​

จากที่ผ่านมา เราคงจะคุ้นเคยเห็นหน้าจอแสดงผลที่มีพื้นหลังสีฟ้า และแสดงผลด้วยผลึกเหลวสีดำมานาน หลายคนคงสังเกตได้ว่าช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา MoTeC ไม่ค่อยมีอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ออกมาแล้ว อื้อหือ แจ๋ว สุดยอด อยากได้ แต่แพงหรือเปล่า จะซื้อไหวเหรอ

วงการแข่งรถบ้านเรา ของที่ถูกกว่า ทำหน้าที่ได้พอๆ กันมีเกิดขึ้นมาหลายยี่ห้อ ถ้าปลายทางของมัน ผลงานที่เกิดจากการควมคุมและเสถียรภาพจริงก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าใช้
กลับมาต่อ MoTeC เหมือนจะชะงักเรื่องของใหม่ๆ เพราะเกิดจาก
1. เทคโนโลยีของระบบไฟฟ้าบนรถ ที่เราเรียกว่า CAN ยังไม่มีมาตรฐานที่เหมือนกัน อย่างเช่น OBD-II หรือ Serial Port Communication
2. ชั้นเชิง กลยุทธ์ ที่รอให้คู่แข่งทำออกมาให้เต็มที่ แล้ว MoTeC จะเริ่มบันทึกสิ่งที่ขาดหาย ข้อผิดพลาดจากคู่แข่ง แล้วจึงเอาทุกอย่างไปรวบรวมงัดทีเด็ดออกมาทีหลัง คราวนี้ขอใช้ไอเดียตัวเอง แต่ลดจุดบกพร่อง เพิ่มความทันสมัยและการใช้งาน ที่สำคัญ ราคาที่สุด กับ สุด เจอกัน ถูกกว่าเจ้าอื่น ในราคาที่คนทั่วไปสัมผัสได้

สำหรับหน้าจอแสดงผลแบบสี MoTeC ไม่ได้เป็นเจ้าแรก ถ้านับย้อนไป จะมีพวกกล่องของ ญี่ปุ่นที่ปล่อยสัญญาณออกมาเข้าจอทีวี ที่ติดตั้งในรถทั่วๆ ไป เช่น Kenwood, Pioneer แล้วแสดงผลโดยใช้สัญญาณที่เรียกว่า Serial Port (TX, RX) ในการส่งสัญญาณต่างๆ ไปที่จอทีวี ตอนนั้นก็ตื่นตาตื่นใจ แต่ข้อเสียคือจอมันจะมองไม่ชัดในแสงแดด และความละเอียด ตอนนั้นคงเท่า HD ตอนนี้ยาก ทางยุโรป ก็มีบริษัทนึงที่ทำอุปกรณ์ พวกนี้ให้ Rally มานาน จอดูดี ความชัด และการแสดงผลได้ดี แต่ถ้าไม่ได้ถอยเบาะ ถอยพวงมาลัยมาด้านหลังหน่อย เพื่อที่จะกระจายน้ำหนัก หลายๆ ท่านคงไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ง่าย คงต้องขับๆ เหลือก ก้ม เงย ดูข้อมูล เพราะจอเขาทำแบบใหญ่สวยงาม แต่ติดตั้งจริงจะไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไร

ในปัจจุบันรถแข่งก็มีข้อมูลมากมายเพื่อจะแสดงผลให้นักแข่งได้อ่านค่าต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งรูปแบบการแจ้งเตือนที่เพิ่มขึ้น การใช้สีร่วมกับรูปแบบกราฟฟิกในการแสดงผลจะช่วยให้เกิดความแตกต่างของข้อมูลและความสวยงามเพิ่มขึ้นอีกด้วย MoTeC C125 เป็นหน้าจอแสดงผลแบบสี และแสดงผลพร้อมเก็บข้อมูล (Datalog) โดยตัวหน้าจอออกแบบให้มีขนาดกระทัดรัด ขนาด 125 มม. (ประมาณ 5 นิ้ว) ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป พร้อมกับไฟเตือนสถานะการทำงาน (ชิฟไลท์) ทั้งหมด 10 ดวง
การแสดงผลมีความละเอียดสูง และป้องกันแสงสะท้อน เพื่อให้อ่านได้ง่ายในขณะที่มีแสงแดดส่องเข้าโดยตรง รวมทั้งสามารถตั้งค่าความสว่างหรือมืดเพื่อความเหมาะสมช่วงเวลาการใช้งานกลางวันหรือกลางคืนได้ หน้าจอแสดงผลสามารถเลือกรูปแบบกราฟิกต่างๆ ได้หลากหลายรูปแบบ ภายในรูปแบบเหล่านี้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าช่อง และป้ายชื่อเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานได้อีกด้วย

ตั้งค่ากราฟฟิกหน้าจอจากโปรแกรม C125 Manager​

ไฟ LED ทั้ง 10 ดวง มีสีให้ใช้ได้ 8 สี เพื่อความเหมาะสมในการแจ้งเตือนต่างๆ รวมทั้งตั้งค่าแต่ละโปรแกรมการใช้งานรวมทั้งความสว่างได้ด้วย

ตั้งค่าไฟชิฟไลท์จากโปรแกรม C125 Manager​

โดยจอแสดงผล MoTeC C125 สามารถใช้งานร่วมกับกล่อง ECU ใดๆ ก็ได้ ไม่จำกัดเฉพาะกล่องของ MoTeC เพียงอย่างเดียว โดยใช้สัญญาณ CAN Bus ของกล่อง ECU หรือผ่านทางพอร์ต ODB-II ที่มีอยู่ในรถรุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 1998 ขึ้นมา

ฟังค์ชั่นการใช้งานโดยส่วนใหญ่ของ MoTeC C125 จะเหมือนกับ MoTeC CDL3 ต่างกันที่จอแสดงผลแบบสี และเพิ่มฟังค์ชั่นการใช้งานมากขึ้นนั้นเอง

คุณสมบัติพื้นฐาน
แสดงผล
- หน้าจอ: LCD TFT แบบสี พร้อมป้องกันแสงสะท้อน
- ความละเอียด: 800x480px พร้อมลบรอยหยัก
- เลือกรูปแบบช่องการแสดงผลและป้ายชื่อได้
- กำหนดการใช้งานของข้อความแสดงผลได้ 48 รูปแบบ
- 3 หน้าโปรแกรมสำหรับการใช้งาน เช่น ซ้อม, วอร์มอัพ และแข่ง

การเชื่อมต่อข้อมูล
- สัญญาณ CAN Bus 2 ช่อง
- RS232: รับข้อมูลเข้า 2 ช่อง, ส่งข้อมูลออก 2 ช่อง

รูปลักษณ์
- ขนาด 134.5 x 103.9 x 20.2 มม. ไม่รวมปลั้ก
- น้ำหนัก 360 กรัม
- ปลั้ก AMP 34 พิน

สัญญาณเข้า (ตัวเลือกเพิ่มเติม)
- แรงดันไฟอนาล็อก 6 ช่อง
- 0 ถึง 5.46 V จำนวน 4 ช่อง
- 0 ถึง 15.0 V จำนวน 2 ช่อง
- อุณหภูมิอนาล็อก 2 ช่อง
- ดิจิตอล 2 ช่อง
- ความเร็ว 3 ช่อง
- เข้ากันได้กับ E888 และ E816

สัญญาณออก (ตัวเลือกเพิ่มเติม)
- low side 4 ช่อง
- PWM หรือสวิทช์

เก็บค่าการทำงาน (ตัวเลือกเพิ่มเติม)
- หน่วยความจำ 120MB
- เก็บค่าด้วยอัตรา 500 ครั้งต่อวินาที
- ดาวน์โหลดความเร็วสูงผ่านพอร์ตแลน
- ใช้งานร่วมกับซอร์ฟแวร์วิเคราะห์ข้อมูล i2 หรืออัปเกรดสำหรับ i2 Pro

ในปี 2013 เริ่มนับจากเดือนกันยายน เป็นต้นไป คนไทยจะได้เห็นการเปิดตัวของอุปกรณ์ แปลกใหม่ ECU แนวคิดใหม่ จอแสดงผล สี หลายรุ่นมากมาย ที่สำคัญ ถูก ลง อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะ MoTeC เริ่มแบ่งความต้องการในการใช้งาน ของแต่ละ ขั้นลำดับ และผลิตของออกมาที่ MoTeC ใช้คำว่า Target Group ECU (M1) สำหรับ Touring Car, สำหรับ Jetski และสำหรับ Super bike เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้สิ่งที่มีค่ามากกว่า 70% คือซอฟต์แวร์ จะมีขนาดเล็กลง เพราะไม่จำเป็นต้องเขียนให้กล่องใบเดียว รู้จักเครื่องยนต์ หลายร้อยแบบ ค่าเขียนซอฟต์แวร์ จะแพงกว่ามาก เช่นเดียวกับจอสีนี้ซอฟต์แวร์ จะคล้ายๆ กับ CDL3 ก็ลดต้นทุนการเขียนซอฟต์แวร์ได้ ส่วน i2 ตอนนี้กว่า 70% ของทีมแข่งก็ใช้ i2 ที่เป็นซอฟต์แวร์ประมวลผลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

สนใจติดต่อได้ที่ MoTeC ประเทศไทย 082-558-5558 หรือจูนเนอร์ MoTeC ที่คุณรู้จัก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MoTeC > C125 *NEW* > Overview