จะรู้ได้งัยว่าน้ำมันเครื่องที่ทะลักมีสาเหตุมาจากสูบแตก

คือรถผมมันมีน้ำมันเครื่องดันออกที่ฝาปิดน้ำมันมัเครื่อง ที่ก้านวัดน้ำมันเครื่องบางทีก็ลอยขึ้นมานิดหน่อยนาน ๆ ที (ไม่ตลอดเวลา) แกะเทอร์โบมาดูมีน้ำมันเครื่องที่หน้าใบไอดีมากนิดหน่อย

นอกจากรื้อสูบมาดู เราจะมีวิธีอื่นที่ไม่ต้องรื้อเครื่องใหมครับ ว่าสูบแตก หรือแหวนหัก แล้วทำให้กำลังอัดมันลงไปข้างล่างแล้วดันให้น้ำมันเครื่องทะลัก

เพิ่งจูนได้ไม่นาน มีปัญหาอีกและ เซ็งเป็ด

 

น่าจะเป็น ที่ ร่องแหวนแตก อะคับ อาการ นี้ผมเคยเป็น

ช่างเขาเรียกว่า กำลังอัด ลง แคร้ง มันเลย ดันน้ำมัน เครื่องขึ้นมา

จน น้ำมัน ดันก้านวัด เต็มฝากระโปรงเลยคับ

 

ขอบคุณครับ คอนเฟิร์มหนึ่งและครับ คงต้องเสียเงินอีกแล้ว
ต้องรื้อเอาลูกออกมาใช่ใหมครับ และถ้าต้องเปลี่ยนลูก เอา 2J หรือ ลูกอะไรดีครับสำหรับ EVO III (K26)

 

ส่วนตัวผมนะคับพี่ ถ้าช่างทำเป็นนะ ผมเลือกลูก 2เจ งบไม่เยอะหาง่ายสบายๆ

หรือไม่ก็ ลูก 8 ขึ้นไป ก็ต้องหาคนทำเป็นอีกเหมือนกัน ลูกหาค่อนข้างยาก นอกจากเบิกใหม่ ราคาเกือบได้ของซิ่งเบิกเหมือนกัน

แต่ผมว่า 2 เจ เนี่ยได้คนทำเป็นผมใช้มา 3 ปีและ ยังโอเคอยู่เลย

 

ประทีปลองเอา กระบอกวัดแรงดันอากาศจากเบ้าหัวเทียนวัดแต่ละสูบดู
ถ้าสูบไหนต่ำกว่าปกติ ก็รื้อฝาสูบดูได้เลย
เช่น สูบ 1-3 วัดได้ 180 แต่สูบ4 วัดได้แค่ 150
แสดงว่าสูบสี่อาจจะเกิดปัญหาแรงดันรั่วลงแคร๊งค์ได้

ลูกสูบถ้าประทีปยังเป็นลูก 85 มม. เอาลูกอีโว7 มาใช้ครับ

 

ขอบคุณครับ ดีนะที่เพิ่งเอารถพี่ช้างมาเมือวันศุกร์ ไม่งั้นไม่มีรถใช้อีกแล้ว เล่นรถแรงทำไมมันจุกจิกจัง
ลูกปัจจุบันเห็นพี่ญาบอกเป็น 2J ราคาทั่วไปเท่าไรครับ และ ลูก 7 ราคาเท่าไรครับ

 

2๋j เบิกใหม่ลูกละ 800 แหวน6ชุด 3600
ลูก 7+ก้าน+แหวน มือสองชุดละ 6-8 พัน แต่มันหาของไม่ได้

 

ผมว่า อย่าพึ่งคิดในแง่ร้ายเลยดีกว่า
แต่ที่แน่ๆ บูสหนัก รอบสูง ก็ทำให้กำลังอัดลงแคร้งได้เหมือนกัน
ทางที่ดี ลองเอาที่วัดกำลังอัดวัดดูก่อนดีกว่า
ต่างกันนิดหน่อย ไม่เป็นไร

 

ขอบคุณมากครับ ใจชื้นเลย ผมลองอัดอีกทีวันนี้ อยากรู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่
พังให้มันฟังไปเลย แต่มันก็ไม่ทะลักมากขึ้น เฮ้อ คงต้องเอาไปวัดกำลังอัดตามที่บอก เผื่อฟลุ๊กไม่มีปัญหา
แต่ก็ทำใจและครับ มันฟังก็ต้องทำกันไป ขับรถพี่ช้าง clutch หนักมากเลยอ่ะ ปวดขา เสียงดังมาก เข้าบริษัทที คนมองมากเลย

 

นี่แหละครับ ชีวิตรถแรงจอดอู่ เริ่มแล้ว
คิดถึงรถเดิมๆป้ายแดง แล้วใช่มั้ยครับ 55..

 

จริงที่สุดครับ

แต่ผมก็ยังยอม ฮ่า ฮ่า ..

 

สรุปอาการเป็นไงบ้างครับ

 

เมื่อวานไปวัดกำลังอัดที่พี่ญา
สูบ 1,2,4 ได้กำลังอัด 110
สูบ 3 ได้กำลังอัด 125

งงจัดเลย ช่างบอกว่าทำถ้ากำลังอัดหายทำไมมันหายเท่ากันเป๊ะ 3 สูบ
เลยเอารถกลับ ยังทำใจไม่ได้กับการเสียตังค์ครับ เปลืองเหลือเกิน
ลูกเป็น 86 แล้วด้วย ถ้าคว้านอีกก็ต้องหาลูก 87 หรือไม่ก็ต้องซื้อท่อนล่างใหม่
หรือมันมีสาเหตุจากอะไรกันแน่
ขับรถพี่ช้างไปก่อนเรื่อย ๆ เปลียงน้ำมันโครต ๆ ประมาณ 5-6 km/liter

 

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ และเป็นห่วง
ผมเพิ่งเริ่มโม step สูง ๆ ไม่รู้จะไปรอดถึงใหนเลย

 

เป็นไปได้ครับประทีป เพราะการวัดจาก Pressure Guage ไม่ใช่การวัดหากำลังอัดที่แท้จริง
เป็นการวัดแรงดันอากาศในห้องเผาไหม้เท่านั้น และเป็นการวัดโดยเฉลี่ย
การคลาดเคลื่อนในการวัดทำให้ ออกมาเท่ากัน 3 สูบ หรือ สูงกว่าชาวบ้าน 1 สูบ เป็นไปได้เพราะ
1. ปริมาตรฝาสูบ สภาพในแต่ละสูบไม่เท่ากัน ยิ่งพวกไปขัดพอร์ต เปิดพอร์ต ไม่ต้องพูดถึง
2. สภาพการปิดสนิทของวาวล์ไอดี-ไอเสีย
3. สภาพบ่าวาวล์
4. สภาพซีลยางเบ้าหัวเทียน
5. สภาพร่องแหวน
6. สภาพผนังเสื้อสูบ ส่วนมากโรงกลึงบ้านเรา กลึงไม่กลมสนิทกับแหวนหรอกครับ
7. สภาพปะเก็น
8. สภาพหัวลูกสูบ และ ขอบหัวลูกสูบ
9. สุดท้ายสำหรับลูก2เจ เลยคือ การแก้สลักก้านสูบแล้วเยื้องศูนย์มาก จนลูกใดลูกหนึ่งอาจจะเลื่อนสู่ศูนย์ตายบน
ได้สูงหรือต่ำกว่า เนื่องจากแก้สลักก้านสูบในแต่ละสูบไม่เท่ากันครับ

วิธีวัดกำลังอัดในห้องเผาไหม้ ผมถึงแนะนำเสมอว่าต้องวัดโดยการเปิดฝาสูบแล้ววัด
จะแม่นยำและเห้นสภาพของห้องเผาไหม้ที่เกิดปัญหาทั้งหมด ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน แล้วแก้จนได้กำลังอัดที่เหมาะสม

แต่ในเคสประทีป ถ้าไม่กังวลอะไรมาก ผมว่าใช้ไปจนมันพังแล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อสูบใหม่ดีกว่าครับ

 

ขอบคุณครับโอ๋ เดี๋ยวจะแก้ซีลยางของฝาปิดน้ำมันเครื่องใม่ให้น้ำมันเครื่องทะลัก หวังว่ามันจะไม่ไปออกรูอื่นอีกนะ ยังจูนไม่เสร็จเลย คงต้องขับไปเรื่อย ๆ ก่อน อัดบ้างพอแก้หายคัน

เมื่อไรจัด training อีกครับ อยากแบบต่อเนื่องจะได้ขับ circuit เป็นเร็ว ๆ เผื่อรีสอร์ทไม่ยุ่งจะได้ไปลงสนามกับเขาบ้าง