เอามาจากพันทิพครับ ไอโจรนี่มันเลวววววววเชี่ยชาติมาก มีรูปรถที่ถูกมันขโมยไป ยังไงรบกวนเพื่อนๆช่วยดูกันนิดนึงนะครับ ใครที่จะซื้อขายรถกันอ่านเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ก็ดีครับ จะได้ระวังๆตัวกัน ลิงค์จากพันทิพนะครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V9239717/V9239717.html ยาวหน่อย แต่เจ้าของกระทู้เล่าได้น่าติดตามมากครับ ลองอ่านกันดู แล้วช่วยดูรถตามรูปด้านล่างให้หน่อยนะครับ เตือนภัยค่ะ...เราเสียรถไปฟรี ๆ 1 คัน ต่อหน้า ต่อตา T T vote [ถูกใจ] [แจ้งลบ] สวัสดีค่ะ..มาวันนี้ อยากจะมาเตือนภัย ให้ระวัง กลุ่มมิจฉาชีพ สมัยนี้นะคะ น่ากลัว และ อันตรายมาก ๆ ค่ะ...เราเจอมากับตัวเราเอง ตอนแรกลงเรื่องไว้ที่ห้องชานเรือนค่ะ แต่เพื่อน ๆ ก้แนะนำให้เอามาลงที่ห้องนี้ด้วย...กระทุ้เรายาวนะคะ ตอ้งขออภัยล่วงหน้านะคะ.. เรื่องมันมีอยู่ว่า...เรา และ สามี สมัย ที่ยังไม่มีลูก พวกเราก็เริ่มสร้างฐานะกัน..จนพวกเรา หาซื้อ แท็กซี่ ปลดป้ายได้ในราคาถูก ๆ...สามีเราบอกว่า "ไม่สวย ไม่เป็นไรนะ ใช้ต่างเท้า" เรา ซื้อรถคันนี้มาในราคา ห้าหมื่น บาทเอง...เรียกว่า ตอนที่ซื้อ มันเหมือนซาก มากกว่า รถ ซะอีก...คนอื่นมักดูถูก เช่นว่า "มันวิ่งได้ด้วยเหรอ" "หมาเห่ามันจะบุบไหม" "รถดูสกปรกจัง" ... แต่เสียงเหล่านั้น ทำอะไรเราสองคนไม่ได้ เพราะเราเคยไม่มีรถ เคยโหนรถเมลล์ เรารู้ดีว่ามันทรมารแค่ไหน...ฉะนั้น พอเราเก็บตังค์ซื้อรถได้ ไม่ว่ามันจะสภาพไหน...เสียงดูถูกเหล่านั้น ละลายหายไปในอากาศ.. สามี เราใช้เงินในการแต่งรถไป แสนกว่าบาท...ทำสีใหม่ วางเครื่องใหม่ ใส่แม็กขอบ 16 นิ้ว ติดสรัทปรับเกลียว เพราะสามีชอบรถโหลด ๆ ทำแอร์ใหม่ เปลี่ยนจากเกียร์ธรรมดา เป็น ออโต้ เปลี่ยนไฟหน้าใหม่... ตอนไปรับรถ ออกมาจากอู่ เรียกว่า "สวย" ได้คำเดียว "สวยมาก" ช่วงนั้นเป็นช่วง ที่เรา คลอดลูกสาวแล้ว..แต่เราก็ยังทำงานออฟฟิตอยู่..พอเราไปทำงาน เราก็จะยกรถขึ้น เพราะจะได้ขับได้สบาย ๆ...แต่พอไปปาร์ตี้ กับ เพื่อน ๆ สามีเราก็จะโหลดรถลง ให้มันกอง ๆ กะพื้น... เราทำงานได้สักพัก ก็มีเงินเก็บมากพอ เราเลยออกจากงานมาเปิดบริษัทฯ เองที่บ้าน.. แล้ว เราก็เริ่มท้องลูกคนที่สอง ณ เวลานี้ ก็เหลืออีก สองเดือน จะคลอดแล้วค่ะ.. การ มีรถโหลด หรือ รถแต่ง เป็นเรื่องลำบากสำหรับเราแล้ว เพราะ มันกระแทกมาก ๆ เวลาที่มันผ่านเนิน หรือ หลุม และเราก็ท้องแก่... จะยกรถขึ้นขับเดิม ๆ ก็ ลำบาก เพราะ โช็ค มันโดนตัดให้สั้น คือยก ยังไงมันก็ไม่สูง เหมือนรถธรรมดา ๆ ... เรา และ สามี เลยปรึกษากันว่า เราน่าจะมี รถครอบครัวไว้สักคัน...เพราะอีกหน่อย..ตัวเล็กคลอดแล้ว ต้องพาไปฉีดวัคซีน บ่อย ๆ นั่งรถโหลด ๆ ไป เดี๊ยวคอลูกเป็นอะไรไป...อีกอย่างเราผ่าคลอดด้วย...เดี๊ยวจะเจ็บแผล.. แล้ว เวลาที่เราไปวัด กับแม่เราเอง เราต้องขับไปรับแม่ แม่มักพาเพื่อน ๆ ไปด้วย.. รถเล็ก ๆ โหลด ๆ คงพาแม่ไปวัดไม่ทันพระฉันท์เพล... เรา เลยตัดสินใจ ซื้อรถใหม่กันค่ะ..ซึ่งครั้งนี้ไม่ยาก เหมือนครั้งแรก เพราะมีตังค์พร้อม...ดูคันไหนถูกใจ ซื้อเลย... เมื่อวันศุกร์ที่ แล้ว...เราก็ได้จองรถใหม่มาหนึ่งคัน เป็นรถมือสองนะคะ...แต่เรายังไม่ได้รับรถมา เพราะเรารอ เรื่องไฟแนนซ์ กับเรื่องประกัน ให้เรียบร้อยก่อน ก็น่าจะวัน พฤหัส หรือ ศุกร์นี้แหละค่ะ... ทีนี้..สามีเราเห็นว่า..ควรจะขายรถคันเก่า ไป...เพราะว่า อีกหน่อยคงไม่ได้ขับรถแต่งอีก..จอดทิ้งไว้ก็เสียดาย ที่จอดก็ไม่พอ ไหนจะรถแท็กซี่ของป๊า ไหนจะรถที่เพิ่งซื้อใหม่...3 คัน ไม่มีที่จอดค่ะ.. อีกอย่าง ขายรถคันเก่าไป เราก็จะได้มีตังค์ ไว้ใช้จ่ายในครอบครัวด้วย...พอคิดได้อย่างนี้...สามีเลยลงประกาศ ขายรถคันเก่า พร้อมแปะรูปไปด้วย ในเว็บ.. พร้อมกับบอกราคาไปด้วยว่า ขาย 130000 แล้วแจ้งรายละเอียดไปว่าเราทำอะไรกับรถไปบ้าง... ตอนแรก เราก็ขับไปขายที่เตนท์แหละค่ะ แต่พอเค้ารู้ว่าเป็นแท็กซี่ปลดป้ายมา.. เค้า ก็กด ราคา ซะน่าเกลียด ให้ ห้าหมื่นมั่ง หกหมื่นมั่ง..แล้วเค้าก็ให้เหตุผลว่า รถแต่งน่ะ ขายยาก แถมยังทำสี มาอีก... สามี เราเลยประกาศในเว็บแทน เผื่อมีใครชอบรถแต่ง รถสวย ๆ เครื่องแรง ๆ โหลด ๆ .... มีต่อค่ะ สามีเราลงโฆษณาไป วันเสาร์ที่ผ่านมา...พอวันอาทิตย์ ก็มีคนโทรมาติดต่อแล้ว.. ตอนแรก เราไม่คิดว่ามันจะขายได้เร็วขนาดนี้เลย นึกแล้วก็เสียดาย มันเป็นรถที่ร่วมฝ่าฟันกันมา...T T คนแรกที่โทรมาชื่อคุณเอก..โทรมา ตอน 9.00 น. เค้าบอกว่า เค้าเป็นเตนท์รถนะ.. เตนท์เค้าอยู่ที่ ลาดกระบัง ข้าง ๆ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง...สามีเราก็ เอะใจ เพราะเตนท์รถ เค้าไม่รับรถแต่งนี่นา... ก็เลยถามเค้าว่า "พี่ เป็นเตนท์ พี่จะรับรถผมเหรอ รถผมเป็นแท็กซี่มาก่อนนะ" เค้าว่า...เค้าไม่สนใจ ว่า เป็นรถอะไรมาก่อน สามีเราจะเป็นเจ้าของคนที่เท่าไหร่.. เค้าสน แต่ว่า...รถเราแต่งมาแล้ว ทำมาแล้ว มากสุดเค้าก็แค่เปลี่ยนเบาะให้มันดูซิ่ง ๆ หน่อย ก็ขายได้แล้ว...อีกอย่างเตนท์เค้า เน้นขายแต่รถแต่งอย่างเดียว.. เรา เลยบอกสามี ให้ถามคุณเอก (ซึ่งต่อไปจะใช้คำว่า "ไอ้เอก") ว่า ในเมื่อเค้าเป็นเตนท์ เราขอเว็บไซด์เค้าหน่อย..เราจะเข้าไปดูรถเตนท์เค้า และจะดูแผนที่เตนท์เค้าด้วย... สามีเราก็ถามเค้าไป เค้าตอบมาว่า เค้าไม่มีเว็บไซด์ เพราะเค้าเน้นลูกค้าขาจร มากกว่าขาประจำ... เค้า บอกว่า ถ้าจะขายให้เค้า ให้ขับรถไปให้เค้าดูที่ลาดกระบัง ลงทางด่วนบางนา แล้วโทรหาเค้า เค้าจะบอกทางไปต่อให้... แล้วเค้าจะให้เงินสด 130000... สามี กับ เราก็รู้สึกแปลก ๆ เลยบอกเค้าไปว่า "วันนี้ไม่ว่างหรอก อีกอย่างเตนท์พี่ไกลมาก ผมอยู่ถึงสามพราน ขอคุยกับแฟนก่อน แล้วจะโทรไป" หลังจากวางสายไป พวกเราก็ไม่วางใจเค้าเลยซักนิดเดียว...ที่ไม่ไว้ใจเนี่ย บอกตรง ๆ เลยว่า...ไม่คิดว่าเค้าเป็นคนร้าย หรือ อะไรนะ.. แต่คิดว่า เค้าเป็นเตนท์น่ะ แล้วให้ขับไปถึงลาดกระบัง ขับไปแล้วไม่เอา ก็เสียเที่ยว เสียเวลา...มันอยู่คนละขั้วโลกเลยนะ สามพราน กะ ลาดกระบังเนี่ย... หลัง จากนั้น ก็มีคนติดต่อมาเรื่อย ๆ เรียกว่า สามีเรา คุยโทรฯ จนปากแห้งเลย... แต่ รายอื่น ๆ เค้าก็ แค่ คุยรายละเอียด คุยเรื่องปัญหารถ แล้วนัดขอดูรถ ขอลองขับ... ซึ่งเราน่าจะเอะใจแล้วนะว่า..ใช่สิ คนซื้อรถเค้าต้อง ถาม ๆๆๆๆๆ เยอะ ๆ ก่อน แล้วค่อยขอลองขับ ขอนัดดูรถ...แล้วค่อยต่อรองราคา หรืออะไรก็ว่ากันไป... เพราะของมันไม่ใช่บาท สองบาท มันเป็นแสนนะ...แต่พวกเราก็ไม่เอะใจในตอนนั้น T T จนตอนเย็น เราจะไปหาแม่ ที่บ้านป้า รถเราเกิดสตาร์ท ไม่ติด..ทำยังไงก็ไม่ติด.. สามี เราดูแล้ว ดูอีก ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ..รถเราไม่เคยเกเรแบบนี้เลยนะ... สุด ท้าย สามีต้องไปตามช่างมา ช่างมาดู ปรากฏว่า... น้ำมันหมด..เฮ้ย อะไรกัน หมด ได้ไง...เราไม่เคยปล่อยให้น้ำมันหมดนะ...ให้ช่างเช็คดูว่า ถังน้ำมันรั่วหรือเปล่า..ก็ไม่รั่ว ไม่เป็นอะไรเลยน่ะ.. ช่างเลยไป ซื้อน้ำมันมาเติมให้...มันก็สตาร์ทติด...เราก็พาลูกสาวขึ้นรถ ไปหาแม่กัน... ระหว่าง เราก็งง กันว่า น้ำมันหมดได้ไง..ตกใจตั้งนาน นึกว่ารถเป็นอะไรมากหรือเปล่า ที่แท้ก็น้ำมันหมด... สามีเราว่า เนี่ยเป็นบทเรียน...ให้เราต้องรอบคอบมากกว่าเก่า... เราก็ไม่รู้นึก อะไรบอกสามีไปว่า...มีคนเคยบอกว่า คนเราเนี่ย มันจะเป็นเหมือนลูกกลม ๆ นะ...พอมีผู้ใหญ่ หรือ ใครมาสอนอะไรเรา...จากที่เราเคยกลม ๆ เราก็จะมีเหลี่ยมเพิ่มขึ้น ที่ละเหลี่ยม ๆ จนกลายเป็นประสบการณ์... แต่ ถ้าเราโดนใครหลอก...เหลี่ยมเราก็จะโดนลบไปทีละเหลี่ยม ๆ ...ถ้าโดนหลอกบ่อย ๆ เราก็จะกลับมา "กลม" เหมือนเดิม... ไม่คิดเลย ว่าคำพูดนั้น จะกลับมาสอนเราเอง...ตอนนี้เรากลมจนจะกลิ้งได้อยู่แล้ว T T ต่อค่ะ... พอไปถึงบ้านป้า สามีเรา ก็คุยกับพี่ชาย ที่เป็นลูกป้าว่า จะขายรถแล้วนะ...พี่ชายเค้าก็บอกว่า เค้าก็อยากขาย..(คือพวกเค้าเป็นแก็ง รถแต่งน่ะค่ะ แต่พอมีลูกกันแล้ว ปัญหามันเริ่มเกิด) พี่ชาย เค้าอยากเปลี่ยนมาเป็นรถครอบครัวเหมือนกัน...เพราะลูกสองแล้ว... แล้ว เค้าก็อยากให้ ภรรยาเค้าหัดขับ เกียร์ออโต้ด้วย... ไม่นานค่ะ ไอ้คุณเอก ก็โทรมาที่สามีเรา...มันบอกว่า มันมาดูรถแถว บางใหญ่ ตอนนี้เสร็จแล้ว กำลังจะกลับ จะผ่านทาง เดอะมอลล์ บางแค... มันบอก ว่า มันเอาตังค์ติดมาด้วย 130000 ตอนแรก จะมาเอารถอีกคันนึง..แต่พอไปดูแล้วไม่สวย เลยไม่ได้ซื้อ...เลยนึกถึงพวกเรา... มันถามว่า เราจะออกมาได้ไหม เอารถไปให้มันดู แล้วมันจะจ่ายตังค์เลย... สามีก็บอกว่าขอ โทรกลับ...แล้วเค้าก็ถามเราว่าจะเอายังไง เค้ามาถึงเดอะมอลล์ บางแค แล้ว... ตอน นั้น มันก็เอะใจอีกค่ะว่า..บ้าป่าววะ มาดูรถเอาตอนมืด ๆ เนี่ยนะ จะมองอะไรเห็นล่ะ...สามี กับ ทุกคนที่บ้าน ก็เห็นเหมือนกันว่า บ้าป่าววะ... แต่ พี่ชาย เค้าบอกว่า เอาไปให้เค้าดูก็ไม่เสียหาย เค้าอยากเอารถเค้าไปให้ช่วยตีราคาให้ด้วย..แล้วถ้ารถเราขายได้ พวกเราก็นั่งรถพี่ชายกลับ เค้าจะขับไปส่งที่บ้าน... พอตกลงตามนั้น ได้...สามีเราก็โทรหาไอ้คุณเอก บอกว่ากำลังจะออกไป..มันบอกว่า มันถึงแล้ว นั่งกินกาแฟ รออยู่ที่ปั๊ม... สามีเราว่า...จะเอารถพีชายไปให้ดูด้วย นะ ..มันว่า เป็นรถแต่งหรือเปล่า...สามีเราก็บอกว่าแต่ง... เป็น Honda Accord ไฟท้ายก้อนเดียว ลงแม็กซ์ 17 นิ้ว ติดไฮโดรลิกซ์ มัน บอกติดไฮโดรลิกซ์ ด้วย เอามาให้มันดูเลย ถ้าสภาพสวยจริง มันให้ 220000 พวก เราก็เอารถไป กันสองคัน คือรถเรา กับ รถพี่ชาย..พี่ชายก็เอาลูกชายไปด้วย 2 คน... พอขับไปถึงปั๊ม...มันจะ มีม้านั่งหินอ่อน อยู่ข้าง ๆ มินิมาร์ท มีผู้ชายกลุ่มนึง นั่งอยู่..พวกเค้าก็หันมามองรถเรากัน... สามี เราก็นึกว่า เป็นพวก ไอ้คุณเอก..เค้าก็ลงไปถามว่า "คุณเอกใช่ไหมครับ" เค้า ตอบว่า "ใช่" .. สามีเราถามว่า "ที่นัดกับผม ว่าจะมาดูรถใช่ไหม" เค้า ตอบว่า " อ๋อ งั้นคงไปอีกเอกนึง นั่งอยู่ในร้านกาแฟ" แล้วเค้าก็ชี้ไปที่ร้านกาแฟ..(จริง ๆ เราก็น่าจะเอะใจ ได้อีกเรื่องแล้วนะ...) สามีเราก็เดินไปที่ร้าน กาแฟ...เจอไอ้คุณเอก ตัวจริง...โอ๊ยย เราเห็นแล้วจะเป็นลม...เนี่ยนะ เจ้าของเตนท์ ...มันดูเป็นเด็กมาก ๆ .. สูงประมาณ 160 ผมเกรียน ๆ ใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงสีน้ำตาลอ่อน สี่ส่วน...หน้าแบน ๆ หัก ๆ ปาก หนา ๆ ... มันก็ เดินมาที่รถเรา...มันทักเลยว่า ไม่เห็นรถเตี้ย เหมือนในรูปเลย... สามี เราก็ว่า "ผมยกขึ้นพี่ แฟนท้องแก่แล้ว นั่งโหลด ๆ ไม่ไหว" มันก็เดิน มา เคาะ ๆ รอบรถ..มันบอกให้เปิดกระโปรงหน้ารถ ขอดูเครื่องหน่อย...พร้อมกับบอกให้สามี สตาร์ทรถ..สามีเราก็ทำตาม มันบอกให้ลองเร่งเครื่องดู...สามีเราก็เร่งเครื่องให้มันดู... มัน บอก เสียงเครื่องแรง เสียงหวานมาก ภายในสวย... แล้วมันก็เดินไปที่รถ พี่ชาย...บอกให้กดไฮโดรลิกซ์ ปรับขึ้น ปรับลงให้ดูหน่อย...พี่ชายเค้าก็ทำตาม...จากนั้นมันบอก สภาพสวย แบบนี้ ผมให้ 220000 เลย... แล้วมันก็ให้พวกเราทั้งหมด ไปนั่งในร้านกาแฟ...ไปคุยกันเรื่องเอกสาร... มันถามเราว่า เราเอาเอกสารมาครบไหม เราก็ว่า "ครบ" เราถามมันว่า "คุณเอก ดูเด็กกว่าตอนที่คุยกันทาง โทรฯ นะ" มันบอกว่า "ครับ ผมอายุ 25 พ่อให้ทุนมาเปิดเตนท์" แล้วมันก็หยิบเอกสาร ซื้อ- ขาย ออกมา...ตายห่ะ ซื้อรถทั้งคัน มีเอกสารมา 2 ใบ... ใบแรกเป็น สัญญา ซื้อ-ขาย ไม่มีหัวบริษัทฯ ..ใบที่สอง เป็นสำเนาบัตรประชาชน...ที่ไม่ใช่ของมัน... เราถามว่า นี่สำเนาบัตรของใคร...มันบอกว่า เป็นของน้ามัน...ตัวมันเองอายุน้อย ยังทำธุรกรรมอะไรไม่ได้ เลยให้ น้ามันเซ็นต์สำเนาบัตรมา... เราถาม ว่า เซ็นต์มาทำไม...มันบอก "อ๋อ...ผมขับรถมากะลูกน้อง พอดีลูกน้องผม เอารถไปดูรถอีกคัน...เอกสารผม กับ เงินสด ที่จะซื้อรถอยู่ที่ลูกน้อง ผมเลยให้น้า เซ็นต์เช็คให้..." เราบอกว่า "ไม่เอาเช็ค ซื้อรถต้องเป็นเงินสด" มันก็อ้างว่า โอ๊ยย มันทำเตนท์มานาน ไม่เคยโกงใคร โกงไปก็ติดคุก มันอายุน้อย ยังไม่อยากติดคุก มีต่อค่ะ ต่อค่ะ... เราบอก ให้โทรหาลูกน้อง เอาเงินมาให้สิ...มันก็กดโทรฯ แล้ว ด่า ๆ กะลูกน้องมัน...มันบอก ลูกน้องมันอยู่บางใหญ่ มาไม่ทัน.. เราว่า..ไหนตอนแรกว่า เสร็จธุระที่บางใหญ่ แล้วไง มันบอก.."ใช่เสร็จแล้ว แต่ติดไปดูรถอีกคัน เลยให้ลูกน้องไป" พวกเราก็เลยบอกว่า งั้นไม่ขายแล้วกันนะ...เราก็จะกลับแล้ว...มันก็บอกว่า งั้นตามใจครับ พอ เราออกมาจากร้านกาแฟ...เราเกิดปวดท้องฉี่ขึ้นมา...เราก็บอกให้สามีเราดูลูก นะ จะไปเข้าห้องน้ำ... เหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นแบบเร็วมากอ่ะ.. สามี เราก็วิ่งจับลูกสาวเรา...พี่ชายก็วิ่งไล่ต้อนลูกชาย 2 คนที่วิ่งเล่นอยู่ให้ขึ้นรถ... อยู่ ๆ ไอ้คุณเอก มันวิ่งมา กระตุก กุญแจรถที่ห้อย อยู่ที่กระเป๋ากางเกง สามีเราน่ะ แล้วผลักสามีเราล้มเลย... แล้ว มันก็กระโดดขึ้นรถ..แล้วสตาร์ทเลย...เราวิ่งไปคว้าลูกสาวไว้่ แทบไม่ทัน.. เพราะ มันใส่เกียร์ถอย..แล้วเหยียบคันเร่งเลย..ลูกสาวเราอยู่ท้ายรถพอดีด้วย.. แล้ว มันก็ขับออกไปเลยอ่ะ...พี่ชายก็วิ่งมาไม่ทัน.. พวกเราเลยกระุโดด ขึ้น รถพี่ชาย...แต่..เจ้ากรรม..พี่ชาย ดันโหลดรถลงมาซะติดพื้น...ตอนให้ไอ้เอกมันดูรถ... เลยต้องเสียเวลา กดปุ่มยกขึ้นอีก... เรารู้เลยว่า ไปไม่ทันรถเราแล้ว เพราะรถเรายกขึ้น ไม่ได้โหลด...ไอ้เอกมันคงเหยียบคันเร่งมิด..รถพี่ชายเราก็ตามไม่ทันหรอก... พอ เรารู้ว่า ไปไม่ทันรถเราแน่ ๆ...เราก็ให้สามีโทรแจ้ง จส.100 ให้เค้าช่วยแจ้งสกัดรถเราไว้...สามีเราก็โทรไป ส่วนเราก็โทรไปที่ 191 ซึ่งนานมาก ๆ กว่าจะติด... ที่ จส.100 ก็ถามรายละเอียด สามีเราก็บอก ลักษณะรถเราไป ซึ่งจำง่าย..เพราะรถเรา ทำสีทองมา...สีทองแบบ ท้องงง ทอง..บอกว่า ด้านหลังติดสติ๊กเกอร์ อะไร...ทะเบียนรถอะไร...รถยี่ห้ออะไร.. แต่..สถาน ที่ ที่มันนัดเจอเรา มันเป็นถนน สายที่ ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะไปทางไหนได้น่ะ.. ตอนแรก มันบอกว่า ปั๊ม ข้าง เดอะมอลล์ บางแค ซึ่งก็คือ ถนน เพชรเกษม พอไปจริง ๆ ไม่เจอมัน..โทรถามมัน มันบอก ไม่ใช่คนแถวนี้ เลยบอกผิด...จริง ๆ มันนัดให้ไปที่ปั๊ม ที่อยู่เลย เดอะมอลล์มา เส้น วงแหวน กาญจนาภิเษก... ซึ่งถนน เส้นนี้ มันสามารถทะลุออกไปได้หลายทางมาก ๆ ... จส.100 ถามว่า รู้จักชื่อจรีิง นามสกุลจริงมันไหม เราบอกว่า มันบอกว่า ชื่อ XXX ...แต่เราไม่เห็น บัตรประชาชนตัวจริง เพราะมันอ้างว่า...อยู่บนรถ..ที่ลูกน้องมันขับไป.. แล้วเราก็บอก ชื่อน้ามัน บนสำเนาบัตรประชาชน ที่มันให้พวกเราดู...ให้ จส.100 ช่วยตรวจสอบ.. มีต่อค่ะ จส.100 แนะนำให้เราไปแจ้งความไว้..สำหรับทาง จส.100 เองนั้น ถ้าเค้าเจอรถ เค้าสามารถแจ้งหยุดรถให้เราได้... พวกเราเลยไปแจ้งความที่ สน. พี่ตำรวจก็ดีมาก ๆ พาสามีเราขึ้นไปที่ห้องวิทยุ...ให้ตำรวจ เค้าช่วย วอ. สกัดรถให้ เพราะเพิ่งคลาดกับมันมาแค่ ครึ่งชั่วโมง.. แต่พี่ เค้าก็ให้ทำใจไว้นะ ว่าจะไม่ได้คืน...คดีแบบนี้มีทุกวัน ไม่เคยทันพวกมันเลย... พี่ตำรวจบอกว่า นี่ไม่ใช่พื้นที่เค้า เค้าให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ อีก สน.นึง...พวกเราก็ไปที่ สน.นั้น.. แต่ ที่ สน.นั้น เค้าไม่ฟังอะไรพวกเรา้เลย ว่าสามีเราอย่างเดียว ว่า ไม่รอบคอบ ขายรถทั้งคัน จะเอาเช็ค ได้ยังไง...เค้าไม่รับแจ้งความ สามีเราก็ ย้ำ แล้วว่า ไม่ได้รับเช็ค ไม่ได้ขายมัน มันมาปล้นไป...พี่ตำหนวด ยังจะถามอีกว่า...แล้วจะให้ไปจับใคร...T T เราบอกว่า ไม่ต้องจับก็ได้ ช่วยสกัดรถไว้ก็ได้ อยากได้แต่รถคืน... สักพัก จส.100 โทรมา ที่สามีเรา บอกว่า จะให้สามีเราออกอากาศ... พี่ตำหนวด บอกว่า นี่แจ้ง จส.100 แล้วเหรอ..พวกเราก็บอกว่า แจ้งแล้ว พี่เค้า เอามือเกาหัว...สามีเราพูดออกอากาศ ของ จส.100 ขอร้อง ใครก็ตาม ที่พบเห็นรถเรา ช่วยแจ้งมาทางเราด้วย...แล้วเค้าก็บอก รายละเอียดรถเราไป แล้วดีเจ ก็บอกสามีเราว่า ...ตอนนี้ มีความคืบหน้ามาแล้ว...ว่า เค้าสามารถติดต่อกับคุณ XXX ได้แล้ว ก็คือคนที่ ไอ้เอก มันอ้าง ว่ามันชื่อนี้ นามสกุลนี้แหละ... เค้าต่อสาย ให้สามีเราคุยกับคุณ XXX ออกอากาศด้วย ปรากฏว่า ตัวจริง เป็นลุงอายุ 60 นั่งดูทีวี อยู่บ้านทั้งวัน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย... สามีเราก็ถามว่า ลุง เคยรู้จัก ผู้ชายอายุ 25 ลักษณะแบบนี้ ๆ บ้างไหม เค้าบอกว่า เท่าที่จำได้ไม่เคยรู้จักนะ... พอคุยกับลุงเสร็จ...จส. 100 ก็บอกสามีเราว่า ไอ้ชื่อ ที่ให้ไปที่บอกว่าเป็นน้าไอ้เอกน่ะ ที่มีสำเนาบัตรมาให้พวกเราดูน่ะ...เค้าเช็คให้แล้วเหมือนกัน...ปรากฏว่า ไม่มีคน ๆ นี้ในโลกนะ...T T จส. 100 ถามว่าแจ้งความหรือยัง สามีเราบอกว่า ไปที่สน. นึง มาแล้ว ตำรวจเค้าช่วย...วอ. เข้าศูนย์ใหญ่ให้แล้ว..แต่เค้าให้มาลงบันทึกอีกสน.นึง จส. 100 ถามว่า แล้วลงบันทึกหรือยัง สามีเราบอกว่า พี่ตำหนวด ไม่บันทึกให้..เพราะเค้าคิดว่า เราซื้อ ขายรถกันแล้วโดนหลอกธรรมดา... หลัง จากนั้น จส.100 ก็บอกว่าจะติดต่อมาเป็นระยะ ๆ...ขอบคุณ จส.100 มาก ๆ ค่ะ ที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี...รวดเร็ว และ สุภาพมาก ๆ ... พวก เราออกจาก สน. พี่ตำหนวด ก็วิ่งมาบอกว่า คุณลุง XXX แกโทรมาที่ สน.เมื่อกี๊ เพราะจส. 100 ติดต่อไปบอกว่า เราอยู่ที่ สน.นี้กัน แกโทรมาให้เบอร์มือถือไว้...เผื่อมีอะไร ได้โทรหาแกได้ พี่ตำหนวดบอก ว่า แกเป็นลุงแก่ ๆ อายุ 60 เองนะ..พวกเราก็บอกว่า เรารู้แล้ว...จส.100 เค้าให้คุยกันแล้ว.. พวกเราก็ออกจาก สน.ไป โดยที่ไม่ได้ลงบันทึก..พี่ชายก็ขับมาส่งพวกเราที่บ้าน... คืนนั้น นอนกันไม่หลับเลย เราแจ้ง 191 กับ ร่วมด้วยช่วยกัน เพิ่มด้วย... แต่ พอมาตอนเช้า ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า รถเราหายไปแล้วจริง ๆ ... ่เราบอก สามีให้ ปล่อยวาง...คิดซะว่า มันเป็นของนอกกาย...เดี๊ยว อาทิตย์นี้ เราก็ได้รถใหม่แล้ว... สามีเราบอกว่า เรื่องรถ ทำใจไว้แล้วว่า ไม่ได้คืนหรอก...แต่ที่เค้าเสียใจคือ ตอนที่เค้าล้มไปน่ะ ... แล้วเกิดเราวิ่งมาไม่ทัน มันถอยไปทับลูกสาวเรา...จะทำยังไงกัน... หรือ ถ้าเราหลวมตัว ไปหามันที่ลาดกระบัง ที่มันอ้างตอนแรก...พวกเราอาจโดนหมก อยู่แถวนั้นหรือเปล่า.. เพราะลำพังสามีเราน่ะ เค้าดูแลตัวเองได้...แต่เรา กับ ลูกสาว นี่สิ เค้าจะดูแลยังไงไหว.. เรา คิดแล้ว ก็ขนลุกน่ะ มันก็จริงนะ...พวกเราจะทำกันยังไง... ต่อค่ะ... เหตุเกิดมาเมื่อวัน อาทิตย์ ที่ผ่านมา นี่ก็วันอังคารแล้ว เราก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร...ทาง จส.100 มีน้ำใจ โทรมาหาเรื่อย ๆ ... เมือเช้าดูรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ แล้วเจอข่าว ที่เค้าจับพวก ชำแหละรถขาย... เห็น แล้วใจหาย สงสารเจ้าของรถที่ร่วมไปดูรถด้วย เหลือกันคนละชิ้น สองชิ้น จากรถทั้งคัน...มีผู้ชายคนนึง ร้องไห้เลย ในมือเหลือไฟอยู่ดวงเดียว... เรา กับสามี มาคิดกันว่า ตอนเราลงโฆษณา ขายรถ สามีก็จะลงว่า "ด่วน หาเงินทำคลอดเมีย ตัดใจขาย" ... ตอนนั้นเรายัีงว่า ทำไมต้องเขียนให้มันเวอร์ ด้วย...เราไม่ได้ร้อนเงินนี่ สามีเราว่า "เห็นบางคนก็เขียนว่า จำเป็นขาย น้ำมันแพง" เค้าเลยอยากเล่นมั่ง... เรา ก็มาคะเนกันว่า หรือพวกมันจะเลือกเหยื่อ ที่เห็นเป็นพวกร้อนเงิน.. นอก จาก เลือก ยี่ห้อ รุ่น พวกมันก็เลือก คนที่ร้อนเงินด้วยหรือเปล่า.. สามี เราไม่รอช้า รีบเข้าไปในเว็บที่ เราไปขายรถ ดูคนที่เขียนว่า ด่้วน ทุกคน แล้วโทรหาทุกคน...แล้วเตือนพวกเค้าว่าให้ระวัง เพราะเราโดนมาแล้ว เพราะ ที่เว็บนี้ เค้าไม่มีให้คอมเม้นท์ หรือ ตั้งกระทู้เตือน มีแต่เบอร์ติดต่อมือถืออย่างเดียว...สามีเราโทรหาทุกคนเลย ที่เขียนว่า "ด่วน"... เราเลยอยากให้เป็นอุทาหรณ์นะคะ ว่า อย่าเขียนอะไรที่แสดงว่า เราต้องการเงินด่วน...เพราะถ้าเราต้องการเงินด่วนจริง ๆ เราคงเอาเช็คมันมาแล้ว...แล้วผลก็เป็นเหมือนเดิม คือรถก็หาย แถม เช็คก็เด้ง.. นี่พอมันเห็นเราไม่เอาเช็ค มันเลยปล้นกันเลยค่ะ.. ตอน นี้เรากะสามี กลมเกลี้ยงอยู่กะบ้าน รถก็ไม่มี มองไปที่โรงจอดรถแล้วใจหาย...กว่าจะได้คันใหม่ก็วันศุกร์...แต่มันไม่ใช่ ประเด็นหรอกค่ะ.. ประเด็นคือ มันทำให้เรากลัวการซื้อขาย กับคนแปลกหน้า...กลัวโดนทำร้าย กลัวลูกเป็นอะไรไป... จบแล้ว ค่ะ...ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ... จาก คุณ : BOOTH_FON [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 08:43:07 [แก้ไข] รูปข้างล่างคือรถผู้เสียหายนะครับ ใครเจอทะเบียนนี้ สฬ1620 แจ้งจส.100ได้เลยครับ รบกวนช่สยเป็นหูเป็นตากันนะครับ อ่านแล้วเห็นใจเจ้าของกระทู้เลยครับ รถน้ำพักน้ำแรงตัวเองแท้ๆ กลับโดนโจรชั่วชาติขโมยไปซึ่งๆหน้าแบบนี้..
มีเรื่องเล่าเหมือนกัน ใน RCW หรือเปล่าจำไม่ได้ ประมาณว่า ลงขายรถไว้ แล้วมีคนโทรมานัดขอดูรถ บอกว่าดูแล้วถูกใจซื้อเลยแน่นอน กำเงินสดมา บอกว่า มาจากต่างจังหวัด นั่งรถทัวร์ สภาพที่มา คือดูซื่อๆ เหมือนคนต่างจังหวัดจริงๆ มาจากทางใต้พูดออกทองแดงนิดๆ มาคนเดียว ไม่ได้ขับรถมา ดูรถ วนไปวนมา ท่าทางไม่รีบ แต่บอกว่าก่อนตัดสินใจ ขอลองขับหน่อย เจ้าของรถก็ยินดี และนั่งไปด้วย ลองแถวมอเตอร์เวย์ เป็นรถแต่งต้องซัดยาวๆหน่อย และแล้วมีจังหวะ ก็ชักปืนออกมาบอกว่าให้เจ้าของลงไปจากรถ ปล่อยลงกลางทางซ่ะงั้น ขับรถหนีไปเลย กว่าเจ้าของจะตั้งตัวได้ รถก็ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ยังไงก็ระมัดระวังด้วยนะครับ โจรรายนี้เกือบจะเชิดรถพี่ผมไป พอดีว่า รถมิดไปก่อนในตอนเช้า ซึ่งเช้าวันนั้น เป็นวันนัดขายให้กับโจรรายนี้ โหย ทำดีตลอด คุยดี แถมเราเลี้ยงข้าวให้อีก อยู่เป็นเพื่อนตอนรถมิดตั้งแต่เช้าจนถึงมืด แต่สุดท้าย เชิดโทรศัพท์เพื่อนเราไป 1เครื่อง มันบอกว่าของมันแบตหมด ขอยืมโทรศัพท์เพื่อนเราไปโทร เพื่อนใจดีด้วยตังหมดเติมตังให้มันยืมโทร ว่าทำไมมันไปโทรนานจังวะ ... แถมยืมขี่ ZX ไปด้วยนะ นึกว่า แม่ง เอาZX ไปพร้อมโทรศัพท์ซ่ะแล้ว แต่ยังดี มันเอาไปจอดไว้ที่ตลาดใกล้ๆ เอากุญแจไว้ในรถ สีมันคงสะดุดตามันเลยไม่กล้าขโมยไป
โอ๊ว ประเทศชาติ ความปลอดภัยออยู่ที่ไหนวะเนี่ยะ ขอกฎหมายแรงๆได้ไหม??? แบบ ขโมยรถ ประหารขีวิตสถานเดียว แบบนี้ กลัวโจรตายไงฟะ???
คนสมัยนี้ไว้ใจยากมาก ---------- Post added at 15:09:58 ---------- Previous post was at 15:09:36 ---------- คนสมัยนี้ไว้ใจยากมาก
น่าเห็นใจมากๆครับ แต่ก็ถือว่าโชคยังดีที่มันถอยรถไม่โดนเด็กๆ เอาใจช่วยให้ได้รถคืนไวๆนะครับ ปล.ถ้าจับตัวได้แล้ว ฝากจัดซักทีครับพวกนี้
ดูกันแต่ภายนอกมันจะไปรู้ได้ยังไง คนจะดีจะชั่วไม่ใช่ที่ตัวแต่อยู่ที่ใจ หน้าตาเหมือนโจร แต่อาจจะมีน้ำใจ ใส่สูทผูกไทแต่จิตใจเหมือนสัตว์ ดูกันแต่ภายนอกระวังจะโดนมันกัด ระวังจะโดนตอนมันกัด
ยังดีนะครับ ที่ไปช่วยลูกทันก่อนโดนรถถอยชน ขอให้จับได้ไวๆครับ พวกนี้จับได้แล้ประหารเลยครับ อย่าปล่อยมาลอยนวลอีก เพราะดูแล้ว ให้ออกมาก็คงก่อปัญหาให้สังคมอีกละครับ
