D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

รถที่บ้าน toyota camry ออกป้ายแดงก็ดังครับ ตอนนี้ก็ดังอยู่ครับ รถ bmw E30 ที่บ้านผมก็ดังคับดังมา 2 ปีละยังไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ
แต่แอร์ก็เย็นปรกติ เช็คค่าสุดก็ -9 องศาคิดว่าไม่น่าจะเสียนะครับ

ผมคิดว่า วาวร์ที่ใส่ไปอาจไม่ตรงกับสเปรกอะครับ เพราะคอล์ยเย็นกับวาวร์ มันต้องแม็ทกันอะคับ
- ลองเช็คดูว่าตัวกระเปาะ ที่เป็นแท่งยาวๆเล็ก ที่ออกมาจากหัววาวร์ ดูว่าช่างเขาไปยึดตรงท่อช่วงทางออกขอท่อคอล์ยเย็นหรือเปล่านะครับ บางทียึดผิดที่ วาวร์มันก็ทำงานไม่สมดุจกับความเป็นจิงอะคับ
- ลองเช็คน้ำยาแอร์ดูว่าขาดหรือเปล่าครับ บางทีช่วงที่น้ำยาแอร์ วิ่งสู่วาวร์ฉีดนั้น มันขาดช่วงกันคือ มีอากาศ มากกว่า น้ำยาแอร์ ช่วงที่วาวร์ทำการฉีดเลยเกิดเสียงครับ
(เหมือนกับหลอดดูดน้ำครับ ถ้าเราดูดน้ำในถุงใกล้หมด มันจะมีอากาศเยอะกว่าน้ำเรายิ่งดูดก็จะมีเสียงคล้ายๆกันคับ)
- วาวร์เพิ่งเปลี่ยนของใหม่มา ไม่น่าดังนะครับ ผมไม่รู้ว่าวาวร์ฉีดน้ำยานี้ (Expansion valve) จะมีของเทียมออกมาขายด้วย หรือเปล่านะครับ เพราะวาวร์ของใหม่ ยังไงก็ไม่น่าดังนะคับ

 

Multi - Flow Condenser ท่อทางวิ่งของน้ำยาแอร์นั้น จะมีลักษณะแบน,เตี้ย ซึ่งน้ำยาแอร์สามารถวิ่งได้เต็มพื้นที่ของท่อแน่นอน จึงช่วยในการระบายความร้อนได้ดีและเร็วกว่า วัสดุที่นำมาประกอบนั้นมีน้ำหนักเบา และบางกว่าคอล์ยร้อนรุ่นเก่าๆ ความร้อนจากแผงคอล์ยที่ระบายออกมานั้น ไม่สะสมอยู่ในบริเวณนั้นนาน (เวลารถติดบริเวณแผงคอล์ยนั้น จะมีเนื้อที่ว่างขึ้นช่วยในการ หมุนเวียนถ่ายเทของอากาศได้เร็วกว่าเดิม)

Condenser ทั่วไปนั้น ท่อน้ำยาในแผงคอล์ยร้อนนั้น จะเป็นท่อทรงกลม ซึ่งน้ำยาแอร์ที่วิ่งในท่อนั้น ปริมาณน้ำยาแอร์ อาจวิ่งเพียงครึ่งหนึ่งของท่อน้ำยา จึงทำให้ใช้พื้นที่ในการระบายความร้อนไม่เต็ม 100% ซึ่งคอล์ยร้อนแบบนี้ จะมีรูปทรงหนากว่าแบบ MFC เพราะท่อทองแดงในแผงนั้นจะเป็นแบบ 2 แถว ซึ่งตัวมันเองจะสะสมความร้อนได้มากกว่าแบบ MFC และระบายความร้อนออกจากบริเวณนั้นๆ ได้ช้ากว่าเนื่องจากความหนาของมันถึง 2 ชั้น (รถติดนานๆ บริเวณคอล์ยร้อนนั้น จะสะสมความร้อนสูง + ความร้อนของหม้อน้ำอีก)

 

น้ำยาแอร์ขาดหรือเปล่าฮะ ลองเช็คน้ำยาแอร์ดูก่อนละกันนะคับ
ที่ช่องแอร์ออกมาเป็นควันเลยก็มี 2 สาเหตุครับ

- แผงคอล์ยเย็นเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง (เปิดพัดลมเบาจนแผงคอล์ยเย็นเป็นน้ำแข็ง ถ้าเปิดพัดลมแรงสุดจะไม่เป็นน้ำแข็ง แก้ไขโดย ปรับความแรงของพัดลมให้แม็ทกับตัวปรับอุณหภูมิ) แล้วช่วงที่คอมแอร์ตัดการทำงาน แล้วพัดลมที่ทำงานอยู่ จะเป่าผ่านคอล์ยเย็นที่เป็นน้ำแข็ง ทางช่องแอร์ก็จะออกมาเป็นควันครับ (เหมือนก้อนน้ำแข็ง ลองเอาลมเป่ามันก็เป็นควันเหมือนกันครับ) เปิดซักพัก น้ำแข็งละลายหมดก็ไม่มีควันแล้วครับ

- อากาศภายในรถเย็นมาก พอเปิดกระจกให้อากาศภายนอกเข้ามาสังเกตุตรงช่องแอร์จะมีควันออกมาเต็มเลย (เหมือนกับเราเปิดตู้เย็นช่องแช่แข็ง พอเปิดตอนแรกควันนี้เต็มเลย ซักพักพออากาศภายนอกเข้าไปปะปนในช่องแข่แข็งแล้ว ควันก็จะหายไปครับ)

ส่วนเรื่องที่เอาเครื่องที่ไว้ฉีดล้างรถ เอามาฉีดล้างแผงคอล์ยร้อนนั้น เป็นความคิดที่ดีครับ ระวังอย่าฉีดแบบแนวขวางนะครับ ให้ฉีดแบบแนวตั้งครับ เพราะถ้าแผงฟินคอล์ยมันล้มลงแล้ว ลมมันจะไม่เข้า แล้วจะระบายความร้อนไม่ออกฮะ
- เพิ่มเติมนะครับ อยากให้ฉีดสวนทางกันกับหน้ารถ คือเปิดฝากระโปลงรถแล้ว น้ำฉีดด้านหลังของแผงคอล์ยร้อนให้น้ำออกมาทางด้านหน้าแผงแทนครับ จะสะอาดกว่าครับ เพราะถ้าเราฉีดด้านหน้าสิ่งสกปรกมันก็ไปข้างอยู่ระหว่างกลางของตัวคอล์ยร้อน ถ้าฉีดจากด้านหลังสิ่งสกปรกที่ติดด้านหน้าจะออกง่ายกว่าคับ (เอาผงซักฟอกผสมน้ำแล้วขาดแผงคอล์ยด้วยจะดีมากเลยครับ)

 

ภาพที่ 1 สิ่งที่นำมาลองนั้น มีท่อทองแดง (เหมือนกับท่อแอร์อลูมิเนียม) น้ำยาล้างระบบแอร์ที่ขายใส่ขวด ช่างซ่อมแอร์ทั่วไปจะนิยมซื้อมาใช้ ขวดละ 100 บาท ( ไม่ใช่ F11จริง)
ภาพที่ 2 ผมได้ใส่น้ำมันคอมไว้ในท่อแล้วเอา F11เทียมใส่ไปในท่อแล้วเขย่าซักพักแล้วเทออก จากนั้นผมเอาทิชชูเข้าไปชัดอีกที เพื่อดูว่ามีคราบน้ำมันคอมหลงเหลืออยู่หรือเปล่า และคราบสกปรกออกหมดหรือไม่นะครับ
ภาพที่ 3 - 4 จากที่ใช้ทิชชูเช็ดอีกที ปรากฎว่ามีคราบสกปรก กับคราบน้ำมันคอมหลงเหลืออยู่
ภาพที่ 5 พอดีวางกระจกไว้แถวนั้นแล้วน้ำยาล้าง (F11) ไปโดน ไม่ถึง 5 วินาทีผมก็ยกกระจกนั้นออก เวร...... พลาสติกละลายติดกับโต๊ะอีก (คิดเอาละกันนะครับ ยางโอริงตามข้อต่อของท่อแอร์ มันจะไม่ละลายเหลอว่ะ)

F11 ของจริงๆ เลย โดนอากาศไม่ถึง 2 วินาทีก็ละเหยแล้วครับ แล้วต้องไม่กัดพลาสติกด้วย ไม่สามารถบรรจุขวดแก้วได้เนื่องจาก แรงดันจากตัวมันสูงมาก และมีโดนอากาศไม่ได้เลยมันจะละเหยหมด

F11เทียมนี้ผมเทลงบนโต๊ะ 30 วินาทีมันยังไม่ละเหยเลย (ผมเคยไปหาลูกค้า 2-3ปีแล้ว พอเข้าไปห้องทำงานเขา ก็ว่าทำไมเปิดแอร์เย็นจังว่ะ มองไปเห็นลูกจ้างนั่ง กอกน้ำยา F11เทียม เนี่ยใส่ขวดแก้วอยู่ เพราะน้ำยามันจำนวนเยอะ อยู่ในห้องแอร์แล้วจะละเหยช้า)

 

ต้องขึ้นอยู่ว่าล้างระบบแอร์ แบบถอดมาทุกชิ้นเลยหรือเปล่า หรือถอดออกมาล้างแค่บางส่วนอะคับ


ไม่ทราบว่าเวลา กลางวันรถจอดติดไฟแดงนานๆ แอร์ยังเย็นปรกติหรือเปล่าครับ
- ถ้ายังเย็นปรกติ ถ้าไม่ซีเครียดว่า ที่มองตาแมวแล้วบอกว่ามีคราบสนิมปนอยู่ก็ยังไม่ต้องไปล้างระบบแอร์ (เสียดายเงิน ถ้าแอร์ไม่เย็นแล้วค่อยล้างระบบแอร์จะดีกว่าคับ)

- ถ้าเกิดแอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร ให้ช่างแอร์ทำการปล่อยน้ำยาแอร์ ออกจากระบบและทำการเปลี่ยน
- ไดเออร์ ของใหม่
- วาวร์หัวฉีด (ผมไม่แน่ใจว่าคราบสนิมที่คุณบอกว่ามองเห็น มันจะไปติดที่หัวฉีดด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าไม่แพงก็เปลี่ยนด้วยก็ได้ เน้น..ของแท้นะครับ)
- ถอดคอมแอร์ออกมาแล้ว หาถ้วยไว้ตวงน้ำมันคอมจากตัวคอมแอร์ ว่าเทออกมาเท่าไร ตอนใส่น้ำมันใหม่เข้าไปให้เติมเพิ่มจากปริมาณน้ำมันคอมของเก่า อีก 20 กรัม (ตอนถอดคอมแอร์ออกมาล้าง ให้ใช้ F11 หรือ 141b ล้างเท่านั้นนะครับ)
- ใช้สารชะล้าง F11 (แท้) หรือ 141b ล้างตามท่อต่อแอร์ต่าง ท่อแผงคอล์ยร้อน แผงคอล์ยเย็น
- ถ้าเป็นไปได้ ใช้สารชะล้างเรียบร้อยแล้ว ให้นำลม สะอาดเป่าให้แห้งแล้วหรือกระดาษทิชชูปิดตามข้อต่อต่างๆ ด้วย ป้องกันความชื่นไม่ให้เกาะตัวอยู่ตามท่อ(ข้อนี้ไม่ซีเครียดนะครับ)
- จากนั้นก็ประกอบชิ้นส่วน อะไหล่ต่างๆ เข้าสู่ที่เดิมแล้ว ทำการเวคอากาศภายในระบบ ถ้าเป็นไปได้ เวคซัก 20 นาทีจะ ok เลยครับ

- เมื่อเติมน้ำยาแอร์เข้าสู่ระบบแอร์เสร็จแล้ว ให้หาฟองน้ำชุบสบู่หรือน้ำยาล้างจาน ถูตามข้อต่อต่างๆ หาว่ามีรอบรั่วหรือเปล่า
- ถ้ามองตาแมวแล้วยังเห็นมีคราบสนิม,คราบสกปรกอยู่ในระบบแอร์ แนะนำให้ใช้รถไปก่อนซักเดือนหนึ่ง แล้วนำรถมาเปลี่ยนไดเออร์ลูกใหม่เพียงอย่างเดียว ก็จะไม่มีคราบสกปรกแล้วครับ

 

สารชะล้าง F11 นั้น ทางกรมโรงงานได้มีการลดจำนวนโครต้าลดลงทุกปี โดยปีนี้มีการลดลงมากกว่าทุกๆ ปี เนื่องจาก สาร F11 มีส่วนประกอบที่ทำลายโอโซนโลก
จึงให้เปลี่ยนมาใช้สาร 141b แทนในการล้างทำความสะอาดระบบแอร์ครับ
อย่างที่ผมบอกในกระทู้ข้างบนว่า F11 ของแท้นั้นหายากมากและราคาสูงมากเนื่องจาก โครต้าในการนำเข้ามีน้อยลง

CFC-11 = F11 (สารเก่า)
HCFC - 141b = 141b (สารใหม่)

 

เดี๋ยวผมหาข้อมูลมาให้นะครับ ผมไม่ได้สังเกตุเหมือนกันว่าไดเออร์เขายึด ไว้จุดตรงไหนของรถครับ

ตามภาพนี้ จะตาแมวของ honda Jazz

 

เพื่อนๆ ทุกคนที่จะไปซ่อมแอร์ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่...ก่อนซ่อมต้องถามช่างซ่อมก่อนเลยนะครับ

มีการรับประกันให้เรายังไง เช่น
- ถ้าซ่อมแล้ว รถใช้ไปไม่ถึง 1 เดือน เกิดมันไม่เย็นขึ้นมา คุณจะรับผิดชอบยังไง (ขึ้นอยู่ว่าคุณไปซ่อมอะไรด้วยนะครับ)
- ถ้ามีการเปลี่ยนคอมแอร์ใหม่ ต้องเน้นเลยนะครับ รับประกันกี่เดือน ถ้าแอร์ไม่เย็นหรือคอมน๊อกภายในเวลาระยะประกันเนี่ย ช่างแอร์จะรับผิดชอบยังไง

(ถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากเสียผลประโยชน์นะครับ ก่อนจะทำคุยกับช่างเลยว่า ถ้าคอมแอร์ที่จะเปลี่ยนกับทางร้านเนี่ย ถ้าคอมแอร์มันไม่มีแรงอัดหรือคอมน๊อกเนี่ย คุณต้องเปลี่ยนคอมลูกใหม่ให้เราฟรีนะคับ ถ้าดูแล้วช่างแอร์ตอบแบบ ไม่เต็มปากเท่าไร แนะนำ..ให้เปลี่ยนร้านซ่อมเลยครับ)

- ครั้งแรกเลยที่จะไปทำอะไรเกี่ยวกับระบบแอร์ ต้องถ้าช่างด้วยนะครับว่า..... ทำไมไม่เย็น ช่างจะแก้ปัญหายังไง แล้วฟัง ทางช่างแอร์เขาอธิบาย เพื่อนๆ ต้องฟังแล้วคิดหลักความจริงด้วยนะครับ ว่าที่ช่างแอร์บอกเนี่ย มันน่าจะเป็นไปได้ไหม

ตามที่ผมอ่านข้อความของคุณลี
- สินค้าที่ดีมีมาตารฐานและรับประกันเช่นเดียวกับศูนย์
- ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและบริษัทต่างๆ เช่น ยูนิลีเวอร์ ม.กรุงเทพ การกีฬาประเทศไทย ฯลฯ ตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่ผ่านมา
(เปิดมา 30 ปี คงไม่มานั่งโกหกลูกค้าหรือโกงลูกค้าให้ เสียชื่อเสียงบริษัทแน่นอนครับ)

ถ้าร้านซ่อมแอร์มีการรับรับประกันอย่างนี้ เพื่อนๆ ซ่อมไปเหอะครับ ผมคิดว่า ทางร้านซ่อมแอร์นั้นๆ
คงทำครั้งเดียว แล้วต้องให้งานจบแอร์เย็นชัวร์
เพราะถ้าซ่อมแล้ว แอร์ไม่เย็น ซ่อมแล้วงานไม่จบ มีการซ่อมให้ฟรี ในระยะเวลาที่รับประกันอยู่ รับรองครับ ขาดทุนแน่ๆ และผมคิดว่า คงไม่มีร้านแอร์ไหนที่ จะทำแอร์แล้ว ต้องมานั่งขาดทุนเพราะแก้ไขงานที่ตัวเองทำไม่ดีในการซ่อมครั้งแรกหลอกคับ

(ผมเน้นอีกทีนะครับ ผมไม่ได้รู้จักกับคุณลีมาก่อนนะครับ พึ่งมารู้จักกับคุณลีในเวปนี้ แล้วพึ่งรู้ว่าเป็นรุ่นน้องที่หอการค้า เดี๋ยวใครไม่รู้คิดว่าผมรู้จักกัน แล้วเชียรให้เพื่อนๆ ที่มีปัญหาเรื่องแอร์ ให้ไปซ่อมที่ร้านคุณลี)

แต่ผมอ่านจากที่คุณลีตอบ ปัญหาเรื่องแอร์ให้กับเพื่อนๆ ที่เข้ามาถามในกระทู้นี้ ผมอ่านแล้วคุณลีก็ตอบได้ตรงประเด็นดีและตรงกับปัญหาที่เป็นอยู่
และคุณลีมีร้านซ่อมแอร์ เปิดมา 30 ปีแล้ว และยังลงมือซ่อมแอร์ให้กับรถลูกค้าเองเลย ผมเลยคิดว่าถ้าใครมีปัญหาเรื่องแอร์รถ ก็ลองโทรสอบถามคุณลีดูก่อน เพื่อนๆ ไม่โดนฟันแน่นอนครับ

ถ้าเกิดซ่อมไม่ดีจริง เพื่อนๆ ที่ไปซ่อมก็ต้องมา ต่อว่าคุณลีในกระทู้นี้แน่นอน ผมคิดว่าคุณลีก็คงไม่ยอมให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นแน่นอนครับ

 

ขอบคุณมากๆ ครับที่ให้ความสนใจ

- ที่แอร์ไม่ค่อยเย็นอาจจะเป็นเพราะว่าน้ำยาแอร์ขาด
- แผงคอล์ยร้อนระบายไม่ทัน (เช็คได้โดยติดเครื่องยนต์เปิดแอร์ เปิดฝากระโปรงรถทิ้งไว้ แล้วเอานำฉีดแผงคอล์ยร้อน แล้วดูว่าแอร์ในห้องโดยสารเย็นมากกว่า ไม่ได้ฉีดน้ำหรือเปล่า)
- ไดเออร์มีความชื้นสูงมาก มีสิ่งสกปรก
- ระบบมีความชื้นสูง (เวคคัมเร็วไป)
- เทอร์โมสตาดร์ ตัดการทำงานเร็วไป (ปรับเทอร์โม ให้สุด) เช็คตัวเซนเซอร์ว่าวางถูกต่ำแหน่งหรือเปล่า
- คอมแอร์ตัดต่อเร็วเกินไป ให้เช็คที่กล่องฟิวล์รถยนต์เช็คดูว่า รีเลย์ (จะมีเขียนว่าตัวไหนทำงานเกี่ยวกับระบบแอร์) ให้ลองหาตัวใหม่มาใส่ดูว่าคอมแอร์ยังตัดอยู่หรือเปล่า

(พอดีพนักงานที่บริษัท ให้ช่วยดูแอร์ว่าทำไมไม่เย็น ผมเลยทำการปล่อยน้ำยาแอร์เก่าออก และเติมน้ำยาแอร์ใหม่เข้าไป ปรากฎว่า เติมไม่ทันเต็มคอมแอร์ก็ตัด ซักพักก็ทำงานใหม่ เลยเติมน้ำยาเข้าระบบไม่ได้ ผมเลยปลดสายน้ำยาออก แล้วเปิดกล่องฟิวล์ดู ว่าตัวไหนเป็นระบบแอร์ ดึงรีเลย์ตัวนั้นออกมา ทดสอบโดยใช้สายไฟสั้นๆ เสียบเข้าไปให้มันต่อตรง มีทั้งหมด 3 คู่ จากนั้นก็ติดเครื่องยนต์ใหม่ คอมแอร์ก็ไม่ตัดแล้ว พอเติมน้ำยาแอร์เข้าในระบบเต็มแล้ว ดับเครื่องแล้วดึงสายไฟสั้น ๆ นั้นออกแล้วใส่รีเลย์ตัวเก่าเข้าไป ติดเครื่องยนต์เปิดแอร์ ปรากฏว่าคอมแอร์ตัดต่อเร็วเหมือนเดิม ผมเลยให้พนักงานไปหาซื้อ รีเลย์ของใหม่ ที่เหมือนตัวอย่างมา พอซื้อมาใส่ปรากฏว่าคอมแอร์ไม่ตัดต่อเร็ว จะคอมแอร์จะตัดต่อเมื่ออุณหภูมิภายในห้องโดยสารได้ตามที่เราตั้งไว้ครับ)

- ในระบบแอร์ อาจจะใช้น้ำมันคอมเพรส์เซอร์ ปลอมเลยทำให้คอมแอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ 100% ระยะยาว ใช้ไม่เกิน 6 เดือน ภายในคอมแอร์น้ำมันคอมจะเหนียวเป็นกาวเลยแหละคับ อาการก่อนคอมแอร์จะน๊อก จะรู้สึกว่าเปิดแอร์แล้วดึงรอบเครื่องยนต์มากผิดปรกติ (ของผมเคยในรถ honda civic คอมแอร์ดึงจนเครื่องยนต์ดับเลย หน้าคลัสคอมแอร์มันติดกับตัวมูเลย์ เอาไม่ออก ต้องเอามีดไปตัดสายพานแอร์ทิ้งอะครับถึงจะขับเข้าอู่ได้) ได้ยกคอมแอร์ใหม่แน่นอนครับ และต้องล้างทั้งระบบแอร์เลยครับ
- ถ้าทั้งหมดไม่มีปัญหาเลย แล้วแอร์ยังเย็นไม่ดี ให้เช็คที่วาวร์ฉีดน้ำยา อาจจะตันครับผม

ถ้าแอร์ยังไม่เย็นเท่าที่ควร คงจะเป็นที่น้ำยาแอร์ที่คุณภาพต่ำ ความซื่นในน้ำยาแอร์สูงมาก ต่อให้ระบบแอร์ดีๆ ถ้าเจอน้ำยาแอร์เกดรต่ำ เติมยังไง แอร์ก็ไม่เย็นครับ ดีไม่ดีต้องเปลี่ยนไดเออร์ใหม่ แล้ววาวร์ฉีดใหม่ด้วยครับ

เราต้องรู้ให้ทันช่างแอร์ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพื่อนๆ รู้มากกว่าช่างแอร์ด้วยซ่ำ ถ้าเราเห็นช่างแอร์ซ่อมรถรถอยู่ ถ้าช่างแอร์แก้ไขในระบบแอร์ไม่ถูกต้อง หรือทำข้ามขั้นตอนที่ควรจะทำ เราจะได้แย้งได้เต็มที่ ถ้าช่างแอร์มีไหวพริบพอ เห็นว่าเรารู้เยอะ เขาก็ไม่กล้าซ่อมซี้ซั่วให้เราคับ

 

ขอโทษด้วยครับที่ตอบช้า พอดีไม่ค่อยว่างเลยครับ

แนะนำให้เปลี่ยนคอมเซียงกงดีกว่าครับ รับประกันน่าจะ 1 อาทิตย์ครับ เลือกที่มีแรงอัดเยอะๆละกันครับ
- ส่วนคอมบิ้วนั้น อ่านดูกระทู้แรกๆดูครับ
- ถอดคอมเก่ามาซ่อมแล้ว ผมไม่รู้ว่าต้องเปลี่ยนส่วนไหนบ้าง ผมว่าซ่อมแล้วจะไม่คุ้มครับ บางชิ้นอะไหล่ก็ไม่มีนะครับ
- ถ้าเป็นรุ่นเดียวสเปรกเดียวกันผมว่า ไม่น่าจะแตกต่างกันนะครับ ลองดูที่ตัวมูเล่ว่าขนาดเท่ากันหรือเปล่า ถ้าใหญ่กว่าก็น่าจะกินแรงเรื่องมากกว่าครับ
- ค่าแว็ค+น้ำมันคอม+น้ำยา ของแท้หมดไม่น่าเกิน 1,000 บาทครับ ค่าแรง (แล้วแต่ทางร้านจะคิดอะครับ กะไม่ได้อ่ะ)
- ไดเออร์ ลองอ่านกระทู้เก่าๆ ดูครับเขียนไว้แล้วครับ

 

ยินดีครับผม เออ....แล้วน้ำยาที่เตอร์เติมให้นั้นมันไม่ใช่ R12 นะ เป็น Cold12 ครับ

Cold12 ไม่เหมือน R12 นะครับ ลองอ่านกระทู้ข้างบนดู หรือหระทู้หน้าที่ 4 อะ เตอร์อธิบายไว้ ว่า Cold12 ดีกว่ายังไง

ถ้าวันนี้เตอร์เติม R12 ให้ตั๊กไป 2 กระป๋องก็ไม่เย็นครับ เนื่องจากน้ำยาแอร์ไม่เต็มระบบแน่นอน ถ้าเป็น Cold12 กระป๋องเดียวก็น่าจะเต็มระบบแอร์ของรถตั๊กนะครับ เพราะจากความเย็นที่ได้

ภาพ 1 R12
ภาพ 2 Cold134 ครับ

ตั๊กลองดูที่กระป๋องสิคับ

 

1. แบบนี้นำรถกลับไปที่ศูนย์แก้ไขเลยครับ เป็นความผิดพลาดทางศูนย์แล้วแหละ
ช่างเติมน้ำยาแอร์มากเกินค่าที่กำหนดจนสายระเบิด
2. แค่ขันน๊อตให้แน่นไม่ได้นะครับมันเป็นวิธีที่ผิด ถ้าสายระเบิดก็เปลี่ยนสายใหม่เลยครับ
แล้วทำการ Vacumm+เติมน้ำยาแอร์ เข้าไปใหม่ครับ
3. ความผิดนี้ซึ่งไม่เกิดจากตัวเราเองครับ เนื่องจากเป็นความไม่รอบครอบของช่างครับ
มีปัญหาอะไรแจ้ง สคบ. เลยครับ

 

รถติดแล้วไม่เย็น

สอบถามครับ เข้ามาอ่านนานแล้ว พอดีแอร์รถผมมีปัญหา
ตอนแรกมันไม่เย็นเลย (เป็นรถที่ญาติให้มาใช้น่ะครับ)
ไปให้ช่างดูเป็นร้านที่รู้จักกับเพื่อนอีกที สรุปว่าตู้แอร์ และ
สายที่ต่อมาจากคอมรั่ว เลยสรุปว่าต้องเปลี่ยน จ่ายไป 3,200 บาท
หลังจากนั้น แอร์ก็ทำงานเกือบปกติ แต่เวลาขับไปเจอรถติด
แอร์จะไม่ทำงาน แต่ตอนรถวิ่งเร็วๆ ก็ทำงานปกติ เย็นดี
ลงไปเปิดกระโปรงดูพัดลมทำงานทั้งสองตัว แต่ไม่ทราบว่า
หมุนช้าลงหรือเปล่า เพราะพอดีรถออก เลยต้องรีบขึ้น
ผมลองเอา น้ำยาล้างห้องน้ำวิม มาล้างแผงคอยล์ความร้อน
ก็ยังมีอาการเหมือนเดิม เช็คดูน้ำยาแอร์ก็มีในระบบ
รถผม toyota corolla ปี 94 EE101 เครื่อง 4e-fe

มีคำถามดังนี้ครับ
1. ผมจะตรวจสอบและหาวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาที่บอกได้อย่างไรบ้างอีก
2. น้ำยาแอร์ที่รถผมใช้ เป็นแบบไหน แล้วจะเปลี่ยนไป
ใช้แบบไหนที่ดีกว่าได้บ้าง
3. ควรติดพัดลมเพิ่มที่แถวหน้ารถช่วยให้แอร์เย็นขึ้นหรือไม่
(ตามที่คุณเตอร์เคยแนะนำรถแบบอื่น)
4. ราคา 3,200 แพงไปหรือไม่ครับ พอดีผมไม่ได้ไปดูช่างด้วยตนเอง
เพราะต้องทำงาน เพื่อนเป็นคนเอาไปให้ เลยไม่รู้เค้าทำไรให้บ้าง
เพิ่งมาอ่านกระทู้ของคุณเตอร์เมื่อทำไปแล้วน่ะครับ

รบกวนด้วยครับ

 

พอดีไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวันแล้ว งานยุ่งมากๆ เลยครับ ขอบคุณ คุณลีที่เข้ามาช่วยตอบด้วยนครับ

ที่บอกว่ารถติดนั้นแอร์ไม่ทำงาน ให้สังเกตุดูที่คอมแอร์ว่าทำงานหรือเปล่า หน้าคลัสคอมแอร์จับกับมูเล่หรือเปล่า

1. ต้องเช็คดูว่าคอมแอร์นั้น ไม่มีแรงอัดหรือเปล่า (หลวม) ต้องเร่งเครื่องยนต์รอบสูงถึงจะเย็นใช่หรือเปล่าครับ
2. รถคุณปี 94 น่าจะใช้น้ำยาแอร์ R12 นะครับ สังเกตุร้านที่คนเข้าเยอะๆ หรือถามคนรู้จักกันดูว่าร้านไหนทำแล้วแอร์เย็น ใช้ได้นานเลยประมาณนี้อะครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไว้ในกระทู้แรกๆ ว่าน้ำยาแอร์ผสม(ปลอม) เยอะมากๆๆ ถ้าเจอน้ำยาแอร์ผสม (ปลอม) ก็จะเย็นแบบไม่100% อะคับ
3. ถ้ามีพัดลม 2 ตัวแล้วผมว่าไม่จำเป็นนะครับ ลองให้ช่างไฟ เขาต่อพัดลมทั้ง 2 ตัว ผ่านรีเลย์ดูครับพัดลมน่าจะทำงานแรงกว่านี้ครับ
4. 3,200 บาท เป็นค่าอะไรมั่งคับ ถ้าสายท่อแอร์เป็นท่อยางอย่างเดียว ไม่น่าจะเกิน 300 บาทนะครับ (เอาอะไหล่ของเก่าที่เสียนั้น เขาคืนมาให้ดูด้วยหรือเปล่าครับ)

 

1.ผมจะรีบไปสังเกตุดูและจะมารายงานครับ
2. ถ้าผมใช้ R12 แล้วจะเปลี่ยนมาใช้แบบที่คุณเตอร์แนะนำได้มั๊ย cold134 ใช่หรือเปล่าครับ
3. ถ้าต่อพัดลมผ่านรีเลย์ จะทำให้เย็นขึ้นใช่มั๊ยครับ แล้วมีข้อเสียอะไรหรือเปล่า นอกจากค่าจ้างช่าง แล้วทำเองได้หรือไม่ครับ มีขั้นตอนยังไง
4. 3,200 บาท เป็นค่าตู้แอร์ใหม่ ซึ่งไม่ทราบว่ามือ 1 หรือ 2 ของแท้หรือเทียม แทนของเดิมที่รั่ว กับสายท่อแอร์ ทั้งสองอย่างมีอะไหล่เก่ามาให้ดู และคิดว่าคงรวมไปถึงค่าน้ำยาต่างๆด้วย

แล้วยังไงจะรีบมารายงานจากการสังเกตุครับ

 

- คุณลองถามเญาติคุณที่คุณเคยไปเซ่อมแอร์มานะครับ ว่าได้เปลี่ยนวาวล์แอร์รึเปล่า
ที่จริงถ้าเปลี่ยนคอลย์เย็นแล้วควรเปลี่ยนวาวล์แอร์ไปด้วยเลยครับ
อีกอย่างครับคอลย์มีรับประกันรึป่าว อย่างต่ำๆเลยต้อง 6 เดือนครับ
- ผมเดาๆว่าน่าจะเป็นคอลย์เทียมนะ แต่อันนี้ผมก็บอกไม่ได้ครับเพราะว่าผมไม่ได้เห็นกับตา
วิธีสังเกตว่าคอลย์แท้หรือเทียมก็สังเกตง่ายๆว่า
ของแท้ช่องว่างระหว่างซี่มันจะถี่ครับ ของเทียมช่องระหว่างซี่มันจะห่างครับ
- อย่าเพิ่งเข้าใจผิดเรื่องน้ำยาแอร์กันนะครับ ระหว่าง 134A กับ R12 ไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะครับ
ระบบไหนก็ต้องใช้น้ำยาให้ถูกต้องตามระบบของมันนะครับ
ที่สำคัญมากๆ ที่ผมอยากย้ำเป็นพิเศษเลย เรื่องน้ำยาแอร์ อย่าเติมน้ำยาแอร์ที่เป็นน้ำยาผสมนะครับ
รถคุณอาจจะไฟไหม้ได้นะครับ ซึ่งทางร้านผมจะเน้นย้ำเรื่องน้ำยาแอร์เป็นอย่างพิเศษ
ใช้คุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการไม่ผิดหวังในการบริการทางร้านครับ
และน้ำยาที่ทางร้านผมใช้อยู่ซึ่งคุณเตอร์ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายด้วยครับ

 

เมื่อวานผมโทรไปสอบถามที่ร้านคุณ Lee@CityMaNia
เรื่องเปลี่ยนคอมมือ 2 ของเครื่อง b 16a ที่ร้านคิด 5-6000 บาท แบบจบๆเลย (ราคานี้โอเคครับดีกว่าเสี่ยงซื้อคอมเซียงกงแล้วมาทำเอง)
แต่ผมกลัวว่ามันจะบานปลาย ผมไม่แน่ใจว่าคอยล์เย็นมันจะรั่วด้วยรึป่าครับ แล้ววาล์วจะตายรึยัง ท่อน้ำยาจะรั่วมั๊ย
ป.ล. ไม่มีส่วนลดสำหรับชาว rcweb บ้าง หรอครับ

 

-ได้ติดต่อสอบถามไป ทางญาติบอกว่าไม่ได้เปลี่ยนวาล์วแอร์ครับ ส่วนเรื่องรับประกัน ผมไม่กล้าถามต่อ
เพราะว่าตอนที่ผมไปซ่อม ไม่ได้ไปเองโดยวานญาติคนนี้ไปให้ เพราะผมต้องไปทำงาน เป็นหนี้บุญคุณเค้า
เกรงว่า ไปถามเซ้าซี้มากเข้า เค้าจะคิดว่า นี่ซ่อมก็ไปจัดการ แล้วยังมาอะไรอีก สู้แบบนี้ไม่ทำดีกว่า ทำนอง
นั้นน่ะครับ เลยไม่ได้ถามต่อ คาดว่าคราวหน้าซ่อมอะไรอีกคงจะจัดการเองครับ
-ส่วนเรื่องคอยล์เย็น เป็นตัวเดียวกับที่ผมเรียกว่าตู้แอร์ใช่มั๊ยครับ ที่อยู่บริเวณหัวเข่าของคนนั่งด้านซ้าย
ในห้องเครื่อง พอดีผมยังอ่อนหัดทางเรื่องนี้อย่างมาก เลยเรียกชื่อที่น่าจะเป็นไปได้ ยังไงเดี๋ยวผมจะลองหา
ทางแกะออกมากเทียบกับอะไหล่เก่าที่ช่างคืนมาดู ว่าเป็นของเทียมหรือแท้ แล้วคุณภาพที่ได้รับมันต่างกัน
มากมั๊ยครับ ระหว่างเทียมกับแท้
-เรื่องน้ำยา สรุปว่า ผมต้องเติมแต่ R12 เท่านั้นใช่มั๊ยครับ

ขอบคุณคุณลีมากครับ ยังไงแนะนำด้วย แล้วจะมารายงานการตรวจสอบครับ

 

- R12 นั้นสามารถเปลี่ยนมาใช้ Cold 12 (สารทดแทน R12) ได้ครับผม
- R134a นั้นสามารถเปลี่ยนมาใช้ Cold134 (สารทดแทน R134a ตัวปัจุจบันครับ)

R12 มีส่วนประกอบของ CFC ซึ่งทำให้ชั้นบรรยากาศโอโซนเป็นรู จึงทำให้โลกมีอุณหภูมิความร้อนที่รับจากดวงอาทิตย์นั้นเต็มที่เกือบ 100% (จากที่ผมฟังข่าวมา ภูเขาน้ำแข็งที่ขั่วโลกเหนือนั้น มีการละลายเร็วกว่าปรกติมาก เทียบกับปีที่แล้ว)

R134a มีส่วนประกอบของสาร HCFC ซึ่งผลกระทบที่ตามมานั้นคือ จะทำให้พิ้นโลกมีความร้อนสูงขึ้นครับ

สารทำความเย็นทดแทน (Hydrocarbon Refrigerant) สารนี้ได้มาจากธรรมชาติ 100% โดยไม่มีส่วนผสมของสารเคมีเลย จึงไม่มีผลเสียต่อบรรยากาศโลก (ผ่าน ISO 14000 ครับ) ผมได้นำสารทำความเย็นทดแทนนี้ เข้ามาจากฝั่งยุโรปเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปขายต่อ เกือบทุกประเทศในโซนเอเซียครับ โดยใช้ชื่อในทางการค้าว่า COLD12, COLD134 , COLD22

- พัดลมต่อผ่านรีเลย์ก็เพื่อให้กระแสไฟที่เข้าสู่ตัวพัดลมนั้นได้เต็มที่ และกระแสไฟคงที่ครับ ถ้าเกิดพัดลมไม่ได้มีการต่อสายไฟผ่านรีเลย์นั้น กระแสไฟก็จะถูกแชร์ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยนต์ครับ มอเตอร์พัดลมก็จะได้กระแสไฟไม่เต็มที่ ทำงานได้ไม่เต็ม 100% (ผมอ่านจากที่คุณบอกว่าพัดลม 2 ตัวหน้ารถทำงานเบาๆ อะคับเลยแนะนำให้เช็คดูว่า ผ่านรีเลย์หรือยัง) การต่อนั้นไม่ยากนะครับ (ผมจำไม่ได้ว่าต้องผ่านขั่วไหน แล้วต่อจากขั่วไหนต่อ) แนะนำให้ไป ร้านพวกติดตั้งไดนาโม,ไดชาร์ช ต่อให้ก็ได้ครับไม่น่าเกิน 300 บาทนะครับ

 

เรื่องราคาไม่มีปัญหาครับ ลองเข้ามาคุยกันก่อนได้
(คอมร้านผมถึงแม้จะเป็นมือ 2 แต่มีรับประกันด้วยนะครับ) มาซ่อมแล้วผมก็อยากให้ความประทับใจกลับไปครับ ไม่ใช่เสียเงินไปแล้วแอร์ไม่เย็นจะทำให้เสียดายเงินกับค่าซ่อมป่าวๆครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าดีครับ ทุกคนที่มาทำก็อยากได้สิ่งที่ดีกลับไป

ส่วนเรื่องคอลย์เย็นไม่มีปัญหาครับทางร้านผมมีเครื่องเช็คการรั่วครับ ถ้ามีการรั่วที่ไหนเครื่องเช็คจะทำการร้องขึ้นมาทันทีครับ เรื่องแอร์นี้ผมต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดมากๆนะครับ ถ้าช่างไม่รอบคอบตรวจสอบตามจุดต่างๆไม่ดี เกิดมีการรั่วแค่ไหนเติมน้ำยาแอร์แค่ไหนก็หมดครับ เพราะฉะนั้นทางร้านผมจะปล่อยรถออกไปแต่ละคันจึงต้องทำการเช็คเพื่อความแน่ใจว่าอุปกรณ์ในทุกๆชิ้นส่วนปกติดีไม่มีรอยรั่ว ทำแล้วก็ไม่อยากให้ลูกค้ากลับมาแก้ไขอีก สู้ทำทีเดียวตรวจละเอียดๆรอบคอบที่เดียวจบเลยดีกว่ามานั่งถอดเข้าออกหลายๆที รถช้ำหมดครับ

 

คอมมือ 2 มีใบรับประกัน พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกเนี่ยฮะ ไม่เคยเจอร้านไหน ขายคอมมือ 2 แล้วมีใบรัปประกันให้ลูกค้าเลยแฮะ...ดีมากเลยครับ ให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าดีคับ

ตามนั้นเลยคร้าบ....

 

พอดีวันนี้ผมเห็น พนักงานที่บริษัทฯ เขากำลัง test น้ำยาแอร์ R12 ก่อนจะไปส่งลูกค้า ผมเลยเอาถ่ายภาพเครื่องเช็คน้ำยาแอร์มาให้ดูครับ
- ถ้าเป็นน้ำยาแอร์ผสม เครื่องมันก็จะฟ้องออกมาเลยว่ามีน้ำยาแอร์เบอร์ไหนผสมกี่ % คับ
- ที่ผมเขียนในกระทู้แรกๆ เลยที่ว่า พ่อค้าคนกลางบางคนเอา ผสมแล้วใส่ถัง เพื่อจัดส่งให้กับร้านซ่อมแอร์ทั่วไปคับ
น้ำยาแอร์บ้าน(R22) + น้ำยาแอร์รถยนต์(R12)

ราคาน้ำยาแอร์ตามร้านขายปลีกจะอยู่ที่
R22 ก.ก. ละ 110 บาท
R12 ก.ก. ละ 380 บาท

อันนี้ที่ผมขอยกตัวอย่าง บางร้านที่มีช่างซ่อมแอร์มีคุณธรรมในอาชีพช่างแอร์นะครับ
(พวกช่างแอร์ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องแอร์จริงๆ แล้วซ่อมมั่วๆ โกงลูกค้าผมไม่ขอกล่าวถึงนะครับ...คนพวกนี้อย่าไปเรียกว่า ช่างแอร์ครับ ต้องเรียกว่า ช่าง..แม่ง)

- อย่างที่ผมบอกในกระทู้แรกๆ อะครับ ว่าร้านซ่อมแอร์ ทั่วไปจะไม่มีเครื่องเช็คน้ำยาแอร์ บางทีช่างซ่อมก็ไม่รู้หลอกครับว่า ถังน้ำยาแอร์ที่ตัวเองซื้อมานั้นเป็น น้ำยาแอร์ของจริงหรือน้ำยาแอร์ผสม เลยทำให้ซ่อมให้กับลูกค้าไม่เย็นบ้าง,หาที่รั่วไม่เจอมั่ง สรุปคือ...ซวยครับ ลูกค้าก็จะพูดกันปากต่อปาก ว่าร้านนี้ซ่อมแอร์ไม่ดี อะไรปะมานนี้อะครับ

 

แอร์เย็นไม่ฉ่ำ ตอนเบาเครื่อง แล้วมาเย็นตอนวิ่ง พัดลมทำงานดี แผงระบายสะอาด น้ำยาแอร์เต็มพอดี

อันนี้น่าจะลองเชคความตึงของสายพานคอมเพรสเซอร์ด้วยนะ
หากหย่อน หรือเสื่อม สายพานมันจะลื่น ไม่จับ คอมเพรสเซอร์ก็หมุนไม่เต็มที่ แอร์เลยไม่เย็นดี กคง็ต้องเปลี่ยนสายพานแอร์ หรือไม่ก็ขันเร่งสายพานให้ตึงดู

บางทีตัวเทอร์โมแอร์อาจเสียด้วย เชคดูครับ


สายระเบิด มองได้ 2 กรณีครับ ถ้าช่างไม่ชุ่ยนะ

1.น้ำยาแอร์อัดหรือชาร์ทเข้าไปในระบบมากเกินไป
ปกติการชาร์ทหรือการเติมน้ำยา จะไม่ได้เติมจนใสปิ๊งยังงั้น เพราะ ถ้าใส่ แล้วลองเอาน้ำราดใส่แผงร้อน แล้วไปมองที่กระจกตาแมว ยังใส แรงดันตอนนั้นสูงเกิน 400 ปอนด์

สายยางแอร์มาตรฐานทนได้ 500 ปอนด์เศษ ถ้าเป็นสายที่ช่างใช้เครื่องมืออัดหัวสายเอง อาจทนไม่ถึง เกิดรถวิ่งๆไป สังเกตได้ครับ ถ้าน้ำยามากเกินไป แอร์จะไม่เย็น

แล้วหากเร่งเครื่อง ก็เป็นการเร่งความดันในสายร้อนจากคอมฯไปแผงสูงกว่าเดิม ก็ บึ็มครับ

เป็นไปได้ข้อแรก

2. ระบบอาจตัน ที่วาวล์กับกรองน้ำยาแอร์ หากแว๊กไม่ดีความชื้นเข้า ระบบก็ตัน ต้องแว๊กคั่มใหม่เติมน้ำยาใหม่จะหาย แต่กรณีแอร์รั่ว โดยเฉพาะคอมแอร์นั้น หากรั่วหมด แล้วพอรถวิ่งเปิดแอร์คอมทำงาน คอมเพรสเซอร์จะดูดเอาสิ่งสกปรกเข้าไปในระบบทางเดินแอร์ด้วย เช่นฝุ่นดิน น้ำมันเครื่อง ไม่ก็ยางโอริงที่สึกขาด และคราบเกลือแกงที่เกิดจากการกัดกร่อน ของความชื้นที่เข้าไปภายในสายแป๊บ เมื่อมีความชื้นเข้าไปในระบบ พวกนี้เป้นตัวทำให้แอร์ตันต่อเนื่องหมดครับ หากถอดเออกมา น้ำมันคอมจะเป็นสีดำำแล้วมีเศษยางโอริง เศษโลหะอลูมิเนียมเป็นผงๆ ถ้าคอมรั่วแล้วใช้งานต่อระยะยาว คอมน็อก น้ำมันแห้ง ภายในสายยางแป๊ปแอร์ ก็ดำ แล้วอาจมีกลิ่นแปลกๆอีก


เพราะการเคลมคอมเพรสเซอร์จากศูนย์ ต้องมีการเปลี่ยนกรองน้ำยาด้วย เพราะแอร์รั่ว ความชื้นเข้าไปจับตันในซิลิกาเจลไปแล้ว ปกติแล้วหากแอร์ไม่รั่ว กรองน้ำยา จะใช้ได้ถึง 30000 กม..เลยครับ ไม่เปลี่ยนก็ได้ แต่ต้องเชคกรองว่า ตันไหม ไม่ตัน ก็ใส่กลับ แล้วก่อนใส่คืนต้องไล่ความชื้นให้หมดก่อน

หากแอร์รั่วขึ้นมา ยังไงก็ต้องต้องเปลี่ยนกรอง ล้างระบบแอร์ใหม่ให้สะอาดแล้วแว๊กเติมน้ำยาแอร์ใหม่

(กรณีใช้กรองสำหรับ R12จะเป็นสารดูดความชื้นพวกซิลิกาเจล ถ้าเป็นR134จะใช้ซีโอไลต์ ) ดูดน้ำจนอิ่มตัวแล้วพองออกก็ว่างั้นเถอะ มันก็ไปตันระบบเลยครับ น้ำยาไม่ไป คือแอร์ไม่เย็นอีก แต่โอกาสที่สายจะระเบิตจากช่วงคอมแอร์ถึงกรองน้ำยา ก็ยากหน่อย ถ้าไม่ตันสนิทเหมือนตันที่วาวล์แอร์


สรุป 2 ข้อครับ
1. น้ำยาแอร์อัดเยอะเกินไป
2.ระบบตันที่วาวล์

 

รบกวนสอบถามเกี่ยวกับแหล่งที่เขาขายคอมแอร์หน่อยครับ
เอาทั้งแบบบิ้วและแบบมือ1

 

ดีครับ ใครมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องแอร์ ก็เข้ามาช่วยๆ กันตอบ เพื่อนๆ อีกหลายๆ คนจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดครับ

ขอเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

- กรณีสายพานหย่อน หรือหมดสภาพ หรือสายพานจับกับมูเล่แอร์ไม่อยู่ ก็จะมีเสียงดัง..เอี้ยดๆๆ ในห้องเครื่องยนต์ครับ ลองได้โดย ถ้าได้ยินเสียงนี้เมื่อไรให้ กดปุ่ม A/C แล้วเสียงเงียบไป หรือกดปุ๋ม A/C ให้ทำงานแล้วก็มีเสียงดังกล่าว ก็ให้แก้ไขตั้งสายพานใหม่ครับ ถ้าตึ่งมากเกินไปก็ไม่จับเมื่อกันนะครับ
ถ้าแก้ไม่หาย ให้หาซื้อสายพานที่เป็นร่องตะขาบใส่แทนครับ

- โดยปรกติแล้ว ตัวคอมเพรส์เซอร์แอร์รถยนต์ใหม่ทุกตัว จะมี วาวร์เซฟตี้ ติดที่ตัวคอม ถ้าแรงดันสูงผิดปรกติ ตัว เซฟตี้วาวร์นี้จะทำงานโดยการ โบล์น้ำยาแอร์ออกมา เพื่อป้องกันชิ้นส่วนอื่นระเบิดเช่น สายท่อแอร์,แฝงคอล์ยร้อนรอยเชื่อมข้อต่อต่างของแฝง

 

ตามร้านขายอะไหล่แอร์ทั่วไปได้เลยครับ มีให้เลือกทั้ง 2 อย่างครับ
ถ้าไม่มีของก็คุยกับทางเจ้าของร้าน ให้สั่งคอมตามรุ่นของรถมาให้ได้ครับ

ถ้าเป็นแหล่งคอมแอร์มือหนึ่ง ก็จะสั่งซื้อบริษัทฯ ที่เป็นตัวแทนขายในประเทศไทยของยี้ห้อคอมแอร์นั้นๆครับ แต่ถ้าไปซื้อ ตัวเดียวก็จะได้ราคาสูง เพราะถ้าสั่งซื้อผ่านตามร้านขายอะไหล่แอร์ อาจจะได้ราคาถูกกว่า เพราะร้านจะได้ส่วนลดจากการสั่งซื้อคอมแอร์จำนวนมากๆอยู่แล้วครับ

แหล่งขายคอมบิ้วไม่น่าจะมีนะครับเท่าที่ทราบ จะเป็นโรงงานซ่อมคอมเก่าเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย แล้วนำมาทำสีใหม่ จนคอมแอร์เป็นสภาพใหม่ (คอมบิ้ว) พวกนี้เขาจะขายให้ร้านอะไหล่แอร์อย่างเดียวครับ

 

ผมใช้ honda city อยู่นะครับเมื่อวานก็ใช้รถก็แอร์เย็นปกตินะครับ พออีกวันมาใช้ตอนนี้รถผมเปิดแอร์ มันมีแต่ลมร้อนออกมานะครับ ลองไปดูที่ตาแมว มันก็ไม่มีฟองอากาศ หรือ มีลักษณะขุ่นเลยนะครับ มันจะใสไม่มีอะไรข้างใน ตาแมวเลยนะครับ ผมมองดูหน้าครัชคอมแอร์ก็ไม่จับนะครับ พัดลมก็ไม่ทำงานครับ ก็เลยงงๆๆว่าเป็นอะไรนะครับ
รบกวนพี่ๆๆช่วย ชี้แนะด้วยนะครับ

 

น้ำยาแอร์ไม่มีเลยหรือเปล่าครับ...ผมก็เจอกะรถผมเองนึกว่าคอมพังพอเอาเกร์ใส่ ปรากฎว่าน้ำยาแอร์ไม่มีเลย พอเติมเข้าไปแอร์ก็ทำงานปรกติครับ ลองหาจุดที่เติมน้ำยาแอร์ดูนะครับ มันจะมีหัวพลาสติกสีฟ้า เขียวว่า L ลองไขออกมาแล้วเอา อะไรก็ได้กดลงดู เบาๆนะครับ(มันเป็นหัววาว์รลูกศร) กดดูว่ามีน้ำยาแอร์พุ่งออกมาเยอะหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้อง ทำการเวคและ เติมน้ำยาแอร์เพิ่มเข้าไปใหม่อะครับ อย่าลืมหาที่รั่วด้วยนะครับ

 

แหะๆๆ
ไม่ทราบว่าเห็น ช่างเขาหยดน้ำมันจักรซิงเกอร์เข้าคอมแอร์ เยอะหรือเปล่าครับ ถ้าไม่เยอะก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าทีหลังเห็นช่างเขาทำอย่างนี้อีก.....คุณก็เดินไปแล้ว ตบกระบานซะทีหนึ่งฮะ (ช่างจะได้จำไม่ซี้ซั่วทำกับรถคันอื่นอีก)
ผมคิดว่ามี 2 เหตุผลที่เขาหยดนะฮะ
- อาจจะหยดลูกปืนคอมแอร์,หยดตอนประกอบมูเลย์เข้ากับแกนก็ได้มั่งฮะ จะได้ลื่นๆๆ
- คอมอาจจะเสียงดัง เลยหยดไปหน่อยเผื่อลูกสูบมันจะลื่นขึ้น

ยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เป็นเรื่องจริงนะครับ
- ก่อนหน้านี้ประมาณ 9-10 ปีได้ฮะ ช่วงนั้นผมใช้ honda civic EG ประมาณว่าว่างและชอบทดสอบอะไรแปลกๆนะคับ ผมเอาน้ำมันจักรซิงเกอร์ ทากับเหล็ก 2 แผ่นแล้วลองประกบกัน แล้วถูกันดู...เฮ้ยมันลื่นดีว่ะ...แล้วนึกขึ้นได้ว่า เคยใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้อ Red Line แล้วสังเกตุน้ำมันมันใส,เหลว เหมือนๆกะน้ำมันซิงเกอร์เลยว่ะ
- ผมเลยเอาน้ำมันซิงเกอร์ 2 ขวด ใส่เข้าไปในเครื่องยนต์เดิมติดรถ 1,600 C.C. หัวฉีด จากนั้นผมสังเกตุอยู่ 2-3 วัน รู้สึกว่าเหยียบคันเร่ง รอบเครื่องมันมาเร็วกว่าปรกติ จากนั้นผมก็ทดสอบใหม่โดยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่แล้วใส่ น้ำมันจักรซิงเกอร์เข้าไป 2 ขวด ใช้ไปเดือนกว่าๆ ก็ไม่มีผลอะไรคับ แล้วก็ลองใหม่อีกทีโดยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่แล้วใช้รถไปซักอาทิตย์หนึ่ง แล้วค่อยใส่น้ำมันซิงเกอร์เข้าไป ปรากฎว่าเร่งเครื่องแล้วรอบมาเร็วกว่าปรกติแฮะ จากนั้นผมก็ใส่น้ำมันซิงเกอร์มาตลอดเลยฮะ บอกเพื่อนๆกันไม่มีใครเชื่อ ผมเลยให้เพื่อนเดินไปซื้อน้ำมันจักรซิงเกอร์มาแล้วเทใส่เครื่องยนต์ให้มันเห็นต่อหน้าเลย มันเห็นแล้ว งงๆๆ มันถามผมว่า...เมิงบ้าเปล่าวะ ผมทำอย่างนี้ติดกันมา 4 ปีได้มั่ง รถก็วิ่งได้ถึง 180 km นะคับ

- แล้วการทดลองของผมก็มาถึงคร่าวซวย ที่บ้านซื้อเครื่องอิงค์เจ็ทไว้ยิงสินค้า (เครื่องพิมพ์ วันเดือนปี ตามกระป๋องโค้กอ่ะคับ) แล้วมันมี สารชะล้างคราบหมึกนี้ เรียกว่า โซเว้น Solvent ถามช่างเครื่องหมึกมันคืออะไร เขาบอกว่ามันเป็นหัวของน้ำมันเบนซิล (ผมก็โง่เชื่อมัน) เลยลองเทลงพื้นแล้วจุดไฟ ปรากฎว่าไฟมันลุกดีว่ะ เลยทะลึ่งเอาไปใส่ในถังน้ำมันรถผมเอง กะว่าแรงแน่ๆ เติมเข้าไปแค่ 1 ขวดกระทิงแดงเองนะครับ 2 วันครับ แคมชารพ์ละลาย เสื้อสูบแตก โคตรเซ็งเลยคับ มารู้ตอนหลังว่า สารโซเวน Solvent คือกากน้ำมันสุดถ่ายจากการกลั่น

เล่าให้ฟังเฉยๆ นะครับ ไม่ได้แนะนำให้ใครไปทำตามนะครับ

 

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยนะครับ ว่าสุดยอดมากๆ เลยครับ เพิ่งจะเข้ามาอ่านครั้งแรก ไม่รู้ว่ามีเซียนแอร์รถยนต์ตัวจริงอยู่ที่นี่ด้วย งั้นผมขอสอบถามนิดนึงนะครับ
-รถเปลี่ยนเครื่อง มา 2 ปี (เครื่องปี 98) ตั้งแต่วางมาเรื่องแอร์หมดห่วงครับ เย็นทุกสถานการณ์ คอมแอร์ก็ทำงานเงียบปกติ ผ่านไปเกือบ 1 ปี เริ่มไม่ค่อยเย็น เข้าร้านแอร์ เปลี่ยนตู้แอร์ 3 พันกว่าบาท หลังจากนั้นก็เย็นปกติเหมือนเดิม แต่เสียงคอมแอร์เริ่มดังขึ้นๆๆๆ จนมาล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว เริ่มมีเสียงฟี๊ดๆ แถวๆ ตู้ คอยล์เย็น กลางวัน แดดจัดๆ รถติดๆ แอร์ไม่ค่อยเย็น เวลารถวิ่งถึงจะเย็น กลับไปร้านเจอรอยรั่วๆ ตรงข้อต่อ จากไดเออร์เข้าแผงคอยล์ร้อน ช่างก็เปลี่ยน ท่อ ละก็ แว๊ค(แป๊บเดียว) เติมน้ำยาใหม่กลับมาเย็นปกติ แต่ช่างบอกว่า เย็นยังไม่ เต็มที่ คอมเริ่มไม่ดี ละก็ วาวล์แอร์เริ่มตัน มีคำถามครับ
1. น้ำยาแอร์ เป็นเบอร์ R134 รึป่าวครับ
2. ตู้แอร์ 3 พัน กว่า ของแท้หรือเทียมครับ
3. เสียงคอมแอร์ที่ดัง น่าจะเป็นที่อะไรครับ(ซัดรถไม่ได้ปิดแอร์บ่อย เกี่ยวมั๊ยครับ) เพราะมันก็เย็นปกติ และถ้าเราหาซื้อคอมแอร์ตามเชียงกงเอง ทดสอบอะไรบ้างครับ
4. เสียง ฟี๊ดๆ นี่น่าจะมาจากเสียงวาล์แอร์รึป่าวครับ
5. ครั้งหน้าถ้าจะเปลี่ยนคอมแอร์ ช่วยแนะนำว่า ควรจะเปลี่ยนหรือทำอะไรบ้างครับ ราคาทั้งหมดคร่าวๆ ประมาณเท่าไหร่ครับ อาจจะได้มีโอกาสไปใช้บริการร้านคุณ LEE

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ

รถผม ช่างเค้าต่อ A/C เข้ากะพัดลมเลยอ่ะครับ จะใช้วิธีถนอมแอร์ยังงัย แล้วต่อวิธีนี้ จะมีผลเสียอะไรอ่ะป่าว