• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;RacingWeb, post: 2001237, member: 9984&quot;]ในบทความเรื่อง &quot;อากาศพลศาสตร์ของรถกระบะ ตอนที่ 1&quot; เราจะโฟกัสไปที่การไหลของอากาศบริเวณฝาท้ายของรถกระบะ (Tailgate) และมาวิเคราะห์กันว่า ระหว่างเปิดฝาท้ายกับปิดฝาท้าย แบบไหนกันนะ ที่มีแรงต้านอากาศน้อยกว่ากัน?</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-73GgEwoYsbs/U0Mb-eVROxI/AAAAAAAABwI/TQMR3J7G0jw/s640/title_aero_pickup.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><b>Aerodynamics of Pickup Truck Part 1: Tailgate up or tailgate down?</b></p> <p style="text-align: center"><b><br /></b></p> <p style="text-align: center"><b>อากาศพลศาสตร์ของรถกระบะ ตอนที่ 1: การเปิดฝาท้าย ทำให้แรงต้านอากาศลดลงจริงหรือ?</b></p><p><br /></p><p>หลักอากาศพลศาสตร์ของรถกระบะ ก็มีวัตถุประสงค์เดียวกันกับหลักอากาศพลศาสตร์ของรถเก๋ง นั่นก็คือ เป็นการออกแบบให้รถมีแรงต้านอากาศน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อมีแรงต้านน้อยแล้ว ก็จะทำให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนั้น การที่มีแรงต้านอากาศน้อยกว่า ยังทำให้รถกระบะมีอัตราเร่งที่ดีขึ้นอีกด้วย สมมติว่ามีรถกระบะอยู่ 2 คัน ทั้งสองคันนี้มีเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าเท่ากัน แน่นอนว่า คันที่มีแรงต้านอากาศน้อยกว่าจะสามารถทำอัตราเร่งได้ดีกว่า และก็ยังมีความเร็วสูงสุดมากกว่าอีกด้วย เพราะฉะนั้น หลักอากาศพลศาสตร์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราเร่งของรถอีกด้วย</p><p><br /></p><p>เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า โดยปกติแล้ว รถกระบะจะมีแรงต้านอากาศมากกว่ารถเก๋ง ปัจจัยหลักที่ทำให้รถกระบะมีแรงต้านมากกว่าก็คือ &quot;พื้นที่ปะทะลม&quot; เพราะว่ารถกระบะมีความกว้างและความสูงมากกว่า จึงทำให้รถกระบะมีพื้นที่ปะทะลมกว่า นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือการไหลของอากาศบริเวณกระบะ เนื่องจากกระแสลมที่ไหลผ่านหลังคา จะไหลม้วนลงไปยังบริเวณกระบะทำให้เกิดเป็นกระแสปั่นป่วน (Turbulent flow) ซึ่งทำให้เกิดแรงต้านเพิ่มขึ้นไปอีก และยิ่งอากาศมีความปั่นป่วนมาก ก็จะยิ่งมีแรงต้านมาก</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh4.googleusercontent.com/-FNq0re4SSys/U0Mb7Q5v1wI/AAAAAAAABvc/txp-WRFzhyU/s640/02-chevrolet-colorado-show-truck.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://www.germancarforum.com/community/threads/gm-unveils-next-gen-chevrolet-colorado-ahead-of-bangkok-debut.36922/</p><p><br /></p><p>ในยุคข้าวยากน้ำมันแพงเช่นนี้ พวกเราๆท่านๆที่ต้องใช้รถยนต์เป็นพาหนะหลักในการเดินทางก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายท่านพยายามทำให้รถของตัวเองประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิงห์กระบะดีเซล ผมเห็นรถกระบะหลายคันเปิดฝาท้ายวิ่งกันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยความเชื่อที่ว่า การเปิดฝาท้ายจะทำให้อากาศไหลผ่านกระบะได้สะดวกมากขึ้น เพราะฝาท้ายจะไม่ไปขวางทางลมนั่นเอง ผลที่ได้ก็คือแรงต้านอากาศจะลดลง ไม่เพียงเท่านั้น รถกระบะซิ่งก็เปิดฝาท้ายวิ่งแข่งกันควันท่วมทุ่ง หรือบางคันถึงกับถอดฝาท้ายทิ้งไปเลยก็มี การเปิดฝาท้ายวิ่งได้กลายเป็นประเพณีปฏิบัติในลัทธิกระบะดีเซลไปเรียบร้อยแล้ว และแฟชั่นเปิดฝาท้ายนี้ไม่ได้มีเพียงบ้านเราไทยแลนด์เท่านั้น แม้กระทั่งฝั่งยุโรปและอเมริกาก็เปิดฝาท้ายวิ่งกันด้วยความเชื่อที่ว่าแรงต้านอากาศจะลดลง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคำถามสำคัญอยู่หนึ่งคำถาม นั่นก็คือ การเปิดฝาท้าย สามารถลดแรงต้านอากาศได้จริงหรือไม่?</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-et6NUB4fiOU/U0Mb7W36rwI/AAAAAAAABvY/NJLK36LjFaU/s640/colorado.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">https://www.facebook.com/pages/Chaba-project-drag-racing-/155113454567576</p><p><br /></p><p>เพราะฉะนั้น ในบทความเรื่อง &quot;อากาศพลศาสตร์ของรถกระบะ ตอนที่ 1&quot; เราจะโฟกัสไปที่การไหลของอากาศบริเวณฝาท้ายของรถกระบะ(Tailgate) และมาวิเคราะห์กันว่า ระหว่างเปิดฝาท้ายกับปิดฝาท้าย แบบไหนกันนะ ที่มีแรงต้านอากาศน้อยกว่ากัน?</p><p><br /></p><p>เป็นที่ถกเถียงกันมานานหลายทศวรรตแล้วว่า การเปิดฝาท้ายสามารถลดแรงต้านอากาศได้จริงหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีใครเริ่มทำการทดสอบอย่างจริงจังเสียที จนกระทั่งบริษัท GM (General Motor) ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ได้ทำการทดสอบรถกระบะ 2014 All New Sierra ภายในอุโมงค์ลม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสังเกตการไหลของอากาศบริเวณฝาท้าย จากการทดสอบในอุโมงค์ลม เผยให้เห็นว่าความจริงที่น่าตกใจว่า &quot;การเปิดฝาท้ายไม่ได้ทำให้แรงต้านอากาศลดลงอย่างที่เราเข้าใจกัน แต่กลับทำให้แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ&quot;</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-fKp7Sw1b3rs/U0Mb9rxNVEI/AAAAAAAABwA/m0dHgyz08xM/s640/tailgate.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://www.davearbogast.com/blog/2013/june/7/tailgate-up-or-down-debunking-myths.htm</p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-8MZy6zh3kJA/U0Mb7sHV3cI/AAAAAAAABvg/kTQzoDJ0KFU/s512/72-2014-GMC-Sierra-Wind-Tunnel-Tailgate.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://carbuzzard.com/2013/05/up-or-down-where-the-tailgate-for-better-pickup-truck-areodynamics/2014-gmc-sierra-sle-2/</p><p><br /></p><p>หา...จริงเหรอเนี่ย!? ฟังดูแล้วมันขัดๆกับความรู้สึกยังไงชอบกล เพราะผมเองก็เชื่อมานานแล้วว่าการเปิดฝาท้ายน่าจะทำให้อากาศไหลผ่านกระบะได้ง่ายกว่าและน่าจะทำให้รถมีโรไดนามิคส์ที่ดีกว่า แต่อย่างไรก็ดี เมื่อผลการทดสอบมันออกมาเป็นอย่างนี้แล้ว เราก็ต้องยอมรับและมาหาคำตอบกันว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้</p><p><br /></p><p>นอกจากผลการทดสอบของบริษัท GM แล้ว บริษัท Dodge ซึ่งก็เป็นค่ายรถยนต์สัญชาติอเมริกันเช่นเดียวกัน ก็ได้ทำการทดสอบในลักษณะเดียวกันนี้ และผลการทดสอบที่ได้ก็สอดคล้องกับผลทดสอบของ GM&nbsp; นั่นก็คือ การเปิดฝาท้ายทำให้แอโรไดนามิคส์แย่ลง และนอกจากนั้น Dodge ได้สรุปผลการทดสอบครั้งนี้ว่า &quot;การเปิดฝาท้ายจะทำให้แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3% เนื่องจากการเปิดฝาท้ายทำให้กระแสอากาศบริเวณท้ายรถมีความปั่นป่วนมากขึ้น ซึ่งความปั่นป่วนนี้คือตัวการสำคัญที่ทำให้แรงต้านอากาศมีค่าเพิ่มขึ้น&quot;</p><p><br /></p><p>ต่อไปเราจะมาวิเคราะห์การไหลของอากาศเพื่อมาหาคำตอบว่า &quot;ทำไม...การเปิดฝาท้ายทำให้แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้น?&quot;</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-zt1bOszOxog/U0Mb9W66UzI/AAAAAAAABv0/rDJQk3gIuW8/s640/pickup_closedvsopen.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>อันดับแรกเราจะมาพิจารณาการไหลของอากาศผ่านกระบะที่ปิดฝาท้าย จะเห็นได้ว่า อากาศที่ไหลผ่านหลังคา จะไหลม้วนลงมาในกระบะและชนกับฝาท้าย ทำให้เกิดเป็น &quot;ลมหมุน&quot; ซึ่งจะหมุนวนอยู่ภายในกระบะเป็นวงกลม เราเรียกลมหมุนแบบนี้ว่า &quot;Locked Vortex Flow&quot; เมื่อลมหมุนก่อตัวเต็มพื้นที่กระบะแล้ว อากาศที่ไหลผ่านหลังคาจะไม่สามารถไหลลงมายังกระบะได้อีก แต่จะไหลผ่านลมหมุนไปอย่างราบเรียบ ซึ่งการไหลแบบนี้จะทำให้แรงต้านอากาศลดลงอย่างมาก</p><p><br /></p><p>สำหรับการเปิดฝาท้าย อากาศที่ไหลผ่านหลังคาจะไหลลงมายังกระบะอย่างรวดเร็วและเกิดเป็นลมหมุนเช่นเดียวกัน แต่ว่าลมหมุนภายในกระบะจะมีความปั่นป่วนมากกว่า จะสังเกตได้ว่า เมื่ออากาศไหลผ่านหลังคาและไหลมายังฝาท้ายที่ถูกเปิดออก กระแสอากาศจะเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันและวนกลับเข้าไปในกระบะอีกครั้งหนึ่ง การเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันนี้ส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แรงต้านอากาศมีค่าเพิ่มขึ้น</p><p><br /></p><p>นอกจากการทดสอบของ GM และ Dodge แล้ว ยังมีรายการโทรทัศน์ชื่อว่า MythBusters ซึ่งออกอากาศในช่อง Discovery Channel รายการนี้ได้นำรถกระบะสองคันซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันมาทดสอบเพื่อพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า &quot;การเปิดฝาท้ายจะช่วยลดแรงต้านอากาศและทำให้รถประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น&quot; ก่อนทำการทดสอบ พวกเขาได้เติมน้ำมันจนเต็มถังทั้งสองคันและขับออกจากจุดสตาร์ทพร้อมกัน โดยที่คันหนึ่งเปิดฝาท้ายและอีกคันหนึ่งปิดฝาท้าย จากนั้นก็ขับด้วยความเร็วเท่ากันไปตามฟรีเวย์เพื่อจะหาว่าใครจะประหยัดน้ำมันมากกว่ากัน หลังจากขับจนน้ำมันหมดถัง ผลปรากฎว่า รถกระบะคันที่ปิดฝาท้ายสามารถวิ่งได้ไกลกว่ารถกระบะที่เปิดฝาท้าย โดยวิ่งได้ไกลกว่าประมาณ 50 กิโลเมตรเลยทีเดียว</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-XQ12SSkTumI/U0Mb9MTiKkI/AAAAAAAABv8/TDE_DXo1TCU/s640/myth.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://www.discovery.com/tv-shows/mythbusters</p><p><br /></p><p>แล้วถ้าไม่ใส่ฝาท้ายล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราถอดมันออกไปเลย มันจะดีกว่าหรือว่าแย่กว่ายังไง? คำตอบก็คือ กระบะที่ไม่มีฝาท้ายก็เหมือนกับกระบะที่มีฝาท้ายแต่เปิดทิ้งไว้นั่นแหละครับ แต่กระบะที่ไม่มีฝาท้ายจะมีขนาดของลมหมุนที่เล็กกว่า ทำให้มีแรงต้านน้อยกว่า แต่ก็มากกว่ากระบะแบบปิดฝาท้ายอยู่ดี&nbsp; เพราะฉะนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า กระบะที่มีแรงต้านอากาศน้อยที่สุดคือกระบะแบบปิดฝาท้าย รองลงมาคือกระบะที่ถอดฝาท้ายออก และกระบะมีแรงต้านมากที่สุดคือกระบะที่เปิดฝาท้าย</p><p><br /></p><p>สรุปได้ว่า &quot;การเปิดฝาท้ายไม่ได้ทำให้แรงต้านอากาศลดลง แต่กลับทำให้แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปิดฝาท้ายจะทำให้อากาศมีความปั่นป่วนมากกว่า&quot; เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากจะประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกนิด ผมก็แนะนำให้ปิดฝาท้าย แต่ถ้าใครเป็นสาวกกระบะซิ่ง ที่ต้องการเปิดฝาท้ายหรือต้องการถอดฝาท้าย ก็ไม่ผิดอะไร เพราะส่วนตัวผมเองแล้ว ก็มีความชื่นชอบในกระบะซิ่งอยู่ไม่น้อย และผมมองว่า การถอดฝาท้ายออกแล้วใส่เหล็กค้ำ ก็ดูเท่ห์ไม่หยอกเลยทีเดียว ถึงแม้แรงต้านอากาศจะเพิ่มขึ้นก็เหอะ แต่มันก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็น &quot;ตัวซิ่ง&quot; ได้อย่างเจนจัดชัดเจน</p><p><br /></p><p>ในบทความตอนต่อไปของ &quot;อากาศพลศาสตร์ของรถกระบะ&quot; เราจะมาค้นหากันว่า จะมีวิธีไหนบ้างหนอ ที่จะทำให้แอโรไดนามิคส์ของรถกระบะดีขึ้น โดยท่านผู้อ่านสามารถติดตามบทความตอนต่อไปได้ที่ https://www.facebook.com/DownforceEngineering</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh5.googleusercontent.com/--aXuKI8uqEE/U0Mb8tNLs_I/AAAAAAAABvo/LMg5k9ZXwUY/s640/dmax.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">http://www.isuzu-society.com/</p><p><br /></p><p>Special Thanks;</p><p>1. Chaba Project Drag Racing - https://www.facebook.com/pages/Chaba-project-drag-racing-/155113454567576</p><p>2. พี่พล AlphaTech - https://www.facebook.com/profile.php?id=100001191128387&amp;fref=ts</p><p>3. Truck Test Diggest - http://www.trucktestdigest.com/</p><p>4. Discovery Channel/Mythbusters - http://www.discovery.com/tv-shows/mythbusters</p><p>5.Trucking Times - http://truckingtimes.com/articles/pickup-truck-tailgate-up-or-down-aerodynamics-tested</p><p><br /></p><p><span style="color: #FF0000">***ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ของเนื้อหาและภาพประกอบของบทความนี้</span></p><p><span style="color: #FF0000">***ดังนั้น ห้ามเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของบทความนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต</span></p><p><span style="color: #FF0000">***การนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เขียนอีกด้วยโดยเจตนา</span></p><p><br /></p><p>ที่มา: http://www.downforce-engineering.com/index.php/all-articles/81-aerodynamics-of-pickup-truck-part1[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X