เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
HILUX Club
>
ของฝาก ช่วยในการตัดสินใจ ในภาวะน้ำมันแพง
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="Reloaded, post: 673419, member: 30843"]Last Step : เพิ่มความจุกระบอกสูบ</p><p><br /></p><p>เป็นเมนูสุดฮิตเลยก็ว่าได้ พอพูดถึงการเพิ่มความจุก็ต้องเอาท่อนล่าง 2J มาใส่</p><p><br /></p><p>สำหรับ 1J หลังจากที่เปลี่ยนเทอร์โบเข้าไปแล้ว แน่นอน 1J ตัวนั้นจะต้องเปลี่ยนไปคนละเรื่อง แต่ทว่านั่นยังไม่เรียกว่าที่สุด แต่สิ่งที่เรียกว่าที่สุดก็คงเลี่ยงไม่ได้เลยกับ "การเปลี่ยนท่อนล่าง 2J" โดยสำหรับคนที่เล่นโตโยต้าแล้ว เรียกได้ว่าเมนูนี้เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว ในตอนนี้เรามาดูในรายละเอียดของการเปลี่ยนท่อนล่างนี ้กัน</p><p><br /></p><p>ตอนที่ผ่านๆ มาไม่มีเรื่องที่ต้องเปิดเครื่องกันเลย แต่สำหรับคนที่ต้องการความแรงจริงๆ ตอนนี้จำเป็นต้องอ่านกันแล้ว</p><p><br /></p><p>ตัวเครื่องนั้น มีอะไรมากมายข้างใน แต่สิ่งแรกเลยที่คิดว่าจะเปิดเครื่องโมฯ ก็คือการเปลี่ยนแคม แน่นอนแคมนี้จะเปลี่ยนพร้อมกันกับตอนเปลี่ยนเทอร์โบก ็ได้เช่นกัน</p><p><br /></p><p>เนื่องจาก 1J ไม่ใช่เครื่องที่ใช้รอบสูงมากมาย อาจจะทำให้ไม่ได้รับความมันในรอบปลายเท่าไหร่ก็จริง แต่จากการเปลี่ยนแคมนี้ก็จะสามารถทำให้ได้ชิมความมัน ในรอบสูงได้อย่างแน่นอน แคมที่จะเลือกใช้กันก็จะมีอย่างเช่น 256, 264 องศาเป็นต้น สำหรับตัว VVT-i ก็เปลี่ยนได้แค่ฝั่งไอเสียอย่างเดียวเท่านั้น เพราะฝั่งไอดีมีระบบ VVT-i ติดอยู่เลยไม่สามารถใช้กับแคมทั่วไปได้ แต่ว่าในเวลานี้ก็มีแคมสำหรับ VVT-i ออกมาแล้วเหมือนกันอย่างเช่นของ HKS</p><p><br /></p><p>แต่ถ้าต้องการความแรงมากกว่านั้นอีก ก็คงต้องมาถึงการเปลี่ยนท่อนล่างไปเป็น 3 ลิตรของ 2J กันแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าเครื่อง 2500 ซีซีอย่าง 1J จะโมฯ ให้แรงได้ในระดับนึงก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว จะพยายามกับ 1J แค่ไหน ก็ไม่มีทางเลยที่จะไปชนะ 2J ได้ อันนี้คือเรื่องจริง</p><p><br /></p><p>แน่นอนความต่างแค่ 500 cc. มันอาจจะดูนิดเดียว แต่ทอร์คที่เพิ่มเข้ามาจาก 500 cc. นี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน และยังทำให้ขับง่ายขึ้นอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นยังสามารถลดเฟืองท้ายให้ต่ำลง เพื่อเพิ่มความเร็วปลายก็ยังได้</p><p><br /></p><p>พอเปลี่ยนเป็น 3 ลิตร เวลาเลือกเทอร์โบก็ง่ายขึ้น</p><p>ประโยชน์จากการเปลี่ยนเป็น 2J อีกอย่างหนึ่งคือ จะมีเทอร์โบให้เลือกเล่นมากขึ้น เนื่องจากเทอร์โบที่ออกมาในท้องตลาดนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นกับเครื่อง 3 ลิตรซะมาก ซึ่งทำให้เทอร์โบสำหรับ 1J 2.5 ลิตรนี้ มีจำนวนให้เลือกอย่างจำกัด ตรงนี้เองถ้าต้องการกำลังมากๆ สำหรับ 2J ก็แค่เลือกเทอร์โบใหญ่ระดับ T88 ก็สามารถปั่นเทอร์โบเหล่านี้ได้อย่างสบาย</p><p><br /></p><p>พอคิดถึงตรงนี้ ก็เคยเขียนกันไว้แล้วในตอนของเปลี่ยนเทอร์โบว่า เวลาที่จะเปลี่ยนเทอร์โบ ควรจะคิดว่าจะเล่นกับ 1J ไปตลอดหรือว่าจะขึ้นไปถึง 2J ซึ่งต้องการการตัดสินใจที่แน่นอนเพื่อลดความซ้ำซ้อนใ นภายหลัง แต่ทว่า 2J ไม่ใช่ว่าจะดีไปซะทุกอย่างเสมอไป เพราะว่าในกรณีอย่าง 1J ที่มีช่วงชักที่ัสั้นกว่า ทำให้สามารถสนุกกับเครื่องรอบสูง แต่ส่วน 2J จะได้กำลังที่มากกว่าและการขับขี่ที่ง่าย ซึ่งก็ต้องอยู่ที่ตัวเองว่าต้องการเครื่องแบบไหนแล้ว ถึงจะตัดสินใจเลือก 2J ต่อไป</p><p><br /></p><p>การจะทำเป็น 2J Know Howจำเป็นอย่างมาก</p><p>ถึงตรงนี้แล้วถ้าต้องการจะเปลี่ยนเป็น 2J จะต้องทำอย่างไรบ้าง อันนี้หลายๆ คนคงอยากรู้ สิ่งแรกที่นิยมกันมากที่สุด คือ ซื้อท่อนล่างของ 2J มาแล้วเปลี่ยนแทนของเดิมเข้าไป เพราะพื้นฐานเครื่องของ 1J กับ 2J นั้นเหมือนกัน ที่ต่างกันมากๆ ก็คงจะเป็นช่วงชักเท่านั้น ถ้าใครต้องการท่อนล่างของ 2J ตัวใหม่ก็มีเหมือนกันในราคา 260,000 yen และที่เหลือก็คงจะแค่เปลี่ยนฝาเก็นฝาสูบเพื่อลดกำลัง อัดลง แค่นี้ก็น่าจะเรียบร้อยแล้วแต่..</p><p>มันไม่ง่ายอย่างนั้น ตรงนี้เองที่เป็นเรื่องยากสำหรับโมฯ รถโตโยต้า เพราะว่าเครื่องของโตโยต้าในรุ่น JZ นี้เรียกว่าเป็นพี่น้องกันก็จริง ท่อร่วมไอดีก็ต่างกัน พอร์ทก็ต่าง และไม่แน่ฝาประเก็นอาจจะใช้กันไม่ได้ด้วยซ้ำไป</p><p><br /></p><p>ในความเป็นจริงแล้ว แค่เปลี่ยนท่อนล่างเข้าไปอย่างเดียวก็สามารถเพิ่มควา มจุกระบอกสูบแล้วทอร์คได้ก็จริง แต่ว่ารอบปลายจะไม่ไหล ซึ่งก็มีตัวอย่างกันให้เห็นมากมายของปัญหานี้ ในการเปลี่ยนท่อนล่างเป็น 2J นั้นความจุกระบอกสูบเพิ่มขึ้นก็จริง แต่เนื่องจากวาล์วไทมิ้งฝั่งไอดีถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำให้รอบสูงทำงานได้อย่างดีห รือไม่ ?... และปัญหาตรงนี้นี่เองที่จะบอกได้ว่าจูนเนอร์คนไหนเก่ งหรือไม่นั่นเอง...</p><p><br /></p><p>จากที่ได้ฟังวิธีของอู่ Auto Service MORI เค้าบอกว่า ได้มีการทำในห้องเผาไหม้ด้วย แล้วพอร์ทก็ต้องดูอย่างละเอียดเช่นกัน เพราะว่าพอร์ทของ 1J กับ หัวฉีดเป็นออฟเซ็ทกันอยู่ ไม่ได้เข้ามาตรงกลาง ก็เลยจำเป็นต้องทำให้พอร์ทรับกับตำแหน่งของหัวฉีดนี้ ด้วย แล้วยังต้องแก้ระบบไหลกลับของน้ำมันเครื่องที่แย่อยู ่แล้วด้วย ด้วยการหารูกันใหม่ ... ซึ่งต้องทำกันขนาดนี้เลย</p><p><br /></p><p>แล้วก็สำหรับเครื่องของโตโยต้า อย่าง ECU ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกันในการจูน ดังนั้นถ้าจะจูนถึงระดับสูงๆ แบบนี้แล้ว ยังไงก็อยากให้หาอู่ที่มีประสบการณ์ และข้อมูลมากๆ มาทำให้เราจะดีทีุ่สุด</p><p><br /></p><p>แล้วพอทำเป็น 2J แล้ว จะเพิ่มความแรงได้เท่าไหร่ล่ะ??... จากข้อมูลของ ESPRIT ในกรณีที่ใช้เทอร์โบ T04R แคมเดิมก็จะออกมาประมาณ 450 ps. ถ้าเป็นเครื่องที่เปลี่ยนแคมก็ออกมาประมาณ 480-490 ps.แล้วถ้าเลิกใช้ L Jetro แต่เปลี่ยนมาเป็น VPC ก็จะออกมาประมาณ 520 ps. เลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ลูกสูบของ 2J อย่าง 1J ก็มีความทนสูงมาก ระดับ 500 ps. นี้ถ้าจัดการกับระบบน้ำมันดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเครื่องพังเลย และตรงนี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นเสน่ท์ของ 1J & 2J</p><p><br /></p><p>เพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบขับเคลื่อน</p><p>ถ้าได้เพิ่มความแรงมาถึงระดับนี้แล้ว ก็จำเป็นต้องจัดการกับระบบขับเคลื่อนให้แข็งแรงขึ้นด ้วย เพราะความแรงจะต้องไปเพิ่มภาระให้กับเกียร์เป็นอย่าง มาก อย่างน้ำมันก็ต้องเปลี่ยนอย่างดี และตรงตามเวลา คลัชก็น่าจะใช้แบบแต่งไปเลย แต่จริงๆ เรื่องคลัชแต่งนี้น่าจะเปลี่ยนตั้งแต่ตอนเปลี่ยนเทอร ์โบแล้วด้วยซ้ำ ถ้าแค่ไม่เกิน 450 ps. Twin Plate ก็เพียงพอ แต่จริงๆ แล้วถ้าจะดีก็อยากให้ใช้ Triple Plate ไปเลย เพราะว่าแรงเหยียบจะเบาขึ้นมาก แต่ว่าราคาก็สูง อันนี้ก็ต้องอยู่ที่กระเป๋าของตัวเองแล้ว</p><p><br /></p><p>แต่ถ้าเป็นกรณีของเกียร์ออโต้ฯ ต้องหาชิ้นส่วนเพิ่มความทนทานมาเปลี่ยนหรือไม่ก็เอาเ กียร์ธรรมดามาใช้ ซึ่งก็มีให้เลือก ทั้งแบบ 5 เกียร์และ 6 เกียร์ ตามชอบ และอีกอย่างหนึ่งเกียร์ออโต้ฯ เดิมๆ ซึ่งมีหลายคนทีเดียวที่เอาน้ำมันเกียร์แบบแพงๆ มาใส่ แต่จริงๆ แล้วถ้าจะให้ดีกว่านั้น หันมาใส่ออยล์คูลเลอร์ให้เกียร์ออโต้ แล้วใช้น้ำมันเกียร์ธรรมดาน่าจะดีกว่า...</p><p><br /></p><p>ถ้าคิดจะเพิ่มความแรง ต้องจัดการเรื่องความร้อนด้วย</p><p>Oil Cooler</p><p>การจูนเทอร์โบ ก็หมายถึงต้องต่อสู้กับความร้อน ไม่ว่าจะเปลี่ยนเทอร์โบหรือเปลี่ยนเป็น 2J เป็นเหตุให้เครื่องต้องทำงานมากขึ้น เป็นผลทำให้ความร้อนเกิดขึ้นด้วย แต่ที่โชคดีของ 1J คือมีระบบระบายความร้อนของน้ำที่ดี จึงไม่มีปัญหาความร้อนตรงนี้เท่าไหร่ แต่ความร้อนของน้ำมันเครื่องนี่สิขึ้นเอาๆ จึงจำเป็นต้องติด Oil Cooler เพิ่มดีกว่า</p><p><br /></p><p>ดูแลสายคันเร่ง</p><p>หลังจากที่เปลี่ยนเทอร์โบแล้ว แน่นอนว่าความร้อนต้องเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ความร้อนตัวนี้เอง ที่จะเป็นตัวไปละลายพวกสายไฟ ท่อยางต่างๆ บริเวณใกล้เคียง ดังนั้น ควรจะหาพวกแผ่นกั้นความร้อนหรือวิธีป้องกันอื่นมาช่ว ยไว้ก่อน</p><p><br /></p><p>เปิดเครื่อง</p><p><br /></p><p>สำหรับรถเทอร์โบ การปรับบูตส์เพิ่มหรือเปลี่ยนเทอร์โบ สามารถเพิ่มความแรงได้เห็นกันอย่างชัดเจน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเริ่มจูนกันตั้งแต่ตรงนี้ แน่นอนการจูนตัวเครื่องก็มีผลด้วยเหมือนกัน อย่างเช่น การเปลี่ยนแคม สามารถทำให้ปลายไม่ค่อยยืดอย่าง 1J สามารถลากรอบได้มันมากขึ้น แล้วก็สามารถเปลี่ยนตั้งแต่ก่อนทำเป็น 2J ได้อีกด้วย อีกด้านนึงในช่วงที่เปลี่ยนเป็น 2J ก็น่าจะทำห้องเผาไหม้ ทำพอร์ทกันใหม่ ซึ่งจะสามารถใช้งานเครื่องที่เปลี่ยนเป็น 3000 cc. ได้อย่างเห็นผลมากขึ้น และเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเครื่อง ก็ถือโอกาสลดกำลังอัดไปด้วยเลย</p><p>PISTON</p><p>สำหรับคนที่ยังไม่เบื่อท่อนล่าง 2J ที่มีอยู่ 3000 cc. อยู่แล้ว สามารถเพิ่มความจุกระบอกสูบได้อีกโดยการนำ ลูกสูบโอเวอร์ไซส์ มาใส่เข้าไปเป็น 3.1 ลิตรก็ยังได้อยู่</p><p><br /></p><p>CAM SHAFT</p><p>การเปลี่ยนแคม ทำให้ความรู้สึกของเครื่องนั้นเปลี่ยนไปด้วย และยังสามารถทำให้เครื่องที่เน้นรอบต่ำถึงกลางอย่างร ุ่น 100 ยืดไปถึงรอบปลายได้อย่างสบาย</p><p><br /></p><p>== END ==ข้อมูลจากคลับjz[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="Reloaded, post: 673419, member: 30843"]Last Step : เพิ่มความจุกระบอกสูบ เป็นเมนูสุดฮิตเลยก็ว่าได้ พอพูดถึงการเพิ่มความจุก็ต้องเอาท่อนล่าง 2J มาใส่ สำหรับ 1J หลังจากที่เปลี่ยนเทอร์โบเข้าไปแล้ว แน่นอน 1J ตัวนั้นจะต้องเปลี่ยนไปคนละเรื่อง แต่ทว่านั่นยังไม่เรียกว่าที่สุด แต่สิ่งที่เรียกว่าที่สุดก็คงเลี่ยงไม่ได้เลยกับ "การเปลี่ยนท่อนล่าง 2J" โดยสำหรับคนที่เล่นโตโยต้าแล้ว เรียกได้ว่าเมนูนี้เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว ในตอนนี้เรามาดูในรายละเอียดของการเปลี่ยนท่อนล่างนี ้กัน ตอนที่ผ่านๆ มาไม่มีเรื่องที่ต้องเปิดเครื่องกันเลย แต่สำหรับคนที่ต้องการความแรงจริงๆ ตอนนี้จำเป็นต้องอ่านกันแล้ว ตัวเครื่องนั้น มีอะไรมากมายข้างใน แต่สิ่งแรกเลยที่คิดว่าจะเปิดเครื่องโมฯ ก็คือการเปลี่ยนแคม แน่นอนแคมนี้จะเปลี่ยนพร้อมกันกับตอนเปลี่ยนเทอร์โบก ็ได้เช่นกัน เนื่องจาก 1J ไม่ใช่เครื่องที่ใช้รอบสูงมากมาย อาจจะทำให้ไม่ได้รับความมันในรอบปลายเท่าไหร่ก็จริง แต่จากการเปลี่ยนแคมนี้ก็จะสามารถทำให้ได้ชิมความมัน ในรอบสูงได้อย่างแน่นอน แคมที่จะเลือกใช้กันก็จะมีอย่างเช่น 256, 264 องศาเป็นต้น สำหรับตัว VVT-i ก็เปลี่ยนได้แค่ฝั่งไอเสียอย่างเดียวเท่านั้น เพราะฝั่งไอดีมีระบบ VVT-i ติดอยู่เลยไม่สามารถใช้กับแคมทั่วไปได้ แต่ว่าในเวลานี้ก็มีแคมสำหรับ VVT-i ออกมาแล้วเหมือนกันอย่างเช่นของ HKS แต่ถ้าต้องการความแรงมากกว่านั้นอีก ก็คงต้องมาถึงการเปลี่ยนท่อนล่างไปเป็น 3 ลิตรของ 2J กันแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าเครื่อง 2500 ซีซีอย่าง 1J จะโมฯ ให้แรงได้ในระดับนึงก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว จะพยายามกับ 1J แค่ไหน ก็ไม่มีทางเลยที่จะไปชนะ 2J ได้ อันนี้คือเรื่องจริง แน่นอนความต่างแค่ 500 cc. มันอาจจะดูนิดเดียว แต่ทอร์คที่เพิ่มเข้ามาจาก 500 cc. นี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน และยังทำให้ขับง่ายขึ้นอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นยังสามารถลดเฟืองท้ายให้ต่ำลง เพื่อเพิ่มความเร็วปลายก็ยังได้ พอเปลี่ยนเป็น 3 ลิตร เวลาเลือกเทอร์โบก็ง่ายขึ้น ประโยชน์จากการเปลี่ยนเป็น 2J อีกอย่างหนึ่งคือ จะมีเทอร์โบให้เลือกเล่นมากขึ้น เนื่องจากเทอร์โบที่ออกมาในท้องตลาดนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นกับเครื่อง 3 ลิตรซะมาก ซึ่งทำให้เทอร์โบสำหรับ 1J 2.5 ลิตรนี้ มีจำนวนให้เลือกอย่างจำกัด ตรงนี้เองถ้าต้องการกำลังมากๆ สำหรับ 2J ก็แค่เลือกเทอร์โบใหญ่ระดับ T88 ก็สามารถปั่นเทอร์โบเหล่านี้ได้อย่างสบาย พอคิดถึงตรงนี้ ก็เคยเขียนกันไว้แล้วในตอนของเปลี่ยนเทอร์โบว่า เวลาที่จะเปลี่ยนเทอร์โบ ควรจะคิดว่าจะเล่นกับ 1J ไปตลอดหรือว่าจะขึ้นไปถึง 2J ซึ่งต้องการการตัดสินใจที่แน่นอนเพื่อลดความซ้ำซ้อนใ นภายหลัง แต่ทว่า 2J ไม่ใช่ว่าจะดีไปซะทุกอย่างเสมอไป เพราะว่าในกรณีอย่าง 1J ที่มีช่วงชักที่ัสั้นกว่า ทำให้สามารถสนุกกับเครื่องรอบสูง แต่ส่วน 2J จะได้กำลังที่มากกว่าและการขับขี่ที่ง่าย ซึ่งก็ต้องอยู่ที่ตัวเองว่าต้องการเครื่องแบบไหนแล้ว ถึงจะตัดสินใจเลือก 2J ต่อไป การจะทำเป็น 2J Know Howจำเป็นอย่างมาก ถึงตรงนี้แล้วถ้าต้องการจะเปลี่ยนเป็น 2J จะต้องทำอย่างไรบ้าง อันนี้หลายๆ คนคงอยากรู้ สิ่งแรกที่นิยมกันมากที่สุด คือ ซื้อท่อนล่างของ 2J มาแล้วเปลี่ยนแทนของเดิมเข้าไป เพราะพื้นฐานเครื่องของ 1J กับ 2J นั้นเหมือนกัน ที่ต่างกันมากๆ ก็คงจะเป็นช่วงชักเท่านั้น ถ้าใครต้องการท่อนล่างของ 2J ตัวใหม่ก็มีเหมือนกันในราคา 260,000 yen และที่เหลือก็คงจะแค่เปลี่ยนฝาเก็นฝาสูบเพื่อลดกำลัง อัดลง แค่นี้ก็น่าจะเรียบร้อยแล้วแต่.. มันไม่ง่ายอย่างนั้น ตรงนี้เองที่เป็นเรื่องยากสำหรับโมฯ รถโตโยต้า เพราะว่าเครื่องของโตโยต้าในรุ่น JZ นี้เรียกว่าเป็นพี่น้องกันก็จริง ท่อร่วมไอดีก็ต่างกัน พอร์ทก็ต่าง และไม่แน่ฝาประเก็นอาจจะใช้กันไม่ได้ด้วยซ้ำไป ในความเป็นจริงแล้ว แค่เปลี่ยนท่อนล่างเข้าไปอย่างเดียวก็สามารถเพิ่มควา มจุกระบอกสูบแล้วทอร์คได้ก็จริง แต่ว่ารอบปลายจะไม่ไหล ซึ่งก็มีตัวอย่างกันให้เห็นมากมายของปัญหานี้ ในการเปลี่ยนท่อนล่างเป็น 2J นั้นความจุกระบอกสูบเพิ่มขึ้นก็จริง แต่เนื่องจากวาล์วไทมิ้งฝั่งไอดีถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำให้รอบสูงทำงานได้อย่างดีห รือไม่ ?... และปัญหาตรงนี้นี่เองที่จะบอกได้ว่าจูนเนอร์คนไหนเก่ งหรือไม่นั่นเอง... จากที่ได้ฟังวิธีของอู่ Auto Service MORI เค้าบอกว่า ได้มีการทำในห้องเผาไหม้ด้วย แล้วพอร์ทก็ต้องดูอย่างละเอียดเช่นกัน เพราะว่าพอร์ทของ 1J กับ หัวฉีดเป็นออฟเซ็ทกันอยู่ ไม่ได้เข้ามาตรงกลาง ก็เลยจำเป็นต้องทำให้พอร์ทรับกับตำแหน่งของหัวฉีดนี้ ด้วย แล้วยังต้องแก้ระบบไหลกลับของน้ำมันเครื่องที่แย่อยู ่แล้วด้วย ด้วยการหารูกันใหม่ ... ซึ่งต้องทำกันขนาดนี้เลย แล้วก็สำหรับเครื่องของโตโยต้า อย่าง ECU ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกันในการจูน ดังนั้นถ้าจะจูนถึงระดับสูงๆ แบบนี้แล้ว ยังไงก็อยากให้หาอู่ที่มีประสบการณ์ และข้อมูลมากๆ มาทำให้เราจะดีทีุ่สุด แล้วพอทำเป็น 2J แล้ว จะเพิ่มความแรงได้เท่าไหร่ล่ะ??... จากข้อมูลของ ESPRIT ในกรณีที่ใช้เทอร์โบ T04R แคมเดิมก็จะออกมาประมาณ 450 ps. ถ้าเป็นเครื่องที่เปลี่ยนแคมก็ออกมาประมาณ 480-490 ps.แล้วถ้าเลิกใช้ L Jetro แต่เปลี่ยนมาเป็น VPC ก็จะออกมาประมาณ 520 ps. เลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ลูกสูบของ 2J อย่าง 1J ก็มีความทนสูงมาก ระดับ 500 ps. นี้ถ้าจัดการกับระบบน้ำมันดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเครื่องพังเลย และตรงนี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นเสน่ท์ของ 1J & 2J เพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบขับเคลื่อน ถ้าได้เพิ่มความแรงมาถึงระดับนี้แล้ว ก็จำเป็นต้องจัดการกับระบบขับเคลื่อนให้แข็งแรงขึ้นด ้วย เพราะความแรงจะต้องไปเพิ่มภาระให้กับเกียร์เป็นอย่าง มาก อย่างน้ำมันก็ต้องเปลี่ยนอย่างดี และตรงตามเวลา คลัชก็น่าจะใช้แบบแต่งไปเลย แต่จริงๆ เรื่องคลัชแต่งนี้น่าจะเปลี่ยนตั้งแต่ตอนเปลี่ยนเทอร ์โบแล้วด้วยซ้ำ ถ้าแค่ไม่เกิน 450 ps. Twin Plate ก็เพียงพอ แต่จริงๆ แล้วถ้าจะดีก็อยากให้ใช้ Triple Plate ไปเลย เพราะว่าแรงเหยียบจะเบาขึ้นมาก แต่ว่าราคาก็สูง อันนี้ก็ต้องอยู่ที่กระเป๋าของตัวเองแล้ว แต่ถ้าเป็นกรณีของเกียร์ออโต้ฯ ต้องหาชิ้นส่วนเพิ่มความทนทานมาเปลี่ยนหรือไม่ก็เอาเ กียร์ธรรมดามาใช้ ซึ่งก็มีให้เลือก ทั้งแบบ 5 เกียร์และ 6 เกียร์ ตามชอบ และอีกอย่างหนึ่งเกียร์ออโต้ฯ เดิมๆ ซึ่งมีหลายคนทีเดียวที่เอาน้ำมันเกียร์แบบแพงๆ มาใส่ แต่จริงๆ แล้วถ้าจะให้ดีกว่านั้น หันมาใส่ออยล์คูลเลอร์ให้เกียร์ออโต้ แล้วใช้น้ำมันเกียร์ธรรมดาน่าจะดีกว่า... ถ้าคิดจะเพิ่มความแรง ต้องจัดการเรื่องความร้อนด้วย Oil Cooler การจูนเทอร์โบ ก็หมายถึงต้องต่อสู้กับความร้อน ไม่ว่าจะเปลี่ยนเทอร์โบหรือเปลี่ยนเป็น 2J เป็นเหตุให้เครื่องต้องทำงานมากขึ้น เป็นผลทำให้ความร้อนเกิดขึ้นด้วย แต่ที่โชคดีของ 1J คือมีระบบระบายความร้อนของน้ำที่ดี จึงไม่มีปัญหาความร้อนตรงนี้เท่าไหร่ แต่ความร้อนของน้ำมันเครื่องนี่สิขึ้นเอาๆ จึงจำเป็นต้องติด Oil Cooler เพิ่มดีกว่า ดูแลสายคันเร่ง หลังจากที่เปลี่ยนเทอร์โบแล้ว แน่นอนว่าความร้อนต้องเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ความร้อนตัวนี้เอง ที่จะเป็นตัวไปละลายพวกสายไฟ ท่อยางต่างๆ บริเวณใกล้เคียง ดังนั้น ควรจะหาพวกแผ่นกั้นความร้อนหรือวิธีป้องกันอื่นมาช่ว ยไว้ก่อน เปิดเครื่อง สำหรับรถเทอร์โบ การปรับบูตส์เพิ่มหรือเปลี่ยนเทอร์โบ สามารถเพิ่มความแรงได้เห็นกันอย่างชัดเจน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเริ่มจูนกันตั้งแต่ตรงนี้ แน่นอนการจูนตัวเครื่องก็มีผลด้วยเหมือนกัน อย่างเช่น การเปลี่ยนแคม สามารถทำให้ปลายไม่ค่อยยืดอย่าง 1J สามารถลากรอบได้มันมากขึ้น แล้วก็สามารถเปลี่ยนตั้งแต่ก่อนทำเป็น 2J ได้อีกด้วย อีกด้านนึงในช่วงที่เปลี่ยนเป็น 2J ก็น่าจะทำห้องเผาไหม้ ทำพอร์ทกันใหม่ ซึ่งจะสามารถใช้งานเครื่องที่เปลี่ยนเป็น 3000 cc. ได้อย่างเห็นผลมากขึ้น และเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเครื่อง ก็ถือโอกาสลดกำลังอัดไปด้วยเลย PISTON สำหรับคนที่ยังไม่เบื่อท่อนล่าง 2J ที่มีอยู่ 3000 cc. อยู่แล้ว สามารถเพิ่มความจุกระบอกสูบได้อีกโดยการนำ ลูกสูบโอเวอร์ไซส์ มาใส่เข้าไปเป็น 3.1 ลิตรก็ยังได้อยู่ CAM SHAFT การเปลี่ยนแคม ทำให้ความรู้สึกของเครื่องนั้นเปลี่ยนไปด้วย และยังสามารถทำให้เครื่องที่เน้นรอบต่ำถึงกลางอย่างร ุ่น 100 ยืดไปถึงรอบปลายได้อย่างสบาย == END ==ข้อมูลจากคลับjz[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
HILUX Club
>
ของฝาก ช่วยในการตัดสินใจ ในภาวะน้ำมันแพง
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...