• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;GAUSS, post: 889739, member: 68904&quot;]การจ่ายน้ำมันระบบหัวฉีด PGM-Fi ( Program Fuel injection )</p><p><br /></p><p>เทคโนโลยีระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ( Program Fuel injection ) ในประเทศไทย </p><p>ผลิตขึ้นโดยโรงงานผลิต 2 แห่งด้วยกัน คือ </p><p>1.บริษัท เคฮิน ออโต้ พาร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา </p><p>2.บริษัท เคฮิน (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน </p><p><br /></p><p>บริษัท เคฮิน ออโต้ พาร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญในระบบ PGM-FI </p><p>ได้แก่ อุปกรณ์สั่งการและควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสมองกลอัจฉริยะ หรือ ECU (Engine Control Unit)</p><p><br /></p><p>บริษัท เคฮิน (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย เรือนลิ้นเร่ง (Throttle Body) </p><p>ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Pump) และ หัวฉีด (Injector) เป็นต้น </p><p><br /></p><p>PGM-FI ยุคที่ 1 ในประเทศไทย ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ (Wave 125i) วางจำหน่ายเมื่อปี 2546 </p><p><br /></p><p>PGM-FI ยุคที่ 2 ในประเทศไทย ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ รุ่นที่ 2 วางจำหน่ายเมื่อปี 2548</p><p><br /></p><p>PGM-FI ยุคที่ 3 ในประเทศไทย ติดตั้งในรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่น CZ-i และ Click-i วางจำหน่ายเมื่อปี 2551</p><p><br /></p><p>จุดเด่นของ PGM-FI ยุคที่ 3 ขนาดที่มีความกะทัดรัด ให้ประสิทธิภาพสูง ความประหยัด ความสะอาด ตลอดจนสมรรถนะ </p><p>และที่สำคัญได้รับการผลิตเพียงแห่งเดียวที่ประเทศไทยเท่านั้น พร้อมนำส่งออกไปติดตั้งแพร่หลายในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วโลก </p><p><br /></p><p>บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด นำเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับรถจักรยานยนต์ ได้แก่ ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI </p><p>มาขยายการติดตั้งให้ครอบคลุมในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นเร็วๆ นี้ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นสู่ </p><p>&quot; การก้าวขึ้นเป็นองค์กรที่มีภาพลักษณ์เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม &quot;</p><p>สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันที่ราคาน้ำมันขยับพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกระแสสังคมให้ความตระหนักต่อสิ่งแวดล้อม </p><p>โดยระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI มีคุณสมบัติเด่นคือ ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงทั้งในด้านประหยัดน้ำมัน </p><p>ให้ไอเสียสะอาด รวมถึงให้สมรรถนะเพิ่มมากขึ้น ติดตั้งในเครื่องยนต์ใหม่ของฮอนด้า </p><p><br /></p><p>รุ่น CZ-i ขนาด 110 ซีซี แบบ 4 จังหวะ</p><p>ส่งผลให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้านี้ที่มีขนาด 100 ซีซี แบบ 4 จังหวะ</p><p>มีประสิทธิภาพโดดเด่นเหนือกว่าคือ ประหยัดน้ำมันมากขึ้น 18% (ทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 MODE)</p><p>รวมถึงให้สมรรถนะสูงด้วยอัตราเร่งที่มากขึ้น 25%</p><p><br /></p><p>รุ่น Click-i ขนาด 110 ซีซี แบบ 4 จังหวะ รถ A.T. ระบบสายพาน</p><p>มีผลทำให้สมรรถนะสูง ตอบสนองเต็มกำลัง 110 ซีซี ด้วยอัตราเร่งที่มากขึ้น</p><p>ประหยัดน้ำมันมากกว่าฮอนด้า Click รุ่นเดิมถึง 16% (ทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 mode) </p><p><br /></p><p>นอกจากนั้นแล้ว รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ๆ ที่ได้รับการติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI </p><p>ยังสามารถรองรับข้อกำหนดมาตรฐานควบคุมไอเสียระดับ 6 ที่ทางรัฐบาลจะประกาศบังคับใช้ในประเทศไทยภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ </p><p>ซึ่งนโยบายของฮอนด้าในครั้งนี้ นับเป็นการดำเนินการล่วงหน้าก่อนที่ข้อกำหนดนี้จะบังคับใช้อย่างเป็นทางการ </p><p>โดยระบบ PGM-FI ให้ค่าสะอาดกว่ามาตรฐานระดับ 6 ถึง 50% ในขณะที่สะอาดกว่าค่ามาตราฐานระดับ 5 </p><p>ที่เป็นมาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ถึง 80% และที่สำคัญยังเป็นครั้งแรกของวงการรถจักรยานยนต์ </p><p>โดยระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI สามารถรองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบแก๊สโซฮอลล์ E20 </p><p>เป็นพัฒนาการใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีระบบหัวฉีด โดยเป็นการพัฒนาต่อเนื่องเป็นระบบหัวฉีด PGM-FI ยุคที่ 7 ของโลก </p><p>โดยการผลิตขึ้นเฉพาะในประเทศไทยนั้น นับเป็นสิ่งสะท้อนถึงศักยภาพของโรงงานผลิตในประเทศไทย </p><p>ซึ่งสามารถผลิตเทคโนโลยีระดับสูงและมีความก้าวล้ำนำสมัย อีกทั้งมีมาตรฐานและคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล </p><p>ด้วยการนำส่งออกไปติดตั้งใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก </p><p><br /></p><p>****** วิธีการทดสอบตามมาตรฐาน ECE 40 mode ******</p><p>การทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมันตามค่ามาตราฐาน ECE 40 Mode </p><p>ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุมการเดินคันเร่งเพื่อให้เกิดความเที่ยงตรง โดยคอมพิวเตอร์จะสั่งให้ทำการทดสอบหมุนวนแบบนี้</p><p>ไปเรื่อยๆ จนถึงระยะทางที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งวิ่งอยู่กับที่บนเครื่องไดนาโมมิเตอร์เทสต์ หรือไดโนฯเทสต์ </p><p>มีรูปแบบการทดสอบที่ใกล้เคียงกับลักษณะการวิ่งใช้งานจริงบนท้องถนนของผู้ขับขี่คนไทยทั่วไป </p><p>ใช้อัตราความเร็วไม่คงที่..เฉลี่ย 18.4 กม.ต่อชม. และใช้ความเร็วสูงสุดในการทดสอบที่ 50 กม.ต่อชม.</p><p>รูปแบบการทดสอบ</p><p>ทดสอบโดยเร่งจาก 0 ถึง 16 กม.ต่อชม.ที่เวลา 10 วินาที จับความเร็วคงที่ 10 วินาที แล้วยกคันเร่ง </p><p>&nbsp;ต่อด้วยการเร่งจาก 0 ถึง 32 กม.ต่อชม.ที่เวลา 20 วินาที จับความเร็วคงที่ 20 วินาที แล้วยกคันเร่ง </p><p>&nbsp;&nbsp; จากนั้นให้เร่งจาก 0 ถึง 50 กม.ต่อชม.ที่เวลา 20 วินาที จับความเร็วคงที่ 10 วินาที แล้วยกคันเร่ง </p><p>&nbsp; เมื่อความเร็วตกลงมาถึง 35 กม.ต่อชม.ให้เดินคันเร่ง&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; ความเร็วคงที่ 10 วินาที แล้วยกคันเร่ง[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X