สอง พี่น้อง colt และ Asti

การสนทนาใน 'Mitsu Racing Club' เริ่มโดย Roumsak, 26 มีนาคม 2007

< Previous Thread | Next Thread >
  1. /3o/3

    /3o/3 New Member Member

    551
    0
    0



    ของบ๊อบก้อไปได้มาจากร้านของคุณหนึ่งแหละครับแต่เป็นนคอมบิ้วนะครับ
    ตอนนั้นไปหาคอมที่มาจากญี่ปุ่นม่ายมีของเลยให้คุณหนึ่งช่วยหาแล้วก้อม่ายมี

    ยังไงคุณหนึ่งลองหาดูไว้ให้น้องออยหน่อยจิครับเผื่อมีจะได้ให้เข้าไปเปลี่ยน
    ไม่รู้น้องออยจะอยากได้คอมบิ้วแล้วหรือคอมมือสองจากญี่ปุ่น
    สงสัยอะไรถามได้คร๊าบ:D
     
  2. JAZZza

    JAZZza New Member Racer

    2,393
    18
    0
    เอารูปตอนวิ่งพีระ(ครั้งแรกในชีวิต)มาให้เพื่อน ๆ ดูกันคับ
    งาน Hankook เดือนเมษายน 51 ที่ผ่านมานี้เองคับ
     
  3. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    มีไมล์ MIVEC 10000 รอบมาอีก อันนึง มีครายสนใจมั๊ยคร้าบบบบ
    เบล แดงๆ3จุดดึงหลังครบ
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มิถุนายน 2008
  4. Cyber-Asti

    Cyber-Asti New Member Member

    1,682
    4
    0
    เสียดายช่วงนั้นไม่ได้ไป...รถยังไม่พร้อมคับ

    แต่ก็ไม่ต่างกะตอนนี้อ่ะ หุหุ....:D

    รู้สึกแจ๊สจะโดน Zoom นะ (Mazda Zoom Zoom) อ่ะ:confused:
     
  5. JAZZza

    JAZZza New Member Racer

    2,393
    18
    0
    วิธีการเข้าโค้งในสนามสำหรับมือใหม่หัดซิ่งครับ

    --------------------------------------------------------------------------------

    ก่อนอื่นต้องขอบคุณเวป www. siamsubaru.com ที่มีข้อมูลดี ๆมาลงไว้ครับ
    การเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

    เพื่อความเข้าใจโดยง่ายและปลอดภัย จะขอแบ่งการเข้าโค้งออกเป็น 4 ขั้นตอน
    เมื่อรถวิ่งมาถึงทางโค้ง สิ่งที่จะต้องทำมีดังต่อไปนี้ (ห้ามทำสลับกัน)


    1. เบรก เพื่อชะลอความเร็วให้เหมาะสมกับโค้งนั้นๆ การเบรกทำให้น้ำหนักรถถ่ายมาด้านหน้า ส่งผลให้รถหน้าทิ่ม ท้ายยก ยางหน้ามี traction มากกว่ายางหลัง(หน้าเกาะกว่าหลัง) ท้ายรถเบา ถ้าเบรกหนักเกินจนล้อล็อค ยางจะไถไปกับพื้นถนนและขาดการควบคุม ไม่ว่าจะหักพวงมาลัยยังไงรถก็จะไม่เลี้ยว(ยางรับภาระเกินความสามารถ) จนกว่าจะคลายเบรกเพื่อให้ยางรับภาระน้อยลงจึงจะสามารถควบคุมทิศทางได้อีก

    2. เปลี่ยนเกียร์ลง (shift down) เพื่อให้อัตราทดเกียร์เหมาะสมกับความเร็วระหว่างที่อยู่ในโค้งและกดคันเร่งออกจากโค้ง หากเปลี่ยนเกียร์ได้ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถมีอาการหน้าทิ่ม น้ำหนักรถจะถ่ายมายังล้อหน้า

    3. ปล่อยเบรก เมื่อลดความเร็วลงอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับโค้งแล้วให้ปล่อยเบรก ณ จุดนี้น้ำหนักรถจะเริ่มถ่ายไปข้างหลัง

    4. เลี้ยวและเดินคันเร่ง น้ำหนักรถจะถ่ายไปข้างหลังมากขึ้นจากการเดินคันเร่ง และถ่ายไปด้านข้างจากการหักพวงมาลัยเลี้ยว น้ำหนักคันเร่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างน้อยที่สุดให้คลอคันเร่งตลอดเวลาที่อยู่ในโค้ง ไม่ควร เข้าโค้งแบบใส่เกียร์ว่างหรือไม่เหยียบคันเร่งเลย(ลอยเข้าไป) เพราะการคลอคันเร่งจะทำให้มีกำลังส่งถ่ายไปยังล้อตลอดเวลา ทำให้อาการรถมั่นคงขึ้น แต่ไม่ควรเกินลิมิตของยางที่รับได้เพราะจะทำให้รถ understeer หรือ oversteer ได้


    แรกๆอาจจะยังไม่ค่อยคล่องและมีรอยต่อระหว่างการ เบรก เปลี่ยนเกียร์ ปล่อยเบรก เลี้ยว เดินคันเร่ง ฝึกไปเรื่อยๆครับ พยายามทำให้ไม่มีรอยต่อระหว่างแต่ละอย่าง แล้วก็ปรับน้ำหนักมากน้อยของแต่ละอัน ฝึกบนนถนนในชีวิตประจำวันด้วยก็ได้นะครับ จะช่วยให้ขับได้อย่างปลอดภัยขึ้น



    สิ่งที่ควรระวังที่สุดสำหรับมือใหม่ คือ

    ไม่ควรเหยียบเบรกในขณะที่พวงมาลัยไม่ตรง (เลี้ยวไปเบรกไป) การเลี้ยวไปเบรก(trail braking)ไปไม่ใช่สิ่งที่ผิด อันที่จริงเป็นสิ่งที่นักขับทุกคนต้องทำได้หากต้องการจะเร็ว แต่สำหรับมือใหม่แล้วมันยากที่ตัวท่านจะรู้ถึงลิมิตของยางและอาการต่างๆของรถตลอดจนการแก้ไขการเสียการทรงตัวของรถ ดังนั้นมือใหม่จึงยังไม่ควรใช้เทคนิค trail braking หรือเบรกควบคุมน้ำหนักเบรกขณะเข้าโค้ง การเบรคขณะเข้าโค้งส่งทำให้รถได้รับแรงจากสองทางคือ

    1. การเบรกทำให้น้ำหนักรถจะถ่ายไปอยู่ล้อหน้า ทำให้ล้อหน้าเกาะกว่าล้อหลัง น้ำหนักด้านหลังจะเบา ท้ายจะยก
    2. การเลี้ยวทำให้น้ำหนักรถถ่ายไปด้านข้างในทิศทางตรงกันข้ามกับทิศที่เราจะเลี้ยวไป ทำให้รถเอียงออกหนีโค้ง

    ถ้าแรงสองอย่างนี้รวมกันแล้วเกินภาระที่ยางล้อหลังจะรับได้ จะทำให้ ท้ายออกหรือท้ายปัดนั่นเอง(oversteer) จนอาจถึงขั้นรถหมุนได้

    การที่บอกไว้ด้านบนว่าให้เริ่มปล่อยเบรกและคลอคันเร่งก่อนที่จะเลี้ยวเป็นการถ่ายน้ำหนักให้ไปอยู่ล้อหลังเหมือนเดิม หน้ารถจะได้ไม่ทิ่มขณะอยู่ในโค้ง น้ำหนักรถจะกระจายอย่างสมดุล ไม่มีล้อใดรับภาระมากกว่าล้ออื่นเยอะๆจนทำให้เสียอาการ ล้อทั้งสี่จะเกาะถนนเท่าๆกัน รถจะไม่หมุน

    แต่ขณะอยู่ในโค้งหากเราเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินกว่ายางจะรับภาระได้ รถก็จะไถลออกด้านนอก(แหกโค้ง หรือ understeer นั่นเอง) เพราะการเลี้ยวคือการที่รถต้องพยามยามฝืนแรงที่ส่งมาจากทางตรงโดยใช้ความฝืด(friction) ที่ยางทำกับถนน เป็นตัวเปลี่ยนทิศทางของรถให้เลี้ยว ถ้าหากแรงที่ส่งจากทางตรงสูงเกินไป เมื่อเราต้องการที่จะเลี้ยว ศักยภาพของยางในการที่จะฝืนรถให้เลี้ยวก็จะเหลือน้อยลง ถ้าหากหักพวงมาลัยมากเกิน รถก็จะแถออกด้านข้าง ทำให้เลี้ยวไม่เข้า วิธีแก้คือต้องชะลอความเร็ว(ยกคันเร่งหรือแตะเบรก แต่ถ้าจะแตะเบรกล้อต้องตั้งตรง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็น oversteer ทำให้ท้ายออก รถหมุน) เพื่อให้ยางมีประสิทธิภาพเหลือมากพอที่จะเลี้ยว





    สรุปข้อห้ามและข้อควรกระทำขณะเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

    1. ห้ามเบรกอย่างรุนแรงขณะเข้าโค้ง

    2. ห้ามเหยียบคลัชแช่ไว้ขณะเข้าโค้ง

    3. เบรกให้เสร็จก่อนจะเริ่มเลี้ยว

    4. ไม่เปลี่ยนเกียร์ขณะอยู่ในโค้ง เพราะการ shift down ที่ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถหน้าทิ่ม และผลจะเป็นแบบ oversteer

    5. หลังจากเบรกเสร็จให้เริ่มคลอคันเร่ง (น้ำหนักคันเร่งแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าช้าไปก็เติมได้ ถ้าความเร็วสูงพอแล้วก็แค่คลอไป)

    6. ถ้าไม่แน่ใจว่าโค้งนั้นต้องใช้ความเร็วเท่าใด ให้ใช้ความเร็วต่ำกว่าที่ประเมินไว้ (ปลอดภัยไว้ก่อน)

    7. หากมีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจ ให้ถามคนมีประสบการณ์ทันที

    8. เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเข้าโค้งแล้วไม่มั่นใจหรือกลัว แสดงว่าเราขับเร็วเกินฝีมือ ให้ชะลอความเร็วลง

    9. ไม่หักพวงมาลัยแบบฉับพลับ หรือกระตุกพวงมาลัยเวลาเลี้ยวหรือแซง เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว

    10. อย่าเอาเวลาเป็นตัววัดฝีมือตัวเองเป็นอันขาด ขับช้ากว่าแต่กลับบ้านปลอดภัย ย่อมดีกว่าเร็วแต่เสียวและเสี่ยง
    ผมเอง คงไม่ได้เน้นในเรื่องของเทคนิกมาก แต่คงจะเน้นเรื่องที่น่าจะทำให้ขับด้วยกันได้ปลอดภัยขึ้น (เนื้อหา มาจากสปีดซีเครทเล่มแรก)

    ๑. การที่เราจะต้องรู้ตลอดเวลา ว่ารถรอบๆตัวเรา อยู่ตรงไหนกันบ้าง เค้าพยายามจะทำอะไรกันอยู่ มีคนพยายามจะแซงเราไม๊ อันนี้ก็คล้ายๆกับเวลาวิ่งบนถนน ต้องดูรอบๆตัวให้ดี แต่ไม่ได้มัวแต่ดูข้างหลัง ไม่ดูทางนะ
    ๒. ตัวเราเอง ก็ต้องพยายามสังเกตุ ว่าคนที่เรากำลังจะแซง รู้ตัวไม๊ ว่าเรากำลังวิ่งไล่ หรือว่า กำลังจะเสียบแซงเค้าอยู่ ถ้าดูเหมือนกับว่าเค้าไม่รู้ตัวว่าเราจะแซง ต้องหาวิธีการทำให้เค้าเห็นเราก่อน เรื่องนี้ เราคงจะพอสังเกตุได้ คือ ถ้าคันหน้าเห็นเรา ขั้นแรก เค้าน่าจะเปลี่ยนไลน์ เพื่อที่จะพยายามบังเรา ถ้าเค้ายังขับไลน์ปกติ เราก็น่าจะต้องระวัง ถ้าคิดจะแซงเค้า
    ๓. การแซงที่ง่ายที่สุด คือ แซงทางตรง รองลงมาคือตอนเบรค ยากสุดคือแซงในโค้ง
    ๔. การแซงทางตรง ขั้นแรก เราต้องมั่นใจว่าเราออกจากโค้งด้วยสปีดที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อน ก็แปลว่า เราอาจจะต้องเว้นระยะจากคันหน้าบ้าง เพื่อที่จะสามารถทำให้ใช้พื้นที่ได้เต็มที่ ได้สปีดที่สูงที่สุด ถ้าเรามัวแต่จี้เค้าตลอด ทำให้เข้าโค้งได้ไม่เต็ม เราก็จะแซงเค้าทางตรงไม่ได้
    ๕. การแซงตอนเบรค โดยมารยาทคือ ถ้าเราเข้าไปได้ครึ่งคันทางด้านในของเค้าแล้ว เค้าควรจะให้เราไป แต่ก็เป็นแค่ไกด์ไลน์ ไม่แน่เสมอไป ที่ควรจะต้องทำก็คือ ไม่จำเป็นต้องเบรคลึกจนแซงเค้าไป เอาแค่ให้เท่ากับรถเค้าก็พอ ให้หัวพอๆกัน แต่เราอยู่ด้านใน และ ให้อยู่ใกล้เค้าให้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ โดยที่ไม่อันตรายเกินไป เนื่องจาก ถ้าเกิดชนกัน อยู่ใกล้ๆ ก็จะชนเบากว่า
    ๖. การบัง โดยมารยาท บังหนึ่งครั้ง กำลังดี ไม่ใช่โยกซ้ายขวาเพื่อจะบังให้ได้ แต่นี่ก็เป็นแค่ไกด์ไลน์เหมือนกัน ถ้าเป็นรอบเกือบเข้าเส้นชัย คงจะไม่ยอมกันง่ายๆ
    ๗. การศึกษาความหมายต่างๆของธงให้แม่นๆ แล้วคอยสังเกตุตลอดเวลา อันนี้ก็ตรงไปตรงมา ที่เพิ่มเติมคือ ให้ลองสังเกตุความจริงจังในการโบกธงของนายสนามด้วย คือ ถ้าดูว่าเค้าโบกจริงจังมากๆ ก็อาจจะแปลว่าเหตุการณ์มันอาจจะน่ากลัวมากด้วย
    ๘. การวิ่งในสนาม เค้าแนะนำว่า ให้มองคนอื่นให้เป็นส่วนนึงของสนาม ที่ไม่อยู่กับที่ เราก็แค่ปรับไลน์ของเราให้วิ่งผ่านพวกเค้าไป อย่าไปโฟคัสที่จะแซงเค้าให้ได้อย่างเดียวเกินไป จะทำให้ผ่อนคลายมากกว่า
    ๙. ในรอบซ้อม เราควรจะลองไปวิ่งในไลน์ที่เหมือนกับเราจะแซง เพื่อจะได้เห็นภาพ และ เป็นการตรวจสอบสภาพของพื้นสนามในไลน์แปลกๆนั้นไปด้วยในตัว
    ๑๐. การขับแข่ง กับการวิ่งให้เร็ว มันเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ทั้งสองอย่าง และ จะขาดอย่างใดอย่างนึงไป ก็ไม่ดี จะเน้นแข่งได้อย่างเดียว ก็ไม่ดี จะขับคนเดียวเร็ว ก็คงไม่ชนะในการแข่ง สำหรับคนที่แข่งมาตลอด ก็อาจจะลองดูเรื่องของการวิ่งคนเดียวให้เร็วได้ด้วย อาจจะทำให้ประสพความสำเร็จในการแข่งมากขึ้น สมดุลมากขึ้น
    วิธีฝึกก็คือ เราจะต้องคุมน้ำหนักเบรค ให้หัวทิ่มเท่าเดิมตลอด ตั้งแต่เริ่มเบรค จนถึงตอนที่รถเกือบจะหยุด จะต้องค่อยๆคลาย ให้หัวทิ่มน้อยลงอย่างต่อเนื่อง จนหัวไม่ทิ่มเลยตอนที่รถหยุดพอดี

    ที่จะยากก็คือ
    ๑. เราจะต้องเบรค แรง/เบา ขนาดไหน ถึงจะได้ระยะเบรคที่พอดี กับความหัวทิ่มที่จะต้องคงที่ตลอด คือ ไม่ทิ่มน้อยลง หรือ มากขึ้น จนกว่าจะถึงจุดที่เกือบจะหยุด
    ๒. พอความเร็วเริ่มลดลง ด้วยน้ำหนักเบรคเท่าเดิม หัวมันจะทิ่มมากขึ้น ดังนั้น เราจะต้องปรับน้ำหนักเบรคให้น้อยลง ถึงจะทำให้หัวทิ่มเท่าเดิมได้
    ๓. ตอนที่ค่อยๆลดน้ำหนักเบรคก่อนจะหยุด จะค่อนข้างคุมยาก เพราะต้องให้หัวค่อยๆทิ่มน้อยลงเรื่อยๆ

    ผลทางตรงของการฝึกอันนี้ คือ การที่เราจะสามารถคุมเบรคได้ดีขึ้น ถ้าคนที่อยากจะไปวิ่งในสนาม ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก และ คนที่นั่งด้วย ก็จะนั่งสบายแน่ๆ แต่ก็ยังได้ผลทางอ้อมอื่นๆ เช่น การรับรู้เรื่องของ G-Force ที่เกิดขึ้นจากการเบรค และ สามารถปรับน้ำหนักของเท้า ตามแรง G-Force ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้สามารถคุมน้ำหนักการเบรค ให้ได้แรง G-Force ตามที่ต้องการ

    เอาง่ายๆเรื่อง Heel and Toe ก่อนละกันนะครับ ตามหลักการง่ายๆ มันคือการบาลานซ์รถ เวลาที่เราต้องการลดเกียร์ลง

    ตามที่เสธ.เอ๋ถามไว้ ว่า จะทำ down shifting ยังไง ไม่ให้รถมีอาการกระชาก หรือกระตุก หรือเสียอาการ

    ในขณะที่เรา down shifting หรือ ลดเกียร์ลง รอบเครื่องจะตีขึ้นสูง เนื่องจากอัตราทดของเกียร์ที่ต่ำกว่า

    ทีนี้ การจะทำให้มันนุ่มนวล ก็ต้องอาศัยการ Blip throttle(แย๊บคันเร่ง) เพื่อช่วยเร่งรอบเครื่องขึ้นไปรอ ในจังหวะที่เรากำลังจะปล่อยคลัทช์

    แล้วถามว่า เกี่ยวกับคำว่า Heel and Toe ได้ไง? ก็นี่หละครับ กระบวนการลดเกียร์ลง มักจะอยู่ในขั้นตอนการลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง

    โดยที่(ส่วนมาก) 1.เราจะใช้ด้านบนของเท้า(ตั้งแต่บริเวณนิ้วโป้งหรือ Toe)เป็นตัวกดแป้นเบรค---2.เท้าซ้ายเหยียบคลัทช์---ลดเกียร์ลง---3.ใช้ส้นเท้า(Heel)เป็นตัวแย๊บคันเร่ง

    เพื่อเร่งรอบขึ้นไปรอ---4.ปล่อยคลัทช์ ทำซ้ำจะไปถึงเกียร์จะเราจะใช้ออกจากโค้งก็เป็นอันเสร็จพิธี ขั้นตอนทั้ง 4 ดูเหมือนจะง่ายนะครับ แต่ว่ามันจะต่อเนื่องกันหมด

    โดยมาก ผู้ที่หัดใหม่ๆ มักจะคุมน้ำหนักเบรคเท้าไม่อยู่ เวลาใช้ส้นเท้าแย๊บคันเร่ง ก็จะเผลอกดน้ำหนักปลายเท้าที่เบรคลงไปด้วย ไม่ต้องตกใจครับ เป็นอาการปกติของคนหัดใหม่
     
  6. Cyber-Asti

    Cyber-Asti New Member Member

    1,682
    4
    0
    เอา 10000รอบมายั่วอีกแระ...เดี๋ยวก็ซื้อซะนี่

    ปล.คุณ1 Cusco คุณ1 อ่ะนั่งเรือมาถึงยังคับ..อิอิ รอชมอยู่นะ(แต่ไม่ได้รอซื้อนะ):D
     
  7. Cyber-Asti

    Cyber-Asti New Member Member

    1,682
    4
    0
    ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับวิชาคับแจ๊ส...สุดยอดเลยอ่ะ

    ขอบคุณที่ไม่หวงวิชานะคับ.....แจ่มเลยจิงๆ ต้องฝึกซ้อมบ่อยๆซะแร้วว
     
  8. ก้อง...

    ก้อง... New Member Member

    311
    3
    0
    ขอบคุนก้าบพี่แจ๊ส
    ปล. เวลาก้องทำ ฮีล แอน โท มัยก้องไม่ใช้ส้นเท้า ก้องใช้ แถวๆ นิ้วก้อยทามอ่ะ เป็นเหมือนกานป่าว
    ปล.2 เพิ่มเติม อีกทริกนึง คือใช้เท้าซ้ายเบรค แล้วเท้าขวา ก็เหยียบคันเร่งปกติ
    ใครแข่งที่สนาม BRC หรือ จิม น่าเอาไปใช้นะ ลองฝึกๆ ดู งิงิ
     
  9. ก้อง...

    ก้อง... New Member Member

    311
    3
    0
    ที่จะยากก็คือ
    ๑. เราจะต้องเบรค แรง/เบา ขนาดไหน ถึงจะได้ระยะเบรคที่พอดี กับความหัวทิ่มที่จะต้องคงที่ตลอด คือ ไม่ทิ่มน้อยลง หรือ มากขึ้น จนกว่าจะถึงจุดที่เกือบจะหยุด
    ๒. พอความเร็วเริ่มลดลง ด้วยน้ำหนักเบรคเท่าเดิม หัวมันจะทิ่มมากขึ้น ดังนั้น เราจะต้องปรับน้ำหนักเบรคให้น้อยลง ถึงจะทำให้หัวทิ่มเท่าเดิมได้
    ๓. ตอนที่ค่อยๆลดน้ำหนักเบรคก่อนจะหยุด จะค่อนข้างคุมยาก เพราะต้องให้หัวค่อยๆทิ่มน้อยลงเรื่อยๆ


    เขาเรียกว่า ABS มนุษย์ เหอๆๆๆๆ
     
  10. Super Colt

    Super Colt New Member Moderator

    2,980
    11
    0
    เอามาลองหน่อยได้ไหม ถ้าลองแล้ววัดรอบขึ้น พี่เอาเลย อิอิ :D
     
  11. ขอบคุณพี่บ๊อบค่ะ

    งั้นนู๋ฝากพี่หนึ่งหาคอมมือสองก่อนละกันนะคะ คอมบิ้วค่อยว่ากานอีกทีเนอะ

    ขอบคุณล่วงหน้าก๊าบบบบ :eek: :D
     
  12. eColt_94

    eColt_94 New Member Member

    17
    0
    0
    NGV ปะทะ LPG

    ข้อดีของ NGV

    1. เติมก๊าซ NGV แล้ววิ่งได้ 150 180 กิโลเมตรต่อครั้ง เราจะได้มีเวลาหยุดพักการขับรถ เพื่อรอการเติมแก๊ส (เติมก๊าซ NGV นานๆๆมาก) ทำให้ไม่ง่วงนอนและไม่หลับใน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้มากมาย

    2. เติมก๊าซ NGV แล้ววิ่งได้ 150 180 กิโลเมตรต่อครั้ง ถ้าไม่มีปั้มแก๊สให้เติม เราจะได้ใช้น้ำมันบ้าง (น้ำมันจะได้ไม่บูดคาถัง)

    3. เติมก๊าซ NGV แล้ว กำลังเครื่องยนต์ตกประมาณ 10 % แต่ถ้าเติม LPG กำลังเครื่องยนต์ตกเพียงประมาณ 5% เท่านั้น ซึ่งกำลังตกน้อยเกินไปไม่เพียงพอกับรถสมัยใหม่ที่กำลังมากเกินไป กำลังเครื่องยนต์ตกประมาณ 10 % ใน NGV จึงทำให้การใช้รถไม่จัดจ้านเกินความจำเป็นซึ่งถือว่าได้เพิ่มความปลอดภัยให้สูงขึ้น (ดีครับ)

    4. ก๊าซ NGV เบากว่าอากาศ หากมีการรั่วก็จะสะสมขึ้นบนที่ฝ้าเพดานรถ หากมีการลุกไหม้เราก้มหัวลงก็ปลอดภัยแล้ว แต่ถ้า LPG รั่วมันกองที่พื้น หากลุกไหม้ เรากระโดดขึ้นบนก็ชนเพดาน ยังไงก็ไม่พ้น ยอดไฟลนก้นอยู่ดี

    5. ก๊าซ NGV แรงอัดสูงกว่าแก๊ส LPG ประมาณ 20 เท่า หากถึงขั้นก๊าซ NGV ระเบิด มันจะได้ตายสนิทแบบไม่พิการแล้วจะได้ไม่เป็นภาระสังคม หรือ ญาติมิตร

    6. ถัง + ก๊าซ NGV หนักดีกว่าแก๊ส LPG เยอะ เวลาแก็สใกล้หมดถัง น้ำหนักของ NGV ก็ไม่เปลี่ยน เคยหนักอย่างไร ก็หนักอยู่เช่นนั้น (แบบนี้ออกแบบชุดรองรับน้ำหนักได้ง่ายกว่า) ท้ายไม่โด่งเวลาแก๊สใกล้หมดถัง ดูสวยกว่าเยอะ

    7. ถัง NGV มีการยืดหดสูง (มีอายุการใช้งานสั้น) ซึ่งถือว่าดีมาก ได้เปลี่ยนถังบ่อย จะได้มีถังใหม่ใช้บ่อย ๆ และ จะได้มีถังเก่าขายเป็นเศษเหล็กบ้าง (ไม่ค่อยได้ขายอะไรมานานมากแล้ว)

    8. เวลาเติมก๊าซ NGV ต้องใช้เวลานานกว่ามาก ซึ่งเป็นข้อดีมาก ลูกหลานเราจะได้เดินช็อปปิ้ง มินิมาร์คในปั้มได้อย่างหนำอกหนำใจ จับจ่ายใช้สอยกันได้เต็มอิ่ม ไม่งอแง

    9. หันมาใช้ NGV กันมาก ๆ จะได้มีแก๊ส LPG ไว้หุงต้ม

    10. ก๊าซ NGV มันดีมากจริง ๆ แทบไม่น่าเชื่อเลย ถ้าไม่ลองใช้ดู


    ข้อเสียของ LPG

    1. ติดแล้วใช้รถมากขึ้น สิ้นเปลืองมากขึ้น (ไม่เห็นประหยัดตรงไหน)

    2. เงินเหลือมากขึ้น เอาไปใช้ทางอื่น กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง มากขึ้น สิ้นเปลืองเข้าไปอีก

    3. เป็นคนขี้บ่นขึ้นเยอะ เมื่อรัฐปรับราคา LPG แต่ละที

    4. วันหยุดแทบไม่ได้พักผ่อน คิดแต่จะไปไหนดี

    5. ทำให้น้ำมันในถังบูดไปเลย

    6. ติดแล้ววิ่งได้ไกล คนขับอาจเมื่อยล้าได้

    7. เบื่อเวลาให้แบ็งค์พันแล้วต้องรอเงินทอน เสียเวลา

    8. ทำให้เป็นโรคลืม ลืมไปว่าที่เติมน้ำมันอยู่ข้างไหนตรงไหนกันแน่

    9. เป็นพวกปากจัด เวลามีคนมาว่า LPG และเชียร์ NGV

    10. เป็นพวกจิตใจเย็นชาไปเลย ไม่สนใจ ใด ๆ เกี่ยวกับราคาน้ำมัน

    แย่ ๆ ทั้งนั้น ใครคิดจะติดใหม่ไปติด NGV กันเถอะครับมีแต่ข้อดี และจะได้ไม่ต้องมา
     
  13. eColt_94

    eColt_94 New Member Member

    17
    0
    0
    แถมกันจัง ทำไมต้องแถม จะแถมอะไรถึงถูกใจ

    เวลาขับรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง มักจะมีของแถมกระจุกกระจิกมากับน้ำมันเครื่อง ขอแถมแบบไหนที่พี่น้องอยากได้ที่สุด ขอความเห็นหน่อย....เพราะไปเห็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อหนึ่งแถมไขควงไฟฟ้าได้มาไม่รู้เอาไปทำอะไร ทางทีแถมนาฬิกา ไม่ยักกะมีใครให้ส่วนลดเลยจะได้ประหยัดเงิน
     
  14. JAZZza

    JAZZza New Member Racer

    2,393
    18
    0
    นิ้วเท้าขวาเหยียบแป้นเบรค ส่วนส้นเท้าขวาเหยียบที่คันเร่งอ่ะ
     
  15. JAZZza

    JAZZza New Member Racer

    2,393
    18
    0
    ถูก :D
     
  16. JAZZza

    JAZZza New Member Racer

    2,393
    18
    0
    ก๊อปเขามาอีกทีอ่ะคับ อิอิ
    เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ก้อเลยเก็บมาฝากกัน
     
  17. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    ได้ครับพี่บี วันไหนดีล่ะครับ
     
  18. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    ได้จ้า
     
  19. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    ระวังเจอน้ำมันปลอมนะครับ พวกแถมของอะครับ
     
  20. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    วันนี้บุกไปรังรัก รังสวาท ของคุณปั๊ปที่ศรีราชามาครับ สวิทย์กระจกเสียอีก แต่ซ่อมแล้วเรียบร้อย อุอุอุอุอุอุอิ่มเลยครับวันนี้
     
  21. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    ยังมาไม่ถึงเลยครับ ตอนนี้ถอดOHLINS ขายแล้ว อาจจะต้องซื้อ GAB มาใช้พลางๆไปก่อน
     
  22. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    อิอิอิอิอิอิอิอิอิ
     
  23. Cyber-Asti

    Cyber-Asti New Member Member

    1,682
    4
    0
    หวัดดีคับเพื่อนๆ...ใกล้หน้า 200 แล้วนะเนี่ย....ดีคับ พวกเราก็ปั่นกะทู้นี้กันเป็นงานหลัก

    ช่วงนี้ซุ่มทำรถกันไปถึงไหนแล้ว....เอาให้เต็มที่นะคับ อีก2อาทิตย์ก็มีงานของ M-Max รอเราอยู่

    สู้ๆคับพี่น้อง Colt & Asti
     
  24. ก้อง...

    ก้อง... New Member Member

    311
    3
    0
    PTT ครับ แถม หม้ออบไฟฟ้า อิอิ ซื้อมาเอาแต่หม้ออบ เติม ท็อบวัน อิอิ

    ระวังของแถมอีกอย่างนะครับ แกร๊ก ๆๆๆๆ แก็กๆๆๆ ก็อกๆๆๆๆ

    หรือ คุยชายละลาบ อิอิ
     
  25. Cyber-Asti

    Cyber-Asti New Member Member

    1,682
    4
    0
    ไปถึงรังรักเค้าเลย...แล้วได้เจอพ่อนักรักชาวเหนือป่าวอ่ะคับ...อิอิ

    ฝากถามสารทุกข์สุขดิบด้วยเน้อ....เจอกันวันที่ 6 หรือก่อนหน้านั้นก็ได้ นัดมาเลย
     
  26. JAZZza

    JAZZza New Member Racer

    2,393
    18
    0
    ผมใช้น้ำมันเครื่องแกลอนละ 500 อ่ะ 555+
     
  27. podcolt

    podcolt New Member Member

    885
    1
    0
    ใช้ไม่เกิน6000รอบอ่ะ ลากสุดไม่เกิน3โล ไม่น่าพังน้า ปล ใช้ ปตท NGV-LPG อยู่อ่ะ 370บาทเองถูกกว่าแจ๊สอีกฮิฮิ ปล ไปวิ่งงาน M -MAX มาแว้วน้า:D
     
  28. podcolt

    podcolt New Member Member

    885
    1
    0
    แล้วใด้ถ่ายรูปอุปกรณ์ที่ใช้ทำรักกัน มาป่าวอ่ะ 555:D
     
  29. sarawutone

    sarawutone New Member Member

    1,355
    9
    0
    ดูอะไรล่ะครับ ซ่อมกระจกอยู่ เปิดกระจกบอกคุณปั๊ปว่า ตู.....ด..... รถม่ายด้ายปิด สวิทย์พังเลย อิอิอิอิอิอิ
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มิถุนายน 2008
  30. podcolt

    podcolt New Member Member

    885
    1
    0
    รูปล่ะ:)
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้