Practice 2 1. Rosberg Mercedes 1:55.409 23 laps 2. Hamilton McLaren-Mercedes 1:55.854 + 0.445 22 laps 3. Schumacher Mercedes 1:55.903 + 0.494 23 laps 4. Button McLaren-Mercedes 1:56.076 + 0.667 28 laps 5. Vettel Red Bull-Renault 1:56.459 + 1.050 18 laps 6. Hulkenberg Williams-Cosworth 1:56.501 + 1.092 26 laps 7. Massa Ferrari 1:56.555 + 1.146 30 laps 8. Petrov Renault 1:56.750 + 1.341 26 laps 9. Alonso Ferrari 1:57.140 + 1.731 25 laps 10. de la Rosa Sauber-Ferrari 1:57.255 + 1.846 24 laps 11. Kobayashi Sauber-Ferrari 1:57.352 + 1.943 27 laps 12. Sutil Force India-Mercedes 1:57.361 + 1.952 29 laps 13. Barrichello Williams-Cosworth 1:57.452 + 2.043 21 laps 14. Liuzzi Force India-Mercedes 1:57.833 + 2.424 29 laps 15. Kubica Renault 1:58.155 + 2.746 29 laps 16. Alguersuari Toro Rosso-Ferrari 1:59.799 + 4.390 31 laps 17. Webber Red Bull-Renault 2:00.444 + 5.035 12 laps 18. Kovalainen Lotus-Cosworth 2:00.873 + 5.464 23 laps 19. Trulli Lotus-Cosworth 2:00.990 + 5.581 14 laps 20. Glock Virgin-Cosworth 2:02.037 + 6.628 3 laps 21. di Grassi Virgin-Cosworth 2:02.188 + 6.779 21 laps 22. Senna HRT-Cosworth 2:06.968 + 11.559 17 laps 23. Buemi Toro Rosso-Ferrari 1 laps 24. Chandhok HRT-Cosworth ชูมี่บอกว่า ฝีมือของเขายังต้องเคาะสนิมอีก หลังหมดวลาซ้อมช่วงเช้าในการหา Set up ที่มี Balance เหมาะสม และยังทำเวลาได้ไม่ดีในการวิ่งแบบ Qualify [1 lap run] แต่ Overall Balance ในแบบ Long Run นั้นรถมีอาการเป็นกลางมาก (ผมว่าพี่แกก็ไม่ถูกกะ qualify แบบรอบเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ -*- ) Renault ยังมีปัญหากับ Understeer อยู่ ส่วน Mclaren มีปัญหายางหลังสึกหรอเร็วมาก Mclaren ไม่ยอมเปิดเผยชื่อของบริษัท Partner ที่เป็นคนคิดไอเดีย การนำ(เข่าของ)คนขับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชิ้นส่วนของระบบ Aerodynamic โดยกล่าวว่าจะเปิดเผยและมอบเครดิตให้อย่างเต็มที่และเหามะสม (ระบบนี้ถูกประเมินว่าช่วยให้ทำความเร็วในทางตรงเพิ่มได้ 6 ไมล์/ชม.) ความกังลวของ Massa ที่ว่าทีมใหม่ซึ่งมี Pace ห่างกันกว่า 5+ วินาที อาจจะก่อให้เกิดอันตรายใน F1 ได้ Webber เองก็เห็นด้วยกับ Massa "คุณลองนึกสภาพการที่มีรถที่วิางช้าขนาดนั้นอยู่ในสนามสิ" Red Bull - ในเมื่อ FIA ประกาศให้ Rear Wing เจ้าปัญหาของ Mclaren ถูกต้องตามกฏ เราก็จะไม่ประท้วงใดๆ แต่เราจะ Copy (แบบอ้อมๆ) โดยวิธีประยุกต์ใช้ ตามกฏเมื่อได้รัการอนุมัติแล้ว Chassis จะไม่สามารถทำการแก้ไขปรับเปลี่ยนได้อีก ทำให้ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้โดยตรง เพราะระบบของ Mclaren เป็นส่วนหนึ่งของ Chassis เราจึงต้องนำ Concept ของ Mclaren มาใช้ด้วยวิธีการประยุกต์ (ทีมอื่นๆก็มีเป้าหมายเช่นเดียวกัน)
Schumacher ยอมรับว่าจะต้องยกระดับของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง หลังการกลับมาสู่ F1 เต็มไปด้วยปัญหามากมาย Schumacher ทำเวลาได้ช้ากว่า Rosberg ในการฝึกซ้อมประมาณ 0.5 วินาที ตลอดทั้งวันนี้ โดยแชมป์โลก 7 สมัยไม่พยายามปกปิดความผิดหวังแต่อย่างใด "ผมต้องยกระดับตัวเองขึ้นมาอีกหน่อย และผมมั่นใจว่าจะทำได้ เพราะ Gap ครึ่งวินาที ระหว่างผมกับ Rosberg นั้นเป็นอะไรที่เรียกว่าต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับตัวผม" Mclaren เองก็ได้รายงานนักขับทั้งคู่ทางวิทยุว่า ทั้ง Schumacher และ Rosberg วิ่งด้วย Strategy เดียวกัน และท่าทาง Schumacher น่าจะยังสนิมจับอยู่จริงๆ FIA อาจจะนำกฏ 107% กลับมาอีกครั้ง หลังจากทีมใหม่ในปีนี้วิ่งได้แบบ Off-Paced (ช้า) มาก กฏนี้ถูกยกเลิกไปหลังจากระบบ 1 Lap Qualify ถูกนำมาใช้ กฏคร่าวๆคือคิดเวลาจากคนได้ Pole เป็นอัตราส่วน 100% แล้ว รถที่ทำเวลาได้ช้ากว่า 107% จากเวลาที่ดีที่สุดจะไม่สามารถลงแข่งขันได้ เพื่อความปลอดภัย Jean Todt กล่าวว่ากฏนี้ไม่น่าจะนำกลับมาใช้ได้จนกว่าจะถึงปี 2011 เพราะเป็นข้อตกลงที่ทีมทั้งหมดต้องตกลงร่วมกัน "นี่เป็นเวลาที่เราควรจะสนับสนุนทีมใหม่ๆ ไม่ใช่วิจารณ์ เราควรจะต้องให้ความเคารพกับทีมที่กล้าลงทุนขนาดนี้ ในยุคเศรษญกิจตกต่ำ เพื่อเข้ามาสู่ F1 เราควรจะให้เวลาเพื่อให้พวกเขาพร้อมมากกว่านี้"
Prost กับ Hill จะร่วมกับทีมงาน stewards (กรรมการ) ในการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ หลังปีก่อนๆ stewards ถูกต่อว่าจากทีมต่างๆบ่อยครั้งว่า ทำงานไร้ประสิทธิภาพ และขาดความเข้าใจ ขาดวิศัยทัศน์ในการตัดสิน โดย Hill จะเข้าร่วมเป็นจำนวน 2 สนาม และจากนี้จะมีนักขับที่มีประสบการณ์เข้าร่วมกับทีมงาน stewards เสมอ เพื่อยกระดับการตัดสิน ภาพช่องลมเจ้าปัญหาของ Mclaren [อยู่นี่เองหรอกรึ? นึกว่าจะแอบๆซะอีก -*- ] มีใครอยากได้ Invite มั้ยคร้าบ กะลังเริ่มคึกคัก Practice จบรายงานข่าวมา รายงานข่าวจบวีดิโอก็ตามมาแล้ว นี่ผมกะลังนั่งโหลด Practice 2 อยู่
แล้วไอ้เจ้าช่องลมนี้มันทำงานยังไงหว่า...?? ถ่ายทอดสดทรูวิชชั่นช่อง 107 เวลา 17.50 น. วันนี้....!! ^^ แล้วร้าน RT นี้..ต่ำกว่า20 เข้าได้ปะคับ... ปล.ขอบคุณครับ..ข่าวดีๆเพียบเลย ไม่ได้เข้ามาตั้งหลายวัน ไอ้IEเจ้าปัญหา..ใช้Firefoxมันซะเลย
เขาว่ามันเป็นช่องดักลมเข้าไปเป่านักขับอ่ะครับ (แอร์) ถ้าเปิด ลมก็จะ Flow เข้าไปตามช่อง แต่ถ้าปิด บมจะไม่ Flow เข้า ก็จะกลายเป็นเหมือนมีอะไรมาต้านหรือเปลี่ยนการไหลของกระแสอากาศ และเพราะมันอยุ่ด้านหน้ามากพอ เวลามันรบกวนการไหลของกระแสอากาศ กระแสอากาศที่ไหลไปกระทบ Rear Wing จึงน้อยลง ลดดาวน์ฟอร์ซ (ทางตรงไม่จำเป็น) และลด Drag (แรงเสียดทาน) ทำให้รถสามารถทำความเร็วได้สูงขึ้น อะไรประมาณนี้อ่ะครับ รูปทำลวกๆนะฮะ แต่น่าจะพอเข้าใจ Concept มันได้คร่าวๆ ปล: ผมดู Practice 2 ละ ดูเหมือนชูมี่จะสนิมขึ้นจริงๆ การตอบสนองช้าลง คงเพราะที่ผ่านมาขับแต่รถเบาๆ ซึ่งอาการรถออกช้ากว่า F1 พอสมควรด้วย แต่ซักพักก็น่าจะเข้าทางนะ ดูแล้วไลน์ยังเฉียบอยู่ แค่แก้อาการรถช้าไปหน่อย ถ้าคืนความเฉียบไวได้เมหือนเดิมล่ะก็ ผมว่ายังน่ากลัวอยู่ ดูจากตอนแข่ง ROC ก็ชนะ Button หรือแข่ง Kart ก็ปล่อย Massa ชนะ ปล2: ล่าสุดเห้นว่ารถมีอาการ Understeer เยอะ ในขณะที่ชูมี่จะชอบรถที่ Oversteer นิดๆ หรือรถที่มี Slip Angle เป็นกลาง ส่วนเรื่องปัญหายางหลังของ Mclaren ที่ผมดูจาก Practice ที่โหลดมา หลังขับไปเพียง 4 รอบ Hamilton วิทยุบอกทีมว่า "Rears are Destroyed" หรือยางหลังไปหมดแล้ว และยางที่ว่านี้เป็นยาง Hard Compound ด้วย ถ้ามันกินยางขนาดนี้ก็ถือว่าน่ากลัวมาก
อีกครั้งกะ Inlet เจ้าปัญหา ทีมงานเซ็ทรถกันข้ามคืนเพื่อความพร้อม Practice 3 11:12: Di Grassi มีปัญหากับระบบเกียร์และมุ่งกลับเข้าพิททันที 11:16: Chandhok มีปัญหากับระบบไฮดรอลิค ยังไม่สามารถออกจากพิทได้ 11:18: Vettel ทำเวลาได้ 1:55.178 เร็วกว่าเวลาของ Rosberg เมื่อวานนี้ ขี้เกียจนับเวลา -*- : virgin ของ Timo Glock ล้อหลุดออกมา แต่ประคองรถกลับพิทได้สำเร็จ 11:24: Massa 1:54.761 11;26: Rosberg ทำเวลาแซง Vettel ขึ้นเป็นที่ 2 11:30: ที่ล้อหน้าซ้ายของ Glock หลุดออกมาเพราะล้อไม่แน่นพอเพราะ Wheel Gun มีกำลังต่ำเกินไป วิทยุรายงานว่าล้อหลังก็หลวมแต่ระบบเซฟตี้ช่วยตรึงล้อเอาไว้อยู่ 11:38: Schumacher แซง Senna อีกครั้ง หลังไม่มีโอกาสแซงมานานกว่า 10 ปี 11:??: เปลี่ยนบ่อยพิมพ์ไม่ทัน ดูผล Live Timing เอานะครับ 12:00: ผมต้องทำงานต่อแล้วครับ =_=" เนื่องจาก Chandhok รถมีปัญหาไฮดรอลิ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน ตามกฏของ FIA นักแข่งไม่สามารถลงแข่งได้ โดยที่ไม่ได้เข้าร่วม Practice Session เลย (ต้องร่วมซ้อมอย่างน้อย 1 Session) เท่ากับว่า การ Debut เปิดตัวของเขาใน Bahrain GP ต้องล้มเหลวลง
จบ คิว สอง แดง น้ำเงิน มาแรง สนามนี้ เหอ เหอ เหอ ลูกพี่ชู ยังสนิมขึ้นเจงๆๆ ป๋ารอสโชว์เหนือ (ได้อีกนานแค่ไหน) เหลืองก้อใช้ได้นะเนี่ย ดูๆๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ต้องขับ style aggressive ถึงจะเวิร์ก top ten list ตอนนี้ เป็นพวก aggressive ท้างน้าน (มี button ห้อยท้าย ขับนิ่มสุด)
เวท เข้าป้าย ม้าแดงปีนี้แรง หรือว่าคนอื่นเขา save ยางไว้วิ่ง stint แรก ดูๆ แล้ว น่าจะเร็วได้มากกว่านี้ดิ ดูแล้วมึนไปหมด มีตัว big name ให้ลุ้นเยอะจัด
Hamilton บอกว่าเท่าที่ดูแล้ว Mclaren น่าจะยังมี ดาวน์ฟอร์ซไม่พอ เฉพาะใน Sector ที่ 2 ซึ่งเป็น Low speed sector ก็เสียเวลาไปเกือบ 1 วินาทีแล้ว Schumacher ตอบสื่อว่าเขายังต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับการกลับคืนสู่ F1 หลังทำเวลาได้ช้ากว่า Rosberg ในทุก Section "ช่วงเวลาที่ผมอยู่บนและเหนือลิมิตของรถมันสั้นลง แต่ผมยังมีเวลาอยู่" และด้วยความเป็นมืออาชีพ เขาถูกช่างภาพสังเกตเห็นหลังจบการ Qualify ว่า มีเพียงเขาคนเดียว ใช้เวลาที่มีสังเกตรถคุ่แข่งอย่างใกล้ชิด เพื่อทำการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ ในขณะที่รถ Top 10 ทั้งหมดกำลังเข้าคิวรอชั่งน้ำหนักที่ parc ferme สื่อยังประเมินกันว่า แม้ในการ Qualify เขาอาจยังปรับตัวได้ไม่ดี แต่ในการวิ่งระยะยาวเขาน่าจะยังทำได้ดีกว่า
ว้าวววววววว แต่สนามนี้มันดูแห้งๆๆ ไม่สวยเลยเนอะ ดูแล้วไม่สดชื่น แต่เฟอร์ เข้าเนี่ย แต่คิมมี่ มะอยู่ เลยรุสึกแปลกๆ คิ คิ คิ
ปัญหาที่เกิดกับ Red Bull ของ Vettel ไม่ใช่ท่อไอเสียร้าวหรือแตก หลังจากการตรวจสอบพบว่าปัญหาเกิดจาก "หัวเทียนล้มเหลว/ขัดข้อง" Takuma Sato แหกโค้งแรก ในการเปิดตัว Indy Car ครั้งแรกของเขา หลังสร้างความประทับใจด้วยการได้ออกตัวในอันดับที่ 10 Sato ก็ทำพลาดโดยการเบรคโค้งแรกลึกเกินไป Oversteer แล้ว Spin ไปเกี่ยวกับคันอื่นอีก 2 คัน คู่กรณีคนอื่นสามารถกลับไปแข่งต่อได้ แต่รถของ Sato เสียหายเกินกว่าจะแข่งต่อ บอสทีมต่างๆเตรียมประชุมกันเพื่อพัฒนา F1 2010 จากการที่ Bahrain GP ได้รับการขนานนามว่า Bore-rain GP (ผันมาจาก Boring=น่าเบื่อ) และการที่ Schumacher เป็นคนแรกที่ตอบสื่อว่า "การแซงนั้นเป็นไปไม่ได้เลย" "ถ้าไม่มีใครทำพลาด ก็ไม่มีใครแซงใครได้" "ทุกทีมมี Strategies เหมือนกันหมด รถก็หนัก จะตามให้ใกล้พอทำการแซงก็ไม่ได้ เพราะยิ่งใกล้ downforce ยิ่งน้อย+รถหนัก = บาน +ยาง overheat" แม้แต่ Webber เองก็ยังโพสท์ประชดประชันคนออกกฏบน Twitter ว่า "ทำไมมันจะต้องมาเสือกคารวยอะไรอยู่ตลอดเวลาวะ? ออกตัวโดนแซงปุ๊บทุกอย่างก็จบแล้ว" นักแข่งคนอื่นๆ Hamilton, Button และคนอื่นๆต่างก็บ่นกันระงมเป็นเสียงเดียวกัน ในปีฟุตบอลโลก 2010 ปีที่ทั้งสื่อ ผู้ชม ทีมต่างๆและนักแข่ง หวังว่าจะเป็นปีที่ตื่นเต้นและน่าสนุก ปีที่หวังจะเพิ่มสปอนเซอร์และผู้ชมให้รายการ กลับเปิดตัวด้วยความน่าเบื่ออย่างที่สุด และถูกต่อว่าจากทุกฝ่าย ทีมต่างๆมองดูว่าขณะนี้การบังคับให้ต้องเข้าพิทเปลี่ยนยาง 2 ครั้งดูจะเป็นทางที่ดีและเป็นไปได้มากที่สุด แม้ว่าจริงๆแล้วมันจะยังไม่เพียงพอ บอสทีมหนึ่งกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องน่าอนาถที่สุดที่ทุกคนขับรถเรียงกันเหมือนรถไฟ รอเข้าพิทหนเดียว แล้ววิ่งไปจนจบเหมือนเดิม" Massa ตอบสื่อว่าการออกตัวที่ไม่ดีและความกังวลเรื่องน้ำมันทำให้เขาพลาดแชมป์ไป "ผมออกสตาร์ทจากเลนใน ซึ่งไม่มีกริป ทำให้ Alonso แทรกขึ้นมาจากด้านนอกของโค้ง 1 ได้" "ปัญหาอุณหภูมิภายในตัวรถสูง ทำให้อัตราการบริโภคน้ำมันสูงกว่าปกติ" "และผมต้องขับประหยัดน้ำมันตลอดในช่วง 25 รอบสุดท้าย จนเสียโอกาสทั้งหมดไป" มีด่าแสบๆเป็นสิบเลยครับ แต่ผมขี้เกียจแปลอ่ะ มันยาว นี่เผาพอให้เข้าใจนะฮะ -*- Chandhok ขอโทษทุกคนรวมทั้งทีมงานที่เขาทำพลาดชนกำแพงจนรถเสียหาย จากการที่เขาไม่มีโอกาสลงซ้อมเลย ทำให้เขาไม่คุ้นเคยกับ Section ใหม่ของสนาม ซึ่งไม่เรียบ มี Bump ขนาดใหญ่ติดๆกัน และตรงนี้เองที่เขาเสียท่าจนต้องออกจากการแข่งขัน แต่งานนี้ถือว่าคุ้ม เพราะลือกันว่า Sponsor ส่วนตัว จ่ายค่าวิ่งให้เขาถึงรอบละ 50000$ วิ่งไปได้กี่รอบลองคำนวนดู =_= Bernie หรือ Mister E แทนที่จะห่วงเรื่องความน่าเบื่อดั๊นมุ่งมั่นรีบหาตังค์ ปีหน้าเราน่าจะแข่งได้ถึง 20 สนาม หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นการ return ของ US GP โดยตอบสื่อถึงเหตุผลว่า "ทำไมน่ะรึ? 20 มันจำง่ายดี" เป็นที่ล้อเลียนกันในหมู่สื่อถึงว่าทั้ง Alonso, Massa, Hamilton นั้นดูน่าสงสารน่าอนาถาแค่ไหน ตอนกำลังจะเดินขึ้นรับรางวัลที่โพเดียม หลัง Emirates Airlines ระดมพลแอร์สาวที่สูงที่สุดมาทั้งขโยง จนทั้งสามคนดูเหมือนไอ้เตี้ย -*- ได้รุป rear wing ใหม่มาละฮะ เดี๋ยวว่างลงให้ดูครับ
