ขายล้อ Circlar ขอบ 16 กว้าง 7 P.C.D 5 รู 100 Offset +34 2 วง สีทอง อีก 2 วง สีชมพู พร้อมยาง Toyo 205/50/16 อีก 1 คู่ ล้อมี off กว้าง 2.5 นิ้ว ล้อสภาพสวย ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา ราคา 13,000 บาท สนใจ http://rcweb.net/forums/showthread.php?p=1673460#post1673460
ต้องซื้อของมันอ่าคับ ของรถยี้ห้ออื่นก็มีนะคับ แต่ไม่รู้ว่ามันจะพอดีกันรึเปล่าอ่ะคับ จำได้ว่าของแท้ก็ไม่แพงมากนะคับ
ขอบคุณครับคุณอ้วน ผมเอาไปช่างอีกอู่ดูแล้วครับ ไม่ได้เป็นที่ปะเก็นครับ เป็นที่ท่อพักที่เปลี่ยนเข้าไปใหม่ มันไม่สามารถรับความร้อนและแรงอัดตรงนั้นได้ครับ ต้องเป็นท่อที่บุใยเหล็กครับ (ร้านแรกเป็นใยสังเคราะห์) ตอนนี้เปลี่ยนมาแล้ว 3 อย่าง 1. ท่อพักใยเหล็ก (แทนตัวแคทฯ) 2. ท่อพักก่อนถึงปลาย 3. ปลายท่อ (เหมือนรถซิ่งนะ...หุหุหุ) ที่ต้องมีข้อ 2. ท่อพักก่อนถึงปลาย เพราะเสียงตอนแรกมันดังสนั่นมากครับ สรุป ตอนนี้รถเริ่มซิ่งแล้ว รอใส่แมกซ์ เปลี่ยนไฟหน้า ย้ายแบต ใส่กรองเปลือย ก็กลายเป็นรถซิ่งแล้ว (วิ่งได้ประมาณ ร้อยแปดขีด) รายงานความคืบหน้าแค่นี้ก่อนครับ กบ ลืมบอกไป งบประมาณทำท่อคราวนี้ 700+1,500+2,000+1,000 = 5,200.- บาทครับ T_T
เคยเปลี่ยนมา 2000 กว่า ครับ ที่อู่พัฒนาการ ของแท้ครับ ไปทะลวงแคทมา ช่างทำปะเก็นแตก เสียงดังลั่นเลยครับอย่างกะเรือ เลยไปเปลี่ยนท่อพักมาใหม่ด้วย โดนไปอีก 1500 แต่ตอนนี้อยากเปลี่ยนโช๊คอ่ะครับ แนะนำหน่อยสิ เคยถามของกาเบรียล คู่7000 กว่า แน่ะ แพงมั๊ยครับ วันก่อนไปเดินเซียงกงบางนามาด้วย มีหัว นีออนอยู่หลายหัวเลย ถามราคา 55000 แน่ะ แต่ครบเลยนะ สภาพดูดี
ตอนนี้ซิ่งมากๆ เลยครับ เสียท่อกระหึ่ม ดังสนั่น เหมือนวิ่งสัก 180 จริง วิ่ง 80 หุหุหุหุ ดูๆ ไปมันเหมือนจะโล่งขึ้นนะครับ หลังจากเปลี่ยนท่อมา แต่มันโล่งไปมั้ง เลยวิ่งตีนต้นไม่แรง แต่ปลายไหลดีนะ 160 กม./ชม. บนโทล์เวย์ กบ
วันเสาร์นี้สมาชิกเจอกันที่ เมเจอร์ ตอนประมาณบ่าย2-3 หลังจากนั้นโดยประมาณ ไปเจอกันที่เดนเดรมิตนะครับ ขอบคุณมากครับ
ใครเคยมีปัญหาเหมือนผมบ้าง เป็นเกียร์ธรรมดา เวลาเหยียบคลัท จะมีเสียง อ้อด แอ้ดๆ ทั้งเหยียบและ ปล่อย ดังรำคาญมากครับ ใครเคยแก้ตรงนี้หายมั่งครับ เคยลองทั้ง ฉีดโซเน๊ค ทั้งจารบี ไม่หาย แนะนำหน่อยครับ เสาร์นี้อยากไปจังแต่ไม่ว่างเลยครับ ติดเอาไว้ครั้งหน้าดีกว่าครับ อยู่กำแพงเพชร ต้องวางแผนเดินทาง
มีเรื่องเล่าแบบ ไฟนอล เดสติเนชัน ให้ฟังครับ เมื่อวานนี้ วันที่ 22 มิถุนายน ผมไปเอาหมีขาวออกจากอู่ที่เอกมัยครับ เนื่องจากช่างรอกล่องมาเทียบ ให้เลยเอารถออกมาใช้ก่อน แก้คิดถึง เหอๆ ลืมบอกไปว่า ผมเอาไปแก้ที่เปิดแอร์แล้วเบาดับ วิ่งๆมา ถึงฝั่งธน แวะ เติมน้ำมันเต็มถัง เซตไมล์ เป็น 0 แล้วก็ออกวิ่งต่อไปมหาลัยที่ศาลายา ซิ่งมาได้ จะสุดทางยกระดับบรมราชชนนี รถก็ออกอาการเครื่องคำรามแต่ความเร็วไม่ขึ้น(ดังกว่าปกติ) เลยเริ่มชิดซ้าย ไฟเอนจินโชว์ เริ่มไม่มีแรง เอาวะ ประคองออกข้างทาง แต่ดันไม่มีทางออกคู่ขนานซะนี่ (วิ่งมาข้างล่าง) เลยวิ่งนำรถสิบล้อ แล้วรถก็ช้าลงๆ ๆ ๆ ๆ จนเครื่องดับไป จอด ไหล่ทาง เปิดไฟกระพริบ ลองสตาร์ท จากที่เคยเป็นคราวที่แล้ว ทิ้งไว้ซักพักจะติด แต่คราวนี้มีแต่ ชึ่งๆ ๆ แต่ไม่ติด ลงไปเปิดฝากระโปรงเซตกล่องใหม่ ตาก็ชำเลืองรถที่ผ่านไป ผ่านไป อย่างน่ากลัว ไหล่ทางมันแคบมากครับ ปกติผมวิ่งทางนี้รถมักจะแซงซ้ายเยอะด้วยสิ โทรสับหาอู่ หาพ่อ หาประกันเรียกรถยก แล้วก็หาเพื่อน รถเสียอย่าเข้าไปนั่ง ผมก็รู้ครับ แต่ไม่รู้คิดไง พอโทรหาเพื่อนได้ เพื่อนบอกให้ลองสตาร์ตใหม่ ก็เข้าไปนั่ง ปิดประตู สตาร์ต ไม่ติด เหลือบมองไมล์ที่เซตมา 13 กิโลเมตร แล้วก็เหลือบมองกระจกหลัง โอ้แม่เจ้า รถหกล้อแซงซ้ายออกมา เร็วซะด้วย ท่าทางจะหลบไม่พ้นซะแล้ว ผมก็เลยเลื่อนเกียร์จาก P ไป N อย่างน้อยเกียร์ก็ไม่พังวะ ปรากฏว่ามันเบรกแล้วก็หักหลบรถผม เพราะเพิ่งเห็น จังหวะเดียวกับที่สิบล้อบรรทุกข้าว ตามมาเบรกไม่ทัน เสยหกล้อ ข้างหลังรถผม กระเด็นออกไปข้างๆ พร้อมกับไฟหน้าสิบล้อที่ลอยผ่านกระจกข้างขวารถผมไปตกหน้ารถผม ยังไม่พอ ด้วยแรงเฉี่อย ของรถ+ข้าว สิบล้อก็ไหลมาที่ท้ายรถผมแล้วก็หยุด จึ่ก หลังจากหายตกใจ ผมก็ลงมาดู ปรากฎว่า รถผมโดนสิบล้อ เบรคผงกหัวมาขูดที่กันชน เป็นรอย เท่าปลายนิ้วก้อย ให้ตายเถอะ โรบิ้น รถหกล้อวิ่งไปจอดห่างประมาณ 50 เมตร ส่วนสิบล้อไปไหนไม่ได้เพราะว่าหน้ายุบ เข้าเกียร์ไม่ได้ โอ้ว รถติดตลอดถนนสายบรมราชชนี ยาวเป็นกิโล เป็นที่มาของคำว่า ติดบรม นั่นเอง "คุณเคยทำให้รถติดยาวเป็นกิโลไหม?? ถ้ายัง วันนี้เราขอเสนอ ..." 555+ แอบตื่นเต้นตรงที่ว่า รถที่เค้าผ่านไปผ่านไป มองดูที่รถสิบล้อ แล้วก็มองที่รถผม ทุกคนทำหน้างงเป็นไก่บราซิลตาแตก สิบล้อหน้าบี้แต่รถเก๋งเจือกไม่เป็นอะไรเลย (จริงๆแล้ว หกล้อคู่กรณี มันไปจอดไกลอ่ะ) ยกสิครับ ยกกลับไปเอกมัย หมีขาว เดสติเนชั่นครับ ระทึกมาก
คุณ neon_fc ครับ นีออนของผมก็เป็นครับ อาการเดียวกันเลย แต่ของผมมันมีเหตุที่มาจากผมเคยใช้กุญแจล็อคคลัทช์ ติดกับ พวงมาลัย วันนั้นผมดึงแรงไปหน่อย มันหลุดบั๊วะเลย แป้นเหยียบมันเลยรู้สึกแขวนๆ แต่ก็เหยียบใช้งานได้ ต่อมาไม่นานเสียงมันก็ตามมาทั้งตอนเหยียบตอนถอน ดัง แอ๊ดแอ่ด แอ๊ดแอ่ด น่ารำคาญเป็นที่สุด เคยให้ช่างเหวียน กม.8 ดู เค้าบอกว่าซ่อมไม่ได้หรอก เค้าทำให้แค่ใส่ปิ๊นล็อคที่ผมดึงหลุดไว้ ตอนนี้ก็ยังดังอยู่ ดังๆ หายๆ ลองไปหาซื้อที่เชียงกงที่ท่านข้างบนบอกว่ามีหัวนีออนขายสิ ไม่รู้ว่าอันเดียวเค้าจะขายให้หรือเปล่า ผมก็ดันอยู่ไกลซะอีก อยู่เขื่อนศรีนครินทร์ น่ะอยากไปหามาเปลี่ยนบ้างเหมือนกัน สำหรับท่านที่ถามเรื่องโช้คข้างบน ผมก็เคยไปเปลี่ยนมาแล้วครับ ที่อู่ jeep กม.8 ชื่อช่างเสวียน เค้าใส่ของ SACHS ให้ กระบอกสีดำ ราคาตอนนั้น คู่ละ 7000 ยางรองสปริงอีกข้างละ 900 ครับ ผมเปลี่ยนเฉพาะคู่หลังครับ น้ำมันมันกระฉูดข้างนึง อีกข้างยังดีอยู่เลย
ขอบคุณครับ คุณจี้หลิน ตอนเช้าๆ จะเงียบไม่มีเสียงสักแอะ แต่พอเครื่องร้อน แล้ว ดังตลอดเลย น่ารำคาญจริงๆ ใครเคยแก้หาย วานบอกทีเถอะ โช๊คหลังผมก้อเคยเปลี่ยนไป รั่วข้างนึง อีกข้างยังดีอยู่ว่าจะไปอัดน้ำมัน จับโหลดซะนี่ ตอนนั้นสั่งของ กาเบี้ยน คู่ประมาณ 7000 นี่แหละ ถ้าจำไม่ผิด แก๊สกึ่งน้ำมัน แต่มีอาการวิ่งๆ ไปช่วงยุบตัวมากๆ ล้อหลังซ้ายจะดัง กึ๊ก ตามแรงยุบ เหมือนโช๊คยัน แต่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะรถเราไม่ได้โหลดสักเซนต์เดียว เดิมๆ ตั้งกะออกห้าง
เพิ่งจะเข้ามาเป็นสมาชิก วันก่อนหลานเป้ โทร.มาชวนให้ไปร่วมงาน เผอิญที่ปากเกร็ดวันเสาร์ฝนเล่นซะออกไปใหนไม่ได้ โอกาสหน้าจะไปขอคำแนะนำ เพราะปัญหายังไม่แก้ไม่ตก เครื่องดับทั้งเย็นหรือเดินเบา กับตู้แอร์น้ำหยด (ซึ่งต้องใช้ตังค์แน่) กำลังตามหา ตู้แอร์ของใหม่ทำเหมือนอยู่ เสี้ยวหนึ่งของชีวิต cvc .... เห็นใหม ผมบอกแล้ว neon แข็งสุดๆ 10 ล้อหน้ายุบ บั้นท้ายไม่เป็นอะไร คุยซะ.. ปลอบใจตัวเอง ประสบการณ์จากอู่ และ0ทั้งหลายมีเล่าให้ฟัง 0 แรก เพชรบุรี (ปี 41)เป็นเดือน ผมทำหนังสือถึง ผจก.เลย เร็วขึ้น ให้เสื้อมาปลอบใจ 0 สอง พหล 12 สารพัด เอาไว้ก่อน มีดี และไม่ดี แต่ที่เจ็บใจ ช่างซ่อมแล้ว มีบาดแผลข้างเคียง เนี่ย มันช้ำ อยากซ่อมมันซะเอง ........... ขอเป็นสมาชิกด้วยคนเด้อ ...........
ปัญหาตู้แอร์น้ำหยดของผมและวิธีแก้ปัญหาครับ แอร์ยังเย็นเป็นปกติ ลมก็แรงเป็นปกติ แต่วิ่งไปไม่นานจะมีน้ำเย็นไหลหยดลงมาตรงที่พักเท้า นีออนของผมเกิดขึ้น 2 ครั้งครับ ครั้งแรกผมถอดเอาชุดมอเตอร์พัดลมตรงที่วางเท้าออก แล้วเอามือล้วงเข้าไปกวาดๆ ควานๆ ในตู้แอร์ เจอเศษใบไม้และเศษเทปพันสายไฟขวางรูระบายน้ำอยู่ เอาออกก็หายหยดครับ อ้อ ผมเคยเปลี่ยนคอล์ยเย็นครับ เศษใบไม้กับเทปพันสายไฟคงเข้าไปตอนนั้นละมั้ง อันนี้น่าโทษว่าช่างชุ่ย ครั้งที่ 2 น้ำไหลนองอีกแล้ว ล้วงหาเศษวัสดุอีกตามเคย ไม่เจอครับทีนี้ เป็นนานเลยครับ ดีตรงที่กว่าน้ำจะไหลจะใช้เวลานานหน่อย จนทนไม่ไหวลองแวะร้านแอร์ดู ช่างคงสังเกตุเห็นว่าไม่มีน้ำหยดลงพื้นตอนจอด แนะนำให้ไปควานหาสายยางที่ต่อจากช่องระบายน้ำจากตู้ มันอาจจะตันก็ได้ แต่ไม่ยักกะลงมือทำให้ สงสัยไม่เคยสัมผัสน้องออนสุดสวย ออกจากร้านแอร์ผมก็มาหาเองสิครับ เป็นสายยางปลายเรียวแบบใบข้าว ที่ปลายจะตีบแบนไว้ กันแมลงเข้าไปทำรัง หาอะไรแยงๆ บีบๆปลาย ทีนี้ละพุ่งปรี๊ดเลย ปัญหาน้ำแอร์หยดก็ไม่มากวนใจอีกเลย เคยชนหมาจังๆ กระเด็นไปทางไหนไม่ทันเห็น มาดูที่บ้านเห็นกันชนแค่สีแตกลายแบบดินแตกระแหง แถมหนีบขนหมาติดมาหน่อย ไม่ยักกะแตกแบบรถญี่ปุ่นของเพื่อนผม ชนหมาเหมือนกัน รายนั้นกันชนแตกเละเกือบโดนหม้อน้ำแน่ะ ซ่อมหรือเปลี่ยนก็ไม่รู้ เห็นวิ่งหน้าโล้นๆอยู่ตั้งหลายวัน
งานมีทติ้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีใครไปบ้างครับ ต้องขอโทษคุณเป้ฯ ด้วยที่ไม่ได้ไปนะครับ วันเสาร์ติดฝนอย่างแรง ครั้งหน้าไม่พลาดแน่นอน ขอแชร์ประสพการณ์เรื่องแอร์รถด้วยคนครับ เพิ่งจะเปลี่ยนตู้แอร์ไปเหมือนกันครับเจอไปครั้งแรก 2000 ช่างบอกวาวล์ตรงที่สำหรับเติมน้ำยารั่วใช้ได้ไม้ถึงเดือนปรากฏว่าแอร์มีแต่ลมออกมาเอาไปให้ดูอีกครั้ง 12000 ช่างบอกว่าตู้รั่ว กระเป๋าเบาไปเลย หลังจากเปลี่ยนใหม่เอาไปลองปรากฏว่ามีน้ำรั่วเข้ามาในห้องโดยสารทีแรกนึกว่ารถมีรู้รั่วเพราะขับรถฝน พออีกวันฝนไม่ตกยังมีน้ำรั่วเลยถึงบางอ้อสงสัยเป็นที่ท่อน้ำทิ้งต้องเอากลับไปให้ช่างดูเป็นจริงดังคาด ปรากฏว่าท่อน้ำทิ้งสายมันพับน้ำเลยระบายไม่ทัน ร้านที่ทำอยู่ตรงสำเหร่ครับ ชื่อร้านรุ่งโรจน์แอร์แอนด์ซาวด์ บริการดีพอสมควรครับ
ขอบคุณครับทั้ง จี้หลิน และ toba ผมคงต้อง พยายามมมม ถอด แล้ว ล้วง กันสักตั้ง ท่อน้ำทิ้ง ตัน ไม่น่าใช่เพราะเพิ่งเปลี่ยนใหม่ (ไปเจอท่อยางตัว L ขาสั้นแขนยาวพอดีกับท่อน้ำทิ้งที่ตัวถังรถจากร้านขายอะไหล่รถโฟล์คแถวเกษตร 150-บาท) ถ้ารถเข้าศูนย์ แล้ว ช่างบอกว่า ต้องเช็คตามระยะ แสนห้า สองแสน หรือแสนสาหัส ก็แล้วแต่ ผมว่า ปฏิเสธ จะดีกว่า บางทีจะเสียตังค์ แล้วยังเสียอารมณ์ด้วย เพราะ ไม่มีร่องรอยการเช็คเลย ย่านปากเกร็ด อู่ซ่อม ระดับ พอใช้ได้ ร้านเบ็นซ์-ปากเกร็ด ถนนติวานนท์ตรงข้ามไทยสมุทร อู่นี้มาจาก ศูนย์ฯ ถนนรัตนาธิเบศร์ เมื่อก่อน คุยกันก่อน ถามอับดุล ตอบไม่ได้ ก็อย่าเสี่ยง ตรงข้าม ร.11 ถ.พหล จำชื่อไม่ได้ ส่วนใหญ่ทำสี กับรถมิตชู เจ้าของตัวสูงๆ มาจาก ศูนย์แถวนวนคร อ้ายหนุ่มนี่เก่ง แต่ลูกน้องเน้นๆ เรื่องทำสี รถเราไปบอกที ต้องถอย เพราะปล่อยให้เรารอไม่บอกว่าจะทำเมื่อไหร่ ที่เคยเห็นก่อนถึง รร.ผไท วิภาขาเข้า ซ่อมไครสเลอร์ ส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่มๆ ยังไม่เคยใช้บริการ แล้วจะมาบอกอู่ที่เคยไป แถว วิภาขาออก ตรงข้ามอนุสรณสถาน ซ่อมก็ ok แต่ไม่ได้ไปนานแล้ว ไปๆมาๆ ที่ พหล 12,ร.11,ไม่งั้นก็ ติวานน์ แล้วแต่งานที่ต้องไปทำ ถ้าจะเปลี่ยนชุดสายไฟของปี 97 ทั้งชุดใหม่คงไม่ไหว(รอก่อน) จะหาที่ใหนได้ หรือ ร้านใหนทำใหม่ได้บ้างครับ น้ำไหล.... ล้วง แล้ว จะมาบอกว่าเป็นไง แล้ว พี่อ้วนนะจะหิ้วกลับมาไหวหรือครับ แล้วต้องฝากไปสักเท่าไหร่ครับ
เพ่อ้วน โกes ชั๊ยน่า!!!! ผมลองขอทาง rc web แล้วนะครับ ว่าจะให้ตั้งคลับของเราขึ้นบนเวปนี้ ต้องทำไง ตอนนี้ก็ต้องรอคำตอบไปก่อนอ่ะครับ เราจะได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งซะที
อัพเดทเรื่องอะไหล่ของน้องออนเท่าที่ตรวจสอบมา เริ่มกันแบบไม่เสียเวลาครับ ทำเนียบของแท้ และของเทียบที่ใช้แทนกันได้กับน้องออน 1. โช้คหน้าหลังใช้ยี่ห้อ Bogen ได้ครับ ปกติรถซาบบ์ก็ใช้ยี่ห้อนี้เช่นกัน ราคาตัวละ 2,900 โดยประมาณ ราคาตัวหลังอาจสูงกว่านี้นิดหน่อย เพราะตัวหลังยาวกว่าตัวหน้าสำหรับน้องออน ส่วนยี่ห้อ ที่ถามกัน ส่วนตัวไม่แนะนำนะ เพราะยี่ห้อนี้ไม่ค่อยได้เรื่องสมรรถนะ และความทนทานเท่าไหร่ ซ่อมน่าจะดีกว่านะ ราคาคู่ละ 900 เอง (ส่วนใหญ่น้องออนที่ใช้งานมานาน โช้คจะมีอาการ เมื่อเอารถเข้าศูนย์บริการ แล้วเค้ายกรถด้วยฮ้อยท์ เมื่อกลับลงมาแล้วส่วนใหญ่โช้คจะตาย มีอาการเด้งแล้วเด้งอีกจนเหนื่อยที่จะขับเลยอ่ะ จนทำให้เจ้าของทนไม่ไหวต้องซ่อม แต่หากไม่ยกขึ้นฮ้อยท์ โช้คก็คงจะยังใช้ได้ต่อไป หากมีการรั่วนิดหน่อย จะไม่เด้งเหมือนการถูกยกด้วยฮ้อยท์ เพราะมันทำให้โช้คยืดจนกดไม่ลงอ่ะ) 2. ตู้แอร์ ฟอร์มูล่า ราคาประมาณ 3,200 ไม่รวมอุปกรณ์อื่นๆ เช่นดรายเออร์ ท่อวาลว์ โอริงต่างๆ (หากจำเป็นต้องเปลี่ยนนะ) รถยี่ปุ่นก็ถูกหน่อย แต่หากเป็นน้องออน ก็น่าจะใช้อะไหล่ที่รถยี่ปุ่นเทียบได้นะ หากช่างมีหัวหน่อย และโขกเราน้อยหน่อยอ่ะ (ท่อน้ำทิ้งแอร์ไม่ไหล สาเหตุหนึ่งที่พบคือท่อน้ำทิ้งของรุ่นนี้มันสั้น และเป็นท่อตรงที่ต่อจากห้องโดยสาร เมื่อพัดลมไฟฟ้าทำงาน มันจะพัดเข้าหาท่อ เป็นผลให้น้ำไม่ค่อยไหลทิ้ง และขังไว้ที่ตู้ จนอาจหยดเข้าห้องโดยสารบริเวณที่วางเท้าข้างคนขับได้ แก้ไขโดยเปลี่ยนเป็นข้องอรูปตัวแอล เพื่อให้ลมจากพัดลมไฟฟ้าไม่สามารถพัดลมที่ออกมา ไปปิดขวางน้ำทิ้งที่จะออกจากท่ออีกต่อไป ราคารวมค่าแรงไม่น่าเกิน 200 บาท) แต่หากงบยังไม่พอ และเพิ่งมีอาการรั่ว แนะนำครับ ไปซื้อน้ำยากันรั่วซึมของตามด ที่เกิดกับตู้แอร์ ท่อ โอริงต่างๆ ได้ จำไว้เลยนะ น้ำยาชื่อ leak stop ของคาสตรอล กระป๋องละ ประมาณ 1,200 หากรั่วไม่เยอะกระป๋องหนึ่งใช้ได้สองครั้ง ครั้งละ ครึ่งป๋อง อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 9 เดือน แต่หากอัดไปแล้วไม่อยู่ก็คงต้องซื้อตู้ใหม่หล่ะคราวนี้ โดนๆๆๆๆๆแน่ๆๆๆๆๆเลย 3. ไฟหน้าของdepoไต้หวัน คู่ละ 5,800 (แพงเกินไป แม้จะมาพร้อมกับขาก็ตาม และไม่สวยเท่าไหร่ อีกทั้งปรับไฟฟ้าไม่ได้ ต้องใช้น้อตขัน แถมยังมีติ่งยื่นออกมาจากไฟหน้า ไม่เท่ น่าเกลียดไปนิดอ่ะ) สัก 3000 ผมยังว่าราคาสูงอยู่ แต่พอรับไหวนะ 4. ลูกหมากปีกนก ตัวละ 1,000 (ซ่อมถูกกว่าเยอะ) ส่วนยางกันฝุ่น หาเทียบรุ่นเอา แต่หากร้านอะไหล่รู้ว่าเป็นของนีออน เค้าจะบวกเพิ่มอีก จำไว้อย่าบอกว่าเป็นน้องออนแล้วกัน พวกนี้เทคนิคโก่งราคามันเยอะ 5. หัวเพลาข้างขวา ตัวละ 2,500 ใหม่เลยนะ ใช้ได้ดี ไม่ต้องทนเสียงดังอีก หากทำแล้วหนึ่งข้างแนะนำให้ถอดยางกันฝุ่นอีกข้างมาอัดจารบีเข้าไปใหม่ เพราะใช้นานมันจะมีสนิมเกาะ อันเนื่องมาจากความชื้นที่อาจแทรกซึมเข้าไปได้ (แพงไปหน่อยนะ แต่ต้องยอม เพราะขี้เกียจหาของเทียบอ่ะ แต่จริงๆ แล้วน่าจะเทียบได้นะ หากให้ช่างถอดออกมา แต่ก็คงโดนฟันจากช่างอีกแหละ แต่อาจถูกกว่าหน่อย หากช่างไม่ใจร้ายจนเกินไป) 6. ซีลเพลา ตัวละ 300กว่าบาท (ของแท้) ใช้ไปเหอะหากมันรั่วจากบริเวณห้องเกียร์ที่ต่อกับเพลา ซึ่งสังเกตุเห็นได้หากมีรอยหยดของน้ำมันเกียร์สีแดงๆ บริเวณใต้ท้องตรงกลาง แต่หากหยดด้านหน้าห้องเครื่องขึ้นมาหน่อย ก็ดูท่อยางส่วนใหญ่รั่วตรงนั้นแหละ ไม่หนีไปไหนหรอก เพราะโดนมาแล้วและทำไปแล้วอ่ะ 7. ลูกหมากไม้ตีกลอง (พวงมาลัย) 2 ตัว ตัวละ 800 ยี่ห้อ lemforder 8. น้ำมันเกียร์โมพาร์ ATF+3 type 7176-Tipo 7176 แกลลอนละ 1,100 (ไม่ถือว่าแพงเกินไป) ใช้ยี้ห้ออื่นได้ แต่แนะนำให้เทียบเกรดตามที่ระบุ จากค่ายอเมริกา น่าจะมี ลองดูเพนซ์ซอยล์นะ สำหรับเกียร์อัตโนมัตินะที่ลงเนี่ย ส่วนเกียร์ธรรมดา ความลับอยู่ที่จำเป็นต้องใช้ของโมพาร์เท่านั้น ไม่งั้น อาจมีอาการสะดุดได้ (ไม่รู้จริงหรือเปล่า เห็นเจ้าของร้านที่เคยใช้น้องออนเกียร์ธรรมดา บอกมาอย่างนี้น่ะ) 9. น้ำมันพาวเวอร์โมพาร์ 330 (ใช้ของมันเลย ก็โอเค ราคารับได้) 10. น้ำมันเบรกใช้แบบ dot 4 ยี่ห้อใดก็ได้ตามใจชอบ (เสร็จเราแล้ว ถูกหน่อย) 11. สวิทซ์น้ำมันเครื่อง จากอู่ซ่อมที่ต้องซื้อจากร้านอะไหล่อีกที คิดราคา 750 บาท (ฟันเยอะหน่อย) 12. กรองอากาศ 250 แท้ หรือเทียบก็ได้ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หรือใช้ของมันแท้ บางร้านโขกซะ สี่ร้อยถึงสี่ร้อยห้าสิบอ่ะ 13. กรองน้ำมันเครื่อง ของเทียบ 100 -150 แล้วแต่ร้านที่ขาย หรือจะใช้ของบีเอ็มลุกเล็ก ก็ได้ ของแท้ของบีเอ็มก็โน่นแหละ 250 - 300 อ่ะ 14. เซ็นเซอร์ฟลายวีล ประมาณ 3500 ถึง 3900 แล้วแต่ความเมตตาของเจ้าของร้านอะไหล่ 15. ปลั๊กเสียบตัวเซนเซอร์ฟลายวีล ตัวละ 1200 ถึง 1400 (แนะนำให้ใช้ของมันแท้ๆ เพื่อป้องกันปัญหาการสปาร์คเข้าตัวเซ็นเซอร์) มันล็อกสเป็คทั้งหมดให้เราแปลงแทบไม่ได้เลย แม้แต่เขี้ยวของปลั๊กของรถแต่ละปี ก็ต่างกัน ไม่เชื่อก็ลองดูที่เขี้ยวสิ ว่าเป็นแบบกลม หรือแบน มีอะไรอีกหว่า....อ้อ 16. ราคาตลาดการซ่อมกล่อง อยู่ที่ 8000 ถึง 12000 แล้วแต่ว่าอู่จะบวกครับ (ตรงนี้ควรตรวจมั่นใจว่า กล่องเสียแล้วจริงๆ ถึงจะทำนะ อย่าให้พวกมาหลอกได้ว่า จะเอารถมาให้ลอง พอมาจริง แล้วไม่เอารถมาลอง ก็อย่าเอากล่องถอดให้เค้าหล่ะ เพราะช่างส่วนใหญ่ของยี่ห้อนี้ เค้ารู้ว่าอะไหล่หายาก ช่างก็แทบไม่มี จำเป็นต้องพึ่งเค้า ดังนั้นหากเค้าไร้จรรยาบรรณ เราจะเห็นได้ทันทีว่า ราคามันจะแพงโคตรๆ ในความรุ้สึกลึกๆ เลยอ่ะ ไม่ต้องเกรงใจครับ ไม่ต้องไปทำกับเค้า) เพราะผมมีช่างแนะนำ ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ คุณไปติดต่อเอาเองนะ ที่ต้องแนะนำอย่างนี้เพราะแม้คุณเข้าอู่ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ ก็ทำไม่ได้หรอก มีไม่กี่คนที่สามารถทำได้ จะเปลี่ยนกล่องใหม่ ก็ชัดเข้าไป 38000 แพงโคตรๆ เพราะบวกกำไรกันอย่างเต็มที่ให้สมกับที่รอคอยบรรดาเจ้าของน้องออนกันเลยหล่ะ 17. กล่องPCM (มิใช่เรียก ECU )มือสองของน้องออน แต่ทำหน้าที่เหมือนและคล้ายกันครับ อยู่ที่ราคากลางประมาณ 9000 บาท เช่นกัน แต่พวกนี้ควรแน่ใจว่ามีรับประกันนะ ส่วนใหญ่ สามวันเจ็ดวัน ต้องระวังเหมือนกัน เพราะบางทีเอาไปใส่แล้ววิ่งไปสักเดือน แล้วมีอาการอื่นแทนได้ วิธีสังเกตุ กล่องPCM พวกนี้ จะต้องไม่มีร่องรอยการกรีด หรือลอกเอาซิลิโคนที่ฉีดปกคลุม ซึ่งผู้ผลิตเค้าฉีดซิลิโคนอัดไว้ในกล่องก็เพื่อกันน้ำเข้าในตัวกล่องที่ติดตั้งไว้ในห้องเครื่องไว้ ซึ่งไม่เหมือนกับรถญี่ปุ่นที่ติดกล่องไว้ในห้องโดยสารใต้คอนโซลเสียส่วนใหญ่ หากกล่องมือสองที่ซื้อมา มีร่องรอยการกรีดซิลิโคนส่วนหนึ่งส่วนใดที่ปกคลุมไว้ออก ให้สันนิษฐานได้เลยว่ากล่องนั้นต้องผ่านการซ่อมมาก่อนแล้วครับ ส่วนจะใช้การได้ดีหรือไม่ ต้องเทียบรถให้ตรงรุ่น เพราะกล่องของน้องออน แต่ละปี มีเขี้ยวไม่เหมือนกันครับ สายไฟที่เสียบปลั๊กจะพันรวมกันไว้มาสองตุ้ม จะมีตุ้มหนึ่งที่เป็นสายไฟที่เข้าขั้งปลั๊ก จะมีแรงดันน้ำมันเครื่องเข้าไปที่ตัวกล่องด้วยครับ หากถอดออกมาตุ้มข้างซ้าย หากมองจากหน้ารถเข้าไปนี่แหละครับ ที่มีแรงดันน้ำมันเครื่องเข้าที่สายไป ไปที่ตัวกล่อง ไม่ต้องตกใจ!!!!! นะครับ เพราะกล่องรุ่นนี้ จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันน้ำมันเครื่องเข้าไปที่ตัวกล่องด้วย 18. ไดชาร์ท ใช้ของเทียบได้ครับ เป็นของมาสด้านะ เพราะแอมป์มันเท่ากัน ราคาไดที่โมมาแล้ว ประมาณ 1800 หากรวมค่าติดตั้ง ก็ประมาณ 2500 ครับ ก็รับได้นะ แต่หากไปซื้อจากเชียงกงเอง ราคาจะถูกกว่านี้มาก เนื่องจากยังไม่ได้โมไว้ แต่หากเพื่อความสบายใจ ต้องการจะโมให้ดีเลย ก็เอาไปร้านทำไดพวกนี้ ก็ได้ ให้เค้าเอาไปล้างทำความสะอาดได และเช็คดูแปลงถ่าน หากมันสึกมากก็เปลี่ยน ก้อนละไม่กี่บาท บวกค่าล้าง ราคาตัวไดเชียงกงไม่น่าจะถึงพันบาท รวค่าบริการดังกล่าวก็อีกไม่เกิน 300 น่ะ ก็จะถูกกว่า 500 ถึง 1000 บาทแล้วล่ะ (สำหรับไดชาร์ทเนี่ย หากไม่ต้องการให้เวลาที่ไดพังแล้วเกิดชอร์ท ไปกระทบกับตัวกล่อง ผมมีข้อแนะนำให้ทำการติดตั้งรีเลย์เพิ่มที่ไดชาร์ทครับ จะช่วยให้เมื่อเกิดปัญหาแล้วกล่องจะไม่พัง เพราะรีเลย์มันจะตัดการทำงานให้กระแสไฟไม่ไปกระชากวิญญานของน้องออนเสียก่อน ซึ่งจะช่วยให้เราไม่เสียเงิน โดยอุบัติเหตุที่เกิดอันเนื่องมาจากไดชาร์ทเสียได้) อ้อ...ราคารีเลย์ ก็ตัวไม่กี่บาท ใช้ของbosh ตามสเป็คน่ะดีที่สุดครับ 19. ไดสตาร์ท ก็ทำนองเดียวกันนะ มีอีกหลายรายการครับ เช่นของเทียบพวกกระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค น็อตดุมล้อ แบต ปะเก็นเครื่อง สายหัวเทียน หัวเทียน เครื่องสแกนความบกพร่องของชุดอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ที่ติดตั้งมากับน้องออน แต่ผมง่วงนอนแล้วอ่ะ เอาเป็นว่า ไว้จะมาแฉให้ทราบกันอีกครับทีแล้วกันครับ หากใครสนใจManual ก็บอกนะครับ มีขายครับ ผมไม่ขายแพงหรอก เอ...หรือขายแพงดีนา 555 เพราะผมเคยขอยืมเหมือนกัน แต่ไม่มีใครกล้าให้ผมยืมกันเลยสักคน ก็เลยถือโอกาสทำให้รู้เสียเลยว่า คนที่ใช้น้องออนมีปัญหากันทั้งนั้น ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป คนไทยด้วยกันทั้งนั้น รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกไปเลยว่าไม่รู้ ขายก็ขาย แพงหรือถูกก็ว่ากัน สรุปเว้ากันแบบซื่อๆ น่ะดีที่สุด จริงใจหรือไม่จริงใจ การกระทำนั่นแหละจะพิสูจน์ได้ ยังไงก็ขอให้เจ้าของน้องออนทั้งหลาย ไม่ปวดหัวกับน้องออนนะครับ สุดท้าย ข้อมูลของผมใครคิดว่ามีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ ก็โพสต์กันมาได้ครับ หากใครมีอะไรที่แนะนำ และได้ราคาที่ถูกกว่านี้ ก็จะยิ่งดีกับเจ้าของน้องออนทุกท่าน รวมทั้งผมด้วยครับ จะได้ไม่ถูกพวกฉกฉวยประโยชน์จากเจ้าของน้องออนที่ทุกวันนี้ เหนื่อย และเบื่อไปหลายรอบกับเรื่องการซ่อมบำรุง จนไม่อยากทนอีกต่อไป จริงไหมครับ
ขอคารวะ คุณJude อีกหนึ่งจอกครับ ข้อมูลดีๆ ทั้งนั้นครับ เพื่อนๆ สบายใจได้แล้วครับ ขับนีออน สบายใจ รู้ทันช่างหมดแล้ว....55555 หากมีข้อมูลดีๆ บอกกันอีกนะครับ กบ
เย้ รถผมหายจากอาการอืดแล้วคับ ตกลงว่ามันเป็นที่เจ้าน้องแคทนั่นเองคับพอตัดปุ๊บก็โล่งเลย แล้วยังเป็นที่เซนเซอร์ออกซิเจนอีกตัวที่ต้องเปลี่ยนคับ แต่ช่างบอกว่าลองถอคปลั๊กแล้ววิ่งดูก่อน แล้วค่อยมาเปลี่ยนทีหลัง เห็นเขาว่าตั้ง4-5พันแหน่ะ สงสัยต้องพึ่งบารมีพระโอเปคซะแล้ว เออ ลืมแจ้งไปคับ พี่ผมไปติดตั้งแก๊สมาแล้วคับเป็นแบบหัวฉีดคับ ตอนนี้อยู่ระหว่างการทดลองใช้อยู่คับได้ผลประการใด จะมารายงานให้ทราบทั่วกันนะคับ เพื่อเป็นทางออกของคนชอบใช้รถนีออนกันนะคับ
เสียงดังเวลาเลี้ยว ขอบคุณคุณ hellojude ด้วยนะครับ สำหรับข้อมูล ตอนนี้รถของผม นอกเหนือจากอาการเบาดับ-ไฟ engine โชว์แล้ว (ซึ่งกำลังคิดอยู่ว่า จะไปซ่อมที่ไหนดี) ก็ยังมีอาการเสียงดังแบบหอน ๆ เวลาหักเลี้ยวพวงมาลัย ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา ซึ่งจะดังในขณะที่ขับรถช้า ๆ เท่านั้น เคยยกรถขึ้นดู มีน้ำมันพวงมาลัยซึม ๆ อยู่นิดหน่อย ตอนจอดอยู่ที่บ้านก็ไม่เห็นมีรอยหยด เป็นอย่างนี้มาครึ่งค่อนปีแล้วครับ นอกเรื่องนิดนึงเรื่องที่เบาดับ ช่างที่อู่อำไพ นางลิ้นจี่ บอกว่ามีน้ำมันเครื่องอยู่ในช่องหัวเทียนด้วย ไม่แน่ใจว่าเข้าไปได้ไง เค้าบอกให้ไปล้างทำความสะอาด แต่ก็ไม่รู้ว่าทำแล้วจะหายไม๊ เพื่อน ๆ เคยเจอปัญหานี้ไม๊ครับ ร้าน J-Tech ที่เอกมัยเป็นไงบ้างครับ คุณภาพงานซ่อมเป็นไงบ้าง อยากทราบ เผื่อจะเอาไปทำบ้าง ขอบคุณครับ + อ้างถึง ตอบกลับ
