• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;News, post: 7113641, member: 3&quot;]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/dAV4JxT.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด</b> ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แมคลาเรนอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย&nbsp; เผยโฉม McLaren 600LT ครั้งแรกในประเทศไทย ณ งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ บูธ A11 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/4Q8pnF1.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/Hwa84Zr.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/HeKx0ot.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>McLaren 600LT คือสมาชิกลำดับที่ 4 แห่งตระกูล LT (Longtail) ในกลุ่มสปอร์ตซีรีส์ (Sport Series) มุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพสูงสุด และทรงพลังสูงสุดในกลุ่มเดียวกัน พัฒนาจากวิศกรรมยานยนต์ชั้นเลิศของสายพันธุ์รถแข่ง GT ขนานแท้ เพิ่มความแรงและน้ำหนักเบา พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก ด้วยเครื่องยนต์ V8 ความจุ 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ ส่งมอบขุมพลัง 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/XDi3GJH.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/oIYazw9.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/bCpRQHB.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ความแรงและเร็วเปรียบดั่งกระสุนเงิน ยกระดับตำนานตระกูล LT คลาสสิก ให้ก้าวล้ำสู่อนาคต ด้วยความเบาจากโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ รับประกันความรู้สึกร่วมของผู้ขับที่จะสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่รวดเร็วและชาญฉลาดยิ่งขึ้น เพื่อการขับบนท้องถนนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังคงคาแรกเตอร์ของรถสปอร์ต</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/VEpwWr3.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/xun7JBH.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น 570S Coupé รถ McLaren 600LT มีน้ำหนักที่เบากว่าถึง 96.4 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์&nbsp; และการใช้แชสซีส์ MonoCell II คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาลงถึง 75 กิโลกรัม พร้อมล้ออัลลอยที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาพิเศษ พัฒนาระบบกันสั่นสะเทือน เพิ่มประสิทธิภาพ front track รวมถึงการปรับการตกแต่งภายในที่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์สูงสุด พร้อมพุ่งทะยานสู่ท้องถนนด้วยศักยภาพที่เหนือชั้นเต็มรูปแบบ</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/wpcSOGw.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/Bo9fE0E.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>การปรับปรุงระบบความเย็นและการพัฒนาระบบระบายไอเสียทำให้ McLaren 600LT พุ่งทะยานด้วยความแรงและดุดันยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Active Dynamics Panel และเบาะนั่งรถแข่ง จะขับบนท้องถนนหรือสนามแข่งก็ง่ายดายสูงสุด นอกจากนั้นด้านหลังของรถยังเพิ่มขึ้น 47 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มแรงกดอากาศ และสมรรถภาพที่ดียิ่งขึ้นในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความดิบและความรู้สึกร่วมของผู้ขับต่อการตอบสนองของระบบเบรกน้ำหนักเบา ปีกนกคู่อะลูมิเนียม และยาง Pirelli P Zero TroFeo R ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อ McLaren 600LT โดยเฉพาะ เพิ่มความเร้าใจในการขับสูงสุด</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/RpzvYjJ.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/nbV7hKa.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด</b> เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดตัว McLaren 600LT ว่า &quot;นิชคาร์เปิดจำหน่าย McLaren 600LT ซึ่งจะนำเข้ามาในประเทศไทยเพียง 6 คันเท่านั้น ด้วยราคาเริ่มต้น 24.7 ล้านบาท การเปิดตัวซูเปอร์คาร์ในประเทศไทย ที่งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ ถือเป็นไฮไลต์ครั้งสำคัญ และเป็นโอกาสของแฟนรถทุกท่านที่จะได้ร่วมยลโฉมการออกแบบ และประสิทธิภาพระดับตำนานของแมคลาเรนได้อย่างใกล้ชิด&quot;</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/rX4fgp3.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/nwfPbbt.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/tAndo9Y.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/xaGq2Qn.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ในครั้งนี้ นอกจาก McLaren 600LT แล้ว บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ยังได้นำ McLaren 720S ซูเปอร์คาร์เจเนอเรชั่น 2 ในกลุ่มซูเปอร์ ซีรีส์ ที่ได้เปิดตัว ณ โชว์รูม นิช คาร์ เมื่อเดือนมิถุนายน มาจัดแสดงในงานครั้งนี้ด้วย McLaren 720S มีความทรงพลังถึง 720 แรงม้า เบากว่าและแรงยิ่งกว่า McLaren 650S รุ่นก่อนหน้า และพื้นที่ภายในที่พัฒนาสูงสุดเพื่อความสนุกในการขับที่มากกว่า พร้อมด้วย McLaren 570S Coupé คือผู้นำในรุ่นด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ และเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบขนาด 3.8 สร้างความเร้าใจในการขับ ทั้งนี้ แมคลาเรน Rolling Chassis คือส่วนที่น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนรถยนต์ตัวจริง ที่จะได้มีโอกาสยลโฉมยานยนต์จากบริทิชที่มีเทคโนโลยีและชื่อเสียงระดับชั้นนำของโลก</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/QNyKgVh.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p style="text-align: center"><b>ข้อมูลรถยนต์รุ่นแมคลาเรน 600 แอลที (McLaren 600 LT)</b></p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/yiLBNck.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ภาพรวม McLaren 600LT</b></p><p><br /></p><p>เดิมที McLaren F1 ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการแข่งขัน แต่เมื่อผลิตออกมาแล้วกลับได้รับความนิยมในการแข่งขันอย่างมาก โดยในการแข่งขันรายการ 24 ชั่วโมง เลอม็องส์ (24 Hours of Le Mans) ปี ค.ศ. 1995 รถ McLaren F1 จีทีอาร์ (McLaren F1 GTR) ซึ่งใช้งานสวนทางกับวัตถุประสงค์ในการสร้าง กลับสามารถเข้าเส้นชัยได้ทั้งอันดับ 1, 3, 4, 5 และ 13 นับเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและทำให้แมคลาเรนกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันที่โด่งดังและสุดแสนอันทรหดระดับโลกได้ในการลงแข่งขันครั้งแรก และยังเป็นสถิติอันน่าภาคภูมิใจซึ่งยังไม่มีใครทำลายได้ตราบจนทุกวันนี้ หากนั่นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของ McLaren F1 GTR เพราะรถยนต์รุ่นนี้ยังมีการพัฒนาไปจนถึงขั้นสูงสุด จนกลายเป็นหนึ่งในรถแข่งที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ตยุคใหม่ นั่นคือรุ่น ลองเทล (Longtail)</p><p><br /></p><p>การผลิตซ้ำ McLaren F1 GTR ครั้งใหม่อันน่าตื่นใจเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงฤดูการแข่งขันปี 1997 และการยืดทรงตัวรถให้ยาวขึ้นอย่างสวยงามนี่เองที่ทำให้เกิดชื่อรุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ โดยในช่วงแรกมีการผลิตขึ้นเพียง 9 คันหลังจากคันต้นแบบ ซึ่งนอกจากการสร้างช่วงตัวรถให้ยาวขึ้นเพื่อลดแรงต้านและเพิ่มแรงกดอากาศบนตัวรถ ยังมีการพัฒนาเพิ่มเติมภายใต้รูปลักษณ์ที่ยาวขึ้นนี้ อาทิ ระบบกันสะเทือนที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างสมบูรณ์แบบและระบบเกียร์ซีเควนเชียล (Sequential transmission) นอกจากนี้ ยังมีการลดน้ำหนักในทุกส่วนประกอบ ซึ่งทำให้ McLaren F1 GTR &quot;ลองเทล&quot; มีน้ำหนักเบาขึ้นอีกมากกว่า 100 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับ McLaren F1 GTR ซึ่งเป็นรถที่มีน้ำหนักเบามากเจ้าของแชมป์รายการ 24 ชั่วโมง เลอม็องส์ ในปี ค.ศ.1995</p><p><br /></p><p>การปรับแต่งขั้นสุดยอดนี้ก่อให้เกิดรถยนต์ที่เป็นหนึ่งในรถแข่งรุ่นจีทีที่มีความสวยงามมากที่สุดในยุคใหม่ และได้รับเสียงชื่นชมมากมายจากบรรดานักแข่งรถ โดย McLaren F1 GTR “ลองเทล” สามารถคว้าชัยชนะได้ 5 รอบจากทั้งหมด 11 รอบในรายการ FIA GT Championship ของปีนั้น และเข้าส้นชัยเป็นอันดับ 1 และ 2 ในรุ่นจีที คลาส รายการ24 ชั่วโมง เลอม็องส์ ซึ่งคู่แข่งที่เข้าใกล้ที่สุดก็ยังอยู่ห่างไปถึง 30 รอบ</p><p><br /></p><p>แมคลาเรนได้คืนชีพชื่อรุ่น &quot;ลองเทล&quot; อันเป็นตำนานอีกครั้งในงาน 2015 Geneva Motor Show ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ที่เน้นเรื่องสมรรถนะสูงสุดในตระกูลซูเปอร์ ซีรีส์ นั่นคือ แมคลาเรน 675แอลที (McLaren 675LT) ซึ่งได้รับการออกแบบให้สืบทอดความเป็นเลิศของรถยนต์รุ่นก่อน ๆ เพราะ แมคลาเรน 675แอลที ถือเป็นซูเปอร์คาร์ของแมคลาเรนที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของตระกูล Super Series ได้อย่างชัดเจนมากที่สุดจวบจนปัจจุบัน</p><p><br /></p><p>และเพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลังรถยนต์รุ่นคูเป้ที่ผลิตในจำนวนจำกัดถูกจำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว แมคลาเรนจึงสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นแมคลาเรน 675แอลที สไปเดอร์ (McLaren 675LT Spider) ซึ่งเป็นรุ่นเปิดประทุนที่เน้นสมรรถนะเร็วแรงสูงสุดเท่าที่แมคลาเรนเคยผลิตมา โดยรถตัวอย่างทั้ง 500 คันจำหน่ายหมดภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น</p><p><br /></p><p>แมคลาเรน 600แอลที คูเป้ (McLaren 600LT Coupé) ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ 4 ซึ่งใช้ชื่อแอลที และเป็นรถ &quot;ลองเทล&quot; รุ่นแรกในตระกูล Sports Series โดยจำหน่ายครั้งแรกในรูปแบบรถคูเป้ ซึ่งแมคลาเรน 600แอลที จะทำการผลิตในจำนวนจำกัด</p><p><br /></p><p><b>ความแรงและเร็วเปรียบดั่งกระสุนเงิน</b></p><ul> <li>น้ำหนักเบาขึ้น - เบาขึ้นถึง 69.4 กิโลกรัม</li> <li>ประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ดีขึ้น - เพิ่มแรงกดอากาศบนตัวรถอย่างมีนัยสำคัญ</li> <li>กำลังแรงขึ้น - 600 แรงม้า</li> <li>ความเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ที่มากขึ้น - ตอบสนองนักขับได้เฉียบคมและฉับไวอย่างแท้จริง</li> <li>เร็วขึ้น - เพิ่มสมรรถนะวิ่งทางตรง ประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักเบา</li> <li>จำกัดจำนวนการผลิตอย่างเคร่งครัด</li> </ul><p><br /></p><p><b>โครงสร้าง</b></p><ul> <li>โครงสร้างซูเปอร์คาร์แบบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา</li> <li>การใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์อย่างครอบคลุม โดยใช้แทนส่วนประกอบอลูมิเนียมและสารประกอบคอมโพสิต</li> <li>โครงช่วงล่างคาร์บอนไฟเบอร์แบบ MonoCell II รุ่นใหม่ น้ำหนักเพียง 75 กิโลกรัม คุณสมบัติเบาขึ้น แข็งแรงขึ้น และคงตัวมากกว่าอลูมิเนียมหรือเหล็กกล้าที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน</li> <li>ลดน้ำหนักในส่วนประกอบหลักทั้งคัน</li> <li>แมคลาเรน 600แอลที คูเป้ น้ำหนักเบากว่า 570เอส คูเป้ ถึง 96 กิโลกรัม</li> </ul><p><br /></p><p><b>ดีไซน์</b></p><ul> <li>ดีไซน์สไตล์รถแข่งที่ดุดัน พร้อมติดตั้งแพ็คเกจอากาศพลศาสตร์และโครงรถที่ยืดความยาว สมกับชื่อ&nbsp; แมคลาเรน “ลองเทล”</li> <li>ระบบกันสะเทือนแบบลดระดับความสูงและดีไซน์ร่องด้านหน้า มอบรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สองแบบ ทั้งแบบ 5 หมุดและ 10 หมุด</li> <li>ดีไซน์ไฟหน้าดุดันยิ่งขึ้น เผยโครงคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนหลังคาที่ดูตัดกันชัดเจน และการตกแต่งภายในแบบ Alcantara® เต็มรูปแบบ ผสานกับการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว สอดรับกับสีรถเข้มน้ำหนักเบาในโทนเมทัลลิกที่มอบความลึกลับน่าค้นหายิ่งกว่าเดิม</li> <li>การตกแต่งภายในเน้นการใช้ประโยชน์ มีน้ำหนักเบา เสริมสมรรถนะในสนามแข่ง โดยไม่มีการปูพรมพื้น ไม่มีกล่องเก็บสัมภาระ และติดเครื่องหมายที่ 12 นาฬิกาบนพวงมาลัย</li> </ul><p><br /></p><p><b>สมรรถนะการขับขี่</b></p><ul> <li>สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ในกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์-สปอร์ตคาร์ มอบอัตราเร่งแรงสุดในคลาสเดียวกัน</li> <li>รถยนต์ที่ทรงพลังสูงสุดในตระกูล Sport Series เท่าที่เคยผลิตมา ด้วยเครื่องยนต์ทวิน-เทอร์โบชาร์จ วี 8 แบบ 3.8 ลิตรเพื่อการแข่งขัน มอบกำลังเพิ่มขึ้น 30 แรงม้าและแรงบิดอีก 20 นิวตันเมตร</li> <li>การจูนเสียงแบบใหม่ด้วยระบบท่อไอเสียด้านบนที่แรงยิ่งกว่าเดิม</li> <li>การระบายความร้อนที่ดีขึ้นและลดแรงดันท่อไอเสียด้านหลัง ทำให้ 600แอลที พุ่งทะยานไปได้อย่างทรงพลังยิ่งขึ้น</li> </ul><p><br /></p><p><b>การตกแต่งภายในห้องโดยสาร</b></p><ul> <li>การตกแต่งภายในแบบ Alcantara® เน้นการใช้ห้องโดยสารที่เหมาะสมกับการแข่งขัน เพื่อลดน้ำหนักตัวรถให้เบาลง</li> <li>แผงควบคุม Active Dynamics Panel ช่วยให้นักขับสามารถตั้งค่าระบบเกียร์ส่งกำลังและการควบคุมของ 600แอลที ให้เหมาะสมกับสภาพถนนหรือสนามแข่งได้อย่างดีเยี่ยม</li> <li>อุปกรณ์มาตรฐานไม่รวมระบบปรับอากาศ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม และระบบเครื่องเสียง (มีให้เลือกเป็นออพชั่นแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย) เพื่อลดภาระน้ำหนักของตัวรถ</li> <li>ที่นั่งแบบรถแข่งโครงคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้ครั้งแรกในรุ่นแมคลาเรน พี1 (McLaren P1™) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน</li> <li>นำเทคโนโลยีของรถในตระกูล Ultimate Series มาใช้ใน 600แอลที และที่นั่งแบบรถแข่งโครงคาร์บอนไฟเบอร์มาจากแมคลาเรน เซนนา มีเป็นออพชั่นให้เลือกติดตั้งได้ตามต้องการ</li> </ul><p><br /></p><p><b>ความเป็นหนึ่งเดียวกับนักขับ</b></p><ul> <li>นิยามใหม่แห่งยานยนต์แอลที: เร็วแรง ดุดัน และโดดเด่นบนสนามแข่ง พร้อมมาตรฐานที่สอดคล้องกับกฎระเบียบการขับขี่บนท้องถนนสูงสุดของรถยนต์แมคลาเรนในตระกูล&nbsp; Sports Series</li> <li>ระบบเบรกน้ำหนักเบารุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมปีกนกอลูมิเนียมหล่อคู่จากตระกูล Super Series เพื่อเพิ่มสัมผัสแห่งการขับขี่และลดภาระน้ำหนักตัวรถ</li> <li>ยางรุ่น Pirelli P ZERO™ Trofeo R พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อการพุ่งทะยานในสนามแข่งและความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวในการขับขี่</li> <li>มอบบริการ Pure McLaren Road Owner Track Day เพื่อการขับขี่ในสนามแข่งพร้อมคำแนะนำการขับขี่โดยผู้เชี่ยวชาญ ฟรีในแพ็คเกจ</li> </ul><p><br /></p><p><b>อากาศพลศาสตร์</b></p><ul> <li>ส่วนท้ายสูงขึ้น 47 มม. สมชื่อ &quot;ลองเทล&quot; เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงของแรงกดอากาศให้เพิ่มมากขึ้น</li> <li>เสริมส่วนประกอบตัวรถที่เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งรวมถึงปีกหลังขนาดใหญ่ ดิฟฟิวเซอร์หลังอันทรงพลัง รวมถึงสปลิตเตอร์หน้าและสเกิร์ตข้างรุ่นใหม่</li> <li>แรงกดอากาศบนตัวรถโดยรวมมากกว่ารุ่น 570S ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงและเพิ่มประสิทธิภาพในสนามแข่ง</li> <li>พื้นคาร์บอนไฟเบอร์ด้านหน้ารุ่นใหม่ออกแบบให้มีช่องอากาศเข้า ผ่านช่องระบบระบายความร้อนไปบนเบรกหน้า เพื่อให้สามารถระบายความร้อนสูงที่เกิดจากสมรรถะการขับขี่ที่สูงขึ้น</li> </ul><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/vRnXcOc.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ข้อมูลด้านเทคนิค แมคลาเรน 600แอลที</b></p><p><br /></p><p>รุ่นเครื่องยนต์ / เครื่องยนต์ M838TE 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ วี8 3,799 ซีซี</p><p>ระบบขับเคลื่อน / ติดตั้งเครื่องยนต์ตามแนวแกนตัวรถ ขับเคลื่อนล้อหลัง</p><p>กำลังแรงม้าเครื่อง (เบรกฮอร์สพาวเวอร์/กิโลวัตต์) @รอบต่อนาที / 600 (592/441) @7,500</p><p>แรงบิด นิวตันเมตร (ปอนด์ ฟุต) @รอบต่อนาที / 620 (457) @5,500-6,500</p><p>ระบบส่งกำลัง / 7 สปีด กระปุกเกียร์แบบ SSG โหมด Normal, Sport และTrack</p><p>พวงมาลัย / พวงมาลัยไฮดรอลิกส์ไฟฟ้า</p><p>โครงช่วงล่าง&nbsp; &nbsp; / โครงคาร์บอนไฟเบอร์แบบ MonoCell II monocoque พร้อมโครงสร้างการชนอลูมิเนียมทั้งด้านหน้าและหลัง</p><p>ระบบกันสะเทือน / ตัวซับแรงแบบแปรผันอิสระ ปีกนกอลูมิเนียมคู่ โหมด Normal, Sport และTrack</p><p>ระบบเบรก / จานเบรกคาร์บอนเซรามิก (หน้า 390 มม. หลัง 380 มม.) คาลิเปอร์อลูมิเนียม (หน้า 6 ลูกสูบ หลัง 4 ลูกสูบ)</p><p>ล้อ (นิ้ว) / หน้า 8 x 19 นิ้ว หลัง 11 x 20 นิ้ว</p><p>ยาง / ยาง Pirelli P ZERO™ Trofeo R (เลือกแบบ P ZERO™ ได้โดย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) หน้า 225/35/R19 หลัง 285/35/R20</p><p>ความยาวตัวรถ มม. (นิ้ว) / 4,604 (181.3)</p><p>ช่วงล้อ มม. (นิ้ว) / 2,670 (105.1)</p><p>ความสูง มม. (นิ้ว) / 1,194 (47.0)</p><p>ความกว้างรวมกระจกข้าง มม. (นิ้ว) / 2,095 (82.5)</p><p>ความกว้างพับกระจกข้าง มม. (นิ้ว) / 2,045 (80.5)</p><p>ความกว้างไม่รวมกระจกข้าง มม. (นิ้ว) / 1,930 (76)</p><p>ระยะล้อ (ถึงกึ่งกลางหน้าสัมผัส) มม. (นิ้ว) / หน้า1,680 (66.1) หลัง 1,591 (62.6)</p><p>น้ำหนักรถเปล่าที่เบาที่สุด กก. (ปอนด์) / 1,247 (2,749)</p><p>น้ำหนักรถเปล่า (ของเหลว + น้ำมัน 90%) กก. (ปอนด์) / 1,356 (2,989)</p><p>ความจุถังน้ำมัน ลิตร (หน่วย UK / US แกลลอน) / 72 (15.8 / 19)</p><p>ความจุสัมภาระ ลิตร / หน้า 150 ลิตร</p><p><br /></p><p><b>ข้อมูลประสิทธิภาพ แมคลาเรน 600แอลที</b></p><p>0 -97 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) 2.8 วินาที</p><p>0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.) 2.9 วินาที</p><p>0-200 กม./ชม. (0-124 ไมล์/ชม.) 8.2 วินาที</p><p>0-300 กม./ชม. (0-186 ไมล์/ชม.) 24.9 วินาที</p><p>0-400 ม. / ¼ ไมล์&nbsp; &nbsp; 10.4 วินาที</p><p>ความเร็วสูงสุด 328 กม./ชม. (204 ไมล์/ชม.)</p><p>200-0 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม. -0) ระยะเบรก ม. (ฟุต) 117 (384)</p><p>100-0 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม. -0) ระยะเบรก ม. (ฟุต) 31 (102)</p><p><br /></p><p>อัตราการปล่อยไอเสีย กรัม/กม. หน่วย EU NEDC 266 (หน่วย EU WLTP: 276)</p><p><br /></p><p><b>อัตราการใช้เชื้อเพลิง หน่วย EU ลิตร/100 กม. (หน่วย UK ไมล์/แกลลอน)</b></p><p>การคำนวณรวม 11.7 ลิตร/100 กม. (24.1 ไมล์/แกลลอน)</p><p>สภาวะในเมือง 16.3 ลิตร/100 กม. (17.3 ไมล์/แกลลอน)</p><p>สภาวะนอกเมือง 9.1 ลิตร/100 กม. (31.0 ไมล์/แกลลอน)</p><p><b>อัตราการใช้เชื้อเพลิง หน่วย EU WLTP ลิตร/100 กม. (หน่วยUK ไมล์/แกลลอน)</b></p><p>การคำนวณรวม&nbsp; &nbsp; 12.2 ลิตร/100 กม. (23.2 ไมล์/แกลลอน)</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/BRxzms5.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center">[MEDIA=youtube]wothFpfD2YY[/MEDIA]</p><p><br /></p><p><b>ติดตามข่าวสารได้ที่</b></p><p>Media website: <a href="http://www.bangkok.mclaren.com/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.bangkok.mclaren.com/" rel="nofollow">www.bangkok.mclaren.com/</a></p><p>Facebook : <a href="http://www.facebook.com/mclarenautomotive" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.facebook.com/mclarenautomotive" rel="nofollow">www.facebook.com/mclarenautomotive</a> , <a href="http://www.facebook.com/McLarenTH" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.facebook.com/McLarenTH" rel="nofollow">www.facebook.com/McLarenTH</a></p><p>You Tube: <a href="http://www.youtube.com/mclarenautomotivetv" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.youtube.com/mclarenautomotivetv" rel="nofollow">www.youtube.com/mclarenautomotivetv</a></p><p>หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับนิชคาร์กรุ๊ป กรุณาติดต่อ 02-321-1111 โชว์รูมเปิดบริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X