ขอความเป็นธรรม

การสนทนาใน 'Click Club' เริ่มโดย asskicker, 15 พฤษภาคม 2007

< Previous Thread | Next Thread >
  1. asskicker

    asskicker Guest

    0
    0
    0
    91/1361 หมู่ 11 เคหะธานี 2 ซอยซี 4 ซอยรามอินทรา 44 ถนนรามอินทรา
    แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม 10230

    5 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

    เรียน กราบเรียน พณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี

    เรื่อง ร้องเรียนขอความเป็นธรรม

    ข้าพเจ้านายสุรพงษ์ สุทธะนันทน์ มีปัญหาที่จะขอคำแนะนำจากท่านจึงได้เขียนจดหมายฉบับนี้รบกวนท่าน เพื่อให้ความกระจ่างแก่ครอบครัวของข้าพเจ้าซึ่งขณะนี้มีดแปดด้านจริงๆ คือในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมาลูกชายคนเล็กของข้าพเจ้า ชี่อนายธนาคาร สุทธะนันทน์ ชื่อเล่นว่าแบงค์ อายุ 24 ปี ได้ประสพอุบัติเหตุที่สามแยกพระประโทนก่อนเข้าจังหวัดนครปฐม โดยรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ไปได้ลื่นล้มลง สาเหตุเกิดจากรถกระบะคันหน้าที่จอดติดไฟแดงที่สามแยกพระประโทนด้วยกันนั้น หลังจากที่ได้รับสัญญาณไฟเขียวแล้ว ได้เคลื่อนรถออกไปและทำให้ถังขี้หมูที่ได้บรรทุกมาในรถ หกราดลงมาในพื้นถนน จึงทำให้รถจักรยานยนต์ที่ขี่ตามรถกระบะคันดังกล่าว ลื่นล้มลงและได้ถูกรถพ่วง18ล้อที่ขับตามมาทับไปบนร่างของลูกชายของข้าพเจ้าและได้ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลสมานจันทร์ในเวลาต่อมา เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.45น.และถึงแก่กรรมเวลา 01.45น.ของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2550 โดยรถพ่วง18ล้อเป็นของบริษัท อนิวรรตวาณิชย์(1998)จำกัดมีนายธนิตย์ ภาคภูมิ เป็นผู้ขับขี่โดยมีบริษัทธนสินประกันภัยจำกัดเป็นผู้รับประกันภัยรถพ่วงคันดังกล่าว หลังจากนั้นได้มีการตกลงเจรจากันทั้งสามฝ่ายเรื่อยมา จบลงที่บริษัทธนสินฯจ่ายค่าเสียหายให้เป็นจำนวนเงินสามแสนห้าหมื่นบาท และจะนำมาชำระให้ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2550 เวลา10.00น. ที่ สภอ.เมือง นครปฐม ถึงกำหนดวันนัดหมายทางตัวแทนบริษัทธนสินฯ ได้แจ้งให้ทราบว่าทางบริษัทไม่มีเงินจ่ายให้ได้ และแนะนำให้ไปยื่นแบบคำร้องขอความเป็นธรรมฯ ที่กรมการประกันภัยกระทรวงพาณิชย์ จึงเดินทางมายื่นคำร้องในวันนั้น(ตามเอกสารที่แนบมานี้)เจ้าหน้าที่กรมการประกันภัยแจ้งว่าอีกเจ็ดวันให้โทรกลับไปหา ครบเจ็ดวันโทรไปเจ้าหน้าที่บอกบริษัทธนสินฯ คงจะไม่มีเงินจ่ายให้ได้ มีคิวรออยู่ก่อนแล้วถึงสี่ร้อยกว่าราย และแนะให้ไปยื่นฟ้องร้องต่อศาลเอาเอง ข้าพเจ้าและครอบครัวงงไปหมด ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้พูดถึงเงินประกันภัยบุคคลที่สามหรือพ.ร.บ. ของหัวพ่วงทะเบียน82-8488 นครปฐม และ ลูกพ่วงทะเบียน 81-3709 นครปฐม เป็นเงินประมาณหนึ่งแสนบาทเลย ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานกันอย่างไร จึงต้องขอรับคำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ลูกชายของข้าพเจ้าได้จากไปและจะครบทำบุญหนึ่งร้อยวันในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2550 นี้แล้ว
    บุตรชายข้าพเจ้าศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร คณะวิทยาการจัดการคอมพิวเตอร์ อีกสามเทอมก็จะจบการศึกษาแล้ว โดยที่ในช่วงเวลากลางวันได้ทำงานที่ร้านInternet ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วบ่ายสามโมงจึงขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับมาเรียนที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร และบุตรลูกของข้าพเจ้ายังเป็น Moderator ให้กับ WWW.KSRThailand.Com.และเป็น Presenter ให้กับรถจักรยานยนต์ Kawazaki รุ่น KSR 110cc. ซึ่งเป็นรถวิบากขนาดเล็ก แต่เขาเป็นคนที่สูง180 ซม.หนัก 140 กิโลกรัม จึงทำให้เป็นที่สนใจของคนที่ได้พบเห็นการขับขี่ของเขา ถ้าท่านสละเวลาสักนิดเข้าอ่านในเวปไซด์นี้ท่านก็จะทราบความจริงของลูกข้าพเจ้า



    ข้าพเจ้ามีข้อสงสัยในการทำงานของกรมการประกันภัยอยู่ 2 ประการ คือ

    ประการที่ 1. ทางอธิบดีกรมการประกันภัย ตอบคำถามให้พิธีกรรายการ ร่วมมือร่วมใจ ทางTITV ว่า ทางกรมไม่มีอำนาจสั่งให้บริษัทประกันภัยจ่ายสินใหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันได้ ในเมื่อท่านอธิบดีทราบว่าไม่มีอำนาจบังคับให้บริษัทประกันภัยจ่ายสินใหมทดแทนได้ ท่านอธิบดีรู้ข้อบกพร่องแต่ไม่ดำเนินการแก้ไข ไม่แจ้งให้เจ้ากระทรวงทราบเพื่อดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้ท่านอธิบดีมีอำนาจสั่งให้บริษัทจ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเสียหายของประชาชน ท่านอธิบดีบอกว่ามีหน้าที่กำกับดูแลเท่านั้น ท่านดูแลอย่างไรจนไม่ทราบว่าบริษัทธนสินประกันภัยขาดสภาพคล่องทางการเงิน การตรวจงบดุลประจำปีของบริษัทผ่านมาได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ก็มีบริษัทประกันภัยอื่นที่ประสบสภาพเช่นเดียวกับบริษัทธนสิน มาแล้ว ทำไมท่านไม่เอาบทเรียนของบริษัทเหล่านี้มาแก้ไข ต่อไปบริษัทประกันภัยคุ้มครองทั้งหลายคงจะล้มตามกันไปแบบบริษัทไฟแนนท์
    ประการที่ 2. พ.ร.บ. บุคคลที่สาม ภาคบังคับที่รถทุกคันจะต้องมี ถ้าไม่มีก็ไม่สามารถต่อทะเบียนได้ รถทุกคันต้องมี พ.ร.บ. ตัวนี้ ซึ่งคู่กรณีของข้าพเจ้า หัวพ่วงและลูกพ่วงก็มี พ.ร.บ. นี้อยู่สองฉบับเจ้าหน้าที่ของกรมให้บริษัทธนสิน ปฏิเสธจ่ายค่าสินใหมทดแทนตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้อย่างไร โดยบริษัทธนสิน อ้างไม่มีเงินในเมื่อการตรา พ.ร.บ. ฉบับนี้ออกมา มีจุดหมายที่บรรเทาความเสียหายเบื้องต้นส่วนที่เกินจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ชดเชยให้ก็ค่อยไปฟ้องร้องดำเนินการทางศาลต่อไป ในเมื่อเป็นเช่นนี้จะมี พ.ร.บ. ฉบับนี้ต่อไปทำไม เมื่อไม่สามารถให้ความคุ้มครองผู้ประสพภัยไม่ได้ อยากจะถามว่าอธิบดีและเจ้าหน้าที่กรมการประกันภัยทราบหรือไม่ว่าที่รัฐบาลได้ตรา พ.ร.บ. ฉบับนี้ออกมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างไร ทางกรมการประกันภัยทำเหมือนคนจัดคิวให้บรรดาบริษัทประกันภัย ให้ผู้ประสพภัยมีลำดับก่อนหน้าหลังกันไป
    ข้าพเจ้าเดินทางร้องขอความเป้นธรรมจากกรมการประกันภัย อันเกิดจากบริษัทประกันภัยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการประกันภัย และก็หาความชอบธรรมไม่พบในกรมนี้ ไม่เคยเรียกเข้าชี้แจงข้อสงสัย ไม่เคยติดต่อกลับไปบอกความคืบหน้าของเรื่อง เมื่อติดต่อกลับไปเจ้าหน้าที่พูดเหมือนเป็นตัวแทนประกันภัย เขาขาดสภาพคล่องให้ไปฟ้องศาล ข้าพเจ้าอยากให้เจ้าหน้าที่กรมการประกันภัยสำนึกไว้ว่า ทุกวันนี้เสื้อผ้าที่สวมใส่และอาหารการกิน รวมถึงการเสวยสุขของครอบครัวท่านเหล่านี้ ในรูปเงินเดือนและสวัสดิการทั้งหลายนั้น มันมาจากภาษีอากรที่เป็นหยาดเหงื่อของข้าพเจ้ากับครอบครัวและประชาชนทั่วไป ท่านปฏิบัติหน้าที่คุ้มค่าแล้วหรือ
    จดหมายฉบับนี้ข้าพเจ้าร้องเรียนมายังนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าสูญเสียบุตรชายไปแล้วยังจะมาสูญเสียสิทธิอันพึงได้อีกหรือ ซึ่งเกิดจากการบกพร่องจากการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยของกรมการประกันภัยอีกหรือ
    สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ท่านสละเวลาอ่านจดหมายฉบับนี้และเอกสารที่แนบมาด้วย หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อข้าพเจ้าได้ที่เบอร์โทร 089-966-7705 ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเดินทางไปพบท่านในทันที



    ด้วยความเครารพอย่างสูง
    www.ksrthailand.com
     
  2. EVORA_By_nu080

    EVORA_By_nu080 New Member Member

    83
    2
    0
    เห็นใจจริงๆๆครับ...และผมว่าพรบ.ก
    อย่างนี้ละครับเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาก็ไม่ค่อยรับผิดชอบ
    ตอนเราจะทำนี้เห็นเราเป็นอย่างพระเจ้า เมื่อเกิดเรื่องเห็นอย่างหมาตัวหนึ่งนี้ละ บริษัทประภัย
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้