เพื่อนสมาชิกท่านใดมีปัญหาทางด้านกฎหมายโดยเฉพาะ"คดีแพ่ง"เชิญโพสเข้ามานะครับ...ส่วน "คดีอาญา"โพสเข้ามาได้เหมือนกันนะครับ
และแล้วเราก็มีทนายความประจำคลับด้วยอ่ะ เยี่ยมเลย แล้วปรึกษาเรื่องกฏหมายจราจรด้วยได้ไหมครับ เผื่อเอาไว้เป็นความรู้กันหมามันกัดเอา
ก่อนอื่นดูที่รถเราก่อนว่าถูก กม. หรือป่าว(รู้ๆกันอยู่นะครับ) แต่ถ้าหมาจะกัดก็ต้องให้นายร้อยเคลียดีก่า แต่เวลาเคลียดูด้วยว่าหมามันแถะกระดูกหรือป่าว(แต่ส่วนใหญ่จะกินนะ)...อิอิ
เพื่อนฝากถามว่า...ถ้าโดนฟ้องเรื่องบัตรเครดิต...จะเกี่ยวอะไรกับรถที่ผ่อนอยู่หรือป่าว...อิอิ.. กรุณาตอบด่วน...อยากรู้เหมือนกันครับ...
เท่าที่รู้ครับ 1. ถ้าโดนฟ้องจริงๆจะต้องมีพระปรมาภิไธยมาเยือนถึงบ้านครับเพื่อจะบอกว่าไปขึ้นศาลวันไหน 2.ไปแล้วถ้าเจอคู่กรณี(สถาบันการเงิน)เค้าจะขอตกลงเรื่องจะจ่ายกันยังไงเท่านี้ไหวมั้ย ถ้าเราโอเค ก้อจบ 3. ถ้าไม่โอเคก้อให้ท่านศาลไกล่เกลี่ยให้ดูตามความเหมาะสมกับเงินเดือนเราหรือสภาพของเราครับ ถ้าตกลงกันได้ก้อจบ 4. ถ้าตกลงกันได้ตั้งแต่ข้อ2 พอศาลท่านขึ้นนั่ง เราก้อบอกว่าตกลงกันได้แล้ว ชดใช้เท่านั้นเท่านี้ ก้อเป็นอันจบ 5. ถ้าขึ้นศาลแล้วก้อต้องใช้ครับว่ากันไปตามสถานะ 6. ถ้าไม่ไปศาล อันนี้เสียเปรียบแย่ เพราะเราจะถูกเป็นผู้แพ้คดี อันนี้สถาบันการเงินก้อจะไปตามล้างตามเช็ดกะเรา 6.1 ถ้าทำงานมีเงินเดือนก้อจะตามไปหักเงินเดือนกะเรา เค้าทำได้ครับถ้ารับเงินเดือนเป็นแบบเข้าบัญชี (ทำโดยอายัดบัญชี) แต่ถ้าทางบัญชีของบริษัทช่วยเราก้อไม่นำเงินไปเข้าบัญชีแต่จ่ายเป็นเงินสดแทน 555+ หลังจากนี้ก้อไม่แน่ใจแล้วครับ พอมีข้อมูลแค่นี้ เอาไปก่อนครับรอผู้รู้อีกที
ในกรณีนี้ท่านต้องคำพิพากษาให้คดีถึงที่สุดหรือยังครับ(แพ้คดี) ถ้าเรียบร้อยแล้วนะครับ ขั้นต่อไปโจทก์จะต้องนำหมาย(คำพิพากษาให้ท่านทราบก่อนหลังจากทราบคำพิพากษาแล้วท่านยังไม่มีการชำระหนี้ โจทก์จะดำเนินการสืบทรัพย์หากท่านมีทรัพย์สิน เช่น เงินเดือน โบนัส เงินในบัญชีเงินฝาก บ้าน รถต่างๆ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ครอบครอง โจทก์จะดำเนินการขอตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ต่อไปครับ ....ส่วนรถที่ผ่อนอยู่นั้น ยังไม่ใช้กรรมสิทธิ์ของท่านไม่สามารถยึดได้ แต่ถ้าผ่อนหมดโดนแน่ และหากท่านทราบดีอยู่แก่ใจ(รู้มาก)พยายามถ่ายเททรัพย์สินอาจต้องคดีเพิ่มเติมด้วยนะครับ อายุความในการบังคับคดีมี10ปีหลังศาลพิพากษา
หากท่านประสงค์จะชำระหนี้...ท่านสามารถติดต่อทางเจ้าหนี้เพื่อทำการไกล่เกลี่ยโดยมีหลายวิธีคือ1.ขอส่วนลดในการปิดบัญชี(เครดิตของท่านก็จะดีเหมือนเดิม)2.ติดต่อเพื่อขอทำเงื่อนไขในการผ่อนชำระเท่าที่จะชำระได้3.รอให้โจทก์ฟ้องจนมีหมายศาลมาส่งที่บ้านตามภูมิลำเนาแล้วไปไกล่เกลี่ยตาม วัน เดือน ปี มีศาลนัด(แต่หากท่านไปไกล่เกลี่ยที่ศาลแล้วท่านผิดนัด โจทก์จะดำเนินการขอให้ศาลมีคำพิพากษาเนื่องจากท่านผิดสัญญาประณีประนอมยอมความ และนำหมาย(คำพิพากษา)ได้ทันทีโดยจะลดระยะเวลาและขั้นตอนลง....หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมก็โทรฯมาได้นะครับยินดี
เพิ่มเติมตามที่มีเพื่อนสมาชิกแนะนำมานะครับ 1.หมายศาลจะมาส่งโดยเจ้าพนักงานศาลตามภูมิลำเนาของท่านโดยจะมีตราครุฑ และประทับตรายางสัญลักษณ์ เขาเรียกอะไรจำไม่ได้...อิอิ 2.ในกรณีนี้เขาเรียกว่า ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หากตกลงกันได้ก็ทำ สัญญาประณีประนอมยอมความแล้วเสนอศาลเพื่อให้ศาลสั่งตามสัญญา(หากท่านผิดสัญญา ก็จะต้องมีคำพิพากษาตามท้ายฟ้อง) 3.ส่วนใหญ่ศาลจะไม่มีอำนาจในการที่จะไปบังคับโจทก์ หากโจทก์ไม่ตกลงก็ถือว่าการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผล ก็ต้องนำสืบกันต่อไป 4.ตามสัญญาส่วนใหญ่จะมีเงื่อนไขว่า"หากจำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง ถือว่าผิดนัดทั้งหมด"หากโจทก์เขี้ยว แม้แต่ชำระช้า1วันเขาก็จะถือว่าผิดนัดครับ 5.ถูกต้องครับ หากไม่ใช้ก็ได้หากไม่มีทรัพย์สินใดๆและคิดว่าเงินเดือนไม่ได้เข้าบัญชีหรือไม่ถึงตามเงื่อนไขบังคับคดีอายัดได้ ก็หนี้ไปเรื่อยๆครับจนหมดอายุความ แต่เครดิตบูโรท่านก็เสียตลอดไป 6.ตามภาษากฎหมายเรียกว่า "ขาดนัดพิจารณา" โจทก์จะยื่นคำขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยขาดนัด และศาลจะพิพากษาในวันนั้น โดยจะมีคำพิพากษาตามคำขอของโจทก์(อ้วกแน่ๆ) 6.1ถึงแม้ว่าท่านจะรับเงินสด แต่หากโจทก์นำสืบได้ว่า ท่านมีเงินเดือนเข้าตามเงื่อนไขบังคับคดีได้ ก็จะยื่นขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือไปยังบริษัทฯท่านให้ชี้แจง(ส่วนใหญ่บริษัทฯจะไม่ปกปิดเพราะหากหลักฐานชี้ชัดทางบริษัทฯก็ผิดด้วยนะจะต้องชดใช้แทนท่านเขาคงไม่กล้า...อิอิ)ในการสืบทรัพย์ว่าเงินเดือนท่านเท่าไรมีหลายวิธี ยกตัวอย่าง ดูจากการส่งเงิน สปส. ดูจากการแจ้งภาษี (เขามีวิธีที่จะนำข้อมูลออกมา)
คดีข้างบนพี่สาวผมดดนมาแล้ว ทำเท่าไหร่หักหมดเลย จนต้องไปศาล แล้ว ไกล่เกลี่ยนดู ลดดอกไปบานเลย ส่วนเรื่องนาย 100 นะ ผมต้องมีเศษไว้เลย นายยี่ นาย หก เท่านี้พอและปั้นให้เลยพี่น้อง
ต้องขออภัยด้วยบางข้อมูลจำข้อกฎหมายไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เรียนมาทาง "นิติ" แต่ทำงานมาด้าน กม. และห่างเหินมานานก็พอรู้บ้าง สำหรับท่านที่มีความรู้ทางด้านนี้ก็เข้ามาช่วยกันเพราะเพื่อนๆสมาชิกต้องการข้อมูล แต่ถ้าปัญหาข้อกฎหมายไหนยากก็ฝากได้ครับจะไปถ้าพี่ๆนักกฎหมายให้ครับ
ถูกต้องครับ...เพราะศาลท่านอ้างอิงจากข้อมูลและหลักฐาน ถ้าหลักฐานมี ก็หักลบกันได้ เช่น ก่อนฟ้องจำเลยชำระหนี้มาแล้วเท่าไร และในวันที่ทำเรื่องกู้ส่วนใหญ่จะได้รับเงินไม่ครบตามที่กู้ อันนี้ก็แถลงต่อศาลได้เหมือนกัน
สบายใจแล้วคับ เพิ่งไปที่ศาลเพื่อไกล่เกลี่ยมาคับ ผมเป็นหนี้กับ บริษัท อีซี่บาย คับ ยอดเงินทั้งหมด 138,400 บาท ไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับทนายของอีซี่บาย เค้าลดดอกเบี้ยให้ 38,400 บาทคับ แล้วที่เหลือให้ชำระขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาทคับ แถมดอกเบี้ยก็ไม่มี ค่าล่าช้าก็ไม่มี ถ้ารู้ว่าคุยกันง่ายอย่างนี้ ผมให้เค้าฟ้องนานแล้วคับ ดีกว่าไปจ่ายรายเดือน เดือนนึงตั้งหลายพันอยู่ ( ส่วนคนที่เป็นหนี้เหมือนผม สู้สู้ คับ อิอิ ) ปล.แต่ของผมยังไม่หมดแค่นี้คับ ยังมีอีก 2 บริษัท ที่จะตามมา
ยินดีด้วยครับ...กับยอดหนี้ที่เจรจาได้ แต่อย่าผิดนัดชำระนะครับจะเป็นผลเสีย ถ้าอยากได้วิธีที่ดีกว่านี้ติดต่อเข้ามาได้นะครับขอเป็นเวลา 08.00-17.00น. จ-ศ ครับ