D.I.Y. แอร์รถยนต์ด้วยตนเองคับ (ใครรถติดไฟแดงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น เข้ามาคับ)

โห กระทู้วิ่งไปเร็วจริงๆครับ เผลอแป๊ปเดียว ๑๔๐ หน้าเข้าไปแล้ว ใครก็ตามที่เพิ่งมาศึกษา งานนี้อ่านเป็นสัปดาห์แน่ๆกว่าจะหมดทุกหน้า ความรู้ทั้งนั้นครับ หาในตำราอื่นไม่ได้เลยทีเดียวเชียว เป็นตำราในชีวิตจริง ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่ยังมีพวกเราคอยแบ่งปัน

วันนี้ไม่ได้ทำงานครับ แต่เตรียมตัวไปทำบุญใหญ่ (แหะๆ รับเป็นเจ้าภาพเกือบทั้งหมดครับ) ตอนนี้ช่างได้สร้างเสร็จแล้วครับ จะไปถวายเงินให้หลวงปู่ ที่ร้อยเอ็ด อำเภอปทุมรัตน์(เป็นสำนักปฏิบัติธรรมสายกรรมฐาน สายเดียวกันกับหลวงปู่ชา หลวงปู่สมภพวัดไตรสิกขา(สกลนครที่ท่านเกิดวันวิสาขะบูชา ผมยกครอบครัวไปกันหมดเลยได้รู้จักหลวงปู่หมุนและรับเป็นเจ้าภาพสร้างให้ทั้งหมดครับ) งานนี้สร้างซ่อมแซมหลังคาศาลาปฏิบัติธรรมเปลี่ยนเป็นสันไททั้งหลังเลย ขอพวกเราอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ส่งใจไปร่วมสร้างด้วยก็พอ แต่ที่แปลก เจ้านายในกรุงนี่ล่ะ แอบหนีลูกน้องที่กองปราบ ไปแอบปฏิบัติธรรมที่โน่น สักวันต้องเจอผมแน่ๆ(เจอในทางดีจร้า จาได้คุยธรรมะกันไง อิอิ) อันนี้หลวงปู่บอกกะผมเอง เรียกว่าหายไปทีสองสามวัน และลูกน้องก็ไม่ทราบว่าไปไหนด้วย เว้นแต่ใกล้ชิดที่สุดจริงๆ โลกเรามันเริ่มเข้าสู่กลียุคแล้วครับ ดังนั้นธรรมคือสิ่งเดียวที่ยังจรรโลงใจให้อิ่มเป็นสุข เข้ามาทักทายในยามเช้าตามเคยครับ อิอิ ยามที่พวกเราส่วนใหญ่หลับไหล เพราะมัวแต่วุ่นวายกะทางโลก กะสมมุติ แต่ก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ที่เราจำเป็นต้องทำนะครับ ไปแระ คริ คริ

 

เรื่องกังหันลมผลิตไฟฟ้า พอจะแย้มๆให้ฟังได้ไหมครับพี่จินนี่ ว่ามีหลักการอย่างไร หรือต้องรอจดสิทธบัตรให้เรียบร้อยก่อน
ผมมองว่ากังหันลม สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าเซลแสงอาทิตย์ และถ้ามีลมทั้งกลางวันกลางคืน ก็จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอด แต่บ้านเราลมไม่ได้แรงต่อเนื่องทั้งวัน ก็เสี่ยงเหมือนกัน ส่วนเซลแสงอาทิตย์ยังราคาแพงอยู่จึงยังไม่ค่อยสนใจ

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย เลยคลายร้อนไปได้หน่อย ผมกำลังจะหา stay cool มาติดบนฝ้าเพดาห้องนอนครับ ตอนแรกก็ไม่กล้า กลัวว่านานๆไปจะมีฝุ่นใยแก้วออกมาทำให้เป็นภูมิแพ้ แต่รุ่นหลังๆที่เป็นสีเขียวๆ นี่มันปลอดภัยกว่ารุ่นแรกๆที่เป็นสีเหลืองไหมครับ และฉนวนหุ้มภายนอกก็หนาขึ้น น่าจะมั่นใจได้ว่าไม่มีการฉีกขาดเมื่อใช้งานไปนานๆ เพราะที่บ้านเป็น T-bar ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ด้วย กลัวว่าถ้าฉนวนขาด หรือหนูกัดฉนวนขาด ผงไยแก้วจะหลุดลงมาที่ห้องนอนเต็มๆแน่

พี่ยุทธคิดว่ามันจะอันตรายไหมครับ ถ้าเป็นฉนวนแบบแผ่นบางๆ ที่เหมือนกับเอาไว้ติดใต้กระโปรงรถ แบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่า แต่กลัวมันจะไม่กันร้อน เพราะมันบางเหลือเกิน 1 cm กับ 6 นิ้วก็น่าจะกันร้อนได้ผิดกันอยู่แล้ว

เมื่อก่อนตอนซื้อบ้านแรกๆ ช่วงบ่ายๆนี่อยู่ชั้นบนไม่ได้เลยครับ ร้อนมากๆ ผมดูแล้วเหมือนขวดปิด เวลาตากแดด อากาศใต้หลังคามันก็อมความร้อนนาน กว่าจะเย็น เลยตัดสินใจ ติดลูกหมุนที่หลังคา 1 ลูก และทุบกระเบื้องแผ่นเรียบที่ชายคา ด้านหน้าบ้านและหลังบ้านออกเพื่อให้ลมใต้หลังคา สามารถถ่ายเทได้สะดวกขึ้น ก็ดีขึ้นครับ บ่ายๆความร้อนน้อยลงกว่าเดิมมากพอสมควร แต่ก็ยังร้อนอยู่ จึงอยากจะติด stay cool 6 นิ้ว อีกอย่างน่าจะจบ ระยะยาวน่าจะช่วยประหยัดค่าแอร์ลงได้อีก

อาทิตย์นี้เลยยังไม่ได้ลองเติมน้ำยาแอร์บ้านเลยครับ เมื่อวานไปทำธุระที่แปดริ้ว วันนี้ก็มาทำงาน (เข้าเวร) อาทิตย์หน้าคงได้ลองดู
แอร์ที่บ้านมี 3 ตัว dikin inverter 1 ตัว อีกตัวเป็นแอร์ ขนาด 12000 btu แต่เปลี่ยนคอมเป็น 7500 btu เนื่องจากห้องเล็ก 3.5x4 และอยู่ด้านทิศตะวันออก ช่วงบ่ายจะไม่ร้อนมาก เลยตัดสินใจเปลี่ยนคอมให้เล็กลง (เสียค่าเปลี่ยนไป 4000 บ) ผลก็ดีพอสมควรครับ เพราะกินกระแสจากเดิม 6 A กว่าเหลือ 3 A (เป็นแอร์เก่าไม่ใช่เบอร์ 5 ติดมากับบ้านตอนซื้อ) เย็นพอใช้ได้ เสียแต่เสียดังไปหน่อย ตามประสาแอร์เก่า (แบบแขวน ตู้ 4 เหลื่ยม)
ทุกเดือนจะเปิดแอร์ 2 ตัว คือ inverter กับตัว 7500 btu ค่าไฟตกประมาณ 1200-1300 บ
ที่ตัดสินใจเปลี่ยนคอมอย่างเดียว เพราะคิดว่าแผงร้อนมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว เปลี่ยนคอมให้เล็กลง น่าจะได้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นดีขึ้น ซึ่งผลออกมาก็ดีพอสมควรครับ คิดว่าคุ้มกับ 4000 บ. เสียเรื่องเสียงที่ยังดังไปหน่อย ตามประสาแอร์เก่า แต่อนาคตกะว่าจะติด dikin inverter 9000 btu แทนเหมือนกันครับ ขอใช้ไปอีกซักพัก ถ้ารั่วหรือพังก็คงไม่ซ่อมแล้ว เปลี่ยนเลย (ไม่รู้มันจะอยู่อีกนานหรือเปล่า)

กำลังจะลองเปลี่ยนน้ำยาเป็น cold 22 + ฉีดน้ำคอล์ยร้อนเพิ่ม กระแสน่าจะลดลงไม่ถึง 3 A

 

เรื่องฉนวนใช้ตราช้าง 6 นิ้วไปเลย ไม่ต้องห่วง ฟอล์ยหุ้มทั้งหนา ทั้งเหนียว ไม่ขาดง่ายๆ ผมใช้มา 2 บ้านแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร หลังใหม่นี่ก็ปีกว่าแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไร

 

ขอถามเรื่องขันตอนการเติมน้ำยาหน่อยครับ ผมลองหากระทู้เก่าดูแล้วมันไม่มีบอกขั้นตอนอย่างละเอียด
หรือว่าผมตาลายก็ไม่รู้ เยอะมากกกก
เท่าที่ผม รู้มา2วิธี เอาหลังจากแว็กแล้ว
1 ปล่อยน้ำยาให้ได้ 30ปอนด์แล้วค่อยติดเครื่อง แล้วค่อยไล่แรงดัน จนเย็น
2 ปล่อยน้ำยาให้เต็มจนไม่เข้าแล้ว แล้วค่อยติดเครื่อง (อันนี้แหละที่มีปัญหา ตาแมวใสปิ้ง น้ำยาเยอะเกิน
แรงดันขึ้นไป300
ผมเลยไม่รู้จะเอาวิธีไหนดี วิธีที่2 นี่ได้มาจากเวบ ของเทคโนสยาม
ขอถามเพิ่มครับ ทำไมต้องเร่งเครื่องที่ 1500รอบ ด้วยครับ
ปล. ทำไปทำมาชักมึน (เหมือนอ่านหนังก่อนสอบ1วันเลย)

 

วิธีของผมนะครับ
1. ปล่อยน้ายาเข้าระบบจนมันไม่เข้าแล้ว (ตามวิธีที่ 2 ของคุณครับ)
2. ติดเครื่องที่รอบเดินเบา แล้วปล่อยน้ำยาเข้าไปเรื่อย ๆ
3. สังเกตที่แรงดันด้าน high ครับ ถ้ามันยังต่ำประมาณ 150 ยังเติมได้อีก
4. หลังจากนี้เริ่มดูอุณหภูมิจากเทอร์โมมิเตอร์ + แรงดันจากแมนิโฟลด์เกจ + ตาแมว + จับท่อคอล์ยร้อน ก่อนเข้าและหลังออกจากคอล์ยร้อน

- โดยปกติความดันต้องไม่เกิน 250 สำหรับ 134a ถ้าเกินแสดงว่าเติมเกินหรือวาล์วตัน
- อุณหภูมิช่วงแรกจะลงเร็วมาก หลัง ๆ จะค่อยลง ให้เติมจนมันเริ่มร้อนนะครับ (เพราะเรา
จะไม่รู้ว่ามันเย็นสุดแล้ว ถ้ามันไม่ร้อนขึ้น) หมายถึงอุณหภูมิเริ่มร้อน
- ท่อก่อนเข้าคอล์ยร้อนจะร้อน ไม่ว่าน้ำยาเต็มหรือไม่ แต่หลังออกจากคอล์ยร้อนจะเย็นลงถ้าน้ำยาเต็ม
เพราะน้ำยากลั่นตัวเป็นน้ำได้หมดแล้ว

หลัก ๆ ก็แค่นี้ครับ ลองฟังความเห็นของ คห ถัดไปครับ

 

ผมก็ใช้วิธีของคุณ toom6777 เช่นกันครับ

1. หลังจาก vac เสร็จแล้ว เติมน้ำยาเข้าในระบบจนเติมไม่เข้าแล้ว (ช่วงนี้ผมจะเอาน้ำยาเหลวเข้าในระบบ ถ้าเป็นถังธรรมดาก็คว่ำถังลง)
2. สตาร์ทเครื่อง เปิดแอร์ ตั้งเทอร์โมให้เย็นที่สุด ตั้งพัดลมให้แรงที่สุด ปิดกระจก ปิดประตูทุกด้าน ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดลมที่ออกจากช่องแอร์ ต่อเอาออกมาวางไว้ดูนอกรถ (เทอร์โมควรเลือกแบบที่จับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้เร็วๆ จะเติมน้ำยาแอร์ได้ง่ายกว่า)

ที่รอบเดินเบา ดูเกจด้าน lo ไม่ควรเกิน 50 hi ไม่ควรเกิน 250
เวลาเติมน้ำยาเข้า อุณหภูมิลมแอร์จะมีสวิงขึ้นบ้าง ลงบ้าง หลังจากที่เปิดน้ำยาเข้า ให้รอประมาณ 4-5 นาทีจนอุณหภุมิเริ่มนิ่ง ดูเกจ +ดูตาแมว +จับท่อร้อนหลังดรายเออร์ไม่ควรจะร้อนมาก +จับท่อเย็น ควรจะเย็นจะน้ำเกาะ ดูความเปลี่ยนแปลงหลายๆจุดมาประกอบกัน

เรื่องเร่งรอบเครื่อง 1500 ตอนที่เติม อันนี้ไม่ออกความเห็นครับ แต่ที่ผมเติมผมเติมที่รอบเดินเบาให้ให้ลมที่ออกมาเย็นที่สุด พออุณหภูมิเริ่มขึ้นก็หยุดเติม หรือถ้าแรงดันเกจสูงกว่าค่าที่บอกไปก็หยุดเติม ถ้าเร่งที่ 1500 รอบแอร์ก็จะยิ่งเย็นขึ้นกว่าเดินเบาอยู่แล้วครับ

 

วิธีผมนะ

1 หลังจากแวคคัมเสร็จ จะปิดเกจทั้ง 2 ฝั่ง
2 หลังจากนั้น นำปลายสายกลางของเกจมาต่อถังน้ำยา และเปิดถังน้ำยา คลายหัวสายกลางออกเพื่อไล่อากาศภายในสาย
( ในขั้นตอนนี้ยังปิดเกจทั้ง 2 ฝ่ายอยู่นะคับ )
3 เปิดเกจฝั่ง High เติมน้ำยาเข้าไปในระบบ ดูฝั่ง High ว่า 100 PSI แล้วทำการปิดเกจ HIGH
4 start เครื่องยนต์ แล้ว เปิดพัดลมจังหวะ 4 เทอร์โม เปิดเต็มที่ แล้วเปิดฝั่ง LOW เติมไปเรื่อยๆจน ดรายเออร์ เริ่มใส แล้วปิดเกจ Low
( ผมจะเติมให้มีฟองใสๆ วิ่งหน่อย ใสๆนะครับ ไม่ใช้ขาวขุ่น )

 

สิ่งที่คิด ออกแบบ ทดลองทำแล้ว(บางส่วน) เป็นอะไรที่ยังไม่เคยมีใครนำไปใช้หรือประยุกต์กับระบบกังหันลมเลยครับ หลักๆที่ผมเห็นก็คือ พวกทุ่น พวกขดลวดนั้น เขาออกแบบแล้วหล่อขึ้นมาเองเลย เมื่อมีพลังลมมาทำให้กังหันหมุน อุปกรณ์เหล่านี้ก็จะผลิตกระแสไฟตรงลูกเดียว มากน้อยขึ้นอยู่กับแรงลมที่มาปั่นกังหัน แต่ระบบของผมนั้นก้าวหน้ากว่ามากครับ ยังไม่มีใครผลิตหรือสร้างขึ้นมาเลย นอกจากบ้านประหยัดพลังงานที่กล่าวถึงเท่านั้น แค่หลักการคล้ายๆกันแต่การออกแบบนั้นต่างกันคนละเรื่อง ผมมีหลักการที่แตกต่างจากเขาคือ เน้นประหยัด ประสิทธิภาพสูงสุด คืนทุนได้เร็ว เสถียร ไม่จุกจิกไม่ต้องดูแลมากมายนัก หลักๆของผมก็มีเท่านี้ แต่ที่เขาทำแล้วคล้ายกัน มันต่างกันตรงหลักการครับ ของเขานั้น สู่จุดหมายเดียวกัน แต่ไม่เกี่ยงงบประมาณ เท่าไรก็ได้ จึงเป็นปัญหาในการนำมาสร้างใช้งานจริงๆในชีวิตประจำวันครับ เป็นการแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่า คนที่จะใช้ระบบนี้ได้ ต้องมีเงินเท่านั้น แต่...........ของผมนั้นก็มีจุดหมายเดียวกันเช่นกัน แต่......ให้เป็นสาธารณะกุศลครับ....ตัวที่ทดลองและออกแบบหาข้อดีข้อเสีย จะนำไปติดไว้ในป่า.....ซึ่งห่างไกลจากผู้คน เป็นการใช้งานจริงๆ หากใครตามรอยพระอาริยะแบบผม สักวันก็คงต้องงงว่า นี่มันอะไร ทำงานยังไง ใครมาติด เหอะๆๆๆ คงแย้มให้ฟังได้ว่าความต่างคือ เป็นระบบมาตรฐานสูงสุด ทำงานผันแปร(เป็นระบบอัตโนมัติ สั่งการให้ชาร์ทมากน้อยตามความต้องการของแบตฯครับ) แม้มีแรงลมแผ่วๆ ก็สามารถทำงานได้สบายครับ ลงทุนไม่มากนัก เกือบทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ ทำงานร่วมกับระบบโซล่าในตอนกลางวัน เก็บสะสมพลังงานไว้ตลอดยี่สิบสี่ ในขั้นแรกนั้นยังไม่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันกับแอร์ได้ แต่สามารถใช้กับคอม ทีวี อุปกรณ์อื่นในบ้าน ตู้เย็น ที่ใช้ไฟไม่เกิน ๑๐๐๐ วัตต์ได้สบายๆทั้งวัน ผมสร้างขึ้นมาคิดขึ้นมา กลับไม่ได้คิดเรื่องเงินทอง ใช้ทุนส่วนตัวในการพัฒนาครับ เสร็จก็คืนให้แก่สาธารณะไป แต่ถ้าใครคิดจะทำการค้าหรือผลิตเพื่อจำหน่าย หากรับเงื่อนไขผมได้ ก็ยินดี ซึ่งเงื่อนไขก็ไม่มีอะไรมาก อย่าค้ากำไรเกินควรเอาแค่พออยู่ได้ ผมเห็นที่ผลิตเป็นการค้าและจำหน่าย ราคามันสูงลิบเลยครับ(เวอร์ไปหน่อย) ของผมประสิทธิภาพสูงกว่าสามถึงห้าเท่า ต้นทุนยังถูกกว่าเขาเกินครึ่งค่อนเลยครับ ควรคืนให้แก่สังคมบ้าง แต่จะมีใครหรือนายทุนสักกี่คนคิดแบบผม คิดที่ไม่แบกเงิน ไม่แบกสมมุติของโลก แต่เปลี่ยนเงินหรือสมมุติ ให้เป็นอริยะทรัพย์เอาติดตัวไปได้ตลอดทุกภพ ตอนนี้ยังไม่เจอ เจอแต่เอากำไรหรือเงินเป็นตัวตั้ง ผมถึงระมัดระวังในการที่จะแบ่งปันครับ แย้มแค่นี้คุณรุ่งพอปิ๊งไหมครับ อุปมาอุปมัย ประมาณว่า อินเดียคิดและผลิตรถยนต์พลังลมขึ้นมา แข่งกับรถไฟฟ้าซึ่งราคาแพงมหาโหด ฉันท์ใดระบบกังหันพลังลม+โซล่าเซล ที่ผมออกแบบไว้ก็เป็นอะไรประมาณนั้นจริงๆ ทั้งระบบสร้างเสร็จใช้งานได้ลงทุนแค่ระดับหมื่นเองครับ ไม่แพงอย่างที่คิด แต่ประโยชน์สูงสุด แต่ถ้าแบตราคาสูงขึ้นอีก ระยะคืนทุนก็อาจจะเกินปีครึ่งหรือสองปีครับ ตรงนี้คืออุปสรรค์ในการพัฒนาครับ ทุกๆสองปี เราต้องเปลี่ยนแบตครับ แต่แบตก็ไม่ใช่ต้นทุนของระบบทั้งหมด คิดเป็นเปอร์แล้วประมาณสามสิบเปอร์ ในสองปีหลังผมก็ว่ายังคุ้มอยู่ดีนะ อ้าว......ลืมๆๆ......ให้แค่แย้มนิสสสส...ไม่ใช้หรอ...แหะๆๆๆ เผลอ...ไป...คริ....ดันตอบซะยาวเลย......

มีข่าวดีแกมข่าวร้ายมาแจ้งครับ

มะวานยอมสละไม่ทำงานครึ่งวันเย็น ให้ช่างมาติดตั้งแอร์ตัวใหม่ ปลดระวางอีแก่เลิกใช้จร้า รู้งี้เปลี่ยนทิ้งตั้งแต่สิบปีที่แล้ว ดันโง่ใช้อยู่ได้ แค่ผมดูมิเตอร์ตอนอีแก่มันรัน กับแอร์ตัวใหม่ มันก็วิ่งต่างกันอยู่สามเท่าแล้วครับ เด๋วผบ.เปิดบ้าน จาลงไปดูว่ามันขึ้นกี่หน่วย หากเป็นอีแก่ก็สิบกว่าครับ เด๋วพรุ่งนี้เช้าค่อยมารายงาน เช้านี้ต้องไปทำงานไกลอีกตามเคย อิอิ คนของประชาชนก็แบบนี้ล่ะพี่น้อง ไม่ได้หยุดซักวันเลย ไม่งั้นผมคงเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักพัฒนาไปแล้วมั๊ง

ที่ว่าข่าวดี ก็คือเมื่อซื้อมาแล้ว ผมต้องซุกซนอยู่แล้ว เด๋วมีโน่นมีนี่ทดลองทำแบบคุณยุทธ คุณกบ เตอร์คูลในอินเวร์ทเตอร์แหง๋ม มีคนร่วมแชร์ไงครับ

:cry: แต่ที่ว่าแกมข่าวร้ายก็คือว่า ผมทำแต่งานๆๆๆๆๆ จะเอาเวลาที่ไหนมาซุกซน กลับถึงบ้านก็สลบโลด แต่ยังไงก็จะเปลี่ยให้เป็นข่าวดี หาเวลาจนได้ล่ะน่า ฝากถึงคุณเจ้าของร้านทองบางลำภูด้วยว่า เด๋วผมขอเป็นลูกศิษย์ ออกแบบไว้แระ เด๋วเจริญรอยตามแน่ ตอนนี้ต้องหาทางจัดการกับน้ำทิ้งที่ไหลล้นลงไปฟุตบาทข้างล่างให้จบก่อน อีแก่น้ำมันไม่เยอะแบบนี้ แถมจะกระรับประทานไฟฟ้ายังกะไม่เคยพบเคยเห็น แต่ตัวใหม่เนี่ยมันเงียบจนไม่ได้ยินเสียงคอม หรือเสียงพัดลมเลย เพราะเวลาจริงๆถึงได้เสียโอกาสไป ถ้าไม่ตัดใจเอางานมะวานมาทำในตอนเช้า ก็ไม่ได้ติดซักที อิอิอิ ไปแระ

 

คุณจินนี่ซื้อแอร์รุ่นไหน ครับ ถ้า inverter มันก็ประหยัดมากอยู่แล้ว ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนน้ำยาก็ได้ ว่างเมื่อไรก็ทำ

เดี๋ยวนี้ผมมีงานอดิเรกใหม่แล้ว ลองตามไปดู

http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R7898809/R7898809.html

 

รุ่นติดผนังธรรมดาครับ panasonic cs-pc9JKT ทีแรกเล่งซัมซุงรุ่นใหม่ แต่เชลล์บอกพานาเจ๋งกว่า เลยจ่ายเพิ่มเอาพานาครับ ๑๒๗๔๐ พร้อมติดตั้งครับ ซัมซุงจากหมื่นเจ็ดเก้าลดเหลือ ๑๑๙๙๐ ผมเห็นในพันทิพย์ บ่นเกี่ยวกับซัมซุง เลยหันไปเล่นพานาครับ อีกอย่างคอยล์ร้อนเป็นโลหะ ซัมซุงเป็นไพเบอร์ ระยะยาวพานาน่าจะมั่งคงกว่า เลยเลือกที่จ่ายแพงขึ้นครับ เย็นนิ่มๆเงียบกริบทั้งคอยล์ร้อนและเย็น ไม่รู้ว่ามันทำงานหรือว่ามันตัด สิ่งแรกที่เล่งไว้ ระบบฉีดน้ำครับ แต่ที่บ้านผมคงหาหัวฉีดหมอกได้ยากพอดู คงต้องอาศัยที่ตอนลงมากรุงเทพนี่ล่ะ เมื่อวานเจ้าตัวเล็กไม่สบาย ผมลาโรงเรียนให้ อยู่ในห้องนอนทั้งวัน เปิดแอร์ตลอดจนผมกลับจากช่องเม็ก ประมาณ ๙ ชั่วโมง มิเตอร์ จากเลข ๗๒๑๔.๘ ขึ้นไปที่ ๗๒๑๙.๓ ขึ้นไปประมาณ ๔.๕ หน่วย ผมว่าโอเคแล้วครับ ค่าไฟเดือนหน้าลดลงไม่ต่ำกว่าห้าร้อยบาทถึงพันบานแน่ครับ ถ้าเป็นอีแก่ ชั่วโมงหนึ่งบางทีมันขึ้นไปเกือบสามหน่วยครับ เห็นสเป็คมันแล้วหนาวเลย กินไฟสี่พันกว่าวัตต์ ตัวใหม่แค่เจ็ดร้อยกว่าวัดตต์เองครับ ประหยัดขึ้นเห็นๆเลยครับดูที่มิเตอร์ ต่างหกันฟ้ากะเหว ตอนมันรัน อีแก่นั้นยังกะนักวิ่งโอเลมปิคร้อยเมตร แต่ตัวใหม่ยังกะเราแค่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดา มันแค่หมุนปรกติเองยังกะเต่า

หากโครงการเดินตามรอยคุณเจ้าของร้านทองบางลำภูสำเร็จ ผมคงโละแอร์ชั้นล่างอีกสองตัว ตัวหนึ่งสามตันครึ่ง อีกตัวสองตันครึ่ง กินไฟไม่ต้องห่วงครับ ประหยัดไฟเบอร์ - ๕(ลบห้า) กันเลย ใช้แอร์เล็กแทนเลย ตัวนี้เอาเป็นหนูลองยา

 

ถ้าเป็นบ้านแบบครึ่งตึกครึ่งไม้แล้วพื้นรอบบ้านเทปูนหมดเลยเนี่ย เราจะฉีดน้ำยาเฉพาะชั้นบนที่เป็นไม้ได้ป่าว
คือว่าตอนนี้ปลวกมันกินซะจนเสาไม้ยุ่ยไปหลายต้นแล้วอ่ะ

 

คิดถูกแล้วครับที่เอา pana , samsung ไม่ได้เรื่อง ใช้แค่ 9000 btu อีกซึ่งกินไฟน้อยมากอยู่แล้ว

เรื่องชุดสเปรย์นั้นเขาส่งของทางไปรษณีย์ ค่าของ 199 ค่าส่ง 60 โอนเงินแล้วอีก 2 วันรับของเลย ผมไปดูมาแล้ว ร้านนี้เขาเชื่อถือได้ครับ หลังจากที่คนอ่านกระทู้ผมแล้วร้านบอกว่ายอดสั่งซื้อชุดหมอกเขาพุ่งพรวดเลย บอกว่าเอาไปฉีดแอร์กันทั้งนั้น

แอร์เดิมเก่าก็ไล่เปลี่ยนเลยครับ ติดพ่นหมอกไว้ด้วย ถ้าเล่นแบบร้านทองก็แอร์ขนาดเล็กกว่าห้องมาก แต่ฉีดน้ำช่วยเอา เค้นความสามารถแอร์แบบสุดๆเลย

 

เขาคุยเรื่องแอร์ ผมคุยเรื่องปลวกเดี๋ยวโดนโห่เอาอ่ะ

ฉีดเเฉพาะส่วนที่เป็นไม้ได้ ใช้ทั้งยาแบบสมุนไพร หรือจะใช้ ascend ก็ได้ ปลวกตายแน่ๆ

 

พี่ๆครับ ช่วยติชมตัวsolenoid ระบบหมอกด้วยครับ ของผมใช้ท่อน้ำ 8มิลเดินน้ำจากก็อกครับ แต่ก้ออดสงสัยไม่ได้ว่าระหว่างR 22 กับCold 22 เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีหมอกช่วยระบายความร้อน น้ำยาตัวไหนจะมีความสามารถในการลดกระแสไฟฟ้าได้มากกว่ากัน อันนี้ผมสงสัยมากๆ ต้องรอท่านคุณเตอร์มาตอบหรือพี่ๆทุกท่านที่มีความเห็นครับ โดยส่วนตัวไม่รู้จริงๆว่าถ้าความดันด้านhi ลดลงต่ำกว่า 200psi ถ้าเอาไอหมอกมาช่วยแล้วกระแสจะลดมากไหมแค่ไหน เพราะว่าcold 22 ก้อลดกระแสไปกว่า 28% แล้ว ถ้าได้น้ำมาช่วยอีกไม่รู้จะได้ผลเช่นไร สงสัยจริงๆ ส่วนรูปผมกะจะเอาสายไฟไปต่อกับแมกเนติกของคอมแอร์เรยครับ พอคอมเดินสั่งเปิดน้ำฉีดทันทีครับ
ผลคร่าวๆออกมาแล้วครับ จากเดิม แอร์ mitsu heavy duty อายุ 13 ปี เคยกินไฟสำหรับR 22ที่ 5.8-6.5 แอม พอเปี่ยนนมาใช้โคล 22 เหลือ 4.7-5.2แอม เลขมากจะเกิดขึ้นตอนเที่ยงๆบ่ายๆครับ เลขน้อยเกิดขึ้นกลางคืนครับ เมื่อบ่ายนี้เทสโดยการทำหมอกพ่นสองหัวเข้าไปเหลือ 4.0 แอมครับ ตำสุดช่วงนึงที่ 3.6แอมครับ ตอนนี้คอยร้อนไม่ร้อยเรยครับ ลมออกมาแค่อุ่นๆนิดๆประมาณ 40 องศาครับ หน้าแอร์ ลมลงเย็นเร็วมากๆเปิดไม่ถึง 5นาที ลงเหลือ 7.3 องศาครับ ไว้รอคืนนี้ดูผลอีกทีครับ ถ้าลดไม่มากจะลองเปลี่ยตำแหน่งที่ฉีดน้ำดู บางทีมันฉีดได้ไม่แรงพอที่จะเข้าไปถึงfin ด้านในๆเรยทำให้รีดประสทิธิภาพออกมาไม่ได้เท่าที่ควรครับ
ผลล่าสุด เปิดแอร์ ตอน 21.35 น. อุณหภูมิห้องที่ 30 องศาครับ ห้องขนาด 4*5.5 สูง3เมตร ไม่โดนแดดตอนเย็น เปิด5 นาที อุณหภูมหน้าคอยเย็นเหลือ 10.4 องศา เปิด 25 นาทีเหลือ 7.4 องศาเปิด 35 นาทีหน้าคอยเหลือ 5.4 องศาครับเปิดครบ1ชั่วโมงห้องมีอุณหภูมเหลือ 25.4องศาส่วนเรื่องกระแสไฟฟ้าผมงงมากๆครับ แรกๆเดิน 4.0แอม พอเดินไปได้สักพักขึ้นไปที่ 4.2แอม ไม่รู้ว่าเพราวะอะไรธรรมดากระแสน่าจะลดลงครับ เรียนท่านผู้รู้ช่วยชี้แจงด้วยครับ ท่านprofessor ครับ ช่วยตอบด้วยครับหรือท่านอื่นๆ งงมากๆครับ แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือว่าสามารถทำความเย็นได้เร็วกว่าเดิมมากๆแต่กระแสไม่ลดลดเรยสักเท่าไรเมื่อเทียบกับการไม่ฉีดน้ำลดลงแค่ ไม่ถึง 8% เองคับ เอาไงดีนี่

 

เยี่ยมเลยครับ ลงทุนไปเท่าไรครับ D.I.Y.สวยเชียว อุปกรณ์ซื้อที่ไหนครับ บอกพอเป็นแนวทางหน่อยครับ ผมอยู่ตจว.คงได้แต่มองน้ำลายไหล แหะๆๆ มันหาซื้อยากจิงๆอยู่ต่างจังหวัดเนี่ย


ที่สงสัย คงต้องรอคุณเตอร์มาคอนเฟอร์มอีกที แต่ที่ผมเคยใช้คูล๑๒ นะ มันเย็นเร็วกว่าอาร์๑๒ มาก หมายความว่าการทำงานของมันจะเห็นผลต่างมากกว่าการจอดอยู่กะที่ ดังนั้นเมื่อเราเอารถออกวิ่ง นั่นล่ะมันจะแสดงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาให้เห็น ทีนี้หากเราฉีดน้ำ ผมไม่แน่ใจว่าเจ้าอาร์๒๒ กะคูล๒๒นั้นมามีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร แต่ถ้าในรถละก็ฟันธงให้เลยว่า ประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิมแน่ รอผู้รู้มาว่าต่อดีกว่า อันนี้ตอบจากที่ได้เคยสัมผัสมันและเคยใช้มันครับ

อย่าลืมช่วยบอกรายละเอียดอุปกรณ์หน่อยนะ ผมขอแค่ชื่อร้านกะราคาพอเป็นแนวทางก็พอ ขอบคุณล่วง:หน้าครับ

 

วันนี้ขอเสนอวิธีการประหยัดไฟง่ายๆและใครๆก็ทำเองได้....โคมไฟส่องป้ายโค-สะ-นา ต่างๆนี่แหละ
มาลุยกันเลย
...ถอดออกจากโคมไฟก็มีเท่านี้ครับ.....
...นี่คือหลอดเมทัล400wattให้ค่าแสงlumen6500k แสงสว่างสีขาว....
...ต่อสายไฟทดลองเปิดดูกระแสไฟ วัดได้2.71-2.74Amp กินจุจริงๆ....
...ต่อกันเลยครับ....
...อ่ะๆกระแสลดลงแย้ว...เหลือแค่1.63-1.65Amp....
...ผลที่ได้มาจากการที่เอาC(capaciter)มาต่อเข้าไปในวงจรของชุดไฟนี้อ่ะครับ....

....โคมไฟที่ขายกันทั่วไปบางยี่ห้อก็มีCต่อมาให้...บางยี่ห้อก็ไม่มี อันนี้ต้องหาวิธีดูวงจรภายในโคมไฟก่อนที่จะซื้อเอาเองน่ะครับท่าน....

 

แจ่มคับพี่หนุ่ม

ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาเลย งานเยอะมาก แล้วยังมีเรื่องติดค้างคำแปลกับพี่ pro ไว้ด้วย (ผมไม่ได้ลืมนะคร้าบ พี่ pro )

เดี๋ยวยังไม่ได้อ่านกระทู้ใหม่ๆ เลยคร้บ อื่มม มีเรื่อง update เรื่องสายยางท่อแอร์ของบรีสโตน คร้บ ถ่ายภาพมาให้ชมกัน
แต่ยังไม่ได้เอาลงเลย เดี๋ยวคืนนี้จะเอาภาพมาลงให้ดูครับว่า น้ำยาแอร์มันหายไปจากในระบบเพราะ อะไร..................

 

เรื่องกล่องเอากล่องของเก่ามาใช้ครับสมัยก่อนซื้อมาสัก 10ปีที่แล้ว 45 บาท solenoid ใช้ของเครื่องซักผ้าLG 264 บาท ข้อต่อทองเหลืองทั้งหมดกลึงเอาราคาประมาณ 300 บาทรวมทั้งข้อต่อพลาสติกด้วยครับ ส่วนสายไฟใช้สายVCT 2*1 เมตรกว่าๆ ท่อรัดสายยางสเตนเลสตัวนึงประมาณ 13 บาทสองตัวครับ หัวพ่นหมอกชุดนึง 199 ร้านสปริงเกอรไทยดอทเนตครับ รวมค่าขนส่งอีก 100 บาทพอดีผมซื้อจุกจิกครับ

 

้เคยย้ำแล้วว่า วัดไฟฟ้า ควรวัด watt เอาครับ
วัดกระแสแบบคุณหนุ่ม จะโดนเครื่องมือวัดหลอกครับ
เพราะว่า ค่าที่วัด คือ VA ไม่ใช่ Watt

การไฟฟ้าเก็บค่าไฟเราในหน่วย Watt

สำหรับคุณยุทธ เรื่องล้างตะกรัน
วิธีง่ายๆ ก็คือ เหมือนแหวนใน lord of the ring ครับ
น้ำทำให้เกิดตะกรันขึ้นมา จะกำจัดตะกรันก็ใช้น้ำนี่แหล่ะ
น้ำที่ละลายตะกรันได้ คือ น้ำกลั่น หรือน้ำ RO

แต่ที่จริงก็ไม่น่าจะห่วงเรื่องตะกรันมากนะครับ
เพราะว่า fin ยี่ห้อดี มันเคลือบ PE ซึ่งตะกรันไม่ค่อยติดเท่าไหร่

 

คุณหนุ่มไม่เหมือนผม เพราะส่วนใหญ่ผมจะโดนสาว ๆ หลอก
แต่พวกเครื่องมือ จะโดนผมหลอกกลับครับ

ทำมิเตอร์วัดวัตต์แบบผมสิครับ สะดวกดี ตอนนี้หน้าที่หลักคือเอาไว้แทนปลั๊กพ่วงยาว ๆ เวลาซ่อมรถ
ส่วนเรื่องเลขของมิเตอร์ไม่เคยใช้วัดอะไรเลย...555

ถามคุณ Professor ครับ
ถ้าแบบนี้ผมใช้วัดเปรียบเทียบอุปกรณ์แบบคุณหนุ่ม โดยสมมติว่าจับเวลา 1 นาทีแล้วดูว่ามิเตอร์หมุนกี่รอบในแต่ละแบบ
เช่นแบบแรกกินไฟเยอะหมุน 10 รอบ/นาที แต่พอดัดแปลงแบบคุณหนุ่มแล้วเหลือ 5 รอบ/นาที
แสดงว่าประหยัดไฟขึ้น 50 % ใช่ไหมครับ?

 

น่าจะใช่เนอะเพราะว่าเราใช้มิเตอร์วัดแบบkWh แล้วหนิ ถ้าลดได้ 50% พี่ๆเรานี่เทพม๊ากๆๆๆๆๆ

 

ทั้งคุณหนุ่ม กับคุณหน่อย ขยัน DIY กันจัง
ผมเริ่มหมดมุกแล้วว่าจะเล่นอะไรดี

 

ใช่ครับ ประหยัดไฟได้ 50%
ทั้งนี้ขึ้นกับเงื่อนไขของมิเตอร์ด้วยครับ ว่าคุณภาพดีหรือเปล่า
ผมเคยทดลองต่อมิเตอร์ ใช้ตัวเก็บประจุ เป็นโหลด กระแสวัดได้ เป็น 10 amp
แต่มิเตอร์ไม่หมุนเลยครับ

หลังจากนั้นก็ต่อโหลดที่เป็น heater เช่น เตาย่างไร้ควัน
คำนวณ watt ควรจะได้ใกล้เคียงกัน ผิดพลาดไม่ควรเกิน 15%

เงื่อนไขการใช้มิเตอร์แบบนี้ ต้องตั้งให้ได้ระดับด้วยครับ

 

ท่านprofessor ครับ ต่อตัวเก็บประจุจะช่วยอะไรได้บ้างครับ ต่อแล้วมิเตอร์ไม่หมุนคือการจิกไฟใช่ไหมครับ ผมงงครับช่วยอธิบายด้วยครับ ถ้าบ้านพักใช้ไฟ 220 โวลต์ทั่วไปต้องติดตัวเก็บประจุเพิ่มไหมครับ สนใจเหมือนกันครับ ขอบคุณมากครับ

 

ตัวเก็บประจุช่วยปรับ Power factor ของโหลดมอเตอร์ให้ ใกล้ 1
ตามบ้านไม่ต้องติด ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟ

ตัวอย่าง
มอเตอร์ กินกระแส 10 amp
ต่อตัวเก็บประจุไปให้พอดี กระแสลด เหลือ 7 amp

แต่มิเตอร์แบบ kwh จะวิ่งเท่าเดิม นั่นก็คือ watt มันเท่าเดิม เพียงแต่กระแสลดลงเท่านั้นเอง

ถึงบอกว่า วัดการกินไฟ ต้องใช้ watt มิเตอร์เท่านั้น

ข้อดีของตัวเก็บประจุคือลดกระแสในเครื่องใช้
ทำให้ต่อไฟได้เยอะขึ้น แต่ใช้สายไฟขนาดเท่าเดิม

แต่จะใช้ได้กับอุปกรณ์ที่เป็นคอยล์ทองแดงเท่านั้น
ใช้กับพวก เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้ (ส่วนใหญ่)

จะเห็นว่า เอาตัวเก็บประจุต่อกับ ballast ของ หลอด metal halide แล้วกระแสลดลงมาก จนคิดว่ามันช่วยประหยัดไฟได้จริง

 

น้ำยาแอร์ f410 นี่ใช้ r22 แทนได้ป่ะคับ จะได้ซื้อ cold มาเติม

 

.....รบกวนพี่(อ๊บๆ)ใช้เครื่องมือของพี่วัดเปรียบเทียบให้เห็นหน่อยได้ไหมครับว่า
มันประหยัดไฟจริงหรือป่าว...(ผมอาจจะเห็นต่างจากพี่Professor ก็ได้ว่า ในเมื่อ
โหลดกินกระแสไฟน้อยลง แต่มิเตอร์kwhยังวิ่งเท่าเดิม ฟังดูมันยังสงสัยติดคาใจ
อยู่ เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริง รบกวนช่วยลองหน่อยครับพี่) คือไม่ได้เป็นคนหัวดื้อ
น่ะครับ แต่อยากรู้ข้อเท็จจริงครับวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้

 

อ่านแล้วมีโจทย์มาถามครับ

ที่บ้านผมมีตู้เชื่อมโลหะ(ขนาดกลาง ๆ) อยู่เครื่องหนึ่งครับ พอดีคุณพ่อเขาซื้อมาจากร้านทีผลิตแถวบ้านเอง
แต่คนรู้จักบอกว่าร้านนี้ของเขาดีจริง และที่ตัวเครื่องเขียนว่าเป็นทองแดงแท้ ๆ

ตอนนั้นผมจะใช้เชื่อมเหล็กขายึดถังแก๊สรถ โดยการต่อผ่านเบรคเกอร์เครื่องทำน้ำอุ่น (30A)
ปรากฏว่าเชื่อมไปได้นิดเดียว เบรคเกอร์ก็ตัด(เด้งลง) พอยกเบรคเกอร์ขึ้น สักพักก็ตัดอีก
สุดท้ายเลยเอาไปต่อกับเบรคเกอร์เมน ถึงจะใช้งานได้โดยไม่ตัด

คำถามครับ...
1. มิเตอร์ที่บ้านแค่ 5(15)A แต่เบรคเกอร์ 30A มีการตัดไฟเกิน แสดงว่าผมใช้ไฟเกิน 30A แน่ ๆ
ลักษณะนี้มันไม่ทำให้มิเตอร์ของการไฟฟ้าเสียหายหรือครับ
2.ผมสนใจจะต่อตัวเก็บประจุเพื่อลดกระแสของเครื่องเชื่อมไฟฟ้า จะทำได้หรือไม่ครับ
ถ้าทำได้ รบกวนขอ link หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับการต่อตัวเก็บประจุ จะได้ลองไปศึกษาเพื่อทดลองดูครับ

ตอนนั้น (เกือบ 3 ปีแล้ว) ไม่มีคลิปแอมป์มิเตอร์ ไม่มีความรู้และไม่ค่อยสนใจเรื่องกำลังไฟฟ้าเลย
กระทู้นี้ ทำให้อยากลดการใช้พลังงานลง อะไรที่ลดได้ ก็อยากลองดูครับ

ขอบคุณมากครับ

ปล.ขออภัยที่นอกเรื่องแอร์ครับ ถ้าจะโห่ผม ต้องไปโห่คุณยุทธ เรื่องฉีดปลวกก่อนนะคร้าบ... ฮิฮิ

 

สบม.ครับ น้องหนุ่มศรราม เดี๋ยวพี่กบ ทรงสิทธิ์ จัดให้

เดี่ยวจะหาโหลดที่วัดง่าย เช่นกระติกไฟฟ้าแบบ 600,800 วัตต์ก่อนครับ (เบิกคุณหนุ่มได้มั๊ยเนี่ย)
มิเตอร์ผมเพี้ยน ๆ อยู่ เพราะต่อไฟเข้าปุ๊บ มันหมุนช้าๆๆๆๆๆๆๆๆ นิดๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ไม่เป็นไร วัดมันทั้งอย่างนั้นเลย

ที่สำคัญคือ มิเตอร์มันหมุน 1200 รอบ/1กิโลวัตต์/นาที อยากหาโหลดที่มันลงตัวง่าย ๆ ไม่ใช่หมุนครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ใครมีคำแนะนำเกี่ยวกับโหลดที่จะมาใช้บ้างไหมครับ

 

ที่โคราชหาซื้อ cold 12 ได้ที่ไหนบ้างคับคุณเตอร์