เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
Sedan VS Hatchback ตอนที่ 2 : ทำไมรถแฮทช์แบค ถึงต้องมีใบปัดน้ำฝนหลังด้วยนะ?
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="RacingWeb, post: 2005757, member: 9984"]<p style="text-align: center"><img src="https://lh5.googleusercontent.com/-TLppJ4py9zA/U35PrLF6z6I/AAAAAAAAB4k/csXVSgJeEYM/s640/tile_rear_wiper.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Sedan VS Hatchback</p> <p style="text-align: center">ซีดาน ปะทะ แฮทช์แบค</p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><b>ตอนที่ 2: ทำไมรถแฮทช์แบค ถึงต้องมีที่ปัดน้ำฝนหลังด้วยนะ?</b></p><p><br /></p><p>หลายๆคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมรถแฮทช์แบคส่วนใหญ่ถึงมีที่ปัดน้ำฝนหลังติดตั้งมาจากโรงงาน แต่สำหรับรถซีดานแล้ว แทบจะไม่มีรถรุ่นไหนที่มีใบปัดน้ำฝนหลังเลย คิดแล้วก็น่าสงสัย ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ? แต่อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบคำตอบของคำถามนี้แล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ เชิญค้นหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยครับ</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh4.googleusercontent.com/-ob3L2ahYGrk/U35PqjbTtGI/AAAAAAAAB4g/zuhQOC_bwtU/s640/sonic.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://www.blogcdn.com</p><p><br /></p><p>คิดๆ แล้วมันก็น่าแปลก เพราะว่ากระจกหลังของรถแฮทช์แบคจะมีความชันมากกว่า เมื่อฝนตกแล้ว น้ำฝนจะไหลผ่านลงไปอย่างรวดเร็ว และจะไม่มีเม็ดน้ำฝนเกาะตามกระจก เพราะฉะนั้น รถแฮทช์แบคไม่ต้องมีใบปัดน้ำฝนหลังก็ได้หนิ แต่ว่าทำไม รถแฮทช์แบคเกือบทุกค่ายถึงติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้นะ?</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh4.googleusercontent.com/-LgmG9EqvQWE/U35PnJqZbPI/AAAAAAAAB38/avmnIg7jc6k/s640/focus.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">autosaddict.com</p><p><br /></p><p>ในทางตรงกันข้าม กระจกหลังของรถซีดานจะลาดเอียงกว่ามาก แถมยังมีขนาดใหญ่กว่ามาก เมื่อฝนตกแล้ว เม็ดฝนจะไหลลงมาช้ากว่า และในบางครั้งที่ฝนตกไม่หนักมาก (ฝนปรอยๆ) จะทำให้เม็ดฝนเกาะอยู่ที่กระจก ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงอย่างมาก ว่าแต่ว่า...ทำไมรถซีดานส่วนใหญ่ถึงไม่มีใบปัดน้ำฝนหลังนะ?</p><p><br /></p><p>จากข้อสมมติฐานข้างต้น เราสามารถสรุปได้ว่า ใบปัดน้ำฝนหลังนั้น ไม่จำเป็นสำหรับรถแฮทช์แบค แต่ทำไมโรงงานเค้าถึงติดตั้งมาให้? ในทางตรงกันข้าม รถซีดานควรจะมีใบปัดน้ำฝน แต่ว่ามันก็ไม่มี?</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh5.googleusercontent.com/-F3aCuu0t8Go/U35Ppaw5xRI/AAAAAAAAB4U/46HjvuoLzKs/s640/mazda3.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">www.egmcartech.com</p><p><br /></p><p>ความจริงแล้ว ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังของคำถามนี้ก็คือ "แอโรไดนามิคส์" นั่นเอง แอโรไดนามิคส์ของรถแฮทช์แบคและซีดานนั้นมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะการไหลของอากาศบริเวณท้ายรถ ซึ่งการไหลของอากาศท้ายรถนี่เอง จะเป็นตัวกำหนดว่า รถคันนั้นๆ มีความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังหรือไม่</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-mzaV6dXI8t0/U35Pmj4pySI/AAAAAAAAB30/BvjnxGMmB3E/s640/2014-Mazda3-Sedan-Side-Rear.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">www.autohotest.com</p><p><br /></p><p>เพราะฉะนั้น ในบทความนี้ ผมจะขอหยิบยก 2014 Mazda 3 ที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ มาเพื่อวิเคราะห์การไหลของอากาศและเปรียบเทียบกันระหว่างเวอร์ชั่นซีดานและแฮทช์แบค และแน่นอนว่า Mazda 3 เวอร์ชั่นแฮทช์แบคนั้น มีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้ทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นต่ำสุดไปจนถึงรุ่นท็อป แต่สำหรับเวอร์ชั่นซีดานนั้น ไม่มีใบปัดน้ำฝนมาให้เลยแม้แต่รุ่นเดียว</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-xfDQuj-QTFU/U35PsTh7UQI/AAAAAAAAB4s/_rxqjVfxKyQ/s640/wake.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>สังเกตจากรูปข้างบน สำหรับรถแฮทช์แบค อากาศที่ไหลบริเวณท้ายรถจะเกิดเป็นลมหมุน ซึ่งลมหมุนนี้เองจะพัดเอาละอองน้ำและละอองฝุ่นขึ้นมาจากถนนและไปเกาะอยู่ที่กระจกหลัง ทำให้ทัศนวิสัยของกระจกหลังแย่ลง เพราะเหตุนี้จึงต้องมีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้เพื่อใช้ทำความสะอาดละอองฝุ่นนั่นเอง</p><p><br /></p><p>สำหรับการไหลของอากาศของรถซีดาน ก็เกิดเป็นลมหมุนเช่นเดียวกัน แต่ทว่าเป็นลมหมุนที่มีขนาดเล็กกว่ามาก ลมหมุนเหล่านี้จะพัดเอาละอองฝุ่นขึ้นมาจากถนนเช่นเดียวกัน แต่จุดที่น่าสังเกตก็คือ ลมหมุนที่เกิดขึ้นหลังรถซีดานจะไม่พัดขึ้นไปที่กระจกหลัง แต่จะหมุนวนอยู่ที่บริเวณกันชนหลังเท่านั้น เพราะฉะนั้น กระจกหลังของรถซีดานจึงไม่ค่อยมีละอองฝุ่นมาเกาะ และจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนหลัง</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-xgxee8yJVsc/U35Pn3p97WI/AAAAAAAAB4I/bF69jYwprmM/s640/gj_11sti_hatch_rear.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh5.googleusercontent.com/-ln37hulMFuE/U35PoZqh3kI/AAAAAAAAB4M/QHbbBr-cQqs/s640/gj_11sti_sedanrear.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">cars.about.com</p><p><br /></p><p>อย่างไรก็ดี มีรถซีดานบางคันที่ถูกติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาจากโรงงาน ยกตัวอย่างเช่น Mitsubishi Lancer Evolution 8 จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่ากระจกหลังของ Lancer คันนี้มีความชันมากกว่ารถซีดานโดยทั่วไป เพราะเหตุนี้ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดลมหมุนที่สูงขึ้นมาถึงกระจกหลัง และเนื่องจาก Mitsubishi Lancer Evolution 8 คันนี้ เป็นรถสายพันธุ์แรลลี่ที่ต้องคลุกฝุ่นคลุกโคลนอยู่เป็นประจำ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้เพื่อใช้ทำความสะอาดกระจกหลังนั่นเอง</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-lrlG-IAXMzA/U35Pk-ZZ3jI/AAAAAAAAB3s/tXIvnHcZk2U/s640/2003-mitsubishi-lancer-evo-8-mr-car-wallpaper-amp-specifications_ccfb2.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://gomotors.net</p><p><br /></p><p>เพราะฉะนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า ใบปัดน้ำฝนหลังนั้น หลักๆแล้วใช้สำหรับทำความสะอาดฝุ่นที่มาเกาะกระจกหลังเสียมากกว่า และนอกจากนั้น เรายังสามารถสรุปได้ว่า ความจำเป็นในการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังนั้น ขึ้นอยู่กับมุมลาดเอียงของกระจกหลัง ถ้ารถคันไหนมีกระจกหลังที่มีมุมลาดเอียงมาก(รถซีดานส่วนใหญ่) ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งที่ปัดน้ำฝนหลัง แต่ถ้ารถคันไหนที่มีกระจกหลังทำมุมเกือบจะตั้งฉากกับพื้นถนน(รถแฮทช์แบคส่วนใหญ่) รถพวกนี้จำเป็นต้องติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลัง เพื่อทำความสะอาดละอองฝุ่นบริเวณกระจกที่เกิดจากลมหมุนบริเวณท้ายรถ</p><p><br /></p><p>บทความเรื่อง "ซีดาน ปะทะ แฮทช์แบค" ตอนที่ 1 อ่านได้ที่ <a href="http://racingweb.net/content/356" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://racingweb.net/content/356" rel="nofollow">http://racingweb.net/content/356</a></p><p><br /></p><p>ที่มา: <a href="http://www.downforce-engineering.com/index.php/all-articles/84-sedan-vs-hatchback" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.downforce-engineering.com/index.php/all-articles/84-sedan-vs-hatchback" rel="nofollow">http://www.downforce-engineering.com/index.php/all-articles/84-sedan-vs-hatchback-2</a>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="RacingWeb, post: 2005757, member: 9984"][center][img]https://lh5.googleusercontent.com/-TLppJ4py9zA/U35PrLF6z6I/AAAAAAAAB4k/csXVSgJeEYM/s640/tile_rear_wiper.jpg[/img] Sedan VS Hatchback ซีดาน ปะทะ แฮทช์แบค [b]ตอนที่ 2: ทำไมรถแฮทช์แบค ถึงต้องมีที่ปัดน้ำฝนหลังด้วยนะ?[/b][/center] หลายๆคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมรถแฮทช์แบคส่วนใหญ่ถึงมีที่ปัดน้ำฝนหลังติดตั้งมาจากโรงงาน แต่สำหรับรถซีดานแล้ว แทบจะไม่มีรถรุ่นไหนที่มีใบปัดน้ำฝนหลังเลย คิดแล้วก็น่าสงสัย ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ? แต่อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบคำตอบของคำถามนี้แล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ เชิญค้นหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยครับ [center][img]https://lh4.googleusercontent.com/-ob3L2ahYGrk/U35PqjbTtGI/AAAAAAAAB4g/zuhQOC_bwtU/s640/sonic.jpg[/img] http://www.blogcdn.com[/center] คิดๆ แล้วมันก็น่าแปลก เพราะว่ากระจกหลังของรถแฮทช์แบคจะมีความชันมากกว่า เมื่อฝนตกแล้ว น้ำฝนจะไหลผ่านลงไปอย่างรวดเร็ว และจะไม่มีเม็ดน้ำฝนเกาะตามกระจก เพราะฉะนั้น รถแฮทช์แบคไม่ต้องมีใบปัดน้ำฝนหลังก็ได้หนิ แต่ว่าทำไม รถแฮทช์แบคเกือบทุกค่ายถึงติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้นะ? [center][img]https://lh4.googleusercontent.com/-LgmG9EqvQWE/U35PnJqZbPI/AAAAAAAAB38/avmnIg7jc6k/s640/focus.jpg[/img] autosaddict.com[/center] ในทางตรงกันข้าม กระจกหลังของรถซีดานจะลาดเอียงกว่ามาก แถมยังมีขนาดใหญ่กว่ามาก เมื่อฝนตกแล้ว เม็ดฝนจะไหลลงมาช้ากว่า และในบางครั้งที่ฝนตกไม่หนักมาก (ฝนปรอยๆ) จะทำให้เม็ดฝนเกาะอยู่ที่กระจก ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงอย่างมาก ว่าแต่ว่า...ทำไมรถซีดานส่วนใหญ่ถึงไม่มีใบปัดน้ำฝนหลังนะ? จากข้อสมมติฐานข้างต้น เราสามารถสรุปได้ว่า ใบปัดน้ำฝนหลังนั้น ไม่จำเป็นสำหรับรถแฮทช์แบค แต่ทำไมโรงงานเค้าถึงติดตั้งมาให้? ในทางตรงกันข้าม รถซีดานควรจะมีใบปัดน้ำฝน แต่ว่ามันก็ไม่มี? [center][img]https://lh5.googleusercontent.com/-F3aCuu0t8Go/U35Ppaw5xRI/AAAAAAAAB4U/46HjvuoLzKs/s640/mazda3.jpg[/img] www.egmcartech.com[/center] ความจริงแล้ว ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังของคำถามนี้ก็คือ "แอโรไดนามิคส์" นั่นเอง แอโรไดนามิคส์ของรถแฮทช์แบคและซีดานนั้นมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะการไหลของอากาศบริเวณท้ายรถ ซึ่งการไหลของอากาศท้ายรถนี่เอง จะเป็นตัวกำหนดว่า รถคันนั้นๆ มีความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังหรือไม่ [center][img]https://lh6.googleusercontent.com/-mzaV6dXI8t0/U35Pmj4pySI/AAAAAAAAB30/BvjnxGMmB3E/s640/2014-Mazda3-Sedan-Side-Rear.jpg[/img] www.autohotest.com[/center] เพราะฉะนั้น ในบทความนี้ ผมจะขอหยิบยก 2014 Mazda 3 ที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ มาเพื่อวิเคราะห์การไหลของอากาศและเปรียบเทียบกันระหว่างเวอร์ชั่นซีดานและแฮทช์แบค และแน่นอนว่า Mazda 3 เวอร์ชั่นแฮทช์แบคนั้น มีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้ทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นต่ำสุดไปจนถึงรุ่นท็อป แต่สำหรับเวอร์ชั่นซีดานนั้น ไม่มีใบปัดน้ำฝนมาให้เลยแม้แต่รุ่นเดียว [center][img]https://lh3.googleusercontent.com/-xfDQuj-QTFU/U35PsTh7UQI/AAAAAAAAB4s/_rxqjVfxKyQ/s640/wake.jpg[/img][/center] สังเกตจากรูปข้างบน สำหรับรถแฮทช์แบค อากาศที่ไหลบริเวณท้ายรถจะเกิดเป็นลมหมุน ซึ่งลมหมุนนี้เองจะพัดเอาละอองน้ำและละอองฝุ่นขึ้นมาจากถนนและไปเกาะอยู่ที่กระจกหลัง ทำให้ทัศนวิสัยของกระจกหลังแย่ลง เพราะเหตุนี้จึงต้องมีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้เพื่อใช้ทำความสะอาดละอองฝุ่นนั่นเอง สำหรับการไหลของอากาศของรถซีดาน ก็เกิดเป็นลมหมุนเช่นเดียวกัน แต่ทว่าเป็นลมหมุนที่มีขนาดเล็กกว่ามาก ลมหมุนเหล่านี้จะพัดเอาละอองฝุ่นขึ้นมาจากถนนเช่นเดียวกัน แต่จุดที่น่าสังเกตก็คือ ลมหมุนที่เกิดขึ้นหลังรถซีดานจะไม่พัดขึ้นไปที่กระจกหลัง แต่จะหมุนวนอยู่ที่บริเวณกันชนหลังเท่านั้น เพราะฉะนั้น กระจกหลังของรถซีดานจึงไม่ค่อยมีละอองฝุ่นมาเกาะ และจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนหลัง [center][img]https://lh3.googleusercontent.com/-xgxee8yJVsc/U35Pn3p97WI/AAAAAAAAB4I/bF69jYwprmM/s640/gj_11sti_hatch_rear.jpg[/img] [img]https://lh5.googleusercontent.com/-ln37hulMFuE/U35PoZqh3kI/AAAAAAAAB4M/QHbbBr-cQqs/s640/gj_11sti_sedanrear.jpg[/img] cars.about.com[/center] อย่างไรก็ดี มีรถซีดานบางคันที่ถูกติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาจากโรงงาน ยกตัวอย่างเช่น Mitsubishi Lancer Evolution 8 จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่ากระจกหลังของ Lancer คันนี้มีความชันมากกว่ารถซีดานโดยทั่วไป เพราะเหตุนี้ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดลมหมุนที่สูงขึ้นมาถึงกระจกหลัง และเนื่องจาก Mitsubishi Lancer Evolution 8 คันนี้ เป็นรถสายพันธุ์แรลลี่ที่ต้องคลุกฝุ่นคลุกโคลนอยู่เป็นประจำ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังมาให้เพื่อใช้ทำความสะอาดกระจกหลังนั่นเอง [center][img]https://lh3.googleusercontent.com/-lrlG-IAXMzA/U35Pk-ZZ3jI/AAAAAAAAB3s/tXIvnHcZk2U/s640/2003-mitsubishi-lancer-evo-8-mr-car-wallpaper-amp-specifications_ccfb2.jpg[/img] http://gomotors.net[/center] เพราะฉะนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า ใบปัดน้ำฝนหลังนั้น หลักๆแล้วใช้สำหรับทำความสะอาดฝุ่นที่มาเกาะกระจกหลังเสียมากกว่า และนอกจากนั้น เรายังสามารถสรุปได้ว่า ความจำเป็นในการติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลังนั้น ขึ้นอยู่กับมุมลาดเอียงของกระจกหลัง ถ้ารถคันไหนมีกระจกหลังที่มีมุมลาดเอียงมาก(รถซีดานส่วนใหญ่) ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งที่ปัดน้ำฝนหลัง แต่ถ้ารถคันไหนที่มีกระจกหลังทำมุมเกือบจะตั้งฉากกับพื้นถนน(รถแฮทช์แบคส่วนใหญ่) รถพวกนี้จำเป็นต้องติดตั้งใบปัดน้ำฝนหลัง เพื่อทำความสะอาดละอองฝุ่นบริเวณกระจกที่เกิดจากลมหมุนบริเวณท้ายรถ บทความเรื่อง "ซีดาน ปะทะ แฮทช์แบค" ตอนที่ 1 อ่านได้ที่ [url=http://racingweb.net/content/356]http://racingweb.net/content/356[/url] ที่มา: [url=http://www.downforce-engineering.com/index.php/all-articles/84-sedan-vs-hatchback]http://www.downforce-engineering.com/index.php/all-articles/84-sedan-vs-hatchback-2[/url][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
Sedan VS Hatchback ตอนที่ 2 : ทำไมรถแฮทช์แบค ถึงต้องมีใบปัดน้ำฝนหลังด้วยนะ?
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...