แม่ย่านางรถ มีจิงไหม๊ ใครเคยมีประสบการณ์ มั่ง

รู้แต่ว่า แม่ย่านางผมคงชอบดูหนังสด

 

มันขึ้นกับกรรมอ่ะครับ อย่าไปคิดมาก มีสติตลอดเวลาก็พอครับ

 

อิอิ พูดมะออกเลย น่ากัว

 

เห็นด้วยจ้า ไม่ทำเรื่องแบบนี้ ขับรถไม่ประมาท มีน้ำใจกันบนท้องถนน ไม่เมาแล้วมากดคันเร่ง ก้อหล่อแล้วชีวิตบนถนน

 

เชื่ออย่างที่สุด เพราะเกิดเหตุการณ์แปลกๆ

เรื่องที่หนึ่ง แม่ย่านางรถผม ไม่ชอบให้พูดเรื่องเปลี่ยนรถ ขายรถ มิฉะนั้น จะงอแง เสียบ่อย หยุมหยิม บางทีซ่อมเป็นหมื่นก็ไม่หาย ทำให้ขายไม่ได้ ต้องเอาพวงมาลัยมาไหว้และพูดดีๆ ว่าไม่ขายแล้วนะ อยู่กันไปเนี่ยแหละ ถึงมีคันใหม่ก็จะเก็บคันนี้ไว้ เป็นทุกครั้งที่พูดเรื่องจะขายรถ...............ใครเคยเป็นบ้าง

เรื่องที่สอง รถโดนโจรกรรมที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ลืมบัตรจอดรถไว้ในรถอีกต่างหาก โจรสามารถขับออกไปได้เลย แต่มันขับลงมาได้แค่ชั้นเดียว แล้วจอดคืนให้ เข้าช่องจอดเรียบร้อย ไม่รู้มันเจออะไร ?!?!?!

เรื่องที่สาม รถโดนโจรกรรมที่หมู่บ้านเมืองเอก ทำลายกุญแจ ทำลายคอพวงมาลัย ต่อสายตรง แต่สตาร์ทไม่ติด เอารถไปไม่ได้ จอดทิ้งไว้ที่เดิม แต่ผมมาดูรถตอนเช้า สตาร์ทชึ่งเดียวติด

เรื่องต่อมา เวลาแข่งรถ จะขอให้คุ้มครองให้ปลอดภัย ทั้งแม่ย่านาง และพระรอดลำพูน ที่ติดอยู่ในรถ

บางทีแข่งจะแพ้ จังหวะแซงตีคู่ ต้องอาศัยกำลังของรถล้วนๆ คู่แข่งล้ำหน้าไปเกือบครึ่งคันแล้ว ผมคิดในใจ "ขอให้ชนะทีเถิด ไม่อยากเสียค่าสมัครฟรีๆ กลับบ้านไป จะถวายเครื่องเซ่นชุดใหญ่" เท่านั้นแหละครับ กำลังรถไม่รู้มาจากไหน เหมือนยิงน๊อส มันเร่งปี๊ดแซงเข้าเส้นเลย ทั้งที่คันเร่งและเกียร์อยู่ตำแหน่งเดิม ใจหายหมดเลย เป็นอย่างนี้ในสนาม 2 ครั้งครับ หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เมื่อก่อนผมเองก็ไม่เคยคิดเชื่อ เพราะเรียนปริญญาตรี-โท-เอก วิทยาศาสตร์มาตลอด แต่ตั้งแต่มีเหตุการณ์แปลกๆดังกล่าว ก็เลยเชื่อครับ ยังไงเราก็คนไทย คนพุทธ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงๆนะจะบอกให้

 

ผมเชื่อนะ คับ เพิ่งเจอ กะตัวสดๆเมื่อตอนเช้า เลย

แบบว่า ผม บอกขายรถอยู่ แล้ววันนี้เค้านัดให้ เอารถไปให้ดู

พอสตาร์ทติดปุ๊ปเบาดับตลอดเลย แบบว่ายกปุ๊ปดับปั๊ป

ทั้งๆที่เมื่อวาน ชึงเดียวติด เดินเบาได้ตั้งนาน อาการแบบนี้ไม่เคยมีด้วย

ผมเลย เดินกลับเข้ามาในบ้าน แล้วเดินไปไหว้ รูปปู่ผม บอกว่า วันนี้จะเอารถไปให้คนซื้อดู ขออย่าให้

มีเรื่องไม่ดีและขอให้เดินทางปลอดภัยด้วย

หลังจากนั้น เดิน ออกมา เคาะที่ฝากระโปรง น่ารถแล้วบอก กะรถว่า เด๊วเราจะพาแกไปหาเจ้าของใหม่

นะ อย่าดื้อ หล่ะ

เท่านั้นแหล่ะคับ สตาร์ทชึง เดียว ติด แล้วก้อไม่มีอาการ นั้น อีกเลย

แต่ อ่านของ คุณ "ชอลิ้วเฮียง" ขนลุก เลย อ่า แหะๆ หลอน

PS.ปู่ ผม เป็นซื้อคนผูกคอรถคนเจิม นะคับ เลย ไป บอกปู่ก่อน

 

แม่ย่านางไม่รู้ไม่เคยเจอ แต่แต่ถ้าเป็นเจ้าที่เจอมาแล้ว

 

นานๆ ไหว้ที ครับ พวงมาลัยก็คล้องเกียร์ พระมีแค่องค์เดียวตลอดแต่ไม่ลบหลู่ แต่ก็ไม่เชื่อมาก
อะไรที่ไม่ควรก็อย่าทำในรถ เรื่องต่อไปนี้เจอกับตัว ตอนออกรป้ายแดงลองอ่านๆดูนะครับ

แต่เคยได้ยินเรื่องจากคนเก่าคนแกที่อาศัยอยู่กับพระที่วัดบ้านนอก ช่วยงานพระเกี่ยวกับศพ
และก็หลวงพ่อผู้ทรงศีล จากตอนนั้นที่กลับบ้าน ต่าง จว จะเอารถป้ายแดงไปเจิม
ที่วัดบ้านนอกๆหน่อย ทางไปก็รุกรัง ป่าเขาล้อมรอบ แต่ก็ต้องไปเพราะยายกับตาก็ไปแต่วัดนี้สมัยก่อน
ลุงและหลวงพ่อบอกมาแนวๆเดียวกัน ผมจะเขียนเท่าที่จำได้ให้อ่านดู

ผม : ลุงๆ จะเจิมรถที่นี่หลวงพ่อที่ชื่อ...... อยู่วัดมั้ยครับ
ลุงแก่ : เจิมรถยนต์หรอ
ผม : ครับลุง ที่บ้านบอกว่าให้มาที่นี่ ครับ หลวงพ่อที่ชื่อ......ใช่วัดนี้ป่าวครับ
ลุงแก่ : ใช่ ลองไปดูที่ศาลาดู (ว่าแล้วแกก็ชี้ทางไป)
ผมเห็นว่าลุงแกเหมือนคนแก่โบราณที่มีวิชา หลังค่อมๆ กวาดลานวัดอยู่ เลยลองถามๆดู
ผม : ลุงครับ แล้วเจิมกับหลวงพ่อองค์ไหนดีเอาที่เค้ามาเจิมกันเยอะๆ อะครับ
ลุงแก่ : เจิมกันเยอะที่ไหน หลวงพ่อท่านเป็นคนเจิมหรอ
ผม : อ้าว ทำไมหลวงพ่อท่านไม่เจิมละครับ ที่บ้านผมเค้าบอกว่าท่านเจิมรถ
ลุงแก่ไม่ตอบดูเบื่อๆ แล้วก็เดินไปกินน้ำ แล้วเดินลากไม้กวาดทางมะพร้าวมา
ลุงแก่ : เอ็งลองไปถามหลวงพ่อท่านดู
ผมว่าลุงแก่แกสติไม่ดีแน่ๆ เลยขอบคุณและก็ให้เงินแกไป 20 บาท
ลุงแก่แกก็รับไว้และก็เอาใส่กระเป๋าเงิน แต่ในกระเป๋านั่นไม่มีแบ้งเลย มีแต่เหรียญ

ผมก็เดินไปหาหลวงพ่อ ที่ศาลาก็ไม่เจอ ถามยายแก่ๆบนศาลา ก็ชี้โบ้ชี้เบ้ให้เดินร่อนทั่ววัด ในวัด
ก็กว้าง แต่สิ่งก่อสร้างเหมือนจะพังแหล่ไม่พังแหล่ ไม้เก่าๆแดงๆ ผุๆ บันไดศาลาก็ไม่มีราวจับ
เดินขึ้นทีจะร่วงให้ได้ เมรุเก่าๆปล่องดำปี๋ ขึ้นไปก็เจอแต่เสื่อ สังฆทานทำแบบชาวบ้าน
พระน้อยมากหาพระไม่เจอเลย มองไปมีแต่ผ้าเหลืองตากกิ่งไม้อยู่ และหมาอีกเป็นฝูง
ก็เลยเดินไปทางหมา เพราะคิดว่าหมาในวัดกลางป่า น่าจะอยู่ไกล้มนุษย์แล้วก็จริงเจอหลวงพ่อท่านอยู่
ใต้ต้นไทรกำลังทำอะไรสักอย่าง ที่ต้นไทรมีผ้าหลากสีเก่าๆพันอยู่รอบ และตุ๊กตาชุดไทยกองเต็ม
มีเทียนเล่มนึงจุดอยู่ที่ใต้ต้นไทร หลวงพ่อท่านดูแก่มากมาย ผิวคล้ำมีด่างเต็มตัว หัวหงอก
รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ผ้าเหลืองคลุมสวย ผมเคยบวชมาแล้ว 3 พรรษา ก็คิดว่าใช่องค์นี้แน่

ผม : หลวงพ่อครับ ท่านชื่อ .....ใช่มั้ยครับ
หลวงพ่อ : ใช่ โยมมากับใครหรอ
ผมว่ามันชักทะแม่งๆ ถามแปลกๆ ไม่เหมือนพระองค์อื่น และมาวัดก็ไม่มีอาวุธอะไร
มากับรถป้ายแดงอีก พระก็ไม่เห็น กลัวเป็นวัดเก่าแล้วพระไม่มี โจรเลยมาสวมรอย
เลยออกขั้นระแวงนิดหน่อย แต่ก็ใจชื้อมาได้บ้างเพราะท่านก็ดูเคร่งศาสนา ไม่งั้นคงใส่รองเท้าแล้วละ
ผม : มาคนเดียวครับหลวงพ่อ แต่เดี๋ยวเพื่อนตามมาอีก กำลังขับรถมาไกล้จะถึงแล้ว
หลวงพ่อ : มาทำอะไรกันที่วัดนี้ละโยม
หันหน้ามาหาผม เห็นแล้วแทบสะดุ้ง ตาท่านพร่าออกขุ่นมัว น่าสงสารมาก
ผม : ว่าจะมาให้ท่านเจิมรถให้หน่อยครับ ป้าผมแนะนำท่านมา ป้าเค้าเคยมาทำบุญนานมากแล้ว
หลวงพ่อ : อาตมาจำไม่ได้หรอก ถ้าตอนนั้นก็คงลืมหมดแล้ว
ผม : หลวงพ่อครับที่นี่มีพระกี่องค์ครับ แล้วองค์ไหนเป็นเจ้าอาวาส
หลวงพ่อ : มีอยู่แค่ 4 องค์ เป็นพระบวชใหม่องค์นึง แต่อาตมาไม่เจอมาสองวันแล้ว
ผม : อ๋อครับ หลวงพ่อทำพิธีกรรมเสร็จยังครับ หลวงพ่อไปเจิมรถให้ผมได้ตอนไหนครับ
หลวงพ่อ : ทำไมโยมถึงอยากเจิมรถนักละ โยมเจิมไปโยมจะเอารถไปทำอะไร
ผม : เจิมไว้เป็นสิริมงคลครับหลวงพ่อ ผมเองก็ไม่ได้ชอบหรือเชื่อเท่าไรครับ เพราะมันเลอะหลังคาอะครับ
หลวงพ่อ : หัวเราะเบาๆ ตามอาตมามาที่นี่
ผมเดินตามหลวงพ่อแบบทรมาน ท่านค่อยๆเดิน ผมก็ไม่เคยดูแลคนแก่ เห็นแกใช้ไม้เท้า ก็ไม่ทันได้นึกอะไร
จนเกือบจะถึงกุฎิผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าต้องช่วยพยุง ก็เลยไปช่วย หลวงพ่อท่านยิ้ม แต่ผมยังยิ้มไม่ออก
ท่านมีกลิ่นประมาณกลิ่นยา กลิ่นหมาก กลิ่นสมุนไพร ที่พวกเราชาวกรุงไม่ค่อยคุ้นเท่าไร แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจ
พอถึงกุฎิหลวงพ่อท่านนั่งลง ทำกิจธุระของท่านเช่นบ้วนปากลงกระโถน อะไรต่ออะไร แล้วก็หันมาถาม
หลวงพ่อ : รถคันไหนที่จะเจิม ใช่คันนั้นใช่มั้ย
ผม : ครับท่าน เจิมแบบที่ท่านเคยเจิมน่ะครับ
หลวงพ่อ : โยมเอารถคันนี้ไปทำอะไร ใช้อะไรหรอโยม ทำไมคันมันใหญ่จังล่ะ
ผม : ใช้เดินทางไกลครับ กลับบ้าน ไปเรียนหนังสือบ้าง ดูแลพ่อแม่ ทำธุระแทนท่านน่ะครับ
หลวงพ่อ : บ้านโยมอยู่ไหนหรอ โยมมาจากไหน
ผม : อยู่ในเมืองครับหลวงพ่อ (จ เดียวกัน) แต่มาที่นี่มาหาท่านครับ พรุ่งนี้ผมก็กลับ กทม แล้ว
หลวงพ่อ : โยมจะให้อาตมาเจิมอย่างไร
ผม : ก็เจิมให้ปลอดภัย เดินทางดี ทำมาค้าขึ้น อะไรแนวเนี้ยครับ รถมีแม่ย่านางจริงมั้ยครับหลวงพ่อ
หลวงพ่อ : อาตมาจะเจิมให้นะ รถคันที่โยมนำมา มันไม่มีอะไรหรอก เป็นวัตถุนอกกาย
ผม : แล้วเรื่องแม่ย่านางละครับหลวงพ่อ รถยนต์ทุกคันมีจริงรึป่าวครับ
หลวงพ่อ : สมัยก่อนมีมาแต่เรือ โบร่ำโบราณ ก่อนออกไปค้าขาย มีแต่ช้างม้าวัวควาย ก่อนออกไปรบ ทำการประยุทธ์
จะต้องมีการอันเชิญเหล่าเทวดา เจ้าที่ วิญญาณที่เคารพ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ก่อนออกทำการ มีมาแต่สมัยโบราณ รถที่โยม
นำมาก็เหมือนกัน ถ้าสมัยก่อน ก่อนออกรบ ถ้าช้างตื่นกลัวเสียงโห่ร้อง กลองชัย ก็หมายว่าถ้าออกรบไปจะพ่ายกลับมา
ผม : แปลว่ารถไม่มีแม่ย่านางใช่มั้ยครับ
หลวงพ่อ : ไม่มีหรอก เรือก็ไม่มี ช้างก็ไม่มี ดาบที่สมัยก่อนใช้เป็นอาวุธก็ไม่มี รถที่โยมจะเจิมไปเนี่ยนะ
อาตมาจะเจิมให้แค่นำโชคลาภมาให้เท่านั้น
ผม : เอาที่เดินทางปลอดภัยด้วยครับหลวงพ่อ ไม่มีอุบัติเหตุ
หลวงพ่อ : อาตมาเคยเจิมให้คนนึง เค้ามาขอแบบโยมแต่นานมากแล้ว อาตมาเจิมให้เดินทางปลอดภัย ใช้วิชาลงให้
แต่หลังจากเจิมไป ลูกสาวโยมเค้าก็มาหาอาตมา มาถามอาตมาว่าทำไมที่อาตมาเจิมให้ไปถึงเป็นเช่นนี้ รถของ
โยมแม่เค้าเกินอุบัติเหตุตลอด และก็พึ่งเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ปีที่ผ่านมา อาตมาบอกไปว่า โยมแม่ได้ระมัดระวังมั้ย
อาตมาเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ ที่อาตมาเจิมไปมันช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก ตัวเราเองที่เป็นที่พึ่งของตนเอง
ผม : แล้วหลวงพ่อทำไงต่อครับ
หลวงพ่อ : โยมรู้มั้ย ที่อาตมาเจิมไปนั้น ถูกวิญญาณเร่ร่อน ผีสางนางไม้ ที่เฮี้ยน และไม่มีที่ไป ยังไม่ไปผุดไปเกิด นั้น
มาลองวิชา พวกวิญญาณเหล่านี้ ชอบลองวิชาทางธรรม หาที่ผุดที่เกิด และหาคนไปแทนที่ตนอาตมาเองก็พึ่งรู้
ไอ้ที่โยมอยากจะให้อาตมาเจิมมีทั้งผลดีผลเสียโยมย่อมอยากจะเดินทางคนเดียว โยมคงไม่อยากมีวิญญาณพวกนี้ติดตามโยมไป
อาตมาเจอบ่อยทั้งมาขอส่วนบุญส่วนกุศล และมาลองวิชา อาตมารู้ว่าสิ่งที่อาตมาเจิมให้โยมแม่ของสีกานั้น ทำให้พวกวิญญาณ
ผีสางเหล่านั้นติดตามไปได้ ถ้าดีแล้วก็ดีไปด้วยผลบุญกุศลที่ติดตัวเรามา คนถึงที่ตายต่อให้มีวิชาสักแค่ไหนก็หนีมันไม่พ้น
อาตมาเองก็เช่นกันอาตมาก็ต้องสายในสักวัน แต่บุญกุศลไม่ได้ช่วยให้เราพ้นจากความตาย เพียงแต่จะช่วยให้เราไปอยู่ที่ใดในอีกภพ
ไปผุดไปเกิดเป็นอะไร อาตมาเองไม่อยากเจิมให้โยมหรอกนะ
ผม : อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เลยถามอกไปว่า แล้วผมต้องทำอย่างไรครับ หลวงพ่อ
หลวงพ่อ : อาตมาจะพรมน้ำมนต์ให้ และก็ให้พระไว้องค์นึง ติดรถไว้ โยมต้องระลึกไว้เสมอว่าโยมเองที่จะดูแลตัวเองได้

แล้วผมกับหลวงพ่อก็คุยกันเรื่องแนวๆนี้ ต่อ แต่ก็ไม่นานมาก หลวงพ่อก็มาพรมน้ำมันให้ รอบรถ และ สวดคาถาอะไรไม่รู้
ไม่ได้สต๊าทเครื่อง ไม่ได้เปิดฝากระโปรง ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับรถเลย แล้วให้พระไว้องค์นึง ผมจึงเก็บไว้ที่ลิ้นชักใหญ่ของรถ
และวันนั้นผมก็ไม่ได้เจิม และผมก็ขอบูชาเหล็กน้ำพี้ที่วัดนั้นที่หลวงพ่อท่านเก็บไว้ ไม่ได้ขาย
เพราะในวัดนั้นไม่มีอะไรมาวางไว้ให้บูชาเลย ผมก็ใส่ซองเงินให้หลวงพ่อ จำนวนสองพันเพราะสงสารท่าน
เทหมดเท่าที่มีวันนั้นถือว่าได้ทำบุญด้วย เหลือติดตัวกลับบ้านสองร้อยพอเป็นค่าขนมระหว่างทาง
หลวงพ่อท่านรับไว้ปรกติโยมบริจาคทานอะไรก็ช่างสงฆ์ต้องรับไว้โดยไม่เลือก แล้วคิดว่าสงกรานต์จะกลับมาหาท่านอีกที
ปีแรกก็ธุระเยอะเลยไม่ได้แวะไป ปีที่แล้วเลยแวะไปแต่ก็ปรากฎว่าท่านมรณะภาพแล้ว ก่อนผมจะมาเพียงไม่กี่เดือน

หลังจากนั้นผมก็ใช้รถปรกติ ขับกลางคืนต่าง จว บ่อย ขับไม่ระวังบ้าง เมาบ้าง แข่งกันบ้าง ก็ไม่เคยเจิมก็ไม่เคยชนเลย
จากนั้นมาตอนนี้ ก็ซื้อรถมาสี่คันแล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ไม่เคยเจิม ทั้งซื้อเพิ่ม ทั้งขายไป ทั้งรถมือสอง
ผมก็เชื่อตามที่ท่านบอก แต่ก็ไม่ลบหลู่รถ เพราะยังไง นั่นคือรถของเราเอง แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่เราครับ
เราเป็นคนควบคุมพวงมาลัย และเมื่อถึงที่ตายยังไงก็ต้องตาย แต่อย่าประมาทไว้เป็นดีครับ ทนอ่านหน่อยครับเรื่องดีๆนานๆจะพิมสักที มันเมื่อย

 

ม่ายมีอารายมากคับ

แค่เหงผู้หญิงนั่งในรถหวีผมอยู่ สวยคับ

ทีนี้ก้อ ซื้อพวงมาลัยม่ายขาดเลยคับ ไหว้ตลอดเลยคับ

คันที่อยู่ข้างๆๆคับ

 

ประสบการณ์ก้อมีค๊าบ แต่มันยาว เอาเป็นว่าผมเชื่อค๊าบ

 

ถูกต้องครับไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ส่วนตัวผมไม่ทําอะไรที่ไม่ดีๆๆบนรถและไม่ประมาทครับ

 

น่าคิดครับ

อยากรู้ว่า ประเทศอะไร มีสถิติเกิดอุบัติเหตุ น้อย และ มาก ที่สุด ......


การดูแลรักษารถสม่ำเสมอ ทำความสะอาดรถ ผมว่าเป็นการเคารพรถ ที่ดีที่สุด

 

ไม่เชื่อแต่ก้อไม่ลบหลู่คับ
ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแปลก ๆ (หรือว่าเจอไปแล้วแต่ไม่รู้) ของอย่างนี้ไม่เจอกับตัวก้อไม่รู้คับ

 

มาคิดกลับกัน แม่ย่านางรถ ถ้ามีจริง ขอแบบเอ็กซ์ๆ นะ เพราะว่า เป็นรถญี่ปุ่น

แม่ย่านาง ขอเป็นสาวญี่ปุ่นละกัน สเปคเลย

คนผลิตขึ้น มันจะมีได้ไง งั้นมนุษย์เราก็สุดยอดว่า เพราะสามารถ ผลิตแม่ย่านางได้

อันนี้ไม่นับรวมรถที่เคยมีคนตายนะครับ อันนั้น อาจจะมีวิญญาณอยู่จริงๆ ก็ได้

 

-ไม่เชื่ออย่าลบลู่ครับ.......ส่วนตัวผมเชื่อเคยเจออะไรแปลกเยอะครับ

-ในเรื่องนี้คิดว่าเราเป็นคนพุทธเชื่อไว้ก็คงไม่เสียหลายแล้วแต่บุคคลในรถของคนส่วนใหญ่คงมีพระไว้คุ้มครองเพื่อให้เดินทางโดยปลอดภัยการที่เราซื้อพวงมาลัยมาไหว้ก็เพื่อให้พระที่เราเชิญมาคุ้มครองให้เราปลอดภัยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอะไรหรือเกิดอุบัติเหตุหนักก็ขอให้เป็นเบาเพราะว่าบางที่เราไม่ประมาทบ้างคนเขาประมาทมาชนเราเราเจ็บเราตายเราพิการเขามาสนใจเราไหมเรื่องนี้เชื่อไว้เพือเป็นกำลังใจ
โดยหลักแล้วในการขับรถก็ต้องไม่ประมาทและมีสติอยู่ตลอดล่ะครับ

 

มันแล้วแต่ความเชื่ออะครับ

 

ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ ส่วนตัวเชื่อว่ามีจริงแน่นอน

 

ตัวผมเชื่อนะคับ นอกจากแม่ย่านางแล้วเวลาขับผ่านศาล / ต้นไทรที่มีผ้า 3 สีผูกก็จะบีบแตรเคารพทุกครั้งเหมือนกับว่าขอพรให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยคับ

 

ส่วนตัวผมเชื่อครับ...ก่อนจะขับรถหรือขี่มอไซค์ทุกครั้งก็จะยกมือไหว้ก่อนทุกครั้ง..และก็ซื้อพวงมาลัยไหว้และก็ไม่เล่นหรือนั่งที่หัวรถครับ...

 

เชื่อครับ ส่วนตัวไม่เคยเจอนะครับ แต่ก็จะนับถือ ซื้อพวงมาลัยแขวน ก่อนแขวนก็บอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองรถเราให้แคล้วคลาดจากอันตรายอะครับ แล้วก็เคยฟังเรื่องที่พี่ที่อู่เล่าให้ฟังมา พยายามปฏิบัติเหมือนรถเป็นของสูงนะครับ เพื่อนบางคนเอาเท้าวางบนคอนโซลผมก็จะว่าเลยให้เอาลง ไม่ได้กลัวสกปรกนะครับ แต่เท้าเป็นของต่ำหนะครับ ห้ามผู้หญิงข้าม-คร่อมกลางรถ คอนโซลเกียร์ ห้ามผู้หญิงนั่งหน้ารถ(ฝากระโปรง)ไม่ใช่เบาะหน้านะ...แหะๆ ประมาณนี้อะครับ เรานับถือแล้วเราสบายใจแล้วก็ขับรถบนพื้รฐานของความไม่ประมาทครับ

 

ส่วนตัวเชื่อคับ...........

 

ส่วนตัวเชื่อครับ เคยเจอมาแล้วหลายครั้ง บอกว่าจะเปลี่ยนมือไปให้พี่สาววใช้เท่านั้นแหละเกเรสุดๆ พอบอกว่าไมให้ไปไหน กลับดีเหมือนเดิม แต่ที่จำได้ไม่ลืมมี3ครั้ง

ครั้งแรก
ผมได้ประสบอุบัติเหตุแถวถนนวิภาวดีรถพังทั้งคัน ใครเห็นก็บอกว่าคนขับตาย เลือดกระจายเต็มรถ แต่จริงๆแล้วหัวแตกไม่มาก

ครั้งที่2น่ากลัวหน่อย
ผมได้ประสบอุบัติเหตุแถวพระรามเก้า(นั่งโดยสาร) รถได้บินจากเลนซ้ายสุดไปเลนขวาสุด รวมทั้งหมด8เลน แล้วได้มีรถtaxiเสยด้านที่ผมนั่ง รถกระเด็นไปติดขอนไม้เกือบลงคูน้ำ จากนั้นผมติดอยู่ในรถไม่สามารถออกไปไหนได้(ขาติดกับประตูที่บี้เข้ามา) น้ำยาแอร์R12รั่วไหลเข้ามาในรถ ทำให้หายใจไม่ออก ประกอบกับเสียเลือดมากจนหมดสติและหัวใจหยุดเต้นไปในที่สุด ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ แต่เพื่อนที่มาด้วยกัน(ไปหลายคัน)ก็ช่วยปลุกให้ฟื้น จนผมฟื้นขึ้นมาแล้วดึงผมอออกจากตัวรถ(ดึงง่ายมาก) ตอนผมฟื้นทุกๆคนบอกว่ามีป้าคนหนึ่งมานั่งกอดผมแล้วร้องให้(ตอนนั้นแถวนั้นมีศาล) เรียกผมว่าลูกตลอดเวลา แล้วพยายามยามทำให้หัวใจผมเต้นอีกครั้ง คนที่มามุงดูนึกว่าผมเป็นลูกของป้า เพื่อนผมที่มาเขาด้วยก็บอกแบบนี้เหมือนกัน จนผมรักษาตัวเองหาย ผมก็ตามหาป้าเขาไม่พบ มีคนบอกว่าป้าเขาเป็น... แต่ดวงของเรายังไม่ถึง เท่านั้นแหละครับอึ้งไปเลย

ครั้งที่3
ครั้งนี้รถชนบนสะพานข้ามแยกเกษตร รถชนตูดเขาครับ ด้านที่แฟนนั่งปรากฏรอยโหม่งกับกระจก แต่จริงแล้วแฟนเขาไหลตกลงช่วงที่วางเท้า(ไม่สบายเลยเอนเบาะ) รถหม้อน้ำแตก คู่กรณีลงมาก็ตกใจนึกว่าคนข้างผมเป็นอะไรซะแล้ว ผมมาเห็นแฟนผมเขาก็งงทั้งๆที่กระจกเป็นรูปหัวคน พอกู้ภัยมาถึงเห็นรถก็ถามถึงคนนั่ง ก็บอกอยู่ตรงนั้น พวกเขาก็งงอีก ตำรวจที่สน.ก็ถาม ยิ่งทำให้ผมสงสัย พอกับมาบ้านก็เล่าให้แม่ฟัง แล้วแม่พาไปหาคุณยายข้างบ้าน คุณยายก็บอกว่าคุณลุงเขาช่วยรับแทน

ทุกครั้งที่ผมจะไปไหนมาไหนผมก็จะบอกคุณลุงทุกครั้ง....

 

แค่ไม่ XXX กันในรถ และไม่เอาใครมานั่งบนฝาหน้ารถก็พอแล้วครับ

รถผม ผมไม่ได้อัญเชิญแม่ย่านางครับ

อัญเชิญครูบาอาจารย์แทน

(มีคนอัญเชิญให้นะ ผมอัญเชิญเองไม่เป็น)

---------------------------------------------------------------------------

รถใครออกงานมอเตอร์โชว์

และถือเรื่องแบบนี้ อย่าได้ให้พริ๊ตตี้มานั่งบนฝากระโปรงรถเชียวนะ

 

ผมคล้องตลอดอะคับ พวงมาลัย ว่าแล้วพรุ่งนี้ต้องเปลี่ยนแล้วสิ เหี่ยวแล้ว
คล้องแล้วหอมดีออกนะคับ

 

แม่ย่านางรถ เปนสาวญ๊ปุ่น อายุสัก 20 ต้นๆ คงดี

ยังไม่เคยเจอเรื่องพวกนี้และ ขับรถ ดูแลรถ ไม่ทำผิดกฏ = ดีที่สุดคับ

 

ทีนี้ลองมานึกเล่นๆ

แล้วถ้าของแต่งที่มาจากยุ่นหละ เบาะเอย ล้อเอย และแบบอื่นๆ

คิดว่าจะมีเจ้าของเก่าที่หวงตามมาบ้างไม๊........ฮึ ฮึ ฮึ

 

แบบนี้อาจมีกรณีจ้าวที่ไทย โดนผียุ่นไล่ที่ก็ได้

 

เชื่อครับ

เมื่อสักห้าปีที่แล้ว(รถพึ่งเสร็จรันอินครบแล้ว) กำลังกลับบ้านประมาณห้าทุ่มได้มั้งถนนว่างมากๆ(เส้นลำลูกกา6เลน ข้างละสาม)

เลยอยากจะลองรถดูกดมาเต็มๆ ตั้งแต่เกียร์สอง จนหมดเกียร์สี่(ความเร็วประมาณ200) จะเข้าเกียร์ห้าอยู่แล้ว

ตอนที่จับคันเกียร์(จะเข้าห้า) มีเสียง ญ บอกว่า ระวังทางกลับรถข้างหน้า เลยยกก่อน(ไม่ใส่เกียร์ห้า)

ถึงทางกลับรถประมาณ100เมตร แต่ไม่ได้เบรก พอเหลือ 20 เมตร มีรถกลับรถออกมาสองเลน ชิหายแล้น เหลือซ้ายเลนเดียวแล้วเราวิ่งมาขวาสุด

ความเร็วตอนนั้นน่าจะประมาณ180 เบรกคงไม่ทัน เลยหักออกซ้าย ปรากฎว่าหัวพ้นมาได้แบบสะบัดๆ แต่คันที่กลับรถมาดันไม่เบรกให้รถ

หยุดยังไหลมาชนกันชนท้าย เลยเสียหลัก สะบัดแล้วหันหัวใส่ข้างทาง ดีนะแค่หม้อน้ำแตก ถ้าไม่ยกเพราะเสียงนั้นก่อนคงไม่ได้มาปากดีเหมือนทุกวันนี้แน่ๆ

พอลงจากรถมาได้ เลยมานึกว่าเมื่อกี้เสียงใคร ก็ขับมาคนเดียวนิหว่า

 

เออ มีอีกเรื่องตอนเปลี่ยนทะเบียนรถ ได้มาเสร็จใส่เลยที่ ขนส่ง ใส่เสร็จขึ้นมาstartแม่งไม่ติดซะงั้น

start อยู่เกือบห้านาทีก็ไม่ติด เวงแล้วไง มานั่งนึกๆ เลยยกมือบอก ว่าเปลี่ยนทะเบียนนะคราบ

เท่านั้นอะ ติดทันทีเลยงง เหมือนกัน

 

ความเชื่อของผมคือห้ามพูดว่าจะขายรถต่อหน้ารถให้ได้ยินถ้าจะพูดคือก็คือพูดไกลๆหรือไปพูดที่อื่น
ผมเป็นคนออกบ้านทุกวันส่วนใหญ่ก็เฉยๆแต่ถ้าไปไหนกับเขาไกลๆหรือต้องขับนานๆก็จะไหว้พระ
หรือห้อยพวงมาลัยก่อนครับ

ปล.แต่ส่วนใหญ่มักจะไหว้ไม่ให้เขาพังเยอะครับตังค์ไม่ค่อยมี....