@ ทุกๆท่าน ใช้น้ำยารักษาสีรถของอะไรกันครับ และเทคนิคในการดูแลรถของท่าน ^^ @

โอ้ย อ่านแล้วกิเลศเกิด อยากเงาบ้างครับ ขอบคุณที่มาแชร์ความรู้กันครับ

 

วิธีการดูเเลเรื่องฝุ่นทางคุณ legolazz ได้เเนะนำไปแล้วครับ คราวนี้ก็เหลือแต่ทางคุณ Duke ต้องค้นหาwaxที่ให้งานที่ตัวองชื่นชอบมากที่สุดครับ เเนะนำให้เข้าhttp://www.thaiwashercarclub.com/ เพื่อไปศึกษาว่าwaxแต่ละยี่ห้อให้งานออกมาเเนวไหน คงได้คร่าวๆนะครับ เพราะกล้องมันหลอกเรา555 เเต่ที่ได้เเน่นอนคือข้อมูลด้านเทคนิคครับ


ขออนุญาติให้ดูงานของ CG บ้างนะครับ ในรูปลง Vertuabond 408 <Pre-Wax> + Blacklight 1 coat

 

ชอบคุณมากครับ แน่นๆเลย มีประโยชน์มากๆครับ ^^

 

สุดยอดเลยครับ รักรถกันทุกคนเลยครับ ส่วนตัวเองยังใช้ gana อยู่เลย ><

 

ใช้บริการท่านนี้เหมือนกันครับ ^^

 

ขอคำแนะนำบ้างนะครับ

พอดีรถไม่ค่อยได้ขับ เดือน ๆ นึงจะมีเวลาว่างเอาออกมาขับเล่นประมาณ 5 วัน
ที่เหลือจอดคลุมผ้าอย่างเดียวเลย ปัญหาคือ...พอคลุมผ้าแล้วจะเป็นรอยขนแมว
ควรจะมีวิธีรับมือกับรอยขนแมว และการจอดเก็บนาน ๆ แบบนี้ยังไงบ้างครับ

มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนพอจะช่วยป้องกันรอยจากการคลุมผ้านาน ๆ แบบนี้ได้บ้างครับ
ปกติก่อนคลุม จะล้างและเคลือบก่อนทุกครั้ง แต่ไม่ได้ทำเองครับ ใช้บริการคาร์แคร์

 

ผมแนะนำว่าอย่าคลุมเลยครับ นอกจากจะล้างเเล้วเคลือบเองเส็ดเเล้วรีบคลุมจะได้ไม่มีฝุ่นอยู่บนผิวสี มันก็อยู่ที่ผ้าคลุมด้วยว่าสะอาดมั้ยครับ เเนะนำว่าช่วงที่พี่จะจอดก็ไม่ต้องล้างครับ ล้างวันที่ขับเล่นดีกว่าครับ กรณีที่ไม่ได้ลุยฝนนะครับ เรื่องฝุ่นนี่เเนะนำwaxที่เป็น water based ครับ ฝุ่นจะน้อยกว่าพวก oil based เยอะมากครับ

*บางทีรอยขนเเมวก็เกิดจากคาร์แคร์ได้เยอะครับ

 

กระทู้ดีความรู้ทั้งนั้นอัพๆคับ

 

http://www.detailingthailand.com

เป็นเวบที่มี Review การใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆกับรถจริงๆพร้อมรูปประกอบอ่าค่ะ เข้าไปชมเลยจ้า ^^

 

เรื่องผ้าคลุมอันนี้พวก Crazy Detailing เค้าเลี่ยงกันมากๆนะคับ แต่ผมใช้คับ แต่เป็นผ้าคลุมทำเองนะคับ ทำจากผ้าดิบซื้อมาเปนเมตรๆ เย็บห่วยๆ ไม่ใช่ผ้าคลุมที่เค้าขายๆกัน แหะๆ

แนะนำเปนแบบนี้แล้วกัน ถ้าต้องจอดกลางแจ้งนานๆ อย่าคลุมเลยคับ เพราะฝุ่นมันจะเข้าไปพร้อมๆกับลม แล้วฝุ่นกะผ้าคลุมจะทำหน้าที่เหมือนกระดาษทรายถูสีรถเราให้เป็นขนแมวคับ

ถ้าจะคลุมต้องมั่นใจว่าคลุมให้ผ้ามันนิ่งที่สุด ล้างรถให้สะอาดก่อนคลุม หรือคลุมเฉพาะตอนจอดในบ้านดีกว่าคับ ถ้ากลางแจ้งเลี่ยงจอดใต้ต้นไม้ จอดกลางแดดยังดีซะกว่าเลยคับ เพราะใต้ต้นไม้ศัตรูของสีรถเยอะมาก

ส่วนคาร์แคร์เนี่ย ส่วนมากก็สร้างรอยทั้งนั้นนะคับ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ดีแค่ไหน เช็ดไม่เปนรอยก็มาได้คับ

ทุกวันนี้เวลาผมเช็ดรถ แม่ชอบเดินมาทักมา กลัวรถจะเจ็บหรอ 55555

ปล สี DC2คันนี้สวยมากคับ ติดตามจากใน JDM ชอบมากกกกก

 

เหมือนกะตาตี่ผมเลยครับ จอดสงบนิ่ง เดือนเศษๆ ถึงจะได้ออกมาขับทีหนึ่ง จอดในร่มนะครับ ( โรงรถ ) แต่ไม่ใช่ระบบปิด .. ควรรักษายังไงดีครับ รอยขนแมวจาก คาร์แคร์ เป็นอะไรที่ปวดใจผมมาก

 

ขอตอบพี่เเมนนะครับ พยายามเข้าคาร์เเคร์ที่ได้มาตรฐานที่มีวิธีการล้างเปียกเช็ดแห้งที่ได้มาตรฐานครับ รับรองไม่เยอะเเน่นอนครับ ส่วนเรื่องฝุ่นต้องทำใจครับ พอจะซิ่งค่อยไปล้างครับ

 

ขอบคุณคร๊าบ ความรู้ๆ ^^

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ ครับ

แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ ครับ จอดไว้ในร่มเดือนละยี่สิบกว่าวันยาว ๆ ถ้าไม่คลุม
สงสัยฝุ่นจับหนาเป็นนิ้วแน่ ๆ อีกอย่างกลัวว่าเด๋วแมวจะขึ้นมานอนบนหลังคา
เลยต้องตัดสินใจคลุมไว้น่ะครับ

 

ถ้าอดไม่ได้ที่จะต้องคุลม ก็แนะนำให้ใช้น้ำยาเคลือบคุณภาพสูงหน่อยคับ
ชั้นฟิล์มที่ได้จะหนา และทนทาน เพื่อจะผ่อนหนักเป็นเบาคับผม

ส่วนย้ำยายี่ห้อไหนดี ส่วนตัวมีความเชื่อว่า PWL,109,FMJ,DGPS ตัวใดตัวนึง เอาอยู่แน่นอนคับ
เพราะผมเองใช้น้ำยาที่ต่ำกว่านี้ แต่ใช้เป็นประจำ ก็สามารถป้องกันได้พอใจเช่นกันคับ

 

พี่ต้นรีวิวได้สุดยอดมากๆคับ

 

ตามที่คุณJernว่าไว้เลยครับ จะเลือกตัวไหนเเล้วเเต่ความชอบเลยครับว่าชอบงานออกมาเป็นเเนวไหน ส่วนผ้าคลุมก็ทำให้สะอาดมากที่สุดครับ

 

คุณ เจิ้น ค่ะ พอดี มีเรื่องจะขอความช่วยเหลืออ่าคะ คือแฟงได้คุยเรื่องนี้กับพี่ดุ๊ก แล้วก็คุณต้นเรียบร้อยแระคะ เห็นว่าคุณเจิ้นก็เป็นคนที่รักรถเหมือนกัน ทั้งในเรื่องความแรงแล้วก้อการบำรุงรักษาภายในและภายนอก ถ้ายังไงไม่เป็นการรบกวน ช่วยตอบกลับมาด้วยนะคะ จะได้บอกรายละเอียดได้อ่ะคะ^^

 

ยินดีคับ แต่เจิ้น PM ติดต่อไปไม่ได้อ่าคับ

 

ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ ตอนนี้กำลังหาข้อมูลเรื่อง Glass Coating อยู่
ไม่ทราบว่ามันมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง เพราะเห็นมีราคาหลากหลายมากตั้งแต่หลักพัน
จนถึงหลักหลาย ๆ หมื่น ถ้าทำแล้วจะสามารถเคลือบสี ล้าง หรือลงดินน้ำมันได้เหมือนเคย
หรือป่าวครับ แล้วมีที่ไหนแนะนำบ้าง

 

ส่วนตัว ผมค่อนข้างชอบบทความนี้คับ
เต็มๆในนี้เลยคับ http://www.cruzoptra.com/wax/(synthetic-glass-coat)-vs-crystal-seal-(cts)/
ขอบคุณพี่หมอยอดคับ


ขอเรียกการเคลือบ crystal seal ว่า CTS น่ะครับ (เทคโนโลยีเดียวกีบ J-Glaze)

ส่วนเคลือบสีด้วยฟิล์มแก้วสังเคราะห์ เรียกว่า Synthetic Glass Coat ขอเรียกสั้นๆว่าเคลือบแก้ว

(เดิมคือยี่ห้อ Zeus แต่ความหนาได้ไม่เกิน 1 ไมครอน ก็เลยเลิกทำไป)

เพื่อให้เข้าใจง่าย ขอเทียบ CTS และ เคลือบแก้วเป็นหัวข้อต่อไปนี้ครับ

ราคา

-CTS ราคามี 3 Series คือ

1.เล็ก (ราคาสองหมื่นปลายๆ ตอนนี้น่าจะลดมาที่สองหมื่นกลางๆ)

2.กลาง (สี่หมื่นบาท)

3.ใหญ่ (หรือ super platinum ราคา 7-8 หมื่นบาท)

-เคลือบแก้ว ในรถ size S (คือรถในกลุ่ม compact car เช่น optra,lancer,altis,civic รวมถึง BMW Series 3)

ราคาเริ่มต้น 3,700-เกือบๆหมื่น แล้วแต่ว่าเราเลือกโปรแกรมแบบไหน ถ้ามีขัดใหญ่ ก็จะแพงหน่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

ความหนา

-CTS หนาได้ถึง 5 ไมครอน

-เคลือบแก้ว แบ่งความหนาเป็น 2 Series คือ

1.ใช้โปรแกรมตัว X3 (อ่านว่า เอ็กซ์สาม) หนา 3 ไมครอน (พ่น 1 ชั้น)

2.ใช้โปรแกรมตัว platinum หนา มากกว่า 3 ไมครอน (เลขเท่าไหร่ไม่แน่ใจครับ พ่น 3 ชั้น)

ความทน

-CTS ว่าไว้ที่ 5 ปี

-เคลือบแก้ว ตัว X3 ว่าไว้ที่ 6 เดือน ส่วน platinum น่าจะ 3 ปี

ความแข็ง

-CTS แข็งสุด รองลงมาคือ platinum และ X3 ตามลำดับ

สัญชาติ

-CTS เจแปน

-เคลือบแก้ว เยอรมัน

เทคโนโลยี

-CTS เป็นเทคโนโลยีเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว

-เคลือบแก้ว ก็เข้ามาได้ไม่เกินปี

การแข่งขัน

-เคลือบแก้ว ตัว platinum (ไม่ใช่ X3) ทำมาเป็น fighting brand กับ CTS

การรับประกัน

-CTS ไม่รับประกันชิ้นงานที่เกิดความเสียหาย หากพ่นเคลือบใหม่ ต้องจ่ายเงินเพิ่ม

-เคลือบแก้ว พ่นเคลือบให้ใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น ทำสีในบางชิ้นแล้วต้องการมาเคลือบใหม่

ผลงาน

-CTS หนา เงา ใส ฉ่ำ ไม่มีข้อกังขา

-เคลือบแก้ว ตัว X3 เงา ใส แต่ใสแบบแห้งๆ ไม่ค่อยฉ่ำ

ตัว platinum เงา ใส ฉ่ำลึก มากว่าตัว X3 โดยเฉพาะรถสีเข้ม

เรื่องของอณู

-CTS เนื่องจากหนากว่า อณูเลยเชื่อมกันได้น้อยกว่า

-เคลือบแก้ว เนื่องจากบางกว่า อณูเลยเชื่อมกันได้ดีกว่า

องค์ประกอบของอณู

-เป็นซิลิกาทั้งคู่ (นึกถึงแก้วที่เราใช้กันอยู่ครับ)

 

มันน่าโดนจิงๆ CTS ><"

 

ถ่ายหลังจากลง #26 แล้วกว่า 9 วันคับ

 

เม็ดน้ำกลมสวย เซ็กซี่ดีจังคับคุณเจิ้น อิอิ

 

เมื่อวันจันทร์ฝนตกหนัก แฟงลงทุน หยุดงาน ไม่อยากให้รถเปียก เพราะลงแรงไปเยอะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 7.30-12.00 น. แต่พอตอนบ่ายฝนตก เหอะๆๆ

1. ล้างรถทั้งคันด้วยน้ำเปล่า โดยเอาฟองน้ำลูบเอาคราบโคลนตรงชายประตูออกให้หมด
2. ล้างล้อ ล้วงกันให้ลึก ใช้ผงซักฟอก
3. ล้างรถ ใช้แชมพู Carretax
4. จากนั้นทดลองใช้ตัว Tester Autosol --> Started with Polish แล้วตามด้วยครีมเคลือบเงา (ปรากฎผลงานที่ได้ ไม่โดนใจ(ดำ)ของแฟง)


5. เลยลง Blackfire Wet Diamond (ปกติมักจะใช้กับรถเข้ม แต่แบบว่า...ชอบคุณสมบัติที่สนองความต้องการขั้นพื้นฐานของเราได้)
6. ตามเก็บงานด้วย Last touch

เป็นอันจบ ช่ายเวลาตั้งแต่ 7.30-12.00 น. พอตอนบ่ายฝนตก พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เลยเอาผ้าชุบน้ำเช็ดซะ แล้วตามปิดด้วย Ultimate Quick Wax

 

ใช้ Pinnacle กับ Poorboy ครับ สีเยิ้มดี