ลองกดเข้าไปฟังก็ได้ครับ รถ B14 ปี 95 ครับผม มันมีเสียงแหลมๆ จี๊ดๆ หลังจากสตาร์ทเครื่องครับ ยิ่งเวลาเร่งเครื่องยิ่งดัง แต่พอขับไปสักพัก เสียงจะหายไปครับ (เหมือนเป็นเฉพาะช่วง 1-2 นาที ตอนสตาร์ทรถ) อยากทราบว่ามันเป็นปัญหาเกี่ยวกับอะไรครับผม ส่วนอาการร่วมอื่นๆ ตอนนี้คือ มีน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักหายเยอะ ครับ เติมทุก 2-3 วัน รวมครึ่งลิตรได้ครับ แล้ว มีตะกอนคล้ายๆ สีสนิม ตรงฝาหม้อน้ำ กับคราบน้ำมันลอยๆ บนน้ำ ด้วยครับ คลิปครับ [video=youtube;994M8NA0P-I]http://www.youtube.com/watch?v=994M8NA0P-I[/video] ขอบคุณมากครับ
สงสัยสายพาน ตึง หย่อน ไม่พอดีล่ะครับ ส่วนอาการมีคราบน้ำมันในหม้อน้ำ ก็แสดงว่ามีการรั่วในระบบน้ำหล่อเย็น กับ ลูกสูบ ที่ผมเคยเป็นแล้วลองแก้ไขดู ก้อใช้ผงอุดหม้อน้ำ (เครื่องผมฝาสูบยังไม่รั่ว ช่างเช็คโดยเอาขวดน้ำเต็มคว่ำที่หม้อน้ำเพื่อดูว่ามีฟองอากาศรั่งหรือไม่ โดยทำตอนที่เครื่องร้อนแล้ว) ละลายน้ำใส่หม้อน้าเพื่ออุดรอยรั่ว ของผมช่วยให้ดีขึ้น เติมน้ำน้อยลงแต่ก็ยังเติมอยู่
เรื่องเสียงคงต้องเดาเอา พรุ่งนี้ลองใหม่ขณะมีเสียงดังจิ๊ดๆ หาโซแนคฉีดที่สายพานหากเงียบลง ปัญหาคงมาจากสาบพาน หากไม่เงียบก็อาจจะเป็นที่ลูกปืนคอมแอร์,ลูกปืนรอกดันสายพานหรือพูลเลย์หน้าเครื่องเรื่มจะคิดถึงญี่ปุ่น
อาการ ไม่น่าจะหนักมากใช่มั้ยครับ พรุ่งนี้ผมว่าจะไปพบช่างสักรอบครับผม ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะนำมากเลยครับทุกท่าน
หยอดน้ำที่สายพานดูครับ ถ้าหายก็สายพาน แต่ถ้าไม่หาย ผมขอใช้สิทธิ์เดาว่า คงจะเป็นพวกลูกรอก ที่จารบีเริ่มแห้งแล้ว
สรุปเรื่องเสียง ช่างบอกว่าน่าจะเกี่ยวกับคอมแอร์ ครับ เพราะปิดแอร์แล้วมันเงียบ ผมเลยยังไม่ทำ ไปสนใจเรื่องน้ำหายก่อนครับ หม้อต้มมันดันเป็นน้ำแข็ง ช่างบอกน่าจะเกี่ยวกับระบบน้ำ ก็โดนไสฝาสูบ เปลี่ยนปั๊มน้ำ เปลี่ยนฝาหม้อน้ำ รวมๆ แล้ว 3,500.- บาทถ้วนครับ รวมค่าแรง เรื่องเสียงพักไว้แปปนึงก่อนครับ
ระวังนะครับ เรื่องคอมแอร์ ถ้าเป็นลูกปืนคอมแอร์ แล้วลูกปืนแตก คอมแอร์น็อค คราวนี้เสียเยอะนะครับ กรณีเปลี่ยนคอมแอร์ก่อนน็อค - เปลี่ยนคอมแอร์ - อาจจะเปลี่ยนวาล์วแอร์ (Expansion valve) ที่ตู้แอร์ หรือไม่เปลี่ยนก็ได้ - อาจจะเปลี่ยน ไดเออร์ (กรองน้ำยาแอร์) ประมาณ 900- 1000 แต่พอยื้อไม่เปลี่ยนได้ - แวคระบบให้เป็นสูญญากาศ - เติมน้ำยาแอร์ กรณีคอมแอร์น็อค นอกเหนือจากรายการข้างบนก็เป็น - วาล์วแอร์ ต้องเปลี่ยนแน่นอน - ไดเออร์ ต้องเปลี่ยนแน่นอน - น้ายาล้างระบบแอร์ เพื่อล้างเศษโลหะที่มาจากคอมแอร์ที่น็อค - ล้างระบบแอร์ ทั้งหมด - ถ้าโชคร้าย สายพานแอร์ขาดด้วย ก็ต้องซื้อใหม่ ประมาณ 2-300 มังครับ จะเห็นว่าถ้าปล่อยจนคอมแอร์น็อค เพิ่มเงินอีกหลายนะครับ อย่านิ่งนอนใจนะครับ หมั่นฟังเสียงสังเกตุบ่อยๆ
ผมอยู่ในซอยวัดลาดปลาดุก ลึกอยู่ ก็มีร้านแอร์ที่ให้ดูแลอยู่(แต่ผมก็ประเมินการแก้ปัญหาของช่างแอร์ทุกครั้ง) คงไกลจากย่านที่คุณอยู่เลยแนะนำไม่ถูกครับ สำหรับที่ซ่อมไสฝาสูบมาและเปลี่ยนฝาหม้อน้ำ ลองดูฝาหม้อน้ำด้วยนะครับ ผมเคยซื้อจากร้านอะไหล่ 65 บาท ปรากฎเก็บแรงดันไม่ได้ เพราะแกนฝาหม้อน้ำคลอนได้ต้องเอาซีเมนต์เหล็กปะฝาหม้อน้ำ ไม่งั้นเดี๋ยวจะความร้อนขึ้นอีก เพราะน้ำรั่วออกทางแกนฝาหม้อน้ำ
ฝากตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นที่คอมแอร์หรือที่อื่น ผมเองเคยมีเหตุที่ต้องจำไม่รู้ลืมมาแล้ว เริ่มจากเสียงอี๊ดๆอยู่สองสามวัน ใช้ต่อไปก็เงียบ จนกระทั่งมีเสียงดังแรงขึ้นและเหม็นกลี่นไหม้ จอดรถข้างทางเปิดฝากระโปรงดูมีควันขึ้นตรงบริเวณคอมแอร์ เอาละวะคอมแอร์นอ็คแหงๆ ปิดแอร์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเงียบสนิท ไปร้านแอร์ ก็บอกค่าใช้จ่ายจนหน้ามืด เลยขอกลับไปตั้งหลัก หาร้านพวกกันก็บอกว่างั้นหาของมาเองให้ร้านทำให้ มีคอมแอร์,ดรายเออร์และวาล์วที่ตู้แอร์ หมดไปประมาณสี่พัน กลับมาเปลี่ยนเสร็จสรรพ ปรากฏว่าเหมือนเดิมควันขึ้นโขมงคอมแอร์ไม่ค่อยหมุน เสร็จเลยตรู ต้นตอปัญหาอยูู่ที่พูลเลย์หน้าเครื่องหมดสภาพแยกตัวจากกัน เลยกลับไปหาซื้อมาเปลี่ยนใหม่ ก็ใช้ได้ตามปกติ หมดค่าแรงค่าน้ำยาค่าของไปราวๆเจ็ดพัน ทั้งๆที่พูลเลย์หน้าเครื่องราคาแปดร้อยเอง ครับ
ถ้าเป็ยมู่เล่ย์หน้าเครื่อง หมดสภาพ น่าจะดูได้จากตอนสตาณืทเครื่องแล้วเกิดเสียง ตัวมู่เล่ย์น่าจะมีการสั่นคลอนให้สังเกตุได้ อาจเป็นอีกสาเหตุที่ต้องดูละครับ
ตัว พูลเลย์หน้าเครื่อง นี่ต้องช่างแอร์หรือช่างเครื่องดูหรอครับพี่ ไปร้านแอร์แล้วให้ช่างแอร์เช็คก่อนเลยนี่ เค้าจะรู้ไหมครับ
ผมว่่าเราต้องหาต้นเหตุให้เจอก่อน เช่นเรืื่องเสียง ดังที่ไหน ดังตอนไหน เคยเห็นช่างเขาหาจุดที่ดังโดยขณะที่มีเสียงดังใช้สายยางน้ำประปาไปแหย่ตามจุดที่น่าสงสัย(ปลายข้างหนึ่งใช้หูฟังอีกข้างหนึ่งแหย่ตามจุดต้องสงสัย) เมื่อได้จุดที่แท้จริงก็แก้ไปตามอาการ ส่วนเรื่องแอร์ไม่เย็นก็มีโอกาสเป็นไปได้หลายอย่าง เช่นปริมาณน้ำยาแอร์ มีจุดรั่วซึมของน้ำยาแอร์ คอมเพรสเซอร์ ดรายเออร์ วาล์วตู้แอร์ แม้กระทั่งสวิทช์ปิดเปิดและปรับระดับความเร็วพัดลมเสื่ือมสภาพ ซึ่งยังไงก็คงไม่พ้นให้ช่างเฉพาะทางตรวจสอบให้ หากได้พบช่างที่มีน้ำใจก็สบายใจสบายตัวไป หากไม่เจอก็ต้องเจ็บช้ำ ลองค่อยๆหาสาเหตุในเบื้องต้นให้เจอได้บ้างก็ดีครับ
ผมว่่าเราต้องหาต้นเหตุให้เจอก่อน เช่นเรืื่องเสียง ดังที่ไหน ดังตอนไหน เคยเห็นช่างเขาหาจุดที่ดังโดยขณะที่มีเสียงดังใช้สายยางน้ำประปาไปแหย่ตามจุดที่น่าสงสัย(ปลายข้างหนึ่งใช้หูฟังอีกข้างหนึ่งแหย่ตามจุดต้องสงสัย) เมื่อได้จุดที่แท้จริงก็แก้ไปตามอาการ ส่วนเรื่องแอร์ไม่เย็นก็มีโอกาสเป็นไปได้หลายอย่าง เช่นปริมาณน้ำยาแอร์ มีจุดรั่วซึมของน้ำยาแอร์ คอมเพรสเซอร์ ดรายเออร์ วาล์วตู้แอร์ แม้กระทั่งสวิทช์ปิดเปิดและปรับระดับความเร็วพัดลมเสื่ือมสภาพ ซึ่งยังไงก็คงไม่พ้นให้ช่างเฉพาะทางตรวจสอบให้ หากได้พบช่างที่มีน้ำใจก็สบายใจสบายตัวไป หากไม่เจอก็ต้องเจ็บช้ำ ลองค่อยๆหาสาเหตุในเบื้องต้นให้เจอได้บ้างก็ดีครับ
