ทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า อนาคตใหม่ของการขับขี่ยานพาหนะ

หากคุณกำลังคิดที่จะขับรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยรถยนต์ไฟฟ้า คุณอาจสงสัยว่าตัวเลือกของคุณคืออะไร และต้องการคำตอบสำหรับคำถามต่าง ๆ ก่อนที่คุณจะหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทน รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2-3% ของรถยนต์ใหม่บนท้องถนนทั่วโลก และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้ผลิตยังคงแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ ๆ เข้าสู่กระแสหลัก เราได้แยกย่อยตัวเลือกรถยนต์ EV ประเภทต่าง ๆ พร้อมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า คุณลักษณะด้านความปลอดภัย และอื่น ๆ เพื่อให้คุณสามารถเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณทั้งหมด

ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง (EV, BEV, HEV, PHEV, FCEV)
รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการขับขี่ เป็นอนาคตในการขับขี่ที่ใช้ไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิง นอกจากระบบต่าง ๆ แล้ว ภายในยังมีความหรูหราและมีฟังก์ชันการใช้งานครบ คุณยังสามารถรับชมการแข่งขันกีฬา หรือดูหนังฟังเพลงในขณะขับรถได้เช่นเดียวกัน รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นด้วยคำอธิบายตัวย่อที่ใช้อธิบายรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ดังนี้

EV
EV หรือ Electric Vehicle เป็นคำศัพท์ทั่วไปสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้รับพลังงานทั้งหมดจากมอเตอร์ที่ใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จด้วยไฟฟ้า อีกประเภทหนึ่งคือรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง หรือ FCEV ที่ใช้ไฮโดรเจนอัด รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนมีจำกัด และส่วนใหญ่มีจำหน่ายในบางพื้นที่เท่านั้น เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่จำกัดสำหรับบุคคลทั่วไป

BEV
BEV หรือ Battery-powered Electric Vehicle เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่เฉพาะมอเตอร์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ในการขับเคลื่อน เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ภายในแบบดั้งเดิมและไม่ใช้น้ำมันเบนซิน ดังนั้น BEV จึงไม่ปล่อยไอเสียจากท่อไอเสีย BEV ก็เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) โดยทั่วไป แต่คำว่า BEV ไม่ได้ใช้บ่อยเท่ากับ EV

HEV
HEV ย่อมาจากคำว่า Hybrid Electric Vehicle เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดที่ทำงานด้วยเครื่องยนต์ภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ระบบไฮบริดใช้การเบรกแบบสร้างใหม่เพื่อเก็บพลังงานที่สร้างขึ้นเมื่อชะลอรถเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ รถยนต์ HEV ขึ้นชื่อในเรื่องความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากการพึ่งพาพลังงานแบตเตอรี่ช่วยลดปริมาณก๊าซที่เครื่องยนต์ภายในใช้

PHEV
PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle เป็นปลั๊กอินไฮบริดที่เสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และยังมีเครื่องยนต์เบนซินบนรถที่สามารถจ่ายไฟให้กับรถยนต์ได้เมื่อแบตเตอรี่หมด รถ PHEV บางรุ่นสามารถเดินทางได้ในระยะไกลด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

MHEV
เป้าหมายของรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดอ่อน MHEV หรือ Mild-Hybrid Electric Vehicle คือการลดภาระของเครื่องยนต์ภายใน ปรับปรุงระยะการใช้น้ำมันของรถ MHEV อาจใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดพอเหมาะ ชุดแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และระบบเบรกที่สร้างใหม่เพื่อลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ไฮบริดอ่อน หมายถึง ไฟฟ้าช่วย ไม่ใช่พลังงานไฟฟ้า ไฮบริดแบบอ่อนสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่ารถยนต์รุ่นเดียวกันถึง 20% โดยไม่ต้องใช้ระบบส่งกำลังประเภทนี้

ช่วงการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้า
ช่วงการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่ผู้ซื้ออาจรู้สึกในขณะที่ตัดสินใจเลิกใช้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบเดิม แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันจะสามารถรองรับการขับขี่ในแต่ละวันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะขับทางไกล หรือขับเพื่อการแข่งขันทางกีฬา แต่ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงปรับปรุงความจุและเวลาในการชาร์จอย่างต่อเนื่อง

• รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากสามารถเดินทางได้ไกลกว่า 300 กิโลเมตรเมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม และรุ่นที่ทันสมัยที่สุดสามารถวิ่งได้ประมาณ 600 กิโลเมตรระหว่างการชาร์จแต่ละครั้ง ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าระยะไกลและระยะสั้นสามารถทำงานได้ดีในการสตาร์ทและหยุดการขับขี่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
• รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานแบตเตอรี่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่ความเร็วคงที่บนทางหลวงเมื่อใช้เพื่อการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้น
• อากาศร้อนและอุณหภูมิเย็นช่วยลดช่วงการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากการใช้เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน

เลือกรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หรือรถยนต์ไฮบริด
การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้ามีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดหรือแบบปลั๊กอินไฮบริด สำหรับมือใหม่ รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันมีต้นทุนเชื้อเพลิงโดยรวมที่ต่ำกว่า รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบมักมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า เนื่องจากมีส่วนประกอบน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้แก๊ส รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือปรับแต่ง โดยทั่วไปแล้วจะใช้เฉพาะการสลับยางและที่ปัดน้ำฝนเท่านั้น รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบไม่จำเป็นต้องหยุดรถที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมัน เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ที่บ้านได้เมื่อไม่ใช้งาน

รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สร้างสมดุลระหว่างยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความยืดหยุ่นในทุกที่ ผู้สัญจรไปมาส่วนใหญ่สามารถขับรถไปกลับจากที่ทำงานโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ในขณะที่เครื่องยนต์แก๊สสำรองไว้เพื่อรอการเดินทางบนท้องถนนที่ยาวนานกว่า เมื่อชาร์จแล้ว ชุดแบตเตอรี่ของรถ PHEV จะจ่ายไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อแบตเตอรี่หมดลง เครื่องยนต์แก๊สก็จะเริ่มทำงานอย่างราบรื่น จากนั้นรถจะสลับระหว่างน้ำมันเบนซินและไฟฟ้าตามความจำเป็น ระบบเบรกที่สร้างใหม่ของรถจะจับพลังงานที่สูญเสียไปเมื่อขับหรือชะลอความเร็วและป้อนเข้าสู่แบตเตอรี่ ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาเครื่องยนต์แก๊สลงได้อีก

คุณลักษณะด้านความปลอดภัยของรถยนต์ไฟฟ้า

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ซึ่งจะเร่งความเร็วของรถในขณะที่การจราจรข้างหน้าช้าลง และเพิ่มความเร็วตามสภาพการจราจร
• การตรวจสอบจุดบอดพร้อมระบบเตือนการข้ามถนนด้านหลัง ซึ่งจะตรวจจับยานพาหนะในเลนที่อยู่ติดกันและเตือนวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถของคุณหรือข้ามด้านหลังในขณะที่กำลังขับขี่
• การเตือนการชนด้านหน้าพร้อมการเบรกฉุกเฉิน ซึ่งจะตรวจจับการชนที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อรถของคุณอยู่ในระยะห่างกับรถหรือวัตถุอื่นที่อยู่ข้างหน้า สามารถใช้เบรกโดยอัตโนมัติหากคุณไม่ตอบสนองต่อเสียงเตือน
• การเตือนการออกนอกเลน จะแจ้งเตือนเมื่อรู้สึกว่ารถกำลังออกนอกเลน
• ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ดันรถกลับเข้าเลนเมื่อคนขับไม่ตอบสนองต่อคำเตือนการออกนอกเลน
• ระบบช่วยตั้งศูนย์เลน ทำหน้าที่เพื่อให้รถอยู่ตรงกลางเลนเพื่อเป็นเทคโนโลยีร่วมในการเตือนการออกจากเลนและระบบช่วยในการรักษาเลน
• การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ด้านหลัง จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถของคุณและเหยียบเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทก
• ระบบกล้องรอบทิศทาง 360 องศา มีชุดเลนส์ที่วางอยู่รอบ ๆ รถเพื่อให้มองเห็นได้รอบด้านเพื่อช่วยในการจอดรถ
• เทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติ ตรวจจับไฟด้านหน้ารถและปิดไฟสูงเมื่อระบบตรวจจับระยะห่างระหว่างรถคันหนึ่งกับอีกคัน

การขับรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้อันตรายไปกว่าการใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแก๊สแบบเดิม ๆ รถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างใหม่ในกระแสหลัก แต่คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัยเป็นตัวเลือกมาตรฐานหรือมีให้เลือกสำหรับรุ่นส่วนใหญ่ ราคาไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงระดับของเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่รถยนต์ไฟฟ้าบรรจุอยู่ คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานที่รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันต้องมี