อยากทราบครับว่า เวลาเขาวัดกำลังอัดของห้องเผาไหม้ เขาใช้เครื่องมืออะไรวัด และวัดกันอย่างไรครับ แล้วค่าที่วัดได้แบบไหนสำหรับ 405 gri เครื่องเดิม ถึงจะถือว่าเครื่องไม่หลวมครับ ขอบคุณครับ
ผมคัดลอกมานะครับเพราะข้อมูลที่เขียนไว้ถูกต้องแล้วครับ แล้วนำมาปรับปรุงบางข้อความให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ โดยใช้เครื่องมือหน้าตาแบบนี้ (ขอยืมรูปมาจาก web vlovepeugeot) วิธีการวัด - สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ให้ถึงอุณหภูมิทำงาน แล้ว ดับเครื่อง - ถอดสายหัวเทียน - ถอดหัวเทียนออกให้หมด ,แบตเตอรี่ต้องอยู่ในสภาพดีไฟเต็ม เพราะเวลาสตาร์ทเครื่องจะได้หมุนเร็ว - ขันตัววัดกำลังอัดลงไปที่รูหัวเทียน แล้วสตาร์ทเครื่อง - สตาร์ทเครื่องสัก 4 ครั้ง แต่ละครั้งให้จดไว้ว่าได้กี่ปอนด์ เพื่อดูค่าที่ได้สูงสุด - ทำทุกสูบ แต่ต้องจำไว้เลยว่าจะต้องให้คนสตาร์ทเหยียบคันเร่งให้สุด หรือ ใช้มือเปิดลิ้นปีกผีเสื้อให้สุดครับ เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ ค่าที่วัดได้จะสูงมากและไม่แน่นอน - ปกติค่าที่ยอมรับได้ว่ายังไม่ต้องยุ่งอะไรกับแหวนก็อยู่ประมาณ175ปอนด์เหมือนในภาพ ซึ่งเป็นค่าพื้นฐานทั่วๆไป เนื่องจาก ไม่มีสเปคของค่านี้มาจากโรงงาน(หรือยังหาไม่เจอ) แต่ละสูบจะวัดได้ค่าต่างกันไม่เกิน 15 ปอนด์ - ถ้าค่าต่างกันเกิน 50 ปอนด์ ก็แสดงว่ามีปัญหาแน่นอน - ค่าที่ต่ำถึง 145 ปอนด์ บอกถึงอาการเครื่องหลวมค่อนข้างแน่นอน - ถ้าสูบใดวัดได้ต่ำก็ให้ลองหยอดน้ำมันเครื่องสัก1 ช้อนโต๊ะ ลงไปในรูหัวเทียนแล้ววัดใหม่ ถ้า ค่าที่ได้สูงขึ้น ก็แสดงว่าแหวนหลวม แต่ค่าที่ได้สูงขึ้นก็เนื่องจากน้ำมันเครื่องเข้า ไปอุดร่องแหวนครับ - แต่ถ้าหยอดน้ำมันแล้ววัดยังได้ต่ำเหมือนเดิม ก็แสดงว่าวาล์ว,บ่าวาล์วมีปัญหา หรือปะเก็นฝาสูบแตก - ถ้ามี 2 สูบที่อยู่ติดกัน ได้ค่าต่ำเท่ากันก็อาจเกิดจากปะเก็นฝาสูบตรงส่วนที่อยู่ระหว่าง 2 สูบ ที่ว่า แตกครับ ถ้าแตกมากก็สังเกตุได้จาก ถังพักน้ำจะมีน้ำมันเครื่องปนอยู่ - ถ้าสูบใดวัดค่าได้ต่ำกว่าสูบอื่น 20% และมีอาการเดินเบาไม่เรียบ ก็ให้สงสัยว่า แคมชาร์ปอาจจะสึก - ถ้าวัดแล้วทุกสูบได้พอๆกันตามที่กล่าวมาข้างต้น และ ไม่มีปัญหาอื่นๆ แต่ค่าที่ได้รู้สึกว่าจะต่ำเกินไป แสดงว่ามีเขม่าเกาะในห้องเผาไหม้มากเกินไปจนพื้นที่ห้องเผาไหม้เหลือ น้อย ก็จำเป็นต้องเปิดฝาสูบ ออกมาขูดเขม่าเช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นการวัดกำลังอัดนะครับ จะใช้ได้เฉพาะเครื่องเดิมๆ เครื่องที่เปลี่ยนลูกสูบกำลังอัดสูง,เปลี่ยนแคมองศาสูงพวกนี้จะวัดไม่ค่อยได้ แต่จะใช้การทดสอบการรั่วแทน ถ้า ทดสอบการรั่ว จะมีวิธี และ เครื่องมือที่ยุ่งยากขึ้นไปอีก คร่าวๆ ก็คือ มีการอัดอากาศในปริมาณที่เท่าๆกันตามกำหนดเข้าไปในแต่ละกระบอกสูบ แล้ววัดปริมาณรั่วของอากาศ ณ.ช่วงเวลาหนึ่ง เครื่องที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ จะรั่วไม่เกิน 5% เครื่องที่มีปัญหามากๆ อาจรั่วถึง 50% เครื่องที่ใช้แข่งขันอย่างเดียว จะรั่วไม่เกิน 3 % ถ้า10% ก็ต้อง Over Haul ใหม่ การเปิดฝา คุณก็ต้องเตรียม - ตังค์ อันนี้สำคัญที่สุด - ชุดปะเก็นเปิดฝา (บอกคนขายแบบนี้ดีกว่าครับ ไม่ตกหล่น) ฟังจากคำถามของคุณแล้ว หมายความว่าคุณจะซ่อมเองรึเปล่าครับ ถ้าใช่ ก็เตรียมอย่างอื่นเพิ่ม - ค่าแรงขันปอนด์ น็อตต่างๆ โดยเฉพาะน็อตยึดฝาสูบ - ตัวกดสปริงวาล์ว (ถ้าไม่มีก็ใช้ฝีมือหน่อย) - ยางบดวาล์ว+กากเพชร+สว่านมือ (ใช้แทนมือ เร็วกว่า,เนียนกว่า) - กำลังใจ,เสียงเชียร์จากผู้คนรอบข้าง ราคาอะไหล่ ต้องโทรถามเองครับ ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้นะครับจะช่วยตอบเพิ่มเติมให้ครับ V
ตอนถอดหัวเทียน และสายหัวเทียน คือถอดหมดทุกสูบเลยใช่หรือเปล่าครับ แล้วเจ้ามาตรวัดที่ว่า ราคาประมาณกี่บาท และหาซื้อได้ที่ไหนครับ ขอบคุณครับ ถ้าจำเป็นต้องเปิดฝา ผมคงไม่ทำเองครับ เนื่องจากเครื่องมือไม่อำนวย ที่อยากวัดกำลังอัดเพราะอยากรู้แค่ว่า เครื่องผมหลวมหรือเปล่าครับ เพราะว่าจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นแบบ full syn ถ้าเครื่องมันหลวม ผมจะได้ขายให้คนอื่นแล้วเอา semi - syn มาใช้ครับ
ครับต้องถอดหัวเทียนและสายหัวเทียนทุกสูบครับ ส่วนที่จำหน่ายและราคามีหลายที่หลายยี่ห้อ หลายราคา เลยครับ หา Google พิมพ์ คำว่า วัดกำลังอัด ก็ได้ครับ หรือไม่ก็หาในเว็ป สมุดหน้าเหลือง ก็ได้ครับ
แล้วแบบที่ เขียนกราฟลงกระดาษได้เองเลย แพงมากหรือเปล่าครับ แม่นหรือเปล่า แล้วใช้กับรถเปอร์โยได้หรือเปล่าครับ http://www.ows-thailand.com/test.htm ขอบคุณครับ
มารายงานผลครับ ัวันนี้ เข้าศูนย์ไปวัดกำลังอัดของกระบอกสูบมาครับ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจครับ สูบที่ 1 (ด้านคนขับ)------------> ได้ 185 psi สูบที่ 2 --------------------------> ได้ 180 psi สูบที่ 3 -------------------------> ได้ 184 psi สูบที่ 4 (ด้านคนนั่ง)-----------> ได้ 180 psi เครื่อง peugeot 405 GRI 1580 cc (ถ้าจำไม่ผิด) ใช้มาแล้ว 165,000 กิโลเมตร กับเวลา 12 ปีครับ เครื่องฟิตดีครับ ึคงอีกยาวไกล กับคำว่าเปิดฝาสูบเปลี่ยนประเก็น เปลี่ยนแหวน บดวาล์ว