เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Nissan Car Clubs
>
Sunny Thailand
>
ทำไมคนต้องแต่งรถให้ หน้าเตี้ยๆ หลังโด่งๆค่ะ อยากรู้จัง
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="RZB-12, post: 680930, member: 1271"]อย่างที่พี่กานตอบมาถูกต้องเลยครับพี่ในกรณีของรถ Drag แต่กลับกันในรถ Gymkhana หรือรถ Circuit และรถบ้านๆ ที่เราใช้งานทุกๆ วัน แตกต่างออกไปครับ คำว่า waight tranfer ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ได้เรียนรู้เรื่องวิศวะกรรมหรือคนที่เล่นรถในหลากหลายรูปแบบ มันจะเป็นเพียงคำพูดของคนอวดรู้ว่ามันคืออะไร(ไม่ได้ว่าใครน่ะครับ) คำๆ นี้มันนิยามได้หลากหลาย(กรณีที่คนไม่เข้าใจอย่าถ่องแท้) สรุปง่ายๆ ก็แล้วกัน ถ้าเป็นรถใช้งานทุกวันหรือรถแข่ง Circuti รถตูดโด่งไม่มีผลเรื่องการจัดเรียงกระแสทิศทางลมด้านใต้ท้องรถให้เป็นระเบียบและช่วยป้องกันการที่ลมจะม้วนแล้วดึงท้ายรถให้ลอยขึ้นในขณะที่การขัขี่ด้วยความเร็วสูงอย่างแน่นอน เพราะการยกท้ายรถขึ้นก็เปรียบเสมือนทำให้ทิศทางของลมและแรงลมมีปริมาณที่มากขึ้นยิ่งส่งผลให้ท่ายรถมีกระแสลมที่สามารถยกท้ายรถให้สูงมากขึ้นยามวิ่งด้วยความเร็วสูงการเกาะถนนของล้อคู่หลังก็ยิ่งน้อยลง เวลาที่เบรคก็จะมีแรงเสียดทานกระทำที่ล้อคู่หลังลดน้องลง ล้อหลังจะเกิดอาการล้อคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะน้ำหนักของรถจะถูกถ่ายเทไปที่ด้าหน้าเยอะมากขึ้นเป็นเท่าตัว</p><p> รถ Circuit หรือรถ Gymkhana ทำไมเขาถึงโหลดตัวรถให้เตี้ยเท่ากันทั้งหน้า-หลังก็เพื่อนเรื่องของการกระจายน้ำหนัก ที่เน้นโดยเฉพาะกรณีที่เข้าโค้ง เพราะตัวรถวิ่งมาทางตรงด้วยความเร็วสูง สมมุติว่าน้ำหนักของรถคันนั้มีอยู่ที่ 1,500 กิโลกรัม แบ่งเป็นด้านหน้า 800 กิโลกรัม ด้านหลัง 700 กิโลกรัม นำหนักเฉลี่ยต่างกันแค่ 100 กิโลกรัม นั้นน้ำหนักต่างกันแค่ 100 กิโลกรัม เมื่อตัวรถมีการเบรคเพื่อชะลอความเร็วน้ำหนักของตัวรถจากด้านหลังเฉลี่ย 500 กิโลกรัมจะถูกถ่ายเทมายังด้านหน้าของตัวรถ ยิ่งถ้าเป็นรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รถจะเกิดอาการที่เขาเรียกว่า Understreer อันเดอร์สเตียร์หรือทักษะง่ายๆ คือ หน้ารถจะแหกออกจากโค้ง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปได้ยาก ถ้าหากเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง น้ำหนักที่ถ่ายเทออกมาจะส่งผลให้รถมีอาการ Oversteer โอเวอร์สเตียร์ หรือ ท้ายบาน(เหมือนรถ Drift) เพราะน้ำหนักที่ถ่ายเทมาด้านหน้าเยอะๆ พอเรากดคันเร่งส่งน้ำหนักและแรงเหวี่ยงของตัวเครื่องจะถูกถ่ายแทมายังล้อคู่หลังโดยฉับพลัน ส่งผลให้รถเกิดอาการที่ว่านี้ </p><p><br /></p><p> และไม่ว่าจะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Pulsar, Evo และ Impreza เวลาที่รถเบรคหรือถ่ายเทน้ำหนักเพื่อการเลี้ยว ระยะทางและความรู้สึกจะเพิ่มจกาเดิมอีก 1-2 เท่าตัว โดยที่เราไม่คาดคิด หากทำให้ทรงรถหน้าเชิดกว่าท้ายรถ หรือ ทำทรงรถให้ด้านหน้าเสมอกับท้ายรถ เชื่อได้เลยว่ารถวิ่งดีทั้งทางตรงและทางโค้ง ดีกว่ารถหน้าทิ่ม-ตรูดโด่งหรือรถที่หน้าเชิด-ตรูดห้อย[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="RZB-12, post: 680930, member: 1271"]อย่างที่พี่กานตอบมาถูกต้องเลยครับพี่ในกรณีของรถ Drag แต่กลับกันในรถ Gymkhana หรือรถ Circuit และรถบ้านๆ ที่เราใช้งานทุกๆ วัน แตกต่างออกไปครับ คำว่า waight tranfer ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ได้เรียนรู้เรื่องวิศวะกรรมหรือคนที่เล่นรถในหลากหลายรูปแบบ มันจะเป็นเพียงคำพูดของคนอวดรู้ว่ามันคืออะไร(ไม่ได้ว่าใครน่ะครับ) คำๆ นี้มันนิยามได้หลากหลาย(กรณีที่คนไม่เข้าใจอย่าถ่องแท้) สรุปง่ายๆ ก็แล้วกัน ถ้าเป็นรถใช้งานทุกวันหรือรถแข่ง Circuti รถตูดโด่งไม่มีผลเรื่องการจัดเรียงกระแสทิศทางลมด้านใต้ท้องรถให้เป็นระเบียบและช่วยป้องกันการที่ลมจะม้วนแล้วดึงท้ายรถให้ลอยขึ้นในขณะที่การขัขี่ด้วยความเร็วสูงอย่างแน่นอน เพราะการยกท้ายรถขึ้นก็เปรียบเสมือนทำให้ทิศทางของลมและแรงลมมีปริมาณที่มากขึ้นยิ่งส่งผลให้ท่ายรถมีกระแสลมที่สามารถยกท้ายรถให้สูงมากขึ้นยามวิ่งด้วยความเร็วสูงการเกาะถนนของล้อคู่หลังก็ยิ่งน้อยลง เวลาที่เบรคก็จะมีแรงเสียดทานกระทำที่ล้อคู่หลังลดน้องลง ล้อหลังจะเกิดอาการล้อคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะน้ำหนักของรถจะถูกถ่ายเทไปที่ด้าหน้าเยอะมากขึ้นเป็นเท่าตัว รถ Circuit หรือรถ Gymkhana ทำไมเขาถึงโหลดตัวรถให้เตี้ยเท่ากันทั้งหน้า-หลังก็เพื่อนเรื่องของการกระจายน้ำหนัก ที่เน้นโดยเฉพาะกรณีที่เข้าโค้ง เพราะตัวรถวิ่งมาทางตรงด้วยความเร็วสูง สมมุติว่าน้ำหนักของรถคันนั้มีอยู่ที่ 1,500 กิโลกรัม แบ่งเป็นด้านหน้า 800 กิโลกรัม ด้านหลัง 700 กิโลกรัม นำหนักเฉลี่ยต่างกันแค่ 100 กิโลกรัม นั้นน้ำหนักต่างกันแค่ 100 กิโลกรัม เมื่อตัวรถมีการเบรคเพื่อชะลอความเร็วน้ำหนักของตัวรถจากด้านหลังเฉลี่ย 500 กิโลกรัมจะถูกถ่ายเทมายังด้านหน้าของตัวรถ ยิ่งถ้าเป็นรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รถจะเกิดอาการที่เขาเรียกว่า Understreer อันเดอร์สเตียร์หรือทักษะง่ายๆ คือ หน้ารถจะแหกออกจากโค้ง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปได้ยาก ถ้าหากเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง น้ำหนักที่ถ่ายเทออกมาจะส่งผลให้รถมีอาการ Oversteer โอเวอร์สเตียร์ หรือ ท้ายบาน(เหมือนรถ Drift) เพราะน้ำหนักที่ถ่ายเทมาด้านหน้าเยอะๆ พอเรากดคันเร่งส่งน้ำหนักและแรงเหวี่ยงของตัวเครื่องจะถูกถ่ายแทมายังล้อคู่หลังโดยฉับพลัน ส่งผลให้รถเกิดอาการที่ว่านี้ และไม่ว่าจะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Pulsar, Evo และ Impreza เวลาที่รถเบรคหรือถ่ายเทน้ำหนักเพื่อการเลี้ยว ระยะทางและความรู้สึกจะเพิ่มจกาเดิมอีก 1-2 เท่าตัว โดยที่เราไม่คาดคิด หากทำให้ทรงรถหน้าเชิดกว่าท้ายรถ หรือ ทำทรงรถให้ด้านหน้าเสมอกับท้ายรถ เชื่อได้เลยว่ารถวิ่งดีทั้งทางตรงและทางโค้ง ดีกว่ารถหน้าทิ่ม-ตรูดโด่งหรือรถที่หน้าเชิด-ตรูดห้อย[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Nissan Car Clubs
>
Sunny Thailand
>
ทำไมคนต้องแต่งรถให้ หน้าเตี้ยๆ หลังโด่งๆค่ะ อยากรู้จัง
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...