D.I.Y ทำเองได้ ถ้าใจต้องการ

การสนทนาใน 'EG 3D Club' เริ่มโดย midori, 1 พฤศจิกายน 2005

< Previous Thread | Next Thread >
  1. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ท่อไอเสียบ้านๆ โดย พี่น๊อต B2

    [​IMG]

    [​IMG]
    ขั้นแรกก็ถอดท่อเก่าออกมาก่อน

    [​IMG]

    ค่อยๆทำทีละส่วนอันนี้ส่วนคอท่อ

    [​IMG]

    ส่วนที่งองอก็เตรียมไว้เพื่อเชื่อมต่อกัน

    [​IMG]

    ส่วนที่งอ เตรียมไว้ใช้

    [​IMG]

    หลังจากต่อแล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    วันนี้ทำท่อนหลัง

    [​IMG]

    เตรียมข้องอ

    [​IMG]

    เตรียมข้องอเสร็จ

    [​IMG]

    เตรียมท่อนตรงต่อ

    [​IMG]

    เชื่อมติดกันเป็นเส้นเดียว

    [​IMG]

    แล้วก็เอาไปต่อกับปลายท่อและหม้อพัก

    [​IMG]

    แล้วก็เอาขึ้นไปประกอบเป็นอันเสร็จสิ้น
     
  2. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    DIY เปลี่ยนไฟแผงควบคุมแอร์


    ขั้นตอนตามรูป

    1. ถอดแผงครอบออกก่อนเลย มีสกูร 2 ตัว

    [​IMG]

    2. ใช้ไขควงปากแบนถอด สวิทย์ emer. ออก ค่อยๆงัด แล้วดึงออกมา จะมี socket ก็ถอดสายไฟออกซะ

    [​IMG]

    3. จะเห็นสกูรอีกตัว ก็จัดการซะ ระวังหล่นนะ

    [​IMG]

    4. คราวนี้ก็ถอดแผงออก โดยดึงออกมาตรงๆเลย ออกแรงนิดนึง พอเริ่มออกมาแล้ว ระวังสายไฟนาฬิกาด้วย

    [​IMG]

    5. ปลด socket นาฬิกาออก

    [​IMG]

    6. เรียบร้อย step แรก ทีนี้ก็ลองดันแผงควบคุมออกดู

    [​IMG]

    7. จะเห็น socket เสียบอยู่ 3 อัน ขาว เขียว ดำ ล้วงมือไปปลดออก อันเนี่ยแหละ!!!!

    [​IMG]

    8. โอยยยยย....ออกแล้ว เล่นซะมือแหกเลยตรู

    [​IMG]

    9. ดูแนวโน้ว การงัดแงะก่อน...แหะๆ

    [​IMG]

    10. จะเห็นสายไฟสีแดง นั้นแหละขั่วหลอดถ้าดึงออกมาได้ก็เปลี่ยนหลอดได้เลยครับ

    [​IMG]

    11. สกูรตัวแรกที่ต้องเอาออก

    [​IMG]

    12. ถอดตามเลยครับ

    [​IMG]

    13. ตัวนี้ต้องบีดหมุนออก

    [​IMG]

    14. แล้วดึงออกมาได้เลย ระวังปุ่มสีดำ เล็กๆ หายหละ

    [​IMG]

    15. อีกอันก็ดันกิ๊ปออก แล้วดึงออกได้เลย

    [​IMG]

    [​IMG]

    16. ทีนี้ถอดหน้ากากออก จะมีกิ๊ปโดยรอบก็ค่อยๆดึงออก

    [​IMG]

    17. ค่อยๆดึงออกมา ยกตัวโยกออกจากรางด้วย จะได้ออกง่ายๆ

    [​IMG]

    18. เห็นแล้ว!!!!! หลอดเจ้าปัญหา ดึงออกมาเปลี่ยนซะ

    [​IMG]

    19. ผมใช้หลอดสีส้ม ครับ เป็นหลอด 1.4 w ครับ

    [​IMG]

    20. ใส่ซะ.... แล้วเดี๋ยวไปลองไฟก่อนประกอบ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาถอดใหม่

    [​IMG]

    21. ก็เสียบ socket สีเขียวตัวเดียวพอครับ ......เรียบร้อย สีสันสดใสแล้วกลับมาประกอบแล้วใส่ตามเดิม.....

    [​IMG]

    22. ไหนๆ ก็ถอด แล้วก็ถือโอกาส ล้างน้ำทำความสะอาดซะเลย อย่าลืมถอดนาฬิกาออกด้วย

    [​IMG]

    23. OH!!!!....MY GOD ......ส้มแจ่มจริงๆ เยยยยยยย

    [​IMG]

    [​IMG]


    ข้อมูลเพิ่มเติม

    *** จะมีน็อตอีก 2 ตัวตรงสองมุมล่าง ยึดแอร์เอาไว้ซึ่งต้องไขน็อตแบบกลับหลังหันอ่ะคับ
    ซึ่งต้องทำการถอดฟร้อนออกมาก่อนจึงจะไขได้พอผมถอดออกมาแล้วผมก็โยนทิ้งไปเลย
    ไม่ใส่เข้าไปอีกแล้วเพราะมันท ั้งถอดทั้งใส่ยากมากๆ ถ้ารถใครไม่เคยถอดกรอบแอร์ออกมาก่อน
    จะทำตามขั้นตอนของคุณ fobia ไม่ได้ทั้งหมดจะไปติดอีตรงน็อต 2 ตัวนี่แหละคับต้องระวังหน่อย
    เดี๋ยวเผลองัดจนแตก
    ตำแหน่งของน๊อตอีก 2 ตัวคับ (อีก 1 ตัวในรูปเป็นน็อตตัวกลางอันนี้ถอดง่ายครับ
    ถอดฟร้อนออกมาแล้วก้มไปดูก็จะเห็น) ***

    [​IMG]

    ปล. ขอบคุณ คุณ FOBIA และ คุณ tony จาก hondaluvclub และ คุณ jone500 ที่เอา Link มาให้ค่ะ
     
    แก้ไขล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  3. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    DIY ประตูท้ายเสียงดัง ง่ายนิดเดียว By ล่าซิ่ง

    แก้ไขง่ายนิดเดียว
    1. เอาไขขวงสี่แฉกไขน้อตออกมา
    2. ใช้หกเหลี่ยมคายจุดยึดประตูหลังออก(มี2ตัว)
    3. ขยับจุดยึดให้เลื่อนเข้าใกล้กระจกมากขึ้น
    4. ใช้หกเหลี่ยมไขยึดให้แน่น และประกอบกลับ
    เท่านี้หมดปัญหาประตูบานหลังมีเสียงดังเวลาวิ่ง เรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    แล้วก็ถ้าฝาท้ายดังก็ตรงนี้ครับ
    1. คายน้อตออก
    2. ขยับขาล๊อกใหม่(เลื่อนเข้าไปด้านในตัวรถ)
    3. ประกอบกลับเข้าที่ แค่นี้ก็เรียบร้อย

    [​IMG]
     
  4. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    DIY วิธีติดตั้ง ไฟซีนอน By ADD69

    ไปซื้อหลอด Xenon เป็นของ Toyota Camry ตัวหลอดเป็น Philips D2R ตรงขอบจะมีขนาดเส้นรอบวงใหญ่กว่าหลอดที่ใส่อยู่ปัจจุบัน ที่เป็นหลอด 702KRS โคมพลาสติก
    ตรง บัลหลาส ที่มีขั้วตัวผู้ 2 อันเอารูปให้ดูครับ ตำแหน่งที่ 1 ground ? และ 2 ไฟ ? และ เคยถามเชียงกง บอกว่าควรมี Relay ต้องติดอย่างไร ?

    [​IMG]

    [​IMG]

    วิธีแปลงตาม Link

    http://www.geocities.com/jvxdriver/d2_base_to_h3_conversion.htm
     
  5. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    เกร็ดความรู้เรื่อง การใส่ Console เต็ม By Ultra

    Q :
    1.น๊อตด้านบน 2 ตัวถ้าเราจะใส่นี่จะต้องรื้อวิทยุออกมาก่อนรึปล่าวครับผมพยายามจะไขกับ
    รูน้อตเดิมไม่ได้
    2.ระหว่าง console เต็มกับที่ครอบเกียร์เวลาประกอบเข้าด้วยกันมันจะมีแผ่นเหล็กวางรองไว้ก่อนหรือ
    ปล่าว???(ก่อนจะยึดน้อต 4 ตัวกับฐานที่วางแก้วเดิม)พอดีของที่ได้มามันกันยึดกันตรงๆเลย เคยคุ้นๆเห็น
    ในคู่มือว่ามันต้องมีด้วย ของเพื่อนๆเป็นยังไง อยากได้ครบๆ ถ้ามีจะได้ไปถามคนขาย

    A :
    1. น๊อตด้านบน 2 ตัว เวลาใส่ไม่ต้องรื้อวิทยุคับ แต่จะต้องมีแผ่นเหล็ก แบน ๆ แบบในรูปด้านล่างด้วยนะคับถึงจะยึดได้

    2. ต้องมีแผ่นเหล็กรองที่ที่ครอบเกียร์ด้วยคับ เพื่อความแข็งแรง ยึดกับพลาสติกเลย ใส่ไปนาน ๆ อาจ
    เกลียวหวาน หรือ แตกได้

    [​IMG]
     
    แก้ไขล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  6. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    วิธีเช็คว่า ถังน้ำมันเราได้ต่อไฟเตือนไว้ By ADD69

    เปิดดู ที่ฝาถังน้ำมันด้านหลัง (ใต้เบาะ) ต้องถอดเบาะออกมาก่อนนะครับ จะมีสายไฟวิ่งไป 2 ชุด ชุดที่เป็น
    3P (3สาย) มี สีดำขาว , เหลืองขาว , เขียวแดง ต้องถอดฝาครอบ มีน๊อตเกลียว 4 ตัว ระวังเรื่องไฟ ด้วย
    นะครับ เพราะเป็นฝาถังน้ำมัน

    ต้องการรู้ว่า Low Level จะมีไฟเตือนหรือไม่
    1. ตรวจสอบว่า 3 P มีสายทั้งหมด 3 เส้นหรือไม่
    2. ถ้ามีสายครบ ถอด(ดึง) ตัว ปั๊ก 3 P ออกมา ต่อ ระหว่าง ซ้าย กับ ขวา (ตรงกลางไม่ต้องนะครับ)
    ด้วยลวดเล็ก หรืออะไรก็ได้ครับที่นำไฟได้
    3. เปิด switch กุญแจรถ จะมีไฟขึ้นเตือน Low Level นะครับ

    กรณีไม่ขึ้น 1 เนื่องจากสายเขียวแดงขาด 2. สายสีดำเป็นสายกราวน์ไม่ได้ลงกราวน์จริง 3. หลอดที่ไมล์
    ขาด สายที่เขียวแดงเป็นไฟ ที่วิ่งไปหลอดเตือนตรงไมล์ ส่วนต้องการข้อมูลมากกว่านี้ ดูที่ manual
    civic หน้า 16-33 (Fuel Gauge)

    ถ้าพบว่ามี 2 เส้น สายเขียวแดง ไม่มี ตรวจสอบสายที่ลากเข้ามา มีหรือไม่ ต้องเป็นเส้นเล็ก ทั่วไปนะครับ
    เส้นใหญ่เป็นไฟหรี่ (เขียวอ่อน แดง เส้นจะใหญ่มากสำหรับไฟหรี่) ถ้าไม่มี ถอดไมล์ ต่อสายจาก ต่อสาย
    จากไมล์ ข้างเส้นไฟเตือน Engine (เขียว ส้ม) จะเป็นสาย เขียวแดง ไปเสียบกับ 3 P สายสี ดำ ขาว ถ้าไฟ
    ติด ก็ลากสายใหม่ได้เลยครับ ...

    เอา Manual มาให้ดูครับ ... ไม่ยากครับ ข้อ 1-4 เป็นการตรวจ ระบบลูกลอยในถัง เรายังไม่ต้องทำก็ได้
    มาทำในส่วนตรวจสอบสายไฟก่อน ในส่วน IF....ถ้าไฟไม่ติด ให้ถอดปั๊ก 3 P ออก แล้วต่อ A กับ C เข้า
    ด้วยกัน เปิด Switch กุญแจ ดูที่ไฟน้ำมันติดหรือไม่ ถ้าไม่ติด เป็นที่สายไฟ หรือ หลอดขาด แต่ถ้าไฟติด
    เป็นที่ระบบลูกลอย...ต้องเปลี่ยนใหม่

    [​IMG]
     
    แก้ไขล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  7. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    แนวทางในการติดแก๊ส 3 ประตู By lek2522

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  8. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    เกร็ดความรู้เกี่ยวกับติดตั้งระบบแก๊ส ในรถ 3D เครื่องเดิม คาร์บู
    By maykrub


    Q :
    ผมไปอ่านในเวปแก๊สไทย เห็นเครื่องคาร์บูส่วนใหญ่จะใช้แก๊สสตาร์ทเลย ไม่ต้องไปสตาร์ทน้ำมัน แล้วต้องเสียเวลาไล่น้ำมันทิ้ง (คือปรับสวิทช์ไปค้างที่แก๊สเลย)
    ทั้งสตาร์ททั้งใช้ที่แก๊สเลย ไม่ปรับสวิทช์ไปที่ตรงกลาง(พัก) หรือน้ำมันเลยเว้นแต่ตอนที่จะพักเครื่องใช้น้ำมัน (ซึ่งแต่ละท่านระยะเวลาต่างกัน บางคน 1 บางคน 2 อาทิตย์)
    --------------------------------------------------------------------------------
    ทีนี้ไม่ทราบว่าเวลาสตาร์ทรถ ท่านใช้แก๊สหรือน้ำมันสตาร์ท
    รถผมสตาร์ทแก๊สไม่ค่อยจะติดเลย ทั้งๆที่ในเวปแก๊สไทยส่วนใหญ่บอก สตาร์ทชึ่งเดียวติดของผมสตาร์ทตั้ง 5-6 ครั้งกว่าจะติด ไม่ทราบว่าผมต้องไปเปลี่ยนส่วนใดของรถ (เช่นหัวเทียน) รึป่าวครับหรือท่านใดมีเทคนิคดีๆ จะแนะนำ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
    A :
    พูดให้ฟังเป็นภาพรวมนะครับจากมุมมองของผมซึ่งวิศวกรเครื่องกลคนหนึ่งและผ่านหลักสูตรsafety engineerมาแล้วฉะนั้นมุมมองก็จะมองทั้งประหยัดประสิทธิภาพและความปลอดภัย
    ผมติดแกสมาตั้งแต่มิย.ปีก่อน ถึงตอนนี้เลยจุดคุ้มทุนไปเท่าตัวแล้ว
    การใช้งาน -ตอนเช้าจะติดเครื่องด้วยน้ำมัน ขับรถไปราวๆครึ่งกิโลก็จะเปลี่ยนไปแกส แล้วก็จะใช้แกสไปทั้งวันทั้งดับเครื่องและติดเครื่อง
    -จนกลับบ้าน ก่อนเข้าบ้านราวๆครึ่งกิโลผมก็จะเปลี่ยนกลับมาน้ำมัน แล้วก็ดับเครื่องด้วยน้ำมัน
    เหตุผล -ที่ดับด้วยน้ำมัน เพราะจะได้มีน้ำมันค้างอยู่ในท่อทางน้ำมันตลอดคืน สายน้ำมันจะได้ชุ่มไม่แห้งกรอบ เพราะถ้าเราไม่ใช้น้ำมันนานๆท่อทางน้ำมันจะแห้งกรอบซึ่งจะนำไปสู่อันตรายได้
    -ที่ติดเครื่องด้วยน้ำมันเพราะต้องการเอาความร้อน(อุ่น)จากน้ำในหม้อน้ำไปอุ่นแกสในหม้อต้มแกส ทำให้แกสสามารถมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีตั้งแต่เริ่มต้น

    ในการทำแต่ละอย่างจะคิดอยู่เสมอว่า ทำอะไรเพื่ออะไร เค้ามีหลักการหรือเหตุผลอะไรมาสนับสนุนหรือเปล่า ที่ใครๆเค้าทำกันอะไรน่าทำตามอะไรน่าที่จะต้องไปเตือนเค้า ช่างแต่ละคนจะถนัดในรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ สิ่งที่ดีจากรถบางคันอาจไม่เหมาะกับรถบางคันได้ ขอให้เลือกมาใช้อย่างมีหลักการและเหตุผล
    พยายามอย่ามองเป็นจุดๆ ถอยออกมาห่างอีกนิดนึงแล้วให้มองทั้งระบบ เช่นทำอย่างนี้เพื่ออย่างนั้นแล้วมันจะเกี่ยวกะอย่างโน้นหรือเปล่า..อะไรประมาณนี้

    [​IMG]

    Q :
    ของท่านเครื่องคาร์บูหรือหัวฉีดครับถ้าหัวฉีดไม่มีปัญหาในการสลับแน่นอนแต่ของ จขกท.เป็นเครื่องคาร์บู และยังไม่ชำนาญการสลับในระหว่างขับ (เตรื่องอาจจจะดับได้ และกระตุกแน่นอน)เครื่องคาร์บู จะสลับน้ำมันมาแก๊ส หรือแก๊สมาน้ำมัน(ระหว่างรถวิ่ง)ต้องใช้ความชำนาญส่วนบุคคลถ้ามาสลับแบบที่คุณพูดนี่ สงสัยเข้าขั้นเซียนรบกวนช่วยแนะนำเทคนิคหน่อยครับ
    A :
    เครื่องผมก็คาร์บิวธรรมดาครับ การสลับไม่ยากหรอกครับ ใช้รถครั้งสองครั้งก้คงปรับนิสัยเข้าหากันได้แล้วระหว่างรถกับคน ไม่ต้องถึงขนาดเป็นเซียนอะไรหรอกครับ แค่เรารู้ธรรมชาติของมันเรียนรู้ที่จะปรับนิสัยเข้าหากันและกันแล้วเปลี่ยนระบบให้รับช่วงกันพอดี ก็ไม่น่าจะยากอะไร การสะดุดหรืออาจจะดับก้เกิดขึ้นได้ ถ้าไม่เคยขับมาก่อนเลย แต่เมื่อใช้มาเปิดวันสองวัน ก็ไม่น่ามีปัญหาไรครับ
    เทคนิคก็คือการเปลี่ยนจากน้ำมันมาแกส ก้จะต้องเอาสวิทมาตรงกลางก่อนเพื่อที่จะเคลียน้ำมันในท่อทางให้หมด ซึ่งคนขับรถติดแกสก้คงรู้มาแล้ว ซึ่งการเคลียตรงนี้จะใช่ระยะทางราว5-600เมตร น้ำมันที่ค้างอยู่ในท่อทางถึงจะหมด นั่นก็คือต้องเป็นระยะทางที่สามารถขับทางตรงได้ที่รอบไม่ต่ำกว่า2000ในช่วงระยะทางนั้น ถ้าขับได้รอบสูงกว่านั้นได้ก็จะเคลียได้เร็วขึ้น แต่หากว่าไม่มีโอกาศที่จะขับแบบนั้นได้ก็ต้องรอไปก่อน จนกว่าโอกาศจะอำนวย แต่ถ้ามันดับเพราะเปลี่ยนที่รอบต่ำๆก็ต้องสตาร์ทใหม่อยู่ดี ถ้ารู้นิสัยกันเราก้สามารถแพลนที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ครับ
    แต่มีอีกวิธีนึงที่ง่ายกว่ามากก็คือพอตอนเช้าสตาร์เครื่องด้วยน้ำมันแล้วเปลี่ยนสวิทมาตำแหน่งกลางเลยโดยยังจอดอุ่นเครื่องอยู่แล้วรอจนน้ำมันในท่อทางหมด แน่นอนรอบตอนอุ่นเครื่องก็ประมาณ6-700 มันก้ต้องดับเมื่อน้ำมันที่ค้างในท่อทางหมด จากนั้นก็สตาร์ทใหม่ด้วยแกสเลย แล้วขับออกจากบ้านไปเลยครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติม By Kongka

    ไปที่ www.gasthai.com ไปหาอ.แอ้ม ที่อาศรมหูกวาง
    ตอนนี้เขารับแก้ไขให้ฟรี แต่ต้องลงมือทำเอง เขาจะคอยสอนให้
    รถผมให้พี่เขาจูนมา เนียนมาก ผมไปติดแล้มด้า ตัวควยคุมการจ่ายแก๊ส
    ที่อาศรมหูกวางมา ประหยัดไปเยอะ เติมเต็มถัง 48 ลิตร
    วิ่งได้380-400โลในเมืองรถติดมั่ง
    พี่เขาเป็นประธานชมรม ไทยออโต้แก๊ส ใจดี พูดตรง เก่ง
    (อาศรมหูกวาง ซ.พาณิชสุโขทัย แอ้ม LPG 013468251)
     
  9. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    แผนที่ปั๊มแก๊สในประเทศไทยทั้ง NGV และ LPG By Mye

    เอามาฝากสำหรับสมาชิกที่ติดแก๊ส เผื่อใครจะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงปีใหม่นี้ค่ะ ตาม link เลยค่ะ

    NGV

    http://www.doeb.go.th/ngv/station/station.htm
    http://www.pttplc.com/th/ptt_core.as...ga_ng_02_04_01

    สถานีบริการก๊าซ NGV ที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคต จำนวน 56 แห่ง

    http://www.pttplc.com/th/ptt_core.as...ga_ng_02_04_02

    รายชื่อผู้ประกอบการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ NGV

    http://www.pttplc.com/th/ptt_core.as...fu_ga_ng_02_05

    LPG

    http://www.weekendhobby.com/gas/gasboard/weblist.asp

    อันนี้รวมปั๊มแก๊สทั่วประเทศ

    http://www.gasthai.com/station/sum.asp

    อันล่างให้ download เป็น file excel ค่า

    http://www.gasthai.com/station/download.asp

    ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Vitara4x4 และ Lancer Club ค่ะ
     
  10. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    DIY วิธีติดเข็มขัดนิรภัยหลัง By Drift-ActioN

    ใส่เองก็ได้นะครับ แกะแบคกาไลท์ และแผงตรงที่จะใส่เบลล์หลังออก ตรงด้านบนที่จะใส่เบลล์มันจะมีรูยึดน๊อตพอดีเลย หาน๊อตตัวผู้กับตัวเมียมาใส่ได้เลยครับ (แต่ตอนพยามหน่อยต้องเอามือล้วงใส่น๊อตตัวเมียด้านหลัง พยามนิดนึงไม่ยาก) ส่วนด้านล่างนั้นหาน๊อตตัวผู้และตัวเมียหัวใหญ่ๆหน่อยครับ เพราะว่าด้านล่างจะไม่มีรูให้ร้อยน๊อตครับ ถ้าหัวน๊อตใหญ่ไม่พอ หาแหวนใหญ่ๆมารองตรงหัวน๊อตทั้งตัวผู้และตัวเมียเอาครับ พูดแล้วอาจจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวเอาไว้ช่วงค่ำๆจะเอารูปมาให้ดูครับ แต่ถ้าเป็นบอดี้ของญี่ปุ่นมีรูร้อยให้พร้อมเลย หาแค่น๊อตตัวผู้ขันอย่างเดียวจบเลยครับ

    เอาเบลล์หลังใส่ตามรูปที่มาร์คสีไว้ครับ ด้านบนตรงมาร์คสีแดงก้อเอาใส่ตรงรูตามรูปบนสุดที่มาร์คสีแดงไว้ แล้วหาน๊อตตัวเมียเบอร์เดียวกันมาแล้วเอามือล้วงไปด้านหลังแล้วขันน๊อตให้แน่นคับ ส่วนที่มาร์คสีน้ำเงินไว้ก็ตามที่มาร์คไว้ตามรูปสีน้ำเงินครับหาน๊อตตัวเมียเบอร์เดียวกันขันเข้าไปให้แน่นครับ ส่วนด้านล่างที่มาร์คสีเหลืองไว้ตามรูปด้านบนสุดจะไม่มีรูไว้ให้ยึด เราเลยต้องหาน๊อตตัวผู้กับตัวเมียมาแล้วหาแหวนใหญ่ๆรองให้หัวน๊อตตัวผู้หนีบเผื่อยึดให้ตัวเบลล์กับบอดี้ให้มันอยู่แล้วขันให้แน่เลยครับ ผมว่าวิธีที่ผมทำนี้ถือว่าใช้งานได้ในระดับนึงเลยครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ค่อยมีใครใช้เบลล์หลังกันหรอกครับ ติดไว้ให้มันครบและเพื่อความสวยงาม อันนี้อาจจะเป็นไกด์ในการติดตั้งเบลล์หลังของ civic 3 door นะครับ หรือใครมีวิธีที่ดีกว่าดีก้อแนะนำเพิ่มเติมได้ครับ เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านจะได้ความรู้ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  11. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ข้อดีหรือข้อเสียของ ตัวปรับ VTEC Controller By B2

    ข้อดี : ก็ทำให้ เทคเปิดตามรอบที่ต้องการครับ อย่างเวลาวิ่งไกลๆ ยาวๆความเร็วคงที่ ก็ปรับให้มันเปิดรอบสูงๆ จะได้เซปน้ำมันได้อีกนิด ส่วนเวลาซัดๆก็ปรับให้มันเปิดเร็วขึ้นอีกหน่อย

    ข้อเสีย : ก็คือ ถ้าเทคเปิดด้วย เทคคอนโทล น้ำมันจะไม่จ่ายเพิ่มนะครับ จนถึงรอบที่กล่องต้องเปิดเทคจริงๆน้ำมันถึงจะมาปกติน่ะครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติม By broom

    มันแล้วแต่รุ่น แต่ละยี่ห้อด้วยครับ อย่างของ field , apexi นี่จะปรับน้ำมันได้ด้วย ถ้าของ spoon จะเปลี่ยนแค่จุดเทคเปิดเฉยๆ
     
  12. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ความรู้เรื่องอุปกรณ์เสริม ... Ground wire .... By ดามัน

    Ground wire สำคัญฉะไหนทำมั๊ยถึงต้องทำ
    1.ถ้าท่านเห็นไฟหน้าจอไมล์ของท่านวูบบ่อยในเวลาที่คอมฯแอร์ Start
    2.ถ้าในกรณีที่ติดเครื่องเสียงมาแล้วทำให้กระแสไฟฟ้าในรถรู้สึกตก
    3.เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ
    4.ไฟหน้ารถเดียวสว่างเดียวไม่สว่าง
    5.ต้องการเพิ่มแรงมานิดหน่อย ในกรณีนี้ต้องบอกว่าไม่ได้มากมายอะไร
    6.เสริมอุปกรณ์ลูกเล่นให้กับรถ
    7.อื่นๆ
    เหตุผลเหล่านี้น่าพอที่ท่านจะทำ Ground wire ให้กับรถท่านได้หรือยัง

    จุดสำคัญที่ต้องลง Ground Wire ที่ดีมี 6 จุดครับ ข้อมูลนี้ได้จาก website ต่างประเทศ (ผมไม่ค่อยเก่งคำศัพท์ทางเครื่องยนต์นะครับ ถ้าผิดพลาดไปต้องขออภัย)
    1. ท่อไอดี (Intake Manifold)
    2. ตัวถังเครื่องยนต์ (Engine Block)
    3. ระบบไฟหน้าทั้งหมด (Head Lamp)
    4. ฝาวาล์ว (Cylinder Head)
    5. ไดชาร์จ (Altenator)
    6. เกียร์ (Transmission)

    ลักษณะวัสดุ
    1. ชิ้นงานเป็นอลูมิเนียมเกรดสูงครับ เนื้อเหนียวแน่น น้ำหนักเบา
    2. มีค่าการนำไฟฟ้าได้ดีเหมาะสำหรับทำจุดรวม Ground
    3. จะมีช่องทั้งหมด 5 ช่องด้วยกันครับ แต่ใช้ได้ 6 จุด

    DIY วิธีการทำ Ground Wire

    อุปกรณ์

    1.ใช้สายไฟpower amp เครื่องเสียงรถยนต์ขนาด 8 mm.สีแดง ใส้เป็นทองแดง ซื้อที่ร้านห้องแถวใกล้ตึกใหม่คลองถมเซ็นเตอร์ ตกเมตรละ35 บาทผมซื้อ35เมตร เค้าลดให้ เหลือ30/เมตร ไม่แนะนําร้านที่ใต้ตึกคลองถมเซ็นเตอร์ที่มีสายไฟหลายขนาดให้เลือกเป็นม้วนๆขายแพงมากครับแบบเดียวกันเลย เมตรละ 80 บาท
    2.ท่อหด
    3.คีมปลอกสายไฟ ที่พวกช่างไฟใช้กัน
    4.หางปลาอลูมิเนียมหรือทองแดงก็ได้
    5.ตะกั่วบัดกรี หัวแร้งบัดกรี
    6.เหล็กรู (ซื้อตามร้าน ฮาด แวทั่วไปก็มีครับ)
    7.น็อต M6*1.0 ยาวประมาณ 15mm.+ตัวเมียด้วย+แหวนรอง

    [​IMG]

    โดยผมเดินสายไฟที่
    1.ฝาวาล์ว

    [​IMG]

    2.ตัวเรือนหรือฐานจานจ่าย

    [​IMG]

    3.เสื้อไดชาร์ต ผมคลายน็อตเสื้อไดออกมาตัวนึงแล้วก็ร้อยใส่เข้าไปขันให้แน่น

    [​IMG]

    4.เสื้อคอมเพรสเซอร์ ที่เสื้อคอมตัวนี้มีรูช่องไว้ให้ยึดขาคอมผมเลยเอาน็อตหัวหกเหลี่ยม ตัวใหย๋ๆขนาดประแจเบอร์14ใส่เข้าไปพร้อมตัวเมีย ภาพอาจจะมืดไปซักนิด ขออภัยครับ

    [​IMG]

    5.ตัวเครื่อง พอดีมีรูน็อต M6*1.0 เหลืออยู่(สงสัยฝรั่งลืมใส่มา) ก็เลยเอาน็อตหัวหกเหลี่ยมเบอร์10มาใส่

    [​IMG]

    6.เสื้อเกียร์ auto
    งมหารูน็อตอยู่ตั้งนาน หวังว่าฝร่งคงจะลืมให้ใส่อีก ยังหาไม่เจอ พอหาผ้ามาเช็นฝุ่นออกก็เจอพอดี 1รู พอเดินสายเสร็จลองสํารวจดูบริเวณเสื้อเกียร์ ก็จ๊ะเอ๋!!!!! สายกราวสีดําขนาด 12mm. โอใหญ่โค ตรต่ออยู่ที่เสื้อเกียร์ลงที่ขั้วแบ็ตโดยตรงเลย(ฝรั่งแถมมาให้) แล้วตูจะเดินอีกทําไมวะเนี่ย แล้วทําไมตอนแรกมองไม่เห็นวะ

    [​IMG]

    7.หัวฉีด ตอนแรกก้มมองอยู่นานหาเท่าไรก็ไม่เจอรูน้อต ขอแค่รูเล็กๆก็ยังดี ว่าจะไม่ต่อแล้ว เหลือบไปเห็นหัวน็อตบนหัวกระโหลกไอดี เออฝากไว้กับน็อตก็ได้นิ เพราะน็อตตัวนี้ยาวพอสมควร(เกือบคืบ)

    [​IMG]

    8.ตัวเรือน หรือฐานจานจ่าย (ไม่มีรูปเพราะอยู่ใต้กระจกหน้า)ขี้เกียจแกะออกมาครับ
    โดยที่ทุกจุดเดินมา ที่จุดนัดหมาย ก็คือที่ขั้วลบของแบ็ตเตอรี่รถยนต์

    [​IMG]

    สรุป

    โดยอย่างที่บอกไว้ตอนแรกแล้วว่ารถที่ผมเดินกราวมี3คัน
    1.vw vento
    2.toyota TT133 ลงเครื่อง 4A FE
    3.civic 3d 94 auto
    ในคันที่1.vw vento นั้นเจ้าของคือผมเองการขับขี่รู้สึกว่าจะลื่นขึ้นมันไหลๆนะพอใจครับ
    ในคันที่2.toyota TT133 ลงเครื่อง 4A FE รถสํารอง จ่ายกับข้าว ไม่ค่อยได้ขับกันซักเท่าไร สิ่งที่เห็นเลยคือพัดลมแอร์เบอร์3แรงสุด จากที่เมื่อก่อน ถ้าหมุนไปที่เบอร์3เครื่องยนต์จะสั่นพับๆๆๆ พัดลมกลับเบากว่าเบอร์2เป่าเหมือนไม่มีแรง แต่หลังจากเดินกราวแล้วพัดลมเบอร์3กลับใช้ได้ปกติ ลมแรง รถก็ไม่สั่นอีก ก็OK ครับ
    ในคันที่3.civic 3d 94 auto ได้เรื่องเลย ไม่ได้ลองรถ ภรรยาใช้ เดินกราวเสร็จก็ดึกพอดี เข้านอน เช้ามาภรรยาก็ใช้ขับไปทํางานตามปรกติ ตอนกลางวันโทรมาหาผม ถามว่าเมื่อวานทําอะไรกับรถเหรอ ผมก็ถามกลับไปว่า ทําไม มีอะไรผิดปกติ ภรยาบอก ขับรถรู้สึกมันลื่นขึ้นเวลาคิกดาว เสียงเครื่องเงียบลงไม่เหมือนเดิม เกียร์เปลี่ยนนิ่มขึ้น มันบอกไม้ถูกอะมันสมู๊ดขึ้น ดีจังขับแล้วรู้สึกสนุกดี
    ผมว่าที่เกียร์civic คันนี้ มันนิ่มขึ้นเนื่องจากสายกราวที่เกียร์ของเดิมมันต่อจากเสื้อเกียร์ลงที่ตัวถังรถเลย(ไม่ได้ลงที่ขัวลบแบ็ต)ผมก็เลยทําสายต่อจากสายกราวเดิมที่มันลงที่ตัวถังไปลงที่แบ็ตเลย เลยทําให้ไฟของเกียร์มันสมบูรณ์ขึ้น แนะนําเพื่อนๆทุกท่านลองไปมุดที่ห้องเครื่องตรงเสื้อเกียร์(AUTO นะ)ถ้าสายกราวเกียร์รถใครต่อลงตัวถัง ก็ไปหาสายไฟเส้นใหญ่ๆมาต่อพ่วงเข้าขัวลบแบ็ต ผมว่าต้องมีผลในทางที่ดีไม่มากก็น้อย ลองทําดูกันนะครับ สวัสดีครับ
    หนูทําด้ายยยยยยย

    [​IMG]

    ขอขอบคุณข้อมูล DIY วิธีการทำ Ground Wire จาก คุณ zanny จาก Pantip และ ข้อมูลจาก คุณ AltisClub จาก Altis-Club ค่ะ
     
  13. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ความรู้เรื่องอุปกรณ์เสริม ......ค้ำโช้ค...... By ดามัน

    ประโยชน์ของค้ำโช้ค นอกเหนือจากความสวยงามยังช่วย
    1. ด้านความปลอดภัย - เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ หน้าไม่ส่าย ไม่ดิ้นโค้ง
    2. ลดแรงกระแทก - เมื่อล้อรถข้างใดข้างหนึ่งตกหลุม ค้ำโชคช่วยกระจายแรงกระแทกไปที่โชคอัพอีกด้านหนึ่งช่วยยืดอายุโช๊คอัพไม่ให้เสียหายก่อนอายุ
    3. เพิ่มความมั่นใจ - ช่วยให้คุณขับรถด้วยความเร็วได้อย่างมั่นใจ

    พอดีได้เจอความรู้เกี่ยวกับค้ำโช้คจากเวปอื่น (ยังไงต้องขอบคุณเจ้าของข้อมูลนี้ด้วยครับ) เลยเอามาฝากกันครับ

    ส่วนใหญ่ ค้ำโช้ค หรือ ค้ำสารพัดต่าง ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี นั้น คุณรู้ไหมว่า "ค้ำ" ตัวที่สำคัญที่สุดคือ "ค้ำโช้คหน้า" ลองนึกภาพตามนะครับ คือเมื่อเรายกเครื่องยนต์ออกมา เราจะมองเห็นห้องเครื่องเป็นช่องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีอะไรเลย ซึ่งตรงจุดนี้แหละเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุดของตัวถังรถ โดยเฉพาะด้านบน เพราะไม่มีอะไรค้ำเลย ซึ่งต่างจากด้านล่างเยอะ (เพราะด้านล่างมันยังชิ้นส่วนรถ เช่น คานล่าง มาเป็นตัวช่วยค้ำอยู่แล้ว

    ผลลัพธ์ของการใส่ค้ำโช้คคือ "มันจะช่วยดามตัวถังจุดนั้น" ดังนั้นค้ำตรงไหนที่เกี่ยวกับมุมล้อมันก็จะแข็งที่จุดนั้น เมื่อขณะเราขับรถเข้าโค้งตัวถังมันจะเอนรับโค้งด้วย ( จุดนี้เป็นข้อดีของ ตัวถังแบบ MONO COCQUE ) แต่เมื่อเราค้ำตัวถังไว้หลายจุด ตัวถังมันก็จะแข็งขึ้น เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้น และอีกอย่างหนึ่งคือเพื่อไม่ให้มีตัวแปรในการเซ็ทช่วงล่าง เพราะเมื่อรถเคลื่อนที่มุมล้อจะเปลี่ยนแปลงได้ตามการบิดตัวของตัวถัง

    รถที่นำมาทำเป็น "รถดริฟท์" ส่วนใหญ่จะเน้นใส่ค้ำกันทุกจุด เพื่อให้ตัวถังมันแข็งแบบถื่อๆ จะได้ไม่รับกับโค้ง คือตั้งใจไว้ว่าจะให้รถเกิดอาการ "OVER STEER" ในการเข้าโค้งนั่นเอง ซึ่งรถที่ใช้แข่งเซอร์กิตหรือรถทุกประเภทก็เช่นกัน ต้องเซ็ท "OVER STEER" เพราะถ้า "UNDER STEER" จะเลี้ยวเข้าโค้งไม่ได้ "หน้าแถ" ดังนั้นรถเซอร์กิตจะเน้นถึง "GRIP" มากที่สุด

    การเซ็ทรถสำหรับแข่งขันเซอร์กิต มันต้องตรวจสอบ การกระจายความสมดุลหน้าและหลัง เพื่อไม่ให้รถมันแข็งทั้งคัน แต่ถ้าเราทำให้ตัวถังแข็งแล้ว เราก็ต้องทำช่วงล่างให้อ่อนลงระดับหนึ่งเพื่อเฉลี่ยแรง เพราะว่าขณะที่รถวิ่ง ตัวถังจะขยับเขยื้อนตามด้วย มันทำหน้าที่เปรียบเสมือนระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนในตัวด้วย
     
  14. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ความรู้เรื่องอุปกรณ์เสริม ......Roll bar ..... By ดามัน

    อันนี้ เรื่อง Roll bar สาระดีมากๆ คนที่คิดจะติดน่าอ่านเอาไว้บ้างน๊ะ เราเห็นว่ามีประโยชน์ดีมาก
    เลยเอามาเผื่อแผ่ นิดๆหน่อยๆ

    PART I

    ถ้าเป็นแบบเชื่อมตาย จะดีที่สุดเพราะสามารถรับแรงและกระจ่ายแรงต่างๆที่เกิดขึ้นได้
    ทั้งนี้ต้องอยู่ที่รูปแบบการไข้วและจุดต่อต่างๆด้วย ดูได้จากรถแรลลี่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นแบบเชื่อมตายและมีหลายจุดมาก
    แต่ข้อเสียของแบบเชื่อตายก็คือจะยึดติดกับบอดี้ ของตัวรถไปเลย และการเชื่อข้อต่อนั้นจะมีสะเก็ดไฟจากการเชื่อม ซึ่งหากไม่ได้ ทำการรื้อ ภายในรถยนต์ ก็จะทำให้การสร้าง roll bar แบบยึดตายนั้นกระทำโดยได้ยาก และไหนจะเรื่องของสีโรลบาร์อีก จึงได้มีการออกแบบ roll bar แบบถอดได้ เพื่อมาใช้อีกรูปแบบนึง ซึ่งการใช้โรลบาร์แบบข้อต่อ นั้นสะดวกตรงที่สามารถถอดออกได้
    roll bar แบบข้อต่อถ้าให้ตัว หรือ สามรถเคลื่อนได้ เมื่อเกิดแรงกด คงไม่ถือว่าสามารถใช้งานได้ดี
    นึกง่ายๆ ใส่ค้ำโช้คหน้า แต่สามารถให้ตัวหรือเคลื่อนได้ จะใส่ไปเพื่ออะไรในเมื่อมันเคลื่นได้ ก็เท่ากับว่ามันไม่ได้ค้ำอยู่ ฉะนั้นหากเกิด แรงปะทะ จากการใช้งานจริงๆ ความสามารถในการรับแรง ก็คงจะไม่สามารถใช้งานได้ 100%
    วิธีการแก้ไขนั้นก็คือ ย้ายตำแหน่ง การเชื่อม จุดตรงข้อต่อ ให้เชื่อมไปในทิศทางที่ไม่ตรงกำลังแรงกด ซึ่งจะทำให้เคลื่อนที่ได้
    เพราะอย่างน้อยนั้น roll bar หรือ roll gage นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ สามารถ ช่วยชีวิตได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
    ต้องอยู่ที่อุปกรณ์ safety อื่นๆอีกด้วย นั้นหมายถึงต้องมี การหุ้มตัว roll bar ด้วยวัสดุซับแรง
    หรือสวมหมวกนิรภัย ( หมวกกันน๊อค ) เพื่อกันศรีษะกระแทกกับ roll bar อีกด้วย
    การทำ roll bar ถ้าต้องการทำเพื่อความสวยงาม นั้นจะทำในรูปแบบไหนก็ได้
    แต่ผู้ที่ทำ roll bar นั้นควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้อยู่บ้าง และสามารถให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ที่จะทำได้ อย่างถูกหลักและถูกต้อง

    ขอขอบคุณข้อมูล จาก คนช่างคิด เช่นกัน

    PART II

    ในทางโครงสร้างที่เป็นท่อหรือคานเพื่อที่จะรับแรงโดยที่น้ำหนักน้อยที่สุดก็มักจะทำการต่อท่อให้อยู่ในรูปแบบของ Tetrahedron (สามเหลี่ยมสี่หน้า)ต่อกันไปเรื่อยๆตามแต่จะต้องการ ซึ่งหมายความง่ายๆว่าจุดเชื่อมต่างๆของท่อจะมารวมกันที่จุดๆเดียว ซึ่งควรจะมีตั้งแต่สามท่อขึ้นไปและไม่เอาปลายท่อใดไปอยู่ตรงส่วนกลางของท่ออื่นๆ เพื่อที่ว่าโครงสร้างนั้นจะรับแรงดึงและแรงอัดเป็นหลัก (เป็น Space Thrust)
    รูปแบบการใช้น๊อตเป็นตัวยึดนั้นทำให้ข้อต่อต่างๆรับแรงบิดไม่ได้ (รับ Moment ไม่ได้เพราะเป็น Ball-Joint หรือ Pin-Joint) ซึ่งรูปแบบนี้อาจจะโอเคถ้าสามารถต่อกันจนเป็นสามเหลี่ยมสี่หน้าที่สมบูรณ์ได้ แต่ในความเป็นจริงมันทำไม่ได้เพราะโครงสร้างหลักของรถมันจำกัดเอาไว้ ดังนั้นรูปแบบที่เหมาะกว่าจึงเป็นรูปแบบการเชื่อมท่อต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อที่ข้อต่อเหล่านั้นจะได้รับแรงบิดได้ด้วย
    จากรูปที่นำมาให้ดูเป็นข้อต่อแบบ Pin-Joint Bracket ซึ่งรับแรงบิดไม่ได้ รับได้แค่แรงดึงและแรงอัด(ซึ่งมักถูกกำหนดโดยชิ้นส่วนที่แข็งแรงน้อยที่สุด คือ น๊อตตัวผู้ที่รับแรงเฉือน) ความแข็งแรงก็เป็นรองพวกที่ใช้เชื่อม แต่ถ้าเป็นข้อต่อแบบ Saddle Bracket ก็จะรับแรงบิดที่ข้อต่อได้บ้าง (เพราะทั้ง Saddle และ น๊อตตัวผู้รับแรงบิดไป) แต่โดยมาก Roll Bar ในไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีแบบไหนเป็นแบบ Saddle Bracket มักจะเป็นแบบ Pin-Joint Bracket กันหมดอาจจะเป็นเพราะทำง่ายกว่า และยิ่งใช้ในรถบ้านด้วยแล้วเรื่อง Roll Bar แบบข้อต่อเชื่อมคงแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากว่าจะเป็นแบบครึ่งคันซึ่งมาเชื่อมนอกรถแล้วเอาไปยึดน๊อตลงพื้นรถทีหลัง
    โดยสรุปแบบสั้นๆที่สุด พวกที่ใช้น๊อตจะไม่แข็งแรงเท่าแบบเชื่อม(เพราะข้อต่อรับแรงบิดไม่ได้ นอกจากแบบ Saddle Bracket)
    ส่วนที่ว่าเปลี่ยนมุมการยึดนั้น ผมไม่คิดว่ามันจะช่วยได้ เพราะว่าเราไม่ทราบได้เลยว่าที่จุดยึดนั้น มีแรงบิดแบบไหนเกิดขึ้นบ้าง หรือว่าแรงบิดรอบแกนนึงมากหรือน้อยกว่าอีกรอบแกนนึง (ลองจินตนาการดูว่าที่ข้อต่อหนึ่งๆนั้นต้องรับแรงบิดอย่างต่ำ 3 แรงบิด คือ Mx My และ Mz โดย X, Y และ Z เป็นแกนที่ผ่านจุดนั้นๆ) ในกรณีที่โครงสร้างรับแรงแบบต่างๆกันไป เช่น เลี้ยวโค้งซ้าย เลี้ยวโค้งขวา อยู่กลางโค้งพวงมาลัยตรงแต่ล้อด้านในโค้งปีนขาวแดงตัวรถลอยบ้างไม่ลอยบ้าง ขับทางตรงๆไม่ได้โค้งแต่ล้อนึงตกหลุมหรือเหยียบก่อนกรวด ฯลฯ
    ถ้าจะใส่ Roll Bar นั้นเราไม่ต้องการให้บิดตัวหรือให้ตัวได้ครับ ยิ่งแข็งแรง(Strength) และแกร่ง (Stiff) เท่าไหร่ยิ่งดี โดยแข็งแรงเพื่อให้ทนต่อการกระแทกเวลาเกิดอุบัติเหตุ และแกร่งเพื่อให้รถมี Handling ที่ดี ที่บอกๆกันว่าโครงสร้างรถนั้นต้องให้ตัวได้นิดหน่อย หรือแข็งเกินไปนั้นไม่มีครับ
    ลองดู Saddle Bracket หน่อยแล้วกัน อันนี้เป็นของ Safety Devices

    [​IMG]

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ GoogGoo

    PART III

    ก่อนอื่นต้องมองก่อนว่า มีจุดประสงค์เอาไว้เพื่อทำอะไร

    ถ้ามองเรื่องป้องกันการคว่ำ แบบ 4-6 จุดที่ยังยึดด้วยนีอตก็โอเคครับ ถึงยึดด้วยน๊อตก็ยังรับแรงกระแทกกันยุบจากการคว่ำได้ มีดีกว่าไม่มี . . . สำหรับรถถนน ก้ทำได้ประมาณนี้แหละ จะบอกว่าแค่เอาเท่ห์ก็ไม่ใช่ มันยังมีประโยชน์ตามหน้าที่ของมันอยู่ . . . สำหรับระดับรถถนน Stiffness ยังไม่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากนัก นั่งรำคายตายเลย ถ้าขืนดามหมด มันเลยเถิดเกินขอบเขตรถถนนแล้วหละ
    แต่ถ้าต้องการเอาไว้ดามตัวถังเพิ่ม Stiffness . . . โอเค ถ้าต้องการแบบนี้ การยึดน๊อตถือว่าได้ประโยชน์ในวัตถุประสงค์นี้น้อยลงมาก (ยังมีนะครับ ไม่ถึงกับไม่มีเลย ยิ่งถ้ามีเกิน 4 จุด หรือมีตัวไข้วขวางอยู่ ถึงแม้ยึดด้วยน๊อตก็ยังแข็งขึ้นครับ เพราะจุดที่มันจะบิดมันก็งัดกันเอง บิดยากขึ้นครับถึงแม้จะยึดน๊อต) . . . ถ้าต้องการความแข็ง ก็ต้องเชื่อม (เชื่อมไม่เฉพาะจุดที่ท่อชนกัน ต้องเชื่อมลงที่ตัวถังด้วย รวมถึงเชื่อมไปที่เสาหน้าและเสาข้างด้วย) และออกแบบเป็น Triangle จะรับแรงได้มากที่สุดจากน้ำหนักท่อเหล็กที่ใช้เท่าๆกัน
    รถแข่งทำไปเลยครับ แบบแข็งสุดๆ(Stiff) โดยไม่หนักเกินไป . . รถแข่งไม่ต้องการการบิดตัวของตัวถัง ตัวถังบิดได้ ความสามารถ ความแม่นยำของช่วงล่างที่ออกแบบมาดีๆก้หายไปนิดนึง เพราะปล่อยให้ตัวถังทำงานแทนช่วงล่าง
    แต่ถึงแม้จะเชื่อมจะแข็ง ก็ไม่ใช่จะไม่บิดนะครับ ยังบิดได้ทั้งนั้นแหละครับ เอาไปขึ้น Jig ดูก็ยังมีบิดบ้างครับ . . นอกจากจะโคตรดามสารพัด จนหนักระเบิด แบบนี้อาจไม่บิด

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ บุคคลทั่วไป อีกแล้ว

    PART IV

    การใช้น๊อตเป็นตัวยึดจุดเชื่อมต่อ ก็ถือว่าเพียงพอและแข็งแรง ใช้ได้ในระดับหนึ่งแล้วครับ แต่การใช้น๊อตจะต้องขันให้แน่น เพื่อที่จะสมมติว่าโครงสร้างที่ต่อกันนั้น เป็นโครงสร้างชิ้นเดียวกัน ......พื้นฐานการทำโรลบารก็คือการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร โดยสมมติฐานว่ามีแรงมากระทำในลักษณะต่างๆ เช่นแรงกระแทกด้านข้าง(จากการชน).... หรือแรงกระแทกจากด้านบน (จากการพลิกคว่ำ) เมื่อเรารู้ลักษณะทิศทางของแรงแล้ว เราจึงมากำหนดออกแบบ ลักษณะของโรลบาร์เพื่อให้สอดคล้อง (ต้านทาน) กับแรงที่มากระทำนั้นๆ นั่นจึงมีที่มาของโรลบาร์แบบ ต่างๆ เช่น ๖ จุด ๘ จุด ๑๒ จุดเป็นต้น.....
    เมื่อได้ลักษณะของโรลบาร์ในรูปแบบต่างๆแล้ว เราจะเห็นว่า มันจำเป็นจะต้องมีชิ้นส่วนต่างๆมาต่อยึดเชื่อมกันในลักษณะ ๒ แกน ( X / Y ) บ้าง...... ๓ แกน ( X / Y / Z )บ้าง ขั้นตอนตรงนี้ แหละคือที่มาของการต่อชิ้นส่วนโรลบาร์แบบเชื่อม หรือ แบบน็อต
    - แบบเชื่อม ดีที่สุด เพราะ ทำให้วัสดุชิ้นส่วนของโรลบาร์ ๒ ชิ้น มีคุณลักษณะในการรับแรงเปรียบเสมือน วัสดุชิ้นเดียวกัน.....สามารถ รับ / ถ่ายแรงที่มากระทำ ซึ่งกันและกัน ๑๐๐ % เต็ม แต่ความเป็นไปได้ ในการสร้างโรลบาร์แบบนี้ มีมากน้อย แค่ใหน จำเป็นไหมที่จะต้องทำแบบนี้
    - แบบน๊อต ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ขั้นตอน วิธีการสร้าง เงื่อนใขเรื่องสถานที่ รวมทั้งความแข็งแรงในทางวิศวกรรมแล้ว ค่อนข้างจะลงตัวที่สุด.....

    ......ความแข็งแรงในทางวิศวกรรมก็คือ ชิ้นส่วนนั้นๆสามารถ ต้านทาน ต่อหน่วยแรง ที่มากระทำ โดยเราอาจจะสมมติ หน่วยแรงขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะคำนวณหาขนาดหน้าตัดของชิ้นส่วนโรลบาร์ โดยคำนึงถึงแรงดึง / แรงอัด /แรงเฉือน รวมทั้งโมเมนต์ดัด เป็นต้น ขั้นตอนนี้เราก็จะได้ ขนาดหน้าตัดของชิ้นส่วนที่จะทำโรลบาร์ เช่น 1/2 นิ้ว.... 1" นิ้ว..... 11/2 นิ้ว
    ......อย่างที่กล่าวข้างต้น ว่าโครงสร้างของโรลบาร์ มักจะต้องมีชิ้นส่วนอย่างน้อย ๒ ชิ้น มาต่อเชื่อมกันในลักษณะของแกน X กับ Y เป็นอย่างน้อย เราจึงจำเป็นจะต้องสร้างรอยต่อนั้นๆ ให้เพียงพอสำหรับการรับแรงที่เกิดขึ้นในรอยต่อ (แรงที่รอยต่อก็จะถ่ายมาจาก แรงในชิ้นส่วนของโรลบาร์) ขั้นตอนนี้ผู้รู้เขาจะทราบเองว่า จะทำรอยต่อแบบใหน เพียงพอที่จะ รับแรง/ต้านทาน แรง ที่เกิดขึ้น ตรงรอยต่อนั้นๆ โดยส่วนมากแล้ว แรงตรงรอยต่อของโรลบาร์ เราจะนำมาคิดแค่ แรงดึง / แรงอัด และแรงเฉือนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเอา โมเมนต์ (บวก/ลบ) มาคิดแต่อย่างใด เมื่อไม่เอาโมเมนต์มาคิดที่รอยต่อ เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเชื่อมก็ได้ ใช้น็อตเป็นตัวยึดโครงสร้างก็เพียงพอแล้วสำหรับการรับแรงดึง/อัด/เฉือน

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ LADDER 49
     
  15. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    - Bucket Seat ?????????? ??ͧ?鹔 ???ҧ???? - By numeg-6

    Bucket Seat
    ?ç????ç .... ????????

    ??Ҵ???????ͧ?ͧ ???й?觔 ...?ػ?ó??Ӥѭ?ա 1 ??? ?ͧ??âѺ??? ??觷?˹?ҷ???ͧ?Ѻ???˹ѡ?ͧ???Ѻ (???ͼ??????á????) ????֧??ФѺ??Фͧ??ҧ??????ǹ?ͧ?բ?ҧ???????ѧ ????ѧʶԵ???????Ѻ?????? ????????Ҩж١?????§?????ç g ???ͷ?˹?ҷ????
    ??????????ա 1 ??? (??ԧ ? ???ǡ??繤???????) ????º觺͡?֧?ʹ??? (????աеѧ??) ?ͧ??Ңͧ????????з?觷?˹?ҷ?軡??ͧ???Ե
    ?ѡ?觡??? ?ҡ??е?ǹ?????ҵðҹ??ҹ???????ç??§??......

    [​IMG]

    ?????????? ??ͧ?鹔 ???ҧ????

    ????Ѻ???Ѻ?????????й???ö¹??????º????͹??????????Ϳ?Ե????㹺?ҹ????·?˹?ҷ?????ҧ??????͹??????Ф???ʺ??
    ???Ѻ????ѧ??е鹢Ңͧ?س ?͡?ҡ????ѧ??˹?ҷ???ͧ?Ѻ ??????ҧ??????ЪѺ???Ѻ?????????Ѻ??? ... ?????ӷ????ғʺ?”???????з?????????ͧ??ͺ?蹷͹??觤?????ЪѺ??Ф?????ʹ??«????
    ?ѭ????ѡ?ͧ??? (?ç?ҹ)Ẻ??????Ф???ʺ?¨ҡ??âѺ??????¶֧??ѡ?ԧ???????鹵鹢????????ѧ???蹵?????
    ?????边ѡ?ԧ?١???˹ѡ???Ѻ ???????͹?????о?ԡ??ǧ??´?? ?????䫵?Ѿ???? ??駨ҡ????ͧ??????;?ѡ?ԧ??ѧ????С? ????ѹ????㹫??ٹ??? ? ?????????????ҧ?????????ѧ ???????໭?????
    ?Ѻ??LCD??С?...????????ҧ??????Ҥس?繻????????˹ѡ??Ң???ҡ???Ҫ?Ǻ?ҹ??Ǫ?ͧ
    ?ǡ?Ѻ???ö?Тͧö?дѺʻ???
    ?? ? ????ʺ?????ҧ??鹤??????? ??Ф??д٢Ѵ?ҡѺ?Ҿ?ѡɳ?ͧ???ö?ա????
    ??Ҩ???ҡѹ??ԧ ? ???? ????ö¹?? ??????µ??????Шҡ?ç?ҹ ????? ??ѹ??е???? ?Ҥ????ʹ ????¡?͡???? 2 ?????? ??ҹ?? ??? ẻ?Ѻ?͹?? ( Semi Bucket Seat ) ?Ѻ??Ѻ?͹????? ??????ѧ?? (Full Bucket Seat) ??ҹ???ͧ ??觨?ᵡ
    ??ҧ?ѹ仵??????͡Ẻ?ͧ???м???Ե??? ???ҧ??? ? ??????????????? ???ͧ??ä?ͺ??ͧ????ٻ?ѡɳ???Ф?????ЪѺ????
    ??? ??????ͧ?վԸ??յͧ (????ҡ) ?????ҧ? ?????ç??? ??ʴ? (????ù??) ??????Ͷ?? ????Ӥѭ??????Ҥҷ???Ѻ?? ??Ф???鹡?????
    ??????? .... ???? ?ѵ?ػ??ʧ????????㹡???觢ѹ??С? ?ѹ????????ҡѹ?ա?? ??Ҩ???㹡?????ٻẺ? ??е?ͧŧ?֡?֧????????´
    ???ǹ㴺?ҧ
    ???ǹ?ͧ Semi ? Bucket Seat ??Ҿٴ?֧??????ЪѺ?ͧ??ҹ?? ??????ҧ仨ҡ ???ѧ?秔 ?ѡ??????? ???ʺ?¡??? ??駨ҡ?ٻ
    ?ç ??ʴط??????ͧ??? ?????ʴط??????????? ???ͧ?ҡ?ҧ????Ե?????????͡Ẻ??????Ѻ??㹡???觢ѹ ???͡?ǡ?? ? ?????ҧ???
    ??ҹ?Ѻ (?ٻ?ѡɳ?) ????觫??ҡ???? ??ǹ????ͧ??ʴء?????ͧ??ǧ ????????͡????? ????? ,CFRP ( Carbon fiber Reinforced Polymer), GRP (Glass fiber Reinforced Plastic) , ????͹????? ???ͨ????ि????? ??????????µ?Ѥ?ѹ??ǹ˹?? ??੾?СѺ????
    ?͹ि??????????Ҩش?蹢ͧ????͹?????㹴?ҹ???????ç?ش ? ?Ѻि????????鹪???????ͧ?????˹??? ?? ??з??ҹ??
    ????ѹ ????????¡????Ը?㹡?ü?Ե????????ç????դ????ҧ?ҡ????ش ????????«?觤??????ç ?? ?ͧ RECARO ???????ëԹ
    ???;???? ????????ͺ???¤?????͹?٧???????????ح?ҡ?? ?????ç??з???դ????ҧ??????繾???? .......


    ????͹??ҧ?蹪Ѵ㹤???ᵡ??ҧ???????§?ç??з???͡Ẻ???Ѻ ? ??Ѻ?͹?? ???ͤ????дǡ㹡????ҹ?ҡ?????Ѻ
    ö2??е٤?????ʹ??¢ͧ??ʴط????????????????????????ǹ?ͧ??ʴءѹ???Ф??????ç????ѧ?????????? ?????????ͧ?ҡ?????FullBucketSeat???????Ш??繪?????ǫ?????ç????ҡ??ҷ???ѧ?͡Ẻ???????Ѻ????Ѵ?????????ҧ
    ????4?ش(?ҧ?ѹ6?ش)
    ????֧䫵?Ѿ?????ͺ??????ͻ???ͧ?ѡ????????Ѻ?ѹ???¨ҡ?غѵ??˵??????ҧ?觢ѹ???·???ش (????????Ф????ͧ????????觴?) ???????Ҩ???????ç?ҹ????????? ? ? ????? ???????ç ??Ф??????ҹ ??? ??觷???Ӥѭ????ش????

    [​IMG]

    仴پ?????????͡????????

    ???ҧ??????????Ǣ?ҧ?? ?֧??ʴط????㹡?÷??ç??? ??觶????????????????? (??ҵ?????????ͧ) ???ѡ???鹤???͹ि???????ⴴ
    ?蹴?ҹ???????ç ???ҹ ??й??˹ѡ???繾???? .... ????Ѻ??ҹ??ҡ?Ф???¡Ѻ??ʴػ?????????ҡ???? ?????繷ҧ?ҡ
    ????ԡ???Ҩ??ա?????ҧ????觴?????ʴػ???????蹴??? ?????ǹ?˭????蹡????з?????ç???????????????·?駪?? ?¨??դ???
    ????ɵç???????ö??˹??ԵԷ???ͧ????? ?ҡ?繾ǡ ???????͔ ?Թ?ԡѴ ?????ӵ??????Թ???͹?٧?????????????Фس ??觨Ъ???
    ???ҧ??????ЪѺ㹷ء?Ѵ??ǹ??ա??????????????ٻ?????
    ?Ҵ١ѹ?ա??????????????з???Ե?ҡ??????Ẻ???? ?ѹ?մ????ҧ?? ???ӵ?????ҧ??????͡ѹ??? ????????? ? ?ҡ KIRKEY ??????????????????ô 5052 ˹? 0.125 ???? ( 1 ?ع) ?ҵѴ???Ẻ ??????????͡ѹ???ç??? ??????Ѻ??깢ͺ?ͺ?????д???
    ??????????˹?ҵѴ?? (Extrusion Bead) ???ͻ?ͧ?ѹ???ͧ?ͺ?????????? ????ѧ?? 1??Ըա?????????????ç???Ѻ?????д???

    [​IMG]

    ??ҡ??ѧ?Դ????????ѹ?й?觡ѹ?ѧ? ????ռ??????Ẻ???ѵ???¡??µ?ҧ?ҡ ????к???Ҥ???ʺ?¨ҡ??ù?觹?鹡???? ????ⴴ??
    ??ͤ?????ЪѺ?ش ? ?ªش???????????稹?? ?к?è????????????????ู????դ???˹һ???ҳ &frac12; ???? ???Ƿ?駵?? ??ǹ???䫵?Ѿ???? (Rib Support) ??駫??? ? ??? ????˹? 1 ???? ???ͷ?˹?ҷ??Ѻ?ç???ᷡ??ж١ö?????§ ??բ?ҧ? ??СѺ䫵?Ѿ???? ??????
    ???˹?Ӥ???觢????????? ????֧???????ͧ?鹢? (??͹) ????͡Ẻ???Ŵ??á??ᷡ ?ҡ??ö١?ç g ??з? ?ѹ??????ͧ??????
    ???ѭ?ͧ????觷?????????????? ????֧????Ŵ??úҴ??㹡óշ???Դ?غѵ??˵ش????蹡ѹ ..... ????Ҩ????ռ????????͡??? ??, ᴧ, ????Թ, ????? ???ҵ?ͧ??þ???? ??????ö?к???ѹ??

    ????;?????????͡????

    ?ҧ KIRKEY ???Ե??;????????????????ʺ?????Ѻ??âѺ?? (?????÷???ص????ҡ??????ҹ??Ш??ѹ)????䫵?Ѿ????
    ????dz????? ( Head Support) ?¡??? ??觺?è????????????????ู &frac12; ???? ?蹡ѹ ?????ѡ?ҵ??˹???о?ا?????????ѧ ???駵ç? ????Ѻ????????١?ç?????§??зӨ???????Դ????͹???§??н׹?Ѻ?ӵ??仫С?͹ ????ѧ???»??ѡ???ѡ?? ????Ŕ ???????Դ
    ?غѵ??˵????Ҵ?ѹ????觵ç????????觹??·???ش?ա????

    ?ա???ҧ???ҧ???ѧ????????? ???䫵?Ѿ???췵ç????оǡ??? ?Ъ??º???????˵آͧ??úҴ?纺???dz?? (?????Ҩ?ⴹ??һз?
    ???????任з?????ͧ????) ??ա?????з??????վ?ѡ?ԧ????д?ҹ??ҧ?ա????....?ѧ???? ?˹ ? ????䫵?Ѿ???췢ͧ??????? ????¨Ѵ
    ????ա??鹡Ѻ䫵?Ѿ???췺???dz???? ( Shoulder Support) ?ª?鹹??з?˹?ҷ???ا?????ͧ?Ѻ??ǧ???? ????Ŵ???????͹??Ǣͧ????
    ????١?????§??????駹???ͧ ????ѧ??˹?ҷ??Ŵ???????͹????????ŧ 㹡óշ???Դ?غѵ??˵??ѹ???繡?ú?????ҡ?úҴ????
    ??ǹ˹?觴??? .....????֧?????????????????? ? ????? (??? Head ??? Shoulder Support ) ?????????ѡ??ù??????蹡ѹ
    ŧ???????ͧ??觡Ѻ??鹷?????ǹ????ͧ?Ѻ??ҧ?ӵ?? (Lumbar Support) ????è??????????????? ? ?ӹǹ?ҡ???ͪ????ͧ?Ѻ???˹ѡ
    ???????????????͹???????Ѻ????ѧ?ͧ?س ??觨Ъ??¢?Ѵ??鹷????ҧ?????ҧ????ѧ?Ѻ?鹢? ?ѹ?繻Ѩ?????ѡ㹡?÷?դ???
    ?ع?ç?ͧ?غѵ??˵? ???ͧ?ҡ????վ?鹷????ҧ?з??????ҧ???????͹???????С??????͹??ǹ??????з???????˵آͧ??úҴ?????ǹ
    ????ͧ?鹢Ҷ١?͡Ẻ????ͧú??觹??˹ѡ???????Тͧ?鹢?????ҡ????ش ?????͹??ҵ?ͧ????˹??繹??Ƿ????? ?֧?? ????͹?鹔 ?????ҧ?դ????آ

    [​IMG]

    ????????紹???㹡?????͡???

    ?ѹ?Ѻ?á ?й???????Ѻ????觢ѹ??????? ???ͧ?ҡ?????????蹨ض١?͡Ẻ??????Ѻ?ٻẺ????觢ѹ??? ? ??੾??
    (????ԡ??ͧ?Ѻ??? ???ҹ???????ͧ?֧??Ҵ?????͡) ???ǡ??ʹ??»?????Ӥѭ ??? ????????ǹ?ͧ????СѺ?ԵԢͧ?????? ????
    ????ͤس???????? ?ѹ??????͹?Ѻ?س???????ͧ ? ˹?? ?Ѻ???ö????͡Ẻ?????͡??????͹??? ????շ???ǵç??д?ҹ??ҧ???١?ç g ??з? ??ҵ????СѺ?ӵ?????????ǹ ????????ЪѺ?ʹ? ???????͹????????§???¹Դ???Ҩ?繺???Դ?ͧ??úҴ???????ҧ?Ҵ???֧


    ??͹??蹵?ͧ?ӡ???Ѵ??Ҵ?ͧ?ӵ?ǡ?͹ .....?Ӥѭ????ش???????ǧ???????ҧ?ͧ??⾡㹪ش???????Һ ?????ѡ?????Ѵ?е?ͧ???
    ŧ?Ѻ??ҹ???????????????ռ?????º ?ҡ??鹡?????´?????????˹?;?? ???Ǩ֧??????ӡ???Ѵ???????ҧ?ͧ?ӵ?Ǫ?ǧ??⾡ ??觨?????ǹ???
    ???ҧ????ش?ͧ?ӵ??????͹?????????? ??Һ͡??ҡ???ͧ??觺???? ??????͹?Ѻ??????͡?????ͧ??? ??? ??ͧ????ͧ????????? ???Ѻ?֧
    ???Թ? ?????????????Ҵ??????ЪѺ ??ͧ???????֡????ա?úպ?Դ ? ???? ....?ҡ??鹡??ҵ?͡ѹ????ԵԪ?ǧ???? ??????ҡ???????ҧ?ͧ
    ˹??͡ , ???˹ѡ ?????ǹ?٧?ͧ???Ѻ ?ҡ??鹡?????ͧ??觷?????????????????ǡѺ??⾡ ??? ???????֡????ն١?պ?Դ ? ?????蹡ѹ ??駹??
    ??????Ŵ??â?Ѻ??Ǣͧ????дѧ???????????ǹ???????
    ??????ʹ?????ͧ?СѹẺ??? ????ҹ????ѧ???????? (???Ѻ????ǡ????觷???????Ӣ????????Ҩҡᴹ??) ??????ǹ??ʹ? ??з???Ӥѭ????ѹ???ҧ????????ǧ?????????ʻ??쵷??Ƿ??????ԡ? ?????Ҩ?????? , ?ʤ??? , ???? ??? ???????????ö??ҹ (?????ҡ?Ӻҡ??) ????ͧ???????ç?Ѻ??????ЪѺ??????ͧ????ǧ ?????͡?? Made-to-Order ???????? ?Դ????????ͧ???? ??? ????ʺ?·???Ҩ???ѵ?Ѵ?Դ˹??? ????֧?ٻ?ç???????? ?ѧ???ǡ??ѧ?秷???Ҿ??????????¹ ? ?ҡ??¶ѡ?ͧ͢?????ि?????????
    ????͹?????????????ҹ?? ???????Ҩм?Ե?ҡ??ʴ????á??? ??äӹ֧?֧???????ç??Ф?????ЪѺ????ͧ??????Ӥѭ ??????й?觤???ػ?ó????????ЪԴ?Ѻ????Тͧ????ҡ????ش ?ͧ?Դ??????ҡ?Դ?غѵ??˵آ???? ????????Ҥ??????ç????? ???è?
    ?Դ?Ѻ??Ǥس ????֧?ٻẺ?ͧ???ö???????? ????????繻????? ??? ????ҹ?Ӻҡ???????ըСԹ???

    [​IMG]
     
  16. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    แนวคิดทำเครื่องเดิมคาร์บู ให้แรงและถูกตังค์ By ล่าซิ่ง

    แนวคิด.....
    1 เครื่องB16ยังสลับกับ B20ได้ แล้วทำไมเครื่องเดิมจะทำไม่ได้
    2 เครื่องเดิมยังเปลี่ยนเป็นหัวฉีดได้ แล้วทำไมจะทำไม่ได้
    3 เปลี่ยนจากเครื่องคาร์บูเป็นd15bvtec ใช้งบประมาณ 35000 บาท แพงไป
    4 อะไหล่ชิ้นส่วนท่อนบน d15b vtec มีอยู่เกลื่อนเมือง
    5 ทำแล้วต่องแรงกว่าเดิม

    ดังนั้น........

    ถ้าเรานำเครื่องเดิมที่มีอยู่มาโมดิฟายให้แรงกว่าเดิม(แรงขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แค่แรงทางใจ)
    ซึ่งมากกว่ากรองเปลือย หรืเฮดเดอร์
    โดย ออกตามหา โทรหา เดินหา ฝาสูบ D15B vtec130hp มาตัวนึงราคาก็น่าจะตกประมาณ
    2000-4000 บาท (อาจจะขอเพื่อนที่มีอยู่มาฟรี) แล้วจัดการถอดฝาสูบเดิมออก เอาฝาใหม่
    (D15Bvtec) แปะเข้าไปแทน โดยใช้ชุดท่อไอดีเดิมที่มีคาร์บูวางอยู่ แต่อาจจะต้องเปลี่ยนเบอร์นมหนู
    เพื่อให้น้ำมันพอเพียงในรอบสูง ส่วนเรื่องเทคจะเปิดได้อย่างไร ไม่ยาก อาจจะใช้ไฟจากชิบไลท์
    หรือสวิตธรรมดา มาเป็นตัวเปิดโซลินอยด์ วีเทคเท่านั้น จบไปสำหรับคาร์บูvtec step 1

    ต่อมาstep2 ตังค์เหลืออีกหน่อย สัก 6000 ออกตามหา คาร์บูคู่ ของZC คาร์บู(ดูดนอนในรูป)
    มาแปะแทนระบบคาร์บูเดิม โอ้วววว ทีนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่เปิดฝากระโปงโชว์ ก็สามารถคุยได้เต็มปากว่า
    "เครื่องเดิม VTEC WERBER " ได้เลย

    ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะหาช่างที่ทำได้หรือไม่
    สำหรับ step1 แรงขึ้นแน่ครับส่วน step2 ผมว่า d15b 130hp เดิมๆโดนแน่ๆ
    ปล.ยังไงก็ยังถูกกว่าเปลี่ยนเครื่องอยู่ดี

    [​IMG]
     
  17. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    เกร็ดความรู้เรื่องการแก้ปัญาหาเสียงดังจากอากาศเมื่อรถวิ่งเร็ว และดังมาจากประตู By HeavydutyJug

    มีสองสาเหตุ
    1. ปัญหาจากการเสื่อมสภาพของยางขอบประตู หรือพูดว่ายางขอบประตูไม่สามารถปิดรูเข้าของอากาศได้ วิธีแก้ไข คุณสามารถนำรถเข้าไปให้ช่างทำสีเคาะรถ บอกให้เข้าช่วยตั้งประตูให้ชิดเข้าไปอีก โดยช่างจะทำการขันน๊อต เบอร์ 10 4 ตัวที่ยึดประตูเราไว้กับตัวถังแล้วเขยิบเข้าไป ทั้งนี้ต้องอาศัยฝีมือนิดหน่อย ถึงแน่นและไม่มีเสียง

    2. เสียงดังที่มาจากการซีลกระจกมองข้างไม่ดีทำให้อากาศลอดเข้ามาตรงที่แปลนยึดกระจกมองข้างนั้นแหละ วิธีการแก้ไข เปลี่ยนซีลยางรองกระจกมองข้างหรือถ้าไม่มี หามาใส่ซะ!!

    ข้อมูลเพิ่มเติม By B2

    ถ้าเป็นผม ผมจะซื้อทั้งประตูครับ เลือกเอาสภาพดีๆ ประตูบานนึงประมาณ 1000+- นิดหน่อยเลือกเอาที่ยางสภาพดีๆน่ะครับ แถมได้อะไหล่ประตูอื่นๆเก็บไว้ใช้ได้อีก

    ข้อมูลเพิ่มเติม By broom

    จะใช้คันนี้อีกนาน ก็ลงทุน หน่อยครับ ซื้อร้านอะไหล่ที่มีส่วนลด 10-12% จะถูกลงมาอีกนิด ค่าแรงใส่คงไม่เท่าไหร่
    แต่ถ้าจะใช้อีกซักปี สองปี ก็หาซื้อประตูเก่าอย่าง ที่คุณ B2 แนะนำครับ แต่ต้องเลือกที่สภาพดีจริงๆ เพราะอายุรถมันก็เยอะแล้ว ปีสุดท้ายก็ปี 95-96 แล้ว มันก็ 10 ปีแล้วนะครับ อายุที่เหลือมันจะอยู่อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ แล้วสองข้างก็สองพันกว่าๆ แล้วนะครับ เกือบๆ จะครึ่งนึงของของใหม่เลย แต่อายุการใช้งานมันคงไม่ถึงครึ่งของของใหม่แน่
    อันนี้ต้องลองทบทวนพิจารณาดูครับ และต้องดูงบในกระเป๋าด้วย
    ลองถามร้านที่ขายประตู หรือ คุณแบงค์ SpoonZaa Sir shop ดู อาจจะได้คำแนะนำดีๆ ก็ได้ เผลอๆ อาจจะมียางขอบประตูแยกขายก็ได้ครับ
     
  18. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    มะรู้จิคะ ลองตั้งกระทู้โพสถามดีก่าค่ะ :D
     
  19. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    Sunroof กับ Moonroof แตกต่างกันยังไง By aubom-eg6

    Sunroof เป็นช่องหลังคาเหล็กที่เปิดได้ ต้องเปิดเพื่อให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา

    Moonroof เป็นช่องหลังคาที่เป็นแก้ว ที่สามารถเปิดม่านเพื่อชมแสงจันทร์ กับคนนั่งข้างๆ

    **** คนไทยเรียก sun roof หมดทุกอย่างเลย
    ส่วนวิธีเลือกก็
    -ควรเลือกให้ตรงรุ่น ก่อน
    -สายไฟครบ รีเลย์ครบ สวิตซ์ครบ
    -ผ้าหลังคาด้านในสวยๆไม่ขาด ไม่เยิน
    -ยางขอบกระจกไม่เปื่อยแล้วให้มันดูสนิทแนบแน่นกันดีๆหน่อย
    -หาช่างทำดีๆแล้วกันนะครับ แล้วก็หาวิศวะมาเซ็นรับรองด้วย
    -ส่วนราคาของนี่แล้วแต่รุ่นอ่ะครับ eg นี่ก็อยู่ประมาณ 10,000 บาท +-ไม่เกิน2พัน ค่าติดตั้งไม่ทราบอ่ะครับ
     
  20. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
  21. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ล้างรถอย่างมืออาชีพ ( เรื่องพื้นๆแต่ทำถูกวิธีไหมเอย ) By numeg-6

    รถคันโปรดของคุณ บางครั้งไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ และบ่อยครั้งคุณอยากทะนุถนอมรถคันเก่งด้วยตัวคุณเอง โดยเฉพาะการล้างรถ... เรื่องที่ดู เหมือนใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าจะทำให้ถูกวิธีล่ะ

    เดี๋ยวนี้สะดวกสบายกันมากขึ้น สำหรับการทำความสะอาดรถแต่ละครั้ง เพราะมีการให้บริการทั้งแบบอัตโนมัติ และแบบอัตโนมือ กันให้เกร่อ แต่หลาย ๆ คน ก็ต้องการดูแลทะนุถนอมรถที่รัก ดุจดวงใจด้วยตัวเอง เรามีวิธีล้างรถให้ได้อย่างมืออาชีพมาแนะนำกัน

    1. หลาย ๆคนคงเจอกับตัวเองที่เข้าไปล้างรถตามปั๊มแล้วเจอจะๆ กับเครื่องทำฟอง
    นัยว่าเพื่อให้รถสะอาดมากขึ้น แต่พอหันไปดูก็ชัด ๆ เลยครับ แฟ๊บกล่องเบอเริ่ม เสร็จสิครับล่ะที่นี้ ทั้งแว๊กที่เคลือบออกมาจากโรงงาน และสีพังหมด ยังไม่เห็นกันที่หรอกครับ พวกนี้ต้องใช้เวลาพอนานๆ เข้า ความคิดที่จะประหยัดเพราะเห็นถูกดี 50-70 บาท ต้องมาตามแก้กันเสียเงินหนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้น จำไว้ให้ดีว่า หากคิดจะล้างรถเองแล้ว ต้องเลือกสรรแชมพูหรือน้ำยาล้างรถที่ใช้เฉพาะเพื่องานนี้ ซึ่งไม่ยากแล้ว มีขายกันถมเถไป

    2.ในสภาพปกติ สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วที่จะทำความสะอาดรักษารถของคุณ แต่สิ่งที่ไม่ควรลืมก็คือ เมืองไทยเนี่ยอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นไม้และนกนี่เต็มไปหมด ทั้งยางไม้และมูลนกเนี่ย มีฤทธิ์ทำลายทั้งแว๊กและสี ใส่ใจสักนิดอย่าปล่อยทิ้งไว้ รีบทำความสะอาดจุดนั้นทันทีเมื่อมีเวลา

    3. เรื่องนี้คงหลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับเมืองร้อนอย่างไทย ข้อแนะนำในการล้างรถประการหนึ่งก็คือ พยายาม อย่าล้างรถภายใต้แสงแดด ก็คงต้องเลือกล้างรถกันในยามแดดร่มลงตกล่ะครับ หลาย ๆ คนเชื่อว่า ไม่ให้ล้าง กลางแดดก็เพื่อหยดน้ำมีสภาพเหมือนเลนส์นูน พอแดดส่งผ่านก็จะไปโฟกัสความร้อนที่สีรถพอดี ซึ่งผลกระทบตรงนี้นั้นน้อยมากครับ เพราะการล้างรถจริง ๆ คงไม่มีใครปล่อยให้รถแห้งเองหรอก แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ ก็คือบางส่วนของรถจะแห้งเร็วเกินไป ยังไม่ทันฉีดน้ำไล่สิ่งสกปรกหลังล้างด้วย แชมพูก็แห้งแล้ว ทำให้สีรถไม่สะอาดอย่างที่ควรจะเป็นเทคนิคที่พอจะช่วยได้ก็คือให้จอดรถล้างในที่ใกล้ๆ น้ำซึ่งจะใช้ล้างรถให้เริ่มล้างจากบนสู่ล่าง และชิ้นส่วนที่เป็นอย่างก็อย่าเพิ่งให้ความสนใจมากนัก เรามาเก็บกันเป็นจุด ๆ ตอนหลังได้

    4. อีกขั้นตอนหนึ่งก็คือล้อและยาง หลาย ๆ คนคิดว่า ล้างล้อและยางก็เพื่อให้ยางมันไม่ดูกระด่าง กระดำ ไม่น่าชม แต่จริง ๆ แล้วการให้ความสำคัญกับการล้างตรงจุดนี้ยังเป็นการยืดอายุการใช้งานชิ้นส่วน หลายด้วยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นยางล้อ สีของแม็กซ์หรือกระทะล้อ รวมถึงผ้าเบรก และดิสค์เบรก ที่ทำงาน ให้กับเราทั้งวันในขณะขับขี่ วิ่งทั้งวันก็ต้องมีสกปรกกันบ้างล่ะ และสเปรย์เคลือบเงายางรถก็คงต้องเลือก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานตรงจุดจริงๆ

    5. ล้างรถจนครบสกปรกและฝุ่นละอองหมดไปแล้คราวนี้ก็ถึงเวลาทำให้รถเงางามด้วยการเคลือบสีรถ เดี๋ยวนี้ การวิ่งไปศูนย์บริการเพื่อขัดเคลือบสีรถก็ราคาไม่ถูก หากมีเวลาก็ทำเองได้ น้ำยาขัดเคลือบสีรถเกรดเอ หนึ่งขวด ไม่อยู่ในงบไม่เกิน 1,000 บาท แต่ใช้ได้นานจนคุ้ม แต่ต้องยอมรับว่างานเคลือบสีรถด้วยตัวเอง ที่ต้องใช้ความฟิตพอสมควร เพราะน้ำยายี่ห้อไหนที่ว่าแน่ ๆ ขัดเบา ๆ ก็ออก เอาเข้าจริงเล่นเอาเหนื่อย เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำ เพราะการเคลือบเงาเป็นวิธีการหนึ่งที่ป้องกันหรือลดกระบวนการเกิดสนิม (Oxidation) ได้ การขับเคลือบเงาก็มีกลยุทธ์เฉพาะเช่นกัน ประการแรกเลย ต้องทำในที่ร่วม เพราะน้ำยา พวกนี้ทำปฏิกิริยากับแสงแดดโดยตรง น้ำยาขัดเคลือบเงาเกือบทุกยี่ห้อจะระบุข้อบ่งใช้ตรงนี้ชัดเจน เสียหาย ก็โทษใครไม่ได้จริงๆ ครับ การเคลือบสีต้องทำหลังการล้างรถทุกครั้งอย่าลืมนะครับว่าการเคลือบสี ต้องมี การขัด หากมีสิ่งปกปรกที่แข็งสักหน่อย อาจเกิดรอยที่ไม่พึงปราถนาบนสีของรถคุณได้ เลือกใช้ผ้านุ่ม หรือ อุปกรณ์ในการเคลือบที่เฉพาะเจาะจงสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ การขัดเคลือบสีด้วยตัวเองไม่เหมือนกับเอารถ เข้าบริการที่ศูนย์เฉพาะกิจด้านนี้นะครับ ที่ศูนย์เราจ่ายแพงแต่เขาทำให้ครบเซ็ท อะไรที่เป็นรอยขนแมว ไปเฉี่ยวอะไรมาเบา ๆ พอเข้าศูนย์รับรองหายหมด แต่สีรถคุณก็จะบางลง ซึ่งมีขั้นตอนการเคลือบแว็ก เข้ามาช่วย ดังนั้น การเคลือบสีด้วยตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ สำหรับรอยขนแมว แต่ก็สามารถลดลงได้ หากใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมอย่าใจร้อน รอให้แห้งแล้วค่อยขัด และการขัดก็ให้หมุนเป็นวงกลม พลิกผ้าบ่อย ๆ เพื่อให้ได้ด้านผ้าที่สะอาดที่สุดในการขัดแต่ละจุด และก็อย่าเหนื่อยนะครับ บางคนพอขัดเสร็จลากผ้า ออกมาจากตัวถัง แทนที่จะเงาก็ไม่เงากันพอดี

    6. เสร็จสิ้นกันสำหรับการล้างสี ก็มาถึงภายในที่ก็คงมีกระบวนการไปแตกต่างกัน แต่จุกจิก และเก็บรายละเอียด มากหน่อย เพราะภายในรถมีซอกเล็กซอกน้อยจำนวนมาก อุปกรณ์หลักก็เห็นจะเป็นเครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะ ถ้าเป็นเบาะกำมะหยี่ เครื่องดูดฝุ่นอย่างเดียวก็สะอาดเกินพอ ผ้าชุบน้ำพอหมาด ๆ เช็ดที่ขอบประตู ขอบหน้าต่าง ชิ้นส่วนที่เป็นหนัง พลาสติก หรือยาง ถ้าจะให้ดูดีก็ใช้น้ำยาขัดเงาที่ใช้เฉพาะงานนี้โดยเฉพาะ ลงเอา ซึ่งก็ควรจะทำ เพราะแสงแดดร้อน ๆ อย่างเมืองไทย จะช่วยทำให้อายุการใช้งานของชิ้นส่วนเหล่านี้ ยากขึ้น แต่ก็แนะนำนะครับว่า ใครที่มีพวงมาลัยแบบหุ้มยางหรือหนัง แค่ผ้าชุดน้ำเช็ดทำความสะอาด ก็น่าจะเพียงพอ หากเคลือบเงาลงไป เวลารถจอดตากแดดมันจะเหนียวมือไปหมด ประการสำคัญในการ ทำความสะอาดภายในก็คือ หลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดสำหรับการนำน้ำยาทำความสะอาดหรืออะไรก็ตาม ที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียไปเช็ดทำความสะอาดเข็มขัดนิรภัย
     
    แก้ไขล่าสุด: 18 ธันวาคม 2006
  22. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    เกร็ดความรู้ By โน้ต พิดโลก

    Q :
    การเสริมหวีคลัตช์ วิธีการทำยังไงและให้ผลยังไง ทำไมถึงไม่เปลี่ยนเป็นของซิ่งเลย
    A :
    เสริมหวีให้ ให้หนาขึ้น วิธีทำไม่รุ้นะครับ ขอข้ามแล้วกัน แต่ ทำแล้ว มันจะโดด สับแล้วถีบขึ้นอีกเยอะเลย
    พี่ทำกับพี่หนู ถีบมากๆ มากกว่า OS อีกอ่ะ
    แต่เวลาเหยียบคลัชมันจะแข็งขึ้นอีกคับบ พอดี ไม่ค่อยได้ขับ รถติดๆเท่าไหร่ เลยสบายหน่อย
    ราคามันถูก ถูกว่าไปซื้อ คลัชซิ่งๆใส่ เสริมหวี ผ้าทองแดงไทย มันประหยัดกว่าเยอะเลยคับ
    แต่ของไทยมันก็ทนไม่เท่าของนอกจิงๆ ตอนแรกอยากประหยัด แล้วก็ พังๆๆๆๆ จนเปลี่ยนมาเป็น OS
    ถึงหาย ตอนนั้นใช้จานของ EXEDY หวีเสริม พี่หนูทำ โดดมากๆ แต่มันไม่ทน ก้ามปู หวี
    มันแตกตลอดเลย
    เปลี่ยนหวี (อันเดิมแหล่ะ เสริมเอาอยู่ 2-3 ที) พังเหมือนเดิม ที่เดิมด้วย เลยเปลี่ยนดีกว่า ตอนใช้หวี ของEXEDYเลย
    มัน สับแล้วรอบก็ร่วง เวลา แข่งไม่รุ้ว่าหวีมันล้าหรือป่าว เลยใช้หวีไทย หายแต่ดันไม่ทน ถ้ามันทนได้นะ
    จะแจ่มมากๆๆ

    สรุป ถ้ารถเรา คลัชมันทนแรงบิดเครื่องเราได้เสริมเอาก็ดีนะ โดด ดี ไม่แพงด้วย ประหยัด แต่แข็งโคดๆ

    Q :
    การลดโหลดฟายวีลนําหนัก4กิโล เปลี่ยนของใหม่หรือว่าเอาของเดิมมาทำได้คับ
    A :
    ลดโหลด ฟลายวีล เอาฟลายวีลเดิมนี่ล่ะครับ มาปาด เจียร์ออกลดน้ำหนัก ให้มันเบา โหลดก็จะน้อยลง
    ส่วนฟลายวีลที่เป็นของแต่งมันจะเบาอยุ่แล้วครับ
    ลดมากเบามาก แต่อย่าลดมากเกินไป เด่วมันแตกตอนซัดมา จะยุ่ง ขาอาจกุด
    ส่วนมากอู่ฮอนด้า เค้าจะ รู้ว่าลดเท่าไหร่ แค่ไหน ยังไงอยู่แล้วคับ

    Q :
    ควรเจียร์ออกประมาณเท่าไหรดีครับ
    A :
    ประมาน 5โลกว่าครับ 5.5โลมั้ง พี่หนูบอก ต่ำกว่านี่ เสี่ยงแตก ไม่คุ้ม

    ข้อมูลเพิ่มเติม By broom

    A :
    การเสริมหวีคลัช ก็เอาหวีคลัชเดิม มาเสริมหวี เข้าไปอีกอัน มันก็จะมีแรงกดขึ้นมาอีกเท่านึง และก็แน่นอน
    ที่มันต้องหนักมากขึ้นอีกด้วย จุดยึดหวีต้องดูด้วยว่าแข็งแรงพอที่จะเสริมได้ไหม มิฉะนั้นจุดยึดมันจะ
    ขาดได้ ไอ้ที่มันกระโดด เพราะเราไม่มีแรงขาพอที่จะยื้อคลัทช์ให้อยู่ในตำแหน่งคงที่ได้ เพราะมันหนัก
    มากๆ มันก็ต้องกระโดดออก (ถ้าใช้แผ่นคลัทช์เดิม)

    ฟลายวีล ไม่ควรเจียร์ออกมากครับ อย่างที่โน้ตบอก มันแตกได้ 4 กก. มันเบามาก ระวังจะขึ้นทางลาดชัน
    ไม่ไหว ต้องเลี้ยงรอบตลอดนะครับ
     
  23. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    วิธีติดตั้งวอเตอร์การ์ด By s.paramate

    เอาเท่าที่พอจำได้นะ
    1.แกะยางขอบประตูของเดิมออกมาก่อน
    2.มาร์คตำแหน่งของกิ๊ฟที่ติดกับวอเตอร์กาดกับยางขอบประตู
    3.ใช้คัตเตอร์เฉือนยางขอบประตูออก ตามความหนาของกิ๊ฟ
    4.เอาเทป 3 M ติดที่วอเตอร์การ์ดเพิ่มเพื่อความคงทน
    5.ใส่วอเตอร์การ์ดพร้อมใส่ยางขอบประตูกลับตามเดิม
    ปล.ถ้ายางขอบประตูยังนูนอยู่เนื่องจากติดกิ๊ฟ ก็จัดการเฉือนยางขอบประตูออกอีก ครับ
    ระวังกิ๊ฟหลุดเด้อ
     
  24. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    Type R By Nirut007

    "โลโก้ตัว H บนพื้นแดง ล้อแม็กและตัวถังสีขาว พร้อมกับเครื่องยนต์แรงม้าสูงรอบจัด และเบาะ Recaro แดง"

    นี่คือนิยามสั้นๆ ของเวอร์ชันไทป์ อาร์จากค่ายฮอนด้าซึ่งย่อมาจาก Type Racing ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการความแรงที่เหนือระดับจากรุ่นปกติ ซึ่งจุดกำเนิดของความแรงที่พัฒนาจากสนามแข่งเพื่อเอาใจนักซิ่งเท้าหนักเริ่มขึ้นในญี่ปุ่นช่วงต้นทศวรรษที่ 1990

    [​IMG]

    ซีวิค ไทป์ อาร์รุ่นแรกในรหัส EK9 มากับตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูพร้อมความแรงในระดับ 185 แรงม้า


    อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกคงเรียกว่าเป็นไทป์ อาร์อย่างเป็นทางการได้ไม่เต็มปากนัก แต่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยผลักดันให้โครงการไทป์ อาร์เกิดขึ้นในเวลาต่อมา โดยในช่วงนั้น ฮอนด้าเปิดตัวรุ่นตัวแรงของซีวิค SiR รหัส EF9 ในปี 1991 และ EG6/9 SiR II ในปี 1992 ซึ่งถือว่าเป็นซีวิครุ่นแรกที่มากับเครื่องยนต์ตัวแรง B16A พร้อมกับการตกแต่งภายในแบบสปอร์ต และช่วงล่างที่เซ็ตมาเพื่อรองรับกับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น

    [​IMG]

    เอ็นเอสเอ็กซ์-อาร์เปิดตัวในปี 2002 พร้อมกับเป็นการปิดฉากความแรงในรหัสอาร์สำหรับสปอร์ตรุ่นนี้


    จากนั้นในปี 1992 ไทป์ อาร์รุ่นแรกก็ออกจากสายการผลิตโดยเป็นเวอร์ชันพิเศษของเอ็นเอสเอ็กซ์ ผลิตออกมาจำกัด และมีการปรับเซ็ตตัวรถให้มีน้ำหนักเบาลงมาอยู่ที่ 1,230 กิโลกรัม จากเดิม 1,350 กิโลกรัม

    แต่ชื่อของไทป์อาร์กลับเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางขึ้นกับการเป็นรุ่นตัวแรงสำหรับรถจ่ายกับข้าวอย่างซีวิค รหัส EK และสปอร์ตที่ใช้พื้นฐานเดียวกับซีวิคอย่างอินเทกรา ในช่วงปี 1996-1997 ซึ่งเหตุผลเป็นเพราะมีราคาไม่แพง อยู่ในระดับ 1,998,000-2,500,000 เยน หรือ 670,000-825,000 บาทเท่านั้น ขณะที่เอ็นเอสเอ็กซ์ไต่ขึ้นไปในระดับ 10 ล้านเยน หรือ 3 ล้านกว่าบาท จึงกลายเป็นความแรงที่ชนชั้นกลางสามารถเอื้อมถึงได้



    อินเทกรา ไทป์ อาร์ รุ่นล่าสุด DC5 เป็นตัวแรงรุ่นสุดท้ายที่ไม่มีการผลิตอีกแล้ว เพราะฮอนด้ายืนยันว่าจะไม่มีรุ่นใหม่ของอินเทกราที่ใช้พื้นฐานเดียวกับซีวิคใหม่ออกมาขาย

    [​IMG]

    ไทป์ อาร์ของซีวิคในรหัส EK9 มากับเครื่องยนต์ B16B ที่ได้รับการรีดแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 185 แรงม้ากับความจุเครื่องยนต์เพียง 1,600 ซีซีเท่านั้น และได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องยนต์แบบไร้ระบบอัดอากาศ หรือ NA ที่มีแรงม้าต่อความจุ 1 ลิตรดีที่สุดในโลกบล็อกหนึ่งเลยทีเดียว ขณะที่อินเทกรามากับรหัส DC2 พร้อมเครื่องยนต์ B18C-R ความจุ 1,800 ซีซี 200 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดาอัตราทดชิดแบบ 5 จังหวะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    โลโก้ตัว H บนพื้นแดง สัญลักษณ์แห่งความแรงที่สาวกของฮอนด้ารู้จักกันดีเช่นเดียวกับสัญลักษณ์ไทป์ อาร์ที่แปะข้างตัวถัง


    อีก 5 ปีต่อมารหัสนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ของแฟนฮอนด้ากับรุ่นซีวิค และอินเทกราเหมือนเดิม โดยรุ่นใหม่ของซีวิคมากับรหัส EP3 และอินเทกรามาในรหัส DC5 พร้อมความเปลี่ยนแปลงที่หันไปคบกับเครื่องยนต์ใหม่ รหัส K 4 สูบ 2,000 ซีซี i-VTEC ซึ่งมีกำลังขับเคลื่อนในระดับ 200-220 แรงม้า

    ส่วนเอ็นเอสเอ็กซ์ ไทป์ อาร์ถูกลดบทบาทลงโดยเปิดตัวรุ่นไทป์ เอส ซีโร่ออกมาแทนที่ในปี 1997 ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในชื่อเอ็นเอสเอ็กซ์-อาร์ในปี 2002

    สำหรับสาเหตุที่ว่าทำไมไทป์ อาร์จะต้องมากับโลโก้ตัว H บนพื้นแดง และสีขาว นั่นเป็นเพราะ รถแข่ง F1 คันแรกของฮอนด้าที่คว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ในยุคทศวรรษที่ 1960 มากับตัวถังสีขาวแบบ Championship White และใช้โลโก้สีตัว H บนพื้นแดง นี่ก็เลยเป็นที่มาของการสานต่อเจตนารมย์ แห่งความแรงจากสนามแข่ง และในปัจจุบัน รถยนต์ของฮอนด้า (ไม่นับพวกแต่งเอง) มีแค่เวอร์ชันไทป์ อาร์ และรถแข่งทุกประเภทรวมถึง F1 เท่านั้นที่ใช้โลโก้นี้
     
  25. chaipon1982

    chaipon1982 New Member Member

    3
    0
    0
    อยากรู้ว่าหลอดไฟซื้อที่ไหนครับ เป็นชนิดอะไร
    เพราะอยากซื้อหลอดมาก่อนจะได้ถอดเปลี่ยนทีเดียว
    ขอบคุณครับ.............น้องใหม่ขอเข้าคลับ
     
  26. watee.vce

    watee.vce New Member Member

    171
    3
    0
    หลังจากกระทู้ด้านบน
    ผมก็ไอเดียบันเจิด
    ยกเรือนไมล์ดำมา
    ถอดกรอบใสออก
    ทำการพ่นกรอบนอกสีดำเป็นสีบรอนซ์ซะเลย ไมเดียวกับไท อาร์เลย
    และก็ถอดชุดไมล์และวัดรอบออก ที่น๊อตด้านหลัง ชุดละ 3ตัว
    ถอดหลอดไฟออก
    จัดการไปซื้อแอลอีดี ซูเปอร์ไบด์สีแดง จำจำนวนไม่ได้น่าจะซัก 10 หลอด สีฟ้า 5 หลอดและสีขาว 4 หลอด
    และก็จัดการต่อแทนหลอดเดิม โดยถอดหลอดเดิมออก เอาแอลอีดีวางที่โครงด้านในรอบๆเกจ
    แล้วก็ประกอบครับ
    ตอนทำลืมถ่ายรูปมาให้
    ได้แต่ตอนสำเร็จแล้วครับ
    ทั้งหมดน่าจะประมาณ 200 บาทมั้ง
     
  27. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ลองดูที่ร้านอมรค่ะ มีหลายสาขา แต่มิวไปอยู่ที่เดียวที่ชั้น G เซียร์รังสิตหน่ะค่ะ บอกเค้าว่าหลอดไฟหน้าปัด 14W พนักงานเค้ารู้ค่ะ
     
  28. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
  29. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    วิธีใส่หน้าปัดนาฬิกา By bcp

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  30. Mye

    Mye New Member Lady Member

    70
    1
    0
    ปัญหาความร้อน ความสำคัญของเครื่องยนต์ที่เกิดจาสภาพอากาศ By numeg-6

    อากาศในบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เช่น ฤดูฝนเป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นสูง และในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนจะมีฝุ่นละอองมากมายในอากาศ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฤดูร้อนมากกว่าฤดูอื่น


    ในกรุงเทพฯ มักจะประสบปัญหาการจราจรติดขัดในตอนเช้าเสมอ และในตอนบ่ายอากาศจะมีความร้อน จึงทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาเรื่องความร้อนอย่างมากมาย เพราะอากาศที่ออกจากท่อไอเสียของรถคันหนึ่ง และจากรถอีกหลาย ๆ คันจะไหลอยู่บริเวณนั้น หากรถติดไฟแดงนาน ๆ จะทำให้รถเกิดโอเวอร์ฮีท หรือเครื่องยนต์ดับได้ ซึ่งปัญหาตรงนี้ก่อให้เกิดความสูญเสียเกี่ยวกับเครื่องยนต์อย่างมากและอุณหภูมิบริเวณห้องเครื่องอาจสูงเกือบ 100 องศานั่นก็หมายถึงอุปกรณ์รอบ ๆ นอกของเครื่องยนต์ เช่น ท่อยาง กระจกไฟฟ้า และสายไฟต่าง ๆ เกิดปัญหาตามไปด้วย

    ถ้าเน้นกันจริงๆก็คงเป็นเรื่องของการจัดเตรียมและการดูแลอุปกรณ์ปลีกย่อยผมคิดว่าคงต้องมีการดูแล
    ในส่วนปลีกย่อยของแต่ละอันอย่างเช่นในส่วนของหม้อน้ำว่าหน้าที่ของหม้อน้ำคืออะไร รถบางรุ่นอาจมีถึง 2 หม้อน้ำ และในการดูแลเรื่องของความร้อนโดยรวม ๆ ว่า เราดูอะไรบ้าง

    ในประการแรกเลย เราต้องจับจุดและสังเกตดูที่หน้าปัด คือ ดูเกจวัดความร้อนเสียก่อนว่าความร้อนโดยเฉลี่ยจากการใช้รถในรายวันของเรา และเราต้องใช้รถไปนานเท่าใดจึงจะเข้าสู่ภาวะปรกติ ขณะที่รถติดไฟแดงนาน ๆ เคลื่อนที่ไม่ได้ ความร้อนอยู่ระดับไหน อาจจะอยู่ครึ่งกลาง หรือเลยตรงกลางเล็กน้อย เราต้องจำตรงนี้ให้แม่นยำครับ ในกรณีที่วันหนึ่งวันใด มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงเราจะได้รู้ได้ จากที่มีความรู้ในการดูแลเกจความร้อนแล้วคราวนี้เราก็มาดูอุปกรณ์โดยรวม ๆ ในห้องเครื่องยนต์

    อันดับแรกเลยคือ หม้อน้ำ ในการสำรวจหม้อน้ำเราต้องดูฝาหม้อน้ำ ยางบริเวณที่สตรีมไว้ระหว่างชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งฝาหม้อน้ำมักจะมี 2 ชั้นเสมอ เราต้องดูว่ายางเหล่านั้นเปื่อยยุ่ยหรือไม่ ถ้าเกิดการเปื่อยยุ่ยเมื่อใด วาล์วน้ำอันละไม่กี่บาท อย่างธรรมดาก็ราว ๆ 100 กว่าบาท ควรจะเปลี่ยนวาล์วหม้อน้ำใหม่ เมื่อเปิดฝาหม้อน้ำดูให้สังเกตความขุ่นของน้ำในหม้อน้ำเสียก่อน ถ้าขุ่นข้นเราก็ควรถ่ายน้ำทิ้ง แล้วก็เติมน้ำที่ป้องกันสนิมใส่เข้าไปใหม่ ในกรณีที่หาน้ำกันสนิมก็ควรถามอู่หรือร้านขายว่าเป็นชนิดที่ป้องกันสนิม หรือชนิดที่ชำระล้าง ก็ควรใช้ชนิดที่ป้องกันสนิมจะดีกว่า จากที่เราดูฝาหม้อน้ำและก็มาดูหม้อน้ำโดยรวม ๆ ดูว่าบริเวณรังผึ้งมีการเปื่อยยุ่ยหรือถ้าน้ำในหม้อน้ำเกิดการรั่วซึมและบริเวณหม้อน้ำมีการปริแตกด้วยหรือเปล่า

    ต่อมาก็คือท่อยาง ท่อยางหม้อน้ำจะมีท่อยางบนและล่าง ส่วนบนอาจเป็นท่อใหญ่ หรือท่อเล็กก็ได้ ท่อยางควรจะมีความหนืดเหนียว ไม่ใช่บวม เปื่อยยุ่ย หรือนุ่มนิ่ม จากการสัมผัสดูก็รู้ว่าท่อยางที่ใช้อยู่นั้นมีคุณภาพดีหรือไม่ อาจไม่ใช่แค่ท่อยางหม้อน้ำบนหรือล่าง แต่ต้องดูท่อยางทุก ๆ ท่อที่ส่งไปยังเครื่องยนต์ที่เราสามารถดูได้ด้วยตาเปล่า ดูว่ามียางตัวไหนไม่แน่นหรือกำลังจะเปื่อย แม้กระทั่งท่อยางที่ต่อไปในมิเตอร์บางรุ่นก็ควรที่จะตรวจสอบในเรื่องของท่อนั้น ถ้าหากสงสัยหรือเห็นท่อยางตัวใดตัวหนึ่งเปื่อยยุ่ยจะต้องถือว่าเป็นของชำรุดไม่ต้องรอให้หมดอายุก่อน ก็ควรรีบเปลี่ยน

    จากอุปกรณ์ท่อน้ำที่เราดูโดยรวม ๆ เท่าที่จะสามารถดูได้ หาได้ก็คือ ท่อพักน้ำ กระเปาะพักน้ำ หรือหม้อน้ำพักน้ำอะไรก็แล้วแต่ที่มีอยู่ในตัวรถ ไม่ว่ารถรุ่นไหนก็ตามที่มีหม้อน้ำพักน้ำก็ต้องตรวจหม้อน้ำว่าสามารถเก็บกักน้ำได้หรือไม่ ท่อมีการบวมแป่ง หรือเปื่อยยุ่ยหรือไม่

    ถัดไปเป็นเรื่องของปลั๊กไฟต่าง ๆ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับความร้อนก็คือ ปลั๊กไฟที่เป็นพัดลม หรือจะเป็นตัวพัดลมก็ตาม ในปลั๊กไฟต่าง ๆ ให้ดูขั้วสาย ดูรอยรั่ว รอยเปื่อยของสายไฟต่าง ๆ ต้องตรวจสอบให้ละเอียด จากนั้นก็ทดลองเอามือไปจับตามปลั๊กไฟต่าง ๆ ในขณะที่เราสับสวิตซ์แล้วนะครับ จับดูว่าใบพัดมีการคลอน การเขย่าตัว บูสต์ของมอเตอร์มีการหลวมตัวด้วยหรือเปล่า เพราะพัดลมไฟฟ้าจะทำงานขณะเครื่องยนต์มีความร้อน แล้วก็ต้องทำงานต่อเนื่องด้วย ต้องประเมินสถานการณ์พัดลมไฟฟ้าที่ใช้อยู่ด้านหน้า ไม่ว่าพัดลมแอร์หรือพัดลมหม้อน้ำก็ตามโอกาสที่พัดลมไฟฟ้าเกิดความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ขอบอกว่าพัดลมถ้าเสียแล้วลมไม่ไหลผ่าน ถ้าเผลอไม่ดูเกจหน้าปัด ความร้อนโอเวอร์ฮีทขึ้นมา พอดูอีกทีก็ขึ้นมาจนถึงขีดแดงแล้ว เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างใหญ่หลวง

    เครดิด บาย นิตยสาร "ตลาดรถ"
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้