เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
Sport Truck.
>
<<<Midnight Racing>>>
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="Reloaded, post: 1239478, member: 30843"]On the Street</p><p>รถแต่งที่เพิ่งโมดิฟายเสร็จเมื่อคืนวันเสาร์ จะนำออกมาลองในเช้าตรู่วันอาทิตย์โดยใช้ถนนนอกเมืองที่การจราจรไม่พลุกพล่าน เคนมักออกไปลองรถคนเดียวเสมอ เพราะไม่ใช่เรื่องน่าสนุกแถมค่อนข้างอันตราย บ่อยครั้งที่ต้องใช้ความเร็วเกินธรรมดาไปมาก เพียงเพื่อค้นหาข้อบกพร่องของรถเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นวันนี้</p><p>กล่องเครื่องมือขนาดพกพา คอมพิวเตอร์โน้ทบุ๊ค พร้อมกล้องถ่ายรูปอัตโนมัติ และวิทยุสื่อสาร นี่คือสิ่งที่เคนพกติดตัวตลอดเวลา และวันนี้เขากำลังทำความเร็วไต่ระดับ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่บนถนนสายหนึ่ง</p><p>สำหรับความเร็วสูงพิเศษเช่นนี้เขาจะไม่ละสายตาไปจากผิวถนนเด็ดขาด มาตรวัดต่างๆ ที่ติดอยู่นั้นใช้เหลือบมองได้เพียงแค่ขณะใช้ความเร็วต่ำ หากขับรถจนถึงขีดสุดอย่างเคนแล้วจะต้องใช้ระบบเตือนด้วยเสียงผ่านทางหูฟังพิเศษ หรือไม่ก็ใช้การเตือนด้วยระบบแสงระบบ HUD - Head Up Display โดยให้แสดงผลบนกระจกหน้าเหมือนที่ใช้ในเครื่องบินรบเพื่อความปลอดภัยที่สูงกว่าธรรมดา</p><p>ตี๊ดๆ ๆ เสียงเตือนขึ้นที่หูฟัง แต่เคนยังไม่ยกคันเร่งขึ้น จนเสียงเตือนนั้นดังถี่รัวขึ้นพร้อมกับปรากฎตัวหนังสือเขียนว่า 'Lean' สีแดงขึ้นที่กระจกหน้า</p><p>ฟั่วววว.. ทันที่ที่ถอนคันเร่งเสียงคายอากาศของโบลวออฟวาล์วก็ดังขึ้น ตัวหนังสือ Lean ที่สว่างค้างอยู่หายไป</p><p>กระแทกคันเร่งลงสุดทันที เข็มวัดรอบกวาดขึ้นอย่างเร็วมากไปหยุดการเคลื่อนไหวที่ 10500 รอบ/นาที จาก 5 ลดเกียร์ลงไปอยู่ที่ 4 เท้าทั้งสองสอดผสานทำหน้าที่อย่างคล่องแคล่วเมื่อเข้าโค้งมุมกว้าง เข็มความเร็วยังคงชี้ไม่ต่ำกว่าเลข 220 และค่อยๆ ขึ้นช้าลงเมื่อเข้าใกล้เลข 260 </p><p>เสียงตี๊ดๆ ดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงกดสวิทช์พิเศษเพื่อปรับการจ่ายน้ำมันเป็นแบบอัตโนมัติ ตัวหนังสือ 'Auto Fuel' สว่างค้างขึ้นที่มุมล่างขอบกระจกหน้า เท้าขวากดคันเร่งแช่จนจมมิดพื้น สายตายังคงจ้องเขม็งที่ปลายสุดถนน ความเร็วระดับนี้ต้องไม่มีช่องว่างสำหรับความผิดพลาดใดๆ </p><p>เข็มความเร็วชี้ทะลุเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เครื่องยนต์ยังคงทำงานเป็นปกติ มาตรวัดทุกตัวไม่มีการฟ้องเตือนใดๆ เขาเหลือบมองที่มาตรวัดส่วนผสมระหว่างน้ำมัน/อากาศเป็นครั้งสุดท้ายก่อนถอนคันเร่งลดความเร็วให้ลงมาอยู่ในย่านปลอดภัย</p><p>เอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำมาดื่ม ขับรถไปได้สักครู่ใหญ่ ทันทีที่รู้สึกสดชื่นก็กระแทกคันเร่งจนติดพื้นอีกครั้งเพื่อทดสอบระบบ Aerodynamic ของแผ่นสปอยเลอร์หลัง โดยการเลือกระบบปรับ สปอยเลอร์หลังเป็นแบบอัตโนมัติที่จะเริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็วรถไต่ระดับเกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง</p><p>เริ่มตั้งให้นาฬิกาจับเวลาอัตโนมัติเริ่มเดินนับตั้งแต่ความเร็ว 100 - 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้ทันทีที่เข็มความเร็วไปถึงเลข 100 นาฬิกาก็เริ่มทำงาน เคนกดคันเร่งจนติดพื้นรถราวกับว่าจะให้แป้นเหยียบทั้งอันจมหายลงไป เข็มวัดบูสท์และวัดรอบกวาดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เสียงเครื่องยนต์ที่ทำงานรอบสูงช่างมีเสน่ห์ให้ใครหลายคนหลงไหลได้ไม่ยาก</p><p>ตัวเลข 4.33 กระพริบเป็นสีเขียวแสดงขึ้นที่กระจกหน้า เคนยกคันเร่งขึ้นปล่อยให้เข็มความเร็วชี้ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงพร้อมกับปรับคันโยกระบบการสั่งงานที่พ่วงจากกล่องอีซียูจาก Mode การทำงานแบบ High Speed มาเป็น Normal Cruise เป็นอันสิ้นสุดการทดสอบสำหรับวันนี้</p><p>ขับรถมุ่งหน้ากลับที่พักด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด เขาตระหนักดีเสมอว่าบ่อยครั้งที่ทำผิดกฎหมายในเรื่องที่จำกัดความเร็วสูงสุด แต่ก็เพราะการใช้ความเร็วสูงนี่แหละที่เขาช่วยชีวิตผู้ขับรถบนนถนนมาแล้ว</p><p>มีอยู่ครั้งหนึ่งพบรถฮอนด้าสามประตูแต่งเต็มยศขับมาด้วยความเร็วสูง เสียงเครื่องดังมากราวกับรถแข่งในสนาม ท่อไอเสียขนาดใหญ่ตะแคงเฉียงออกด้านท้าย แต่ผิดปกติที่มีเปลวไฟลุกติดที่ใต้ท้องรถอยู่กลุ่มหนึ่ง ผู้ขับยังคงใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง เคนคาดว่าเขาคงไม่รู้ตัวจึงขับตามประกบขึ้นไปแล้วเรียกให้หยุดก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ทั่วทั้งคันในไม่กี่นาที</p><p>เนื่องมาจากว่ามีน้ำมันรั่วไหล จะเพราะสาเหตุว่าท่อส่งน้ำมันรั่วหรือจะอย่างไรก็แล้วแต่ น้ำมันจำนวนนั้นกระเด็นไปโดนท่อไอเสียที่ร้อนจัด และก่อตัวลุกเป็นเปลวไฟโดยไหม้ท่อยางส่งน้ำมันและไล่ไปจนถึงถังน้ำมันที่บรรจุอยู่ในฝากระโปรงท้าย จนกลายเป็นหายนะในที่สุด </p><p>เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เจ้าของรถที่ถูกไฟไหม้ได้รับบทเรียนราคาแพง แต่ยังโชคดีที่ไม่มีการสูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บ</p><p>พอขับถึงบ้านก็จัดแจงเอาคอมพิวเตอร์ที่บันทึกข้อมูลไว้ทำการ Download ไปใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งเพื่อทำเป็น Back Up ไว้ จากนั้นก็ทำการเปรียบเทียบข้อมูลกับผลการทดสอบคราวก่อนเพื่อหาค่าเฉลี่ย และเก็บไว้เพื่ออ้างอิงในการทดสอบในครั้งต่อๆ ไป</p><p><br /></p><p><br /></p><p>*สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต / พัทยา / อาทิตย์ 5.30 pm. </p><p>เคนกำลังขับรถกลับกรุงเทพฯ โดยออกเดินทางจากจังหวัดระยองพลันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีการแข่ง ควอเตอร์ไมล์ที่สนามพีระฯ พัทยา ไหนๆ ก็ผ่านอยู่แล้ว แวะเข้าไปดูเด็กๆ เขาเล่นรถกันหน่อยจะเป็นไร </p><p>แม้ไม่ได้ย่างกรายเข้าสนามแห่งนี้มาเกือบ 10 ปีเต็ม ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเดิม ต่างเพียงผู้คนหนาแน่นราวกับนัดกันมางานอะไรสักอย่าง เคนขับลอดอุโมงค์ขึ้นไปจอดยังลานโล่ง ยอมเดินไกลหน่อยแต่เวลาออกจะสะดวกกว่า </p><p>วัยรุ่นหันมาเล่นรถกันเยอะกว่าที่สมัยเคนเป็นหนุ่มๆ แต่ท่าทีของผู้เล่นรถกลับต่างไปจากสมัยที่เขาเป็น สมัยก่อนไม่มีการนำช่างมาเซอร์วิสกันที่สนาม เพราะนักขับทุกคนจะต้องทำรถตัวเองเป็นทุกอย่าง แต่สมัยนี้มิได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว </p><p>อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมากแล้ว ระบบหัวฉีดทันสมัยทำให้นักปรับจูนไฮเทคกลายเป็นหมอเทวดาที่สามารถสั่งรถคันนั้นให้มีพลังขนาดไหน กล่องควบคุมสมองกลอัจฉริยะที่คิดเองได้ แต่ยังไม่พอกับความต้องการ จนเป็นที่มาของกล่องอีซียูแบบปรับตั้งค่าได้ และชุดแต่งฉลาดๆ อีกหลายชนิด ทำให้พ่อมดมอเตอร์สปอร์ตผงาดขึ้นยืนหัวแถวของนักโมดิฟาย ทั้งๆ ที่หลายคนมีความรู้เรื่องพื้นฐานเครื่องยนต์น้อยมาก</p><p>แต่หารู้ไม่ว่าในอุปกรณ์อีเลคโทรนิคที่แสนฉลาดก็แสนจะโง่เง่าอยู่ในตัว จุดอ่อนนี้เคนรู้ดีว่าคืออะไร และเคย 'เก็บ' รถซิ่งยุคใหม่ๆ มาแล้วหลายคันด้วยการ 'ย้อนรอย' ด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน</p><p>เขาดูจะไม่ค่อยพอใจในลักษณะการขับรถของบรรดา Midnight Racing บางคนในปัจจุบันมากนัก หลายคนขับรถด้วยสภาพมึนเมา และอัดรถด้วยความคึกคะนอง พร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุทุกเมื่อ ต่างจากสมัยเมื่อเขาเป็นหนุ่มเสียสนิท หลายครั้งที่พบการ 'ท้าทาย' จากเด็กที่ยังไม่รู้แม้กระทั่งกฎของ Midnight Racing แม้ไม่อยากเล่นด้วย แต่ก็อดที่จะสั่งสอนไม่ได้ โดยเฉพาะพวกรถแรงที่มักใช้ความแรง 'ข่ม' รถผู้อื่น และแน่นอนได้เลยว่าการสั่งสอนของเคนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ขับฉีกแซงขึ้นหน้าแล้วนำหายไปเฉยๆ </p><p>สำหรับผู้มีปัญญาเป็นอาวุธ การขับแซงขึ้นหน้าด้วยเครื่องยนต์ที่มีแรงม้ามากมิใช่วิธีการของผู้มีมันสมองเหนือกว่า หากแต่ต้องเป็นการทำให้คู่แข่งขึ้นหน้าเขาไม่ได้ต่างหาก ไม่ได้แกล้ง ไม่ได้กัน แต่เป็นการล็อคระบบการทำงานของรถคู่แข่งให้อยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง ทั้งๆ ที่ความเร็วไม่ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง รถแรงแตะพันแรงม้าก็เหมือนลูกแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งในแค่พริบตา</p><p>ด้วยความช่วยเหลือของ 'Skeet' เคนจึงทำเช่นนั้นได้ และความลับนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ใดมาก่อน</p><p>เคนเดินดูบรรยากาศไปเรื่อยๆ จนถึงเส้นสตาร์ท ไม่กล้าเข้าไปใกล้มาก กลุ่มวัยรุ่นมองเขาแปลกๆ จนต้องหลบสายตาพวกกลุ่มคลื่นลูกหลัง คนเล่นรถสมัยนี้ดูจะมีเงินมากกว่าสมัยก่อนเยอะ แต่สิ่งที่อยู่ในใจของผู้ขับคงไม่ต่างกันมากเท่าไร</p><p>รถแข่งส่วนใหญ่ยังคงมาจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลที่ว่าราคาย่อมเยาว์กว่าเพื่อน และมีปัญหาด้านอะไหล่น้อยกว่ารถทางฝั่งยุโรปหรืออเมริกัน เดินทอดสายตาไปเรื่อยจนมาสะดุดรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง เดินเข้าไปดูใกล้ๆ รู้สึกคุ้นตา ไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่ก่อนที่จะละสายตาไปนั้น เหลือบไปเห็นเสื้อแจ๊คเก็ตแขวนอยู่ที่ริมหน้าต่างรถของอีกด้านหนึ่ง เคนหยุดคิดในใจ นิ่งไปสักครู่ </p><p>สอดสายตามองหาไปทั่ว ทว่าคนวงนอกอย่างเขาไม่มีทางทราบได้ว่าใครคือเจ้าของรถ ยังไม่สิ้นความพยายาม เที่ยวเดินสอบถามผู้คนไปเรื่อย แต่จนแล้วจนรอดก็ได้คำตอบเหมือนเดิม</p><p>"ไม่ทราบครับพี่" </p><p>"ไม่รู้ครับ"</p><p>“พี่ลองไปถามคนทางกลุ่มโน้นดูสิ”</p><p>อาทิตย์คล้อยต่ำลงไปมาก ความมืดเข้ามาเยือนอย่างรวดเร็ว จนต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะคลาดกับเจ้าของรถที่เขาอยากพบ เลยตัดสินใจทิ้งโน๊ตไว้บนกระจกหน้าแล้วเดินจากไป</p><p>โฆษกสนามประกาศเริ่มการแข่งขันรุ่นโอเพ่น ผู้ชมกลุ่มใหญ่แห่กรูไปยืนเบียดกันใกล้จุดปล่อยรถ เคนเลี่ยงไปยังด้านเส้นชัย เดินเลาะ Pit Wall เรื่อยเปื่อย ในใจยังคงนึกถึงรถสปอร์ตคันนั้น แต่พอถึงรถก็เห็นกระป๋องเบียร์ที่ดื่มหมดแล้ว 3 ใบ วางอยู่บนสปอยเลอร์หลัง มีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มกันอยู่ บางคนในกลุ่มนั้นยืนพิงรถเขาอยู่</p><p>รู้สึกไม่ชอบ และโมโห แต่เคนระงับอารมณ์ทั้งหมดไว้ ตรงรี่ไปยังรถ กลุ่มวัยรุ่นมองเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตรมากนักแต่ก็หลีกทางให้เมื่อเคนเดินเข้าไปใกล้ </p><p>"กระป๋องเบียร์พวกนี้เป็นของคุณหรือเปล่า" เคนถามด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่กร้าวในที</p><p>วัยรุ่นมองหน้ากันสักครู่ หนึ่งในกลุ่มนั้นเดินไปปัดกระป๋องเปล่าออกจากแผ่น Air Foil ลงพื้น น้ำเบียร์ที่ค้างติดอยู่ในกระป๋องเกือบครึ่งกระฉอกออกมา กระเด็นไปโดนขากางเกงและรถของเขาที่จอดอยู่</p><p>ไม่มีใครพูดอะไร เคนมองหน้าทั้งกลุ่มด้วยสายตาเอาเรื่อง คนหนึ่งในกลุ่มหัวเราะหึๆ แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง เคนก็เตะเข้าที่กรามจนเลือดกลบปาก กลุ่มแตกกระเจิง พวกที่เหลือจะเข้ามารุม แต่ก็ได้แค่คิดเพราะทันที่ที่วิ่งเข้ามาก็ถูกถีบเข้าที่ด้านล่างชายโครงจนกระเด็นไปชนถังขยะล้มลง มือซ้ายคว้าเข้าที่ลูกกระเดือกของคนมีหนวดดิ้นพล่านจนต้องร้องขอให้ปล่อย เหลืออีกคนที่อยู่ตรงข้ามคว้ามีดพกออกมาจากเอว ถือมีดมือสั่น ท่าทางขึงขัง แต่ประสบการณ์ของพวกนี้ยังไม่ได้เสี้ยวของเคน คนจริงที่ผ่านโลกมาโชกโชน</p><p>"เก็บมีดซะเถอะไอ้เด็กน้อย เดี๋ยวมึงจะเจอหนักกว่านี้" น้ำเสียงธรรมดา แต่สายตานั้นดุ จนคนอ่อนประสบการณ์ต้องยอมแพ้ </p><p>นักเลงกระจอกถอดใจทิ้งมีด วิ่งเข้าไปประคองเพื่อนที่ล้มลุกคลุกคลาน แม้โดนกันไปแค่คนละนิด หากแต่ตำแหน่งที่เคนซัดเข้าไปนั้นคือจุดสำคัญในร่างกายทั้งนั้น คนที่หัวเราะเยาะโดนหนักกว่าเพื่อน เท้ากระแทกปากฟันหลุดไป 2 ซี่ นอกนั้นแค่เจ็บภายนอก ทราบภายหลังว่าเป็นหัวหน้าแก๊งขายยาฯและงัดแงะอะไหล่รถแต่ง</p><p>เคนเดินไปติดเครื่องรถ แต่ไม่ลืมกดปุ่มพลิกแผ่นป้ายทะเบียนให้กลับด้านกลายเป็นอีกแผ่นหนึ่งเพื่อป้องกันการระรานในระยะยาว ขับออกจากสนามพีระฯ โดยทิ้งความทรงจำให้คนกลุ่มหนึ่ง ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากต่อสู้ แถมล้างมือจากเรื่องพวกนี้มานาน แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะสำหรับเขาการรุกคือวิธีตั้งรับที่ดีที่สุด </p><p>ท้องฟ้ามืดสนิท เคนออกจากสนามพีระฯ มุ่งหน้ากลับบ้านที่กรุงเทพฯ โดยใช้ถนนบายพาส ขับด้วยความเร็วปานกลาง และขณะขับอยู่เพลินๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาวคนหนึ่ง คุยกันแบบไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก สัญญาณไม่ค่อยชัด แต่พอสรุปได้ว่าเธอต้องการความช่วยเหลือเพราะรถยางแตกอยู่ข้างทาง เคนไม่รีรอที่จะขับรถย้อนกลับไป นี่คือสิ่งที่เขาทำมาจนเป็นนิสัยมานานปี ขับรถไปได้สัก 15 นาทีก็พบรถจอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ข้างทาง เข้าไปใกล้ๆ จึงรู้ว่าคือนิสสัน สกายไลน์ R32 </p><p>เสียวสันหลังวาบ ถ้าจำไม่ผิดก็คือคันเดียวกันกับที่เขาเที่ยวเดินตามหาเจ้าของรถในสนามพีระฯ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง </p><p><br /></p><p><br /></p><p>ก๊อปเค้ามา ยังไม่มีปัญญาเขียนได้ขนาดนี้[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="Reloaded, post: 1239478, member: 30843"]On the Street รถแต่งที่เพิ่งโมดิฟายเสร็จเมื่อคืนวันเสาร์ จะนำออกมาลองในเช้าตรู่วันอาทิตย์โดยใช้ถนนนอกเมืองที่การจราจรไม่พลุกพล่าน เคนมักออกไปลองรถคนเดียวเสมอ เพราะไม่ใช่เรื่องน่าสนุกแถมค่อนข้างอันตราย บ่อยครั้งที่ต้องใช้ความเร็วเกินธรรมดาไปมาก เพียงเพื่อค้นหาข้อบกพร่องของรถเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นวันนี้ กล่องเครื่องมือขนาดพกพา คอมพิวเตอร์โน้ทบุ๊ค พร้อมกล้องถ่ายรูปอัตโนมัติ และวิทยุสื่อสาร นี่คือสิ่งที่เคนพกติดตัวตลอดเวลา และวันนี้เขากำลังทำความเร็วไต่ระดับ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่บนถนนสายหนึ่ง สำหรับความเร็วสูงพิเศษเช่นนี้เขาจะไม่ละสายตาไปจากผิวถนนเด็ดขาด มาตรวัดต่างๆ ที่ติดอยู่นั้นใช้เหลือบมองได้เพียงแค่ขณะใช้ความเร็วต่ำ หากขับรถจนถึงขีดสุดอย่างเคนแล้วจะต้องใช้ระบบเตือนด้วยเสียงผ่านทางหูฟังพิเศษ หรือไม่ก็ใช้การเตือนด้วยระบบแสงระบบ HUD - Head Up Display โดยให้แสดงผลบนกระจกหน้าเหมือนที่ใช้ในเครื่องบินรบเพื่อความปลอดภัยที่สูงกว่าธรรมดา ตี๊ดๆ ๆ เสียงเตือนขึ้นที่หูฟัง แต่เคนยังไม่ยกคันเร่งขึ้น จนเสียงเตือนนั้นดังถี่รัวขึ้นพร้อมกับปรากฎตัวหนังสือเขียนว่า 'Lean' สีแดงขึ้นที่กระจกหน้า ฟั่วววว.. ทันที่ที่ถอนคันเร่งเสียงคายอากาศของโบลวออฟวาล์วก็ดังขึ้น ตัวหนังสือ Lean ที่สว่างค้างอยู่หายไป กระแทกคันเร่งลงสุดทันที เข็มวัดรอบกวาดขึ้นอย่างเร็วมากไปหยุดการเคลื่อนไหวที่ 10500 รอบ/นาที จาก 5 ลดเกียร์ลงไปอยู่ที่ 4 เท้าทั้งสองสอดผสานทำหน้าที่อย่างคล่องแคล่วเมื่อเข้าโค้งมุมกว้าง เข็มความเร็วยังคงชี้ไม่ต่ำกว่าเลข 220 และค่อยๆ ขึ้นช้าลงเมื่อเข้าใกล้เลข 260 เสียงตี๊ดๆ ดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงกดสวิทช์พิเศษเพื่อปรับการจ่ายน้ำมันเป็นแบบอัตโนมัติ ตัวหนังสือ 'Auto Fuel' สว่างค้างขึ้นที่มุมล่างขอบกระจกหน้า เท้าขวากดคันเร่งแช่จนจมมิดพื้น สายตายังคงจ้องเขม็งที่ปลายสุดถนน ความเร็วระดับนี้ต้องไม่มีช่องว่างสำหรับความผิดพลาดใดๆ เข็มความเร็วชี้ทะลุเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เครื่องยนต์ยังคงทำงานเป็นปกติ มาตรวัดทุกตัวไม่มีการฟ้องเตือนใดๆ เขาเหลือบมองที่มาตรวัดส่วนผสมระหว่างน้ำมัน/อากาศเป็นครั้งสุดท้ายก่อนถอนคันเร่งลดความเร็วให้ลงมาอยู่ในย่านปลอดภัย เอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำมาดื่ม ขับรถไปได้สักครู่ใหญ่ ทันทีที่รู้สึกสดชื่นก็กระแทกคันเร่งจนติดพื้นอีกครั้งเพื่อทดสอบระบบ Aerodynamic ของแผ่นสปอยเลอร์หลัง โดยการเลือกระบบปรับ สปอยเลอร์หลังเป็นแบบอัตโนมัติที่จะเริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็วรถไต่ระดับเกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เริ่มตั้งให้นาฬิกาจับเวลาอัตโนมัติเริ่มเดินนับตั้งแต่ความเร็ว 100 - 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้ทันทีที่เข็มความเร็วไปถึงเลข 100 นาฬิกาก็เริ่มทำงาน เคนกดคันเร่งจนติดพื้นรถราวกับว่าจะให้แป้นเหยียบทั้งอันจมหายลงไป เข็มวัดบูสท์และวัดรอบกวาดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เสียงเครื่องยนต์ที่ทำงานรอบสูงช่างมีเสน่ห์ให้ใครหลายคนหลงไหลได้ไม่ยาก ตัวเลข 4.33 กระพริบเป็นสีเขียวแสดงขึ้นที่กระจกหน้า เคนยกคันเร่งขึ้นปล่อยให้เข็มความเร็วชี้ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงพร้อมกับปรับคันโยกระบบการสั่งงานที่พ่วงจากกล่องอีซียูจาก Mode การทำงานแบบ High Speed มาเป็น Normal Cruise เป็นอันสิ้นสุดการทดสอบสำหรับวันนี้ ขับรถมุ่งหน้ากลับที่พักด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด เขาตระหนักดีเสมอว่าบ่อยครั้งที่ทำผิดกฎหมายในเรื่องที่จำกัดความเร็วสูงสุด แต่ก็เพราะการใช้ความเร็วสูงนี่แหละที่เขาช่วยชีวิตผู้ขับรถบนนถนนมาแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งพบรถฮอนด้าสามประตูแต่งเต็มยศขับมาด้วยความเร็วสูง เสียงเครื่องดังมากราวกับรถแข่งในสนาม ท่อไอเสียขนาดใหญ่ตะแคงเฉียงออกด้านท้าย แต่ผิดปกติที่มีเปลวไฟลุกติดที่ใต้ท้องรถอยู่กลุ่มหนึ่ง ผู้ขับยังคงใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง เคนคาดว่าเขาคงไม่รู้ตัวจึงขับตามประกบขึ้นไปแล้วเรียกให้หยุดก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ทั่วทั้งคันในไม่กี่นาที เนื่องมาจากว่ามีน้ำมันรั่วไหล จะเพราะสาเหตุว่าท่อส่งน้ำมันรั่วหรือจะอย่างไรก็แล้วแต่ น้ำมันจำนวนนั้นกระเด็นไปโดนท่อไอเสียที่ร้อนจัด และก่อตัวลุกเป็นเปลวไฟโดยไหม้ท่อยางส่งน้ำมันและไล่ไปจนถึงถังน้ำมันที่บรรจุอยู่ในฝากระโปรงท้าย จนกลายเป็นหายนะในที่สุด เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เจ้าของรถที่ถูกไฟไหม้ได้รับบทเรียนราคาแพง แต่ยังโชคดีที่ไม่มีการสูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บ พอขับถึงบ้านก็จัดแจงเอาคอมพิวเตอร์ที่บันทึกข้อมูลไว้ทำการ Download ไปใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งเพื่อทำเป็น Back Up ไว้ จากนั้นก็ทำการเปรียบเทียบข้อมูลกับผลการทดสอบคราวก่อนเพื่อหาค่าเฉลี่ย และเก็บไว้เพื่ออ้างอิงในการทดสอบในครั้งต่อๆ ไป *สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต / พัทยา / อาทิตย์ 5.30 pm. เคนกำลังขับรถกลับกรุงเทพฯ โดยออกเดินทางจากจังหวัดระยองพลันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีการแข่ง ควอเตอร์ไมล์ที่สนามพีระฯ พัทยา ไหนๆ ก็ผ่านอยู่แล้ว แวะเข้าไปดูเด็กๆ เขาเล่นรถกันหน่อยจะเป็นไร แม้ไม่ได้ย่างกรายเข้าสนามแห่งนี้มาเกือบ 10 ปีเต็ม ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเดิม ต่างเพียงผู้คนหนาแน่นราวกับนัดกันมางานอะไรสักอย่าง เคนขับลอดอุโมงค์ขึ้นไปจอดยังลานโล่ง ยอมเดินไกลหน่อยแต่เวลาออกจะสะดวกกว่า วัยรุ่นหันมาเล่นรถกันเยอะกว่าที่สมัยเคนเป็นหนุ่มๆ แต่ท่าทีของผู้เล่นรถกลับต่างไปจากสมัยที่เขาเป็น สมัยก่อนไม่มีการนำช่างมาเซอร์วิสกันที่สนาม เพราะนักขับทุกคนจะต้องทำรถตัวเองเป็นทุกอย่าง แต่สมัยนี้มิได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมากแล้ว ระบบหัวฉีดทันสมัยทำให้นักปรับจูนไฮเทคกลายเป็นหมอเทวดาที่สามารถสั่งรถคันนั้นให้มีพลังขนาดไหน กล่องควบคุมสมองกลอัจฉริยะที่คิดเองได้ แต่ยังไม่พอกับความต้องการ จนเป็นที่มาของกล่องอีซียูแบบปรับตั้งค่าได้ และชุดแต่งฉลาดๆ อีกหลายชนิด ทำให้พ่อมดมอเตอร์สปอร์ตผงาดขึ้นยืนหัวแถวของนักโมดิฟาย ทั้งๆ ที่หลายคนมีความรู้เรื่องพื้นฐานเครื่องยนต์น้อยมาก แต่หารู้ไม่ว่าในอุปกรณ์อีเลคโทรนิคที่แสนฉลาดก็แสนจะโง่เง่าอยู่ในตัว จุดอ่อนนี้เคนรู้ดีว่าคืออะไร และเคย 'เก็บ' รถซิ่งยุคใหม่ๆ มาแล้วหลายคันด้วยการ 'ย้อนรอย' ด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน เขาดูจะไม่ค่อยพอใจในลักษณะการขับรถของบรรดา Midnight Racing บางคนในปัจจุบันมากนัก หลายคนขับรถด้วยสภาพมึนเมา และอัดรถด้วยความคึกคะนอง พร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุทุกเมื่อ ต่างจากสมัยเมื่อเขาเป็นหนุ่มเสียสนิท หลายครั้งที่พบการ 'ท้าทาย' จากเด็กที่ยังไม่รู้แม้กระทั่งกฎของ Midnight Racing แม้ไม่อยากเล่นด้วย แต่ก็อดที่จะสั่งสอนไม่ได้ โดยเฉพาะพวกรถแรงที่มักใช้ความแรง 'ข่ม' รถผู้อื่น และแน่นอนได้เลยว่าการสั่งสอนของเคนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ขับฉีกแซงขึ้นหน้าแล้วนำหายไปเฉยๆ สำหรับผู้มีปัญญาเป็นอาวุธ การขับแซงขึ้นหน้าด้วยเครื่องยนต์ที่มีแรงม้ามากมิใช่วิธีการของผู้มีมันสมองเหนือกว่า หากแต่ต้องเป็นการทำให้คู่แข่งขึ้นหน้าเขาไม่ได้ต่างหาก ไม่ได้แกล้ง ไม่ได้กัน แต่เป็นการล็อคระบบการทำงานของรถคู่แข่งให้อยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง ทั้งๆ ที่ความเร็วไม่ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง รถแรงแตะพันแรงม้าก็เหมือนลูกแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งในแค่พริบตา ด้วยความช่วยเหลือของ 'Skeet' เคนจึงทำเช่นนั้นได้ และความลับนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ใดมาก่อน เคนเดินดูบรรยากาศไปเรื่อยๆ จนถึงเส้นสตาร์ท ไม่กล้าเข้าไปใกล้มาก กลุ่มวัยรุ่นมองเขาแปลกๆ จนต้องหลบสายตาพวกกลุ่มคลื่นลูกหลัง คนเล่นรถสมัยนี้ดูจะมีเงินมากกว่าสมัยก่อนเยอะ แต่สิ่งที่อยู่ในใจของผู้ขับคงไม่ต่างกันมากเท่าไร รถแข่งส่วนใหญ่ยังคงมาจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลที่ว่าราคาย่อมเยาว์กว่าเพื่อน และมีปัญหาด้านอะไหล่น้อยกว่ารถทางฝั่งยุโรปหรืออเมริกัน เดินทอดสายตาไปเรื่อยจนมาสะดุดรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง เดินเข้าไปดูใกล้ๆ รู้สึกคุ้นตา ไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่ก่อนที่จะละสายตาไปนั้น เหลือบไปเห็นเสื้อแจ๊คเก็ตแขวนอยู่ที่ริมหน้าต่างรถของอีกด้านหนึ่ง เคนหยุดคิดในใจ นิ่งไปสักครู่ สอดสายตามองหาไปทั่ว ทว่าคนวงนอกอย่างเขาไม่มีทางทราบได้ว่าใครคือเจ้าของรถ ยังไม่สิ้นความพยายาม เที่ยวเดินสอบถามผู้คนไปเรื่อย แต่จนแล้วจนรอดก็ได้คำตอบเหมือนเดิม "ไม่ทราบครับพี่" "ไม่รู้ครับ" “พี่ลองไปถามคนทางกลุ่มโน้นดูสิ” อาทิตย์คล้อยต่ำลงไปมาก ความมืดเข้ามาเยือนอย่างรวดเร็ว จนต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะคลาดกับเจ้าของรถที่เขาอยากพบ เลยตัดสินใจทิ้งโน๊ตไว้บนกระจกหน้าแล้วเดินจากไป โฆษกสนามประกาศเริ่มการแข่งขันรุ่นโอเพ่น ผู้ชมกลุ่มใหญ่แห่กรูไปยืนเบียดกันใกล้จุดปล่อยรถ เคนเลี่ยงไปยังด้านเส้นชัย เดินเลาะ Pit Wall เรื่อยเปื่อย ในใจยังคงนึกถึงรถสปอร์ตคันนั้น แต่พอถึงรถก็เห็นกระป๋องเบียร์ที่ดื่มหมดแล้ว 3 ใบ วางอยู่บนสปอยเลอร์หลัง มีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มกันอยู่ บางคนในกลุ่มนั้นยืนพิงรถเขาอยู่ รู้สึกไม่ชอบ และโมโห แต่เคนระงับอารมณ์ทั้งหมดไว้ ตรงรี่ไปยังรถ กลุ่มวัยรุ่นมองเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตรมากนักแต่ก็หลีกทางให้เมื่อเคนเดินเข้าไปใกล้ "กระป๋องเบียร์พวกนี้เป็นของคุณหรือเปล่า" เคนถามด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่กร้าวในที วัยรุ่นมองหน้ากันสักครู่ หนึ่งในกลุ่มนั้นเดินไปปัดกระป๋องเปล่าออกจากแผ่น Air Foil ลงพื้น น้ำเบียร์ที่ค้างติดอยู่ในกระป๋องเกือบครึ่งกระฉอกออกมา กระเด็นไปโดนขากางเกงและรถของเขาที่จอดอยู่ ไม่มีใครพูดอะไร เคนมองหน้าทั้งกลุ่มด้วยสายตาเอาเรื่อง คนหนึ่งในกลุ่มหัวเราะหึๆ แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง เคนก็เตะเข้าที่กรามจนเลือดกลบปาก กลุ่มแตกกระเจิง พวกที่เหลือจะเข้ามารุม แต่ก็ได้แค่คิดเพราะทันที่ที่วิ่งเข้ามาก็ถูกถีบเข้าที่ด้านล่างชายโครงจนกระเด็นไปชนถังขยะล้มลง มือซ้ายคว้าเข้าที่ลูกกระเดือกของคนมีหนวดดิ้นพล่านจนต้องร้องขอให้ปล่อย เหลืออีกคนที่อยู่ตรงข้ามคว้ามีดพกออกมาจากเอว ถือมีดมือสั่น ท่าทางขึงขัง แต่ประสบการณ์ของพวกนี้ยังไม่ได้เสี้ยวของเคน คนจริงที่ผ่านโลกมาโชกโชน "เก็บมีดซะเถอะไอ้เด็กน้อย เดี๋ยวมึงจะเจอหนักกว่านี้" น้ำเสียงธรรมดา แต่สายตานั้นดุ จนคนอ่อนประสบการณ์ต้องยอมแพ้ นักเลงกระจอกถอดใจทิ้งมีด วิ่งเข้าไปประคองเพื่อนที่ล้มลุกคลุกคลาน แม้โดนกันไปแค่คนละนิด หากแต่ตำแหน่งที่เคนซัดเข้าไปนั้นคือจุดสำคัญในร่างกายทั้งนั้น คนที่หัวเราะเยาะโดนหนักกว่าเพื่อน เท้ากระแทกปากฟันหลุดไป 2 ซี่ นอกนั้นแค่เจ็บภายนอก ทราบภายหลังว่าเป็นหัวหน้าแก๊งขายยาฯและงัดแงะอะไหล่รถแต่ง เคนเดินไปติดเครื่องรถ แต่ไม่ลืมกดปุ่มพลิกแผ่นป้ายทะเบียนให้กลับด้านกลายเป็นอีกแผ่นหนึ่งเพื่อป้องกันการระรานในระยะยาว ขับออกจากสนามพีระฯ โดยทิ้งความทรงจำให้คนกลุ่มหนึ่ง ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากต่อสู้ แถมล้างมือจากเรื่องพวกนี้มานาน แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะสำหรับเขาการรุกคือวิธีตั้งรับที่ดีที่สุด ท้องฟ้ามืดสนิท เคนออกจากสนามพีระฯ มุ่งหน้ากลับบ้านที่กรุงเทพฯ โดยใช้ถนนบายพาส ขับด้วยความเร็วปานกลาง และขณะขับอยู่เพลินๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาวคนหนึ่ง คุยกันแบบไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก สัญญาณไม่ค่อยชัด แต่พอสรุปได้ว่าเธอต้องการความช่วยเหลือเพราะรถยางแตกอยู่ข้างทาง เคนไม่รีรอที่จะขับรถย้อนกลับไป นี่คือสิ่งที่เขาทำมาจนเป็นนิสัยมานานปี ขับรถไปได้สัก 15 นาทีก็พบรถจอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ข้างทาง เข้าไปใกล้ๆ จึงรู้ว่าคือนิสสัน สกายไลน์ R32 เสียวสันหลังวาบ ถ้าจำไม่ผิดก็คือคันเดียวกันกับที่เขาเที่ยวเดินตามหาเจ้าของรถในสนามพีระฯ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง ก๊อปเค้ามา ยังไม่มีปัญญาเขียนได้ขนาดนี้[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
Sport Truck.
>
<<<Midnight Racing>>>
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...