อยากรู้วิธีตรวจสอบรถเราว่ามีไฟรั่ว นี่พอจะทำเองยังไงได้บ้างครับ

ผมว่ารถผมใช้แบต 1 ปีเองต้องเปลี่ยนแล้ว น้ำกลั่นไม่เคยขาด ผมว่ามันทำไมอายุแบตน้อยจัง ถ้าหากเราจะตรวจสอบเองแบบง่ายว่ารถเรามีไฟรั่วบ้างมั้ย พอจะมีวิธีตรวจง่ายๆบ้างไหมครับ หรือต้องไปให้ช่างไฟดูให้อย่างเดียวครับ

 

ยังไง หว่าท่านพรี่

 

สงสัยต้องเปลี่ยนเครื่องเป็น vet แล้วพรี่ แฮะๆ อีกอย่างตระเวนราตรีก็เพาๆลงบ้างคัพ

 

แบตไม่เก็บไฟ ก็เป็นที่แบต

ไดชาร์จไม่พอให้แบตเก็บ ก็ได

ไฟรั่ว คือมีอะไรมันใช้ไฟแบตในช่วงงที่เราไม่ได้ใช้งานรถ(ดับเครื่อง)

ถ้ามีวัดโวลท์จะเช็คได้ง่ายหน่อยครับ

ปล.เอาแบตแห้งPUMA มั้ยพี่ผมเบิกสปอนเซอร์มายังไม่ได้แกะเลย

 

แบต พูม่า แรงๆ

 

ปกติทั่วๆไปแบตจะค่อยๆเสื่อมสภาพไปเองตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปครับจะเร็วจะช้าตอบไม่ได้บางที สองปี สามปี ไม่เสื่อมก็มี ส่วนวิธีการเช็คไฟรั่วนั้น ถอดขั้วเเบตขั้วลบออก เเล้วเอาเทสเเลมป์ลงกราวนด์ผ่านตัวถังดูครับถ้ามีไฟรั่ว ที่ตัวเทสเเลมป์จะมีไฟติดขึ้น
ปล.แบตผมไม่ถึงปีก็มีอาการแล้วนะครับตอนนี้

 

อิอิ
ผ่านมา........ มีพี่ๆ เค้าตอบแล้น............

ไปล่ะ........

 

ไปเบิกมาแระเหรอ

 

ยังพรุ่งนี้ไป

 

ถ้ามีวัดโวลท์แล้วจะดูยังไงคับว่า มีไฟรั่ว ดูมะเปงอะคับ
ปล. แบตลูกเก่าผม 8 เดือนเอง ไปสวรรค์หล่ะคับ เซงโคตร ดีนะเค้ามีรับประกันหนึ่งปี เลยได้ลูกใหม่ อิอิ

 

ง่ายๆเลยครับ ถ้ามีวัด volt ลองดูกระเเสไฟตอนไม่ต้องสตารท์รถดูว่าขึ้นกี่ volt ครับกระเเสไฟไม่ควรต่ำกว่า 11.5 Vนะครับต่ำกว่านั้นไม่ค่อยดีแล้วนะครับเกียร์ออโต้ต่ำกว่า 10 VOLTหมดสิทธ์สตารท์ครับ
อันนี้หมายถึงแอมป์ในเเบตเตอรี่ไม่เกี่ยวข้องกับไดชารต์แต่ถ้าคุณเปิดอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้กระเเสไฟในรถในช่วงเวลาที่สตารท์เเรงดันไฟก็จะตกลงเรื่อยๆตามเวลาการใช้งานครับไม่ได้หมายความว่าเเบตพัง
เเละ เมื่อสตารท์รถเปิดไฟหน้า แอร์ วิทยุ และอื่นๆที่ต้องการกระเเสไฟ ลองดูว่าเมื่อเวลาเร่งไดชารต์เราชารต์ไฟไปได้เท่าไหร่?ส่วนใหญ่จะขึ้นๆลงๆอยู่ที่ 13.6-14.4 เรียกว่าดีไฟมาเต็ม(ต่ำกว่านั้น11.5-12.8 volt ปกติ )หมั่นตรวจเช็คพวกนี้บ้างบางทีไม่มีอาการบ่งชี้ คราวนี้ถ้ามันชารต์ไฟต่ำๆเป็นไปได้หลายอย่างหรือvoltไม่ขยับเลยเวลารถวิ่ง ตรวจเช็คเบื้อต้นด้วยการจอดรถข้างทาง เอาปลายไขควงที่เป็นเหล็กลองเอาเข้าไปใกล้ๆพูเลย์ไดชารต์ดูว่ามีเเรงดูดหรือเปล่า(ไฟฟ้าสถิตย์จะดูดปลายไขควงเข้าเอง ถ้าไม่ดูดล่ะก็หมายถึงว่าไม่มีการชารต์ไฟเข้าไปครับ)ไอ้ไดชารต์ ไดสตารท์พวกเนี้ย อยากพังเเม่งพังเลย
เเล้วถ้าอยู่ๆรถคุณไม่มีเเบตเพียงพอต่อการสตารท์รถตอนขาออกจากม่านรูดล่ะ???? ลองคิดภาพดูเเล้วกันครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ^ ^

 

ถ้ามีมิเตอร์วัดไฟแล้วก้อถอดแบตขั้วลบออก แล้วเอามิเตอร์ขั้วบวกจิ้มที่ตัวถัง ขั้วลบจิ้มที่แบตขั้วลบ ถ้าปกติค่าแรงดันจะไม่ขึ้นครับ ถ้าลงกราวนด์ค่าแรงดันจะขึ้นครับ น่าจะประมานนี้นะครับ

 

แป๊ะ

 

ตามมาดู

 

ขอบคุณพี่ๆน้องๆที่ให้ความรู้กันทุกท่าน ถ้าใครเปิด-ปิด ม่านบ่อยๆ ต้องระวังกันหน่อยนะครับ ถึงภาพแล้ว เห่อ มั่นตรวจสอบว่ายังไฟแรงอยู่กันรึเปล่า นะครับ

 

มาเก็บความรู้

 

ของผม ปกติไม่เปิดแอร์ อยู่ 13.2 - .3
เปิดแอร์ ลงมาที่ 12.5 -.7
เปิดไฟหน้า+แอร์ ก็ลงมา12..4 -.3

อย่างนี้ปกติไหมครับ แบตน้ำ ยัวซ่า 60แอมป์

แต่ม่านรูดนี่ น่ากลัวมากๆ

 

ขอบคุณมากเลยครับพี่ แหล่มเลยครับ

ปล...นั่งนึกภาพแล้วหล่ะคับ ถ้าอยู่ในม่านรูดแล้ว...สตาร์ตไม่ติด....จะโทรหาใครมาพ่วงแบตดีหว่าาาาาาาาาาาาา ฮร่าาาาาาาาาาาา

 

โทรหาคนให้ความรู้เลย น้าเค้าประสบการณ์สูง

 

ให้ร้านไดชาร์จเช็คสภาพ ไดชาร์จก่อนเป็นอันดับแรกครับว่าพวกเม็ดไดโอดมีช๊อตหรือขาดเปล่า เพราะถ้าไฟชาร์จไม่พอไม่นานแบตก็เสื่อม
แล้วค่อยหาไฟรั่วก็ยังไม่สายครับ แบตรถผมเช็คเดือนละครั้งเอง แต่ละลูกก็ได้ สามปีขึ้นไปครับ และอีกอย่างตอนใช้งานรถเสร็จใหม่ๆ ก็ปิดอุปกรณืให้หมดแล้วเดินเบาสักครู่ก็จะยืออายุแบตได้มากเลยครับ

 

555 รถเสียในม่านนี่ซวยโครต

 

ไปสวรรค์แล้วเฉียดนรกพร้อมกันเลยนะนั่น

 

555555555555555

เลยกลายเป็นประเด็นเลย รถสตาร์ตไม่ติดในม่านรูด....ฮร่าาาาาาาาาาาาาาาา

 

แถมน้องที่นั่งไปด้วยก็อายุไม่ถึง 18 อีก

 

ข้างบน รักเด็กกกกกก

 

และแถม ให้เด็กม่านรูดเรียกแท็กซี่ให้ แต่คนขับแท็กซี่เป็นตำรวจปลอมตัวมา.....

 

พูดได้อย่างเดียว........พาก...ขังลืมแน่ ฮร่าาาาาาาาาาาาาาาาา

 

รักเด็กผู้ชายอ่ะจิ