secret of RB

การสนทนาใน 'Skyline Club' เริ่มโดย โครตรักเอ็งเลย, 27 พฤศจิกายน 2010

< Previous Thread | Next Thread >
    SECRET OF RB
    พอดีช่วงนี้อยู่ว่าง ๆ เปิดเนตบ่อยดูโน้นดูนี่แล้วก็เจออะไรดี ๆ เกี่ยวกับเครื่องก็เลยเอามาฝากกันครับ
    ปล.ข้อมูลทั้งหมดผมอ้างอิงพี่นุอู่แถว ๆ แบริ่ง ขอขอบคุณไว้ ณ. โอกาศนี้ครับ

    อันแรกสุดครับเป็นวายริ่งสำหรับต่ออุปกรณ์เสริมแบบง่าย ๆ ครับ

    [​IMG][/url][/IMG]



    ขั้ว 7 ต่อวัดรอบ
    ขั้ว 27 เป็น แอโฟส์ ถ้าจะต่อพวก afc ก็ตัดค่อมสาย
    ขั้ว 29 เป็น o2 เซ็นเซอร์ ใช่ต่อA/F เช่น timer ปากกา
    ขั้ว 49 เป็นไฟ IG ตัดและต่อการทำงานพร้อม ECU แนะนำให้ใช้ขั้วนี้ในการต่ออุปกรณ์ เช่น เกจ EL ต่างๆ RSM AFC เพราะเวลาดับเครื่องไฟจะหน่วงอยู่ 3-5 วินาที ทำให้ไม่กระชากไฟของอุปกรณ์
    ขั้ว 50 กราว
    ขั้ว 53 เป็น speed ใช้ต่อเข้า rsm ถ้าจะใส่กล่องปลดความเร็วก่อตัดค่อม
    เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ใช้กันบ่อย
     
  1. อันนี้เกี่ยวกับวาล์วน้ำครับ

    อันนี้เกี่ยวกับการใส่วาล์วน้ำผิดตำแหน่งครับ คือการใส่วาล์วน้ำไม่ตรงตำแหน่ง อาจจะสงสัยว่าถ้าวาล์วมันเปิดน้ำมันก็ไหลวน ก็ถูกครับแต่ตอนยังไม่เปิดอากาศมันออกไม่ได้และเวลาไล่น้ำอากาศก็ยังอยู่ใน ระบบ

    [​IMG][/url][/IMG]


    อันที่ถูกคือตรงติ่งที่เห็นกลมๆด้านล่างมันต้องอยู่ 12 นาฟิกาครับ
     
  2. เยี่ยมเลยยยยย .......วินตัวหนังสือ เล็กนิดอ๊ะ 555
     
  3. เดี๋ยวผมแก้ให้ใหม่ครับพี่เบียร์
    ปล.ถ้าพี่เห็นว่ามันเล็กแสดงว่าอายุพี่เข้าใกล้เลข 4 แล้วแซว แซว 5555
     
  4. [​IMG][/url][/IMG]


    มีคนบอกว่าการเติมน้ำมันเครื่องในเครื่อง RB ควรเติมจากปรกติ 4 ลิตร เป็น 4.5 ลิตร ครับเพราะว่า RB เป็นเครื่องรอบจัดน้ำมันขึ้นลงไม่ทัน วิธีช่วยได้ครับ
    ปล.รูปน้ำมันพอดีผมเจอแต่รูปนี้ครับ
     
  5. ขอบคุณคับจารย์...555...ได้ความรู้ดีมากเลยอ่ะ...แต่ทำเองมะเปนอยู่ดีอิอิอิ
     
  6. THIRD_R30

    THIRD_R30 Active Member VIP

    2,482
    14
    38
    ขอบคุณครับ 555
    รถเสร็จยังครับ อยากแอ๊ดๆๆๆแล้ว 5555
     
  7. sky&ska

    sky&ska New Member Member

    101
    0
    0
    แจ่มเลยครับได้ความรู้ดีครับ
     
  8. ตำแหน่งเลขเครื่องครับ

    ตำแหน่งเลขเครื่อง RB จะอยู่ตรงใต้เทอร์โบหน้าหัวหมูเกียร์ครับ :teeth::teeth::teeth:

    [​IMG][/url][/IMG]



    [​IMG][/url][/IMG]

    ปล.ระวังตอนดับเครื่องใหม่ ๆ ร้อนมากกกกก
     
  9. lorkode

    lorkode New Member Member

    552
    1
    0
    กระทู้สาระ ดีวิน
    ส่วนคำถามนี้ ไร่ตามนี้เลยครับ
    มีปัญหารบกวนช่วยตอบหน่อยครับ คอนนี้เครื่องรถผมมันเดินไม่เรีบยอ่าครับ Rb25det นะครับ
    มันจะเกิดจากอะไรได้มั้ง ช่วยตอบหน่อยครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ
    ไร่จากของที่ง่ายที่สุดครับ
    1...ดูท่ออินเตอร์ว่ามีรอยนั่วมั้ย โดยการเอาน้ำ แฟ้บไร่หยอด วิธีบ้านๆโคตรๆ ถ้ารั่วก็สะดุด
    2...เช็คแอร์โฟล์ ส่วนใหญ๋ RB จะมาตกม้าตายเอาบริเวณนี้ครับ หลักๆเลยจะจุดนี้
    3...เดิน ไม่เรียบ เดินแบบไหน หอบหรือ กระพรือ ให้ไปเช็ค ที่AACวาวล์ หรือที่เรียกว่าตัวชดเชยรอบเดินเบา
    ถ้าสะดุดตอนเร่งก็ เช็คหัวเทียน หรือคอยด์
    4...ถ้าไร่ตามนี้แล้วไม่หาย ลองยืมกล่องชาวบ้านที่รุ่นตรงกันมาลอง แต่ต้องเป็น ของแอร์โฟล์ตัวเดียวกันนะครับ
    5...ถ้าทำแล้วยังไม่หาย ก็ เข้าอู่เถอะครับ.
     
  10. สานต่อจากระทู้พี่หล่อครับ

    เอารูปไปดูก่อนเลยครับว่าตัว ACC วาล์วมันเป็นไง

    [​IMG][/url][/IMG]

    1รูปแรกตำแหน่งของ aac valve ครับหลังท่อร่วมไอดี เหมือนกันทุกเครื่องของ rbครับแต่น๊อตอาจไม่เท่ากัน

    [​IMG][/url][/IMG]

    2 ตัวaac valve อันนี้เป็นของ24vมั๊งครับ เห็นกระเปาะสีทองๆป่ะมีน๊อตอยู่2ตัวขันมันออก
    ระวังสปริงหายด้วยนะสปริงข้างใน เอาเบนซินล้างซะ


    [​IMG][/url][/IMG]

    ส่วนรูปที่ 3 คือ IAA UNIT ซึ่งจามีสกรูปรับรอบติดอยู่ด้วย
    (แต่เรานิยมเรียกเหมารวมไปเรยว่า AAC VALVE)



    ส่วนเวลาล้าง แนะนำให้เอา โซแนกซ์ฉีดอัดเข้าไป พร้อมลมเป่าจะดีกว่า

    ผมไม่เคยผ่า ไอ acc เนี่ยเหมือนกัน แต่ถ้าข้างในมันมี โอริงอยู่ พวกยางจะไม่ถูกกับ เบนซิน จะกรอบ เสื่อม ขาดเร็ว
     
  11. เยี่ยม เลยยย แต่ของพี่่ จะเรียกว่าท๊อทเทิลบอดี้ อ๊ะ เรียกมานานมากกก ไอ้วาล์ว AAC เนี๊ยะะ ล้างแล้วดีขึ้นเย๊อะเลยยย ไม่ค่อนสะดุกกก
     
  12. หรือเรียกวา ไอเด้นสปีดหว่าาาา จำไม่ได้แย้ววววววววววว
     
  13. GTR.

    GTR. New Member Member

    1,328
    28
    0
    แอบเข้ามาดูเพราะกรูใช้ SR 55555+
     
  14. ว่าด้วยเรื่องคอไอดี 26 แปลงเป็น 20 คร๊าบ

    ไอดี 20 แปลงเป็น 26 สงสัย จะยากครับ

    แต่ถ้า 26 แปลง ใส่ 20 อ่ะ ได้อยู่ครับ
    อันดับแรกต้องไปหา ไอดี 26 มาก่อน
    แล้วหาไอดี 20 มาตัดตรงท่อก่อน
    ถึงหน้าแปลนที่จะเข้าฝา ทั้ง 6 ท่อ (ดูรูปประกอบโดยรวมๆเอานะครับ)
    จากนั้นก็ทำวิธีเดียวกันกับท่อร่วม 26 คืดตัดเอาหน้าแปลนที่ติดฝาสูปออก
    เนื่องจาก 26 เป็นแบบ 6 ลิ้น จึงยุ่งยากมากมายที่จะมาใส่ 20 จึงตัดระบบ 6 ลิ้นทิ้ง(ง่ายกว่า)

    แล้วก็นำมาเชื่อมติดกันระหว่าง หน้าแปลน ไอดี 20 กะท่อร่วม 26
    จากนั้น ที่ตัวท่อ 26 จะมีพวกคันชัก ลิ้น6ลิ้นเดิมของ26 ถอดออกครับ
    แล้วจะเจียรเรียบ(ตามรูป) ก็ได้ครับ
    มาถึงตรง ลิ้นปีกผีเสื้อเดิม ของ 20 เราวัดแบบแล้วให้โรงกลึง
    ตัดอลูมิเนียมเพื่อทำหน้าแปลน จะได้เอาไปเชื่อมต่อที่ปากของท่อ 26
    (วิธีนี้ กรณีใช้ ลิ้นเดียว หรือ ลิ้นเดิม) หากใครจะใส่ลิ้นใหญ่ๆ ก็ทำหน้าแปลนตามลิ้นนั้นๆ

    มาถึงรูต่างๆที่มีอยู่เดิมของท่อร่วม 26
    จะอุดจะใช้อะไรตามสะดวกครับ เพราะ
    ท่อลม หม้อลมเบรค 26 มันจะอยู่ด้านล่างนะครับ
    แล้วเดิมๆ26 จะมี รูใหญ่ๆอีก เหอๆ อุด-ใช้ กันตามสะดวกครับ
    ยังมีเรื่องท่อน้ำวนเลียงไอดีอีก เหอๆ ยุ่งยากมากก็อุดได้ครับ ดูรูปเอาเองครับ


    [​IMG][/url][/IMG]
    [/FONT

    [​IMG][/url][/IMG]

    [​IMG][/url][/IMG]

    ปล.กระทู้ผมเจอใน rc นี่เเละครับขอบคุณเจ้าของกระทู้ล่วงหน้า
     
  15. ว่าด้วยเรื่องคอไอดี 26 แปลงเป็น 20 คร๊าบ
    ...........เยี่ยมเลยยยวินนน ว่าแต่ ใส่ท่อร่วม 26 แล้วใช้ป๊ะะะะ
     
  16. ว่าด้วยเรื่องเบอร์สีครับ

    อันนี้ไม่เกี่ยวกับเครื่อง RB ครับแต่เกี่ยวกับสกายลายครับ เป็นเบอร์สีเผื่อพี่น้องท่านไหนกำลังจะเปลี่ยนสีรถครับ ผมมีเบอร์สีของสกายลายมาฝากครับ
    ปล.เครดิตข้อมูลครับของน้าจอร์นคร๊าบ

    [​IMG][/url][/IMG]


    Paint codes
    BNR32
    KH2 - Gun Grey Metallic
    KG1 - Jet Silver Metallic
    TH1 - Dark Blue Pearl
    AH3 - Read Pearl Metallic
    732 - Black Pearl Metallic
    326 - Cristal White
    KL0 - Spark Silver Metallic
    BL0 - Greyish Blue Pearl (special order)
    AN0 - Wine Red
    __________________
     
  17. ยังครับพี่เบียร์ตอนนี้เอาแค่รันอินก่อน...หลังปีใหม่มีแน่ ๆ คอ 26 หัวฉีด 26 ประเก็นซิ่งและอื่น ๆ 5555
     
  18. ว้าววววววววว...........แนวซิ่งงเลยยยย วินน.....จัดแรง จัดหนักกกก
     
  19. เดี๋ยวถ้าเจอจะเอามาฝากครับผม....
     
  20. ขำ ๆ กะบรรดากล่องจูนกล่องพ่วง

    ++ สาระน่ารู้ต่างๆ ของ e-mange ทั้ง 2 และจอฟ้า ฯลฯ ++
    Credit: Gettuned

    ผมขอยกตัวอย่างกล่องที่อยู่ในระดับใกล้ๆกันนะครับ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับคนซื้อที่จะตัดสินใจ
    ไม่ ว่ากล่องอะไรราคาเท่าไรขอให้คิดให้ดีว่า ถ้าเราคิดจะทุ่มเงินซื้อของที่ราคาสูงมากๆมาแล้ว เราจะสามารถนำเอาfunctionและความสามารถทุกอย่างที่กล่องตัวนั้นมีให้ มาใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุดได้หรือไม่

    ลองเอาเงินที่ต้องจ่าย มาหารจำนวนม้าที่เพิ่มขึ้นดูว่า 1 ม้าใช้ตังค์ไปเท่าไหร่

    สมมุติ ว่ารถคุณ เครื่องเดิมไม่ได้ทำอะไรเลย 130แรงม้าเกียร์ออโต้ มาใส่กล่องหวังจะให้ได้ความเร็วปลายจาก 185 เป็น 220 อันนี้ถือหวังสูงเกินไปครับไม่ใช่กล่องเทพฟ้าประทานนะครับ หน้าที่ของกล่อง ในรถระดับใช้งานทั่วไปนี่คือช่วยปรับแต่งการจ่ายน้ำมันหรือการจุดระเบิด ที่ของโรงงานอาจจะเซ็ตเอาความสามารถมาแค่ 90-95จาก100% ให้มันทำงานได้ใกล้เคียง100%ที่สุด

    หรือ ถ้าอยากได้เพิ่มสัก 10 ม้าจากเดิมผมก็บอกตรงๆว่าไปทำ header กะท่อเอาก็ได้แล้วถูกกว่าด้วย ม้าตัวนึงกินเงินน้อยกว่า อันนี้คุณเป็นคนตัดสินใจครับ และต่อไปนี้ เรามาดูกล่องแต่ละตัวกันครับว่าเป็นไงกันบ้าง

    E-manage ฟ้า:


    ราคา 12,500-13500 มือหนึ่ง มือสองอยู่ราว 8000-9000 ในตลาดก่อนซื้อถามด้วยว่ามีสายจุดระเบิดมาด้วยมั้ย มีก็ดี ไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หาซื้อได้ทั่วไป

    วิธีดูของมือสองที่ชัวร์ที่ สุดคือ ดูของตอนที่มันยังอยู่ในรถเค้านั่นเลย ทดสอบก่อนถอดว่าติดเครื่องได้ เร่งเครื่องได้ ok จบ แต่ถ้ากลัวเค้าสลับของก็โทรนัดกันแล้วมาเจอที่ผม ให้ผมตรวจสอบดูให้ก็ได้ ดูเสร็จก็ถอดเดี๋ยวนั้นเลย

    แต่ถ้าสมมติของนั้นถอดมาแล้ว ก็ไม่เป็นไรนัดมาที่เจอผมพร้อมกันเอากล่องเค้าใส่รถผมเพื่อลองติดเครื่องดู อันนี้บริการพิเศษสำหรับเพื่อนๆครับ จัดให้ เพื่อความสบายใจของท่าน
    Function:
    x scale ในการปรับตารางรอบเครื่องที่ละ 100 rpm
    x ปรับน้ำมันตาม Airflow ได้ 16x16 ช่อง เพิ่ม/ลด น้ำมัน
    x ปรับองศาการจุดระเบิดได้ 16x16 เพิ่ม/ลด องศาไฟจุดระเบิด ได้ -20/+20
    x กรณีรถ set turbo หรือรถที่ต้องเพิ่มน้ำมันมากๆ ต่อสายคุมหัวฉีดได้ ปรับได้ 16x16 (เพิ่มน้ำมันได้ เท่านั้น)
    x ปลดตัด Boost ได้ เช่น NA set BO หรือ เครื่อง turbo ที่ต้องการปรับ boost เพิ่ม
    x กรณีเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้นน้ำมันจะท่วม สามารถคุ่มหัวฉีดที่เปลี่ยนได้
    x คุมหัวฉีดเสริมได้ 2 หัว 16x16
    x ปรับ VTEC ได้ เฉพาะ block B, H, D, F เท่านั้น Dimension, Jazz, Steam CRV ปรับไม่ได้
    ถึงได้ก็ไม่มีประโยชน์ VTEC เหล่านี้เปิดที่รอบ 2200-3000 อยู่แล้ว
    x เก็บ datalog ได้ (แต่ต้องใช้ notebook)
    x สั่ง option เพิ่ม จาก Greddy เพื่อปลด close loop ได้


    E-manage Ultimate:


    ราคามือหนึ่ง 24000-27000 มือสอง ไม่ค่อยมีแต่เคยเห็นอยู่ 19000-21000
    Function:
    x scale ในการปรับตารางรอบเครื่องที่ละ 50 rpm
    x ปรับน้ำมันตาม Airflow ได้ 16x16 ช่อง เพิ่ม/ลด น้ำมัน
    x กรณีรถ setbo หรือรถที่ต้องเพิ่มน้ำมันมากๆ ต่อสายคุมหัวฉีดได้ ปรับได้ 16x16
    และพิเศษกว่ากล่องฟ้าตรงที่จะ เพิ่ม หรือลด ก็ได้
    x รวมแล้วสามารถทำให้สามารถปรับ ได้ 30x16 (ทำมาแล้วสามารถยืนยันได้)
    x ปลดลากรอบเครื่องได้เช่นรถผม [civic dimension เครื่องเดิมกระปุกตัวไม่มี vtec] ใช้รอบอยู่ 7800-8000 (จุดประสงค์นี้เพื่อเกียร์กระปุกเท่านั้น)
    x LOCK รอบออกตัวได้เช่นการออกตัว quatermile ได้และถ้าเป็นรถ turbo ทำ misfire ได้
    (กด คันเร่งเต็มที่รอบจะค้างอยู่ที่รอบที่เราตั่งไว้เช่น 4500 รอบ เวลายกคลัทช์ออกรอบเครื่องจะกลับมาเป็นปกติถ้าเป็นรถ turbo จะมี boost มารอด้วย ทำให้มีแรงออกตัวมากขึ้น)สำหรับเกียร์กระปุกเท่านั้น
    x ปรับองศาการจุดระเบิดได้ 16x16 เพิ่ม/ลดองศาไฟจุดระเบิด ได้ -30/+30
    x ปรับน้ำมันตาม อุณหภูมิน้ำได้
    x ปรับองศาจุดระเบิดตาม อุณหภูมิน้ำได้
    x ปรับน้ำมันตามอุณหภูมิของไอดี ได้
    x ปรับองศาจุดระเบิดตามอุณหภูมิของไอดี ได้
    x สามารถคุมอุปกรณ์ต่างๆตาม อุณหภูมิของไอดี และน้ำหล่อเย็นได้
    เช่น สั่งให้พัดลมไฟฟ้าให้ทำงานก่อนอุณภูมิที่ผู้ผลิตปรับตั้งไว้ตอนแรก
    หรือสั่งให้ฉีดน้ำ intercooler เมื่อถึง intake temp ที่ตั้งไว้
    x ปลดตัด Boost ได้ เช่น NA set BO หรือ เครื่อง turbo ที่ต้องการปรับ boost เพิ่ม
    x คุมหัวฉีดเสริมได้ 2 หัว 16x16
    x ปรับ VTECได้ หมด
    x ปลด lock ความเร็ว 180 ได้เกือบทุกรุ่น
    x กรณีเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้นน้ำมันจะท่วม สามารถคุมหัวฉีดที่เปลี่ยนได้
    x สำหรับรถ เกียร์ auto แรงๆ เช่น JZ-GTE โมดิฟายเพิ่มเวลาเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก มี functionแก้อาการนี้ได้
    x เก็บ datalog ได้โดยไม่ต้องใช้ notebook
    x มี switch อยู่ข้างกล่องที่ผู้ใช้รถสามารถปรับเลือกตารางน้ำมันและองศาจุดระเบิดเองได้โดยไม่ต้องพึ่ง tuner
    แต่ tuner ต้องตั้งไว้ให้ก่อน มีให้ใช้ 2 ตารางจะใช้งานในกรณีไหน? เช่น จูนไว้สำหรับ octane 95 , 91 , 100 เป็นต้น
    x มี AF FeedBack เป็น option ที่ต้องซื้อเพิ่มจาก Greddy สำหรับเวลาจูน
    อันนี้ไม่ขออธิบายมากนะครับเพราะเรื่องค่อนข้างยาว
    x สามารถซื้อ Greddy remote อันเดียวกับตัวที่รถแรงๆใช้ปรับ boost controller เพิ่มคุ่ม function ต่างๆในกล่องได้
    x สั่ง option เพิ่ม จาก Greddy เพื่อปลด close loop ได้


    HKS F-CON SZ:


    ราคามือหนึ่ง 3x,xxx มือสองอยู่ราวๆ หมื่นปลายๆถึง 2 ต้นๆ ตัวนี้เมื่อเทียบกับ e-manage ultimate
    ก็เหมือนรักพี่เสียดายน้องเพราะFCONSZ นั้น
    ปรับตารางได้ละเอียดกว่าแต่ก็ขาดลูกเล่นไปเยอะเช่นปลดรอบเครื่องไม่ได้, lock รอบออกตัวไม่ได้ ฯลฯ
    Function:
    x scale ในการปรับตารางรอบระเอียดกว่า e-manage ultimate
    x ปรับน้ำมันที่หัวฉีดได้ 24x16 ช่อง +/-นั้มน
    x ปรับองศาการจุดระเบิดได้ 24x16 +/- องศาจุดระเบิด
    x ปรับน้ำมันตาม Water Temp ได้
    x ปรับองศาจุดระเบิดตาม Water Temp ได้
    x ปรับน้ำมันตาม Intake Temp ได้
    x ปรับองศาจุดระเบิดตาม Intake Temp ได้
    x ปลดตัด Boost ได้ เช่น NA set BO หรือ เครื่อง turbo ที่ต้องการปรับ boost เพิ่ม
    x ปลด lock ความเร็ว 180 ได้เกือบทุกรุ่น
    x มี switch อยู่ข้างกล่องที่ผู้ใช้รถสามารถปรับเลือกตารางน้ำมันและองศาจุดระเบิดเองได้โดยไม่ต้องพึ่ง tuner
    แต่ tuner ต้องตั่งไว้ให้ก่อน มีให้ใช้ 2 ตารางจะใช้งานในกรณีไหน? เช่น จูนไว้สำหรับ octane 95 , 91 , 100 เป็นต้น
    x สำหรับรถ เกียร์ auto แรงๆ เพิ่มเวลาเปลี่ยนเกียร์จะกะตุก มี function แก้อาการนี้ได้เหมือนกับUltimate
    x มี AF FeedBack

    สำหรับ รถใช้งานทั่วไปเช่น civic dimension, altis, ฯลฯ ที่เน้นแอร์เย็นเพลงเพราะรถสวย โปรดฟังอีกครั้ง "ที่เน้นแอร์เย็นเพลงเพราะรถสวย" รถระดับนี้ e-manage กล่องฟ้าก็ดีพอแล้วครับใส่ ultimate หรือ F-CON ไปก็วิ่งไม่ต่างกันมากและก็ไม่ได้ใช้ function ทั้งหมดที่กล่องมีให้อย่างเป็นประโยชน์จริงจัง [จากประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ลองกับรถตัวเองมาแล้วทั้งกล่องฟ้า และ Ultimate] เปลืองเงินไปเปล่าๆ ม้า1ตัว กินเงินเยอะกว่า ค่าจูนก็แพงกว่าด้วย แบบนี้เก็บเงินไว้ทำท่อทำ header ทำกรอง ซึ่งเป็นส่วนประกอบเครื่องที่เป็นhardware แล้วใช้กล่องธรรมดาๆ ผลที่ได้ออกมาจะชัดเจนกว่าการที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเครื่องเลย แต่ใช้กล่องใบละหลายหมื่นเพียงอย่างเดียว (ยกเว้นว่ารถโมดิฟายมาหนักๆ แรงม้าหลายร้อย A/Fแกว่งเป็นหมากระดิกหาง ทีนี้กล่องใบละหลายหมื่น จะได้ใช้ความสามารถของมันแน่ๆ แบบนี้คุ้ม)


    ไหนๆก็ไหนๆแล้วมีคำถามมามากเกี่ยวกับพวกจอฟ้าทั้งหลายว่า"รถผมควรใส่อะไรดีต่างกันอย่างไรเพื่ออะไรฯลฯ"
    RSM, SAFCI, VAFCI, SAFCII,VAFCII, และใหม่สุด AFC NEO จอสี
    ก็ขออธิบายไว้ตรงนี้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทุกท่านละกันครับ


    RSM: [REV Speed Meter]


    ราคามือหนึ่ง 7500-8000 มือสอง 4900-6200 ตามสภาพ
    จุดประสงค์เพื่อดูค่า รอบเครื่อง, ความเร็วรถ, Battery Voltage และปลดความเร็ว 180 ของเล่นต่างๆมีดังนี้
    Function:
    x วัดรอบเครื่อง
    x ต่อ shiftlight ได้เช่นตั้งไว้ 5000 rpm ถึง 5000 rpm ไฟจะติด
    x วัดความเร็วได้
    x ดู Battery voltage ได้
    x ต่อไฟไว้เตือนความเร็วได้เช่น ตั้งไว้ 100 เกิน 100 ไฟจะติด
    x วัดระยะทางการเดินทางได้
    x ปลด lock ความเร็ว 180 ได้เกือบทุกรุ่น
    x จับเวลา 0-100m , 0-200m, 0-400m
    x จับเวลา 0-100 km/h, 0-200km/h, xx-xxx km/h xx=ใส่ค่าเริ่มต้นเอาเอง xxx=ใส่ค่าสิ้นสุดเอาเอง
    x วัดแรง G ของรถ (เป็น option ที่ต้องซื้อG-Sensorเพิ่ม)
    x วัดแรงม้า โดยคำนวนจากแรง G per second
    (โดยส่วนตัวผมว่าค่อนข้างไร้สาระ วัดได้ห่วยแตกมากๆ รถผมวัดได้ 900 ม้า 4A-FEเดิมๆรุ่นน้องผมมันวัดได้ 342แรงม้า)
    x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง โวลต์แบต ความเร็วสูงสุด


    SAFCI: [Super Airflow convert]


    ราคามือหนึ่ง หมื่นกว่าๆ จำไม่ได้นานแล้วไม่เห็นมีขายแล้วด้วย มือสอง 5000-6500 ตามสภาพ
    จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันอย่างเดียวไม่สามารถปรับไฟจุดระเบิดได้
    Function:
    x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 8 x 2
    x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
    x ในรถที่เป็น MAP [Manifold Absolute Pressure] sensor สามารถดู vac/boost ได้
    x ดู Battery Voltage ได้
    x ดู O2 sensor Voltage ได้
    x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง


    SAFCII: [Super Airflow convert]


    ราคามือหนึ่ง 11000-12500 มือสอง 6500-7500 ตามสภาพ
    จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันอย่างเดียวไม่สามารถปรับไฟได้
    Function:
    x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 12 x 2
    x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
    x ในรถที่เป็น MAP [Manifold Absolute Pressure] sensor สามารถดู vac/boost ได้
    x มี function กันเครื่อง knock ได้สำหรับรถบางรุ่นที่เขียนระบุไว้ในคู่มือผลิตภัณฑ์
    x ดู Battery Voltage ได้
    x ดู O2 sensor Voltage ได้
    x lock ไม่ให้มือบอนมาปรับตั้งน้ำมันเล่นได้
    x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง


    VAFCI: [VTEC Airflow convert]


    ราคามือหนึ่ง หมื่นกว่าๆ จำไม่ได้นานแล้วไม่เห็นมีขายแล้วด้วย มือสอง 5000-6500 ตามสภาพ
    จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันและ VTEC ไม่สามารถปรับไฟได้
    Function:
    x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 8 x 2
    x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
    x สามารถดู vac/boost ได้ [Honda ทั้งหมดเป็น MAP]
    x ดู Battery Voltage ได้
    x ดู O2 sensor Voltage ได้
    x ปรับ vtec ได้ เฉพาะ block B, H, D, F เท่านั้น Dimension, Jazz, Steam CRV ปรับไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่มีประโยช์น vtec เหล่านี้เปิดที่รอบ 2200-3000 อยู่แล้ว
    x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง


    VAFCII: [VTEC Airflow convert]


    ราคามือหนึ่ง 11000-12500 มือสอง 6500-7500 ตามสภาพ
    จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันและ VTEC ไม่สามารถปรับไฟได้
    Function:
    x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 12 x 2
    x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
    x สามารถดู vac/boost ได้ [Honda ทั้งหมดเป็น MAP]
    x มี function กันเครื่อง knock ได้สำหรับรถบางรุ่นที่เขียนไว้ในคู่มือ
    x ดู Battery Voltage ได้
    x ดู O2 sensor Voltage ได้
    x lock ไม่ให้มือบอนมาปรับตั่งน้ำมันเล่นได้
    x ปรับ vtec ได้ ตามลิ้นผีเสื้อด้วย VAFCI ได้ตามรอบเครื่องเท่านั้น
    x ปรับ vtec ได้ หมด มีประโยช์นสำหรับพวก K20A ฝาแดง
    x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง


    AFC NEO: [Airflow convert NEO ย่อจากอะไรไม่รู้]


    ราคามือหนึ่ง 13000-14000 มือสองยังใหม่ไปยังไม่เห็น
    จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันและ VTEC ไม่สามารถปรับไฟได้ เป็นตัวใหม่ล่าสุดจาก APEXi เป็นจอสี display ได้สวยหรู hi-so มาก
    หลังจากจอฟ้า APEXi จะไม่ทำแยก VAFC และ SAFC และก็จะมาเป็นตัวนี้แทน
    Function:
    x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 16 x 2
    x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
    x ในรถที่เป็น MAP [Manifold Absolute Pressure] sensor สามารถดู vac/boost ได้
    x ปรับ vtec ได้ ตามลิ้นผีเสื้อด้วย VAFCI ได้ตามรอบเครื่องเท่านั้น
    x ปรับ vtec ได้ หมด มีประโยช์นสำหรับพวก K20A ฝาแดง
    x ดู Battery Voltage ได้
    x ดู O2 sensor Voltage ได้
    x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง

    ที่มา: www.rcweb.net
     
  21. เอาจากประสบการณ์ของตัวผมนะครับ ย้ำนะครับว่าประสบการณ์ของตัวผมเองดีหรือไม่ตอบไม่ได้ครับต้องเอาเจ้าของรถเป็นหลักครับ
    ตอนที่ผมได้รถมาใหม่ ๆ เลยครับผมก็เริ่มเล่นกะกล่องโมญี่ปุ่นก่อนเลยครับ พอดีเพื่อน ๆ หามาให้ลองบ้างหาเอาเองบ้างครับ
    - ใบแรกเลยครับเป็นของสำนักอะไรไม่รู้ครับจำไม่ได้แต่มันมีสวิต 2 โหมดประมาณว่าอยากแรงก็สับสวิตเอาครับ ความรู้สึกต้นมันโอเคคับแต่รอบสูง ๆ รถมัน " แห้ง ๆ " อย่างไงไม่รู้ครับ
    - ใบที่สองเป็นของสำนัก JAM ครับถอดมาจาก R 32 เลย step การโมเครื่องยังไม่เยอะมากครับ ความรู้สึกครับโอเคอย่างมากครับ ต้นมาหนักปลายดันดีครับรถเดินไม่เหี่ยวครับ ตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยทีเดียวสำหรับรถผมที่เครื่องไม่ได้ทำไรมาก ( ตอนหลังเอาไปให้วัยรุ่นแถวแปดริ้วลองมันยังบอกว่าแจ่มเลย ) กล่องใบนี้ผมยังใช้มายังปัจจุบันเลย
    - ใบที่ 3 เป็นกล่องของสำนักมายครับ ความรู้สึกมันไม่ไช่สำหรับรถผมเลยอ่ะครับเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ( ประมาณว่าเค้าไม่ได้ทำมาเพื่อใส่รถคันไหนโดยเฉพาะ แต่ทำมาทีเยอะ ๆ แล้วเครื่องต้องประมาณนี้นะถึงจะใช้ได้ )
    - ใบสุดท้ายผมส่งกล่องเดิมไปให้รุ่นพี่โมรอมให้ครับ ก็โอเคอยู่แต่มันดันมาใส่ตอนเครื่องใกล้จะพังแล้ว 555 เลยจับความรู้สึกอะไรไม่ได้มากนัก

    ต่อมาเรื่อง จอฟ้า หรือ s -afc ครับผมใช้มันเป็นกล่องพ่วงกล่อง ECU หลักของเราครับประมาณมาใช้ง่ายเราสามารถปรับจูนน้ำมันเองได้ครับ ยิ่งพ่วงกับกล่องโมที่เราชอบเเล้วเอาเจ้าจอฟ้า " เกลี่ย "อีกทียังไงก็ดีกว่ากล่องโมป่าว ๆ เพียงใบเดียวอยู่แล้ว หรือจะเอาไปจูนกะกล่องเดิมเลยก็ได้ครับแล้วแต่คนถ้าจูนดีก็วิ่งกว่าเดิมแน่ ๆ ปัจจุบันผมใช้เจ้านี่อยู่ทุกวัน 555

    ต่อมาก็ e-manage แต่ตอนนั้นผมเอากล่องเดิมที่ไม่ใช่กล่องโมไปจูนครับความสามารถมันดีกว่าจอฟ้าแน่ ๆ ครับ จูนประมาณ 1 ชม. ครับโดนไป .... บาท ผลออกมาครับรถวิ่งดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ ๆ เลยครับเวลาลงมาเยอะครับ ( ไปลองที่คลอง 5 มา ) แต่ผลที่ตามมาจากวันนั้นครับ เวลาขับรถแล้วเหนื่อยครับเพราะว่าอย่าลืมว่า Rb เป็นเครื่องที่แอร์โฟว์ครับเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนหรืออุณหภมิเปลี่ยนมันจะมีผลกับรถทันทีครับ ( ตอนจูนกลางคืน ) เพราะฉะนั้นรถผมกลางวันอากาศร้อนวิ่งไม่ดีครับ มันเกิดจากตอนจูนนั้นเราไม่ได้แก้ทุกตาราง ( เห็นรุ่นพี่ที่เป็นช่างเค้าบอกว่ามันมี 4 ตารางตารางละ 100กว่าช่องนะ ไม่รู้จิงป่าว ) คือถ้าเราซี้มือจูนก็น่าจะโอเคอย่างมากครับเพราะเค้าน่าจะจูนให้เราได้ทุกวัน ครั้นผมจะลองจูนเองก็ไม่ได้เพราะเค้าล็อคไว้ครับ ผมก็เลยต้องจำใจถอดออกครับแล้วหันมาใช้จอฟ้าอย่างเดิมที่พอมีปัญหาไม่ต้องวิ่งไปหาใครจูนเองแม่มเลย 555


    ปล.ถ้าเป็น F - con น่าจะดีกว่าเยอะ ๆ เลยครับเพราะเราสามารถถอดไม่ใช้แอร์โฟว์ได้เลยหมดปัญหา 555
     
  22. THIRD_R30

    THIRD_R30 Active Member VIP

    2,482
    14
    38
    ความรู้ๆๆๆเพียบๆๆๆๆ อิอิ
     
  23. ต้องเรียกว่า ..........วิน RB เจอกับ เก๋ K SPORT ....555555555
     
  24. GTR.

    GTR. New Member Member

    1,328
    28
    0
    กรุใช้ 5 ปุ่มอ่ะ 5555+
     
  25. makubexu

    makubexu New Member Member

    60
    0
    0
    มีเเต่ความรู้เเละมีใครเอา26ใส่25บางไหมครับพี่วิน
     
  26. อย่างน้องต้องคอ " ซิ่ง " แล้ว
    ปล.ว่าง ๆ เดี๋ยวจะชวนบรรดาวัยรุ่นทั้งหลายมาวิ่งกันแบบ " คืนนั้น " อีกเอาป่าวขำ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นำทีมโดยเบียร์อสูร วินจุ๊บ ๆ บอม ณ.ปราจีน เติ๊ดหัวฟู 5555
     
  27. ประโยชน์ของค้ำโช้ค

    เครดิต จาก AE -100 club

    ครับคงต้องบอกกว่าว่าอันนี้เท่าเอามาฝากกันก็เพื่อเป็นความรู้ให้กับคนอื่นๆที่ไม่รู้ เพื่อที่จะได้เข้าใจและเลือกซื้อได้ถูก

    ก่อนอื่น คุณเคยเจออาการอย่างนี้หรือไม่ เช่น
    - เวลาเข้าโค้ง(อย่างแรง)ท้ายบัด ไม่นิ่ง วิ่งโคลง
    - เวลาตกหลุม โดดคอสะพาน มีความรู้สึกว่าจั้ม ทรงตัวไม่ดี
    - เวลาเจอน้ำขั้งข้างทาง(อย่างเช่นในกรณีฝนตกเป็นต้น) บางทีเรามาด้วยความเร็วทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้
    - เวลาวิ่งทางตรงด้วยความเร็วสูงๆ มีความรู้สึกว่าเหมือนจะลอย ไม่นิ่ง โคลงบ้างอะไรประมาณนี้

    หลายๆคนเจอปัญหาอย่างนี้ ก็มีวิธีการแก้หลายๆอย่างเช่น เปลี่ยนยางให้ใหญ่ขึ้น เปลี่ยนสปริงและโช้คให้เกาะขึ้น ซึ่งก็ใช้งบประมาณพอสมควร

    หลายคนจึงได้หันหาวิธีที่ทำให้ปัญหาต่างๆข้างบนหมดไปแต่ไม่ต้องลงทุนมากเท่าการเปลี่ยนยางให้ใหญ่ขึ้นหรือเปลี่ยนสปริงและโช้ค

    ครับก็ไปหากันโคลง หรือที่บางคนเรียกว่าค้ำโช้ค

    ค้ำโช้คทำหน้าที่อย่างไร มีกี่ชนิด วัสดุอะไรบ้าง วันนี้ก็คงต้องแจงกันหน่อยครับ

    ประโยชน์ของค้ำหน้าและหลังบนหรือเรียกอีกอย่างว่า Upper Front and Rear Sturt Bar

    ทำหน้าที่ยึดที่หัวเป้าโช้คด้านบนทั้งซ้ายและขวา เหมือนกับเอาอะไรไปดาม(กดเกป้าโช้ค)ไว้ไม่ให้ดินตัว อาการต่างๆที่พูดมาเช่น
    - เวลาเข้าโค้ง(อย่างแรง)ท้ายบัด ไม่นิ่ง วิ่งโคลง ก็จะไม่โคลง รถนิ่งขึ้น-
    เวลาตกหลุม โดดคอสะพาน มีความรู้สึกว่าจั้ม ทรงตัวไม่ดี ก็จะทรงตัวดี เวลาโดดสะพานก็จะคุมได้
    - เวลาเจอน้ำขั้งข้างทาง(อย่างเช่นในกรณีฝนตกเป็นต้น) บางทีเรามาด้วยความเร็วทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ ก็สามารถลุยได้
    - เวลาวิ่งทางตรงด้วยความเร็วสูงๆ มีความรู้สึกว่าเหมือนจะลอย ไม่นิ่ง โคลงบ้างอะไรประมาณนี้ ก็จะไม่ลอย
    จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และอีกอย่างนึงในกรณีเกิดการชน ก็จะไม่ทำให้ตัวถังบิดตัว

    ประโยชน์ค้ำหลังหน้าและล่างล่างหรือเรียกอีกอย่างว่า Lower Arm Front and Rear

    ทำหน้าที่ยึดบูทปีกนกซ้ายและขวาไม่ให้ดิ้น เมื่อไม่ดิ้น เวลาตกหลุมจะไม่เกิดอาการเซเช่นกัน อาการอีกอย่างนึงคือเวลาตกหลุมบ่อยๆหรือกระแทกๆบ่อยๆ ก็จะทำให้ศูนย์ล้อที่ตั้งไว้เปลียนเร็วกว่าปกติ เมื่อศูนย์ล้อเปลี่ยน ก็จะทำให้เกิดอาการต่อมาคืออาการกินยางซึ่งอาจจะเกิดกินได้ทั้งด้านในและ ด้านนอก เมื่อใส่ค้ำล่างหลังลงไปก็จะทำให้ศูนย์ที่ตั้งไว้ไม่เคลื่อน(มากจนเกินไป) เมื่อศูนย์ที่ตั้งไว้ไม่เคลื่อน อาการกินยางก็ไม่เกิดขึ้น และทำให้การเข้าโค้งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด(ในกรณีค้ำล่างหลัง) (อันนี้สังเกตจากการขับของผมเอง เวลาขึ้นห้างที่มีทางโค้งๆหักศอกหรือโค้งเยอะๆ ผมจะลองเข้าเร็วๆ ปกติท้ายมันจะปัด ผลจากการใส่คือเข้าโค้งนิ่งขึ้น และเข้าใจว่าเวลาDriftแล้วไม่ให้บัดต้องมีอะไรมาช่วยคงประมาณนี้เหมือนกัน)

    คราวนี้ก็มาถึงเรื่องที่ว่าวัสดุที่ใช้ทำค้ำโช้คมีหลายๆวัสดุ

    เช่น เหล็ก สแตนเลด อลูมิเนียม ไทเทเนียม

    เหล็ก (Steel) เป็นวัสดุที่ดีราคาถูก สามารถบิดตัวได้เมื่อเกิดการกระเทือนแรงๆ เมื่อสะเทือนแรงๆก็สามารถเป็นสนิมเนื่องจากน้ำที่กระเด็นเข้าจากใต้ท้องรถ (เช่นกรณีลุยฝนเป็นต้น) ราคาขายค่อนข้างถูกเนื่องจากทำง่าย

    สแตนเลส (stainless steel )เป็นวัสดุที่ราคาขึ้นมาจากเหล็ก โลหะผสมเหล็ก ที่มีโครเมียมอย่างน้อยที่สุด 10.5% แข็งดีเหมือนเหล็ก ไม่เป็นสนิม เงา แต่บิดตัวเมื่อสะเทือนแรงๆ(อย่างแรงมาก) ราคาขายแพงกว่าเหล็กไม่เท่าไร แต่ก็พอได้

    อลูมิเนียม (Aluminium)เป็นวัสดุที่แพงขึ้นมาจากสแตนเลด แข็งกว่าสแตนเลด ไม่เป็นสนิม มีการยืดหยุดตัวสูง แข็งแรง และน้ำหนักเบา มีการใช้อะลูมิเนียมในอุตสาหกรรมหลายประเภท เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ราคาขายตามท้องตลาดแพงกว่าเหล็กและสแตนเลด บางอันเกือบถึงหมื่นก็มี(ในกรณีเป็นของนำเข้า ถ้าเมืองไทยก็ไม่เท่าไร)

    ไทเทเนียม (Titanium) เป็นวีสดุที่แข็งแรงทนต่อการกัดกร่อนของคลอรีนและน้ำทะเลมีน้ำหนักเบา ในโลหะผสมที่ผสมกับเหล็กและอะลูมิเนียมจะเป็นโลหะสีเงินขาวเบาและแข็งแรงมาก ราคาแพงกว่าอลูมิเนียม ซึ่งถ้าเป็นไทเทเนียมแท้(จากนอก) ราคา(ค้ำโช้ค)จะเกินหมื่นแน่นอน(ในกรณีของนอก)

    ครับที่เล่ามาทั้งหมดก็เป็นความรู้เพื่อคนที่จะเข้ามาศึกษาหาประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้

    ต้องยอมรับว่าเมื่อก่อนเล่นรถไม่มีข้อมูลดีๆเหมือนสมัยนี้ หาได้ตามเน็ต ตามคลับรถ

    ก็เอามาฝากๆกันนะครับ
     
  28. THIRD_R30

    THIRD_R30 Active Member VIP

    2,482
    14
    38
    55555
    ชอบๆๆคืนนั้นๆๆๆ อิอิ
     
    ฮ่าๆๆๆๆๆๆ...............จัดไปวินนนน
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้