กลับมาอีกครั้ง กับการ Review โช๊คนะครับ พอดีตอนนี้มี TEIN Type Flex อยู่ที่ท้ายรถ 1 ชุด ก่อนที่จะจัดส่งให้ลูกค้า เลยคิดว่าน่าจะเอามา Review ให้ สมาชิก EK Group ได้ทราบว่าโช๊คชุดนี้ มันเป็นยังไง แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่สมาชิก ก็เข้ามาดูได้เช่นกันครับ ความรู้และสิ่งดี ๆ สำหรับที่นี่มีไว้แบ่งปันกันอยู่แล้ว แต่ขอเหอะ...อย่าทำตัวเป็นศิษย์ล้างครู หรืออย่าทำตัวเนรคุณ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา
บ่นกับพวกปลิงมาเยอะ เสียอารมณ์ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ต้องออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมเองไม่เคยได้ใช้ Flex จริง ๆ จัง ๆ สักเท่าไหร่ ส่วนมากจะเคยขับจากรถของ Jack และของพี่โส แล้วก็ยังไม่เคยได้ลองใช้ เต็ม ๆ ในสนามเลย ข้อมูลที่จะนำมาเสนอ คงเป็นข้อมูลในเชิงการใช้งาน ทั่วไป รวมถึงข้อมูลจากรูปลักษณ์ภายนอกซะมากกว่านะครับ จากรูปนะครับ วัสดุที่นำมาผลิต Flex ตัวกระบอกโช๊คผลิตจากอลูมีเนียม ชุบ ดำมาถือว่าสวยงาม ตัวล็อคสตรัทก็ผลิตมาจากอลูมีเนียมเช่นกัน ชุบสีเขียว พร้อมพิมพ์ยี่ห้อ TEIN ไว้ให้รู้ว่าเป็นของแท้แน่นอน
ตัวล็อคสตรัท และตัวล็อคกระบอก หน้าตาเหมือนกันครับ มีมาให้ทั้งหมด 3 ตัว สามารถใช้แทนกันได้ สำหรับ Type Flex นี้ถือว่าเป็นโช๊คที่มาสารถปรับสูงต่ำ ได้ทั้ง 2 วิธีนะครับ คือขันที่ตัวดันสปริง หรือจะสไลด์กระบอกก็ได้ ข้อดีของโช๊ค ที่สไลด์กระบอกได้คือคือ ค่า Pre Load ของสปริงไม่เปลี่ยน ไม่ต้องออกแรงขันที่ตัวล็อคสปริง เพราะแรงสปริงมันรั้งอยู่ ขันยาก และฝืดมาก แต่ใช้วิธีสไลด์กระบอกจะง่ายกว่า ขันง่าย ๆ ลื่น ๆ แค่ถอดล้อออกมาอย่างเดียว มันมีเทคนิค วิธีการสไลด์ง่าย ๆ แต่อธิบายค่อนข้าง งง ถ้ามีเวลาจะถ่ายรูปลงมาให้ดูอีกทีครับ
ข้อดีอีกข้อนึง ของ TEIN ที่ผมค่อนข้างจะชอบ ก็คือ TEIN จะเน้นรายละเอียด เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นอย่างดี อะไหล่ของ TEIN ทุกชิ้นจะตีตรายี่ห้อไว้หมด แม้แต่ ยางกันฝุ่น หรือแหวนพลาสติกรองสปริง ก็จะมียี่ห้อบอกไว้ สำหรับคนที่กำลังมอง หาโช๊คยี่ห้อนี้ ก่อนที่จะจ่ายเงินไป ลองตรวจเช็คอะไหล่จุกจิกพวกนี้ด้วยนะครับ จะได้ไม่โดนยำของ Type Flex จะมีแหวนพลาสติกรองสปริงมาให้ด้วยครับ แหวนตัวนี้มีประโยชน์ คือป้องกันเสียงดังรำคาญ จากการเสียดสีของสปริง และแหวนล็อค ผมสังเกตุ ดูยี่ห้ออื่น ๆ ไม่ค่อยจะมีแหวนแบบนี้มาให้ ทำให้เวลาขับอาจจะมีเสียงดังจิ๊ก ๆ น่ารำคาญ แต่ TEIN ใส่ใจในรายละเอียดตรงนี้ เลยมีมาให้ด้วย ผมล่ะชอบจริง
สปริงมาตรฐานของ Flex ที่มาจกาโรงงานจะเซ็ทค่าไว้ข้างหน้า 9K และข้างหลัง 5 K ครับ วิธีดูค่า K ของยี่ห้อ TEIN ก็ดูตามรูปเลยก็แล้วกัน ตัวอักษรที่เขียนว่า W090 ตัว 090 ก็หมายความว่าสปริงตัวนี้มีค่า K เท่ากับ 9 กิโลกรัม/มิลลิเมตร แต่สำหรับผู้ที่ต้องการให้โช๊คแน่น และแข็งกว่านี้โดยส่วนตัวผมคิดว่าสามารถเซ็ทค่าสปริงให้แข็งกว่านี้ก็ได้ครับ ส่วนผู้ที่เน้นใช้งานแบบปกติทั่วไป ค่านี้ถือว่าแม็ตกับการใช้งานแบบ Street Use มาก ๆ ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ สปริงของ TEIN รุ่นต่าง ๆ อย่าง HA, RA, Flex, Mono Flex, Super Street สปริงของแต่ละรุ่นมีค่า K และความสูงที่แตกต่างกัน แต่สามารถใช้ ร่วมกันได้ บางทีโช๊คที่ได้มาอาจจะโดนสลับสปริงมา ต้องดูให้ดู และหาข้อมูล ก่อนจะซื้อด้วยนะครับ เพราะถ้าได้สปริงไม่ตรงรุ่นมา Feeling การใช้งานก็ จะเปลี่ยนไป แต่ถามว่ามีปัญหาระยะยาวหรือป่าว ก็ต้องบอกว่าไม่มีปัญหา แต่ มันไม่สมบูรณ์ตรงรุ่น 100 เปอร์เซนต์ครับ
การปรับนืด จะปรับที่หัวโช๊คครับ ตัวปรับจะเป็นตัวหมุน สามารถถอดได้ โดยใช้ประแจเบอร์ 8 ขันออกมา ตรงนี้ของ TEIN จะมีปัญหาบ่อย คือ ปรับยาก ฝืด วิธีแก้ก็คือถอดออดมา แล้วใช้น้ำมัน WD-40 หรือ Sonax ฉีดที่หัวปรับ รวมทั้งตัวปรับที่อยู่ด้านในแกนโช๊คด้วย Type Flex สามารถปรับหนืดได้ทั้งหมด 32 ระดับครับ ถือว่าเป็นโช๊ค ที่มีช่วงการใช้งานกว้างพอสมควร เมื่อปรับอ่อน ๆ นุ่ม ๆ ขับใช้งานทั่วไป สบาย ๆ ไม่กระด้าง นุ่ม ๆ หนึบ ๆ แต่เมื่อปรับแข็ง จะมีอาการกระด้าง นิด ๆ เมื่อวิ่งบนถนนปูนจะค่อนข้างรู้สึกถึงรอบต่อถนนได้นิดหน่อย แต่ไม่ ออกอาการจนจุก ถือเป็นเอกลักษณ์ของ TEIN อยู่แล้วครับ ต้องมีติดอาการณ์ กระด้างนิด ๆ ดิบ ๆ หน่อย ๆ ถึงจะมัน หัวของ Flex สามารถต่อกับ EDFC ได้โดยการถอดตัวปรับด้วยมืออก โดย การใช้ประแจเบอร์ 8 ตามที่บอกไป แล้วใส่ EDFC เข้าไปแทนได้เลยครับ แต่ต้องเลือก EDFC ให้ตรงรุ่นด้วยนะครับ เพราะ EDFC จะมีสองแบบคือแบบหัวเบอร์ 8 และเบอร์ 10 ครับ
หัว Ball Joint ที่ติดมากับโช๊คชุดนี้ เป็นของ TEIN HA ครับ แต่เอามาใส่กับ Flex ได้ ไม่มีปัญหา จริง ๆ แล้วของตรงรุ่นของ Flex ก็หน้าตาคล้าย ๆ กันแต่จะเป็นมีเขียว และหนามากกว่านิดนึงเท่านั้นเอง วิธีเช็คว่า Ball Joint เสื่อมสภาพหรือยังก็ต้องถอดหัวออกมา แล้วดูที่ Bearing ด้านใน เอามือขยับต้องหนืด ๆ ถ้าหมุนลื่น ๆ คล่อง ๆ นั้นเตรียมตัวเสียตังค์ซ่อม ได้เลยครับ ต้องขยับขึ้นลง ไม่ได้ หมุนซ้าย หมุนขวาได้ แต่ต้องฝืด
เมื่อประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกัน หน้าตาก็จะเป็นประมาณนี้ครับ น่าใช้ ดูดี ไม่น้อยหน้ายี่ห้ออื่น เสียอย่างเดียวทำไม TEIN ไม่ทำเบ้ามาเป็นอลูมีเนียม ก็ไม่รู้ ตัวที่เป็นอลูมีเนียมทั้งตัวก็เป็น Mono Flex ซึ่งราคาก็โดดไปมาก ตามสูตรครับ ขันสปริงไปจนชน แล้วขันแหวนล็อคขึ้นไป 5 มิล ค่า Pre Load จะได้ไม่แข็งมาก ความเห็นส่วนตัว และบทสรุป สำหรับชั่วโมงนี้คงไม่มีกระแสโช๊คยี่ห้อไหนมาแรงเท่ากับ TEIN แล้วครับ เพราะเท่าที่รู้ศูนย์ซ่อม TEIN ตอนนี้ก็มีไม่ต่ำกว่า 3 - 4 แห่ง และราคา ขายต่อไม่ตกมาก เรียกได้ว่าซื้อง่าย ขายคล่อง อะไหล่ และ Accessories มีเพียบ สำหรับคนที่ต้องการสมรรถนะ ชนิดที่ว่าโช๊คชุดเดียว ไปได้ทุกที่ผมว่า TEIN Type Flex สามารถตอบโจทย์ได้ ไม่ว่าคุณจะขับรถใช้งานทุกวัน ใน กทม หรือออก ตจว โช๊คชุดนี้ให้ความมั่นใจได้ในทุกระดับความเร็ว ส่วนสมรรถนะ ในโค้งเท่าที่เคยลองมาอาจจะเป็นรองรุ่นอื่น ๆ อยู่บ้าง ไม่ก็ ไม่ถึงกับน่าเกียจ ถือว่าเป็นโช๊คสารพัดประโยชน์เลยก็ว่าได้ เนื่องมากมีช่วง การปรับใช้งานที่กว้าง เซ็ทนุ่ม ๆ ขับในเมืองสบาย ๆ ถ้าอยากซิ่งหน่อยก็ ปรับแข็ง ๆ ขึ้นไป อาจจะมีอาการกระเด้ง กระด้างเก็บขอบปูนนิด เป็นนิสัย ของโช๊คยี่ห้อนี้อยู่แล้ว Review การใช้งานแบบเน้น ๆ หรือใน Circuit รอฟังจาก User ท่านอื่น ๆ ที่เอาไปวิ่งในงาน Track Day ที่ผ่านมาดีกว่าครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ และขอบคุณ EK Group รวมถึง RCW สำหรับพื้นที่ดี ๆ แห่งนี้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ นึกว่าเราเห็น สัมภเวสี คนเดียวซะอีก555 ---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 13:51:19 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 13:51:04 ---------- ขอบคุณครับ นึกว่าเราเห็น สัมภเวสี คนเดียวซะอีก555
แหล่มเลยจิงๆ ที่นี้ก็ถึงตาคนใช้ FLEX จิงๆมาบ้างและ มาแชร์ความคิดเห็นกันให้ฟังหน่อยครับ ---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 15:30:53 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 15:30:37 ---------- แหล่มเลยจิงๆ ที่นี้ก็ถึงตาคนใช้ FLEX จิงๆมาบ้างและ มาแชร์ความคิดเห็นกันให้ฟังหน่อยครับ
Flex ปรับได้ 16 ระดับครับ แต่ถ้าใช้ร่วมกับ EDFC สามารถปรับได้ถึง 32 ระดับ (ระดับที่เพิ่มมา ก็คือ ครึ่งกิ๊ก ที่มือหมุนปรับไม่ได้อ่ะครับ) จากที่ใช้มาไม่กี่ยี่ห้อ ทำให้ ไม่มีประสบการณ์มากนัก แต่ที่ชอบในเฟล็ค ก็คือ เป็นโช๊คซิ่ง ที่ใช้งานได้ทุกวัน แล้วคนขับ คนนั่ง ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ฟีลที่ได้ ค่อนข้างมั่นใจ แม้ปรับแข็งสุด ก็ยังไม่แข็งถึงขนาด กระแทก แต่นิ่มสุด ก็ไม่นิ่มเท่า SS และที่แตกต่างจาก โอลิน ที่ได้นั่งรถโอ๊ต ชัด ๆ ก็คือ ปรับแข็ง ๆ จังหวะ ปลายสุดก่อนรีบาว ตัว โอลิน จะ ค่อนข้างนุ่มนวลกว่า และค่อนข้างนิ่ง รอยต่อคอนกรีต เก็บได้เนียนมาก แต่ตัวเฟล็ค จะสามารถรับรู้รอยต่อได้ แต่ก็ไม่มาก จนคนแก่นั่งไม่ได้ สำหรับคนที่จับอาการรถไม่เก่ง จะดีกว่า ตรงที่ รถไม่นิ่งมาก จนสบายใจ สรุปคือ ยังไม่เปลี่ยน ไปอีกนานครับ เพราะเมียไม่บ่น แม่ไม่ด่า พ่อตานั่งได้
ของมือสอง พร้อมหัว Ball Joint ราคาก็ตามสภาพครับ เพราะอะไรที่สวย ราคาก็แพง เหมือนที่ไปยืนชี้ตามหน้าตู้นั่นแหล่ะ 555+ ราคากลาง ๆ ก็เริ่มตั้งแต่ 28000 - 32000 บาท ตามสภาพ ไม่ค่อยเจอถูก หรือแพงกว่านี้สักเท่าไหร่ ถ้ามีชุด EDFC ติดมาด้วยก็บวกเพิ่มไปอีก 5 - 6 พัน สำหรับของมือสองครับ
รายละเอียด ในรายละเอียด ออกรส ออกชาติ ดีครับ " ผมว่าจะกลายเป็น ซี่รีย์ ยอดฮิต" กับเรื่อง โช๊ค โช๊ค ตอนนี้ คนจะตาม ซี่รีย์ตอนต่อไปกันนะครับ อย่าลึม สต๊อค ซี่รีย์ ไว้เยอะ ๆ นะครับ หนุก หนาน ........... และ สาระ คละ เคล้า กันไป.............กู๊ด + อ้างถึง ตอบกลับ