ถ่ายมาตั้งแต่วันอาทิตย์ครับ ร้านนี้จะอยู่ก่อนถึงแยกปิ่นเกล้าประมาณ 500 เมตรครับ ร้านทำแอร์รถ pajero ที่หมดไป 18,000 บาท (ก่อนหน้านี้อีก 4,500 บาท) ทำแล้วก็ไม่เย็น เกร์ hi ขึ้นไปถึง 350 Psi ห่วยโคตรรร จอดรถทิ้งไว้เกือบ 1 เดือนเต็ม คำพูดที่ออกมาจากปากเจ้าของร้าน..... ก็ทำให้ได้แค่นี้แหละ ไม่ได้บอกว่าร้านนี้ทำไม่ดีนะครับ ...แต่ลองย้อนกลับไปอ่านเหตุการณ์ที่ผมโดนกับตัวเอง ผมเลยเอามาเล่าให้เป็น อุทาหรณ์ ให้กับคนที่คิดจะเข้าไปให้บริการเรื่องแอร์ครับ ท่านๆๆ อ่านเสร็จแล้วจะเข้าไปใช้บริการหรือไม่ ก็ต้องแล้วแต่วิจารณ์ญานของแต่ละบุคคลนะครับ เพื่อนๆ ท่านใดยัง งง ย้านกลับไปดูประมาณ 5 หน้าได้มั่งคับ
แหม... ถ้าถูกหวยว่าจะเอามิตซูอีคาร์ไปทำร้านนี้ซะหน่อย ตอนนี้แอร์เดี้ยงอยู่เลยครับ ท่อยางด้าน hi เห็นคราบน้ำมันเยิ้ม จอดรถทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ น้ำยาแอร์หายหมดเลย วันจันทร์ขับมาทำงาน ใช้แอร์ไม่ได้เลย ร้อนจนตับแล่บครับ เมื่อวานลองซ่อมเล่น ๆ ไปบ้างแล้ว แต่ไม่ได้ทำแบบเต็มที่เพราะเครื่องมือทำแอร์อยู่อีกบ้านนึงที่กำลังทดสอบ cold22 อยู่ พอดีมีแค่เกจกับน้ำยา R12 ที่ซื้อนานแล้วแบบชั่งกิโล หลังจากถอดสายไปเปลี่ยนแล้วย้ำใช้กับหัวเดิม ก็จัดการเติมน้ำมันคอมเข้าไปซัก 50 ซีซี. เสร็จแล้วเติมน้ำยา R12 เลย เพราะไม่มีเครื่องแว็ค คว่าถังเติมจนหมดถังจริง ๆ เติมเข้าไปได้แค่ 4.5 ขีด เพราะมีอยู่แค่นี้ เมื่อกี้ทดสอบขับมา แอร์ก็เย็นใช้ได้ แต่เดี๋ยวคืนนี้จะทำใหม่หมดแล้วจัดการใส่ cold12 แล้วครับ งั้นผมถามเล่น ๆ ก็แล้วกันว่าถ้าไม่แว็ค ความชื้นที่อยู่ในระบบเข้าไปผสมกับน้ำยาแอร์ จะมีผลเสียอย่างไรบ้างครับ ใครตอบถูกและอธิบายได้ชัดเจน ไปรับรางวัลได้ที่คุณปีเตอร์ครับ เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกคุณเตอร์ล่วงหน้า ปล.รางวัลคือเข้าไปอยู่ในห้องทดสอบอุณหภูมิที่สร้างใหม่นั่นแหล่ะครับ
ลูกพี่คับ...ขาดน้ำยา R12 บอกน้องได้เลยนะคับ ..น้องยังพอมีของอินเดีย สต๊อกอยู่นิหน่อยคับ ปล. หุหุหุ... มีแถมผ้านวม 3 ผืน และหมอนอีก 2 สามารถมาเพื่อนเข้ามาได้ 2 ท่าน
วันนี้อากาศร้อนมากๆๆๆ กลางวันเดินขึ้นมาเปิดแอร์ในห้องนอนคับ ซัก 10 นาที กำลังจะเดินลงไปทำงานต่อ ก่อนจะปิดผมมองดูเกร์วัดน้ำยาหน่อย Lo อยู่ที่ 90Psi Hi อยู่ที่ 215Psi แสดงว่าอากาศร้อนมากๆๆ เลยนะครับ เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ช่วงพายุเข้าฝนตกหนักๆๆ Lo อยู่ที่ 65 - 70 Psi Hi อยู่ที่ 160 -180Psi (ถ้าจำไม่ผิดนะคับ) ลองดูภาพที่ถ่ายไว้ในกระทู้กลับไป 2 หน้าได้มั่งครับ
ร้อนสะใจจริงๆคุณเตอร์ เอพร่งนี้คุณเตอร์อยู่โรงงานไหมครับ ว่าจะเข้าไปซื้อcold 12 สักหน่อยครับ พอดีไม่พอครับ ผมมีเรื่องจะเเนะนำคุณเตอร์เรื่องน้ำยาredtek ครับ อยากให้เตอรืเก็บตัวอย่างแล้วส่งน้ำยาตัวนี้ไปวิเคราะห์ในห้องแลปโดยการฉีด GC-MS เพื่อดูองค์ประกอบของน้ำยา ว่าคล้ายกับcold22 ไหมทครับ เพราะว่าทางคุณเตอร์จะได้ทราบว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้cold เหนือกว่าครับ และจะได้เอาไปพัฒนาผลิตภัณฑ์เตอร์ต่อครับ
พรุ่งนี้ผมมีไปหาลูกค้าแถวๆ ปทุมแต่เช้าเลยคับพี่หน่อย และมีนัดกับพี่วัตร (เจริญแอร์) ตอนเที่ยงถึงเย็นเลยคับพี่ พี่หน่อยโทรสั่งคุณ a ได้เลยคับ... ทางนู่นจะได้มียอดขายหน่อยคับ
ได้ครับคุณเตอร์ ว่าเเต่คุณเตอร์มีเบอร์คุณเอไหมครับ พอดีมือถือผมหายวันนี้ จึงต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่เบอร์หายหมดเรยครับ ผมจึงมาโพสในเนตมากเพราะว่าติดต่อพี่เอและเซลล์ไม่ได้ครับ ขอเบอร์คุณเอหน่อยละกันครับ ขอบคุณมากครับ
รูปที่ 1 น้ำยาแอร์ R12 ซื้อตามร้านอะไหล่ข้างถนน เติมไป 450 กรัมยังไม่เต็มระบบ ทำความเย็นสูงสุดได้เท่านี้ครับ รูปที่ 2 เวลาเกือบ 4 ทุ่มแล้ว มีไอ้บ้ามาซ่อมแอร์รถตัวเอง ตอนนั้นปล่อยน้ำยาออกแล้วกำลังแว็ค 30 นาทีครับ รูปที่ 3 หลังจากเคยเอามือจับคอล์ยร้อนกับท่อ Hi ปรากฏว่าร้อนจนจับไม่ได้ เลยจัดการถอดพัดลมออกแล้วใช้น้ำยายี่ห้อเฮลิคอปเตอร์ราดใส่ จริง ๆ ไม่อยากใช้น้ำยาตัวนี้เท่าไหร่หรอกครับ เพราะฤทธิ์มันกัดรุนแรงมาก ใครจะล้าง ระวังลมพัดไอน้ำยาเข้าตานะครับ (ผมโดนแบบเฉียด ๆ มาแล้ว) คุณหน่อยหรือคุณ Professor มีน้ำยาดีกว่านี้แนะนำไหมครับ, คุณเตอร์เขาแนะนำเป็ดขวดม่วง แต่ผมกลัวโรคหวัดนกมาติดรถผมครับ... รูปที่ 4 พระเอกของงาน ใหม่แกะกล่องเลยครับ น้ำหนักชั่งเมื่อคืนรวมถัง 8.69 กก. หลังชกเสร็จขึ้นชั่งอีกครั้งเหลือ 8.45 กก. สรุปคือรถอีคาร์เดิม ๆ เปลี่ยนแผงคอล์ยร้อนเป็นแบบยาว ใช้น้ำยาไปแค่ประมาณ 250 กรัม น้ำยาถังนี้ 5.5 กก. น่าจะเติมรถแบบเต็มระบบได้ประมาณ 22 ครั้งเท่านั้นเอง !!!! (ใช้จนลูกบวชเลยมั๊งครับ...) รูปที่ 5 ชาร์จน้ำยาอย่างช้า ๆ โดยเปิดแอร์ระบบออโต้ให้เป็น Max Cool (17 องศา พัดลมแรงสุด) ได้ดีที่สุดแค่นี้เองครับ เพราะเทอร์โมสตัทมันสั่งตัดที่ 9.5 องศา จริง ๆ สั่งให้ตัดช้ากว่านี้ก็ได้ เพราะหลังจอคอนโทรลระบบแอร์ออโต้จะมีสวิทช์ตัวนึงให้หมุน เพื่อปรับความไวในการตัดต่อให้เร็วหรือช้าได้ ซึ่งผมปรับให้ตัดต่อเร็ว เพื่อประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง สรุปพอใจกับ cold12 มากครับ ทำความเย็นได้เร็วกว่าเดิมมากแบบเห็นได้ชัด และถ้าเทียบราคากับ R12 ต่อการเติม 1 ครั้ง น้ำยา cold12 จะถูกกว่าอีกด้วย คันนี้ผมอาจจะปรับเทอร์โมสตัทให้ตัดช้าลงกว่านี้นิดหน่อย แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะสู้แดดตอนเที่ยง ๆ ได้สบายแล้ว ส่วนโปรเจ็คท์ตัวเลขติดลบ ขอไปทำในรถ E30 ครับ จริง ๆ ผมเห็นน้ำยา cold มานานเกิน 5 ปีแล้ว ไม่ค่อยสนใจ เพิ่งจะได้มาลองใช้เมื่อปีนี้เองครับ ต้องขอบคุณคุณเตอร์สำหรับน้ำยาแอร์ดี ๆ ที่เอามาให้ผมได้ลองใช้ครับ
รูปที่ 6 ถ่ายเมื่อกี้เองครับ ขับรถมาทำงาน ตั้งแอร์ออโต้ที่ 26 องศา ทำความเย็นได้เท่านี้ก็ตัดแล้ว เร็วกว่าของเดิมมาก
แหมมมม ผมขายน้ำยาแอร์กระป๋องครั้งแรกก็ตอนปี 1 ลูกค้าของผมคนแรกก็คือพี่กบ แนะนำมาตั้งนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บอกว่าพี่ลอง Cold12 ดูคับ ......... (เป็นไงมั่งคร้าบเพ้ ..... บอกให้ลองตั้งนานไม่ลอง) - 55555 คนบ้าที่ว่าก็คือพี่ช่ายไหมคับ ที่ซ่อมแอร์รถตอน 4 ทุ่ม หุหุหุ - เฮ้ยพี่กบ ใช้ แฟ้บผสมน้ำแล้วใส่ขวด เจาะรูแล้วบีบเอาก็ได้คับพี่ หรือเป็ดเหลืองก็ได้ อ่อนกว่า - พี่แปะสติกเกอร์ Cold12 หลังรถนะ รับประกัน เย็นติดลบ sure
เมื่อคืนผมได้ทำการลองเครื่องมือวัดแบบไฟฟ้า แล้วเอามาเข้าโปรแกมในคอม มันจะโชร์การกินไฟ ตามภาพที่แนบมาให้ดูเลยคับ ผมมีวัด 2 อย่าง มีวัด amp , อากาศหน้าคลอย์กับอากาศภายนอก พอวันนี้ไปถอดมาเพื่อ update ในคอม สรุปวัด amp ได้อย่างเดียว อากาศวัดแล้วมัน error ตั้งค่าผิดๆ ถูกๆๆ คับ เพิ่งเล่นโปรแกมนี้ครั้งแรกคับ เดี๋ยวเล่นโปรแกมอีกสักพัก จะเอามาให้ดูแบบเป็นทางการครับ
ต้องเรียนพี่กบก่อนว่า คอยส์ร้อนส่วนมากจะเป็ฯอลูมิเนียมเพื่อผลในการนำพาความร้อนและระบายความเร้อนอย่างรวดเร็ว แต่อลูมิเนียมนั้นทำปะติกิริยากับ ด่างได้ก๊าชไฮโดรเจนที่ติดไฟได้และมีโมเลกุลขนาดเล็กครับเบากว่าอากาศครับ โดยส่วนตัวผม ใช้แค่น้ำผ่านการปั้มด้วยเครื่องอัดฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดบนแผงคอยร้อนก็เพียงพอแล้วครับ อย่าเอาเคมีที่เป็นด่างไปล้างเลยครับ คอยจะรั่วเอาได้ง่ายๆ แต่ถ้าใช้แบบเป็นกรดนั้นอลูมิเนียมทนได้ครับ แต่ก็ไม่เหมาะสมครับ เพราะว่ากรดที่ตกค้างบนผิวของอลูมิเนียมนั้นอาจจะกัดกร่อนชิ้นส่วนอื่นๆบนตัวรถได้ครับ ส่วนตัวคิดว่าแค่น้ำแรงดันสูงก็พอครับ ส่วนกราฟคุณเตอร์นี่ละเอียดมากๆครับ สงสัยต้องintegrate ดูว่ากินกระแสไปเท่าไรครับ คิดว่าตัวโปรแกรมคงทำได้สบายมากๆครับ เดี่ยวมีความเห็ฯอะไรจะตอบไปต่อครัย
เรื่องน้ำยาล้าง นี่ไม่เคยลองหลายๆ ตัว ก็เลยแนะนำไม่ได้ ถ้าแผงมันซกมากๆ ก็คงต้องใช้กรดหรือด่างกัด พวก เป็ด อาปาเช่ ฯลฯ แต่ก็ต้องวัดดวงกับการผุแบบ pitting corrosion ตัวที่ล้างดีๆ น่าจะเป็นพวก ฉีดน้ำร้อนความดันสูง แต่คงไม่มีที่ไหนมี เพราะแพง กำลังจะลองเครื่อง ทำ steam มาล้างอยู่เหมือนกัน แต่งบไม่มี สำหรับเครื่องวัดของคุณ ter ดูแล้ว มันมีแค่ amp กับ volt หรือครับ ? ปกติ ถ้าจะวัดแอร์ ต้องวัด กำลังไฟฟ้าจริง ได้ด้วย หรือไม่ก็วัด power factor ได้ด้วย ถึงจะเอามาคำนวณค่าไฟได้ถูกต้อง เพราะว่า การไฟฟ้า ไม่ได้ เอา Volt x Amp มาคิดค่าไฟเรา แต่เอา real power มาคิด คือ Volt x Amp x Power factor
ขอบคุณครับ ที่ยอมล้างด้วยน้ำยาเฮลิคอปเตอร์ เพราะแผงคอล์ยร้อนมือสองเซียงกงสวย ๆ แค่ 800-1000 บาทเอง และตอนนี้หาซื้อมาเป็นอะไหล่ไว้แล้ว ถ้าเป็นของรถแพง ๆ ผมก็ไม่กล้าล้างด้วยน้ำยาแบบนี้ครับ ต่อไปคิดว่าจะใช้น้ำยาล้างจานใส่กับเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงล้างเอาครับ แต่ล้างแล้วเห็นผลชัดเจนเลยนะครับ จากที่ร้อนแบบจับไม่ได้ มาเหลือแค่อุ่น ๆ เอง
มีของมาฝากให้พี่จินนี่ดูครับ ไม่รู้จะว่างมาดูหรือเปล่า? ผมซื้อมาโดยคิดว่าขอให้ชาตินี้ไม่ต้องใช้เอง จะดีมาก ๆ เลยครับ รุ่นเก่าที่พี่จินนี่ใช้ มันไม่มีขายนานแล้วครับ คนขายบอกว่าตัวนี้ใช้น้ำยาเหมือนกัน มีขนาด 2, 5, 10 ปอนด์ แถมถ้าหมดชาร์จน้ำยาได้ใหม่อีกด้วยครับ ผมย้ำเขาว่าเอาแบบ BCF นะ ไม่ใช่ BF 2000 เพราะถึงจะทำลายโอโซนอย่างรุนแรง แต่ผมไม่คิดจะใช้มันหรอก งานนี้ต้องเชื่อใจคนขายอย่างเดียว เพราะฉลากบนถังก็เป็นสติ๊กเกอร์เอามาแปะไว้เฉย ๆ ข้างในเป็นอะไรก็ไม่รู้ เพิ่งจะเคยเห็นว่ามีชนิดเชื้อเพลิงแบบ class D ด้วย ทีแรกผมลังเลว่าจะซื้อแบบ 2 ปอนด์หรือ 5 ปอนด์ไว้ติดรถดี สุดท้ายก็เลือก 5 ปอนด์ เพราะราคาไม่ต่างจาก 2 ปอนด์มาก เสียแต่ว่าถังใหญ่ไปหน่อย อาจจะทำให้เกะกะในรถ (ปกติอันเก่า ผมจะไว้ใต้เบาะคนนั่งด้านซ้าย)
.....ตอนนี้บ้านเมืองเริ่มสงบแล้ว พอจะมีเวลาDIYบ้างแล้ว กำลังคิดๆอยู่ว่า.... 1. จะDIYที่ฉีดไอหมอก(ชุดละ159บาทมั๊ง)ฉีดใส่แผงคอล์ย คงจะเร็วๆนี้แหละครับ 2. คิดมานานแล้วและน่าจะเป็นไปได้ระดับหนึ่ง คือการประหยัดน้ำมันหรือพลัง งาน....ที่คิดไว้คือจะแบ่งเอาลมแอร์เย็นๆในห้องโดยสาร หรือจากท่อลมแอร์ โดยใช้ท่อยางหรือท่อพลาสติกแบ่งลมแอร์เย็นๆมาเข้าที่กล่องกรองอากาศ... เพื่อให้อากาศหรือลมเย็นเข้าไปผสมกับน้ำมันหรือแก็ส ทำให้ได้การเผาไหม้ ที่สมบูรณ์เครื่องยนต์ให้พลังงานหรือกำลังม้าเพิ่มขึ้น(จากเดิมๆที่เอาแต่อากาศร้อนๆในห้อง เครื่องมาเผาไหม้) ไม่รู้ว่าจะเป็นดั่งที่คิดไว้รึป่าว วานผู้รู้ช่วยแนะด้วยครับ ตอนนี้......อยากลองcold12มั๊ง ไม่รู้ว่าถังล่ะเท่าไร???ครับ..คุณเตอร์
ผมไม่แน่ใจกับข้อมูลบางอย่างของมิเตอร์การไฟฟ้าครับ ถ้าเป็นบ้านทั่วไปที่เป็ฯมิเตอร์แบบวัดแบkWh นั้น ไม่น่าจะคิดPF แต่ถ้าเป็ฯหม้อโรงงานขนาดใหญ๋หรือหม้อTOU อันนี้คิดแน่ๆ ครับ สำหรับค่าPF ครับ สุดท้ายเห็ฯด้วยกับท่านprofessor ด้วยครับที่น่าจะใช้แรงดันน้ำสูงๆฉีดล้างก็พอครับ สุดท้ายต้องรบกวนให้พี่กบหลังไมมาหาผมหน่อยครับ ว่าถ้าจะขอแชร์cold 12 กับแอร์รถกะบะเก่าๆ ไม่ทราบว่าคิดอย่างไรครับ
ผมกำลังจะซื้อแอร์บ้าน ห้องประมาณ4*4 *2.8 กะว่าจะซื้แอร์ไดกิ้น ก็อ่านๆหลายกระทู็ที่แนะนำกัน แต่ไดกิ้นรุ่น FTKE12GV2S/RKE12GV2S inverter#5 10,900 มันต่างกัรยังงัยครับ ได้ ftke กะ rke แล้วจิงๆมัน 10900 btu มันจะพอไหมครับ อีกอย่าง น่ำยาแอร์ r-410a นั้นดีอย่างไร ทำไมถึงรุ่นใหม่ๆจึงเปลี่ยนมาใช้กันครับ อีกตัวเลือกนึงคือ shap น่าใช้ป่าวครับ เห็นมีตัวฟอกอากาศ ผมเป็นภูมิแพ้ และเมียท้องแก่ใกล้คลอด เลยอยากใด้ตัวน้่อยที่ออกมา สูดอากาศบริสุทธิ์หน่อย แล้ว shap นี่เป็น inverterด้วยรึป่าว เค้าใข้น้ำยาเบอร์อะไร ผมอยากเปลี่ยนเป็น coldทีหลังน่ะครับ ที่สำคัญ แอร์ห้องนี้หลังจากตัวน้อยออกมาคงต้องเปิดทั้งวันทั้งคืนล่ะครับ
อ้อ ลืมบอก ห้องนอนผม แผงเมนไฟฟ้า อุปกรณ์กล้องวงจรปิด คอม server 1เครื่อง pc1เครื่อง ทีวี1 ตู็เย็น1 แอร์ไดกิ้นรุ่น FTKE12GV2S/RKE12GV2S มันจะไหวป่าวคับ พี่ยุทธช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอเกทับหน่อย corolla ผมได้ แถวๆ 3.8 เอง แต่เปิด thermostat สุด พัดลมเบอร์ 3 จากสูงสุด 4 เรื่องแอร์ inverter ที่บ้านคุณกบนี่ตกลงจบหรือยังครับ จบยังไง?
มิเตอร์การไฟฟ้าตามบ้าน วัดแบบ kW คือวัด Watt การวัด แรงดัน กับกระแส จะเป็นการวัด V X A ก็คือ VA แหล่งจ่ายไฟทุกที่ต้องระบุ VA ไม่ใช่ Watt ดูได้จาก UPS กับเครื่องปั่นไฟ ที่จะระบุเป็น VA เสมอ เช่น แรงดัน 220 Volt กระแส 10 Amp ก็คือ 2200 VA ถ้า power factor 0.5 กำลังไฟฟ้า คือ 2200 X 0.5 = 1,100 Watt (จากสูตร P = Amp X Volt X Power factor) จะเห็นว่า Watt น้อยกว่า VA เสมอ ทำให้การไฟฟ้าเสียเปรียบ ถ้าค่า Power factor ต่ำ คือ ผลิตไฟฟ้า 2,200 VA แต่ เก็บเงินได้ 1,100 Watt ตามบ้าน มันแก้ power factor ง่าย แต่โรงงาน ต้องใช้เงินเยอะ การไฟฟ้าเลยคิดค่าปรับแทนดีกว่า
จากสูตร S=VI VA P=VI COS W Q=VI SIN var ---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 18:48:25 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 18:48:05 ---------- จากสูตร S=VI VA P=VI COS W Q=VI SIN var
1. diy หมอกน่าทำครับ คุ้มค่าแน่ๆ 2 เอาลมแอร์เย็นๆไปเข้าเครื่องผมว่าไม่คุ้มกับความยุ่งยาก ครับปริมาณอากาศที่เครื่องดูดเข้ามันเยอะมาก ทางที่ดีหาทางให้มันดูดอากาศเย็นๆจากนอกห้องเครื่องได้ก็จะดีมาก เอาอะไรมาดักลมจากใต้ห้องเครื่องอัดเข้ากรองอากาศไปเลยสิครับ แบบรถมอเตอร์ไซส์ ของ Kawa เป็นต้นตำหรับ RAM AIR มีท่อรับอากาศจากหน้ารถบริเวณใต้ไฟหน้า อัดเข้ากรองอากาศโดยตรง จะเห็นผลดีที่ความเร็วเกิน 200 ขึ้นไป ได้ม้าเพิ่มอีกหลายตัวเลย
เรียน พี่ๆทุกท่านครับ คือว่าวันนี้ตอน ห้าทุ่ม ผมได้เอาน้ำยาcold 12 มาจากคุณพี่กบ ครับ และได้เติมลงในรถกะบะ isuzu เครื่อง 4JA1 แต่ใส่turbo 4JH1 ครับ ผลปรากดว่า เย็นเร็วมากๆๆๆ ใช้เวลาทำไปประมาณ 1ชั่วโมงครับ เอาแบบว่าเเอร์เดินไม่ถึง 15 วินาทีก้อตัดแล้วเวลาตัดเทอร์โมต่ำสุด แต่ผมเอารูปขึ้นเวบไม่เป็ฯงะครับ ยังไงจะรายงานผลหลังการใช้สัก 1-2 วันแต่ว่าพร่งนี้จะเอาถังน้ำยาไปคือนท่านพี่กบ ครับ พี่ท่านไหนก็ได้ครับช่วยสอนวิธีเอารูปขึ้นเวปหน่อยครับ ขอบคุรมากๆครับ
งงดีจัง เติมน้ำยามันริมถนนซะเรย อิอิ ไม่กัว แถมก่อนเติมน้ำยาเราก้อเติมน้ำมันคอมกาป๋องเขียวๆซะก่อน สนใจติดต่อคุณเตอร์ครับ อิอิ
คือว่าตอนนี้ผมก้อไม่ทราบจริงๆว่าโมเลกุลของR 12 กับ Cold 12 ใครตัวหญ่ายกว่ากันเนอะ เพราะว่าซีลคอมแอร์รถป๋มมันรั่วมาได้ 4ปีละ สังเกตดูเเบตดิ คราบน้ำมันคอมเต็มเรย อิอิ ยังไงสัก1-2 วันจะวัดอุณหภูมิใมให้ดูครับ คอม ใช้มา 17ปี รถ 5แสนโลมันคงจะไม่เย็ฯติดลบอย่างที่เตอร์ คาดหวังแน่ๆ อิอิ รูปสุดท้ายน้ำยาเต็มตาแมวเรยครับ แต่ยังแอบมีฟองอากาศ 3อัน เเฮะๆๆ สงสัยยังมืออาชีพไม่พอจริงๆ เรา
ห้อง 16 ตรม ถ้าไม่โดนแดดส่องตอนบ่ายจนกำแพงห้องร้อน และเอามือจับฝ้าเพดานตอนบ่าย 3 แล้วไม่อุ่นๆ ก็ใช้รุ่น 10900 btuได้ ถ้าฝ้าร้อนก็ติดฉนวน staycool หนา 6 นิ้ววางทับบนฝ้า ถ้ากำแพงห้องอุ่นๆตอนบ่ายก็ต้องขยับมาเล่นรุ่น 15000 btu RKE มันรุ่นของคอล์ยร้อน ไม่ต้องสนใจครับ FTKE นั่นแหละถูกแล้ว ให้เลือกแอร์รุ่นที่ใช้น้ำยา R22 นะ มันถูกว่า ทำงานได้ดีใช้ cold ได้ R410a มันยังแพงไปอยู่และไม่แน่ใจว่าจะใช้ COLD ได้หรือเปล่ายังไม่ได้ลอง sharp inverter ก็มี ใช้น้ำยา R22 ถ้าอยากสูดอากาศบริสุทธิ์ อย่าหวังพึ่งแอร์ครับ เครื่องฟอกในแอร์ทุกรุ่นมันอันนิดเดียว ยากที่จะกรองอากศให้บริสุทธิ์ได้ตลอดและเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สิ่งที่ควรทำคือต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุโดย กวาดถูห้องให้มีฝุ่นน้อยที่สุดทุกวัน อย่านำผ้า หมอน ตุ๊กตาที่มีเส้นไยเยอะๆเข้ามาในห้องมาก เพราะไยมันจะฟุ้งห้องไปหมด ล้างแผ่นกรองอากาศทุกอาทิตย์ sharp ดังเรื่อง plasma cluster แต่เขาอ้างผลการทดลอง ซึ่งคุณไม่รู้ว่าไอเครื่องกรองของเขาตัวขนาดไหน แต่เครื่องกรองในแอร์เขาน่ะตัวนิดเดียวเอง ผมไม่ไว้ใจมันนักว่าจะกรองอากาศให้สะอาดได้ตลอดเวลาจริงๆ อุปกรณ์ในห้องเยอะขนาดนั้น คงต้องรุ่น inverter 15000 btu จะดีกว่า เพราะ ตู้เย็น เครื่อง server พ่นความร้อนเยอะๆทั้งนั้น รุ่น 10800 btu มันน้อยไป ถ้าเอาตู้เย็นกับ server ออกไปได้รุ่น 10800 btu ก็พอไหว คงต้องเปิดแอร์เยอะ ใช้ inverter คุ้มสุด ส่วนยี่ห้อก็ตามที่ให้ข้อมูลไป ชอบอันไหนก็เอา อย่าเพิ่งใช้ R410a ในตอนนี้ + อ้างถึง ตอบกลับ