ถ้าอยู่แถว ซอยมิสทีน สุขา 3 ผมมีร้านประจำของ tota เก่ง ไม่แพง ชำนาญระบบไฟฟ้า เครื่อง ECU จะแนะนำให้ไปทำ
คุณ dear 101 ครับ เติมน้ำมันคอมไปเยอะมากไหมครับ จริงแล้วไม่ได้เปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ใดๆ เติมประมาณ 20-30 CC ก็พอแล้วครับ จริงแล้วการเติมน้ำมันคอมต้องเติมหลังจากทีทำการแวคคัมไปแล้วประมาณ 5 นาที แล้วทำการแวคคัมต่อไปอีก 30 นาทีนะครับ อาการนี้นะครับ เข็มชี้อยู่ที่ 10 PSI ผมขอข้อมูล ด้าน High ด้วยครับ ค่าอยู่เท่าราย แล้วลองสังเกตุท่อร้อนก่อนเข้าตู้แอร์เป็นไอน้ำจับรึป่าว ถ้ามีไอน้ำจับก็วาล์วตันน้ำมันแล้วครับ
มาอัพเดทครับ เรื่องปล่อยน้ำยาแอร์บ้านครับ หลังจากเมื่อวานที่โทรคุยกับคุณยุทธเสร็จ ผมก็ปล่อยน้ำยาออกเรื่อย ๆ วัดอุณหภูมิท่อดูด มีขึ้นมีลงตลอดครับ 11-12 มั่ง 9-10 องศามั่ง... งงมาก พอปล่อยออกอีก คิดว่าน่าจะออกมาเยอะมาก อุณหภูมิสุดท้ายวัดได้ 8.5 องศา ก็เลยคิดว่าแค่นี้พอ พอดีมีธุระข้างนอก ก็เลยปิดเครื่อง แล้วขับรถออกไป 2 ชั่วโมง กลับมาวัดได้ 12 องศาอีกแล้ว (เดินเครื่องประมาณ 30 นาที) คิดอยู่ว่าจะทำยังดีหว่า เมื่อกี้มันได้ 8.5 แล้วนะ ก็เลยปล่อยน้ำยาออกอีก งวดนี้ผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง อุณหภูมิก็อยู่แถว ๆ 12-14 องศาตลอด สุดท้ายหมดมุขแล้ว ก็เลยเอาถังน้ำยามาต่อ แล้วค่อย ๆ ชาร์จน้ำยาเข้าแบบช้า ๆ อุณหภูมิก็ลดแบบฮวบฮาบเลยครับ จาก 12 ลงไปเหลือ 6 องศาแค่ไม่ถึง 5 นาที หลังจากนั้นลองปิดแอร์ รอจนห้องร้อน เปิดแอร์อีกครั้ง พัดลมก็ไม่เร่งแบบของคุณยุทธครับ วัดกระแสตอนอุณหภูมิห้องคงที่ (26องศา) อยู่แถว ๆ 2.8-3.4 แอมป์ตลอด ยอมแพ้กับการเติมน้ำยาแอร์สำหรับอินเวอร์เตอร์จริง ๆ เอาใจไม่ถูก เติมครั้งนี้พอดีแล้ว ปิดเครื่องเปิดใหม่ มาวัดอีกทีก็ไม่เหมือนเดิม :cry::cry::cry: ช่างแอร์ตัวปลอมอย่างผมขอยกธงขาวครับ :yield::yield::yield: เดี๋ยวจะลองต่อ watt hour meter เพื่อวัดการกินไฟดูครับ ถ้ากินไฟมากผิดปกติ สงสัยต้องเริ่มต้นปล่อยน้ำยาออกแล้วเติมใหม่ทั้งหมดอีกที
ถ้าไม่เคยทำ อย่าลองทำเองเลยครับเดี๋ยวกล่อง ECU จะกลับบ้านเก่า แล้วเมื่อก่อนตอนวางเครื่องเสร็จมันทำงานตามปกติหรือเปล่าครับ ทดลองใส่ load เข้าเครื่องเช่นถ้าเป็นเกียร์ออโต้ เข้าเกียร์ D รอบตกเยอะไหมครับ หรือลองหักพวงมาลัยเร็ว ๆ ดูว่ามีการชดเชยรอบหรือไม่ ถ้าไม่ชดเชย อาจจะอยู่ที่ตัวควบคุมรอบเดินเบานะครับ เพราะบางทีกล่องสั่งให้ชดเชย แต่ตัวควบคุมเจ๊ง มันก็ไม่ชดเชยให้ ส่วนใหญ่สัญญาณเข้ากล่อง ECU จากระบบแอร์ เขาจะเอาจาก pressure switch ที่ติดอยู่แถว ๆ ไดเออร์แอร์ครับ ลองเช็คขั้วดูว่าหลวมหรือหลุดหรือเปล่า จะเอาจากหน้าคลัทช์แอร์ก็ได้ มันก็คือไฟบวก 12 โวลท์ไปเข้ากล่องนั่นเอง คุณต้องมีผังกล่องว่าเข้าขาไหน ต่อผิดขา กล่องเจ๊งนะครับ (ย้ำๆๆๆ) ไปหาช่างที่คุณ คนปากช่องแนะนำน่าจะดีกว่า หรือลองเข้าไปใน coronaclub ปรึกษาคนใช้รถรุ่นนี้ น่าจะได้คำแนะนำดีเช่นกัน โชคดีครับ
ท่อดูดที่วัดได้ 6-7 องศานี่ตอนคอมเดินเต็มที่หลังจากเปิดแอร์ไว้ 25 นาทีนะครับ ถ้าแอร์ทำความเย็นได้ที่มันจะเดินหรี่ๆ กินไฟน้อยลง ช่วงนี้วัดท่อดูดจะเกิน 10 องศาอยู่แล้ว ถ้าจะวัดท่อดูดให้ได้ 7 องศา ให้เริ่มจากห้องร้อนๆ ตั้ง 20 องศาแล้วเปิดยาวไปเลย 25 นาทีแล้วค่อยวัด คอมจะเดินเต็มที่กินกระแส 4.0 - 4.3 แอมป์กว่าๆ ท่อดูดต้องลงมาที่ 7 องศา จากนั้นปิดแอร์ ปล่อยให้ห้องร้อนอีก เปิดใหม่พัดลมเป็น auto มันต้องเริ่มจากพัดลมแรง แล้วค่อยๆลดความเร็วลง ถ้าพัดลมยังไม่แรงให้ค่อยๆปล่อยน้ำยาแอร์ออก จากที่บอกว่า ---> พอดีมีธุระข้างนอก ก็เลยปิดเครื่อง แล้วขับรถออกไป 2 ชั่วโมง กลับมาวัดได้ 12 องศาอีกแล้ว (เดินเครื่องประมาณ 30 นาที) คิดอยู่ว่าจะทำยังดีหว่า เมื่อกี้มันได้ 8.5 แล้วนะ ก็เลยปล่อยน้ำยาออกอีก งวดนี้ผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง อุณหภูมิก็อยู่แถว ๆ 12-14 องศาตลอด จากข้างต้นผมเดาว่า ห้องยังเย็นอยุ่ แอร์เลยไม่เดินรอบสูง จะวัดท่อดูดได้เกิน 10 องศาอยู่แล้ว แต่ถ้าเริ่มจากห้องร้อนๆแล้วพัดลมไม่เร่งแรงนี่ปล่อยน้ำยาสถานเดียว จากท่อนนี้ <<<สุดท้ายหมดมุขแล้ว ก็เลยเอาถังน้ำยามาต่อ แล้วค่อย ๆ ชาร์จน้ำยาเข้าแบบช้า ๆ อุณหภูมิก็ลดแบบฮวบฮาบเลยครับ จาก 12 ลงไปเหลือ 6 องศาแค่ไม่ถึง 5 นาที หลังจากนั้นลองปิดแอร์ รอจนห้องร้อน เปิดแอร์อีกครั้ง พัดลมก็ไม่เร่งแบบของคุณยุทธครับ วัดกระแสตอนอุณหภูมิห้องคงที่ (26องศา) อยู่แถว ๆ 2.8-3.4 แอมป์ตลอด >>> สรุปว่าน้ำยาเกินแน่นอนครับ จาก 12 ลงเหลือ 6 เร็วขนาดนั้นแสดงว่าน้ำยาเกินจนล้นออกไปที่ท่อดูดแล้วถึงวัดได้ 6 เร็วมาก ค่อยปล่อยน้ำยาช้าๆครับ หยุดเติมเพิ่ม ข่ายร้ายก็คือตอนปล่อยน้ำยาออกจนกว่าจะหาจุดพอดีเจอนี่ยากมากครับ ผมใช้วิธีปล่อยเอาวันละ 10 นาที แล้วลองเปิดดู พัดลมยังไม่เร่งก็ปล่อยอีก 10 นาที จนพัดลมเริ่มเร่งรอบเมื่อไรก็พอตรงนั้นแหละ ลูกทุ่งดี เติม 390 กรัมให้ขาดนิดๆแล้วเติมเพิ่มช้าๆๆๆๆๆจะง่ายกว่าเยอะกว่าปล่อยออกครับ เวลาปล่อยน้ำยาเข้าต้องเบามือมากๆๆๆๆ เพราะมันเข้าเป็นของเหลวปริมาณจะมากกว่า R22 ที่เข้าเป็นแกสมากๆ ผมถึงย้ำครับว่าเติม inverter สำหรับมือใหม่อย่างตัวผมเองต้องใช้ตาชั่งเท่านั้น ไม่งั้นเวลาเติมเกินแล้วแก้ยาก เหนื่อยหน่อยกว่าจะปล่อยยอกจนพอดี สงสัยอะไรถามมาได้ครับ ตัวแรกก็อย่างนี้แหละทุกลักทุเลหน่อย ขนาดผมเติมตัวที่ 2 แล้วก็ยังเติมเกินจนต้องปล่อยออกเลย กำลังหาตัวที่ 3 มาลองอยู่
กลับมารายงานผลการเติมน้ำยาแอร์รถพี่ชายครับ หลังจากเติม cold 12 แล้วเจอปัญหาว่าตอนเดินเบายังไม่ค่อยเย็น โดยตอนที่เติม cold 12 ผมแว็ค ประมาณ 20 นาที จากนั้นเติมน้ำมันคอมเข้าไปประมาณ 5 วินาที หลังจากเติมน้ำมันคอมเสร็จก็เติม cold 12 เข้าไปเลย ผลคือทำความเย็นได้ต่ำ สุดประมาณ 7-8 องศา ช่วงเดินเบาจะไม่เย็นเท่าทีควร ช่วงรถติดนานๆจะสู้แดดไม่ไหว หลังจากค่อยๆปล่อยน้ำยาออกทีละน้อยอุณหภูมิก็ไม่ลดลง จึงตัดสินใจปล่อยน้ำยาออกหมด ล้างคอล์ยร้อนด้วยน้ำยา apache แล้ว vaccum อีก 30 นาที แล้วจึงเอา R-12 มาลอง (เนื่องจากราคาถูกกว่า เปรียบเที่ยบกันว่าเป็นที่น้ำยาหรือเป็นที่ระบบ) ปรากฎว่าทำได้3 องศาจนคอมตัด แต่หลังจากเข้าไปในรถแล้วพบว่าพัดลมอยุ่ที่ speed 3 ซึ่งจริงๆแล้วจะมี 4 speed หลังจากปรับเป็น speed 4 แรงสุด ปรากฎว่าอุณหภูมิขึ้นไปที่ประมาณ 6-7 องศาพอๆกันกับ cold12 จึงให้พี่ชายลองใช้งานดูก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าอาจจะเป็นที่ speed ของพัดลมแรงมากพอสมควร จึงทำให้อุณหภูมิไม่ลงต่ำมาก (ตอนที่ 6-7 องศาก็เริ่มมีฝ้าจับกระจกแล้ว) คิดว่าที่ cold12 ไม่เย็นเท่าที่ควรเพราะผม vac แล้วเติมน้ำมันคอม แล้วก็ไม่ได้ vac ต่อ เติมน้ำยาเลย อาจจะทำให้มีอากาศเข้าไปได้ จึงทำให้เดินเบาไม่เย็นเท่าที่ควร เดี๋ยวอาจจะลอง cold12 กับรถผมเองบ้างว่าจะเป็นอย่างไร (ปัจจุบันยังใช้ R-12 อยู่)
ที่บ้านผมมี 1 ตัว ยินดีเป็นตัวที่ 3 ให้พี่ยุทธมาทดลองครับ เดือนนี้ต้องจ่ายค่าเทอมลูก เพิ่งเข้าเรียนอนุบาลเลยหนักหน่อย กะว่าเดือนหน้าจะซื้อ Cold-22 มาลอง อาจจะโทรไปรบกวนพี่ยุทธนะครับ
พัดลมแอร์ TFR93 รบกวนปรึกษาพี่ๆหน่อยครับ ผมใช้ ISUZU TFR93 ตอนแรกแอร์ไม่เย็นเลยครับเลยเอาไปให้ช่างทำ รายการดังนี้ 1.เปลี่ยนแผงคอยร้อน 2.เปลี่ยนคอมแอร์ 3.เปลี่ยนดรายเออร์ 4.ใส่น้ำยาแอร์ใหม่ 5.เปลี่ยนคอยเย็น 6.ระบบวาวล์ต่างๆ ผลที่ได้คือเย็นตอนขับ แต่ถ้าจอดละหายเย็นเลยครับ พอดีลองหาข้อมูลดูเหมือนว่า พัดลมจะระบายไม่ทัน เลยอยากปรึกษาพี่ๆครับว่า ถ้ารุ่นนี้ถ้าจะเปลี่ยนจะใช้พัดลมแบบไหนดีครับ แล้วราคาสักเท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ.............
oh...... คิดถึงพี่ๆ จังเลยครับ น้องเตอร์ตอนนี้งานเยอะโคๆๆๆๆ ผมได้นอนวันศุกร์ เสร็จงานตอนตี 3 ผมนอนน๊อกยาว 24 ชั่วโมง ตื่นอีกทีวัน เสาร์ 7 วันที่ผ่านมา ผม ป๋า น้องชาย กว่าจะเลิกงาน เฉลี่ย 5 ทุ่ม - ตี 2 มีวันศุกร์ ป๋า น้องชาย ลุยกันแบบ ไม่ได้นอนเลย 2 วัน - รับจ้างถ่ายเทน้ำยาแอร์จากถัง ISO 18,000 Kg ลงถังขนาด 1,000 Kg. เป็น R22 จากจีน น้ำยาแอร์ ห่วย โคตร เช็คแรงดัน อยู่ที่ 350 Psi (ตอนตี 2 ของอีกวัน) ที่ไม่ได้พักผ่อนเพราะ ไอ้น้ำยาแอร์จาก จีน เนี่ยครับ ต้องมานั่งปรับแรงดันให้เป็นปรกติ 2 วัน ห่วยมากๆ น้ำยาแอร์จาก ประเทศจีน - อีก 2 ISO 36,000 Kg เป็นของผมเองจาก indian แท้ๆๆ เช็คแรงดันได้แค่ 120 Psi เอง จับเช็คแบบมาตาฐาน จุ่มน้ำแข็งที่ 0 องศา แรงดันน้ำยาแอร์ R22 ที่ได้มาก็ตรงสเปรกคับ 58 Psi เดี๋ยวอาทิตย์หน้า 23 - 25 มีงานโชร์ ENERGY SAVE ที่ไบร์เทคอีก ผมมีออกงานโชร์ Cold22 จองไว้ 2 บูช ยังไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เลยยย ถ้ายังไงพี่ๆ เพื่อนๆ ว่างๆ ก็เข้าไปเจอผมได้ที่งานเลยนะครับ วันเสาร์ผมได้เชิญพี่ยุทธไปร่วมแจมด้วย ใครอยากเจอผมกะพี่ยุทธก็เจอ กันที่งานนะครับ เดี๋ยวผมมีเวลาว่างๆๆๆๆ แล้วจะเข้ามาร่วมแจมใน board เหมือนเดิมคับ พี่ๆ เพื่อน ที่ถามคำถามหาผม แล้วผมไม่ได้ตอบ ก็ต้องขออภัยด้วยนะคับ ผมไม่ได้ลืมนะครับ แต่ผมยังไม่ได้อ่านกระทู้หน้าเก่าๆ เลยอะคับ:cry::cry: ถ้ามีอะไรจะถามด่วนก็ โทรหาผมที่มือถือได้เลยนะครับ :sad::sad::sad:
ยินดีครับ โทรมาได้ตลอด ปริมาณที่เติม cold22 ให้เริ่มจาก 1 ใน 3 ของน้ำหนัก R22 ก่อน มันจะขาดนิดๆแล้วค่อยๆเติมเพิ่มช้าๆครับ คุณกบแกซึ่งเรื่องนี้แล้วล่ะ...5555555
เปลี่ยนยกชุดแล้วนี่ครับ แผงคอล์ยร้อนของแท้หรือเปล่า ล้างสะอาดหรือยัง ตอนจอดนิ่งๆที่แอร์ไม่เย็น เอาน้ำสาดแผงแล้วเย็นไหม ถ้าใช่ก็แผงคอล์ยร้อนระบายไม่ทัน เอาพัดลม 2 ตัวอัดเข้าหน้าแผงเลย ผมว่าพัดลมแบบไหนก็ได้ที่มันยัดเข้าไปได้พอดี แถวเซียงกงตัวละ 5-6 ร้อย
พัดลมของรถกระบะ ส่วนมากจะมี free pump ที่เป็นตัวสร้างความหนืดให้ใบพัดลม พอใช้ไปนานๆ ตัวของเหลวใน free pump จะแห้งลง ทำให้ใบพัดลมลื่นหมุนไม่เร็ว ใช้มือลองหมุนใบพัดลมตอนดับเครื่องก็ได้ครับ ปกติใบพีดลมต้องหนืดๆต้านมือ แต่ถ้าลื่นๆแสดงว่าของเหลวใน free pump มันแห้งไป สามารถเติมใหม่ได้ครับ หลอดละประมาณ50 บ. ใช้ 2 หลอด รถทีบ้านพี่ชาย big-m ก็เคยเป็นอาการนี้ครับ ตอนรถติดแอร์ไม่เย็น เข็มความร้อนขึ้นสูง วิ่งแล้วเย็น ความร้อนลด หลังจากเติมน้ำมันใน free pump ไป 2 หลอด ใบพัดหนืดกว่าเดิมเยอะ แอร์ก็กลับมาเย็นเป็นปกติ ค่าแรง+ค่าน้ำมัน free pump ประมาณ 400 บ. หรือจะติดพัดลมไฟฟ้าก็ได้ครับ ติดให้เต็มแผงร้อน รถติดน่าจะเย็นกว่าแน่ๆ แต่จะยุ่งยากกว่าซ่อม free pump หน่อย
ได้การล่ะ... ไบเทคห่างจากบ้านผมแค่ 3 กม. งานนี้สงสัยต้องวางแผนไปลักพาตัวคุณยุทธมาช่วยผมปล่อยน้ำยาหน่อยซะแล้วครับ งานนี้ถ้าคุณยุทธทำไม่เรียบร้อย ไม่ปล่อยตัวกลับแน่นอน... ปล. เดี๋ยวจะลองปล่อยน้ำยาไปเรื่อย ๆ ทั้งอาทิตย์ หวังว่าน่าจะพอดีก่อนวันเสาร์นะครับ จะได้ไม่ต้องปฏิบัติภาระกิจลักพาตัว
พอดีวันนี้เพิ่งว่างนิดหน่อย แล้วก็รถ pajero JR เพิ่งไปทำมาเสร็จพอดี ตอน 5 โมงเย็น ผมเคยจับวัดมาให้ดูว่าเป็นไง...... เดี๋ยวผมจะมาบอกอีกทีคับว่าทำไรไปมั่ง....... 2 อย่างเท่านั้นจริงๆ เดี๋ยวลงรูปเสร็จต้องลงไปช่วยน้องเติมน้ำยาแอร์ต่อก่อนคับ :sad::sad::sad:
- จากนั้นผมก็เดินมาที่ BMW แล้ววัดอุณหภูมิภายนอกว่าอยู่ที่เท่าไร - เอาให้ชัวร์ เดินมาดูที่ปรอดวัดอุณหภูมิที่ติด เอาไว้ตรงที่เติมน้ำยาแอร์ - เอาชัวร์ๆ อีก วัดโดนยิงไปที่อากาศ ลองยิงที่พื้นถนน แล้วมันขึ้น 40 กว่า อาจจะเป็นเพราะ ปูนมันอมความร้อนไว้รึเปล่า วัดที่กำแพงก็ 40 กว่าๆ เท่าๆ กะพื้นถนน เพราะหลังบ่าย พระอาทิตย์มันส่องมาด้านนี้เต็มๆๆ ผมเลยวัดโดยการยิงเป็นแนวเดียวกับร่างกายเรา มันดิฟอยู่ 1 องศา (หาน้ำแข็งไม่ได้ ไม่งั้นจะยิงให้ดูว่า ปืนวัดอุณหภูมิผม ค่าไม่เพี้ยนแน่นอนคับ) ที่ผมถ่ายภาพการวัดอุณหภูมิ หลายๆ จุดนั้น เพราะต้องการให้ ผู้ที่เข้ามาอ่านได้เห็นว่า ที่วัดอุณหภูมิผม ค่าไม่ได้เพี้ยน
เอาภาพที่ลองวัดน้ำแข็งมาให้ดูครับ ว่ามันวัดได้อุณหภูมิเท่าไร เครื่องวัดแต่ละตัว น้ำแข็งมาตาฐานจะอยู่ที่ 0 องศาครับ
คุณ ter อัดอั้นมาหลายวัน เล่นซะหลายกระทู้เลย คุณกบใจเย็นๆครับ ค่อยๆปล่อยไปทีละ 10 นาที ไม่ต้องอุ้มผมหรอกครับ เพราะผมไปก็ต้องทำแบบเดียวกัน เพราะมันวัดแรงดันน้ำยาไม่ได้ ไม่งั้นก็กดโหมด powerful เดินเต็มที่ 15 นาที ปล่อยน้ำยาจนวัดได้สัก 4.5 amp ก็ OK ล่ะ วิธีนี้ขี้โกงนิดๆแต่ก็ใช้ได้เหลือนกัน ตอนนี้ร้อนตับแลบขนาดนี้ จะวัดท่อดูดให้ได้ 7 องศายากมากครับ ต้องเดิน powerful กันสัก 30-40 นาทีโน่นแหละ ฉีดน้ำใส่แผงระบายความร้อนไปเลย เร่งให้เย็นเร็วๆ ยังไงถ้าว่างๆเสาร์นี้เชิญทุกท่านไปเจอกันที่ไบเทคครับ จะได้เห็นหน้าเห็นตากัน คุยกันมาตั้งนานแล้ว หวังว่าจะได้แนวคิดใหม่ๆจาก ร้านต่างๆที่มาออกงานไปทำให้แอร์เย็นๆประหยัดไฟขึ้นไปอีก
เยี่ยมๆครับ ต้องทำเองถึงได้อย่างงี้ -๗ องศา สุดยอดตอนที่ร้อนสุดๆแบบนี้ สุดยอดครับ ต้องโดนซะก่อนนะเทพในตัวถึงจะปรากฎ อิอิ ว่าแต่ว่าน้ำยาแอร์จากจีนเนี่ยมันยังไงครับ R22 จากจีน น้ำยาแอร์ ห่วย โคตร เช็คแรงดัน อยู่ที่ 350 Psi มันสูตรไหนหรอ แรงดันถึงสูงโหดอย่างนั้น แล้วมันจาส่งมาขายต่างจังหวัดไหมเนี่ย บอกไบ้หน่อยครับ จาได้ระวัง ทำสองอย่างทำไรครับ อยากรู้ มันถึงได้เย็นติดลบแบบนั้นครับ อิอิ เข้ามาทักทายครับ
รายงานผลเมื่อคืนครับ เหตุเกิดตอน 4 ทุ่ม หลังจากละครข้าวต้มมัดจบบริบูรณ์ ผมทดลองปล่อยน้ำยาออกตามคำแนะนำทีละนิด รวม ๆ กันแล้วน่าจะประมาณ 15 นาที อุณหภูมิท่อดูดอยู่ประมาณ 10 องศา ไม่ลดไปกว่านี้แล้ว (วัดอุณหภูมิภายนอกได้ 33-34 องศา) แต่แรงดันอยู่แค่ประมาณ 45-48 psi วัดกระแสได้ 3.7-4.2 ขึ้นลงตลอด ก็เลยคิดว่าโอเคแล้ว ก็เลยลองไปปิดแอร์ เปิดห้องให้ร้อน เพื่อทดลองดูว่าตอนเปิดแอร์ใหม่ ๆ พัดลมมันเร่งให้หรือไม่ ช่วงนี้ก็เลยเอา watt hour meter มาลองต่อเพื่อวัดการกินไฟดู ทำเสร็จก็ไปอาบน้ำ หลังจากนั้นก็ลองมาเปิดแอร์ดู ผลคือพัดลมแอร์ไม่เร่งเหมือนเดิม.... ก็คิดว่าช่างมัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยปล่อยน้ำยาออกอีก นอนไปซักพัก เฮ้ย...ทำไมแอร์ยังไม่ค่อยเย็นหนอ ต้องลุกไปเร่งพัดลมเป็นสปีดแรงสุด ลดอุณหภูมิจาก 26 เหลือ 24 องศา หลังจากนั้นก็หลับไปด้วยความง่วง ไม่ใช่เพราะอากาศเย็นมันน่านอน ตื่นเช้ามารีบดูกิ๊ปแอมป์ที่ต่อพ่วงไว้ โอ้จอร์จมันยอดมาก วัดได้ 1.52 แอมป์ ในขณะที่เคยวัดได้ 1.3 A (R22) และ 1.1 A (ตอนเติมน้ำยาครั้งแรกด้วยวิธีลูกทุ่ง) ยัง..ยัง... ผมยังไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ออกไปดูมิเตอร์ไฟที่หน้าตู้โหลดเซ็นเตอร์ ทำเอาผมเข่าอ่อนเลย เปิดแอร์ 6.5 ชั่วโมง กินไฟไปแค่ 4.2 หน่วย ทั้ง ๆ ที่เคยวัดได้ 1.0 - 1.3 หน่วยแค่นั้นเอง เซ็ง เครียด กินข้าว กินไปคิดไป สงสัยจะปล่อยน้ำยาแอร์ออกมากไป แอร์ไม่ค่อยเย็น กินไฟเวอร์ ทำเสียชื่อแอร์อินเวอร์เตอร์หมด งานนี้สงสัยต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หมด ใช้ตาชั่งวัดอย่างเดียวเลยเรื่องเติมน้ำยาแอร์อินเวอร์เตอร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิชามาร วิชาลูกทุ่ง วิชาโอท็อป ที่ผมเคยใช้ มันไม่มีประโยชน์เลยครับ :cry::cry::cry: จบข่าว
มารอฟังขั้นตอนการทำของคุณเตอร์อีกคนครับ อยากรู้ว่าทำอย่างไรให้ได้ติดลบ 7 อันนี้วัดที่พัดลมแรงสุดเลยหรือครับ สมกับเป็นคุณเตอร์จริงๆ อ่านที่พบกบเติมน้ำยา Inverter แล้ว ชักกลัวๆเหมือนกันครับ รอให้มีคนเติมได้คล่องๆหลายๆคน แล้วค่อยลองดีกว่า ตอนนี้คิดว่าใช้น้ำฉีดแผงร้อนเพื่อช่วยระบาย น่าจะประหยัดค่าไฟง่ายกว่า
แผงคอยล์ร้อนของอะไรก็ไม่รู้ครับเดี๋ยวจะถ่ายรูปมาให้ดูครับ แต่เวลาเอาน้ำสาดเย็นขึ้นครับ ผมสงสัยเรื่องพัดลมครับว่า ที่พี่ๆแนะนำว่าพัดลมอะไรก็ได้ ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า ถ้าผมได้เดิน เชียงกงดู ควรจะหาของแบบไหนดีครับ ถ้าเราซื้อแต่พัดลมไปให้ช่างติดตั้ง ที่ไหนดีครับ แนะนำแถวโชคชัย4 พอจะมีร้านทำบ้างมั้ยครับ ขอบคุณครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องจริงๆครับ แนะนำด้วยน่ะครับ .........
โห คุณกบเจองานเข้าของจริงแล้ว 1. <<อุณหภูมิท่อดูดอยู่ประมาณ 10 องศา ไม่ลดไปกว่านี้แล้ว (วัดอุณหภูมิภายนอกได้ 33-34 องศา) >> ช่วงนี้ยัง ok อยู่ 2. <<แต่แรงดันอยู่แค่ประมาณ 45-48 psi>> ช่วงนี้แปลกๆ แรงดันตอนคอมเดินเต็มที่จะอยู่ที่ 60 psi ถ้าคุณกบมั่นใจว่าคอมแอร์เดินเต็มที่แล้วโดยการกด powerful ก็แสดงว่าปล่อยน้ำยามากไป น้ำยาขาด 3. <<วัดกระแสได้ 3.7-4.2 ขึ้นลงตลอด ก็เลยคิดว่าโอเคแล้ว>> ตรงนี้ก็ยืนยันว่าน้ำยาน่าจะขาดนิดๆ เพราะกระแสตอนเดิน powerful ช่วงที่มันเดินเต็มกำลังอยู่แถวๆ 4.5 amp ไม่น่าลงไปถึง 3.7 4. <<ก็เลยลองไปปิดแอร์ เปิดห้องให้ร้อน เพื่อทดลองดูว่าตอนเปิดแอร์ใหม่ ๆ พัดลมมันเร่งให้หรือไม่>> ช่วงนี้อย่าลืมตั้งพัดลมเป็น auto นะครับ อย่าเผลอไปตั้งในโหมดปรับเอง เพราะความเร็วพัดลมจะไม่เปลี่ยนแน่ๆ จากข้อ 1-3 มันชี้ว่าน้ำยาขาด แต่ข้อ 4 พัดลมไม่เร่งความเร็วสูงตอนห้องร้อน มันแย้งกันเอง 5. <<ช่วงนี้ก็เลยเอา watt hour meter มาลองต่อเพื่อวัดการกินไฟดู ทำเสร็จก็ไปอาบน้ำ นอนไปซักพัก เฮ้ย...ทำไมแอร์ยังไม่ค่อยเย็นหนอ ต้องลุกไปเร่งพัดลมเป็นสปีดแรงสุด ลดอุณหภูมิจาก 26 เหลือ 24 องศา>> ท่อนนี้ก็บอกว่าน้ำยาขาด วัดอุณหภูมิท่อดูดต้องเกิน 10 องศาแน่ๆ ดีไม่ดีปาเข้าไป 15 องศา 6. <<ตื่นเช้ามารีบดูกิ๊ปแอมป์ที่ต่อพ่วงไว้ โอ้จอร์จมันยอดมาก วัดได้ 1.52 แอมป์ ในขณะที่เคยวัดได้ 1.3 A (R22) และ 1.1 A (ตอนเติมน้ำยาครั้งแรกด้วยวิธีลูกทุ่ง) >> ท่อนนี้ก็แปลก ทำไมกระแสมันขึ้นสูงกว่าเดิม เพราะเติม cold แล้วถ้าน้ำยาขาดมันก็ต้องกินกระแสต่ำลง อาการแอร์ของคุณกบนี่มันแย้งๆกันเองชอบกล ช่างแอร์สมัครเล่นอย่างผมวินิจฉัยลำบาก แต่ครั้นจะปล่อยน้ำยาหมดแล้วเริ่มใหม่ก็รู้สึกเสียดายน้ำยา และเสียหน้า ดังนั้นผมเสนอวิธีดังนี้ 0. ให้ทำแอร์ช่วง 7 - 10 โมงเช้า เพราะมันยังไม่ร้อนจนเกินไป ช่วงอุณหภูมิอากาศจะได้ใกล้เคียงกับตอนที่ผมทำ ข้อมูลกระแสไฟและแรงดันที่วัดได้ จะได้ใกล้เคียงกับของผม ขืนไปทำช่วงเที่ยงหรือช่วงบ่ายที่ร้อนมากๆ ข้อมุลจะต่างจากที่ผมวัดได้ 1. เริ่มจากห้องร้อนๆ ตั้งแอร์ 20 องศา พัดลมเป็น manual เปิดแรงสุด แล้วเปิดแอร์ (ที่ไม่ให้ใช้ powerful เพราะมันจะเดินเครื่องเต็มที่แค่ 20 นาที แล้วกลับมาเดินรอบต่ำหลังจาก 20 นาที) วัดกระแสทุก 1 นาทีตั้งแต่เริ่มเปิดแอร์ น่าจะเห็นกระแสมันไล่ขึ้นทีละขั้น ๆๆๆ จาก 1.9 amp ไล่ไปถึง max ที่ 4.5 amp วัด temp ท่อดูดด้วยมันจะค่อยๆลงช้าๆ วัดสัก 30 นาที temp ท่อดูดน่าจะต่ำกว่า 10 ถ้าเกิน 10 องศาแสดงว่าน้ำยาขาดแน่ๆ เก็บข้อมูลดังนี้ เก็บทุก 1 นาที (ข้อมูลตัวอย่าง) นาที กระแส แรงดัน suction temp 1 1.9 90 15 2 2.0 90 15 5 2.5 87 14 15 3.7 78 12 จากข้อมุลในตารางข้างบนจะช่วยให้วิเคราะห์อาการได้ดีขึ้นครับ เสียเวลาบันทึกข้อมูลประมาณ 40 นาที ผมทำแบบนี้มาแล้วนับสิบครั้งตอนปล่อยน้ำยาออก ทำให้พอจะรู้ลักษณะการทำงานของแอร์ inverter และรูปแบบข้อมูลที่ควรจะเป็นครับ 2. แรงดันน้ำยา ช่วงแอร์เดินรอบต่ำๆที่กินกระแสแถวๆ 2 amp ลงมา แรงดันต้องขึ้นถึง 90 psi พอแอร์เร่งรอบขึ้นเรื่อยๆ แรงดันต้องลดลงทีละขั้น 90 - 85 - 80 - 75 - 70 - 65 - 60 แรงดันจะลงต่ำสุดที่ 60 psi ช่วงนี้คอมกินกระแสเต็มที่ 4.5 amp ครับ 3. ถ้าต้องการเติมน้ำยาแอร์เพิ่ม ให้ปล่อยเข้าช้าๆๆๆๆ อย่าลืมว่า cold มันเข้าเป็นของเหลว คุมปริมาณที่เติมทั้งหมด อย่าให้เกิน 50 กรัมครับ ถ้าเติมเกินอย่างที่ผมเป็น อาการคือวัดท่อดูดได้ต่ำมากเหลือแค่ 2-3 องศาเอง แอร์กินไฟน้อยแค่ 3 แอมป์เพราะคอมมันเดินรอบต่ำไม่เดินรอบสูง พัดลมแอร์ในโหมด auto มันจะไม่เร่งรอบสูงเลย 4. เป้าหมายที่อยากเห็น max pressure 90 กระแสน่าจะอยู่แถว 1.9 แอมป์ อันนี้จะเป็นช่วง 3 นาทีแรกที่เดินเครื่อง min pressure 60 กระแสจะ max ช่วงนี้ 4.2 - 4.5 amp กว่าจะได้ค่านี้แอร์ต้องทำงานไปแล้ว 15-20 นาที suction temp 7 องศา นี่วัดตอนแอร์ทำงานไปแล้วสัก 25 นาทีนะครับ คะเนว่าห้องจะเย็นได้ที่แล้วจึงวัด suction temp ถ้า 25 นาทียังไม่ได้ลองรอถึง 40 นาที ถ้ายังไม่ได้อีกนี่ต้องเพิ่มน้ำยาแน่ๆ เงื่อนไขสำคัญเริ่มทำตอน 7 -10 โมงเช้าตอนที่อากาศยังไม่ร้อนไป ไม่งั้นวัด suction temp ไม่ได้ 7 หรอกครับ ถ้าขืนเติมน้ำยาจนวัด suction temp ได้ 7 ตอนที่ร้อนจัดๆอย่างบ่าย 2-3 โมง ตอนผ่านหน้าร้อนไปแล้วอากาศมันร้อนไม่มาก จะมีปัญหาน้ำยามันเดือดไม่หมดในแผง evap คราวนี้จะมีน้ำยาบางส่วนเป็นของเหลวกลับเข้าคอมจะไม่ดีแน่ๆ วัด suction temp จะต่ำกว่า 7 องศา หลังจากแอร์เดินไป 40 นาทีจนทำความเย็นได้ที่แล้ว มันจะลดรอบจนกินกระแสอยู่ที่ 1.3-1.5 amp แรงดันขึ้นไปที่ 90 psi, suction temp จะไปอยู่แถวๆ 15-16 องศา อันนี้ถือว่าปกติ เพราะถ้าไปเปิดตาราง pressure กับ boiling point ของ R290 มันจะอยู่แถวๆ 15 องศาที่ 90 psi ครับ ถ้าต่ำกว่า 15 องศาน้ำยาเป็นของเหลวจนหมด สงสัยเสาร์นี้ผมต้องเอาเครื่องมือใส่ท้ายรถไปด้วยแล้ว
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ ข้อมูลแค่นี้น่าจะพอให้ผมเดินตามลายแทงคุณยุทธแล้วครับ ไม่ต้องรบกวนในวันเสาร์หรอกครับ แต่วันเสาร์ว่าจะไปพบเพื่อน ๆ ที่จะไปงานด้วยกันครับ ผมนับถือคุณยุทธจริง ๆ เรื่องการบันทึกข้อมูล ละเอียดมากจริง ๆ แถมยังบอกว่าทดลองปล่อยน้ำยาเป็นสิบครั้ง จนจับการทำงานของระบบอินเวอร์เตอร์ได้อีกต่างหาก โดยส่วนตัวผมเป็นคนขี้เกียจมาก ชอบวิชามาร วิชาลูกทุ่ง สงสัยต้องหัดปรับตัวให้เป็นคนละเอียด ช่างสังเกตแบบคุณยุทธบ้างแล้ว เผื่อจะเหนื่อยน้อยลง ขอบคุณอีกครั้งครับ :yo:
อยากให้แอร์ทำงานเต็มที่ ก็เปิดหน้าต่างทิ้งไว้เลย โหลดจะ max และคงที่สม่ำเสมอตลอด ถ้าปิดหน้าต่าง ความชื้นจะลดลงเรื่อยๆ โหลดแอร์ จะเปลี่ยนไปเรื่อย โดยมีแนวโน้มลดลงเสมอ มันทำให้ปรับแต่งยาก จำไว้เสมอว่า ความดันด้าน low ของระบบทำความเย็น เปลี่ยนตาม อุณหภูมิและความชื้นอากาศ และความแรงของลม (โหลดความร้อน) และ ความดันด้าน high เปลี่ยนตาม อุณหภูมิของแผงคอนเดนเซอร์ ไม่ได้เกิดจากคอมเพรสเซอร์ดูด หรือ อัด น้ำยา (อันนี้สำคัญมาก เป็นเคล็ดวิชาเลยนะเนี่ย) พยายามมอง คอมเพรสเซอร์ ให้เหมือนเครื่องย้ายแก๊สเท่านั้นก็พอ อย่าไปมองมันเป็นเครื่องอัดแก๊ส
สวัสดีครับ พี่ professor ตอบได้ตรงกับที่ผมคิดเลยครับ อาทิตย์ที่แล้ว มีทางเจริญแอร์ กับลูกค้าอีก 2 ท่าน เขาใช้น้ำยาแอร์ cold แล้วทางเจริญแอร์ก็มีปัญหามาถามผมว่า ทำไมช่วงนี้น้ำยา Cold22 มันแปลก คับ เพราะเติม 60 Psi แล้วแอร์ไม่เย็น เหมือนตะก่อน เมื่อก่อนเติม cold22 เพียง 60 Psi แอร์นี้เย็นฉ่ำเลย ผมก็ งง นึกว่า cold ล๊อตนี้สัดส่วนน้ำยาแอร์มีปัญหา เลยทำการเช็ค โดยการเอาถังที่บอกว่ามีปัญหา มาลองเติมดูกับแอร์ mitsu 9000BTU เติมไป 65Psi ก็เย็นดีนี้นิ แต่ความเย็นมันไม่ฉ่ำ พออีกวันมาดู เฮ้ยทำไมมันคงเหลือ 45 Psi เอง ก็เลยเติมเพิ่มไป ให้ได้ 65Psi ล่าสุดเพิ่งดู เกร์ก็โดดขึ้นไป 70Psi ผมก็ยัง งง งง อยู่ และแอร์ในห้องนอนผม ผมติดตั้งเพิ่มเป็นขนาด 3 ตัน แล้วเอาเกร์น้ำมัน ใส่เพิ่มไว้ที่คอลย์เย็น เอาไว้ดู เมื่อเดือนที่แล้ว ผมก็ดูอยู่ประจำ Lo 50Psi Hi 160Psi ประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็มาดู เฮ้ยทำไมมันโดดไปถึง 90Psi แนะ แต่ผมก็ยังไม่ปล่อยออก จนมาวันนี้ เมื่อกี้นี้เอง ผมเอากล้องขึ้นมาด้วย กะว่าจะถ่ายมาลงให้ พี่ๆ เพื่อนได้ดูกัน เพื่ออธิบายเรื่องนี้ให้ฟังอยู่คับ เนื่องจากอากาศประเทศไทย ตอนนี้ร้อนโคตรๆๆๆ แรงดันด้าน lo มันเลยโดดไปถึง 80Psi ตามภาพเลยครับ (แฟนผมเปิดแอร์ทิ้งไว้ตั้งแต่ 3 โมงเย็น ตอนที่ถ่าย 5 ทุ้มได้มั่ง ซึ่งตรงกับ คำอธิบายของพี่ Professor เป๊ะๆๆๆ เลยครับ ท้ายสุด ผมเอาภาพในงานมาให้ดูคับ คนเยอะโคตรๆๆๆๆๆๆๆ NoteBook ของฝ่ายขายวางไว้ โดนขโมยไปตัวหนึ่งอะคับ คนเดินเข้ามามั่วไปตอนไหนก็ไม่รู้ ดูกล้องวงจรปิด..... ซวยโคตร กล้องแม่งดันเสียตรงที่ บูชผมพอดี ซวยจริงๆ จับไม่ได้ แล้วไงดีละ ก็ต้องใช้ notebook ผมอะสิ เพื่อต่อเข้ากับ Projetor ลูกค้าก็เยอะ ผมเองนี้แทบไม่ได้ขยับไปไหนเลย จะไปกินข้าวก็ไม่กล้าลง ผมเลยโทรเรียกเพื่อนผมมา ให้มา.....นั่งเฝ้าอยู่แถวๆ หน้า notebook ยินแจกโบร์ชัวจุดนี้เท่านั้น ถ้า notebook ผมหายไปละ กรี๊ดเลยแหละ เดี๋ยวนี้คนเรานิสัยแปลกๆๆ จริงๆ นะครับ ขนาดขับรถในกรุงเทพฯ แม่งยังขับกันแบบ แปลกๆ กันเลยคับ ผมไม่ได้คิดมากนะ ถามเพื่อนๆ หลายๆคนก็คิดเหมือนผมเลย คนไทยเดี๋ยวนี้นิสัยเปลี่ยนไปเยอะครับ ไปนอนละครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องวิ่งไป ไบเทคอีก เลิกตั้ง 2 ทุ้ม แนะ เดี๋ยวจบงานนี้ผมก็คงจะว่าง มา update กระทู้ทุกวันเหมือนตะก่อนแล้วคับ ใครสนใจ cold ก็ไปเจอกันที่งานเลยนะคับ สั่งซื้อในงาน มีส่วนลด 40% จากราคาปรกติคับ ทุกชนิด Cold12,134,22 ลด 40% ทุกอย่าง สนใจก็เจอกันที่ไบเทคครับ
ฝากอีกภาพคับ กระทู้เก่าผมยังไม่ได้อ่านและตอบเลยคร้าบบบ :cry::cry::cry: ถ้าว่างแล้ว ไม่ลืมแน่ๆ คับ ตอบกลับทุกกระทู้ Sure คับ ไปนอนละคร้าบ เมียด่าแล้วววว:cry::cry::cry:
คุณ ter บอกร้านเจริญด้วยครับว่าเติมน้ำยา cold ถ้าเป็นไปได้ ชั่งน้ำหนักเติมเถอะ เติมดูความดันอย่างเดียวพลาดแน่ๆ เพราะตอนนี้อากาศร้อน แรงดันฝั่ง lo มันสูงกว่าปกติ ทำให้เวลาเขาเต็มน้ำยาตอนกลางวันที่อากาาศร้อน ดูความดันเท่าเดิมแล้วนึกว่าพอ จริงๆแล้วน้ำยายังขาดอยู่ แต่ที่ความดันขึ้นเพราะอากาศมันร้อนจัด นี่มีคนใน pantip มาบ่นกับผมว่าเปลี่ยนน้ำยา cold ไปแล้วไม่เย็น ทำอย่างไรดี ผมคงแนะนำให้เขาเติมน้ำยาเพิ่ม แต่เขาต้องเรียกร้านกลับมาใหม่ ร้านอาจเถียงว่าเติมน้ำยาเต็มแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่เต็ม อาจต้องเติมมากกว่าเดิมอีกสัก 5-7 psi เผื่ออากาศร้อน อย่างที่ผมบอกคุณกบนั่นแหละครับ ให้เติมช่วง 7-10 โมงเช้าที่อากาศไม่ร้อนไป สงสัยนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่คุณกบเติมน้ำยาไม่ลงตัวสักที เพราะอากาศร้อนไป ดูความดันอย่างเดียวไม่ได้ ช่วงบ่ายๆที่อากาศร้อนจัดมาก ทั้งแรงดันน้ำยา และกระแสจะสูงกว่าปกติ พอมาดูก็นึกว่าน้ำยาเกินเลยปล่อยออก คราวนี้ก็เกิดปัญหาน้ำยาขาดล่ะสิ สรุป เติมน้ำยาแอร์ด้วยตาชั่งแม่นยำที่สุด เร็วที่สุด ใช้ค่าน้ำหนักตามที่ผู้ผลิตกำหนด แต่ cold ให้เริ่มจาก 1/3 ของน้ำหนัก R22 แล้วปรับละเอียดโดยเติมเพิ่มทีละนิดๆเพื่อให้มันเย็นเต็มที่ โห น้ำยา cold ลด 40% เชียว ลดเยอะแฮะ น่าไปเดินเที่ยวงานครับ เสาร์นี้เจอกัน + อ้างถึง ตอบกลับ