sr20 โบเดิม ถ้าปรับบูสเป็น 1 บาร์ @ เเรงดันเชื้อเพลิงเวลาเดินเบา กับ เวลาตอนบูสควรยุที่เท่าไรคับ

ตอนนี้บูส 0.8 บาร์ เดินเบา 2.5 บาร์ เวลาบูสคายุที่ 3 บาร์ คับ @ ปั้ม B70

ตอนนี้อยากจะปรับบูสเป็น 1 บาร์ เเรงดันเชื้อเพลิงควรยุเท่าไรคับ ?

 

จิงๆเดินเบาอยู่ที่ 2.5 บาร์ บูสท์ 0.8 บาร์ แรงดันมันน่าจะอยู่ที่ 3.3 บาร์ ตามแรงบูสท์มิใช่รึ

ถ้าบูสท์ 1 บาร์ แรงดันควรจะอยู่ที่ 2.5 + 1 = 4 บาร์


ผิดพลาดขออภัย มือใหม่ครับ หุหุ

 

ช่ายครับผมว่า แรงดันจะขึ้นตามแรงบูส
รถผมเดินเบา2.5บาร์ บูส 0.5 แรงดับบูสคือ 2.5+0.5=3 บาร์ อ่าครับ
ผิดถูกขออภัยครับ

 

ถ้าติ๊ก B70 สมบูรณ์ ก็เหลือเฟือ แล้วใส่เร๊กกูเรต เพิ่ม ป่าว ครับ

 

ของผม บูส 1 บาร์ น้ำมันเบนซินเดินเบา 2.9-3.0 บาร์ บูสเต็ม 4.2 บาร์ SRหลังหักโบเดิม เรคกูเรตเดิม ปั้มติ๊ก B70 กล่อง F-cons

 

ตอนนี้ใส่ปั้มติก B70 เเล้วคับ บูส 0.8 บาร์ เเรงดันเชื้อเพลิงเดินเบายุที่ 2.7 เวลาบูสเต็ม 4.1 บาร์เลยคับ


ปั้ม B70 นี้เเรงจริง

 

ของผมเดินเบา 3.2 บูสต์บาร์2 โบเดิมคับ ติ๊กb70หัวโตคับผม แรงดันpeak ผมไม่ชัวร์อะเคยดูมันประมาณ 4.5 อะคับ

 

แล้วถ้าแรงดันเพิ่มขึ้นจะมีผล ไห้หัวฉีด ฉีดน้ำมันแรงขึ้นรึป่าว
หรือว่าถ้าไม่ได้ทำหัวฉีด แรงดันเท่าไรก็ไม่มีผล ใครรู้บ้างครับ

 

บริมาณการฉีดขึ้นอยู่กับ ขนาดของหัวฉีด (ซีซี) ครับ

 

งั้นที่เราเพิ่มแรงดัน รางหัวฉีดไปก็ไม่มีผลรึป่าวครับ

 

มีผลแน่นอนครับ ทำให้แรงดันคงที่และเพียงพอ ถ้าให้ดี เอากล่องไปโมใหม่ ให้เพิ่มระยะเวลาการฉีดของหัวฉีดเดิมก็ได้ครับไม่ต้องถึงกับเปลี่ยน หัวฉีด

ผมว่าน่าจะพอนะ ผิดถูกขออะภัยนะครับ ตอบตามความเข้าใจส่วนตัว อิอิ

 

กระจ่างครับ
ขอบคุณครับ
ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ อิอิ

 

ขึ้นอยู่กับเรกูเรเตอร์ติดรถครับ ตัวนี้จะคุมแรงดันเชื้อเพลิงโดย หรี่ หรือเปิดให้น้ำมันคืนลงถังน้ำมันมากหรือน้อย

ยกตัวอย่าง สมมติว่า เรกูเรเตอร์ กำหนดค่าแรงดัน 3bar หมายความว่า แรงดัน3 bar สภาวะที่ไม่มีบูสต์หรือแวคคั่ม(Absolute Pressure = 1,0Bar)

หรือเอาง่ายให้เห็นภาพคือ แรงดัน3 บาร์ ณ ตอนที่เข็มวัดบูสต์ของรถคุณมันชี้ที่เลขศูนย์ครับ เมื่อสตาร์ทเครื่อง เครื่องยนต์จะอยู่ภายใต้สภาวะแวคคั่ม

เข็มวัดบูสต์เราจะตกลงมา ต่ำกว่าเลขศูนย์ เพราะฉะนั้น ณ รอบเดินเบาแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง จะต้อง <3 Bar ครับ สมมติว่าเรกูเรเตอร์กำหนดค่า 3Bar

รถทั่วไป ณ รอบเดินเบา เข็มวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 2,4-2,6bar ครับ โอเค มาดู รถคันนี้สมมติว่า บูสต์1,5บาร์ แสดงว่า ณ รอบ

เครื่องยนต์ที่เข็มวัดบูสต์ชี้ไปที่ 1,5บาร์ เข็มวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง จะต้องชี้ไปที่ 4,5bar ครับ ไม่ใช่เอาแรงดันที่รอบเดินเบาไป+กับบูสต์ครับ ผิดครับ

ที่เข้าใจว่ารอบเดินเบา เข็มแรงดันเชื้อเพลิงชี้ 2,5bar บูสต์ 0,8bar = 3,3บาร์ อันนี้ไม่ถูกต้องครับ

 

แรงดันน้ำมันเบนซิน มีผลต่อปริมาณเชื้อเพลงิที่ฉีดออกมาแน่นอนครับ

ปกติการทำงานของหัวฉีด เค้าจะมีบอกไว้เลยครับ สมติว่า

หัวฉีดของBosch 440CC หัวเขียว มันจะมีบอกว่า

ฉีดน้ำมัน ออกมาที่ กี่CC @ แรงดันน้ำมันเชื้อเพลงิกี่บาร์ครับ

ตัวอย่างให้เห็นชัดขึ้น

440CC/min @ แรงดันน้ำมันเบนซิน 5bar
380CC/min @ แรงดันนำมันเบนซิน 4bar
300CC/min @ แรงดันน้ำมันเบนซิน 3bar

เพราะฉะนั้น เท่ากับว่าการที่คุณไปเพิ่มแรงดันให้มากขึ้น

ก็เท่ากับว่าปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิลง ต่อนาทีจะสูงขึ้นตาม

ทั้งนี้ทั้งนั้น การคุมปริมาณการจ่ายน้ำมันมากน้อย จะโดนควบคุม

โดยกล่องสมอง วัดเป็นDuty Cycleของ หัวฉีดว่ามันทำงานที่

70% 80% ก็ว่ากันตามนั้นอีกที อย่าลืมว่า หัวฉีดแต่ละขนาดจะ

มีปริมาณที่มันสามารถจะฉีดได้เยอะที่สุด เป็นCC สมมติว่า

เมื่อเราจูนรถแล้วยังพบว่า ส่วนผสมยังบาง ลองเพิ่มDuty Cycle

แล้วยังพบว่ายัง มีอาการบาง อาจจะเป็นไปได้ว่า หัวฉีดมีขนาด

เล็กเกินไป จนเราmaxed out ปริมาตรสูงสุดที่หัวฉีดมันสามารถฉีดได้ครับ

 

เยี่ยมไปเลย อิ อิ

 

ชัดเจนเลยครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกและ ขอบคุณครับ ^^

 

4บา