อยากรู้ว่า Tein Type Flex กับ Mono Flex แข็งกว่ากันมากไหมครับ แล้วถ้า Mono Flex กับ Ohlins DFV ละครับ อันไหนเกาะกว่ากัน อยากได้แบบไม่แข็งขนาด Flex แต่ เกาะกว่า Flex ใช้งานทั่วไปวิ่งบนถนนนอกเมืองบ้าง ขอบคุณครับ
Type Flex เป็นแบบ Twin tube ส่วน Mono Flex ก็ตามชื่องับ เป็นโช๊คแบบ Mono Tube ซึ่งโช๊คคุณภาพดีๆ หลายยี่ห้อจะเป็น Mono Tube เสียส่วนใหญ่ ซึ่งห้องโช๊คนั้นมีเนื้อที่มากกว่า วาลว์ในกระบอกโช๊คก็ขนาดใหญ่ขึ้น ปริมาณน้ำมัน/แก๊ส ในกระบอก ก็มากขึ้นตาม การรีดน้ำมันจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ช่วงล่างแน่น หนึบขึ้นงับ โดยส่วนตัวยังไม่เคยใช้โช๊คทั้ง 2 รุ่นนี้นะครับ ใช้แค่ type HA เลยไม่กล้าฟันธงว่า อันไหนแข็งกว่ากัน บอกได้แต่ว่า อยู่ที่เราปรับหนืด และค่า K ของสปริง อ่ะครับ ส่วนการเปรียบเทียบกับ Ohlins นั้น ผม ขอ งด ออกความเห็น ไม่ทราบข้อมูลงับ
ลองอ่านกระทู้พวกนี้เป็นแนวทางดูครับ ผมว่าค่อนข้างละเอียดประกอบการตัดสินใจได้ http://www.mitsusport.com/forum2/index.php?topic=189.0 http://www.mitsusport.com/forum2/index.php?topic=4381.0 ขอบคุณ อาจารย์ตุ๋ย และพี่ๆในmitsusport.com ครับ
HA กับ Flex เปรีัยบเทียบให้หน่อยครับ ตอนนี้ใช้ HA อยู่ครับ ก็พอใจแล้ว แต่เหมือนจะเสื่อมเลยจะเปลี่ยนลองดูอย่างอื่นบ้างอะ
จากประสบการณ์ที่ใช้ทั้ง flex และ HA โดยส่วนตัว ผมบอกได้เลยว่า ผมชอบ HA อ่ะครับ ถึงแม้ว่า HA จะเป็นโช๊ครุ่นเก่า แต่สมรรถนะในความเกาะถนนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการเซ็ทอัพของแต่ละอู่อะครับ ข้อดีของ flex คงน่าจะเป็นหัวจ๊อทย์ที่สามารถติดตั้งชุดปรับหนืดอัตโนมัติและปรับองศาแคมเบอร์ได้ และเป็นรุ่นใหม่กว่าอ่ะครับ
เรื่องความกระด้างถ้าวัดกัน Mono Tube กับ Twin Tube นั้น Twin Tube จะรู้สึกแข็งกระด้างกว่า ถ้าเทียบ TEIN กับ OHLINS อันนี้ทาง tein เสียเปรียบในเรื่องวัสดุเพราะเป็นเหล็ก ส่วน ohlins เป็นอลูมิเนียม อันนี้เป็นบทความจาก S9 ครับ พูดถึงระบบ Mono Tube เอาไว้ ********************************************************************************************************** suspension ระบบ Mono-Tube ดียังไงครับ เรามารู้จักกันครับ จะได้เข้าใจไปในทางเดียวกัน ว่าสาเหตุใดทำไหม ระบบ Mono-Tube มันจึงทำให้รถเกาะถนนดีกว่าและนิ่มกว่า ผมจะเริ่ม จากรูปภาพแสดงระบบกลไกลภายในก่อนเลยจะได้เข้าใจง่ายขึ้น รูปเดียวเข้าใจง่ายครับ เรามาดูรายละเอียดและดูรูปตามจะเข้าใจการทำงานของ suspension ระบบMONOTUBE ว่าดีกว่าและแตกต้างยังไงจาก ระบบ TWIN TUBE ลูกสูบของระบบ MONO TUBE ใหญ่กว่าTWIN TUBE ทำให้ความจุน้ำมันในในกระบอกมีปริมาณมากกว่า ไหลผ่านได้ง่ายโดยไม่เกิดแรงดันสูงเกินไป เมื่อเกิดการกระแทกก็เปิดได้ไวและปิดได้ไว ทำให้ขับขี่นิ่มนวล ลดอาการกระด้างลงได้มากครับ ระบบ MONOTUBE เมื่อดูที่ห้องน้ำมันที่เป็นสีเหลือง จะมีพื้นที่ให้ลูกสูบเลื่อนขึ้นลงได้ และมีน้ำมันเต็มพื้นที่ 100% การยุบและยืดจะไม่มีช่องว่างของน้ำมันเลยเลย 2 ห้องแก๊สจะแยกออกจากห้องน้ำมันอย่างสิ้นเชิง ทำให้แก็สไม่ไปผสมกับน้ำมัน เหมือน ระบบ TWIN TUBE การทำงานจังหวะยืด (Extension หรือ Rebound) น้ำมันจากห้องด้านบนจะถูกรีดผ่านวาล์วทั้งหมดมายังห้องข้างล่าง วาล์วที่ใหญ่ทำให้ปล่อยน้ำมันได้ในประมาณมาก ลดแรงดันในห้องน้ำมันได้ดี น้ำมันที่เลือกใช้เป็นน้ำมันเกรดโช๊คอัพโดยเฉพาะ ไม่ใช่น้ำมันเกียร์ ที่กิดความร้อนแล้วจะใสค่าความหนืดจะหายไปเรื่อยๆ ทำให้ยุบ ย้วยขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย การทำงานจังหวะยุบ (Compression) ยิ่งยุบหรืออัดแรงมากเท่าไหร่แรงดันในห้องน้ำมันก็ยิ่งมาก แต่ระบบ Mono-Tube แรงดันนั้นกับไปอยู่ที่ห้องน้ำมันด้านล่าง น้ำมันที่ถูกรีดผ่านวาล์วนั้นจะมากหรือน้อยก็ไม่เกี่ยว เพราะจะไปดันอยู่ในห้องแก๊สมากกว่า ข้อดีอีกข้อหนึ่งก็คือ เมื่อจังหวะยุบนี้ แกนจะเลื่อนเข้ามาในกระบอกทำให้ดันห้องน้ำมันเอ่อเพิ่มขึ้นไปดันห้องแก๊ส ให้มีปริมาตรน้อยลง ก็ทำให้แรงดันแก๊สสูงขึ้น พอแก๊สมีแรงดันสูงขึ้นก็พยายามดันให้แกนเลื่อนกลับออกไปทำให้เกิดความเสถียรสำหรับตัวรถครับ. ระบบ MONO TUBE มันต่างกันยังไง Twin tube จะมีห้องสองห้องซ้อนกันอยู่โดยจะมีห้องแก๊สอยู่ด้านนอกซึ่งเวลาที่เพื่อนๆเอาโช๊คไปโมก็คือเค้าก็อัดแก๊สไนโตรเจนเข้าไปในห้องด้านนอกนั่นเองมำให้โช๊คแข็งขึ้น ซึ่งเมื่ออัดแก๊สลงไปแก๊สและน้ำมันก็จะผสมกันอยู่ ซึ่งหลักการทำงานก็คือ เมื่อโช๊คเกิดการ bump หรือยุบตัวลูกสูบจะเลื่อนลงดันน้ำมันจากห้องด้านในออกไปด้านนอก ซึ่งถ้าด้านนอกมีแก๊สอยู่มากโช๊คยิ่งแข็ง และดันน้ำมันจากห้องนอกเข้ามายังห้องในเพื่อ rebound นั่นเอง สำหรับ mono tube กระบอกโช๊คจะมีชั้นเดียวคือ น้ำมันจะอยู่ด้านบนและแก๊สจะอยู่ด้านล่างโดยแบ่งแยกกันชัดเจน ข้อดีของ mono tube 1. จากการที่ mono tube เป็นห้องชั้นเดียวจึงทำให้สามารถใช้ลุกสูบได้ขนาดใหญ่ขึ้น ข้อดีของลูกสูบที่ใหญ่ขึ้นคือ การตอบสนองที่เร็วขึ้น ควบคุมได้ดีขึ้น และไม่กระด้าง เพราะการตอบสนองของ mono tube กระทำโดยตรงในห้องเดียวกันไม่จำเป็นต้องรอให้น้ำมันผ่านออกไปห้องด้านนอก ดังเช่น twin tube 2. เนื่องจาก mono tube เป็นกระบอกชั้นเดียวทำให้ระบายความร้อนออกสู่ด้านนอกได้โดยตรง ทำให้น้ำมันและแก๊สภายในร้อนช้ากว่า twin tube มาก ข้อดีคือ อายุการใช้งานนานกว่า และที่สำคัญเคยขับรถเป็นระยะทางไกลซัก 50-70 กิโลเมตรขึ้นไป จะรู้สึกว่าโช๊คนิ่มขึ้นเกาะน้อยลงนั่นเป็นเพราะความร้อนสะสมภายในเยอะครับ ทำให้น้ำมันเป็นฟองและแก๊สขยายตัว mono tube จะไม่เกิดปัญหานี้ครับ
ขอตอบตามประสบการณ์ที่เคยใช้มาครับ โดย Type FLEX ใช้มาประมาณ 2 ปี แล้ว เปลี่ยนมาเป็น Mono FLEX มาปีกว่าๆ ครับ ซึ้งทั้ง 2 ตัวผมปรับไว้ที่ประมาณช่วง 3-5 คลิ๊กจากแข็งสุด เรื่องความแข็งของสปริงคงบอกได้ว่าไม่ต่างกันมาก แค่ Mono Flex เพิ่มมาจาก Type Flex อย่างละ 1 Kg ทั้งหน้าและหลัง ส่วนที่ต่างกันก็คงเรื่องความกระด้างครับ ตัว Type Flex เวลาเจอหลุมหรือลูกระนาดจะรู้สึกสะเทือนกว่ามาก Mono Flex โดยตัวแก๊สที่อยู่ในกระบอกของ Mono Flex นี่ล่ะที่คอยซับแรงกระแทกครับ เรื่องความเหมาะสมการใช้งาน โดยความชอบส่วนตัวผมนะ ถ้าซิ่ง วิ่งเร็ว สาดโค้ง ผมชอบ Type Flex ครับ ผมว่ามันกระด้างกว่าก็จริง แต่ให้ความรู้สึกที่รถเสถียรกว่า รู้เลยว่าพื้นถนนประมาณไหน ส่วนตัว Mono Flex นั้นออกแนวเก็บเรียบครับ ในโค้ง ถนนเป็นคลื่นซะหน่อยก็ไม่ค่อยรู้สึกแล้ว แต่ถ้าขับใช้งานในเมืองผมว่า Mono Flex เหมาะกว่าเยอะครับ ่ช่วงหนึ่งที่ใช้ Type Flex อยุ่ได้มีโอกาสขับรถจาก สงขลา เข้า กทม. ตั้งแต่ออกจะบ้านไป ในใจคิดว่า "โอ้ !! Type Flex นี่แจ่มจริงๆ" แต่พอถึง กทม. ขึ้นทางด่วนดาวคะนอง ในจใจคิดว่า "โอ้ !! Type Flex นี่สมกับที่เคยใด้ยินมาว่าไม่เหมาะกับคนเมือง" เพราะมันเล่นเก็บซะทุกๆ รอยต่อถนนบนทางด่วนจริงๆ ที่เล่ามาก็อยากจะบอกว่าให้ดูการใช้งานมากกว่าครับ ถ้าในเมืองจริงๆ ใช้รถทำงานด้วย และงบถึงก็เอา Mono Flex ไปเลย ทีนี้มาถึง Mono Flex กับ Ohlins DFV ครับ ตัว DFV นั้นก็ประจำอยู่ในรถน้องแทงค์ ได้ขับอยากหลายครั้งแล้วเหมือนกัน ความรู้สึกต่างกับ Mono Flex เยอะครับ DFV ออกแนวนุ่มหนึบเอามากๆครับ ไม่มีอาการกระด้างเลย โดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากๆครับ อีกตัวที่เคยลองก็จะมี Ohlins PCV ครับ ความรู้สึกออกแนวนุ่มหนึบครับ แต่ไม่หนักแน่นแบบ Mono Flex หรือ DFV ครับ หมายเหตุ : 1.โช๊คทั้งหมดที่กล่าวมา ติดตั้งอยู่ในรถบอดี้เดียวกัน คือ EK 4 ประตู 2. อ่านไปอาจจะงงบ้าง เพราะความรู้สึกบางอย่างมันไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไง
Mono ดิบกว่ามันส์กว่า มี valve แบบ micro speed ( M.S.V ) ช่วยเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า Mono เป็นโช้คระดับ TOP ของ TEIN สมัยก่อนใช้ชื่อรุ่นว่า TEIN RS สามารถอัพเกรดสปริงได้สูงกว่า Flex เหมาะ กับ การขับซิ่งถนน และ ลง สนามแข่งได้ ถ้าอัพเกรดสปริงแล้ว Flex ออกแนวขับสบายๆ ซิ่งถนนได้ ไม่เหมาะกับการใส่สปริงค่า K สูงๆ ถามแบบนี้กันหลายคน ส่วนมากจะเข้าใจผิด โช้คอันไหนแข็งกว่ากัน จริงๆ ต้องถามว่าโช้คแบบไหนที่เหมาะกับการขับขี่ของตัวเรามากกว่า ของดีไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของตัวเราเอง TEIN จะออกแบบ รุ่นโช้คแต่ละรุ่นให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละแบบ จริงมีรุ่นออกมามากมายให้ปวดหัว OHLINS จะออกแบบกว้างๆ ใช้งานได้ครอบคลุมกว่า ไม่ได้เน้นไปทางใดทางนึง ถ้าหาจุดที่เหมาะสมกับตัวเราไม่ได้ ผมก็แนะนำ OHLINS รุ่นใหม่ๆหน่อย ใช้งานได้ครอบคลุมกว่า
ส่วนที่ต่างกันก็คงเรื่องความกระด้างครับ ตัว Type Flex เวลาเจอหลุมหรือลูกระนาดจะรู้สึกสะเทือนกว่ามาก Mono Flex โดยตัวแก๊สที่อยู่ในกระบอกของ Mono Flex นี่ล่ะที่คอยซับแรงกระแทกครับ อันนี้ถูกต้องเลยครับ เป็นของดี จุดเด่นอีกของตัว MONO FLEX มันคือ M.S.V
