// นานาสาระน่ารู้....ที่เกี่ยวกับการขับรถยนต์ //

การสนทนาใน 'Peugeot Club' เริ่มโดย ♂ifoni♀, 12 กรกฎาคม 2007

สถานะหัวข้อ:
ไม่เปิดให้ตอบกลับเพิ่มเติม
< Previous Thread | Next Thread >
  1. ♂ifoni♀

    ♂ifoni♀ New Member Member

    670
    5
    0
    // ความรู้ตอนฝนตก //

    ใส่แว่นกันแดดตอนฝนตก มองเห็นชัด90%%
    บนถนนสายเอเชีย ประมาณตี 1 - ตี 3 คืนวันที่ 15 เข้าเช้ามืด 16 กรกฏาคมที่ผ่านมา เป็นรถคันที่ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
    เป็นประสบการณ์ตรงล่าสุดที่อยากจะมาถ่ายทอดเป็นเชิงวิชาการแบบง่ายๆ ครับ
    > >
    > > ขากลับจากพะเยา (ผมไปงานศพคุณแม่ของวิศวกรที่บริษัทครับ ) ผมโชคดีได้
    พี่คนหนึ่งที่สนิทกันช่วยขับรถกลับให้
    เพราะต้องกลับกรุงเทพเหมือนกัน
    ผมนั่งคุยกับแกมาตลอดทาง จนฝนตกหนัก
    แกถามว่าในรถมีแว่นกันแดดไหมจึงหยิบให้เขา
    เขาให้ผมลองใส่ดูปรากฏว่าเห็นทางชัดเจนมาก ทัศนวิสัยดีมาก
    ถึงจะไม่เทียบเท่ากับตอนฝนไม่ตก แต่ก็เกือบ 90%%
    > >
    แล้วผมก็รีบเอาแว่นให้พี่เขาความรู้โดยบังเอิญตรงนี้พี่เขาก็เล่าสถานการณ์ให้ฟัง
    ผมก็ฟังไปด้วย คิดถึงเหตุผล ไปด้วยจนค่อนข้างแน่ใจว่า
    > >
    > >
    โดยคุณสมบัติของแว่นกันแดดแล้วจะทำหน้าที่กรองที่เกินความจำเป็นในการมองเห็นและทำอันตรายของดวงตาออกไปยิ่งมีคุณสมบัติดียิ่งมีการเคลือบหรือเทคนิคในการผลิตดีตามและราคาสูง
    ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ควรประหยัด
    > >
    เมื่อเม็ดฝนที่ตกหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลก จากที่สูงขนาดของเม็ดฝนซึ่งมีขนาด
    > > ต่างๆ ตกกระทบฝากระโปรงหน้าด้วยแรงกระแทกมหาศาลทำให้เม็ดฝนแตกกระจายอย่างละเ.ยดรวมทั้งบนหน้ากระจกรถของเราด้วย
    > >
    > >
    ในตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ตาม
    จะมีแสงจากธรรมชาติอยู่แล้ว หรืออาจจะมาจากที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็น
    > > แสงสว่างต่างๆเม็ดฝนมีการสะท้อนแสง
    หรือบางขณะก็รวมตัวกันมากๆ
    แบบไม่เป็นระเบียบ
    > > จึงทำให้ภาพที่เรามองไปข้างหน้าบนถนน มี"ตัวกลาง " มากั้น
    ซึ่งก็คือม่านน้ำฝน และละอองฝน
    > >
    ซึ่งตัวมันเองก็มีค่าดัชนีหักเหอยู่แล้ว
    เมื่อบวกกับการสะท้อนแสง ของละอองฝน
    ทำให้ทัศนวิสัยจึงแย่มาก
    > >
    > >
    แว่นกันแดดจึงกรองแสงจ้าที่เกิดการสะท้อนจากละอองฝนและสายฝนที่อาบอยู่
    > > บนกระจกหน้ารถ ชนิดที่เรียกว่า ที่ปัดน้ำฝน speedแรงสุดก็เอาไม่อยู่ ออกไป
    > >
    > >
    จึงทำให้ทัศนวิสัยในขณะขับรถตอนกลางคืน ฝนตกหนักเยี่ยมมาก
    > >
    > >
    ดังนั้นจึงสามารถใช้ความเร็วได้ในระดับหนึ่ง
    และปลอดภัยมาก
    > >
    > > ผมยังเชื่อว่า
    ถ้าเป็นตอนกลางวัน และฝนตกหนัก
    ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน
    > > ถึงจะยังไม่ได้ทดลอง
    แต่คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
    > >
    > >
    ผมหวังว่าความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงครั้งนี้
    คงเป็นประโยชน์กับหนอนทุกคน
    > ถ้าใครได้ทดลองใช้ก็นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
    > >
    สุดท้ายนี้ภาพที่คมชัดขึ้นกับคุณภาพแว่นกันแดดด้วย
    > > ขอบคุณคุณ
    ปรีดา ลิ้มนนทกุล
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กรกฎาคม 2007
  2. <<< JobsilrA >>>

    <<< JobsilrA >>> New Member Moderator

    936
    4
    0
    ชูดไฟหน้าซีนอนแท้ โปรดอ่าน

    ไฟซีนอน ถูกนำมาใช้ในรถอย่างจริงจังเมื่อประมาณหลายปีมาแล้ว เริ่มต้นจากรุ่นราคาแพงหลายหมื่นบาท ก็เริ่มขยับถูกนำมาในรถราคาถูกลง แม้กระทั้งรถปิกอัพบางยี่ห้อก็มีใช้ แต่ก็ยังไม่แพร่หลาย
    ถือว่ามีใช้ในรถบางรุ่นเท่านั้น ถ้าไม่นับรถปิกอัพก็จะมีแต่รถคันละล้านกว่าบาทขึ้นไปที่มีใช้ไฟซีนอน จึงเหมือนเป็นระบบไฟพิเศษราคาแพง ยากที่จะได้ใช้ แต่ก่อนถ้าจะติดตั้งเพิ่มเติมก็ชุดละเป็นหลายหมื่นบาท หลายคนจึงรู้จักไฟซีีนอนเพียงผิวเผิน รู้แต่ว่ามีใช้ในรถราคาแพงและสว่างดี ส่วนการทำงานจริงเป็นอย่างไร หรือติดตั้งเพิ่มได้ไหม จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว

    เปรียบเทียบการทำงานแบบง่ายๆ ของหลอดฮาโลเจน ก็คือ หลอดไฟแบบมีไส้ จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไป ทำให้ไส้ร้อนเปล่งแสงผ่านก๊าซที่ชื่อ ฮาโลเจนที่บรรจอยูุ่ในหลอดรอบตัวไส้
    ถ้าหลอดแตกจนก๊าซรั่วหรือไส้ขาดก็เสีย รับไฟ 12 โวลต์ตรงๆ จากระบบปกติของรถ การเปิดให้สว่างก็แค่จ่ายกระแสไฟเข้าไฟแสงจะสว่างขึ้นอย่างฉับไว
    แบบเดียวกับที่กะพริบไฟสูง หากยังงงให้นึกถึงหลอดไฟที่ใช้ในบ้าน เป็นหลอดกลมๆ ทรงคล้ายน้ำเต้า มีไส้ต่อไฟโดยตรงนั่นเอง แสงของไฟมักจะสว่างแบบอมเหลืองดูโปร่งๆ

    ส่วนหลอดไฟซีนอน ภายในบรรจุก๊าซชื่อ ซีนอน ไม่มีไส้โดยตรงแบบฮาโลเจน ทำงานคล้ายกับหลอดไฟนีออนที่ใช้ในบ้าน ต้องมีตัวแปลงและควบคุมกระแสไฟ เรียกว่า บัลลาร์ด เป็นกล่องคั่นระหว่างสายไฟปกติ ก่อนต่อเข้าตัวหลอด แสงจะออกมานวลๆ
    การเปิดให้หลอดซีนอนสว่าง ตัวบัลลาร์ดจะสร้างกระแสไฟฟ้าระดับ 20,000 กว่าโวลต์ ส่งเข้าไปยังตัวหลอดเพื่อจุดในครั้งแรก และในอีกประมาณ 1-2 วินาที ก็จะลดกระแสไฟฟ้าลงเหลือ 12 โวล์ต (หรือไม่กี่สิบโวลต์) ต่อเนื่องไป

    สรุปง่ายๆ ว่า ระบบไฟซีนอน มีกระแสไฟเป็นหมื่นโวลต์ถูกสร้างขึ้นด้วยกล่องบัลลาร์ดในช่วงสั้นๆ เพื่อจุดหลอดให้สว่างเท่านั้น ต่อจากนั้นก็จะลดไฟลงมาเหลือไม่กี่สิบโวล์ตคงความสว่างไว้ตัวหลอดซีนอน จะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 วินาที กว่าจะสว่างเต็มที่หลังจากจุดครั้งแรก จึงทำให้ถูกใช้แต่หลอดไฟต่ำ แต่ไม่ใช้กับไฟสูง เพราะสว่างไม่ทัน ถ้ามีการกะพริบไฟหรือเปิดไฟสูงในทันที ไฟซีนอนที่มีทั้งไฟต่ำและสูง จึงไม่ใช่เป็นการแยก 2 หลอดจุดหลอดใหม่ แต่ใช้หลอดเดียวต่อข้าง สว่างตลอด และใช้การเลื่อนตัวหลอดหรือตัวบัง ให้เปลี่ยนเป็นไฟต่ำหรือสูงได้ในหลอดที่สว่างตลอดอยู่หลอดเดียว


    จับผิดอย่างไรว่า เป็นซีนอนแท้หรือไม่
    เมื่อไรที่เห็นหลอดไฟหรือชุดไฟที่อ้างว่าเป็นซีนอนหรือเปล่า ดูโดยใช้หลักการง่ายๆ คือ
    1. ตัวหลอดเป็นทรงที่คุ้นเคยหรือเปล่า มีไส้ให้เห็นชัดเจนหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เป็นหลอดฮาโลเจน ถ้าเป็นซีนอนจะซับซ้อนกว่าและมีช่วงหนึ่งเป็นตัวหลอดบรรจุก๊าซโล่งๆ

    2. ซีนอนต้องมีกล่องบัลลาร์ดแปลงไฟ ขนาดประมาณเท่าฝ่ามือหนาครึ่ง-1 นิ้ว
    ถ้าต่อหลอดเข้ากับไฟ 12 โวลต์โดยตรง แสดงว่าเป็นฮาโลเจน
    โดยรวมแล้วสังเกตุที่ระบบได้ว่ามีกล่องบัลลาร์ดหรือเปล่า ถ้าหลอดต่อไฟตรงล่ะก็ไม่ใช่ซีนอนแน่ๆ

    หลายคนคิดว่า ซีนอนจะต้องแยงสายตาคนเสมอ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักระบบไฟซีนอน คิดแต่ว่าเมื่อไรเป็นซีนอนแล้วแสงต้องแรงแยงสายตาแน่ๆเพราะเคยเจอมากับตัวเองบนถนน
    ส่วนการแยงสายตา ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ตัวหลอด เพราะตัวหลอดก็มีใช้มีขายหลายค่าความสว่าง
    ไม่ใช่หลอดติดตั้งอยู่ลอยๆ แสงจะพุ่งออกมาได้ ต้องอาศัยจานสะท้อน ถ้าออกแบบจานสะท้อนมาดี มีการควบคุมการกระจายของแสงได้ดี ตัดขอบแสงไม่ให้กระจาย และมีการปรับตั้งมุมกดดี
    ถึงตัวหลอดจะมีแสงแรง แต่ก็จะไม่แยงสายตา

    จึงเตือนมาเพื่อทราบคับ ด้วยความหวังดีจาก ตาวิเศษ:cool:
     
  3. ♂ifoni♀

    ♂ifoni♀ New Member Member

    670
    5
    0
    กรณีรถแก๊สเกิดอุบัติเหตุ ควรปฏิบัติตัวเช่นนี้

    เมื่อรถใช้แก๊สเกิดอุบัติเหตุ
    1. อุบัติเหตุจากการชน - จอดรถ ดึงเบรคมือ เปิดกระจกรถ
    - ปิดสวิทช์กุญแจ และดึงกุญญแจออกจากสวิทช์กกุญแจ
    - ลงจากรถนำของมีค่า และถังดับเพลิง (ถ้ามี) ออกมาด้วย
    - เปิดฝากระโปรงหน้า และหลัง เพื่อสังเกตุดูอาการผิดปกติ
    - ( กรณีเป็นถังรุ่นวาวล์เขียว แดง ธรรมดา แบบใช้มือหมุน ) ให้ปิดวาวล์มือหมุนที่ถังแก๊ส แล้วเปิดฝากระโปรงท้าย
    (ถ้าปิดวาล์วไม่ได้ให้ปฎิบัติหัวข้อต่อไป)
    *ใน กรณีที่เป็นถังแก๊สที่ใช้มัลติวาวล์โทมาเซทโต้ อิตาลี ( TOMASETTO, ITALY) ไม่จำเป็นต้องปิด วาวล์ด้วยตนเอง เพราะมัลติวาวล์จะปิดวาวล์เองโดยอัตโนมัติทันทีที่ปิดสวิทช์กุญแจเครื่อง ยนต์ (หากเป็นกรณีต่อวงจรของสวิทช์แก๊สผ่านวงจรสวิทช์กุญแจรถยนต์ IGN )
    - ดึงฟิวส์ของระบบแก๊ส ข้างแบตเตอรี่ออก เพื่อตัดการทำงานของระบบแก๊ส
    - หากมีกลิ่นแก๊สหรือน้ำมันเชื้อเพลิง ให้รีบออกงพอสังเกตุเห็นได้
    - หากมีเพลิงไหม้ให้รีบดับเพลิงที่ต้นเพลิงทันที หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน
    - หลังเกิดอุบัติเหตุ ก่อนจะใช้รถยนต์ ด้วยระบบแก๊สอีก ควรนำรถของท่านเข้ารับการตรวจเช็คจากช่างผู้มีความ ชำนาญ
    ในระบบแก๊สก่อน
    2. อุบัติเหตุจากการกระแทกช่วงล่างหรือใต้ท้องรถยนต์
    - จอดรถ ดึงเบรคมือ ดับเครื่องยนต์ แล้วดึงกุญแจอออก
    - ลงจากรถพร้อมสังเกตุกลิ่นรั่วของเชื้อเพลิงทั้งสองชนิด (ทั้งแก๊ส และ น้ำมัน) แล้วรีบปิดวาล์วมือหมุนถังแก๊ส(กรณีใช้ถังวาวล์มือ
    หมุนแบบธรรมดา)
    *ใน กรณีที่เป็นถังแก๊สที่ใช้มัลติวาวล์โทมาเซทโต้ อิตาลี ( TOMASETTO, ITALY) ไม่จำเป็นต้องปิด วาวล์ด้วยตนเอง เพราะมัลติวาวล์จะปิดวาวล์เองโดยอัตโนมัติทันทีที่ปิดสวิทช์กุญแจเครื่อง ยนต์ (หากเป็นกรณีต่อวงจรของสวทช์แก๊สผ่านวงจรสวิทช์กุญแจรถยนต์ IGN )
    - ถ้าเชื้อเพลิงรั่วให้แจ้งเหตุฉุกเฉิน และไม่ควรสตาร์ทเครื่องยนต์อีก เพราะอาจเกิดเพลิงลุกไหม้ได้
    - ให้สังเกตกลิ่นเชื้อเพลิงรั่วประมาณ 5 นาที
    - ถ้าไม่มีกลิ่นเชื้อเพลิงรั่วให้ทดลองสตาร์ทเครื่องยนต์ (ปกติระบบจะสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยน้ำมัน ด้วยตัวระบบ อยู่แล้วทุกครั้ง) สังเกตกลิ่นอีกครั้ง ประมาณ 3 นาที
    - ทดลองเปิดวาวล์ที่ถังแก๊ส แล้วสวิทช์เข้าระบบแก๊ส สังเกตกลิ่นแก๊สอีกครั้ง ถ้าไม่มีกลิ่นผิดปกติ ก็ขับ ต่อไปได้ แต่ถ้ายังมีกลิ่นแก๊สอยู่ ให้ยกเลิกระบบแก๊ส แล้วขับด้วยระบบน้ำมันแทน (ควรนำรถของท่านเข้า ศูนย์บริการรถยนต์และศูนย์บริการแก๊สรถยนต์โดยเร็ว)
    การดูแลรักษารถยนต์ใช้แก๊ส
    1. ตรวจเช็ครถตามระยะกำหนดของรถรุ่นนั้นๆ
    - น้ำหล่อเย็น - ควรใช้น้ำยาหล่อเย็นตามคู่มือกำหนด
    2. น้ำมันเครื่อง - อาจเลือกใช้น้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบแก๊ส (LPG หรือ NGV) เป็นเชื้อเพลิง เช่น PTT PERFORMA สำหรับรถ Hybrid NGV/LPG
    3. กรองอากาศ - ทำความสะอาดไส้กรองอากาศตามคู่มือกำหนด
    4. ข้อต่อแก๊สทุกจุด - ตรวจการรั่วโดยใช้น้ำสบู่ หยอดที่ข้อต่อแก๊ส ทุกจุดที่สามารถทำได้เอง (ตรวจขณะเปิดใช้ระบบ แก๊ส)
    5. ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงควรมีอยู่ในถังอย่างน้อย 1/4 ถัง เพื่อ
    5.1. มีน้ำมันสำรองกรณีแก๊สหมด หรือระบบจ่ายแก๊สขัดข้อง
    5.2. ช่วยลดการเกิดสนิมในถังน้ำมัน
    5.3. ป้องกันปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหายในกรณีที่ระบบแก๊สนั้นไม่ได้ตัดการ ทำงานของปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
    6. เข้ารับบริการตรวจเช็คระบบแก๊ส ตามระยะเวลาที่อู่ / ศูนย์ติดตั้งแก๊สนั้นๆกำหนด
    7. ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยน้ำมัน เพื่อให้สตาร์ทง่าย ลดอาการสั่นขณะสตาร์ทและหล่อเลี้ยงระบบเชื้อเพลิง (ระบบแก๊สส่วนใหญ่ จะสตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้งด้วยน้ำมันอยู่แล้ว)
    8. การดับเครื่องยนต์ ควรดับด้วยระบบน้ำมันบ้างในบางวัน เพื่อให้น้ำมันเข้าสู่ระบบต่างๆ เช่นหัวฉีดน้ำมัน, กระบอกสูบ,
    ห้องเผาไหม้ ฯลฯ เพื่อไม่ให้ห้องเผาไหม้แห้งจนเกินไป ( แนะนำอย่างยิ่งให้ปฏิบัติดังกล่าวในกรณีที่ท่านจะต้องจอดรถ หรือไม่ ใช้
    รถเป็นเวลานานหลายๆวัน)
    9. ควรเติมแก๊สจากสถานีบริการที่มีมาตรฐาน (อาจมีสิ่งปลอมปนได้ในปั๊มแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน)
    10. หากไม่ใช้รถยนต์เป็นเวลานานหลายวัน ควรปิดวาล์วมือหมุนที่ถังแก๊ส เพื่อป้องกันแก๊สรั่วในกรณีที่ระบบวาล์วไฟฟ้าที่จุดอื่น
    บกพร่อง
    "ทั้ง หมดนี้เป็นการดูแลรักษารถยนต์ใช้แก๊สด้วยวิธีง่ายๆ ทุกท่านสามารถนำไปปฏิบัติได้ เพื่อความปลอดภัยของท่าน และเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ และระบบ Gas ในรถของท่านได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ. "
     
    alamoz ถูกใจสิ่งนี้
  4. RTNET@EK

    RTNET@EK Active Member Member

    933
    122
    43
    เยี่ยมครับ
     
  5. tayeeh

    tayeeh New Member Member

    128
    2
    0
    ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
     
  6. JOJOEYE

    JOJOEYE New Member Member

    237
    36
    0
    ความรู้ดีมีประโยชน์...
     
  7. creammer

    creammer New Member Member

    146
    28
    0
    ขอบคุณครับ ได้ความรู้ดี ผมก็ติดมาเหมือนกัน
     
  8. louismax

    louismax New Member Member

    432
    78
    0
    ขอบคุณมากครับ
     
  9. BoBo_EK

    BoBo_EK New Member Member

    2,491
    146
    0
    ขอบคูณครับ
     
  10. God level

    God level Active Member Moderator

    1,028
    14
    38
    เยี่ยมเลยฝน.....เหมาะสำหรับ....ผู้ที่ชอบดมสารระเหยแบบเรา.....อิอิอิ....
     
  11. ♂ifoni♀

    ♂ifoni♀ New Member Member

    670
    5
    0
    ขอบคุณทุกคนครับ...อิอิ...อะไรที่ไม่ใช่ของเดิมติดรถ..ก็คอยสังเกตุกันหน่อยนะครับ.. ห่วงชาวคลับทุกคนครับ
     
  12. <<< JobsilrA >>>

    <<< JobsilrA >>> New Member Moderator

    936
    4
    0
    อยู่คลับนี้นี่เรียนรู้ทั้งชีวิตจิงๆ ชอบคับ
     
  13. ohmmemy

    ohmmemy Active Member Moderator

    1,077
    4
    38
    เยี่ยม มาก เลย ครับ พี่ อิอิ
     
  14. kong@peugeot

    kong@peugeot New Member Member

    113
    2
    0
    พึ่งรู้วันนี้แหละ ขอบคุณมากครับ
     
< Previous Thread | Next Thread >
สถานะหัวข้อ:
ไม่เปิดให้ตอบกลับเพิ่มเติม

แบ่งปันหน้านี้