เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
News
>
Mercedes-Benz จัดหนักส่งท้ายปี อวดโฉมรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA พร้อมเปิดตัว 2 รถหรูแรงตระกูล AMG ในมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="News, post: 7113647, member: 3"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/nTtJM45.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมพร้อมเข้าสู่งานมหกรรมจัดแสดงรถยนต์ สุดยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปี 'Motor Expo 2018' ส่งตรงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA จากต่างประเทศ พร้อมเปิดตัวยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ ในราคา 7,090,000 บาท มาเอาใจคนไทยที่ชื่นชอบความหรูหราระดับ พรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเต็มพิกัด ให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S ในราคา 14,900,000 บาท พร้อมขนทัพยนตรกรรม รุ่นอื่นๆ มาจัดแสดงอีกกว่า 26 คัน ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี</b></p><p><br /></p><p><b>มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด</b> กล่าวว่า "สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์ที่หลากหลายจากทั้ง 4 แบรนด์ภายใต้หลังคาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด และตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมอันดับหนึ่ง โดยภายในบริเวณบูธเราได้แบ่งโซนการจัดแสดงรถยนต์ออกเป็น 4 โซน ครอบคลุมรถยนต์ภายใต้ แบรนด์ Mercedes-Benz ทั้งในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้า ลักชัวรี อย่าง Mercedes-Maybach รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยม อย่าง Mercedes-AMG และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ ปลั๊กอินไฮบริด อย่าง EQ Power เพื่อแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์แต่ละกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น"</p><p><br /></p><p>"หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนจะได้พบในปีนี้ คือ <b>Mercedes-Benz Concept EQA</b> รถยนต์ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพค โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้ผสานความคล่องตัวอันน่าประทับใจเข้ากับระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ผ่านการใช้สถาปัตยกรรมซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Mercedes-Benz ได้วางรากฐานไว้เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานไปจนถึงปี 2025"</p><p><br /></p><p>"และไฮไลท์ถัดมาคือการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ 'Mercedes AMG' ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญ และมีอัตราการเติบโตประมาณ 400% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อความร้อนแรงของรถยนต์กลุ่ม Mercedes-AMG หลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดทดสอบสมรรถนะรถยนต์กลุ่มนี้ครบทั้งตระกูลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนที่ผ่านมา โดยภายในงานบริษัทฯ ได้เปิดตัวยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ และน้องใหม่ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S เพื่อเอาใจสาวกดาวสามแฉกที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ" มร. โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม</p><p><br /></p><p><b>มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด</b> กล่าวว่า "นอกจากรถยนต์ต้นแบบ EQA ที่ทางบริษัทฯ นำมาจัดแสดงแล้ว เรายังได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่จากแบรนด์ Mercedes-AMG อย่าง <b>Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+</b> ผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์ที่ให้กำลัง 435 แรงม้ากับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในสร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่เป็นอย่างดี และสุดท้ายกับอีกหนึ่งน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง <b>Mercedes-AMG GT S</b> รถยนต์แบบคูเป้ที่ใช้อลูมิเนียมน้ำหนักเบาแบบ spaceframe เครื่องยนต์ V8 Biturbo เกียร์คลัทช์แบบ 7 สปีด เพื่อเอาใจคนรักความเร็วและแรงโดยเฉพาะ"</p><p><br /></p><p>"ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ขนทัพยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG จำนวนกว่า 8 รุ่น ครบทั้งตระกูลครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์คอมแพค ในรุ่น 45 ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ รถซาลูนรุ่นประกอบในประเทศ และรถยนต์สไตล์คูเป้ รุ่น 43 หรือรถยนต์รุ่น 53 นำเข้าที่เพิ่งเปิดตัวในครั้งนี้ รวมถึงรถยนต์เครื่องแรงที่สุดในรุ่น 63 และตระกูล AMG GT ครบทั้ง GT S GT C และ GT R มากที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ เพื่อมาให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันหลังจากการเปิดตัวในวันนี้ ทางบริษัทฯ จะมีรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG ที่วางขายในประเทศไทย จำนวนทั้งหมด 13 รุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT C Roadster, Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT S" มร.ฟรังค์ กล่าวเพิ่มเติม </p><p><br /></p><p><u><b>ข้อมูลผลิตภัณฑ์</b></u></p><p><b>Mercedes-Benz Concept EQA</b> รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพค ด้วยระบบขับเคลื่อนซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งชุดที่เพลาหน้า และอีกหนึ่งชุดที่เพลาท้าย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ให้กำลังสูงสุดกว่า 200 กิโลวัตต์ โดยสไตล์การ ขับขี่ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ ผ่านการปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้แบ่งกำลังไปยังล้อหน้า และล้อหลังในรูปแบบที่แตกต่างกัน </p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/K9Pfl5G.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>โดย Concept EQA คือผลจากการนำปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity มาตีความใหม่ พร้อมกับขับเคลื่อนแนวคิด Modern Luxury ให้พัฒนาสู่ความเป็น Progressive Luxury โดย ลบองค์ประกอบที่เป็นสัน และเส้นออกไป และก้าวสู่ความบริสุทธิ์หมดจดในอีกระดับ สัดส่วนที่น่าตื่นตารวมถึงพื้นผิวที่ราบรื่นไร้รอยต่อ เมื่อผสานกับกราฟิกเร้าอารมณ์ที่เกิดจากการใช้ แผงด้านหลังแบบไฮเทคสีดำ บ่งบอกถึงความเป็นที่สุดของการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้รถยนต์คันนี้ดูมีเสน่ห์อย่างแท้จริง นอกจากนี้รถยนต์คันนี้ได้เพิ่มความสวยงามภายนอก ด้วยเทคโนโลยี ไฟส่องสว่างที่โดดเด่นด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ โดยที่ตัวกลางซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงเลเซอร์ได้ถูกฝังไว้ในแกนกลางของเคเบิ้ลใยแก้ว ไฟรูปทรงขดเกลียวเล็กๆ สวยสะดุดตาช่วยเน้นย้ำแนวคิดของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งด้วยการออกแบบที่ชวนให้นึกถึงขดลวดทองแดงในมอเตอร์ไฟฟ้า และภาพการเคลื่อนไหวที่ให้มโนภาพถึงการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า</p><p><br /></p><p>มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบได้เพิ่มกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นกว่า 200 กิโลวัตต์ ด้วยผลของระบบแบตเตอรี่แบบเพิ่มขยายส่วนประกอบได้ ตลอดจนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาที่ให้สมรรถนะอันปราดเปรียวอย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ "Sport" และ "Sport Plus" ปรับเปลี่ยนแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้า และล้อหลังในอัตราที่แตกต่างกัน จึงเลือกบุคลิกการขับขี่ในแต่ละแบบได้ แผงสีดำบริเวณตอนหน้าของรถ ทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบเสมือน และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ที่ใช้ โดยในโหมด "Sport" กระจังจะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด "Sport Plus" ภาพที่แสดงจะเป็นเส้นขีดแนวตั้งรูปกระจังหน้าในแบบแพนอเมริกาน่า ด้วยโหมดการทำงานแบบอัจฉริยะของ Mercedes-Benz รถต้นแบบ Concept EQA สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูงนี้ เป็นแบบเซลล์กระเป๋า (Pouch Cell) ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทย่อยของเดมเลอร์ คือ บริษัท ดอยท์ช แอคคิวโมทิฟ ซึ่งผลจากการออกแบบในแบบโมดูลาร์ ทำให้ระบบแบตเตอรี่ชนิดนี้มีความจุรวมเฉพาะรุ่นมากกว่า 60 kWh</p><p><br /></p><p>Concept EQA สามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านการเหนี่ยวนําแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) หรือวอลล์บ็อกซ์ และยังรองรับการชาร์จเร็ว (Rapid Charging) อีกด้วย ในส่วนของวิสัยทัศน์ด้านการใช้บริการสถานีประจุไฟฟ้าสาธารณะจะเป็นการมุ่งสู่ "การชาร์จที่ราบรื่นไร้ปัญหาติดขัด" โดยบริการที่ใช้ระบบ Mercedes me นี้ จะทำให้การชาร์จ และการจ่ายค่าบริการในสถานีประจุไฟฟ้าแห่งต่างๆ เป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย</p><p><br /></p><p><b>Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+</b> รถยนต์ Mercedes-AMG ตระกูล 53 คือผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตรที่ให้กำลัง 320 กิโลวัตต์ (435 แรงม้า) กับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด รถยนต์ตระกูลนี้มีระบบอีคิวบูสท์ (EQ Boost) ที่สามารถเสริมกำลังให้เครื่องยนต์ได้ ถึง 16 กิโลวัตต์ รองรับการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกถึง 250 นิวตันเมตร รวมถึงสามารถ สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ ระบบอีคิวบูสท์เป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ อีกทั้งยังเป็นระบบที่เป็นตัวกลางช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ด้วย </p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/xWbp61V.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>สำหรับ<b>ดีไซน์ภายนอก</b>ของรถยนต์รุ่นนี้ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบแผงบังคับลมคู่สีเงิน ชุบโครเมี่ยม วัสดุเก็บขอบด้านข้างแบบพิเศษ กระโปรงหลังรูปแบบใหม่ล่าสุดที่สอดรับกับปลายท่อไอเสียทรงกลมทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ท่อไอเสียแบบ AMG Sports exhaust system, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1โคม) เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/LK3ZmjJ.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ดีไซน์ภายใน</b>ของรถยนต์ Mercedes-AMG ตระกูล 53 รุ่นใหม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่ Mercedes-AMG ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ที่ผู้ขับขี่จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 รูปแบบได้แก่ "Classic" "Sport" และ "Progressive" อีกทั้งยังสามารถเลือกแสดงข้อมูลต่างๆ ได้เพิ่มเติมตามต้องการอีกด้วย โดยผู้ขับขี่ยังจะสามารถควบคุมรถด้วยพวงมาลัยแบบพิเศษ AMG Performance Steering Wheel ที่เพิ่มความกระชับและมั่นใจตลอดการขับขี่ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสุนทรียภาพของการเดินทางด้วยระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/ssVU3l2.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี</b> ที่มีมาอย่างมากมายเพื่อช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE® Plus และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) นอกจากนี้ เทคโนโลยีเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission ที่ Mercedes-AMG เลือกใช้เป็นระบบเกียร์ที่ตอบสนองดีขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ แบบแปรผันได้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ที่ทำงานโดยอัตโนมัตินั้นยังช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกรื่นรมย์มากยิ่งกว่าที่เคย ทั้งนี้ ระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์เป็นระบบที่ Mercedes-AMG พัฒนาให้รองรับกับแนวคิดการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคของรถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ระบบไฟฟ้าดังกล่าวจึงรองรับระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ไฮบริด ทั้งโหมดบูสท์ การประจุพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่จากแรงเบรก (recuperate) การสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า (load point shift) การขับเคลื่อนโดยใช้เพียงแรงเฉื่อยซึ่งเกิดจากการหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้า (gliding) หรือแม้แต่ การสลับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยระบบ start/stop ที่เรียบลื่น</p><p><br /></p><p>Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+</p><p>เครื่องยนต์ เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ</p><p>ปริมาตร กระบอกสูบ 2,999 ซีซี</p><p>แรงม้าสูงสุด 435/ 6,100 แรงม้า/รอบต่อนาที</p><p>แรงบิดสูงสุด 520/1,800-5,800 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที</p><p>อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที</p><p>ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.</p><p>ราคา 7,090,000 บาท</p><p><br /></p><p><b>Mercedes-AMG GT S</b> น้องใหม่ ในตระกูล AMG GT ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบกันสะเทือน ตลอดจนดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก เป็นสปอร์ตตัวล่าสุดจาก เมอร์เซเดส </p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/4hZLHNW.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ดีไซน์ภายนอก</b> โดดเด่นด้วยการออกแบบฝากระโปรงหน้าแบบ jet wing ที่แสดงให้เห็นถึง ความกว้าง ปราดเปรียว ดูลู่ขนานไปกับพื้นถนน กระจังหน้าแบบเอเอ็มจี สอดรับกับฝากระโปรงหน้ายาวและทรงพลัง ช่องรับอากาศที่กว้าง ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น โดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 20 นิ้ว ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance โครงสร้างตัวรถน้ำหนักเบาแบบ spaceframe ผลิตจากอลูมิเนียม แม็กนีเซียม และเหล็กกล้า ซึ่งทำให้ตัวรถมีศูนย์ถ่วงที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีเหล็กคานขวางอลูมิเนียมที่ช่วยปกป้องขณะพลิกคว่ำและยังมีวัสดุดูดซับเสียงรบกวนเพิ่มเติมอีกด้วย </p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/Yf0WI9W.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ดีไซน์ภายใน</b> ตกแต่งเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง, พวงมาลัย AMG Performance Steering wheel หรือสามารถสร้างความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดเบาะแบบเอเอ็มจีที่สามารถปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นด้วยพนักพิงหลังที่มีความโค้งและเสริมด้วยวัสดุเพื่อความนุ่มสบายที่ด้านข้างมากกว่าเบาะที่นั่งแบบมาตรฐาน เพิ่มความสปอร์ตแต่หรูหรา ด้วยวัสดุโครเมียมสีเงินบนคอนโซลกลาง ช่องแอร์ และที่พักแขน แผงหน้าปัดกว้าง ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมด้วยปีกนก และห้องโดยสารที่สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่ </p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/xs4a2YH.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ความปลอดภัยและเทคโนโลยี</b> ของ Mercedes-AMG GT S มีระบบ AMG RIDE CONTROL (เอเอ็มจีไรด์คอนโทรล) ด้วยการใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน ระบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT 5 โหมด Comfort, Sport, Sport+, RACE และ Individual ประกอบกับระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-Speed Sport transmission ที่ใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงโดยเฉพาะเกียร์ 3-7 รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่มชิฟท์เกียร์สีเงินที่พวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แมนนวลได้อย่างสนุกสนาน</p><p><br /></p><p>Mercedes-AMG GT S </p><p>เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่</p><p>ปริมาตร กระบอกสูบ 3,982 ซีซี</p><p>แรงม้าสูงสุด 522/6,250 แรงม้า/รอบต่อนาที</p><p>แรงบิดสูงสุด 670/1,900-5,000 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที</p><p>อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.8 วินาที</p><p>ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม.</p><p>ราคา 14,900,000 บาท</p><p><br /></p><p>ซึ่งนอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ทุกท่านยังจะได้พบกับทัพยนตรกรรมรุ่นอื่นๆ อีกกว่า 26 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งแบรนด์ Mercedes-Benz Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach รวมถึงแบรนด์เทคโนโลยี EQ Power และข้อเสนอพิเศษสุดมากมายเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้า อาทิ iPhone XS Max 256 GB มูลค่า 49,900 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด) สำหรับลูกค้าที่รับรถ Mercedes-Benz 7 รุ่นที่ร่วมรายการ อย่าง CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic, E 350 e Avantgarde, E 350 e Exclusive, E 350 e AMG Dynamic, GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ในระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2561 </p><p><br /></p><p>รวมถึงข้อเสนอจาก บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กับโปรแกรม starPLUS ที่เพิ่มความคุ้มครองให้เต็ม 100% ในกรณีที่รถยนต์สูญหายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) มอบให้กับผู้ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำสัญญารถยนต์ใหม่กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง และเลือกซื้อความคุ้มครองจาก Mercedes-Benz Protection (ยกเว้นลูกค้าประเภทฟลีท) เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และความอุ่นใจในการตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ </p><p><br /></p><p>และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นใดก็ได้ในช่วงงาน </p><p>Motor Expo พร้อมรับรถและเริ่มต้นสัญญารถใหม่เฉพาะประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Finance Lease) และมายสตาร์ (mySTAR) กับทางบริษัทฯ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 16,000 บาท </p><p><br /></p><p>ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์รุ่น GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 สามารถเลือกระหว่าง รับอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน หรือส่วนลดเงินดาวน์สำหรับทุกประเภทสัญญา ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารผ่านช่องทางบัญชีทางการ LINE@ ในชื่อ @mblt ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป</p><p><br /></p><p>Mercedes-Benz ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปหรือมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ระหว่าง วันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="News, post: 7113647, member: 3"][center][img]https://i.imgur.com/nTtJM45.jpg[/img][/center] [b]บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมพร้อมเข้าสู่งานมหกรรมจัดแสดงรถยนต์ สุดยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปี 'Motor Expo 2018' ส่งตรงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA จากต่างประเทศ พร้อมเปิดตัวยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ ในราคา 7,090,000 บาท มาเอาใจคนไทยที่ชื่นชอบความหรูหราระดับ พรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเต็มพิกัด ให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S ในราคา 14,900,000 บาท พร้อมขนทัพยนตรกรรม รุ่นอื่นๆ มาจัดแสดงอีกกว่า 26 คัน ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี[/b] [b]มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด[/b] กล่าวว่า "สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์ที่หลากหลายจากทั้ง 4 แบรนด์ภายใต้หลังคาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด และตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมอันดับหนึ่ง โดยภายในบริเวณบูธเราได้แบ่งโซนการจัดแสดงรถยนต์ออกเป็น 4 โซน ครอบคลุมรถยนต์ภายใต้ แบรนด์ Mercedes-Benz ทั้งในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้า ลักชัวรี อย่าง Mercedes-Maybach รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยม อย่าง Mercedes-AMG และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ ปลั๊กอินไฮบริด อย่าง EQ Power เพื่อแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์แต่ละกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น" "หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนจะได้พบในปีนี้ คือ [b]Mercedes-Benz Concept EQA[/b] รถยนต์ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพค โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้ผสานความคล่องตัวอันน่าประทับใจเข้ากับระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ผ่านการใช้สถาปัตยกรรมซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Mercedes-Benz ได้วางรากฐานไว้เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานไปจนถึงปี 2025" "และไฮไลท์ถัดมาคือการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ 'Mercedes AMG' ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญ และมีอัตราการเติบโตประมาณ 400% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อความร้อนแรงของรถยนต์กลุ่ม Mercedes-AMG หลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดทดสอบสมรรถนะรถยนต์กลุ่มนี้ครบทั้งตระกูลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนที่ผ่านมา โดยภายในงานบริษัทฯ ได้เปิดตัวยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ และน้องใหม่ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S เพื่อเอาใจสาวกดาวสามแฉกที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ" มร. โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม [b]มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด[/b] กล่าวว่า "นอกจากรถยนต์ต้นแบบ EQA ที่ทางบริษัทฯ นำมาจัดแสดงแล้ว เรายังได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่จากแบรนด์ Mercedes-AMG อย่าง [b]Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+[/b] ผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์ที่ให้กำลัง 435 แรงม้ากับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในสร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่เป็นอย่างดี และสุดท้ายกับอีกหนึ่งน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง [b]Mercedes-AMG GT S[/b] รถยนต์แบบคูเป้ที่ใช้อลูมิเนียมน้ำหนักเบาแบบ spaceframe เครื่องยนต์ V8 Biturbo เกียร์คลัทช์แบบ 7 สปีด เพื่อเอาใจคนรักความเร็วและแรงโดยเฉพาะ" "ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ขนทัพยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG จำนวนกว่า 8 รุ่น ครบทั้งตระกูลครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์คอมแพค ในรุ่น 45 ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ รถซาลูนรุ่นประกอบในประเทศ และรถยนต์สไตล์คูเป้ รุ่น 43 หรือรถยนต์รุ่น 53 นำเข้าที่เพิ่งเปิดตัวในครั้งนี้ รวมถึงรถยนต์เครื่องแรงที่สุดในรุ่น 63 และตระกูล AMG GT ครบทั้ง GT S GT C และ GT R มากที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ เพื่อมาให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันหลังจากการเปิดตัวในวันนี้ ทางบริษัทฯ จะมีรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG ที่วางขายในประเทศไทย จำนวนทั้งหมด 13 รุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT C Roadster, Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT S" มร.ฟรังค์ กล่าวเพิ่มเติม [u][b]ข้อมูลผลิตภัณฑ์[/b][/u] [b]Mercedes-Benz Concept EQA[/b] รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพค ด้วยระบบขับเคลื่อนซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งชุดที่เพลาหน้า และอีกหนึ่งชุดที่เพลาท้าย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ให้กำลังสูงสุดกว่า 200 กิโลวัตต์ โดยสไตล์การ ขับขี่ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ ผ่านการปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้แบ่งกำลังไปยังล้อหน้า และล้อหลังในรูปแบบที่แตกต่างกัน [center][img]https://i.imgur.com/K9Pfl5G.jpg[/img][/center] โดย Concept EQA คือผลจากการนำปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity มาตีความใหม่ พร้อมกับขับเคลื่อนแนวคิด Modern Luxury ให้พัฒนาสู่ความเป็น Progressive Luxury โดย ลบองค์ประกอบที่เป็นสัน และเส้นออกไป และก้าวสู่ความบริสุทธิ์หมดจดในอีกระดับ สัดส่วนที่น่าตื่นตารวมถึงพื้นผิวที่ราบรื่นไร้รอยต่อ เมื่อผสานกับกราฟิกเร้าอารมณ์ที่เกิดจากการใช้ แผงด้านหลังแบบไฮเทคสีดำ บ่งบอกถึงความเป็นที่สุดของการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้รถยนต์คันนี้ดูมีเสน่ห์อย่างแท้จริง นอกจากนี้รถยนต์คันนี้ได้เพิ่มความสวยงามภายนอก ด้วยเทคโนโลยี ไฟส่องสว่างที่โดดเด่นด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ โดยที่ตัวกลางซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงเลเซอร์ได้ถูกฝังไว้ในแกนกลางของเคเบิ้ลใยแก้ว ไฟรูปทรงขดเกลียวเล็กๆ สวยสะดุดตาช่วยเน้นย้ำแนวคิดของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งด้วยการออกแบบที่ชวนให้นึกถึงขดลวดทองแดงในมอเตอร์ไฟฟ้า และภาพการเคลื่อนไหวที่ให้มโนภาพถึงการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบได้เพิ่มกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นกว่า 200 กิโลวัตต์ ด้วยผลของระบบแบตเตอรี่แบบเพิ่มขยายส่วนประกอบได้ ตลอดจนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาที่ให้สมรรถนะอันปราดเปรียวอย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ "Sport" และ "Sport Plus" ปรับเปลี่ยนแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้า และล้อหลังในอัตราที่แตกต่างกัน จึงเลือกบุคลิกการขับขี่ในแต่ละแบบได้ แผงสีดำบริเวณตอนหน้าของรถ ทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบเสมือน และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ที่ใช้ โดยในโหมด "Sport" กระจังจะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด "Sport Plus" ภาพที่แสดงจะเป็นเส้นขีดแนวตั้งรูปกระจังหน้าในแบบแพนอเมริกาน่า ด้วยโหมดการทำงานแบบอัจฉริยะของ Mercedes-Benz รถต้นแบบ Concept EQA สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูงนี้ เป็นแบบเซลล์กระเป๋า (Pouch Cell) ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทย่อยของเดมเลอร์ คือ บริษัท ดอยท์ช แอคคิวโมทิฟ ซึ่งผลจากการออกแบบในแบบโมดูลาร์ ทำให้ระบบแบตเตอรี่ชนิดนี้มีความจุรวมเฉพาะรุ่นมากกว่า 60 kWh Concept EQA สามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านการเหนี่ยวนําแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) หรือวอลล์บ็อกซ์ และยังรองรับการชาร์จเร็ว (Rapid Charging) อีกด้วย ในส่วนของวิสัยทัศน์ด้านการใช้บริการสถานีประจุไฟฟ้าสาธารณะจะเป็นการมุ่งสู่ "การชาร์จที่ราบรื่นไร้ปัญหาติดขัด" โดยบริการที่ใช้ระบบ Mercedes me นี้ จะทำให้การชาร์จ และการจ่ายค่าบริการในสถานีประจุไฟฟ้าแห่งต่างๆ เป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย [b]Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+[/b] รถยนต์ Mercedes-AMG ตระกูล 53 คือผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตรที่ให้กำลัง 320 กิโลวัตต์ (435 แรงม้า) กับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด รถยนต์ตระกูลนี้มีระบบอีคิวบูสท์ (EQ Boost) ที่สามารถเสริมกำลังให้เครื่องยนต์ได้ ถึง 16 กิโลวัตต์ รองรับการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกถึง 250 นิวตันเมตร รวมถึงสามารถ สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ ระบบอีคิวบูสท์เป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ อีกทั้งยังเป็นระบบที่เป็นตัวกลางช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ด้วย [center][img]https://i.imgur.com/xWbp61V.jpg[/img][/center] สำหรับ[b]ดีไซน์ภายนอก[/b]ของรถยนต์รุ่นนี้ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบแผงบังคับลมคู่สีเงิน ชุบโครเมี่ยม วัสดุเก็บขอบด้านข้างแบบพิเศษ กระโปรงหลังรูปแบบใหม่ล่าสุดที่สอดรับกับปลายท่อไอเสียทรงกลมทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ท่อไอเสียแบบ AMG Sports exhaust system, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1โคม) เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า [center][img]https://i.imgur.com/LK3ZmjJ.jpg[/img][/center] [b]ดีไซน์ภายใน[/b]ของรถยนต์ Mercedes-AMG ตระกูล 53 รุ่นใหม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่ Mercedes-AMG ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ที่ผู้ขับขี่จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 รูปแบบได้แก่ "Classic" "Sport" และ "Progressive" อีกทั้งยังสามารถเลือกแสดงข้อมูลต่างๆ ได้เพิ่มเติมตามต้องการอีกด้วย โดยผู้ขับขี่ยังจะสามารถควบคุมรถด้วยพวงมาลัยแบบพิเศษ AMG Performance Steering Wheel ที่เพิ่มความกระชับและมั่นใจตลอดการขับขี่ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสุนทรียภาพของการเดินทางด้วยระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system [center][img]https://i.imgur.com/ssVU3l2.jpg[/img][/center] [b]ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี[/b] ที่มีมาอย่างมากมายเพื่อช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE® Plus และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) นอกจากนี้ เทคโนโลยีเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission ที่ Mercedes-AMG เลือกใช้เป็นระบบเกียร์ที่ตอบสนองดีขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ แบบแปรผันได้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ที่ทำงานโดยอัตโนมัตินั้นยังช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกรื่นรมย์มากยิ่งกว่าที่เคย ทั้งนี้ ระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์เป็นระบบที่ Mercedes-AMG พัฒนาให้รองรับกับแนวคิดการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคของรถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ระบบไฟฟ้าดังกล่าวจึงรองรับระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ไฮบริด ทั้งโหมดบูสท์ การประจุพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่จากแรงเบรก (recuperate) การสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า (load point shift) การขับเคลื่อนโดยใช้เพียงแรงเฉื่อยซึ่งเกิดจากการหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้า (gliding) หรือแม้แต่ การสลับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยระบบ start/stop ที่เรียบลื่น Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ เครื่องยนต์ เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ ปริมาตร กระบอกสูบ 2,999 ซีซี แรงม้าสูงสุด 435/ 6,100 แรงม้า/รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 520/1,800-5,800 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ราคา 7,090,000 บาท [b]Mercedes-AMG GT S[/b] น้องใหม่ ในตระกูล AMG GT ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบกันสะเทือน ตลอดจนดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก เป็นสปอร์ตตัวล่าสุดจาก เมอร์เซเดส [center][img]https://i.imgur.com/4hZLHNW.jpg[/img][/center] [b]ดีไซน์ภายนอก[/b] โดดเด่นด้วยการออกแบบฝากระโปรงหน้าแบบ jet wing ที่แสดงให้เห็นถึง ความกว้าง ปราดเปรียว ดูลู่ขนานไปกับพื้นถนน กระจังหน้าแบบเอเอ็มจี สอดรับกับฝากระโปรงหน้ายาวและทรงพลัง ช่องรับอากาศที่กว้าง ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น โดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 20 นิ้ว ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance โครงสร้างตัวรถน้ำหนักเบาแบบ spaceframe ผลิตจากอลูมิเนียม แม็กนีเซียม และเหล็กกล้า ซึ่งทำให้ตัวรถมีศูนย์ถ่วงที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีเหล็กคานขวางอลูมิเนียมที่ช่วยปกป้องขณะพลิกคว่ำและยังมีวัสดุดูดซับเสียงรบกวนเพิ่มเติมอีกด้วย [center][img]https://i.imgur.com/Yf0WI9W.jpg[/img][/center] [b]ดีไซน์ภายใน[/b] ตกแต่งเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง, พวงมาลัย AMG Performance Steering wheel หรือสามารถสร้างความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดเบาะแบบเอเอ็มจีที่สามารถปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นด้วยพนักพิงหลังที่มีความโค้งและเสริมด้วยวัสดุเพื่อความนุ่มสบายที่ด้านข้างมากกว่าเบาะที่นั่งแบบมาตรฐาน เพิ่มความสปอร์ตแต่หรูหรา ด้วยวัสดุโครเมียมสีเงินบนคอนโซลกลาง ช่องแอร์ และที่พักแขน แผงหน้าปัดกว้าง ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมด้วยปีกนก และห้องโดยสารที่สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่ [center][img]https://i.imgur.com/xs4a2YH.jpg[/img][/center] [b]ความปลอดภัยและเทคโนโลยี[/b] ของ Mercedes-AMG GT S มีระบบ AMG RIDE CONTROL (เอเอ็มจีไรด์คอนโทรล) ด้วยการใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน ระบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT 5 โหมด Comfort, Sport, Sport+, RACE และ Individual ประกอบกับระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-Speed Sport transmission ที่ใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงโดยเฉพาะเกียร์ 3-7 รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่มชิฟท์เกียร์สีเงินที่พวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แมนนวลได้อย่างสนุกสนาน Mercedes-AMG GT S เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ปริมาตร กระบอกสูบ 3,982 ซีซี แรงม้าสูงสุด 522/6,250 แรงม้า/รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 670/1,900-5,000 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ราคา 14,900,000 บาท ซึ่งนอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ทุกท่านยังจะได้พบกับทัพยนตรกรรมรุ่นอื่นๆ อีกกว่า 26 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งแบรนด์ Mercedes-Benz Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach รวมถึงแบรนด์เทคโนโลยี EQ Power และข้อเสนอพิเศษสุดมากมายเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้า อาทิ iPhone XS Max 256 GB มูลค่า 49,900 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด) สำหรับลูกค้าที่รับรถ Mercedes-Benz 7 รุ่นที่ร่วมรายการ อย่าง CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic, E 350 e Avantgarde, E 350 e Exclusive, E 350 e AMG Dynamic, GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ในระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2561 รวมถึงข้อเสนอจาก บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กับโปรแกรม starPLUS ที่เพิ่มความคุ้มครองให้เต็ม 100% ในกรณีที่รถยนต์สูญหายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) มอบให้กับผู้ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำสัญญารถยนต์ใหม่กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง และเลือกซื้อความคุ้มครองจาก Mercedes-Benz Protection (ยกเว้นลูกค้าประเภทฟลีท) เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และความอุ่นใจในการตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นใดก็ได้ในช่วงงาน Motor Expo พร้อมรับรถและเริ่มต้นสัญญารถใหม่เฉพาะประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Finance Lease) และมายสตาร์ (mySTAR) กับทางบริษัทฯ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 16,000 บาท ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์รุ่น GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 สามารถเลือกระหว่าง รับอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน หรือส่วนลดเงินดาวน์สำหรับทุกประเภทสัญญา ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารผ่านช่องทางบัญชีทางการ LINE@ ในชื่อ @mblt ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Mercedes-Benz ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปหรือมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ระหว่าง วันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
News
>
Mercedes-Benz จัดหนักส่งท้ายปี อวดโฉมรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA พร้อมเปิดตัว 2 รถหรูแรงตระกูล AMG ในมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...