อี๋ พวกขี้เมา รับไม่ได้ๆ นี่โว้ย เขาใหญ่ๆ ใกล้จะปีใหม่ อาที่แสนดีของผม โบนัสออก แต่ด้วยความที่โสด ไม่มีครอบครัว เงินเยอะแยะ ทำอะไรดีล่ะ หันไปหันมา หลานเพียบ เอาวะพาหลานเที่ยวละกัน และแล้ว"เขาใหญ่"คือตัวเลือกที่น่าสนใจ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นั่งรถสบายๆ ประมาณ2ชั่วโมง การนัดแนะจึงเกิดขึ้นและเริ่มต้นเมื่อเช้ามืดของวันเสาร์ที่29 ธันวาคม 2550 คืนวันศุกร์ไปนอนบ้านย่า ตื่นมาตี5ครึ่งอาบน้ำเตรียมตัวเสร็จ หันมาที่หน้าบ้าน "เออสวยดีเนอะ สักรูปวะ" รูปนี้จึงมาอยู่ที่นี่ ก่อนการเดินทางเริ่ม เดินเอาของไปเก็บที่รถเสร็จ พี่สาวยังไม่มา แวะเข้าวัดหน่อยดีกว่าไปประเคนข้าวพระ พอดีเลย ไม่มีใครประเคน พระฉันเสร็จกำลังเก็บปิ่นโต กำลังจะกินข้าวก้นบาตร(เรียกไปงั้นแหละ)พระฉันเหลือ พี่สาวโทรตาม ฮ่วยอด หิว!!! เดินมาถึงที่รถสมาชิกก็ครบแล้ว ออกเดินทาง Let's go. ปุเลงๆ วิ่งไปเรื่อยๆต้องไปทางหนองจอก ไปรับพี่ชายอีกคนกับแฟน แล้วก็ออกไปทางไหนไม่รู้ ไปโผล่ปราจีนบุรี รถน้อยข้างทางก็อย่างที่เห็นละครับ ตามรูปเลย ใกล้แล้วๆ เห็นเขามาแต่ไกล และแล้วก็ถึงเขาใหญ่ แต่ลืมถ่ายรูปตอนจ่ายค่าผ่านประตู ดูเหมือนจะเสียไป200 ค่ามัดจำถุงขยะ100บาท ค่ามัดจำบัตรจอดรถอีก100บาท ไอ้บัตรจอดรถไม่มีอะไร แต่ถุงขยะเขาจะบอกว่า อย่าไปทิ้งข้างบนเขา ให้เอามาทิ้งข้างล่าง ประมาณนี้แหละ จะได้ไม่สกปรก แวะที่แรกเลย "น้ำตกเหวนรก" หลายๆคนคงจำได้หลายปีก่อน มีช้างป่าหลายตัว(ช้างป่าเรียกตัว ช้างเลี้ยงเรียกเชือก) ตกลงไปตาย น่าสงสารมากๆ ระยะทาง "1กิโลแม้ว" แหมกิโลเมตร มุขเช้ยเชย ระหว่างทาง ต้นไม้สูงใหญ่อากาศเย็นสบาย ทางเดินปูน เดินง่ายๆ จิ๊บจ๊อย "1กิโลแม้ว"(เดี๊ยะ เมิงรู้สึก!!!) มีสะแพนข้ามลำธาร?? ด้วย สวยดีเนอะ แต่น้ำน้อยไปหน่อย คำเตือนๆ ต้องอ่านๆ แต่ถ้ามันมาจริงๆจะหนีทันหรอเนี่ย "1กิโลแม้ว" แล้วก็ถึงทางลง โอ้ว....แง่ง ขอบอกอย่าพลาด ตกลงไปมีหามแน่นอน แต่ถ้าใครจะไม่ลง มีศาลาให้นั่งพักก่อนทางลงครับ อีกรูป มองดีๆจะเห็นบันได อยู่ข้างล่าง ปู้นนนนนแน่ะ ขาไปอะเด็กๆ ขากลับเดะ แทบตาย สมมุติบันไดมี10ขั้นต่อ1ช่วง ไอ้ขั้นที่1-8ยังดีอยู่ ก้าวได้ ไอ้ขั้นที่9-10นี่นะสิ มันจะก้าวไม่พ้น จะพาตกลงไปข้างล่างเอา เกร็งซะตะคริวแทบกินขา ดีนะรอดมาได้ แล้วก็ลงมาถึงจุดที่ชมได้อย่างปลอดภัย โฮ่ๆ สวยเนอะ ในความสวย มักจะมีความน่ากลัวซ่อนไว้เสมอ สูงไม่สูง ดูเอาเอง พอออกจากน้ำตก ก็ตรงดิ่งไปนี่เลย ผากล้วยไม้ ไปหาที่กางเต็นท์ และตรงที่กางเต็นท์ ก็มีไอ้2ตัวนี้เข้ามา ไอ้นี่แหละตัวจี๊ด ไวยังกะลิง?? เออก็ลิงนี่หว่า มีคนเผลอวางกล้วยไว้ พวกวิ่งร้อยเมตร คว้าหมับไปเลย อีกอย่างที่น่ากลัวคือเด็กๆ ชอบเข้าไปใกล้ๆมัน ผู้ใหญ่ก็ไม่ห้าม เออดี โดนกัดมาแล้วจะซึ้ง พอกางเต็นท์ จัดของเสร็จ หลานๆOn tour เดินไปน้ำตกผากล้วยไม้"1กิโลแม้ว"อีกแล้วครับท่าน แต่คราวนี้สบายๆ ถึงจะไม่ใช่ทางปูนหรูหราก็เถอะ แต่ต้นไม้ก็เยอะ สบายๆ สูง ใหญ่ ยาว ทางเดินก็เป็นปูนนะ แต่มันเก่าแล้วละ แตกและลื่นมากๆ ต้องระวังดีๆครับ ตามทางเดิน2ฝั่ง จะมีเสียงนกบ้าง แมลงบ้าง ดังอยู่เรื่อยๆ เห็นแดดอย่างนั้นนะ โฮะๆไม่ได้ร้อนเลยนะนั่น อากาศค่อนข้างเย็น ถึงแล้วๆ สาวเพียบ เอ้ยไม่ใช่ คนเยอะ และ น้ำน้อยเหมือนเดิมเลยไม่ค่อยสวย ว่าไปมันก็สวยนะแต่แบบ มันไม่สวยเต็ม100อะ อีกรูปๆ ใครจะเดินผ่านหน้ากล้องไม่รู้ จำไม่ได้ นั่งลงแช่เท้าถ่ายรูป เย็นคอด~ เท้าชาเลย ถ้ามีพี่หรือน้องแกล้งเอาน้ำสาดให้เปียก จะวิ่งไปถีบสวนให้ตกน้ำเลยละ หนาว น้ำไม่ใส แต่ไหลเย็น เห็นตัวปลา มันออกแนวดำนิดๆ ไม่ใช่เน่านะ รูปนี้ดูแล้วนึถึงหนังเรื่องอะไรรู้ไหม Lake Pacid หรือไม่ก็ โคตรไอ้เฆี่ยม น่ากลัวอะ ยอดไม้ สูงคอด สวยดี แต่พอก้มลงมา ก็เจอLake Pacidเหมือนเดิม เกิดลงไปว่ายน้ำ แล้วอยู่ดีๆโดนลากไปทำไงละเนี่ย คนนี้อะสวย เอ้ย รูปนี้ก็สวย ถ้าแบบไม่มีคนเลยนะ ตอนถ่ายนี่ก็บ่าย3โมงครึ่งได้แล้วมั้ง กำลังจะกลับละ ลมเย็นๆเริ่มมา สุดท้ายก่อนกลับ เฮ่อ สูดอากาศเย็นพอดีๆเข้าเต็มปอด ก่อนจะเดินออกมา ขากลับ มีเนินนิดหน่อย พอได้หอบ และเนินพวกนี้ ทำให้ผมรู้ว่า พี่ชายผมกับแฟนรักกันมากแค่ไหน ;D ระหว่างเดินกลับ เอ...แสงมันลอดมา เข้าท่าลองสักรูปน่ะ ผลก็คือ ไม่สวย ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอขึ้นมาถึงถนน ก็ถ่ายรูปตรงนี้ซะหน่อย จุดกางเต็นท์ ค่าบริการก็ผู้ใหญ่30 เด็ก10บาท มีบัตรนักศึกษาก็10บาท เพิ่มเติมคือมีห้องน้ำให้สภาพพอได้ แต่เป็นน้ำจากน้ำตกนั่นแหละหนาวมากกก กองอำนวยการมีปลั๊กไฟเอาหม้อหุงข้าวมาเสียบหุงข้าวได้ ชาร์ทถ่านได้ สบายๆ พอถ่ายรูปเสร็จ ก็เดินกลับมาที่เต็นท์ พร้อมของกินเพิ่มอีกนิดหน่อย เอามากินรอ เพื่อรอเวลากินตอนกลางคืน งงปะเนี่ย?? เจอไอ้ตัวนี้อีกแล้ว รู้สึกดวงจะสมพงษ์กับเก้ง-กวางซะเหลือเกินเลยเรา เฮ่อ.... เพิ่มเติมคือ อาหารไม่แพงมาก มาม่าห่อละ6บาท ชาLiptonขวดละ20บาท นับว่าเป็นราคาที่รับได้ครับ หลังจากนั้นผมก็เดินแรดไปแรดมา จนเกือบๆ6โมง ตอนแรกห้าวจะอาบน้ำตอน4ทุ่มพร้อมๆกับพี่สาว นั่งไปนั่งมา ชักไม่ไหวอาบเลยละกัน ตอนไปอาบมีผู้ชายสวยงามเข้าไปอาบ2-3คน ไม่รู้จะกรี๊ดทำไม ตูก็หนาวไม่เห็นต้องแหกปากร้อง น่าฉี่ใส่ขันแล้วสาดข้ามห้องจริงๆ(หยาบคายมาก) พออาบน้ำเสร็จก็นี่เลยครับ อาหารเย็น จานนี้ไม่ได้ซื้อ แต่เอาจากรูปข้างบนไปให้เต็นท์ข้างๆ เขาก็ให้กลับมา โฮะๆ นี่คือไก่ย่างวิเชียรบุรี ซื้อก่อนขึ้นเขามา ไม่รู้ว่าแม่ค้าเอาไปแช่น้ำปลาแล้วด่าลูกจนลืมเอาขึ้นหรือยังไง เค็มปี๋เลย ไป2วันรู้สึกว่าไตทำงานหนักมาก กินตลอดไม่มีหยุดแบบNonstop และนี่คือเครื่องดื่ม อ๊ะๆ อย่าคิดว่าผมนะ ไม่ใช่ๆ ผมเลิกแล้ว มีแต่อา กับ พี่ชายผมนั่นแหละ ที่ดริงค์กัน2คน ผมนั่งมองตาปริบๆ โหะๆ และนี่คือบรรยากาศตรงกลางที่นั่งกินกัน สังเกตดีๆมีหลอดไฟด้วย ไฮโซมาก เต็นท์อื่นจุดเทียน แต่เต็นท์นี้ยกแบเตอร์รี่ไปด้วย ต่อหลอดไฟไฮโซมาก กางเต็นท์ทั้งหมด3หลังซ้ายขวา2 ตรงที่ผมยืนอีก1 และแล้ว3ทุ่มครึ่ง ไม่ไหวแล้วครับ อากาศเย็นมากๆ มุดเข้าเต็นท์ดีกว่า นอนเร็วกว่าอยู่บ้านเยอะเลยนะเนี่ย ได้เวลาตี5ครึ่ง ตกลงกันไว้ว่าจะไปจุดชมวิวเขาเขียว เลยตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน ต้มน้ำแล้วก็เอาไอ้เจ้านี่มาแก้หนาว นี่เลยอุปกรณ์ ขอบอกเพราะอากาศหนาวเป็นเหตุ ปากเลยพอง กาแฟร้อนแต่มือเย็นจับแก้วแล้วไม่รู้สึกว่าร้อน ก็กรอกใส่ปาก โอ้โห ร้อนบรรลัย น้ำหูน้ำตาไหล ปากพองเป็นแผลเลย ซวยจริงๆ เอาละได้เวลาขึ้นรถ ไปชมวิวกัน ดูๆว่ารถมาจอดกางเต็นท์เยอะขนาดไหน อีกรูป และแล้วฟ้าก็เริ่มสาง ได้อารมณ์มาก ไม่ได้ตื่นเช้าแบบนี้นานแล้ว ฟ้าสว่างแล้วแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ตอนผ่านตรงนี้ หนาวมั่ก ตอนแรกว่าจะเอาหมอกใส่ถุงกลับมาฝาก แต่ไม่ได้จอดรถอะ ^ ^ ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วๆ สวยดี สังเกตตรงด้านซ้ายล่างของภาพจะมีรถจอดอยู่ ตอนแรกก็สงสัยว่าจอดกันทำไม พอขากลับถึงได้เห็นป้าย "ผาเดียวดาย" ชื่อนี้ช่างอ้างว้างเสียเหลือเกิน ถึงแล้วๆจุดชมวิว เขาเขียวโฮะๆ อ่านกันเองนะครับว่าเขียนอะไรไว้บ้าง ดูวิวกัน รูปนี้แบบว่าห่วยแตกมาก ถ่ายมาได้ไงวะเนี่ย ดูเอาอุณหภูมิกี่องศา ดูวิวนะ อย่าไปสนใจคน นี่ก็ห่วย มีแต่รูปห่วยๆแต่อยากโชว์ เพราะชอบโชว์ นี่ก็ต้นอะไรไม่รู้ พอชมวิวเสร็จ ก็ลงมาด้านล่างจะไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยว พอดีผ่านจุดกางเต็นท์อีกจุดนึงดูจำนวนคนสิ อีกรูปนึง นี่แค่นิดเดียวนะครับ เพราะเขากางเต็นท์กันยาวมากๆเลียบถนนไปหลายร้อยเมตรเลย พอเลยจุดกางเต็นท์เมื่อกี๊มาหน่อย ก็เจออ่างเก็บน้ำอะไรสักอย่าง จำชื่อไม่ได้สวยดี ชอบๆ และแล้วก็มาถึงที่นี่ ด้านหลังมีน้ำตกกองแก้ว+ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ1.2Km.เดินดูซะหน่อยพอข้ามสะพานก็เจอนี่เลย ต้นนี้สูงใหญ่มากๆ ทางเดินก็จะเป็นอิฐตัวหนอนปูไว้แล้วก็จะมีป้ายพวกนี้แหละครับ คอยบอกว่าลักษณะของป่า ของพันธุ์ไม้เป็นแบบไหน แล้วก็เนี่ยมีของจริงให้ดู อีกอย่างละกัน ของจริง ต้นนี้แหละ ทีเด็ด คิดว่ามันใหญ่แค่ไหน??? เห็นป้ายบอกหมายเลขต้นไม้ใช่ไหมครับ เทียบกับมือผมนะ มาดูอันนี้ต่อ วงแดงคือป้าย มันคือต้นไทร ใหญ่มากกกกก เดินต่อๆ ใกล้ถึงทางออกละ นี่สิเด็ดสุด โฮะๆ พอหันหลังกลับมาก็เจอไอ้ตัวนี้กำลังกัดถุงขยะอยู่ คนที่วิ่งมาเลยเอาแตงโมให้ จริงๆแล้วอย่าให้นะครับ เดี๋ยวสัตว์ป่าจะเสียนิสัย น้ำตกกองแก้ว แต่ไม่ได้ถ่ายอะไรมาเลย เพราะมันไม่สวย น้ำน้อยมากๆ แล้วก็วนกลับมาที่เดิม มาถ่ายป้ายนี้ เลยถือโอกาสเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์เขาใหญ่ซะหน่อย มีอะไรน่าสนใจเยอะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา และนี่คือที่สุดท้ายที่ได้ไปเที่ยว น้ำตกเหวสุวัต น่ากลัวเหมือนกัน เดินนิดเดียวก็ถึงจุดชมวิวแล้ว จริงๆเดินได้ถึงข้างล่าง แต่ไม่มีเพื่อนเดิน อด อีกรูป ถ้าไปคนเดียวนี่จะเดินลงไปให้ถึงข้างล่างเลยนะเนี่ย แล้วก็เดินมาถ่ายป้ายนี้ก่อนไปกินก๋วนเตี๋ยวชามละ25บาท ไม่แพงเลย แล้วก็กลับไปเก็บเต็นท์ พร้อมเดินทางกลับ นี่คือภาพที่เขาใหญ่ภาพสุดท้ายของทริปนี้ หวังว่าคงจะได้ไปเยี่ยมเขาใหญ่อีกนะ ปล.รูปไหนไม่ขึ้น คลิกขวาเลือกShow picture นะครับ
ตอบ...ซ่ะยาวเลยนะ ไอ้โหมง 555 อากาศที่นั้นหนาวไหมวะ ขอกูขี้เกียจอัพรูป ... เข้าไปใน http://sadung.igetweb.com ดูเอาเองล่ะกัน 555 หนาววะตอนนี้ อิอิ นู๋เอ เมื่อวานขับรถซ่ะเร็วเลยนะ 555 น้ำมันยิ่งแพงๆอยู่ 555
พี่บอล วันปีใหม่ จัดทำบุญเมื่อวันที่ 1 ผ่านมาหลายวันละ อิอิ พี่บอลนี่ เอารูถปมาดูซะ เหมือน ได้ ไปด้วยเลอะ55 ปล. พี่ตั้ม เมื่อวาน เจอที่ไหนอะ แม่สั่งให้ขับเร็วอะพี่ตั้ม แม่จ่ายค่าน้ำมันด้วย เอ เล่นเหยียบ ซะลืมโลก เลย 55+
555 เจอ 2 ที่ เลย ตอนกลางวันเจอใน ม.บ้านไรกว่า ในซอยดับเพลิงด่านชั่งอะ และตอนเย็นเจอหน้าปากซอย 81 อะ เห็นเหยียบกระจายเลย อิอิ โหมงไอ้ฟิส์มมันลอกฟิศ์มบานหน้ายังวะ 555 โครตตลกอะ 555
เออ ลืมบอกก พี่บอล เอไปเปลี่ยนยางร้าน นิวเพ้ง บางบอน มาแหละ เมื่อวันที่ 2 บริการดีนะร้านนี้ ไปใส่ยาง Maxxis พิมพ์ถูกป่ะ เหอะๆ หน้า ใส่ 215/50/17 เส้นละ 3500 หลัง ใส่ 225/55/17 เส้นละ 3750 ใส่มา 4 เส้น เบ็ดเสร็จ หมดไปหมื่น 4 พัน 5 ร้อย หน้าเล็ก หลัง ใหญ่ สเต๊ป แดร๊ค 555+ ยัง ไม่ได้ ตั้งศูนย์ เลยอะ ที่ร้านเค้าเช็คละเอียดดีอะ นิวเพ้งอะ เอ ยังต้องไป ทำลูกหมากอีก ลูกหมากจะเจ๊งอีกแล้ว มันจะกินยาง เลยไม่ได้ตั้งศูนย์ กะ ซื้อลูกหมาก ใหม่ 3 พัน โห่พระเจ้าเหา แม่จ่ายกระหน่ำ อิอิ ตั้งศูนย์ อีก จะ ยกท้ายขึ้นด้วย หน้าก้อเอาขึ้นอีกนิด แม่ขอ ร้องอะพี่บอลพี่ตั้ม 55 ขนผ้า เลยใส่ยาง 55 เลย หนาดี นี่ ใส่มาแล้ว ยางใหญ่ป่ะ ชอบ หน้ายาง Maxxis อ่ะ ลายมัน ดุ ดี อิอิ
นิวเพ้งอะ พี่ชายตั้มมันรู้จัก คนที่พี่เอามาเป็นรูปส่วนตัวอะ ลองถามมันดิ ทีหลังให้พี่มันพาไป มีราคาพิเศษ(ถ้าว่างพาไปได้อะนะ) ยางตั้มมันก็นิวเพ้งมั้ง YOKO ว่าแต่ถ้าเอาขึ้น จะกลายเป็นโหลดกี่นิ้วอะ แต่ก็โหดดีนะ ท้ายโด่งๆ หน้าไม่ต้องเอาขึ้นก็ได้มั้ง ^ ^ ปล.ดูเหมือนเจ้าของร้านจะเป็นรุ่นพี่พวกเราๆนี่แหละมั้ง ถ้าฟังมาไม่ผิดอะนะ
ยางเก่าอยู่ป่ะ 555 จะเอาไปทำบังเก่อ ลายสวยดี ชอบอะ กะว่าถ้าเปลี่ยนจะใส่ 55 เหมือนกัน ส่วนพีก็ใช้บริการ ตาเพ้ง มา7-8 ปี แล้วอะ เป็นรุ่นพี่พวกเราอะ เงินไม่พอโว้ย เลยหันมาครบ YOKOHAMA ปกติใช้ของ ฟายโตร เงินไม่พอ เอา YOKO ไปก่อน 555
รถของพี่ในกลุ่มอะเอ ชื่อ ต่อง หรือเรียกกันว่า หม่อมแห้ง 555+ พาแกไปทำปั๊มร้านตาค่อมมา จ่ายไป 3000 บ่นชิบเลยว่าแพง บลาๆๆๆ ถ้าบ่นอย่างนี้น่าพาเข้าแสวงเนอะ