยู่ด้านนอก หากน้ำมันเกียร์โอโต้ไม่สูงถึงปลายท่อมันก็ไม่มีทางออกมาไงครับ พอนึกภาพออกนะครับ แต่เป็นงานช้างครับเปลี่ยนน้ำมันเกียรโอโต้เนี่ย

แต่จะขอเล่าให้ฟังเป็นประสพการณ์หน่อยแล้วกัน(เฉพาะR21)นะครับ รุ่นอื่นบ่อฮู้ดอกเด้อ พอเทน้ำมันเก่าทิ้งแล้ว ก็ติดเครื่องเดินเบาให้น้ำมันในระบบออกมาให้มากที่สุดโดยไม่ต้องเร่งเครื่อง ไม่ถึงนาทีก็ใช้ได้แล้วครับ ทีนี้ก็ให้ประกอบฝาแคร๊งค์เข้าไปตามเดิม แล้วให้เติมน้ำมันจนมันไหลออกมาจากรูน็อตที่เราเข้าใจว่าไว้ใช้ถ่ายน้ำมันนั่นล่ะ แล้วติดเครื่องเดินเบาไม่ต้องเร่ง เครื่องยนต์จะดูดน้ำมันเข้าไป ขณะเดียวกันเราก็ค่อยๆเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไปด้วยจนมันล้นออกมายังรูน็อตนั่นล่ะ ทีนี้ให้ดับเครื่อง แล้วเช็คระดับอีกครั้ง แค่ให้น้ำมันล้นท่อที่ว่ามันก็จะไหลออกมาทางรูน็อตนี้เองครับ ถือว่าได้ระดับที่โรงงานกำหนดมาแล้ว ให้ขันน็อตตัวที่เราคิดว่าเป็นน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์ปิดเข้าไปเลยครับ ขั้นตอนสุดท้ายให้เติมน้ำมันเกียร์โอโต้เพิ่มเข้าไปอีก๓๐๐ซีซี ก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ ผมถึงต้องบอกคุณยุทธไงว่าให้ฟังหูไว้หูก่อน อย่าเพิ่งเชื่อหรืออย่าเพิ่งไม่เชื่อ ถามผู้รู้จริง ให้แน่ใจเสียก่อน ครับแต่ละรุ่นมันออกแบบมาไม่เหมือนกัน ขนาดช่างเองยังงงเลยครับ บางรุ่นน้ำมันเฟืองท้ายก็ใช้น้ำมันเกียร์โอโต้ด้วยกันเลย แต่เจ้านางจิ๋วของผม ดันมีเฟืองท้ายแยกออกมาอีกต่างหาก เครื่องมันก็วางตามยาวแบบรถขับหลัง แต่ดันทะลึ่งขับหน้า แถมน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์โอโต้ กะน้ำมันเฟืองท้าย มันยังแยกอีกคนละเบอร์เลย น้ำมันเฟืองท้ายใช้ประมาณ๘๐๐ซีซี แต่มีน็อตเช็คระดับเหมือนกันซึ่งอยู่ทางข้าง เข้าศูนย์ชัวร์ที่สุดครับ นางจิ๋วผมไม่กล้าแตะนะครับ ที่เล่ามาก็ช่างคู่ใจเป็นคนเปลี่ยนเป็นคนทำให้ โดยช่างที่ศูนย์คอยบอกคอยแนะนำทางโทรศัพท์มือถือครับ มันเป็นคอมพิวเตอร์ทั้งคันเลย เช็คทีเจ้าของจาเป็นลมกะบิลค่าดูแลมัน :cry: :cry: แต่เจ้าจินนี่R19 ผมซ่อมเองทั้งคันครับ ยกเว้นเคาะพ่นสี(แต่ทะลึ่งซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเคาะพ่นสีไว้อีก ให้ช่างสีประจำทำตลอดครับ แค่ซื้อสีกับชุดทิเนอร์แลคเกอร์แห้งช้าไปให้เท่านั้นครับ) ค่าแรงก็แสนจะถูกครับ

 

ถูก...ต้อง...แล้ว.....คร๊าบ.....ๆๆๆๆๆๆ

ไว้ว่างๆและชาติต้องการจะเล่าให้ฟังงับ.....อิอิ......หมูๆครับ.....บางทีก็ให้ภรรยาเป็นคนย้ำให้....บางทีก็ลูกชายครับ.....ไม่ยากๆ

แสดงว่าคุณเตอร์ช่วงเหยียบ ดันปล่อยน้ำมันเบรคออกจนหมดไม่รีบล็อค แล้วเพื่อนที่เหยียบดันถอนเท้า เลยกลายเป็นว่านอกจากไล่ลมเบรคแล้ว ยังไล่น้ำมันเบรคออกเสียอีก แถมดันอากาศเข้าอีกเด้ง อิอิ ประสพการณ์ทำให้เราเข้มขึ้นนะงับ ใจถึงจิงๆ ปลดเบรควิ่งเหลือแต่เบรคมือ ผมเคยถอดล้อแล้วลืมขันน็อต ลงแม่แรงแล้วทะลึ่งลืมขันน็อต เหอะๆออกไปลองรถทดสอบดูกดไปกว่าสองร้อย(แข่งกะเบนซ์ของพรรคพวกที่มาเจอกันกลางทางพอดี) แซงในโคงกว่าร้อยเจ็ดจนเพื่อนมันถอดใจไม่กล้าตาม ไปกว่าห้าสิบกิโลแล้ว อีกตอนกลับนี่สิ วิ่งแค่แปดสิบ นึกอยู่ตั้งนานว่าที่ออกมาเนี่ยกรุลืมไรว้าๆๆ(นึกอยู่ในจัยตั้งนาน) ดูเหมือนว่าจานึกออก ขี่ไปเรื่อยๆถึงได้นึกได้ว่า อ้าว ชิก...ลืมขันน็อตล้อน่าหว่า....กรำของตู...รีบลดลงมาเหลือแค่หกสิบวิ่งกลับบ้านมาขัน ทีตอนซ่าส์ๆดันกดเข้าไปได้ไง ยิ่งอีตอนมุดโคงร้อยเจ็ดแซงเพื่อน หากมันหลุดตอนนั้นคงดูไม่จืดแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งซะอีกนะ

 

คุณยุทธ ให้ฟังหูไว้หูก่อน ผมไม่รู้ระบบของโตต้าหรือยี่ห้ออื่นเป็นยังไง แต่นางจิ๋ว(R21AUTO)ของผม น็อตที่เดิมเข้าใจว่าไว้ถ่ายน้ำมันเกียร์โอโต้ด้านล่างนั้น มันดันทะลึ่งไม่ใช่นะครับ ผมตอนที่ได้นางจิ๋วมาควบใหม่ๆก็บอกช่างให้ทำเหมือนอย่างคุณยุทธนี่ล่ะ แต่ไหงไขออกมาดันมีน้ำมันเกียรออกมานิดเดียวไม่น่าถึงร้อยซีซีด้วยซ้ำ ทีแรกก็งงเป็นไก่ตาแตก ว่าสเปคมันตั้งหลายลิตร(เกินสามลิตรแต่จำไม่ได้แน่ชัดว่าเท่าไร) แต่ไหงพอไขน็อตดันออกมาแค่จิ๊ดเดียวจิงๆแล้วมันหายไปไหน หรือว่าไม่มีน้ำมันเกียร์ เดือดร้อนต้องโทร.เข้าถามช่างที่ศูนย์ว่ามันเป็นอะไรกันหวา จึงได้ถึงบางอ้อว่า เจ้าน็อตที่อยู่ใต้แคร๊งค์นั้นเป็นตัววัดระดับน้ำมันเกียรโอโต้ครับ ไม่ใช่ไว้ถ่ายทิ้ง หากจาถ่ายทิ้งต้องใช้เครื่องดูดออกสถานเดียว เหอะๆๆ วิธีถ่ายช่างที่ศูนย์ก็บอกว่าต้องใช้เครื่องดูดเหมียนกับที่ช่างบอกคุณยุทธนั่นล่ะ แต่ที่บ้านผมมันดันไม่มีเครื่องดูด เขาเลยแนะนำว่ากรณีไม่มีเครื่องดูดก็ไม่ต้องซีเรียส ให้ถอดฝาแคร๊งค์น้ำมันเกียร์ออกมาเลย พอถอดออกมาน้ำมันเกียร์ค้างอยู่เต็มฝาเลยครับหลายลิตรล่ะ ทั้งในระบบอีก เจ้าน็อตที่ว่ามันก็แค่เป็นน็อตวัดระดับน้ำมันเครื่องดีๆนั่นเอง มันเป็นท่อยาวประมาณสามสี่นิ้วครับเชื่อมติดกับฝาแคร๊งค์แล้วน็อตขันอยู่ด้านนอก หากน้ำมันเกียร์โอโต้ไม่สูงถึงปลายท่อมันก็ไม่มีทางออกมาไงครับ พอนึกภาพออกนะครับ แต่เป็นงานช้างครับเปลี่ยนน้ำมันเกียรโอโต้เนี่ย

แต่จะขอเล่าให้ฟังเป็นประสพการณ์หน่อยแล้วกัน(เฉพาะR21)นะครับ รุ่นอื่นบ่อฮู้ดอกเด้อ พอเทน้ำมันเก่าทิ้งแล้ว ก็ติดเครื่องเดินเบาให้น้ำมันในระบบออกมาให้มากที่สุดโดยไม่ต้องเร่งเครื่อง ไม่ถึงนาทีก็ใช้ได้แล้วครับ ทีนี้ก็ให้ประกอบฝาแคร๊งค์เข้าไปตามเดิม แล้วให้เติมน้ำมันจนมันไหลออกมาจากรูน็อตที่เราเข้าใจว่าไว้ใช้ถ่ายน้ำมันนั่นล่ะ แล้วติดเครื่องเดินเบาไม่ต้องเร่ง เครื่องยนต์จะดูดน้ำมันเข้าไป ขณะเดียวกันเราก็ค่อยๆเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไปด้วยจนมันล้นออกมายังรูน็อตนั่นล่ะ ทีนี้ให้ดับเครื่อง แล้วเช็คระดับอีกครั้ง แค่ให้น้ำมันล้นท่อที่ว่ามันก็จะไหลออกมาทางรูน็อตนี้เองครับ ถือว่าได้ระดับที่โรงงานกำหนดมาแล้ว ให้ขันน็อตตัวที่เราคิดว่าเป็นน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์ปิดเข้าไปเลยครับ ขั้นตอนสุดท้ายให้เติมน้ำมันเกียร์โอโต้เพิ่มเข้าไปอีก๓๐๐ซีซี ก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ ผมถึงต้องบอกคุณยุทธไงว่าให้ฟังหูไว้หูก่อน อย่าเพิ่งเชื่อหรืออย่าเพิ่งไม่เชื่อ ถามผู้รู้จริง ให้แน่ใจเสียก่อน ครับแต่ละรุ่นมันออกแบบมาไม่เหมือนกัน ขนาดช่างเองยังงงเลยครับ บางรุ่นน้ำมันเฟืองท้ายก็ใช้น้ำมันเกียร์โอโต้ด้วยกันเลย แต่เจ้านางจิ๋วของผม ดันมีเฟืองท้ายแยกออกมาอีกต่างหาก เครื่องมันก็วางตามยาวแบบรถขับหลัง แต่ดันทะลึ่งขับหน้า แถมน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์โอโต้ กะน้ำมันเฟืองท้าย มันยังแยกอีกคนละเบอร์เลย น้ำมันเฟืองท้ายใช้ประมาณ๘๐๐ซีซี แต่มีน็อตเช็คระดับเหมือนกันซึ่งอยู่ทางข้าง เข้าศูนย์ชัวร์ที่สุดครับ นางจิ๋วผมไม่กล้าแตะนะครับ ที่เล่ามาก็ช่างคู่ใจเป็นคนเปลี่ยนเป็นคนทำให้ โดยช่างที่ศูนย์คอยบอกคอยแนะนำทางโทรศัพท์มือถือครับ มันเป็นคอมพิวเตอร์ทั้งคันเลย เช็คทีเจ้าของจาเป็นลมกะบิลค่าดูแลมัน :cry: :cry: แต่เจ้าจินนี่R19 ผมซ่อมเองทั้งคันครับ ยกเว้นเคาะพ่นสี(แต่ทะลึ่งซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเคาะพ่นสีไว้อีก ให้ช่างสีประจำทำตลอดครับ แค่ซื้อสีกับชุดทิเนอร์แลคเกอร์แห้งช้าไปให้เท่านั้นครับ) ค่าแรงก็แสนจะถูกครับ [/QUOTE]

ความรู้ใหม่ครับ ขอบคุณคร้าบบ

 

แหะๆๆ โชคยังดีนะครับคุณจินนี่

 

มีเรื่องเกี่ยวกับแอร์มาเล่าให้ฟัง (กรณีหายาก)

วันนี้แอร์ผมออกอาการรวน (จริงๆรวนหลายวันแล้ว) อาการจะเป็นประมาณว่า หากตั้งอุณหภูมิไว้กลางๆ ช่วงที่แอร์กำลังจะตัด หรือจะต่อการทำงาน มันจะมีอาการดังต่อไปนี้

1. รอบเครื่องเร่ง เหมือนชดเชยแอร์ แต่หน้าคลัทช์คอมไม่จับ
2. พัดลมแอร์จะทำงานเหมือนกับแอร์ทำงาน
3. บางครั้งคอมแอร์ฉุดเครื่อง แต่รอบชดเชยไม่ทำงาน
4. อาการจะออกเหมือนคอมตัดต่อการทำงานถี่ๆ เป็นช่วงๆ บางช่วงก็ปกติไปเลย

แต่หากบิดตัวปรับอุณหภูมิให้ไปที่ทำงานค่อนข้างหนัก หรือไม่ก็เบาไปเลย จะไม่มีอาการดังว่า (แอร์เย็น อุณหภูมิคงที่ ไม่มีร้อนหรือเย็นเกินไป)

จากข้อสันนิษฐาน(ของผมเอง) มีความเป็นไปได้หลายอย่าง

1. รีเลย์คลัทช์คอมแอร์ หรือรีเลย์ตัวอื่นๆ เสีย
2. ตัวชดเชยรอบแอร์ ซึ่งเป็นโซลินอยด์ไฟฟ้า อาจเสื่อม (เครื่องคาร์บู)
3. ตัวเทอร์โมรวน

ขั้นแรก จากที่วิเคราะห์
1. รีเลย์ ไม่น่าเสีย เพราะหากมันทำงานตลอด อาการจะไม่เกิด หากรีเลย์เสียจริง มันต้องเป็นตลอด ไม่ว่าจะตอนไหน
2. ตัวชดเชยก็เช่นกัน หากมีอาการดังว่า มันต้องเกิดเรื่อยๆ ไม่ใช่เกิดเฉพาะช่วงที่เทอโมใกล้จะสั่งงาน

เลยมุ่งประเด็นมาที่เทอร์โม

จากการทดลอง ค่อยๆบิดตัวปรับอุณหภูมิให้แอร์ลดการทำงานลง ตอนที่คอมแอร์ทำงาน บางครั้งจะเกิดอาการแอร์ตัดการทำงาน แต่ไม่ได้ยินเสียงเทอร์โมตัดการทำงานดัง"ติ๊ก" ซึ่งหากบิดตัวปรับอุณหภูมิไปอีกเล็กน้อย จะได้ยินเสียงเทอร์โมตัดการทำงาน

จากข้างต้น ในกรณีกลับกัน ตอนที่คอมแอร์ไม่ได้ทำงาน หากค่อยๆปรับอุณหภูมิให้แอร์ทำงานมากขึ้น บางครั้งจะเกิดกรณีที่รอบชดเชยแอร์ทำงาน แต่หน้าคลัทช์คอมไม่จับ และไม่ได้ยินเสียงการทำงานของเทอร์โม ซึ่งหากบิดตัวปรับอุณหภูมิไปอีกเล็กน้อย จะได้ยินเสียงเทอร์โมทำงาน

(ต่อ คอมเม้นถัดไป)

 

เมื่อวิเคราะห์ดังนี้แล้ว ก็เลยว่าจะลองหาทางให้เทอร์โมทำงานให้กระชับขึ้น (จะได้ไม่มีกรณีดังว่า) แงะไปแงะมา สรุป พัง!!! -*- (ไม่น่าแงะเลยตู พังแบบกู่ไม่กลับ กระจายเป็นชิ้นๆ ห้า ห้า)

ก็เลยขับรถวิ่งไปร้านอะไหล่รถยนต์ เค้าบอกว่าไม่มีขาย ร้านแอร์ ไม่มีขาย

แต่ร้านหน้าหมู่บ้านดันมีซะงั้น!!! ตอนแรกร้านก็หาอยู่ตั้งนาน มีแต่ของโคโรลล่า เป็นแบบหมุนที่ตัวเทอร์โมเลย แต่ของเดิมเป็นแบบใช้ลวดดึงโยก หาไปหามา เจอ เป็นตัวเทอร์โมคล้ายๆของเดิม จุดยึดเท่ากัน แต่ขาดึงไม่เหมือนเดิม (ขาดึงของเดิมเป็นแท่งกลมๆ ของใหม่เป็นเหมือนแผ่นแสตนเลส ไม่เป็นไร ดัดแปลงได้) ตัวละ 380 บาท (ตอนแรกว่าจะไปเปลี่ยนอู่รถใกล้ๆบ้าน ถามราคาแล้วถอย ตัวละพันกว่า คงของแท้แหละ แถมต้องถอดตู้แอร์มาทำ ทีตอนตูแงะเล่นยังไม่เห็นต้องถอดตู้เลยนี่หว่า)

ก็เลยเอามาเปลี่ยน ลองเวลาสั้นๆ อาการดังว่าก็หายไป แต่ยังไม่ได้ลองวิ่งยาวๆ เอาไว้ถ้าไม่หายค่อยไล่ใหม่

เอามาเป็นวิทยาทาน เพราะตัวเทอร์โมเพิ่งเปลี่ยนแท้ๆ ยังเสียได้ -*- และอาการ ขนาดว่าปรึกษาช่างฮอนด้า เค้าก็ยังบอกเลยว่ามันไม่น่าเป็น เพราะหากเทอร์โมเสีย อาการน่าจะดับและติดทั้งระบบ ไม่น่าเป็นแบบกึ่งๆแบบนี้

เอาไว้เป็นความรู้ครับ

 

แจ่มมๆ เลยครับน้องหนิง

 

ขอบคุณเพื่อนๆมากครับที่ช่วยวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้นให้ครับ |
------------------------------------------------------------------------
เมื่อวานตอนเย็นผมเอารถไปให้ร้านแอร์เช็คให้เป็นดังนี้ครับ
-เค้าก็ต่อเข้ากะเกจ์สีแดงกะสีน้ำเงินปรากฎว่าเวลาเปิดแอร์แล้วเร่งเครื่องเนี่ยเข็มของเกจ์สีแดงวิ่งจนชี้เกือบสุด เลย ครับแล้วคอมแอร์ก็ตัดการทำงานไป ช่างเลยมาดูที่เกจ์สีน้ำเงินชี้อยูที่ประมาณ 40
ช่างบอกว่าสงสัยเติมน้ำยาแอร์เยอะไปเลยปล่อยน้ำยาออกมาจนเกจ์สีน้ำเงินเหลือ 30 เท่าที่ลองใช้งานวันนี้ตอนเช้าคอมแอร์ไม่มีอาการตัด-ต่อ ทุกๆ 5 วินาทีแล้วครับ เดี๋ยวกลางวันแดดๆร้อนๆจะลองเอาไปวิ่งดูอีกที
-ส่วนปัญหาเรื่องติดไฟแดงแล้วแอร์ไม่เย็นเนี่ยช่างบอกว่าคอยร้อนระบายไม่ทันเค้าแนะนำให้ติดพัดลมหน้าคอยร้อนเพิ่มอีกตัว(ของเดิมมีหลังคอยร้อน 1 ตัว)ราคาติดตั้ง 1400 บาทไม่ทราบว่าแพงไปรึเปล่า(ผมยังไม่ติดครับเพราะมันค่ำมากแล้ว) แล้วการที่คอยร้อนระบายไม่ทันเนี่ยเกิดจากอะไรได้บ้างครับเพราะไม่มีอะไรไปอุดตันแผงคอยเลย อีกคำถามนะครับถ้าติดพัดลมเพิ่มเนี่ยควรตั้งให้มันทำงานแบบใหนครับพร้อมกับเปิด a/c หรือว่าเวลาความร้อนถึงค่าที่กำหนดครับ

 

โชคดีครับที่อุปกรณ์ที่ผมบอกไปตอนแรกๆ ไม่มีอะไรเสีย

ผมขอตอบเลยนะครับ

บางทีแผงคลอย์ร้อนมันสกปรกแบบที่เรามองไม่เห็นครับ เช่นคราบไอน้ำมัน มันจะเกาะจนแห้ง
เลยทำให้การระบายความร้อนชองตัวแผงนั้นระบายไม่ออกครับ แนะนำให้ลองทำความสะอาด
ที่แผงคลอย์ร้อนดูก่อนละกันครับ เอาแฟ้บผสมน้ำแล้วฉีดที่แผงคลอย์ร้อนก็ได้หรือ ถ้าไม่ออกจิงๆ
ก็เปา น้ำยาล้างห้องน้ำฉีดทิ้งไว้ซัก 5 นาทีแล้วล้างน้ำออก ผมว่าก็น่าจะ ok แล้วนะครับ

หรือถ้าติดพัดลมเพิ่มได้ก็ดีครับ ราคาลองเช็คร้านอะไหล่แอร์ดูก่อนก็ได้ครับ ราคาอาจจะไม่ถึง 1400 คับ
มันก็ขึ้นอยู่กับขนาดของใบด้วยว่า 4 ใบ หรือ 8 ใบครับ ราคาจะไม่เท่ากันครับ
ถ้าเป็นพัดลมแบบต้องแปลงขาใส่นั้น จะอยู่ที่ 10 ใบ ราคา 500 + - นิดหน่อยครับ

 

อีกคำถามนะครับเสียงวี้ดดดๆ เวลาเร่งเครื่องที่ดังออกมาจากคอมแอร์นีีน่าจะเป็นเพราะอะไรพอมีทางแก้มั๊ยครับจะดังก็ต่อเมื่อเปิด a/c อ่ะครับแต่เท่าที่สังเกตุจากเมื่อวานคอมแอร์น่าจะยังมีกำลังอัดดีอยู่