เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
HILUX Club
>
ของฝาก ช่วยในการตัดสินใจ ในภาวะน้ำมันแพง
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="Reloaded, post: 673416, member: 30843"]1st : Light Tune</p><p><br /></p><p>กรองเปลือย & ท่อไปเสีย</p><p><br /></p><p>ก้าวแรกของการโมดิฟายรถคงจะไม่พ้นระบบไอดีไอเสีย</p><p>ความเคยชินเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัว อย่างเมื่อตอนวางเครื่องมาใหม่ๆ แรงม้าที่มีอยู่กับเครื่องนั้นก็คงจะเพียงพอแล้ว แต่วันเวลาที่เปลี่ยนไป ความไม่พอใจของมนุษย์ ก็ค่อยๆ ออกมา ยิ่งกว่านั้น สำหรับคนที่รักรถ อย่างน้อยก็คงจะมีความคิดที่อยากจะทำให้รถตัวเองได้ม ีอะไรดีกว่า แรงกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน</p><p><br /></p><p>ในเวลานั้นเองสิ่งแรกที่สามารถทำได้ง่ายดายที่สุดคงจ ะเป็นการโมดิฟายระบบไอดีกับไอเสีย</p><p><br /></p><p>การที่จะทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นได้ จำเป็นต้องนำอากาศเข้าไปเผาไหม้ให้มากที่สุด แล้วยังต้องลดความต้านทานในการไหลเข้าของอากาศด้วย และนี่คือจุดแรกของการโมดิฟายระบบไอดี จากจุดนี้เราหันกลับไปดูสิ่งที่ติดมากับเครื่อง ซึ่งก็มีอยู่จุดหนึ่งที่เป็นตัวสร้างความต้านทานในกา รดูดอากาศเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ "กรองอากาศ"</p><p><br /></p><p>กรองอากาศนี้เป็นอุปกรณ์ที่คอยป้องกันฝุ่นหรือสิ่งแป ลกปลอมที่เกิดขึ้นในห้องเครื่องไม่ให้เข้าไปในเครื่อ งยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีกับเครื่องยนต์ทั้งหลาย แต่ทว่า กรองอากาศที่ติดมากับเครื่องของเดิมนั้นถูกออกแบบมาส ำหรับการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเป็นหลัก ซึ่งทำให้เกิดความต้านทานในการดูดอากาศเข้าเป็นอย่าง มาก และตรงนี้เอง ถ้านำกรองอากาศที่มีความต้านทานน้อยมาใส่เข้าไป ก็สามารถทำให้ดูดอากาศ (ไอดี) เข้าไปยังห้องเครื่องได้มากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็จะทำให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น การตอบสนองก็จะดีขึ้นตามไปด้วย</p><p><br /></p><p>กรองอากาศที่ว่านี้ ในปัจจุบันมีออกมาให้เห็นกันหลายยี่ห้อ แต่ที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ แบบแรกเป็นแบบที่มีรูปร่างเหมือนกับของเดิม ซึ่งแค่เอามาเปลี่ยนใส่แทนของเดิมเข้าไป และอีกแบบคือ แบบที่หลายคนเรียกว่าเหมือนกับเห็ด หรือ ที่คนไทยเรียกว่า "กรองเปลือย" โดยจะนำกรองอากาศทั้งชุดโดยรวมตัวกล่องตัวกรองอากาศถ อดออกไป แล้วนำกรองอากาศแบบนี้มาเปลี่ยนแทนเข้าไป ถ้าพูดถึงความสะดวกความง่ายราคา คงต้องเป็นแบบแรกที่แค่เปลี่ยนตัวกรองอากาศข้างในเข้ าไปอย่างเดียว แต่ถ้ามองไปถึงประสิทธิภาพแล้วแบบที่สอง แบบเห็ดจะดีกว่ามาก แต่ทว่า การเพิ่มอากาศเข้าไปในเครื่องนี้ จำเป็นที่ต้องทำการปรับระบบน้ำมันและระบบไฟกันใหม่ด้ วย ยิ่งโดยเฉพาะในรุ่น 100 นี้ สัญญาณจากแอร์โฟลที่ออกมาจะค่อนข้างบางอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เครื่องพังเสียก่อน ควรที่จะทำการป้องกันอย่างใดอย่างนึง แต่อย่างไรก็ตาม การได้เปลี่ยนกรองอากาศเข้าไปนี้ ก็น่าจะทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ดีขึ้น แล้วยังได้เสียงที่อาจจะดุขึ้นอีกนิด ซึ่งก็เรียกได้ว่าอย่างน้อยก็ได้แต่งรถไปแล้ว แต่ผลจากการที่ทำให้อากาศเข้าได้มากขึ้น ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนกันบ่อยกว่าของเดิมเพราะอาจจะตัน ได้เร็วกว่า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรจำไว้</p><p><br /></p><p>แบบเปลี่ยนแทนของเดิม</p><p>แบบเปลี่ยนแทนของเดิมนี้ ข้อดีก็คือเปลี่ยนง่าย และยังอยู่ในกล่องด้วย ทำให้ป้องกันสิ่งสกปรกได้ดีกว่า แล้วยังลีกเลี่ยงความร้อนจากในห้องเครื่องได้อีกด้วย</p><p>สำหรับรถเทอร์โบที่บูตส์น้อย หรือ N/A น่าจะเป็นชิ้นที่เหมาะสม</p><p>แบบกรองเปลือย</p><p>ถ้าเปลี่ยนเทอร์โบต้องการไอดีมากๆ แบบเปลือยนี้ดูจะเหมาะสมที่สุด แต่เนื่องจากไอร้อนมีอยู่มาก ควรจะหาแผ่นกั้นกรองหรือทำให้อากาศเข้าไปยังห้องเผาไ หม้เย็นที่สุด</p><p><br /></p><p>หลังจากที่อากาศเข้าได้มากขึ้นแล้ว ก็อยากที่จะทำให้อากาศเสียไหลออกไปได้ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของท่อไอเสียแบบซิ่ง โดยถ้าเปรียบเทียบกับของเดิมแล้วอัตราการไหลออกของไอ เสียจะดีขึ้นกว่าเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แล้วเสียงที่ดังขึ้นอีก จึงเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่อาจจะยังสร้างความไม่พอใจกับ บางคน แต่จากการเปลี่ยนท่อไอเสียเข้าไปนี้ สามารถละไหลของไอเสียได้มากขึ้น ก็เลยทำให้เทอร์โบทำงานได้ดีขึ้นด้วย</p><p><br /></p><p>จริงๆ แล้วท่อไอเสียที่ออกแบบมาให้ผ่านการตรวจสภาพรถแบบดีๆ ก็สามารถไล่ไอเสียได้ดีขึ้น ทำให้สามารถสร้างแรงไปปั่นเทอร์โบได้ดีขึ้น จึงทำให้ปริมาณไอดีก็เพิ่มตามไปด้วย และผลที่ออกมานั้นบูตส์เพิ่มขึ้นอีก 0.1 บาร์ด้วย</p><p><br /></p><p>แต่ทว่า ท่อไอเสียที่สามารถระบายไอเสียได้ดี ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไปตอนเลือกนั้นให้เน้นที่ข นาดของท่อไอเสียตอนกลางเป็นพิเศษ โดยส่วนใหญ่คนทั่วไปจะไปเน้นที่การเลือกหม้อพักปลายซ ะมากกว่า ซึ่งไม่เกี่ยวกับขนาดของท่อไอเสียตอนกลางเลย มันเป็นแค่ตัวเก็บเสียงเท่านั้น แต่ท่อไอเสียตอนกลางนี้จะเป็นส่วนที่ออกมาจากเครื่อง ไปจนถึงหม้อพักปลาย ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินว่าจะให้เครื่องนั้นแร งขึ้นได้ขนาดไหน ถ้าเกิดท่อไอเสียตอนกลางนี้โล่งเกินไป ก็จะทำให้รอบต่ำหายไป โดยทั่วไปสำหรับเครื่องเดิมแล้ว แนะนำให้เลือกขนาดท่อไอเสียตอนกลางนี้ในช่วง 60-80 มม.</p><p><br /></p><p>อีกอย่างก็คือ รูปแบบและสุ่มเสียงที่เป็นเสน่อีกอย่างหนึ่ง แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาใช้ อย่างถ้าเป็นสแตนเลสก็จะมีราคาแพงกว่า แต่จะให้เสียงที่ดุกว่าเหล็ก</p><p><br /></p><p>ถ้าต้องการความแรงอย่างเช่นวิ่งที่เซอร์กิต หรือเพื่อการแข่งขัน ถอดแคทตาไลเซอร์ออกแล้วเอา Font pipe ใส่เข้าไปจะเห็นผลมากทีเดียว ยิ่งจูนหนักเท่าไหร่ผลจากการเปลี่ยน Font pipe นี้ยิ่งเห็นชัด</p><p><br /></p><p>Computor or ECU</p><p><br /></p><p>ECU เดิมที่ยากกับการเปลี่ยนแปลง</p><p>เวลาที่จะเปลี่ยน ECU นั้น ต้องตรวจสอบเนื้อหาของ ECU เสียก่อน</p><p><br /></p><p>หลังจากที่จบขั้นตอนการเปลี่ยนกรองอากาศกับท่อไอเสีย ไปแล้ว ถ้าใครคิดต้องการความแรงในระดับต่อไป ก็อยากจะแนะนำให้เปลี่ยน ECU</p><p><br /></p><p>ECU เป็นตัวควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ก็เหมือนกับ CPU ของคอมพิวเตอร์นั่นเอง โดยจะทำหน้าที่ควบคุมหลายอย่าง เริ่มจากการควบคุมตัดความเร็ว, ตัดรอบเครื่อง แล้วก็ยังคุมระบบการจ่ายไฟ ระบบจ่ายน้ำมัน ควบคุมบูตส์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกเขียนขึ้นมา ก็พูดง่ายๆ ว่า เครื่องยนต์ทั้งหมดจะถูก ECU นี้ควบคุมไว้ ซึ่งถ้าเปลี่ยนข้อมูลใน ECU นี้ก็จะสามารถเพิ่มความแรงให้กับเครื่องยนต์ได้</p><p><br /></p><p>มาอธิบายกันให้ละเอียดอีกหน่อยว่า สำหรับเครื่องยนต์เดิมนั้น ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกันทั่วไป การใช้งานหลายรูปแบบทำให้จำเป็นต้องเพิ่มความปลอดภัย ให้กับเครื่องยนต์เป็นพิเศษ หรือเพื่อให้เข้ากับกฏหมายควบคุมแรงม้า ก็เลยทำให้หลายๆ ส่วนถูกควบคุมเอาไว้ไม่ได้เอาออกมาใช้งานอย่างเต็มที ่ ตรงนี้เอง ถ้าได้เปลี่ยนข้อมูล หรือ เปลี่ยนข้อมูลตามที่โมดิฟายไปของ ECU ให้เป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็นแล้ว ก็จะสามารถเรียกความสามารถเดิมที่เครื่องยนต์มีออกมา ได้อย่างเต็มที่ และนี่ก็คือความหมายของการจูน ECU</p><p><br /></p><p>เนื่องจากการโมดิฟาย ECU นี้ให้ผลได้มากซึ่งก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจไม่น ้อย แต่ทว่าเครื่องโตโยต้ารวมทั้งเครื่อง 1J นี้ มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ CPU ของโตโยต้านี้ไม่ง่ายเหมือนกับของนิสสันที่ใช้ ROM เป็นตัวเก็บข้อมูล ซึ่งเป็นไปยากมากในการจะเปลี่ยนข้อมูลนั้น แต่ที่บอกว่าง่ายนี้ก็ยังไม่ใช่ระดับที่มือสมัครเล่น จะทำกันได้ หรือแม้บางครั้งร้านเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าร้านที่สามารถแก้ไขข้อมูลของรถนิสสั นได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำให้กับของโตโยต้าได้ ซึ่งเรียกได้ว่ามีน้อยร้านมากที่สามารถทำการโมดิฟาย ECU ของโตโยต้า จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเลือก ECU นี้ ต้องหาร้านที่มีประสบการณ์มีชื่อเสียงทำให้จะดีกว่า หรือหาร้านที่มีชื่อเสียงกับการโมดิฟาย ECU ก็เป็นไปได้เช่นกัน เพราะว่าร้านเหล่านั้นจะสามารถทำให้ ลิมิตทีเครื่องยนต์มีนั้นเปลี่ยนไปอย่างรู้สึกได้แน่ นอน ยิ่งโดยเฉพาะรุ่น 100 ที่ถูก ECU ควบคุมระบบ VVT-i แล้วยิ่งสามารถทำให้เปลี่ยนไปได้ไม่น้อยทีเดียว VVT-i นี้จะทำการควบคุมโอเวอร์แลปที่รอบนั้นๆ ซึ่งถ้าสามารถควบคุม VVT-i นี้ได้ก็จะสามารถทำให้รอบปลายไหลได้ดีขึ้นด้วย แต่ว่า ECU ของโตโยต้าที่ยากกับการโมดิฟายอยู่แล้วยิ่งมีระบบ VVT-i เข้าไปอีก ก็ยิ่งยากไปกันใหญ่ ในกรณีที่จะเปลี่ยน ECU ให้ตรวจสอบก่อนว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลตรงส่วนไหนไ ปบ้าง</p><p><br /></p><p>หรืออีกอย่างนึง ไม่ต้องไปยุ่งกับของยากอย่าง ECU แต่สามารถที่จะควบคุมการจ่ายน้ำมัน ระบบไฟ ลิมิตต่างๆ ซึ่งก็ทำได้เช่นกัน ด้วยการนำพวก Full computor หรือ Sub computor อย่างพวก HKS F-Con V, A'PEXi Power FC มาใช้เป็นต้น โดยที่ผลที่ออกมานั้นเหมือนกันกับการเปลี่ยนข้อมูล ECU</p><p><br /></p><p>สุดท้ายนี้ การจูนระบบน้ำมัน ระบบไฟนี้ เป็นสิ่งสำคัญกับเครื่องเป็นอย่างมาก ถ้าจะจูนกันจริงๆ แนะนำให้หาร้านที่มีพวกเครื่องวัดต่างๆ หรือร้านที่มีข้อมูลและประสบการณ์มากทำให้จะดีที่สุด</p><p>แล้วก็ การจูนระบบน้ำมันและระบบไฟนี้ เนื้อหาในการจูนจะละเอียดอ่อนมาก ผลที่ออกมาจะแตกต่างกันไป ดังนั้นควรจะคิดก่อนด้วยว่าหลังจากนั้นจะมีการโมดิฟา ยอะไรเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หาจุดสรุปให้กับตัวเองให้ได้ก่อนเลือก ECU สักตัว[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="Reloaded, post: 673416, member: 30843"]1st : Light Tune กรองเปลือย & ท่อไปเสีย ก้าวแรกของการโมดิฟายรถคงจะไม่พ้นระบบไอดีไอเสีย ความเคยชินเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัว อย่างเมื่อตอนวางเครื่องมาใหม่ๆ แรงม้าที่มีอยู่กับเครื่องนั้นก็คงจะเพียงพอแล้ว แต่วันเวลาที่เปลี่ยนไป ความไม่พอใจของมนุษย์ ก็ค่อยๆ ออกมา ยิ่งกว่านั้น สำหรับคนที่รักรถ อย่างน้อยก็คงจะมีความคิดที่อยากจะทำให้รถตัวเองได้ม ีอะไรดีกว่า แรงกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน ในเวลานั้นเองสิ่งแรกที่สามารถทำได้ง่ายดายที่สุดคงจ ะเป็นการโมดิฟายระบบไอดีกับไอเสีย การที่จะทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นได้ จำเป็นต้องนำอากาศเข้าไปเผาไหม้ให้มากที่สุด แล้วยังต้องลดความต้านทานในการไหลเข้าของอากาศด้วย และนี่คือจุดแรกของการโมดิฟายระบบไอดี จากจุดนี้เราหันกลับไปดูสิ่งที่ติดมากับเครื่อง ซึ่งก็มีอยู่จุดหนึ่งที่เป็นตัวสร้างความต้านทานในกา รดูดอากาศเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ "กรองอากาศ" กรองอากาศนี้เป็นอุปกรณ์ที่คอยป้องกันฝุ่นหรือสิ่งแป ลกปลอมที่เกิดขึ้นในห้องเครื่องไม่ให้เข้าไปในเครื่อ งยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีกับเครื่องยนต์ทั้งหลาย แต่ทว่า กรองอากาศที่ติดมากับเครื่องของเดิมนั้นถูกออกแบบมาส ำหรับการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเป็นหลัก ซึ่งทำให้เกิดความต้านทานในการดูดอากาศเข้าเป็นอย่าง มาก และตรงนี้เอง ถ้านำกรองอากาศที่มีความต้านทานน้อยมาใส่เข้าไป ก็สามารถทำให้ดูดอากาศ (ไอดี) เข้าไปยังห้องเครื่องได้มากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็จะทำให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น การตอบสนองก็จะดีขึ้นตามไปด้วย กรองอากาศที่ว่านี้ ในปัจจุบันมีออกมาให้เห็นกันหลายยี่ห้อ แต่ที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ แบบแรกเป็นแบบที่มีรูปร่างเหมือนกับของเดิม ซึ่งแค่เอามาเปลี่ยนใส่แทนของเดิมเข้าไป และอีกแบบคือ แบบที่หลายคนเรียกว่าเหมือนกับเห็ด หรือ ที่คนไทยเรียกว่า "กรองเปลือย" โดยจะนำกรองอากาศทั้งชุดโดยรวมตัวกล่องตัวกรองอากาศถ อดออกไป แล้วนำกรองอากาศแบบนี้มาเปลี่ยนแทนเข้าไป ถ้าพูดถึงความสะดวกความง่ายราคา คงต้องเป็นแบบแรกที่แค่เปลี่ยนตัวกรองอากาศข้างในเข้ าไปอย่างเดียว แต่ถ้ามองไปถึงประสิทธิภาพแล้วแบบที่สอง แบบเห็ดจะดีกว่ามาก แต่ทว่า การเพิ่มอากาศเข้าไปในเครื่องนี้ จำเป็นที่ต้องทำการปรับระบบน้ำมันและระบบไฟกันใหม่ด้ วย ยิ่งโดยเฉพาะในรุ่น 100 นี้ สัญญาณจากแอร์โฟลที่ออกมาจะค่อนข้างบางอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เครื่องพังเสียก่อน ควรที่จะทำการป้องกันอย่างใดอย่างนึง แต่อย่างไรก็ตาม การได้เปลี่ยนกรองอากาศเข้าไปนี้ ก็น่าจะทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ดีขึ้น แล้วยังได้เสียงที่อาจจะดุขึ้นอีกนิด ซึ่งก็เรียกได้ว่าอย่างน้อยก็ได้แต่งรถไปแล้ว แต่ผลจากการที่ทำให้อากาศเข้าได้มากขึ้น ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนกันบ่อยกว่าของเดิมเพราะอาจจะตัน ได้เร็วกว่า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรจำไว้ แบบเปลี่ยนแทนของเดิม แบบเปลี่ยนแทนของเดิมนี้ ข้อดีก็คือเปลี่ยนง่าย และยังอยู่ในกล่องด้วย ทำให้ป้องกันสิ่งสกปรกได้ดีกว่า แล้วยังลีกเลี่ยงความร้อนจากในห้องเครื่องได้อีกด้วย สำหรับรถเทอร์โบที่บูตส์น้อย หรือ N/A น่าจะเป็นชิ้นที่เหมาะสม แบบกรองเปลือย ถ้าเปลี่ยนเทอร์โบต้องการไอดีมากๆ แบบเปลือยนี้ดูจะเหมาะสมที่สุด แต่เนื่องจากไอร้อนมีอยู่มาก ควรจะหาแผ่นกั้นกรองหรือทำให้อากาศเข้าไปยังห้องเผาไ หม้เย็นที่สุด หลังจากที่อากาศเข้าได้มากขึ้นแล้ว ก็อยากที่จะทำให้อากาศเสียไหลออกไปได้ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของท่อไอเสียแบบซิ่ง โดยถ้าเปรียบเทียบกับของเดิมแล้วอัตราการไหลออกของไอ เสียจะดีขึ้นกว่าเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แล้วเสียงที่ดังขึ้นอีก จึงเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่อาจจะยังสร้างความไม่พอใจกับ บางคน แต่จากการเปลี่ยนท่อไอเสียเข้าไปนี้ สามารถละไหลของไอเสียได้มากขึ้น ก็เลยทำให้เทอร์โบทำงานได้ดีขึ้นด้วย จริงๆ แล้วท่อไอเสียที่ออกแบบมาให้ผ่านการตรวจสภาพรถแบบดีๆ ก็สามารถไล่ไอเสียได้ดีขึ้น ทำให้สามารถสร้างแรงไปปั่นเทอร์โบได้ดีขึ้น จึงทำให้ปริมาณไอดีก็เพิ่มตามไปด้วย และผลที่ออกมานั้นบูตส์เพิ่มขึ้นอีก 0.1 บาร์ด้วย แต่ทว่า ท่อไอเสียที่สามารถระบายไอเสียได้ดี ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไปตอนเลือกนั้นให้เน้นที่ข นาดของท่อไอเสียตอนกลางเป็นพิเศษ โดยส่วนใหญ่คนทั่วไปจะไปเน้นที่การเลือกหม้อพักปลายซ ะมากกว่า ซึ่งไม่เกี่ยวกับขนาดของท่อไอเสียตอนกลางเลย มันเป็นแค่ตัวเก็บเสียงเท่านั้น แต่ท่อไอเสียตอนกลางนี้จะเป็นส่วนที่ออกมาจากเครื่อง ไปจนถึงหม้อพักปลาย ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินว่าจะให้เครื่องนั้นแร งขึ้นได้ขนาดไหน ถ้าเกิดท่อไอเสียตอนกลางนี้โล่งเกินไป ก็จะทำให้รอบต่ำหายไป โดยทั่วไปสำหรับเครื่องเดิมแล้ว แนะนำให้เลือกขนาดท่อไอเสียตอนกลางนี้ในช่วง 60-80 มม. อีกอย่างก็คือ รูปแบบและสุ่มเสียงที่เป็นเสน่อีกอย่างหนึ่ง แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาใช้ อย่างถ้าเป็นสแตนเลสก็จะมีราคาแพงกว่า แต่จะให้เสียงที่ดุกว่าเหล็ก ถ้าต้องการความแรงอย่างเช่นวิ่งที่เซอร์กิต หรือเพื่อการแข่งขัน ถอดแคทตาไลเซอร์ออกแล้วเอา Font pipe ใส่เข้าไปจะเห็นผลมากทีเดียว ยิ่งจูนหนักเท่าไหร่ผลจากการเปลี่ยน Font pipe นี้ยิ่งเห็นชัด Computor or ECU ECU เดิมที่ยากกับการเปลี่ยนแปลง เวลาที่จะเปลี่ยน ECU นั้น ต้องตรวจสอบเนื้อหาของ ECU เสียก่อน หลังจากที่จบขั้นตอนการเปลี่ยนกรองอากาศกับท่อไอเสีย ไปแล้ว ถ้าใครคิดต้องการความแรงในระดับต่อไป ก็อยากจะแนะนำให้เปลี่ยน ECU ECU เป็นตัวควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ก็เหมือนกับ CPU ของคอมพิวเตอร์นั่นเอง โดยจะทำหน้าที่ควบคุมหลายอย่าง เริ่มจากการควบคุมตัดความเร็ว, ตัดรอบเครื่อง แล้วก็ยังคุมระบบการจ่ายไฟ ระบบจ่ายน้ำมัน ควบคุมบูตส์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกเขียนขึ้นมา ก็พูดง่ายๆ ว่า เครื่องยนต์ทั้งหมดจะถูก ECU นี้ควบคุมไว้ ซึ่งถ้าเปลี่ยนข้อมูลใน ECU นี้ก็จะสามารถเพิ่มความแรงให้กับเครื่องยนต์ได้ มาอธิบายกันให้ละเอียดอีกหน่อยว่า สำหรับเครื่องยนต์เดิมนั้น ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกันทั่วไป การใช้งานหลายรูปแบบทำให้จำเป็นต้องเพิ่มความปลอดภัย ให้กับเครื่องยนต์เป็นพิเศษ หรือเพื่อให้เข้ากับกฏหมายควบคุมแรงม้า ก็เลยทำให้หลายๆ ส่วนถูกควบคุมเอาไว้ไม่ได้เอาออกมาใช้งานอย่างเต็มที ่ ตรงนี้เอง ถ้าได้เปลี่ยนข้อมูล หรือ เปลี่ยนข้อมูลตามที่โมดิฟายไปของ ECU ให้เป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็นแล้ว ก็จะสามารถเรียกความสามารถเดิมที่เครื่องยนต์มีออกมา ได้อย่างเต็มที่ และนี่ก็คือความหมายของการจูน ECU เนื่องจากการโมดิฟาย ECU นี้ให้ผลได้มากซึ่งก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจไม่น ้อย แต่ทว่าเครื่องโตโยต้ารวมทั้งเครื่อง 1J นี้ มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ CPU ของโตโยต้านี้ไม่ง่ายเหมือนกับของนิสสันที่ใช้ ROM เป็นตัวเก็บข้อมูล ซึ่งเป็นไปยากมากในการจะเปลี่ยนข้อมูลนั้น แต่ที่บอกว่าง่ายนี้ก็ยังไม่ใช่ระดับที่มือสมัครเล่น จะทำกันได้ หรือแม้บางครั้งร้านเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าร้านที่สามารถแก้ไขข้อมูลของรถนิสสั นได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำให้กับของโตโยต้าได้ ซึ่งเรียกได้ว่ามีน้อยร้านมากที่สามารถทำการโมดิฟาย ECU ของโตโยต้า จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเลือก ECU นี้ ต้องหาร้านที่มีประสบการณ์มีชื่อเสียงทำให้จะดีกว่า หรือหาร้านที่มีชื่อเสียงกับการโมดิฟาย ECU ก็เป็นไปได้เช่นกัน เพราะว่าร้านเหล่านั้นจะสามารถทำให้ ลิมิตทีเครื่องยนต์มีนั้นเปลี่ยนไปอย่างรู้สึกได้แน่ นอน ยิ่งโดยเฉพาะรุ่น 100 ที่ถูก ECU ควบคุมระบบ VVT-i แล้วยิ่งสามารถทำให้เปลี่ยนไปได้ไม่น้อยทีเดียว VVT-i นี้จะทำการควบคุมโอเวอร์แลปที่รอบนั้นๆ ซึ่งถ้าสามารถควบคุม VVT-i นี้ได้ก็จะสามารถทำให้รอบปลายไหลได้ดีขึ้นด้วย แต่ว่า ECU ของโตโยต้าที่ยากกับการโมดิฟายอยู่แล้วยิ่งมีระบบ VVT-i เข้าไปอีก ก็ยิ่งยากไปกันใหญ่ ในกรณีที่จะเปลี่ยน ECU ให้ตรวจสอบก่อนว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลตรงส่วนไหนไ ปบ้าง หรืออีกอย่างนึง ไม่ต้องไปยุ่งกับของยากอย่าง ECU แต่สามารถที่จะควบคุมการจ่ายน้ำมัน ระบบไฟ ลิมิตต่างๆ ซึ่งก็ทำได้เช่นกัน ด้วยการนำพวก Full computor หรือ Sub computor อย่างพวก HKS F-Con V, A'PEXi Power FC มาใช้เป็นต้น โดยที่ผลที่ออกมานั้นเหมือนกันกับการเปลี่ยนข้อมูล ECU สุดท้ายนี้ การจูนระบบน้ำมัน ระบบไฟนี้ เป็นสิ่งสำคัญกับเครื่องเป็นอย่างมาก ถ้าจะจูนกันจริงๆ แนะนำให้หาร้านที่มีพวกเครื่องวัดต่างๆ หรือร้านที่มีข้อมูลและประสบการณ์มากทำให้จะดีที่สุด แล้วก็ การจูนระบบน้ำมันและระบบไฟนี้ เนื้อหาในการจูนจะละเอียดอ่อนมาก ผลที่ออกมาจะแตกต่างกันไป ดังนั้นควรจะคิดก่อนด้วยว่าหลังจากนั้นจะมีการโมดิฟา ยอะไรเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หาจุดสรุปให้กับตัวเองให้ได้ก่อนเลือก ECU สักตัว[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Pickup Car Clubs
>
HILUX Club
>
ของฝาก ช่วยในการตัดสินใจ ในภาวะน้ำมันแพง
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...