1. ไข้แซงปาด ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการทรงตัวไม่ได้ อาจจะเป็นผลพวงจากน้ำในหูไม่เท่ากัน จึงต้องขับเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวา ปาดคันนู้น คันนี้ แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม...(เช่น อยู่คันข้างหน้าเรา ปาดไปปาดมาหลายรอบ ก็อยู่คันข้างหน้าเราอยู่ดี...แล้วจะปาดทำไม) นอกจากนี้ ไข้แซงปาด อาจจะเกิดจากอาการท้องร่วงตลอดเวลา หากอยู่นิ่งอยู่กับที่อาจทำให้เล็ด ไปไม่ถึงที่หมาย 2. ไข้แซงขวา อาการของโรคนี้ใกล้เคียงกับไข้แซงปาด เพียงแต่ไม่สามารถทรงตัวอยู่ในช่องของตัวเองและทนไม่ได้กับการต้องมีแถวรถ ขวางอยู่ข้างหน้าในขณะที่รอเลี้ยวซ้าย เพื่อให้ได้อรรถรสในการขับขี่ จึงต้องขับออกเลนขวาแล้วเสี่ยงชีวิตประสานงาเพื่อปาดคันที่อยู่ในแถว และโรคนี้เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง เมื่อมีผู้หนึ่งเป็นแล้ว ก็จะมีผู้ขับขี่คันหลังๆ มีอาการตาม 3. ไข้หนาว สังเกตอาการได้จาก อาการหนาวสั่นผิดปกติ จึงต้องขับให้ใกล้ชิดก้นคนอื่นมากที่สุด เว้นระยะห่างขนาดหัวแมวยังเข้าไม่ได้ แม้ว่าเราจะขยับรถแม้เพียง 1 เซ็น ก็ยังอุตส่าห์ขยับตามเพื่อให้ได้ความอบอุ่น สร้างความเสียวเป็นระยะๆ (และหัวแมวก็ยังเข้าไม่ได้อยู่ดี) และยังอาจมีอาการแทรกซ้อน คือ แม้จะขึ้นชื่อว่าไข้หนาว แต่อาจมีอาการใจร้อน เกิดภาวะลมปราณไม่ปกติ ทำให้สมองไวต่อแสงสีเขียว ทันทีที่เห็นสัญญาณไฟเขียว สมองจะส่งสัญญาณไปที่มือให้ตบแตรเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สร้างความต๊กกะใจให้กับผู้ขับขี่คันข้างหน้า .... แม้ว่าจะเห็นๆอยู่ว่ามันยังไม่ขยับ ก็ขอให้ได้สัมผัสแตร (แล้วมันจะไปได้ยังไงว้า.... บินได้ก็บินไปเองสิเพ่...) 4.ไข้คร่อม ผู้ที่เป็นโรคนี้ มักมีความสับสนในตัวเอง ไม่แน่ใจว่าจะไปซ้ายดี หรือไปขวาดี เมื่อยังไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงเลือกที่จะเดินทางสายกลาง คือ คร่อมเลนมันซะเลย สร้างความปั่นป่วนให้กับผู้ขับขี่ที่ตามมาทั้งซ้ายและขวา ต้องตั้งจิตสมาธิในการเดาใจผู้ป่วยว่าจะเลือกทางสายใด หากอาการนี้ปรากฏอยู่นานเท่าใด ก็จะอายุสั้น (เพราะได้รับคำสบถและคำสาปแช่งจากรถที่ตามมา) มากขึ้นเท่านั้น 5. ไข้เต่า ผู้ที่เป็นโรคนี้ มักเข้าใจว่าตัวเองขับรถเร็ว หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนกำลังขับรถบนถนนของประเทศสหรัฐอเมริกา อาการที่ปรากฏคือ ไม่สามารถขับรถชิดเลนซ้ายที่มีรถขับขี่ในความช้าเท่ากัน จะเกิดอาการขวางหูขวางตาต้องขอให้เป็นผู้นำ อยู่เลนขวาสุดที่ไม่มีรถอยู่ข้างหน้า (แต่มีรถตามข้างหลังมาเป็นขบวน) และยังอาจมีอาการตาพร่ามัวมองไม่เห็นป้าย ?ขับช้า ชิดซ้าย? หรือไม่ก็สติสัมปชัญญะสับสนยังแยกแยะไม่ถูกระหว่างซ้ายกับขวา อาการเช่นนี้อาจทำให้ผู้ขับขี่ที่ตามมาเกิดอาการโรคไข้ปาดในระยะเริ่มต้นได้ 6. ไข้พุ่ง ผู้ที่ขับขี่ต้องระวังโรคนี้เป็นอย่างยิ่ง พบมากในผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพราะผู้ที่มีอาการของโรคนี้จะมีอาการบกพร่องในการควบคุมสมองและสายตาในการ คำนวณว่ารถของท่านจะมาด้วยความเร็วเท่าไหร่ ระยะแค่ไหน แต่ประสาทจะสั่งการให้เขาต้องเหยียบคันเร่งพุ่งออกมาอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้ขับขี่ รวมถึงผู้ป่วยหลายคนเหยียบเบรกกระทันหัน (รู้ไม๊ ว่าฉันต้องเหยียบเบรกกกกก) เสียการทรงตัว และต้องเสียชีวิตจากอาการนี้หลายราย ซึ่งทั้ง 6 อาการนี้ มีอาการร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ ความประมาท ไม่ว่าจะมีอาการมากน้อยประการใด หากไม่รีบรักษาความประมาทให้หาย ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้อื่นได้ หากท่านพบเห็นโรคอย่างอื่น กรุณาร่วมด้วยช่วยกันแจ้ง เพื่อที่ถนนจะได้ปลอดโรค ลดอุบัติเหตุต่อไป ปล. เครดิตจากพี่ Show Aof ในไก่ก่านะคับ
555+ ขอบคุงทุก ๆ ท่านนะคับ ว่าแล้วก้อเรียนเชิญเข้าไปเล่นกันได้นะคับที่ ไก่ก่า พาไข่สั่นนะคับ ผ่อนคลาย หายเคลียดคับผม
เหอะ ๆ โทษทีคับผม ช่วงนี้เว็ปที่ไปฝากไฟล์ไว้อ่ะคับ มันมีปัญหาง่ะคับ ลองเข้าไปดูเรื่อย ๆ นะคับ พี่น้อง รับรอง แล้วคุณจะ ไข่สั่น