งานเข้าแล้วพี่จินนี่ เรื่องแอร์บ้านนี่ผมก็มือใหม่หัดเเติมเหมือนกันครับพี่ แต่สงสัยว่าทำไมกระแสมันสวิงกว้างจับครับ 2.5-3.4A นี่มันตั้ง 1 A เลยครับ แอร์ mitsu mr.slim 9000 btu ที่บ้าน ก็กินประมาณ 3.3 A นิ่งๆ หรือถ้าสวิงก็ไม่เกิน 0.1 A ครับ แต่ก่อนทำมันก็สวิงเหมือนกัน มันคงเป็นแบบนี้เองครับ ถ้าของเดิมเย็นดีอยู่แล้ว โดยกินกระแสแค่ 2.4-3.2 A ผมว่าตอนนี้น่าจะเติมน้ำยาเกินนะครับพี่ ลองปล่อยออกวันละนิดครับ (ดูกระแสกับเกจประกอบกัน) ห้องตอนที่เปิดพัดลมแรงสุดวัดอุณหภูมิลมเย็น ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดไหมครับพี่ ?? แอร์บ้านกับแอร์รถ ต่างกันตรงที่แอร์บ้าน ห้องมันกว้างกว่าในรถเยอะ ทำให้กว่าอุณหภุมิลดลงทีละองศานี่รอกันเป็น 10 นาทีเลย ส่วนมากผมเลยจะเปิดแอร์ ปิดห้อง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนแล้วค่อยมาเติมน้ำยาแอร์อีกที รอให้ห้องเย็นได้ที่ก่อนแล้วค่อยมาวัดลมเย็นว่าถ้าเติมแล้วกระแสไม่เกินแล้วลมออกยังลดลงอยู่ ก็เติมเพิ่มไปทีละน้อย ลองดูครับพี่ ผมว่าเติมคล้ายๆแอร์รถแต่เบื่อตรงต้องรอนานหน่อยนี่แหละครับ อาจจะมีวิธีสังเกตุอย่างอื่นที่ง่ายกว่านี้นะครับ รอพี่ยุทธ คุณเตอร์ พี่กบ พี่หน่อยหรือเซียนท่านอื่นๆมาเสริมอีกทีครับ น่าเสียดายที่พี่ทรัพย์หมดทุกข์ไปแล้ว ว่าจะให้พี่เค้าสอนเติมแอร์บ้านเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาส
เรื่อง HHO นี่เป็นกระทู้ที่เคย hot มากที่ gasthai ครับ แต่ตอนนี้เงียบไปแล้ว เพราะไม่ยอมบอกหลักการมาเสียที มีแต่หลักการตลาดคล้ายๆ MLM จึงไม่ค่อยมีคนสนใจแล้วครับ ถ้าจะติดจริงๆต้องหาข้อมูลดีๆก่อนตัดสินใจครับ
สวัสดีครับ พี่จินนี่ มือซนเหมือนผมเลย แต่ผมยอมแพ้พี่ครับ เพิ่งติดแอร์ไม่ถึงเดือนก็เอามาเล่นซะแล้ว ตอนผมซื้อน้ำยาแอร์บ้านจากคุณเตอร์ คุณเตอร์บอกว่าแอร์บ้านง่ายกว่าแอร์รถมาก เพราะรอบจะคงที่ ไม่เหมือนรถยนต์ที่รอบเครื่องมีขึ้น ๆ ลง ผมเลยหลวมตัวซื้อมาลองถังใหญ่เลย (cold22) พอซื้อมาจะหัดเติม ผมไม่กล้าเติมแอร์ของตัวเองครับ (555) ต้องอาศัยแอร์ของชาวบ้านเป็นหนูทดลองดีกว่า เติมแล้วถ้าไม่เย็นเจ้าของก็ไม่กล้าบ่น... เพราะดันเป็นลูกน้องผมที่ทำงาน แต่หลังจากเติมแล้วทดลองดู ก็เย็นดีนะครับ เจ้าของบ้านไม่เห็นบ่นอะไร ครั้งแรกที่เติมผมจะใช้ดูแรงดันควบคู่กับกระแส โดยเทียบกับน้ำยาตัวเดิม ผมจะพยายามเติมให้แรงดันใกล้เคียงของเดิม และกระแสลดลงประมาณ 20 % ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ เท่าที่อ่านดูแอร์พี่จินนี่แปลก ๆ นะครับ ทำไมกระแสมันแกว่งได้ เท่าที่ผมทำมาแอร์ที่ไม่ใช่อินเวอร์เตอร์มันจะกินกระแสนิ่ง ๆ เหมือนของคุณรุ่งครับ ส่วนตอนเติมน้ำยาตอนแรก ท่อลิควิดจะเป็นน้ำแข็งเหมือนกัน ต้องรอให้น้ำยาวิ่งเข้าไปกระจายเต็มในระบบก่อน แล้วพี่จินนี่มีการแว็คอากาศออกหลังจากปล่อยน้ำยา R12 หรือเปล่าครับ ผมเองก็เป็นมือใหม่เหมือนกัน รอให้ท่านอื่นลองเสนอความเห็นดีกว่า ตอนนี้แอร์อินเวอร์เตอร์ที่บ้านยังไม่เต็มร้อย กำลังคิดว่าจะปล่อยออกแล้วค่อย ๆ เติมเป็นสเต็ปแบบของคุณหน่อยครับ (ย้อนหลังไปซัก 2-3 หน้า) สุดท้ายถ้าไม่จบ ผมแนะนำไม้ตายคือ ถ้าไม่จบ เราแกล้งขันแฟร์ไม่แน่นให้น้ำยาหมด แล้วตามช่างบริการมาทำให้ เทคนิคนี้คุณยุทธสอนมาแบบอ้อม ๆ ครับ
หวัดดีครับ ขอสอบถามหน่อยน่ะครับ คือรถผม เปลี่ยนแผงคอยร้อน มา ประมาณ 2 เดือน ล่าสุด เ ช็คตาแมว ฟองขึ้นเยอะเหมือนกัน เมื่อวานเลยให้ร้านแอร์ ดู ว่ามีอะไรรั่วไหม ภายนอกแทบไม่มีอะไร รั่ว หรือ เยิ้ม แห้งสนิท คอยร้อย ผมก็ล้างเอง ขาวจั้ว ทางร้านแอร์ก็เลยบอก น่าจะเป็นคอยเย็น รั่ว สรุปผมก็เลย กะว่า จะไปหา คอยเย็นเชียงกง สภาพดี ๆ มาเปลี่ยน และให้ร้านแอร์ แว๊ก น้ำยาใหม่ ทั้งหมด ที่นี่เลยอยาก รู้น่ะครับ ว่า น้ำำยาแอร์ + น้ำมันคอม ควร ปริมาณเท่าไร จะได้ดูช่างทำ ได้ถูก ๆ น่ะครับ และก็สตาร์รถเปิดแอร์ใหม่ เสียงคอมดัง ช่วงแรกๆ มีวิธีดูไหมครับ ว่าน้ำมันคอม ที่เค้าจะเติมให้เรา เป็นของ เกรด ดี หรือ ไม่ดี แหม่ ถ้ามีขั้นตอน ว่าเค้าจะทำอะไรบ้างยิ่งดีเลยครับ ขอบคุณน่ะครับ
งานนี้คงได้มีการ D.I.Y. ระบบใหม่แน่...........จากที่ได้ทดลองเอาน้ำยาอาร์๑๒ เติมเข้าไป ผมว่าหากศึกษาและ D.I.Y. ที่วาวล์ให้ละเอียดลึกซึ้ง ผมว่างานนี้มีเฮตามาแน่(แต่จะเอาเวลาที่ไหนไปทำเนี่ย) แอร์ตัวนี้ วาวล์ฉีดมันดันอยู่ด้านนอกเฉย ผมว่าเราสามารถเล่นได้อีกเยอะทีเดียวเชียว งานนี้อย่างเก่งก็เสียเงินค่าแอร์ไป แต่น่าจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะตามมาอีกมากโขนะ แหะๆๆ ตอนนี้มันก็ตัดอยู่นะ ทำงานแค่ไม่ถึงนาที ตัดเป็นสิบนาทีเลย แต่ระบบนี้ผมก็เพิ่งเคยเห็นนี่ล่ะ แบบว่ามันสั่งคอมให้ทำงานฉีดน้ำยาเข้ามาในคอยล์เย็นก่อน แต่พัดลมคอยล์เย็นสั่งให้หยุดเฉย ทำงานประมาณ ๓๐ วินาที ถึงค่อยสั่งพัดลมคอยล์เย็นให้ทำงานซึ่งตอนนี้มันทำงานแค่นิดเดียว(ประมาณ๑๐วินาที)ก็ตัดแล้วเป็นอะไรที่เคยคิดไว้(เฉยๆว่าคงทำได้ยากมาก)แต่วันนี้เขาเอามาใส่ให้แล้วล่ะ (วิศวะกรคิดระบบนี้มาได้งัยเนี่ย อิอิ) ขนาดในรถ อีตอนคิดทดลองถอดสายไฟพัดลมออกขณะคอมทำงาน น้ำแข็งก็มาทันทีเลย ผมว่างานนี้เด๋วได้มีการทำแอร์บ้านให้ทะลุขีดจำกัดของโรงงานอีกแน่ๆ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกระแสมันแกว่งไปมาตลอดเวลา ขึ้นลงๆๆๆๆๆ แต่ก็ได้แต่เดาว่าวาวล์มันฉีดน้ำยาไม่เสม่ำเสมอหรือไม่ (อันนี้เดาเอานะถ้าใช่ล่ะก็ งานนี้ได้มีการD.I.Y.อีกบานแน่ มันส์แน่ๆ) แต่ที่ประทับใจก็คือแรงดันมันลดลงไปกว่าครึ่ง แต่ไหงความเย็นกลับไม่มา(ตอนที่ทดลองเอาอาร์๑๒ใส่เข้าไปนะ) แต่ลูกชายดันบอกว่ามันเย็นกว่าเดิม(ได้ไง) เราก็อยู่ข้างนอกไม่ได้เข้าไปดู อุณหภูมิลมเย็นออกจากคอยล์เย็น ๒๐ องศา กะ ๑๖ องศา ดันบอก ๒๐ องศาเย็นกว่า (ผมล่ะงง) เด๋วว่างได้มีการทดลองอีกยกแน่............... ตอนนี้ลองใช้ไปก่อน รึว่า........จาลองเอาคูล๒๒ใส่มันโลด......คุณเตอร์มีความเห็นทีว่าลองเลยดีไหม.....รึว่าให้ลองฝีกวิทยายุทธไปก่อนค่อยว่ากัน อิอิ เอาไปลองในจินนี่ มันก็ได้-๑๕.๕องศา แถมมีบึ้มตามมาอีก (แหะๆรถเกือบไหม้ทั้งคันที่สระบุรี ) เอามาลองในแอร์บ้านมันจาติดลบไหมเนี่ย อิอิอิ รออาจารย์ยุทธ กะอาจาร์เตอร์มาคอมเม้นท์ครับ ขอบคุณทุกความเห็นครับ ตอนนี้สภาพในปัจจุบัน ตั้งไว้ที่ ๒๗ องศา เวลานี้ตีสี่ยี่สิบหกนาที คอมทำงานก่อนสามสิบวินาที พอสั่งให้พัดลมทำงานแค่สิบวิมันก็ตัดแล้ว และก็เว้นระยะประมาณสิบนาทีถึงค่อยทำงานอีกที ประมาณว่าในหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้คอมแอร์ผมทำงานไม่ถึงสามนาทีครับ ที่จดบันทึกไว้ ใช้ไฟเฉลี่ยวันหนึ่งประมาณ ๒๐กว่าหน่วยถึง๓๐ต้นๆ ตอนนี้ได้ค่าเฉลี่ยลดลงมาประมาณ วันละ ๑๒ หน่วย (คำนวนจากการเปลี่ยนแอร์ตัวนี้ประมาณ๑๕ วัน) ค่าไฟเดือนหน้าลดลงเป็นพันแน่ครับ รายงานผลของการซุกซนเมื่อวันอาทิตย์ครับ ตอนนี้คงหาเวลาอีกนานกว่าจะไปซุกซนกะมันอีก ผมยังคิดว่าจะเอาวาวล์ในรถยนต์(คอนโทรลอาร์๑๒ เอาของโตต้านี่ล่ะ มาแปลงใส่มัน) แล้วก็ใช้น้ำยาอาร์๑๒แทนของเดิม หรือไม่ก็ลองทดลองใช้คูล๒๒ดูรอคุณเตอร์มาฟันธงอีกทีครับ
....ผมกลับมองมุมกลับครับพี่จินนี่ คิดว่าวิศวะกรเขาคงคิดวิธีที่จะประหยัดไฟ และคงจะทดลองมานานแล้ว คือการให้คอมทำงานฉีดน้ำยาแอร์เข้าแผงคอล์ย เย็นก่อนเพื่อให้คอล์ยเย็นมีความเย็นที่เร็วขึ้น และเมื่อถึงที่เวลาที่เช็ตค่าเอาไว้ ก็คอนโทรลให้พัดลมทำงานตามอีกที และเมื่อเวลาที่พัดลมทำงานแล้วก็จะพัด เอาลมเย็นๆออกมา...และเมื่อมีลมเย็นออกมาปะทะเข้ากับตัวเทอร์โมมิเตอร์ที่ ติดไว้หน้าแผงคอล์ยเย็น เมื่อได้ค่าอุณหภูมิที่เราตั้งเอาไว้ มันก็สั่งให้คอมตัด .....สรุปว่าเป็นการประหยัดไฟในช่วงเวลาเปิดแอร์ เพราะว่าช่วงแรกที่เราเปิดแอร์ มันจะใช้เวลานานมากกว่าจะได้อุณหภูมิที่เราตั้งเอาไว้(25องศา)สาเหตุมาจาก การที่เปิดแอร์ปุ๊บพัดลมเป่าคอล์ยเย็นปั๊บ กว่าคอล์ยเย็นจะทำความเย็นได้ที่มัน ต้องใช้เวลานาน....แต่ถ้าเป็นวิธีที่ให้พัดลมทำงานทีหลังอันนี้น่าจะworkสุดๆใน การย่นระยะเวลาในการทำความเย็นช่วงแรกที่เปิดแอร์....(ความคิดส่วนตัวครับ)
พี่จินนี่ชอบ R-12 จริงๆนะครับเนี่ย แต่โดยส่วนตัวผมก็ชอบเหมือนกันครับ รถที่บ้านก็จับเติม R-12 เกือบทุกคันแล้วครับ เหลือรถตู้ commuter อีกคันที่ยังไม่กล้ายุ่ง เพราะมันยังเย็นอยู่ และมีตู้แอร์หน้าหลังด้วย เลยยังไม่กล้าลอง ถ้าเริ่มไม่เย็นว่าจะเอา cold-12 ใส่อยู่เหมือนกัน ผมเคยมีความคิดจะเอาคอมแอร์รถ R-12 และแผงร้อนแผงแย็นของรถมาใช้ในบ้าน ตัวคอมใช้มอเตอร์ 220 ซัก 1/4 แรงม้าใช้สายพานขับ ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า เพื่อใช้ในบ้านเหมือนกันนะครับ แต่ก็ได้แค่คิดยังไม่กล้าทำจริงๆ คิดว่าถ้าทำจริงๆจะเย็นกว่า R-22 ไหมครับ พี่จินนี่นี่กล้าลองจริงๆครับ เอา R-12 เติมแอร์บ้าน ถ้าจะแปลงจริงๆคอมมันขับได้อยู่แล้ว เพราะ R12 มันแรงดันต่ำกว่า แต่น้ำมันคอมต้องเปลี่ยนให้ตรงกับน้ำยาไหมครับ ?? R-22 กับ R-12 น้ำมันคอมใช้แทนกันได้ไหมครับ ถ้าได้ก็แค่เปลี่ยน valve ฉีดน้ำยาคอล์ยเย็นอย่างเดียวก็น่าจะได้นะครับ
อย่าอิจฉาเลยครับ เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน วันนี้เหมือนไม่สบายแล้ว :cry::cry::cry: วันนี้แดดแรงจริง ๆ ตั้งอุณหภูมิ 26 เท่าเดิม แต่วัดในรถได้ประมาณ 23 องศาตลอด ยังไม่ว่างรื้อท่อเป่าเซ็นเซอร์มาดูเลย ก็อย่างทึ่คุณเตอร์บอกกระทู้ที่แล้วไงครับ คอมดี แผงสะอาด น้ำยาเจ๋ง ทำมั่ว ๆ ก็เย็นครับ
จริงๆแล้วตอนเติมR22 หรือcold 22 โดยการชั่งน้ำหนักเติมเมื่อน้ำหนักของน้ำยาได้ตามทฤษฏีแล้วแรงดันมันจะตกในช่วงระหว่าง 65-75ปอนด์ ต้องย้ำว่าการเติมโดยการชั่งน้ำหนักนะครับ โดยเติมเวลากลางวัน ถ้าวันไหนฝนตกเเรงดันก็จะลดลงมาเหลือ 65ถ้าแดดร้อนมันก้อจะขึ้นไป 75 ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหาเติมcold 22 กับแอร์ที่เดินท่อยาวๆ การชั่งน้ำหนักเติมบางครั้งอาจจะไม่จบต้องมีการชดชเยน้ำยาในท่อด้วยครับ แต่ตอนนี้ที่กำลังเล่นๆคือว่าพอทุกอย่างได้ตามทฤษฏีเย็นดีแล้วผมอยากลองอัดน้ำยาเข้าไปเพิ่มอีกทีละนิดๆๆๆ ผลปรากดว่า แรงดันด้านlo จะเพิ่มขึ้นอีกและการกินกระแสจะเพิ่มขึ้นอีก 0.1-.3 แอมครับ ถ้าตอนี้เรามีR600a แบบอัดกระป๋องขายก้อน่าสนใจครับ คุณเตอร์ ไม่ทราบว่าพอจะอนุเคราะห์ทำมาขายผมสักหน่อยได้ไหมครับ คือว่าผมอยากจะเอา R600aมาผสมกับcold 22 สัก5-10% เพื่อที่จะทำให้แรงดันด้านLo มันลดลงหน่อยครับและที่สำคัญอยากทดสอบสมมติฐานของพี่จินนี่ด้วยครับ ว่าน่าจะใช้ได้ครับสำหรับR12 ซึ่งแรงดันด้านlo ต่ำกว่า อาจจะอยู่ประมาณ สัก 30-50 psi แต่ไม่พอสำหรับแอร์บ้านอะครับ และที่สำคัญยามที่แรงดันด้านlo ของแอร์บ้านขึ้นไปถึง 75 การกินกระแสจะเริ่มพุ่งทันที ตอนนี้ชักอยากได้ R600a สัก กิโลครับทำไงดี มีใครช่วยอนุเคราะห์ได้บ้างไหมเนนี่ย
จุดเริ่มต้นของผมก็คล้าย ๆ เคสนี้ครับ เปลี่ยนคอมเองแต่จะจ้างร้านเขาแว็ค+เต็มน้ำมันคอม+เติมน้ำยาอาร์12 เขาคิด 650-800 บาท แต่มันหลายปีแล้วนะ ไปถาม 3 ร้านได้ราคานี้มา ต่อราคาอีก 50 บาทก็ไม่ยอมลดให้ แถมพูดจาไม่ดีใส่เราอีก ก็เลยซื้อเครื่องมือมาทำเองซะเลย ที่อยากแนะนำคืออย่าเพิ่งหาซื้อคอล์ยเย็นมาเปลี่ยนครับ ลองไปหาร้านแอร์แล้วอัดอากาศดูก่อน ถ้าทิ้งไว้แล้วแรงดันลดค่อยเชื่อว่ารั่ว(แต่ไม่รู้ใช่คอล์ยเย็นจริงหรือเปล่า) แต่ถ้าอัดอากาศแล้วแรงดันไม่ลด อาจเจอน้ำยาปลอมก็ได้ ผมเคยน้ำยาหายหมดภายใน 1 เดือนเพราะเจอน้ำยาแอร์ปลอม ส่วนคำถามอื่น ๆ รอท่านอื่นมาแนะนำก็แล้วกันครับ
จริงๆแล้วตอนเติมR22 หรือcold 22 โดยการชั่งน้ำหนักเติมเมื่อน้ำหนักของน้ำยาได้ตามทฤษฏีแล้วแรงดันมันจะตกในช่วงระหว่าง 65-75ปอนด์ ต้องย้ำว่าการเติมโดยการชั่งน้ำหนักนะครับ โดยเติมเวลากลางวัน ถ้าวันไหนฝนตกเเรงดันก็จะลดลงมาเหลือ 65ถ้าแดดร้อนมันก้อจะขึ้นไป 75 ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหาเติมcold 22 กับแอร์ที่เดินท่อยาวๆ การชั่งน้ำหนักเติมบางครั้งอาจจะไม่จบต้องมีการชดชเยน้ำยาในท่อด้วยครับ แต่ตอนนี้ที่กำลังเล่นๆคือว่าพอทุกอย่างได้ตามทฤษฏีเย็นดีแล้วผมอยากลองอัดน้ำยาเข้าไปเพิ่มอีกทีละนิดๆๆๆ ผลปรากดว่า แรงดันด้านlo จะเพิ่มขึ้นอีกและการกินกระแสจะเพิ่มขึ้นอีก 0.1-.3 แอมครับ ถ้าตอนี้เรามีR600a แบบอัดกระป๋องขายก้อน่าสนใจครับ คุณเตอร์ ไม่ทราบว่าพอจะอนุเคราะห์ทำมาขายผมสักหน่อยได้ไหมครับ คือว่าผมอยากจะเอา R600aมาผสมกับcold 22 สัก5-10% เพื่อที่จะทำให้แรงดันด้านLo มันลดลงหน่อยครับและที่สำคัญอยากทดสอบสมมติฐานของพี่จินนี่ด้วยครับ ว่าน่าจะใช้ได้ครับสำหรับR12 ซึ่งแรงดันด้านlo ต่ำกว่า อาจจะอยู่ประมาณ สัก 30-50 psi แต่ไม่พอสำหรับแอร์บ้านอะครับ และที่สำคัญยามที่แรงดันด้านlo ของแอร์บ้านขึ้นไปถึง 75 การกินกระแสจะเริ่มพุ่งทันที ตอนนี้ชักอยากได้ R600a สัก กิโลครับทำไงดี มีใครช่วยอนุเคราะห์ได้บ้างไหมเนนี่ย พี่จินนี่มีความเห็นเช่นไครับ ร่วมแสดงความเห้ฯได้ครับ ส่วนข้อสงสัยที่ผมมีความเห้นแบบนี้คือส่วนตัวปล่อยน้ำยาR 22 ที่มากับเครื่องไปร่วมๆ 15เครื่องแล้วครับ ผลที่สงสัยคือว่าเวลาเติมR 22 กลับเข้าไปนั้นกระแสจะกินมากกว่าน้ำ-ยาที่ติดมากับเครื่องครับ เลยพาลให้เราสงสัยว่าน้ำยาที่ติดมากะเครื่องนั้นอาจจะมีสารผสมอะไรสักตัวที่เพิ่มคุณสมบัติการทำคยวามเย็นR22 ครับ ไม่งั้นจะกินกระแสต่ำกว่านิดนึงหรอ เนี่ย
กระป๋องไหนเป็น R600a อ่ะครับ สงสัยจะไม่มี พระเอกหนุ่มเกาหลีคนในภาพมีขาย R600a ไหมเอ่ย? (ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นพระเอกเกาหลีมาทักทายกันเลย ไม่รู้ไปถ่ายซีรี่ย์ใหม่ที่ไหน)
ไม่เกียวกับแอร์ครับ อยากรู้ว่าท่อไอเสียแบบนี้ มันจะช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นได้จริงไหมครับ ราคา 2800 บ. (แบบเหล็ก) ราคา 4800 บ. (แสตนเลส) http://www.gasthai.com/boardgas/question.asp?id=46913
ตัวนี้ใช้กับ R-12 หรือเปล่าครับพี่กบ ผมเติมของ mira ด้าน hi หัวเติมน้ำยาแอร์มันเล็กกว่าสายแอร์ ไม่รู้ว่าต้องใช้ adapter แบบไหน ซื้อได้ที่ไหน (น่าจะแบบของ 3 ห่วงของพี่จินนี่)
คุณรุ่งไปร้านอมรบ้านหม้อเลยครับ อีคาร์ของผมท่อ hi หัวมันก็เล็กกว่าสายเกจ์ หาวิธีตั้งนานเพราะอยากวัดแรงดันด้าน hi สุดท้ายไปเจอสารพัดหัวต่อแบบนี้ที่ร้านอมร ราคา 150 บาทครับ
พี่กบครับ 150บาทนี่รวมอะแดบเตอร์ที่เขากับสายชาร์จน้ำยาเเปลงเป็ฯหัวเข้าหับหัวlo hi ของR134a ไหมครับเนี่ย
คุณพี่รุ่งนี่สงสัยจะเป็นแฟนพันธ์แท้ของผลิตภัณฑ์บริษัทพี่เตอร์เราซะแล้ว ว่าแต่ในนั้นมีอะไรบ้างละอธิบายทีละกรป๋งองได้ไหมครับ ขอบคุณมากครับ
ความเห็นของผมนะครับ อย่าโกรธกันนะถ้ามีตัวอักษรที่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบนะครับ สำหรับผมนะครับท่อพวกนี้คงใส่ไปคงช่วยได้แน่ๆคือได้เสียเงินก่อนส่วนประสิทธิภาพที่แลกมาด้วยเงินและ ค่าบำรุงรักษารถที่จะสึกหรอหลังการติดตั้งพวกอุปกรณ์พวกนี้ไม่สามารถบอกได้ครับ คิดดูครับว่ารถ 1 คันกว่าจะประกอบบออกมาสำเร็จต้องใช้วิศวกรออกแบบกี่พันคนครับ วิศวกรย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผลิตภัณฑ์เขาแต่ว่ามีข้อแม้ในเรื่องของราคาครับ เรยทำให้เราๆท่านๆรู้สึกว่ายังไม่ดีพอสำหรับเราครับ ยกตัวอย่างเช่นรถดีแมกหรือว่าหตระฏุลรถกะบะทั้งหลายทไมชอบมีคนนำไปเซตช่วล่างใหม่เปลี่ยนโช้๕เปลี่ยนปริงเพราะว่าเหตุผลง่ายๆคือว่าถ้าเซจช่วงล่างมาเกาะเกินไปอาจจะมีผลกระทบต่อต้นทุนและยอดขายของประเภทรถ คนที่จะซื้อเก๋.คันละ 9แสนก้อไปซื้อกะบะคันละ 7แสนไง อิอิแต่โดยทฤษฏีนั้นท่อพวกนี้จะช่วยระบายไอเสียออกให้เร็วขึ้นโดยการขยายลำกล้องหรือว่ามีกลไกอื่นๆที่ควบคุมการไหลของก๊าชร้อนในรอบเครื่องยนต์ต่างๆกันโดยมีกลไกพิเศษช่วยให้เกิดภาวะoptimumcondition ในช่วงนั้นๆทำให้มีกำลังออกมามากกว่าในภาวะรภปกติทำให้เราคิดไปว่าไอ้พวกนี้ช่วยได้แต่ในส่วนของของท่อไอเสียและด้านในท่อพยายามทำให้ไอเสียวิ่งเป็ฯเกลียวๆเพื่อทำให้การไหลเวียนของไอเสียเป็นเกลียวซึ่งตามหลักของการไหลนั้นจะเป็ฯการจัดระเบบียบของไหลซึ่งคือก๊าชร้อนมากซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ โดยส่วนตัวอยากให้ไปจับดูค่าAF Ratio ดูก่อนว่ารถเรามันบางหรือหนาไปไหมแล้วค่อยมาว่ากันในเรื่องอื่นๆรถยนต์ที่ใช้หัวฉีดpgm-fi หรืออะไรก้อตามนั้นเขาดูค่าAF เป็นหลักถ้าค่านี้บางหรือหนาไปก้ออาจจะทำให้พละกำลังไม่ได้ตามสเปคหรือการบริโภคเชื้อเพลิงไม่สมเหตุสมผลครับ
ความจริงไม่ได้มีอะไรชอบเป็นพิเศษหรอกครับ แต่นี่ไงแรงบันดาลใจ หากพิจารณาตามภาพแล้ว จะเห็นได้ว่าอาร์๑๒ แรงดันต่ำกว่าอาร์๒๒ประมาณเท่าตัว ผมคิดเรื่องนี้มาน่าจะเกินสามสิบปีแล้ว และยังคิดไกลออกไปอีกว่า เพราะอะไรทำไมเขาไม่เอาน้ำยาในระบบแช่แข็งซึ่งให้ความเย็นระดับ - ๑๘ องศา มาใช้กับแอร์บ้าน มันน่าจะประหยัดพลังงานได้มาก สามสิบปีผ่านไป แค่ได้คำตอบเล็กๆว่า มันคงวูบวาปๆพิลึก หากอุณหภูมิที่ปล่อยออกมามันเย็นจัดมาก ซึ่งก็ยังมีข้อกังขาอยู่ ถึงวันนี้คำตอบของผม(เป็นการส่วนตัวนะ) น่าจะโยนกลับไปให้บ.ผู้ผลิตว่า เผื่อไว้สำหรับการพัฒนาซึ่งจำเป็นต้องทำตลาดเพื่อออกรุ่นใหม่ๆมาขาย แล้วให้มันค่อยๆประหยัดลง ประสิทธิภาพสูงขึ้น เหมือนเช่นรถโรงงานต้นแบบ ซึ่งผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนที่ทราบความลับนี้ เครื่องยนต์ต้นแบบสันดาปภายในของโรงงานผู้ผลิตนั้น หากเป็นสองจังหวะแรงสูง สามารถผลิตแรงม้าได้กว่า ๓๒๐ แรงม้าต่อเครื่องยนต์ความจุ ๑๐๐๐ ซีซี ส่วนสี่จังหวะนั้น ลดลงมาครึ่งหนึ่ง ประมาณ ๑๖๐ แรงม้าต่อความจุเครื่องยนต์ ๑๐๐๐ ซีซี ตรงนี้ ถามว่าใครกี่คนทราบความลับนี้ครับ (แหะๆแต่ผมทราบมาน่าจะเกินสามสิบปีแล้วล่ะ) ทุกคนมองข้ามไปหมด นี่ไงที่ทำให้บ.ผู้ผลิตเขาออกรุ่นใหม่ๆมาหลอกขายเรา ทั้งที่ยังห่างไกลเครื่องต้นแบบไปมากนัก ต่อให้ออกรุ่นใหม่ๆมาสักร้อยปี ก็ไม่มีทางไปใกล้เครื่องต้นแบบที่บ.ผู้ผลิตได้ทำการพัฒนาไว้ครับ เครื่องต้นแบบที่ว่านี้เราจะเห็นในสนามแข่งครับ เช่น จีพี ๕๐๐ สี่สูบสองจังหวะ มีใครทราบไหมว่าแรงม้าไม่ว่าในเอ็นเอสอาร์ อาร์จีแกรมม่า หรือวายแซด แต่ล่ะตัวมันไม่ต่ำกว่า ๑๗๐ แรงม้าทั้งนั้น นี่ไงที่กำลังจะสื่อ ทีนี้ ต้นแบบสี่จังหวะแรงสูงก็ไปดูได้เลยในรถเฟอร์มูล่าวัน อันนี้พูดถึงระบบธรรมดานะ หากมีระบบเทอร์โบหรือซูเปอร์ชาร์ทก็เพิ่มขึ้นไปอีก ทีนี้คงพอมองเห็นภาพแล้วนะว่า บริษัทผู้ผลิตเขาได้กั๊กประสิทธิภาพไว้ครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ แต่ยินดีรับฟังความเห็นต่างด้วยเสมอ ดูในภาพนะครับ จะเห็นได้ว่าในระบบรถยนต์ ซึ่งใช้อาร์๑๒ นั้น มีขีดจำกัดแผงคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นก็เนื้อที่จำกัด แต่มันยังให้ประสิทธิภาพสูง จะเห็นในภาพทำความเย็นติดลบถึง -๘.๘ องศา แบบสบายๆเลยทีเดียว แรงดันก็ต่ำกว่าครึ่งหากเปรียบเทียบกับอาร์๒๒ ทีนี้คำถามก็คือว่า ข้อได้เปรียบของแอร์บ้าน ก็คือพื้นที่คอยล์ร้อนกะคอยล์เย็นมันมากกว่าเห็นๆ งานนี้ผมว่าแค่เรา D.I.Y.วาวล์ ให้มันคอนโทรลน้ำยาอาร์๑๒ ผมว่างานนี้มีแอร์บ้านติดลบให้เห็นอาจจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยก็อาจเป็นได้ แถมคอมมันทำงานเบาลงซึ่งย่อมหมายถึงการประหยัดกระแสไฟตามมาอีกหนึ่งเด้ง งานนี้แอร์เบอร์ห้าที่ว่าประหยัดสุดๆ จะว่ายังไง แนวคิดนี้ผมไม่สงวนลิขสิทธิครับ ใครมีเวลาว่างพอ ก็เอาไปสานต่อได้ครับ แต่ขอให้แบ่งปันแก่สาธารณะก็พอ อย่าไปทำเป็นการค้า ผมว่างมีเวลาพอลงมือทำแน่ครับ วันนั้นที่ทำการทดลอง ได้ข้อมูลทางลึกอะไรหลายอย่าง แถมแอร์รุ่นใหม่มันมีระบบคอนโทรลที่ซับซ้อนก้าวหน้าไปเยอะครับ ยิ่งได้ระบบที่ทำความเย็นได้เร็วเย็นจัด ผมว่าไปกันได้สวยทีเดียวเชียว
คัดมาบางส่วน ตำรานี้อายุเกินสามสิบปีครับ ลองศึกษาดู ทีนี้ที่คุณกบถาม กะที่คุณรุ่งกะคุณNoi@Bangkokสงสัย ผมว่าคำตอบน่าจะอยู่ตรงนี้ครับ ผมเดาว่าเขาใช้น้ำยาอาร์๕๐๒ เติมจากบ.ผู้ผลิตครับ ไม่ใช่อาร์๒๒ ซึ่งหมายความว่ามันจะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าประมาณ ๑๐ ถึง ๓๐ เปอร์
อีกนิด ตำรานี้ยังได้กล่าวถึงซูเปอร์ฮีท และซัฟคูลไว้ด้วย อ่านแล้วเข้าใจเลยไม่ใช่เพิ่งมี แต่มีมานานมากแล้ว
คุณกบ ไอ้ไม้ตายนี้ใช้ได้กับไดกิ้นเท่านั้น เพราะเขาซ่อมให้ไม่ถามสักคำ แต่ผมไม่ได้ใช้นะ มีอยู่หนช่างติดตั้งไม่ดีใช้ไป 3 เดือนแอร์ไม่เย็น โทรไปแจ้งไดกิ้น เขาส่งช่างมาแก้ปัญหาท่อน้ำยาให้ใหม่ เติมน้ำยาให้ฟรี เลยเชียร์ให้คนรู้จักกันซื้อไดกิ้นตลอดเลย คุณจินนี่ใช้พานา อยู่โคราชด้วย คงใช้วิธีนี้ไม่ได้
คุณกบ รูปสารพัดน้ำยาที่ถ่ายรูปมานั่นมันยกมาทั้งคลัง coolman เลยมั้ง แฟนตัวจริงเลยน่ะนี่ มีครบทุกแบบเลย ผมยังเคยเห็นบางตัวเท่านั้น ไม่ครบทั้งชุดขนาดนี้
คุณจินนี่เล่นตำราเก่ามากๆเลย ไปขุดมาจากไหนเนี่ย น้ำยา R22 ที่อัมเข้าไปใหม่ตอนหลังนี่มันของแท้ขนาดไหนครับ กำลังกลัวน้ำยา R22 เกรดต่ำ เติมเข้าไปก็เย็นน้อย แล้วกินนไฟมากขึ้น ถ้าได้ R22 ของแท้ๆที่เชื่อใจได้จริงจะวัดได้ใกล้กับโรงงานกว่า การเติม R22 ผมใช้วิธีชั่งน้ำหนักตามที่ระบุใน name plate ที่คอล์ยร้อน ซึ่งมันจะเกือบๆพอดี จากนั้นเปิดแอร์ไว้สัก 30 นาที่ให้มันทำความเย็นได้ที่ก่อน จากนั้นค่อยๆเติมน้ำยาเข้าช้าๆโดยวัดท่อดูดให้ได้ superheat 7-8 องศา เท่านี้ล่ะครับ ลองดู กระแสต้องไม่เกินที่ผู้ผลิตระบุไว้ พัดลมตั้งโหมดแรงสุด อุณหภูมิต่ำสุดให้คอมเดินตลอด
คุณจินนี่เล่นตำราเก่ามากๆเลย ไปขุดมาจากไหนเนี่ย น้ำยา R22 ที่อัดเข้าไปใหม่ตอนหลังนี่มันของแท้ขนาดไหนครับ กำลังกลัวน้ำยา R22 เกรดต่ำ เติมเข้าไปก็เย็นน้อย แล้วกินนไฟมากขึ้น ถ้าได้ R22 ของแท้ๆที่เชื่อใจได้จริงจะวัดได้ใกล้กับโรงงานกว่า การเติม R22 ผมใช้วิธีชั่งน้ำหนักตามที่ระบุใน name plate ที่คอล์ยร้อน ซึ่งมันจะเกือบๆพอดี จากนั้นเปิดแอร์ไว้สัก 30 นาที่ให้มันทำความเย็นได้ที่ก่อน จากนั้นค่อยๆเติมน้ำยาเข้าช้าๆโดยวัดท่อดูดให้ได้ superheat 7-8 องศา เท่านี้ล่ะครับ ลองดู กระแสต้องไม่เกินที่ผู้ผลิตระบุไว้ พัดลมตั้งโหมดแรงสุด อุณหภูมิต่ำสุดให้คอมเดินตลอด
จริงๆผมมีความคิดแบบเดียวกับพี่จินนี่นะครับว่า สมัยก่อนคนรุ่นคุณอาจินนี่ละกันนะ อย่าโกรธผมน้า คงจะต้องใช้แอร์วินโดซึ่งใช้น้ำยาR 12 และที่สำคัญ คือให้ความเย็นได้ 12000 บีทียูแต่กินไฟแค่ 3แอมงะ ยี่ห้อซันโยสมัยก่อนไงแต่เพราะว่ามันผุและเสียงดังจึงไม่เป็ฯที่นิยมต่อ ทำไงได้ผมมันคนรุ่นใหม่แต่ชอบเอาชนะความคิดของคนรุ่นใหม่ๆโดยการพยายามเอาชนะข้อจำกดัของแอร์ครับ ตอนนี้ทำทั้งcold 22 ทั้งหัวพ่นหมอกแล้วยังไม่ประทับใจจริงๆ คิดว่าน่าจะทำได้มากกว่านี้อีกโดยการผสมน้ำยาเองน่าลองนะ อิอิ หรือโม วาวฉีดน้ำยาแบบที่คุณอาจินนี่ครับ เอตอนนี้หมดไอเดียแล้วไว้รอพี่จินนี่มาโพสต่อละกันครับ
คุณหน่อย ผมอยากทำเรื่องเดียว คือเอาคอล์ยร้อนทั้งอันจุ่มไปในสระว่ายน้ำแบบบ้านประหยัดพลังงานของด็อกเตอร์อะไรสักคนที่มีชื่อเรื่องนี้ ถ้าจุ่มในสระว่ายน้ำมันจะระบายความร้อนได้ดีมาก แอร์เย็นเจี๊ยบ คอมเพรสเซอร์ก็ประหยัดไฟเพราะไม่ต้องใช้แรงดันสูงในการอัดน้ำยา คอล์ยร้อนก็ไม่ต้องล้าง เพราะไม่สกปรกอีกต่อไป ต่อให้ใช้แอร์เล็กกว่าขนาดห้องมากๆก็ไม่มีปัญหาแอร์ร้อนจัดจนน็อค เพราะมันระบายความร้อนออกทัน แค่นี้ก็จบแล้วสำหรับผม เรื่องผสมน้ำยานี่ยากไปสำหรับคนใช้ทั่วๆไป เสียเวลาและลงทุนมาก ไม่คุ้ม นอกจากคนที่จะทำขายอันนั้นก็น่าลงทุนทดลอง
แหะๆๆ จาโกรธไปได้ยังไง ก็นู๋มานแก่แว้ว คริคริๆๆๆๆ (จริงๆ แต่ยังมีไฟอยู่เด้...) หากยังไม่ประทับใจระบบหัวพ่นหมอก ลองเอาไอเดียของนู๋ไปประยุกต์ดีไหม แบบว่าเราสร้างตู้บรรจุน้ำขึ้นมาหนึ่งใบ ขนาดอาจจะสักยี่สิบสามสิบลิตรหรือมากกว่านี้นะ ติดฉนวนกันความร้อนให้ทั่ว ตู้นี้อาจจะอยู่ภายในห้องซึ่งเราติดแอร์ก็น่าจะดี แล้วนำระบบน้ำทิ้งจากคอยล์เย็นให้ลงในตู้นี้ พร้อมกับน้ำปะปา(ให้ผสมกัน มันจะลดอุณหภูมิของน้ำลงอีก) แล้วให้มีตัวตัดระดับน้ำให้มันคงที่ด้วย อาจจะใช้อีเลคทรอนิคคอนโทรลก็ได้นะ ที่บ้านหม้อมีเป็นกุรุสครับ(ไม่ต้องสร้างเองไปซื้อสำเร็จมาโลด) ไม่ก็ใช้แม็คคานิคคอนโทรลมัน ไม่งั้นน้ำมันจะล้นออกมาเลอะหมด ระบบแม็คคานิคก็เอาที่เขาใช้ในชักโครกนั่นล่ะมาติดเลย พอได้ที่ได้ทางแล้ว ให้ใช้ปั๊มที่เขาติดในตู้ปลา คอนโทรลกับแอร์หลัก จุ่มเข้าไป แล้วฉีดน้ำเย็นจากตรงนั้นไปที่แผงคอยล์ร้อนข้างนอก มันน่าจะได้ผลกว่าหรือน่าจะประทับใจกว่าไหมเนี่ย อิอิอิ (ยังไม่เคยทดลองเลย ได้แต่คิดไว้เฉยๆ ) ลองไปทดลองทำดูครับ น้ำที่เย็นกว่าเราเอาน้ำโดยตรงไปฉีด บางครั้งน้ำปะปามันก็ร้อนเพราะท่อมันโดนแดดกว่าจะมาถึงเรา ก็อาจได้ผลน้อยก็ได้ แต่น้ำที่เรากักไว้แล้วผสมกับน้ำเย็นเจี๊ยบจากคอยล์เย็นที่เราทิ้งไป แต่งานนี้เอามาใช้ประโยชน์ มันน่าจะเป็นยังไง อันนี้มันน่าคิดนะ อิอิอิ
มาสารภาพว่า เมื่อวานลืมบอกไปว่ารูปนี้ไม่ใช่ของผมครับ พอดีเซฟมาจาก racing web สมัยแรก ๆ ต้องให้เครดิตคุณ Mai_MIDOT ที่เป็นผู้บุกเบิกการซ่อมแอร์เอง ถ้าคุณ Mai ผ่านมากระทู้นี้ ช่วยเข้ามาแจมด้วยนะครับ ตอนนั้นคุณเตอร์เพิ่งหันหลังให้วงการบันเทิง บินกลับจากเกาหลีแล้วหันมาเอาดีในการขายน้ำยาแอร์ ตอนโทรไปขอซื้อน้ำยาแอร์ ยังพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัดเลยครับ
เยี่ยมเลยครับคุณยุทธ แต่บ้านผมไม่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว อยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบบนี้เราเอาคอยล์ร้อนแช่ไว้ในอ่างในห้องน้ำมันจะเวิร์คไหมเนี่ย แล้วเอาผลที่ได้น้ำร้อนจากอ่าง มาใช้อาบใช้ซักล้างอีกที เป็นอะไรที่ยุ่งยากเอาเรื่องอยู่นะ แต่ที่บ้านประหยัดพลังงานของวิศวะกรที่กล่าวถึงนั่น เขาสร้างแต่ได้อยู่แค่ปีเดียวเองนะ เลยกลายเป็นบ้านตัวอย่างไปเลยหลังนั้น พลังงานทุกหยาดหยดเอากลับคืนมาใช้หมด แม้แต่ระบบน้ำเสีย มันยังมีระบบกรองแล้วเอากลับมาใช้ ใสปิ๊งดื่มได้เฉย แต่พิธิกรในรายการที่สัมภาษณ์ยังไม่กล้าดื่มน้ำนั้นครับ เพราะพี่แกบอกว่าน้ำนี้ออกจากส้วม เหอะๆๆๆ เจ๋งจิงๆ ผมนั่งดูตลอดหนึ่งชั่วโมงเมื่อสักสิบปีแล้วมั๊ง ยังทึ่งในเทคโนโลยีและหัวคิดของคนไทยเลยครับ แต่งานนี้ผมว่ามีเฮตามมาแน่ครับ มันมีเหตุปัจจัยที่เอื้อมากมายเลย -พื้นที่ไม่จำกัด(คอยล์ร้อน + คอยล์เย็น) - แรงดันที่ลดลงอีกครึ่งหนึ่ง ย่อมนำมาซึ่งการใช้พลังงานที่น้อยลงอย่างแน่นอน ซึ่งหมายถึงการประหยัดไฟกว่าเดิม(ซึ่งไม่ทราบว่าเท่าไรเพราะยังไม่ได้ทดลอง) - ลงทุนอีกนิด แค่จัดวาวล์ที่คอนโทรลอาร์๑๒ แล้วหาตำแหน่งเหมาะๆยัดเข้าไป - ผมยังเชื่อว่าแอร์รถยนต์ยังยากกว่า แต่ก็ทำเล่นๆทำจริงๆยังติดลบเฉย แล้วแอร์บ้านมันจะเหลือหรือ(แต่เราไม่เอาประโยชน์จากติดลบนี้มาใช้ นอกจากเอามาใช้ในช่วงที่แค่ทำให้เราเย็นสบายเพียงพอ ซึ่งหมายถึง ระยะเวลาที่คอมมันทำงานก็จะสั้นลงอีก ซึ่งหมายถึงการประหยัดไฟเด้งที่สามครับ) - ความเสี่ยง ก็คือ ยังไม่มีใครลองทำ แต่หากจะลองแอร์พังไปตัวก็แค่เป็นครู เหมือนผมเคยรื้อเครื่องเพลสเตชั่น(๑) ตอนที่หัดซ่อมหัวเลเซอร์มันครั้งแรกในชีวิต(ตอนนั้นภรรยาทำร้านเกมส์) ช่างที่เคยทำให้มันติดการพนัน วันๆนั่งส่องแต่กระจกกะเข้าบ่อน ไปหาทีไรก็ไม่เสร็จซักที วันหนึ่งๆเครื่องทำงานทำเงินได้เครื่องละ ห้าร้อยบาทอั๊พ เครื่องเราไปอยู่กะช่างอาทิตย์หนึ่งก็เสียหายไปสามพันห้าอั๊พแล้ว ตอนนั้นเครื่องเพลสเตชั่น ราคาหมื่นเจ็ด ผมก็ตัดสินใจรื้อหัวอ่านมาทำเองเลย สองครั้งพัง ไม่ทำงาน(เจ้งแน่ๆคิดว่า) แต่พอนั่งสมาธิให้จิตสงบ แล้วย้อนกลับไปทำหนที่สาม ปรากฎว่ามันทำงานได้เฉย จนสามารถซ่อมหัวเลเซอร์ได้ทั้งเพลย์วันและเพลย์ทูครับ เจ้าอาจารย์เครื่องนี้ก็น่าจะตกอยู่ในชะตาเดียวกันกับเจ้าเครื่องเพลสเตชั่นที่ว่านะ อิอิอิ ว่างเมื่อไหร่ เสร็จผมแน่ คริคริ แอร์หากมันจาพังผมก็เต็มใจครับ ประกงประกันผมไม่สนหรอก สำหรับผมการประกันสิ้นสุดลงเมื่อช่างติดตั้งให้เสร็จแล้วครับ ที่เหลือผมประกันมันเอง แหะๆๆๆๆๆ เด๋วยำใหญ่เมื่อไร ได้มีการรายงานยาวเหยียดแน่ งานนี้อย่างเก่งก็ซื้อแอร์ใหม่อีกเครื่อง แหะๆๆๆ ผบ.ผมใจดีอยู่แระ คริคริ - ผมยังกังขาในประสิทธิภาพที่มันน่าจะดึงขึ้นมาได้อีก เหมือนเช่นคุณหน่อยยังไม่ประทับใจนั่นล่ะ แต่เรายังมายังไม่ถูกทางแมร่นบ่อ แต่ใช่ว่าเราจะถึงทางตัน(ซะเมื่อไหร่ล่า จริงไหม) องค์ความรู้ในเรื่องแอร์รถยนต์ หากนำมาใช้ในงานนี้ ผมว่ามีเฮตามมาแน่แท้ ชัวร์ป๊าดไม่มั่วแน่ + อ้างถึง ตอบกลับ