เข้าไปที่ออโต้คาร์วันนี้เจอน้ำมันเครื่องสังเคาระห์ (เขียนข้างกระป๋องว่า Fully Synthetic) ราคา700เองคับ!! เค้าเขียนไว้ว่าMade in Singaporeอ่ะ ใครเคยลองแล้วมั่ง ผมถ่ายรูปมาด้วยกระป๋องไม่ค่อยสวยเลย ดูเหมือนหุ่นยนต์ยังไงไม่รู้
มันอาจจะดีก้อได้ ที่มันถูก เพราะมันอาจไม่มีค่าการตลาด ค่าโฆษณาไงไงครับ เซลล์ที่ออโตคาร์เขาคุยว่าไงละครับ
จำได้ว่าเมื่อก่อนผมขายน้ำมันเครื่อง Motul 100% SYN. เหมือนกัน 4 ลิตร 850 เองก่อนที่จะแพงเท่าชาวบ้านเค้า น้ำมันสิงคโปร์น่าจะขนส่งถูกนะคับ ไม่ก็เป็นช่วงเปิดตลาดเลยทำราคาระดับนี้ได้ แต่มันก็เป็นข้อเสียของการ..................ถูกเกินไป....~ Magnatec เนี่ย......กึ่งสังเคราะห์ครับพี่ตั๊ว
Synthetic ครับ ผมอ่านดูอยู่ครับ ร้านประจำผมขาย 790 ร้านอื่นไม่รู้กี่บาทแต่ไม่น่าต่างกว่านี้มากครับ ตอนหลังผมไม่ใช้เพราะมันใส (รถผมเครื่องมันเก่าแล้ว) ก็เลยเปลี่ยนมาใช้ semi ของ shell helix ครับ
ผมมองว่าของแบบนี้มันเหมือนวัดดวงยังไงไม่รู้คับ ถ้าซื้อมาแล้วดี ก็ดีไป ถ้าแย่เครื่องพัง งานเข้าเลยคับ ได้ไม่คุ้มเสียเลย ค่าทำเครื่องมากกว่าค่าน้ำมันหลายเท่าตัวคับ
เกรดยังเป็นAPI/SLอยู่มั้ง ในขณะที่คู่แข่งอื่นๆเป็นSMกัน เลยไม่แพง อ้างอิงจากเวบavanza ในบทความเรื่อง... น้ำมันเครื่องเบ็นซิน น้ำมันเครื่องเบ็นซินตอนนี้ก็มีเกรดใหม่เพิ่มขึ้นมาจากสมัยเกรด SJ เป็นเกรด SL และล่าสุดก็เป็นเกรด SM ซึ่งแน่นอนว่าน้ำมันเครื่องที่เป็นเกรดใหม่กว่าเกรดสูงกว่า ย่อมต้องมีคุณสมบัติเพิ่มขึ้น แต่จะเน้นหรือดีกว่าน้ำมันเครื่องเกรดเดิมอย่างไร น้ำมันเครื่องเกรด SL เป็นน้ำมันเครื่องที่ออกมาเพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยตัวของมันเองจะมีผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงกว่าน้ำมันเครื่องเกรดต่ำกว่า ไอเสียที่เกิดขึ้นจากขบวนการเผาไหม้จะสร้างมลภาวะน้อยลง น้ำมันเครื่องเกรด SM จัดว่าเป็นเกรดล่าสุดใหม่เอี่ยมของน้ำมันเครื่องยนต์เบ็นซิน นอกเหนือจากเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว สิ่งที่เน้นเพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษ คือ เรื่องของการประหยัดพลังงาน ช่วยให้ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้ซึ่งเป็นผลการทดสอบแบบใหม่ โดยการใช้เครื่องยนต์ทดสอบอัตราสิ้นเปลือง หรือการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเพิ่งจะมีการนำมาใช้กัน สมัยที่น้ำมันเครื่องเป็นเกรด SL ยังไม่มีการใช้เครื่องมือทดสอบอันนี้ สถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐอเมริกา (API) ได้กำหนดใหม่ขึ้นมา เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการพัฒนาเครื่องยนต์ ล่าสุดได้แก่มาตรฐาน API SM โดยเริ่มประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2004 ซึ่งเน้นในเรื่อง - ป้องกันการสึกหรอ (Batter Wear Protection) ของกลไกกดวาล์ว (Valve Train Wear) โดยเฉพาะการสึกหรอของเพลาลูกเบี้ยว (Cam Lopes Wear) - ลดปัญหาการเกิดคราบยางเหนียว (Oxidation Resistance) ที่ลูกสูบ และการเกิดเขม่าสะสมที่ร่องแหวน เพราะเครื่องยนต์รุ่นใหม่มีแรงม้ามากขึ้น และความร้อนสูงขึ้น - ป้องกันการเกิดตะกอนโคลน (Deposit Protection) สะสมและอุดตันตามช่องทางเดินของน้ำมัน เช่น กรองฝักบัว (Screen Clogging) แผ่นกั้นในอ่างน้ำมันเครื่อง (Oil Pan Baffle) ฝาครอบวาล์ว (Rocker Arm Covers) และอ่างน้ำมันเครื่อง (Oil Pan) - ยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายให้ยาวนานขึ้น น้ำมันเครื่องดีเซล เกรดสูงสุดของน้ำมันเครื่องดีเซลในขณะนี้อยู่ที่เกรด CI โดยคุณสมบัติที่เพิ่มเติมขึ้นมา จะเป็นเรื่องความเหมาะสมของการใช้งานสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ที่มีระบบ EGR หรือมีการนำเอาไอเสียกลับมาเผาไหม้ซ้ำ น้ำมันเครื่องเบ็นซินกับดีเซลใช้แทนกันได้หรือไม่ ไหนๆ เค้าก็ผลิตน้ำมันเครื่องออกมาแล้ว เมื่อผลิตเป็นน้ำมันเครื่องเบ็นซินก็ทดสอบเผื่อน้ำมันเครื่องดีเซลด้วยซะเลย ในทำนองเดียวกันเมื่อผลิตเป็นน้ำมันเครื่องดีเซล ก็ทดสอบเผื่อสำหรับเครื่องยนต์เบ็นซินด้วย ดังนั้นน้ำมันเครื่องเบ็นซินกับดีเซลจึงสามารถใช้แทนกันได้ เพียงแต่จะเหมาะสมหรือคุ้มค่าหรือเปล่าเท่านั้นเอง ทั้งนี้เป็นเพราะต้นทุนในการผลิตน้ำมันเครื่องเบ็นซินจะสูงกว่าดีเซล หากเราเอาน้ำมันเครื่องเบ็นซิลเกรด SM/CF มาใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล ก็เท่ากับว่าเราได้คุณภาพน้ำมันระดับ CF เท่านั้นเอง ส่วนคุณภาพระดับ SM ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้น้ำมันเครื่องอันนี้มีราคาแพง เราแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย สู้เราไปซื้อน้ำมันเครื่องเกรด CI / SL มาใช้ดีกว่า
Castrol - EDGE เป็น Fully Synthetic - Magnatec เป็น Semi synthetic - GTX เป็น เกรดธรรมดา ส่วนน้ำมันเครื่องยี่ห้อไม่รู้จักผมไม่กล้าใช้ครับ ยึดติดๆ ถ้าเอาประหยัดผมใช้เซมิของยี่ห้อทั่วไป ไม่กล้าเสี่ยงของแปลก แปลกไม่กลัว กลัวปลอมครับ + อ้างถึง ตอบกลับ