STYLE UP ชื่อที่คุ้นหูและคุ้นตามาตั้งแต่สมัยที่อยู่ในนิตยสารกรังด์ปรีซ์ และย้ายมาไว้ใน XO AUTOSPORT ตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา การนำเสนอจะเน้นแต่รถแต่งสวยดูดี เครื่องยนต์โมฯบ้างเล็กน้อย มีครบทุกรสในคันเดียว ส่วนใหญ่การแต่งรถบ้านเราจะได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่น ตั้งเรื่องเรื่องของชุดแอร์โรพาร์ท ล้อ และส่วนอื่น ๆ แทบทั้งนั้น ส่วนภายใน เบาะนั่งบั๊กเก็ตซีตจำพวก RECARO ดูจะฮิตกันสุด ๆ จนถึงปัจจุบัน แถมมีแบรนด์จากฝั่งญี่ปุ่นมาสร้างกระแสเพิ่มจากค่าย BRIDE โดยเฉพาะรุ่น LOW MAX SEAT พวงมาลัยก็ต้อง SPARCO, NARDI, OMP "ก้านยก" เท่านั้น ส่วนล้อแม็กย้อนยุคต้อง BBS ออปเซ็ตต้องลึกโคตร ๆ รวมทั้ง SPARCO, DTM และ RIAL ฮิตไม่แพ้กัน พอมายุคนี้ เป็นยุคเกิดของล้อแม็กจากค่าย W WORK และ VOLK RACING เอาเป็นว่าเรายกตัวอย่างรถในคอลัมน์ STYLE UP ที่เคยนำเสนอไปแล้วในอดีตกลับมาทบทวนความจำกันอีกครั้งตั้งแต่ปี 1997 จนถึง ปี 2005 นับเป็นงานใหญ่ของกอง บก. ในการทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการค้นหาภาพและข้อมูลต่างๆ กว่า 10 ปีที่แล้ว ที่เราพอจะตามได้ หวังว่าฉบับนี้คงจะถูกใจท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย และยังคอยเป็นกำลังใจให้ทีมงานเราต่อไป... SKYLINE GT-R R32 JUN ตัวแข่งพีระฯ ควอเตอร์ไมล์ สำหรับรถที่ถูกนำมาเสนอเป็นคันแรกนั้น อยู่ในฉบับที่ 5 เดือน FEBRUARY ปี 1997 กับ RED MONSTER/SKYLINE R32 GT-R ของทีม TOMODACHI โมดิฟายโดยสำนัก JUN AUTO MECHANIC เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงในยุคนั้น เป็นกลุ่มแรก ๆ การโมดิฟายตามสูตรค่ายดังจากญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาแพร่หลายกันมาก การตกแต่งจะเน้นในเรื่องของความแรงเป็นหลัก ด้วยเครื่องยนต์ RB26DETT เปลี่ยนเทอร์โบเป็นของ HKS รหัส T45 ลูกสูบ FORGED ขนาด 88 มม. ของ TRUST หัวฉีด 584 ซี.ซี. กล่อง ECU ของแต่งจากค่าย JUN ต่อพ่วงด้วย PFC-F-CON และ GCC จาก HKS ซึ่งในยุคนั้นสำนักนี้จะเน้นการนำกล่องเดิมไปอัพเกรดกันมากกว่า ส่วนของแต่งโดยรวมจะเป็นของค่าย HKS ที่มีให้เลือกมากมาย พร้อมล้อแม็กลายฮิตจาก ENKEI รุ่น RP01 นับเป็นตัวแรงที่โด่งดังมากในปีนั้น ปัจจุบันรถคันนี้เปลี่ยนมือมาเป็นของพี่แมว กลับสภาพในสแตนดาร์ดลำขาวเคยวิ่งทดสอบในงาน SOUPED UP THAILAND RECORD ปี 2003 ได้รับตำแหน่งที่ 5 ด้วยเวลา 11.04 วินาที -------------------------------------------------------------------------------- 3 BMW สวย... เตี้ย.... ที่สุดของปี ในปี 1998 มีรถเด่น ๆ หลายคัน โดยเฉพาะ BMW มีมากถึง 8 คัน แต่เราคัดเลือกมาให้ดูเพียง 2 คัน ที่อินเทรนด์และเตี้ยสุด ๆ ในช่วงนั้น พร้อมของแต่งส่วนใหญ่จากค่าย AC SCHNITZER คันแรกเป็น BMW 318iS คูเป้ สีแดงสด คันแรกในประเทศเลยก็ว่าได้ ขับไปไหนมีแต่คนสนใจและสะดุดตา ซึ่งผู้ครอบครองในตอนนั้นคือ นายเพชร TUNE SPEED จากทีม NIMROD เครื่องยนต์เดิม M POWER โมดิฟายเพิ่มด้วยการนำเครื่องของ M3 ขนาด 3,201 ซี.ซี. 321 แรงม้า มาใส่แทน พร้อมกับการโมดิฟายเล็กน้อยด้วยงบลงทุนกว่า 500,000 บาทเลยทีเดียว ช่วงล่าง GAB ระบบเบรก BREMBO 4 พอร์ต ล้อแม็ก AC SCHNITZER TYPE II สุดฮิต ขนาด 18 นิ้ว ไฟเลี้ยวต้องเป็นแบบใส EUROPE STYLE ส่วนภายใน ยังมีเครื่องเสียงชุดใหญ่ราคาเรือนแสนแถมด้วย จุดเด่นของรถคันนี้ก็คือ เตี้ย แรงด้วยเครื่องไม่ข้ามสายพันธุ์ ส่วน BMW คันที่ 2 จะเน้นการแต่งแบบลูกผสม ระหว่างบอดี้เยอรมัน 325i กับเครื่องยนต์ญี่ปุ่น ตระกูล 7M-GTE ของนายฉาย แห่งทีม SEXY BOOBS ที่สำคัญได้รับรางวัล BEST OF BMW และ BEST OF EUROPEAN จากการประกวด XO AUTO SPORT SHOWDOWN ครั้งที่ 2 ในงาน BANGKOK AUTO SALON 1998 ณ สวนอัมพร นับเป็นงานโชว์รถแต่งจากต่างประเทศและในประเทศที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะสำนักแต่งจากญี่ปุ่น อย่าง TOP FUEL, PHOENIX POWER GARAGE เราย้อนกลับมาพูดถึงการตกแต่งของ BMW กันบ้าง ครั้งนั้นเครื่องยนต์รหัส 7M-GTE กำลังได้รับความนิยมสูง เพราะด้วยความจุเครื่องถึง 3,000 ซี.ซี. ถือว่าเยอะมากในสมัยนั้น แถมแรงบิดมารอบต่ำ พูดง่าย ๆ ว่าสแตนดาร์ดโมฯนิดหน่อยก็แรงได้ใจ ขับสนุก ต่อจากนั้นเจ้าของได้โมฯเพิ่มด้วยลูกสูบ FORGED เปลี่ยนปะเก็นฝาสูบเป็นแบบเหล็กของ HKS เปลี่ยนเทอร์โบเป็นของ GARRETT A/R 50 เวสต์เกตแยก TRUST โบล์วออฟวาล์ว BLITZ ขาดไม่ได้กับหัวฉีดเสริมอีก 4 หัว พร้อมตัวปรับแรงดันน้ำมันจาก HKS ภายใน อินเทรนด์ด้วยเกจ์วัดอย่างเดียวกว่า 12 ตัว จาก AUTOMETER และ GREDDY ที่กำลังมาแรง พร้อม PILLAR เสา A สำหรับใส่เกจ์วัดสุดฮิตสำหรับรถซิ่ง ตัวปรับบูสต์ไฟฟ้า HKS ปรับจูนส่วนผสมด้วย SUPER AFC แบบ 5 ปุ่ม ช่วงล่าง หล่อด้วยล้อ AC SCHNITZER TYPE II ขนาด 17 นิ้ว พร้อมเบรกจาก ALCON 4 พอร์ต ปัจจุบันได้เปลี่ยนเจ้าของผู้ครอบครองไปซะแล้ว และคันที่ 3 เป็น BMW 325i ปี 94 ของนายโอ้ แห่งทีม DECISIVE เป็น BMW เตี้ยลากดินอีกหนึ่งคัน มาดูภายนอกกันสักเล็กน้อย เป็นชุดแต่งสไตล์สเกิร์ตหน้า RACING DYNAMICS สเกิร์ตข้าง M TECHNIC กันชนท้ายจาก AC SCHNITZER กระจกมองข้าง M3 ภายใน หุ้มด้วยหนังแท้สีครีม ตามเทรนด์ พร้อมเกจ์วัดจาก LAMCO, BLITZ ปรับบูสต์มือ HKS, REBIC III และ TURBO TIMER จาก GREDDY เรือนไมล์ขาว M TECHNIC เครื่องยนต์ เล่นแรงด้วย 2JZ-GTE เกียร์ธรรมดา 5 สปีดจาก 1JZ เทอร์โบเดี่ยว MITSUBISHI TD-07 ใบหน้า GARRETT A/R84 อินเตอร์คูลเลอร์ EVO IV ฝังหัวฉีดเสริมอีก 2 หัว จาก RB26DETT ชุดคลัตช์ TRD แบบ TRIPLE PLATE เฟืองท้ายอัตตราทด 4.1 ช่วงล่าง ปรับโหลดเตี้ยแบบกองพื้นโดย RACING ARMS ชุดโช้คอัพสูตรสำเร็จ KONI + EIBACH พร้อมล้ออภิมหาอมตะนิรันดร์กาล BBS ลาย RS ขนาด 17 x 8.5 และ 9.5 นิ้ว เตี้ยสุด ๆ ในยุคนั้นและเห็นตัวเป็น ๆ กันได้ในสนามแข่งหลังซีคอนเป็นประจำ BEST OF HONDA XO AUTOSPORT SHOWDOWN ส่วนคันที่ 4 โดดเด่นไม่แพ้กัน เนื่องจากได้รับรางวัล BEST OF HONDA และ BEST OF SOUPED UP จากการประกวด XO AUTOSPORT SHOWDOWN ครั้งที่ 2ในงาน BANGKOK AUTO SALON 1998 อีกเช่นกัน นั่นก็คือ HONDA ACCORD ของคุณหมู วรัญญู แม่นศรแผลง สังกัดทีม 2PEACE ที่นิยมแต่งรถแรงที่คุ้นตาอีกหลายคัน อาทิ BENZ W123 เครื่อง 2JZ, CEFIRO 2JZ + T88 และล่าสุดกับ JAZZ MUGEN โดยการประกวดครั้งนั้นได้รับการร่วมมือจากพี่ป๊อป SPEED R (แต่ปัจจุบัน ได้ออกมาเปิดร้านเองในชื่อว่า P RACE ถ.เกษตร-นวมินทร์) มาช่วยในเรื่องของการโมดิฟาย คันนี้ภายนอกดูเรียบๆ แต่มีไฟเลี้ยวสีขาวกำลังนิยมในยุคนั้น เครื่องยนต์ได้ถูกเปลี่ยนและโมดิฟายไปพอสมควร ในรหัส H22A เกียร์ออโต้ ชุดคอยล์แยกเพิ่มกำลังไฟ JACOB กล่อง MUGEN เฮดเดอร์ SPOON + HKS + FUJITSUBO ภายในอลังการมาก ด้วยเบาะ RECARO รุ่น A8 ราคาแพง ช่วงล่าง KONI+EIBACH สูตรฮิต 17 นิ้ว ของ MAHDI ซึ่งมีของแต่งอีกเพียบที่ยังไม่ได้พูดถึงนะเนี่ย และนี่ก็คือ ACCORD ที่แต่งได้สวยที่สุดในยุคนั้นอีกหนึ่งคัน ด้วยรางวัลการันตี -------------------------------------------------------------------------------- MITSUBISHI STRADA SUPRA อะไรจะขนาดนั้น... มาในปี 1999 รถที่กล่าวขวัญในช่วงนั้นมากที่สุด หลังจากที่นำมาลงคอลัมน์ คงจะเป็น MISUBISHI STRADA SUPRA ของพี่ตี้ อู่ MONZA ลาดพร้าว 101 ในสมัยนั้นเป็นสีเหลือง คาดสติกเกอร์ VEILSIDE ข้างรถ ลงแข่ง DRAG ที่สนามนครชัยศรีเป็นประจำ ด้วยเครื่องยนต์ 2JZ-GTE หลังจากนั้นกลางปี 41 ได้มีโปรเจ็กต์ใหญ่เกิดขึ้น ด้วยการวางเครื่องตัวใหม่รหัส 2JZ-GTE VVT-i มาพร้อมกับเกียร์ออโต้ พร้อมระบบ STEER SPORT MATIC สามารถเปลี่ยนเกียร์ UP-DOWN ที่ด้ามเกียร์และพวงมาลัย เท่านั้นยังไม่พอ ได้ยกเอาช่วงหน้าของ TOYOTA SUPRA ตั้งแต่แชสซีหน้าไปจนถึงหลังเบาะคนขับ เชื่อมต่อกับแชสซีเดิม ส่วนแก้มหน้าซ้าย-ขวา ใช้วิธีการตัดต่อโดยเอาของ SUPRA และ STRADA แถมขยายโป่งแก้มหน้าเพื่อใส่ล้อขนาดใหญ่ ส่วนด้านหน้าสุดของรถ SUPRA จะเทลาดลง ได้ตัดต่อให้เหมือนกับปิกอัพทั่วไป จากนั้นเอากระจังหน้า MAZDA FIGHTER ไฟหน้า HILUX TIGER ภายในห้องโดยสาร คอนโซลหน้า-กลาง ที่มาพร้อมหัวตัดจาก SUPRA ต่อจากนั้นด้วยห้องโดยสารเดิมที่เล็กกว่าได้ถูกขยายออกด้านละ 4 เซนติเมตร พร้อมใส่ซันรูฟของ PRELUDE เข้าไปด้วย ต่อจากนั้นได้สั่งตัดกระจกบังลมหน้าและหลังใหม่ใหญ่ขึ้น เบาะคู่หน้าเปลี่ยนเป็นของ RECARO รุ่น SP-G กระบะท้ายเดิมถอดออก แล้วตีตัวถังขึ้นมาใหม่ โดยการเชื่อมแนวตัวถังหลังจาก CAB ท้ายเป็นชิ้นเดียวกับตัวรถ ส่วนด้านท้ายก็ทำให้สั้นลง สไตล์กระบะซิ่ง ส่วนช่วงล่างหลังได้ยกของ SUPRA มาทั้งแพ ประกอบไปด้วยเพลาท้าย, โช้คอัพและระบบกันสะเทือนแบบอิสระ MULTI-LINK พร้อมกับระบบเบรกจาก SUPRA ต่อจากนั้นปรับปรุงความยึดเกาะด้วย โช้คซิ่งของ JIC ปรับความหนืดได้ 8 ระดับ และล้อแท้ ๆ น้ำหนักเบาจาก VEILSIDE ขนาด 18 นิ้ว แล้วจัดการพ่นสีรถใหม่สไตล์ VEILSIDE นับเป็นกระบะที่มีความคิดสร้างสรรค์สวยงามและไม่เหมือนใครในยุคนั้นจริง ๆ
สุดยอด...HOLDEN CALAIS BELIEN EFFECT ในปีเดียวกันสุดยอดรถ EXECUTIVE CAR สายพันธุ์ออสซี่ HOLDEN CALAIS สุดยอดรถตำรวจทางหลวงในอดีตจากทีม INDEPENDENT คันนี้เคยเข้าประกวดรถสวยกับทีมงานเราด้วย ภายนอกเปลี่ยนเฉดสีให้วัยรุ่นแบบ BELIEN EFFECT พร้อมกับชุดแต่งตัวแข่ง GROUP N สั่งตรงจากออสเตรเลีย นอกจากนั้นได้เปลี่ยนกระจังหน้า ไฟเลี้ยวข้าง ฝาครอบไฟหน้า ไฟท้ายดำ เป็นของแต่งจากออสเตรเลีย กระจกมองข้างจาก M3 ภายใน เปลี่ยนตัวเบาะคู่หน้าเป็นของ 300 ZX ปรับไฟฟ้า พวงมาลัยคลาสสิกเหมาะกับรถราคาแพงต้อง BBS พร้อมเกจ์วัดรอบ AUTOMETER พร้อมชิฟต์ไลต์แยงตายอดฮิตในยุคนั้นจากฝั่งอเมริกา ผสมผสานด้วยเกจ์วัด VOLT ของ CLUB FENEK, OIL PRESS, EX. TEMP ของ GREDDY, AMP METER จาก VEELIA, SPEED METER ของ ULTRA และ TURBO TIMER อีก 2 ตัว พร้อมเครื่องเสียงราคาเหยียบ 3 แสนบาท เครื่องยนต์ เปลี่ยนมาใช้สัญชาติญี่ปุ่น รหัส 1UZ-FE เกียร์ออโตเมติก 5 สปีด 265 แรงม้า พร้อมโมดิฟายด้วยลูกสูบจาก TRD กับการตกแต่งความสวยงามฝาครอบด้านบนด้วยสีอะโนไดซ์แผ่นบังลมหม้อน้ำอะลูมิเนียม รวมทั้งสายแวคคั่มหลากสี เฟืองท้าย TOYOTA CROWN อัตราทด 4.3 พร้อมลิมิเต็ดสลิป ช่วงล่าง เปลี่ยนโช้คอัพเป็นของ BILSTEIN สปริง TRD พร้อมสตรัทปรับเกลียว BALL JOINT ของ TRD ระบบเบรก SKYLINE R32 เปลี่ยนล้อแม็กเป็นของ CARLSSON ขนาด 18 x 8.5 นิ้ว ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครแต่ง HOLDEN CALAIS ได้สวยขนาดนี้ แถมหารถรุ่นนี้สภาพดี ๆ ก็คงยากด้วยเช่นกัน -------------------------------------------------------------------------------- MITSUBISHI GTO 2 ครั้ง กับความเปลี่ยนแปลง MITSUBISHI GTO คันนี้เคยลงในนิตยสาร XO ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2000 ฉบับที่ 49 และ ปี 2006 ฉบับที่ 115 จากข้อมูลเดิมคันนี้เป็นเวอร์ชั่นปี 97 ทำเป็นเวอร์ชั่นปี 2000 ส่วนที่เปลี่ยนแปลงก็มีอยู่หลายส่วนจากภาพที่เห็น เริ่มจากภายนอก ฝากระโปรงใหม่ คาร์บอนไฟเบอร์พ่นสี CARBON PAINT พร้อมช่องระบายความร้อน ออกแบบโดย YATT สเกิร์ตหน้าสร้างใหม่คาร์บอนไฟเบอร์ ช่องดักลมซ้าย-ขวา คาร์บอนไฟเบอร์ คิ้วหน้าช่องดักลมกลาง คาร์บอนไฟเบอร์ และสเกิร์ตหลัง ภายใน ส่วนใหญยังเน้นของเดิมคือเกจ์วัด DEFI รุ่นเก่า เปลี่ยนพวงมาลัยเป้นแบบคาร์บอนสีเงินสลับหนังแดง และ HEAD UNIT ของ KENWOOD รุ่น KVT-737 หัวเกียร์ทรงกลมสีดำ อินเทรนด์มากขึ้น เครื่องยนต์ รหัส 6G72 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนการโมดิฟายที่เปลี่ยนเพิ่มจากครั้งที่แล้ว มีสายหัวเทียน RFI ท่อทางเดินไอดีพ่นสีแดงอะโนไดซ์ หัวฉีดเสริม 2 หัวเลิกใช้งาน ส่วนกล่องควบคุมเดิมที่โมฯโดยสำนัก TEST&SERVICE ต่อพ่วงด้วยกล่อง E-MANAGE จาก GREDDY ปรับความละเอียด ส่วนช่วงล่าง เปลี่ยนล้อแม็กจากเดิม ENKEI RACING RP01 ลายเรซซิ่ง ขนาด 18 นิ้ว มาเป็น WORK รุ่น VS-KF หล่อเหลากว่า ขนาด 19 นิ้ว ที่กำลังนิยมมากในปัจจุบัน นี่แหละครับ ที่ทางเรา บก.ยกให้เป็น THE BEST OF GTO จนถึงทุกวันนี้ ส่วนผู้ครอบครองคนล่าสุดก็คือ คุณหนุ่ม YATT ผู้เนรมิตชุดเกราะฝีมือจากร้านเขาเองนั่นแหละครับ สุดจริง ๆ -------------------------------------------------------------------------- C200 HELLO KITTY สปอร์ตน่ารักที่สุดแห่งปี... ฉบับเดือน JULY ปี 2005 ฉบับนี้คงเป็นที่ฮือฮามาก โดยเฉพาะกลุ่มสาว ๆ ถึงแม้จะไม่ชอบรถซิ่งก็ต้องหยิบดู เพราะว่าเราได้นำรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมัน ที่มาพร้อมกับความน่ารักด้วยของตกแต่งภายใต้แบรนด์ดังอย่าง "ซานริโอ" ของ HELLO KITTY มาตกแต่งรอบคัน จนหลายคนต้องหาของมาแต่งตาม สำหรับบอดี้นี้ คือ BENZ C200 ที่เราได้รับสายด่วนจาก เฮียทูน เจ้าสำนัก TOON MOTORSPORT ว่าตอนนี้มีรถ C200 KITTY มาจอดเปลี่ยนเบรกอยู่ที่ร้าน ถ้าสนใจก็มาได้เลย...ดังนั้นม้าด่วนอย่างเราไม่มีคำว่ารอช้า... รีบไปชักภาพก่อนใคร จากภาพที่เราเอามาฝาก ของแต่งคิกขุมีอยู่รอบคัน ภายนอก มีทั้งกรอบทะเบียน โลโกด้านหลัง ภายใน หมอนรองศีรษะ ถุงใส่ร่ม ร่มกันฝน ผ้าหุ้มที่เปิดประตู ผ้าหุ้มที่บังแดด กระเป๋าอเนกประสงค์และที่เก็บซีดี จาก HELLO KITTY ส่วนช่วงล่างก็ไม่ธรรมดา เน้นแนวซิ่งด้วยล้อโครเมียมจาก LOWENHART รุ่น LDR ขนาด 19 นิ้ว ระบบเบรกชุดคิตจาก BREMBO 4 พอร์ต โช้คอัพพร้อมสปริงจาก SACHS SPORT เครื่องยนต์ เพิ่มอัตราเร่งด้วย ท่อทางเดินทั้งเส้นจาก SUPER SPRINT และตัวเรียงโมเลกุลน้ำมันจาก SAGE, VOLT STABILIZER ของ BUDDY CLUB ลองดูกันเอาเองนะครับว่าน่าจะเป็นรถสปอร์ตสุดน่ารักแห่งปีได้หรือไม่ เพียงนั่งรับโทรศัพท์ที่โทร.เข้ามา สอบถามของแต่ง HELLO KITTY ว่ามีขายที่ไหนก็จะแย่อยู่แว้ว.... -------------------------------------------------------------------------------- สุดยอด DC2 ชุดใหญ่กับค้ำต่าง ๆ... ในฉบับที่ 110 ปี 2005 หน้าปก TOP TEN DRAGSTER SOUPED UP THAILAND RECORDS 2005 พอดี ฉบับนี้ตัวเด็ด ๆ ก็คือ INTEGRA DC2 เจิดจรัสด้วยสีบอดี้แบบ IMOLA ORANGE PEARL ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แปลงโฉมเป็นเวอร์ชั่น TYPE R 98 SPEC พร้อมของตกแต่งสั่งจากนอก เริ่มจาก สเกิร์ตหน้า CARBON, CANARD CARBON + AIR DUCT CARBONของ J's RACING, จาก ฝากระโปรง SPOON CARBON, กระจกมองข้าง APR RACING CARBON และหางหลัง MUGEN CARBON ภายใน รื้อออกหมด ยึดด้วย ROLL CAGE 12 จุด จาก CUSCO, PILLAR CROSS BAR+ TRUCK FLOOR BAR ของ EM RACING พร้อมเบาะ RECARO รุ่น SPG เครื่องยนต์ ไม่ธรรมดา รหัส B18C "ฝาแดง" ไส้ในมี ลูกสูบ SPOON P73 ฟลายวีล TODA ชุดคลัตช์ EXEDY ลิ้นปีกผีเสื้อ RACING SPEC ขนาด 68 มม. กล่อง J's RACING ชุดเกียร์ CLOSE RATIO 3-4-5 ช่วงล่าง เพิ่มค้ำล่าง LOWER ARM BAR จาก SPOON, TRACTION BARS, LOW CENTER ADJUUSTER และ FRONT INNER FENDER BRANCE จาก J's RACING พร้อมล้อน้ำหนักเบา ๆ จาก MUGEN รุ่น MF10 ขนาด 16 นิ้ว คงจะเห็นกันแล้วใช่ไหมครับ คงไม่มีใครสามารถมีค้ำตัวถังต่าง ๆ ได้มากเท่าคันนี้อีกแล้ว นี่ยังไม่หมดนะครับ ทางเจ้าของรถล่าสุดยังสั่งของเพิ่มเติมอีกหลายจุด คือมีจุดไหนค้ำได้ สีตัวรถก็เด่นสุด ๆ แหวกแนว ตามเทรนด์จากฝั่งอเมริกา พี่แกก็ใส่หมด ผลงานทั้งหมดจากเซียน HONDA โดยอู่พี่เรือง และอู่พี่มาด ซ.วัชรพล เป็นผู้บรรเลงความงามและความแรงในครั้งนี้ ส่วนเจ้าของรถคือ คุณมาร์ค กับตำแหน่ง FILM DIRECTOR
THE BEST OF MR-S WED SPORT คันเดียวในเมืองไทย TOYOTA MR-S คันนี้ถ่ายทอดสู่สายตาบนหน้าปกนิตยสารถึง 2 ครั้ง เริ่มจากฉบับที่ 79 ปี 2003 และฉบับที่ 108 ปี 2005 ด้วยชุดแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก เป็นการออกแบบโดย YATT ในชุดงานคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน ภายใน ตกแต่งด้วยคาร์บอนสลับแดง พร้อมเบาะคู่หน้า RECARO-TOP FUEL SPECIAL ช่วงล่าง เหล็กกันโคลงจาก TTE ปลี่ยนโช้คเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวจาก GAB ล้อ VOLK รุ่น TOP SECRET VERION ขนาด 18 นิ้ว ส่วนครั้งล่าสุดปรับแต่งใหม่ยกชุด เริ่มจากภายนอก WIDE BODY จากค่าย WED SPORT WITH BANDOH เป็นชุดเดียวกับตัวแข่ง SUPER GT ในญี่ปุ่น ตัวครอบไฟคู่หน้า AMUSE ฝากระโปรงหน้า VEILSIDE กระจกมองข้าง CARBON จาก VISION ฝากระโปรงหลัง CARBON จาก VARIS หางหลังทรง GT CARBON จาก E'SPEC ไฟท้าย MINOR CHANGE ตัวครอบไฟท้าย CARBON จาก SARD ภายในไม่น้อยหน้า เบาะคู่หน้าเปลี่ยนจาก RECARO-TOP FUEL SPECIAL มาเป็น RECARO SPG พร้อม ROLL CAGE จาก RS AIZAWA และ ALUMINIUM SIDE BAR จาก C-ONE นอกจากนั้นยังมีเกจ์วัดของ BLITZ รุ่น POWER i-D และ HEAD UNIT เป็นของ SONY รุ่น CDX-M100TF เครื่องยนต์ จากครั้งที่แล้วมีเพียงหม้อพักไอเสียจาก TTE เท่านั้น ครั้งใหม่นี้ ปรับแต่งเล็กน้อยด้วยหม้อพักไอเสียเป็นของ RICOH RACING ชุดเพิ่มกำลังไฟ TWIN POWER จาก HKS และ GROUND WIRE จาก A'PEXi นอกจากนั้นยังเปลี่ยนบู๊ชแท่นเครื่องต่าง ๆ ยูรีเทนจาก TRD ช่วงล่าง ไม่ธรรมดา สั่งโช้คอัพสตรัทปรับเกลียวจาก ZEAL รุ่น FUNCTION เหล็กกันโคลงยังใช้ของ TTE, MEMBER BRACE และ LOWER ARM BAR จาก TRD เบรกหน้าเปลี่ยนใหมเป็นของ TRD แบบ 4 พอร์ต จานดิสก์ขนาด 330 มม. จาก E'SPEC ส่วนล้อยังเป็นชุดเดิม VOLK รุ่น TOP SECRET VERION ขนาด 18 นิ้ว นี่แหละครับที่สุดของ MR-S คันเดียวในเมืองไทย กับการลงทุนที่ไม่ใช่น้อย ๆ ผลงานต่าง ๆ ได้รับความร่วมมือจาก TOON MOTOR SPORT, ARTO/TRD และ PROSPEC ส่วนเจ้าของนั้นคือ คุณต้น -------------------------------------------------------------------------------- PRELUDE SiR (BB8) 4WS สวยสุดในรุ่น ฉบับที่ 103 เดือน MAY ปี 2005 มาพบกับรถสปอร์ตหาคนแต่งยากจาก HONDA PRELUDE SiR รหัสบอดี้ BB8 เลี้ยวสี่ล้อ 4WS เทรนด์ของการแต่งรถจากค่ายนี้ ถ้าถามคนเล่นตัวจริงอย่าง DR.MO แล้ว จะต้องเป็นแนวญี่ปุ่นแน่นอน ดังนั้นจึงสั่งชุดแต่งที่เป็นออปชั่นเพิ่มจากโรงงานมาให้รอบคัน พร้อมสั่งทำสีบอดี้ใหม่ทั้งคัน ในสไตล์ "ขาวมุก" ภายใน สปอร์ตมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนเบาะคู่หน้าเป็นของ RECARO จากตัว INTEGRA DC5 เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังเปลี่ยนผ้าหุ้มใหม่เป็นสีดำ TYPE R 98 SPEC พรมพื้น TYPE R ในเรือนไมล์เปลี่ยนเข็มวัดอุณหภูมิน้ำ วัดความเร็ว วัดปริมาณน้ำมันในถัง เป็นเข็มชี้บอกตำแหน่งเป็น "สีเหลือง" จากรุ่นเกียร์ธรรมดา พร้อมเกจ์วัด DEFI+HKS และ V-AFC + RSM จาก A'PEXi เครื่องยนต์ H22A "ฝาดำ" โมดิฟายเพิ่มด้วยการเปลี่ยนแคมชาฟท์ และฝาครอบวาล์วเป็นของ "ฝาแดง" ที่มีทั้งลิฟต์และองศาที่มากขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบคายไอเสียทั้งยวงเป็นของ MUGEN ยกชุด พร้อมเกียร์เดิม ออโต้ 4 สปีด SEQUENTIAL SPORTSHIFT ช่วงล่าง เน้นของดีมีคุณภาพ ปรับระดับความหนืดตามความต้องการของผู้ขับขี่ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าจาก TEIN รุ่น EDFC ระบบบเบรกจาก BREMBO จาก INTEGRA DC5 พร้อมด้วยล้อ BLITZ รุ่น TECHNO SPEED Z1 -OKF 18 นิ้ว ล่าสุดได้ข่าวมาว่า ได้เปิดฝาสูบ ขัดลื่นพอร์ตต่าง ๆ เปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้นเป็นของเครื่องยนต์ตระกูล JZ รวมทั้งพ่วงกล่องควบคุมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก GREDDY E-MANAGE ULTIMATE ที่ผ่านมาในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ คงได้เห็นความงามตัวเป็น ๆ ของรถคันนี้กันไปบ้างแล้ว ว่างามขนาดไหน และน่าจะเป็น PRELUDE SiR (BB8) 4WS ที่ถูกนำมาตกแต่งและโมดิฟายมากที่สุดแล้วละครับ ส่วนเจ้าของรถก็คือพี่ชัย ใจสปอร์ต จากกลุ่ม PRELUDE COMMUNITY -------------------------------------------------------------------------- SUBARU IMPREZA VERSION V LIMITED EDITION คันแรกคือ SUBARU IMPREZA นำเสนอให้ได้ชมกันในเดือน กุมภาพันธ์ ความฮือฮาของ IMPREZA (GC8) คันดังกล่าว นอกจากชุด AERO PART ภายนอกที่นำไปทำเป็น VERSION V ด้วยการเปลี่ยนชุดกันชนหน้า ไฟหน้าแบบตาเพชรให้ดูทันสมัยแล้ว ยังมีอุปกรณ์ชิ้นพิเศษที่เป็น LIMITED EDITION คือสปอยเลอร์หลังแบบ 2 ชั้น ทำจากอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งสปอยเลอร์หลังแบบนี้ ในช่วงนั้นจะไม่มีให้เห็นกันเท่าไหร่ จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ IMPREZA คันนี้เป็นคันแรกในไทย ก็คือ การเปลี่ยนไปใช้ล้อขอบ 18 นิ้ว ของ AVS MODEL 7 ส่วนแฟชั่นเครื่องยนต์ที่บรรดาแฟนคลับ IMPREZA ถวิลหา คงหนีไม่พ้นเครื่องรุ่น "คอแดง" ที่มีเรี่ยวแรงถึง 280 แรงม้า และถ้าจะให้ดีก็ต้องมีการเปลี่ยนไปใช้เฟืองท้าย 4.4 ช่วยให้ได้อัตราเร่งในการตอบสนองที่ดีขึ้น แต่คันนี้เจ้าของรถได้ทำเครื่องยนต์เพิ่มเติมด้วยการเปลี่ยนไปใช้แคมฯขนาด 272 องศา ทั้งด้านไอดีและไอเสีย ส่วนลูกสูบนำถูกเปลี่ยนมาใช้แบบ FORGED ของรถแข่ง GROUP N สำหรับการตกแต่ง IMPREZA (GC8) คันนี้ถือว่าเป็นแนวทางสุดฮิตของการตกแต่งรถรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ แต่ในระยะหลังหลายคนเริ่มจับเจ้า GC8 ไปแปลงร่างเป็น VERSION VI ซะมากว่า อีกอย่างในปัจจุบันก็คงมีให้เห็นกันน้อยลง เพราะกระแส IMPREZA (GDB) ตาเหยี่ยวมาแรงเหลือเกิน -------------------------------------------------------------------------------- 200 SX ขุมพลัง 2Jจาก K&D SERVICE กับรองเท้าราคา "แสนสี่" พอมาถึงเดือน เมษายน คอลัมน์ STYLE UP ก็สร้างความอลังการอีกครั้งด้วยการนำรถ 200 SX ของน้าก้อน K&D มาเผยโฉมให้ชมกัน พอบอกถึงชื่ออู่ ก็น่าจะพอเดากันได้ว่าเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ใน 200 SX คันนี้คือเครื่องอะไร ...แน่นอนที่สุด ยังไงก็หนีไม่พ้นบล็อก 2JZ-GTE ซึ่งในช่วงดังกล่าวถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่กำลังมาแรงพอสมควร ส่วนการโมดิฟายเครื่องยนต์นั้น น้าก้อนจัดการเปลี่ยนไปใช้เทอร์โบคู่ในรหัส K26 จาก KKK ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่มีอาการ TURBO LAG ให้ได้เห็นกัน ส่วนเรื่องของเกียร์ได้นำเกียร์ธรรมดาของเครื่อง 1JZ-GTE มาชนเข้าไป ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จซะแล้ว แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็ต้องเปลี่ยนเป็นชุดคลัตช์ OS GIKEN แบบ 3 แผ่น ในคันนี้เขาก็มีเช่นกัน ทีเด็ดสุดในยุคนั้นต้องนี่เลย น้าก้อนเขาจับ 200 SX คันเก่ง ไปเปลี่ยนรองเท้าใหม่ยี่ห้อ VOLK RACING รุ่น GT-N ขอบ 17 นิ้ว ราคาประมาณ "แสนสี่หมื่นสามพัน" ซึ่งยุคนั้นถือเป็นช่วงแรกที่หลายคนเริ่มสั่งล้อราคาเรือนแสนมาใช้กัน เช่น ล้อ VOLK TE-37 ของคุณอ๊อฟ หทัย ไชยวัณณ์ ส่วนระบบเบรกจะใช้วิธีการอัพเกรดแบบง่าย ๆ ด้วยการยกชุดของ SKYLINE มาใส่เข้าไป TREND การตกแต่ง 200 SX ของน้าก้อน ในปัจจุบันถือว่าก็ยังน่าสนใจอยู่ อาจเป็นเพราะการตกแต่งที่ดูเรียบง่าย ไม่เลอะเทอะ ทำให้ดูแล้วไม่เบื่อง่าย อีกอย่างการผสมข้ามพันธุ์ไปคบหากับเครื่อง 2J ปัจจุบันได้กลายเป็นอีกแฟชั่นยอดฮิตของผู้มีใจรักความแรงไปซะแล้ว
สปีชี่ใหม่ คันแรกในไทย STYLE UP ในเดือนมิถุนายน ถือว่าเป็นของแปลกในยุค กับ 200 SX หน้า S15 ต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าต้นกำเนิดของ 200 SX หน้า SILVIA ได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกา ด้วยการจับ 200 SX มาเปลี่ยนหน้าเป็น SILVIA S13 กลายเป็น SILEIGHTY กลายเป็นแฟชั่นที่ฮิตกันไปในที่สุด กระแสการเปลี่ยนหน้าในไทยก็มีมาเรื่อย ๆ เช่นกัน จนในที่สุดมาถึงยุคของ SILVIA S15 ที่มีสำนักแต่งในญี่ปุ่นทำชุดคิตออกมาขาย ซึ่งมีราคาค่าตัวค่อนข้างสูง ทำให้หลายคนยังใช้วิธีหาชุดแต่งมือสองของ S15 มาดัดแปลงใส่เข้าไป 200 SX คันนี้ก็เช่นกัน ทางเจ้าของรถได้ลงทุนบินไปหาชิ้นส่วนของ S15 เพื่อนำมาแปลง ได้แก่ แก้มหน้า ฝากระโปรง กันชน แต่สิ่งที่หาไม่ได้และต้องเบิกของใหม่คือตัวไฟหน้า เมื่อได้ทุกอย่างมาครบก็นำไปให้ช่างดู ปรากฏว่าต้องทำการดัดแปลงกันชุดใหญ่ด้วยวิธีการคุ้นเคยของช่างไทย "ตัด ต่อ ทุบ เจาะ เสริม พับ" เพื่อทำยังไงก็ได้ให้กลายมาเป็น 200 SX หน้า S15 รูปแบบการแต่งในสไตล์ FACE OFF ปัจจุบันกลายเป็นแฟชั่นที่นิยมมากในรถ 200 SX และไม่น่าเชื่อว่าการแปลงหน้าก็ง่ายกว่ายุคก่อนมาก เพียงแค่นำรถเข้าไปร้านไฟเบอร์ชื่อดังทั้งหลาย รอเพียงไม่กี่วันก็รับรถได้แล้ว เพราะปัจจุบันนี้เขามีชุดคิตสำเร็จรูปฝีมือคนไทยออกมาให้ได้ใช้กันแล้ว -------------------------------------------------------------------------------- RX-7 FD3S RE AMEMIYA คันแรกในไทย (แบบครบชุด) RX-7 FD3S RE AMEMIYA แบบครบชุดคันแรกในไทย อวดโฉมออกมาให้ได้ชมกันในเดือน สิงหาคม รถคันนี้เป็นรุ่น TYPE-X แล้วจับนำมาใส่ชุดบอดี้พาร์ทของ RE AMEMIYA ประกอบด้วยกันชนหน้า (AD FACER D0047), ฝากระโปรงหน้ารุ่น AD HOOD R D0064, สเกิร์ตข้าง (AD STEP D2 D0063), กระจกมองข้าง (AD MIRROR-R TYPE I), หางหลัง (REAR SPOILER-GT) นอกจากชุด AERO PART ของ RE AMEMIYA สีสันของตัวรถก็จัดการนำไปสาดใหม่ให้เป็นสีน้ำเงินสไตล์ RE AMEMIYA อีกเช่นกัน ส่วนล้อก็เป็นรุ่น AW-7 ขอบ 17 นิ้ว ทางด้านเครื่องยนต์ ถูกสำนักสุขุมโรตารี่ จับมาเปิดพอร์ตนิดหน่อย ช่วยให้ไอเสียไหลไปปั่นเทอร์โบได้มากขึ้น กล่อง ECU ก็ถูกเปลี่ยนไปใช้ของ A'PEX'i POWER FC จูนโดย MR. KUMARI จาก TOP FUEL RX-7 FD3S RE AMEMIYA คันนี้ถือว่าเป็นคันแรกในไทย ที่นำชุดแต่ง AERO PART จาก RE AMEMIYA มาใส่ครบทั้งคัน แต่ตอนนั้นเป็นเพียงแค่ชุดเล็ก เพราะอีกปีต่อมา RX-7 คันนี้ถูกแปลงโฉมอีกครั้งด้วยชุด RE AMEMIYA รุ่น AD GT KIT ------------------------------------------------------------------------- TOYOTA TRUENO AE86 กระแส DRIFT มาแรงมาก โดยเฉพาะในยุคที่ XO AUTOSPORT จัดงาน XO SPEED FESTIVAL ทำให้หลายคนเริ่มรู้จักรถ AE86 กันมากขึ้น และเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคน ใน STYLE UP เดือน พฤศจิกายน เราได้นำเจ้า 86 (HACHI ROKU) ของบุคคลที่หลงใหลรถรุ่นนี้มาให้ชมกัน แต่เดิมเจ้า 86 (HACHI ROKU) คันนี้ไม่ได้ออกมาสวยหรูอย่างที่เห็น แต่กว่าจะออกมาเป็นสภาพเช่นนี้ได้ ต้องผ่านการบูรณะกันพอสมควร ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ผู้ที่เล่นรถเก่าคงรู้กันดีว่า กว่าจะหามาได้ครบมันลำบากยากเข็ญขนาดไหน อย่างคันนี้ช่วงแรกเครื่องยนต์ที่ติดมาเป็นรหัส 3A แต่เพื่อให้เหมือนต้นตำรับจากญี่ปุ่น ทำให้ต้องเปลี่ยนไปใช้เครื่อง 4A-GE ภายในห้องโดยสารก็พยายามเน้นสภาพเดิม ๆ จากโรงงานไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่ารถที่อายุอานามชราภาพขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีเสื่อมสภาพไปบ้าง ทำให้บางจุดเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่เน้นความสวยงามแทน เช่น เบาะคู่หน้า ในด้านคนนั่งเป็นของ BRIDE รุ่น BRIX ส่วนด้านคนขับเป็นแบบ FULL BUCKET SEAT ของ TRD TRUENO AE86 คันนี้น่าจะเป็นรถร่วมสมัยอีกคันนึง เนื่องจากรูปแบบของการตกแต่งรถรุ่นเก่าย้อนยุคสไตล์ RETRO CAR กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน เพราะตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ 86 (HACHI ROKU) เท่านั้นที่นิยมนำมาแต่งกัน แต่รถจากค่ายอื่นอย่างเช่น RX-3, SA22C, 240Z หรือบรรดาฝูง SKYLINE (GC10GT, KPGC110) ต่างก็มีคนถวิลหามาเป็นของสะสมกันทั้งนั้น -------------------------------------------------------------------------------- RX-7 C-WEST N1 ENDURANCE PLUSE RX-7 C-WEST N1 ENDURANCE PLUSE เผยโฉมในเดือนพฤษภาคม ด้วยชุดแต่งจากค่าย C-WEST ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชุด AERO PART ที่มีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น และประสบความสำเร็จจากการแข่ง SUPER ENDURANCE ด้วยการทำชุด AERO PART รุ่น N1 ENDURANCE PLUSE ให้กับ RX-7 (FD3S) สำหรับ RX-7 ที่นำมาเสนอใน XO เป็นบอดี้ปี 93 นำไปใส่ AERO PART ของ C-WEST N1 ENDURANCE PLUSE แต่ยังขาดอยู่อีก 2 ชิ้น คือ ฝากระโปรงหน้าที่มีครีบระบายความร้อน และสปอยเลอร์หลังแบบ GT WING ซึ่งในช่วงนั้นของที่สั่งยังมาไม่ครบ ส่วนภายในจากเดิมที่เป็นของติดรถในรุ่นปี 93 ก็ถูกรื้อออกแล้วยัดชุดภายในของตัว MINOR CHANGE ปี 99 เข้าไปแทน ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัด ชุดเบาะ ชุดพรม ที่ได้ของมาครบแบบนี้ เพราะเขาซื้อหัว RX-7 (FD3S) เพื่อมาสลับของทุกอย่างไปใส่คันนี้ไง สไตล์การตกแต่งของ RX-7 คันนี้ ในปัจจุบัน ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่พอสมควร โดยเฉพาะการแปลงเป็นรุ่น MINOR CHANGE ปี 99 เรียกว่า RX-7 ที่เห็นเกือบทุกคัน ล้วนแต่แปลงร่างกันไปหมดซะแล้ว เล่นเอาลืมไปเลยว่าหน้าตาของรุ่นก่อน MINOR CHANGE เป็นไง!!
RX-7 RE AMEMIYA GT STYLE (อีกครั้งหนึ่ง กับคำว่า "คันแรกในไทย") โอ๊ย!! กลับมาเจอคันนี้อีกแล้ว เพิ่งจะเขียนจบไปเมื่อกี้เอง นั่นคือ RX-7 FD3S RE AMEMIYA คันแรกในไทยที่นำเสนอไปแล้วในเดือนสิงหาคม ปี2001 ครั้งนี้กลับมาในมาดใหม่ "ชุดใหญ่กว่าเดิม" ด้วยคราบตัวแข่ง GT ที่ออกมาซ่าบนถนน การกลับมาครั้งนี้ถูกบรรจุอยู่ในเล่มเดือน สิงหาคม ปี2002 (เป็นไงล่ะ! เดือนเดียวกันเลย) ในช่วงที่รถคันนี้ออกมา ทุกคนพูดเป็นคำเดียวกันเลยว่า "ไม่เคยเห็นรถคันไหนที่สวยอลังการขนาดนี้" ซึ่งถือว่าเจ้าของรถเป็นผู้ปฏิวัติการตกแต่งรถสปอร์ตเลยทีเดียว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปครั้งนี้ได้แก่ ชุดโป่ง (AD GT KIT D0154) ที่ทำให้ตัวรถออกมาโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ส่วนเครื่องยนต์ ทางสุขุมโรตารี่จัดการรื้อเครื่องเพื่อตรวจเช็คความสมบูรณ์อย่างละเอียด ก่อนจะทำการเปลี่ยนระบบอัดอากาศไปเป็นเทอร์โบเดี่ยว KKK ในรหัส K27 ช่วยเป่าลมสร้างแรงดัน 1.1 บาร์ให้เครื่องยนต์ การกลับมาของ RX-7 RE AMEMIYA AD GT KIT รูปโฉมใหม่ในรถคันนี้ สร้างความร้อนแรงให้กับแวดวงสปอร์ตคาร์ในช่วงนั้นไม่ใช่น้อย จนต่อมามีผู้สั่งชุด RE AMEMIYA GREDDY 9 เข้ามาบ้าง ซึ่งเขาคือ "เอ๋ ข้อ KING ในปัจจุบัน" -------------------------------------------------------------------------------- PORSCHE 911 CARRERA2ในคราบตัวแข่ง GT3 คันเดียวในไทย! ผมเริ่มเบื่อกับคำว่า "คันแรกในไทย" ซะแล้ว คราวนี้เลยต้องเจอกับ "คันเดียวในไทย" แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นที่สุดจริง ๆ รถคันนี้โผล่มาในเดือนกันยายน ...ต้นกำเนิดตั้งแต่ซื้อมานั้น มันคือ "PORSCHE 911 CARRERA 2" บอดี้ 993 ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เขานิยมดัดแปลงไปทำรถแข่งกัน โดยขั้นตอนการแปลงนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการแปลงเป็นรุ่น GT2 ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์หลายจุด ได้แก่ กันชนหน้าพร้อมลิ้นหน้า กันชนหลัง สปอยเลอร์หลังแบบมีช่องดักลม พร้อมฝากระโปรงหลัง ไฟเลี้ยวข้างแบบกรอบใส และไฟหลังแบบไฟเลี้ยวสีแดง หลังจากขั้นตอนการแปลงร่างเป็น GT2 เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาดัดแปลงเป็นรถแข่ง GT3 ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ต่อไปนี้ ได้แก่ ชุดโป่งหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง (รับกับชุดโป่ง) กระจกครอบไฟหน้า ล้อ BBS รุ่น LE MANS ขนาด 9x17 นิ้วในล้อหน้า และขนาด 11x17 นิ้ว ในล้อหลัง สปอยเลอร์หลังทรง GT แบบคาร์บอนไฟเบอร์ (ติดตั้งบนสปอยเลอร์หลังของ GT2) ภายในผสมผสานระหว่างรถแข่งกับรถบ้านด้วยการสั่งโรลบาร์ 6 จุดของรถแข่ง GT3 มาติดตั้งเข้าไปพร้อมกับหุ้มหนังดำเย็บด้ายแดงเพื่อให้เข้ากับสีของภายใน ส่วนเบาะคู่หน้าเปลี่ยนเป็นแบบ FULL BUCKET SEAT ของ RECARO รูปแบบการตกแต่งของ PORSCHE คันนี้ ใครที่เห็นก็คงบอกว่าสุดจริง ๆ เพราะคงมีไม่กี่คนที่นำรถ SUPER CAR มาแต่งเป็นรถแข่ง GT เพื่อใช้ขับเล่นบนถนน การตกแต่งดังกล่าวถือว่าเป็นรูปแบบการแต่งที่ร่วมสมัยมาก ถึงแม้จะผ่านไป 4 ปีแล้วก็ตาม ------------------------------------------------------------------------- SUPRA TYPE GZ TARGA TOP (VERY RARE!!) TOYOTA SUPRA UK SPEC เป็นรถหายากที่นำมาลงในเดือนพฤษภาคม ความแตกต่างระหว่างสเป็ก JAPAN กับสเป็ก UK ถ้าจะให้นำมาเปรียบเทียบกัน คงต้องใช้หน้ากระดาษยาวพอสมควร แต่อยากเล่าให้ฟังว่าจากที่ศึกษาดูปรากฏว่า SUPRA เครื่องเทอร์โบ หลังคา TARGA ไม่ได้มีเฉพาะในอังกฤษเท่านั้น อย่างเช่นคันนี้หลังจากที่สืบไปสืบมา สุดท้ายก็ทราบว่าเป็นสเป็กญี่ปุ่นสั่งพิเศษมาโดย S.E.C. จากข้อมูลล่าสุดที่ PRO SPECให้ข้อมูลมา ภายนอกของรถคันนี้ถูกเพิ่มความเด่นด้วยชุด AERO PART จาก TOP SECRET ได้แก่ กันชนหน้า ฝากระโปรงหน้า สเกิร์ตข้างและสเกิร์ตหลัง ส่วนเครื่องยนต์บล็อก 2JZ-GTE สเป็ก UK แบบคันนี้จะมีเฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ มีแรงม้าให้ใช้งานอยู่ที่ 326 แรงม้า สรุปได้เลยว่า SUPRA ที่มีหลังคา TARGA พร้อมเครื่องเทอร์โบจากโรงงาน เป็นรถหายากมาก ปัจจุบันรถคันนี้อยู่ในการครอบครองของสำนัก PRO SPEC แต่ปัจจุบันถูกโมดิฟายเครื่องยนต์แบบชุดใหญ่ในระดับ 800 กว่าแรงม้า พร้อมเปลี่ยนไปใช้ชุด AERO PART จาก TRIAL -------------------------------------------------------------------------------- SUBARU IMPREZA COUPE (E-GC1) ในเดือน มกราคม มีการนำเสนอรถ SUBARU IMPREZA ที่ไม่น่าจะมีใครเคยเห็นกัน เพราะมันคือ IMPREZA แบบ COUPE 2 ประตู ในรหัสตัวถัง E-GC1 ซึ่งในบ้านเรามีอยู่เพียงไม่กี่คันเท่านั้น ซึ่งรุ่นนี้ผลิตขึ้นในช่วงปี 1995 แบ่งเป็น 2 แบบได้แก่ เครื่องยนต์ EJ15 ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนอีกรุ่นจะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กับเครื่องยนต์ EJ16 แต่เพื่อความเท่ ทำให้ต้องมีการหาชุดแต่งรอบนอกและภายในห้องโดยสารของรุ่น SPORT COUPE WRX TYPE R STi VERSION VI มาใส่เข้าไป ทางด้านเครื่องยนต์ก็ถูกเปลี่ยนไปใช้รหัส EJ20 คอแดง จาก VERSION IV พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมชุดเกียร์ 5 จังหวะแบบ CLOSE RATIO การตกแต่งรถคันนี้เป็นผลงานจากอู่ BOXER SERVICE ลาดพร้าว 71 ซึ่งอู่แห่งนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำรถจากค่าย SUBARU อยู่แล้ว ดังนั้นการหาของเล่นสำหรับรถในตระกูลนี้คงเป็นเรื่องง่ายของที่นี่ อย่าง SUBARU IMPREZA COUPE คันนี้ เราก็นำมาเสนอให้เห็นว่าเป็นรถหายากอีกรุ่นที่น่าเก็บสะสมเหลือเกิน
INTEGRA TYPE R (DC5) MADE UP BY INGS+1 (N-SPEC) INTEGRA (DC5) กับชุดแต่ง INGS+1 (N-SPEC) นำเสนอไปในเดือนมีนาคม ความพิเศษของ INTEGRA (DC5) รุ่นนี้ออกมาเผยโฉมตั้งแต่ปี 2001 โดยเฉพาะความพิเศษตรงคำว่า "TYPE R" สาวก HONDA ก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นรุ่นพิเศษอยู่แล้ว แต่ในคันนี้เขาเสริมชุดแต่ง AERO PART จากสำนัก INGS+1 (N-SPEC) เข้าไป เพื่อเพิ่มความสปอร์ตมากกว่าเดิม โดยเริ่มต้นที่กันชนหน้ามี FRONT CANARD แบบคาร์บอนไฟเบอร์ สเกิร์ตข้างมีช่องดักลมสำหรับช่วงล่างด้านหลัง และกันชนหลังมีช่องระบายความร้อนออกจากซุ้มล้อ ขุมพลังที่ติดตัวมาในรหัส K20A ฝาแดง ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมาให้ใช้งานได้ดีอยู่แล้วในระดับนึง แต่ได้เพิ่มชุดตัวดักอากาศแบบคาร์บอนไฟเบอร์ของ GRUPPE M พร้อมเปลี่ยนเฮดเดอร์จาก SPOON แบบ 4-2-1 ร่วมกับชุดท่อแบบ TITANIUM จาก BULLET 505S INTEGRA คันนี้ถือว่าเป็นคันแรก ๆ ที่นำมาใส่ชุดแต่งจาก INGS+1 (N-SPEC) แบบครบ ๆ จนปัจจุบันนี้ก็ยังคงหารถที่มีชุดแต่งครบ ๆให้เห็นเพียงไม่กี่คันเท่านั้น และตัวดักอากาศของ GRUPPE M ก็เช่นกัน ที่ไม่ค่อยได้เห็นใครใส่กันสักเท่าไหร่ เนื่องจากราคาที่แพงพอตัว ซึ่งความสวยของรถคันนี้การันตีได้ด้วยรางวัลชนะเลิศตำแหน่งที่ 2 จากการประกวดรถสวยในงาน YOKOHAMA DRESS UP CAR CONTEST -------------------------------------------------------------------------------- S2000 MUGEN BY PERFORMANCE FACTORY ในเดือนมีนาคม ยังมีรถสปอร์ตจากค่าย HONDA อีกคัน ซึ่งถือว่าเป็นสปอร์ตรุ่นเดียวของค่ายนี้ที่มีเครื่องยนต์แบบวางหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง จุดเด่นของรถคันนี้อยู่ที่หลังคาแข็งทำมาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ของ MUGEN มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา พร้อมกับความสวยงามที่ตัดกับสีขาวของตัวรถ เครื่องยนต์ถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการเปลี่ยนไปใช้ชุดคิตท่อไอเสีย MUGEN ทำมาจากวัสดุ TITANIUM พร้อมการปรับปรุงระบบดูดอากาศจากการนำกรองของ MUGEN ที่เป็นชุดครอบทำจาก CARBONFIBER ยื่นออกไปรับอากาศเย็นจากด้านหน้า ส่วนกล่องประมวลผลอย่าง ECU ได้นำของ MUGEN มาใช้เช่นกัน HONDA S2000 รถในรูปแบบ ROADSTER อีกพัฒนาการแห่งความสมบูรณ์ด้วยการออกแบบ ที่ทาง HONDA ได้รวบรวมเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมารวมไว้ในรถรุ่นนี้ ทำให้ราคาค่าตัวอาจจะสูงไปบ้าง แต่ก็คงเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเทียบกับสปอร์ตเทคโนโลยีสูงของ HONDA น่าจะเป็นรถอีกรุ่นที่หลายคนพูดถึงกันอยู่ในปัจจุบัน แต่ในปัจจุบันนี้มี S2000 อีกคันที่แต่งได้สุดเหลือเกินด้วยชุด AERO PART จากสำนัก J'S RACING ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของนายไผ่นั่นเอง ------------------------------------------------------------------------- ที่สุดของรถ DRIFT กับ AE86 "ถ้าอยากจะขับ DRIFT ให้ลีลาสวยงาม ต้องเคยผ่านม้าศึกอย่าง AE86 มาก่อน" เพราะเจ้า AE86 เป็นรถที่มีพื้นฐานเหมาะกับการเล่น DRIFT ใคร ๆ ก็ตามที่สามารถควบคุมรถรุ่นนี้ได้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นทักษะที่ดี ทำให้ปัจจุบันรถรุ่นนี้ หลายคนเริ่มนำมาเก็บสะสมเป็นรถ RETRO CAR กันแล้ว TRUENO AE86 สีทูโทนแบบแดงคาดดำถูกนำมาเผยโฉมในเดือนกรกฎาคม ภายนอกเป็นรุ่น TYPE III ที่สามารถแยกความแตกต่างได้จากกันชนหน้าและไฟท้าย แต่ภายในห้องโดยสารยังคงอนุรักษ์ของเดิมแบบ TYPE II ไว้ (ภายในเป็นสีทูโทนน้ำตาล-แดง) แต่ทีเด็ดอยู่ที่เครื่องยนต์ ซึ่งเขาปลี่ยนไปใช้เครื่อง 4A-GZE จากรุ่น AE101 แล้วนำมาแปลงในหลายจุดเพื่อให้วางตามยาวได้ พร้อมกับจับเกียร์เดิมของ 4A-GE มาชนเข้าไป รูปแบบของรถเก่าอย่าง AE86 คันนี้ ถือว่าเป็นรถที่มีเสน่ห์อยู่ในตัวเอง แต่อาจติดปัญหานิดหน่อย คือผู้ที่จะเล่นกับรถรุ่นนี้ได้ ต้องมีทุนทรัพย์ในกระเป๋าสักหน่อย และถ้ามีเวลาด้วยยิ่งดี เพราะกว่าจะออกมาครบและสวยอย่างนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร ตรงจุดนี้แหละที่เป็นบทพิสูจน์ได้ว่าท่านเป็นคนที่มีใจรักรถประเภทนี้จริงรึเปล่า? แต่ช่วงนี้ต้องยอมรับว่ากระแส RETRO CAR มาแรงจริง ๆ... -------------------------------------------------------------------------------- MIATA BOB'S SHOP ความโดดเด่นของ MIATA จากสำนัก BOB'S SHOP ถูกนำมาลงในเล่มเดือนเมษายน ซึ่งความโดดเด่นของรถคันนี้คืออุปกรณ์ตกแต่งหลายชิ้นหายากมาก! ตั้งแต่ชุด AERO PART ได้แก่กันชนหน้าของ ANHELO ช่องดักลมที่ไฟคู่หน้าจาก ZOOM ENGINEERING สเกิร์ตข้างของ MAZDA SPEED กระจกมองข้าง RACING BEAT กันชนหลัง GARAGE VARY และสปอยเลอร์หลัง MAZDA SPEED A SPEC ภายในก็มีอุปกรณ์หายากอีกเช่นกัน ได้แก่ตัวจับเปิดประตูด้านในแบบอะลูมิเนียม (มีเฉพาะในรุ่น M2 1002 ผลิตออกมา 200 คันทั่วโลกเท่านั้น) เบาะคู่หน้าจาก BRIDE รุ่น PROS พร้อมเข็มขัดนิรภัย 4 จุดจาก SIMPSON พวงมาลัย 3 ก้านจาก RE AMEMIYA ชุดกรอบแผงข้างประตูเป็นอะลูมิเนียมจากรุ่น LIMITED EDITION เครื่องยนต์ใน MIATA คันนี้เป็นรุ่น B6-ZE แต่ได้นำไปโมดิฟายเพิ่มเติมด้วยการจับเซ็ตเทอร์โบของ GARRETT ในรหัส TD04 พร้อมเปลี่ยนแคมชาฟท์ทั้งไอดีและไอเสียขนาด 264 องศา ลิฟต์ 9.5 มม. ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ จาก MX-5 ตัวใหม่ และเปลี่ยนชุดคลัตช์ไปใช้ของ OS GIKEN พร้อมกับเปลี่ยนเฟืองท้ายขนาด 4.3 เพิ่มเติมด้วย LIMITED SLIP ของ CUSCO แบบ 1.5 WAY ที่นำเสนอการตกแต่ง MIATA มาซะขนาดนี้ เพราะอยากให้เห็นว่า แฟชั่นการตกแต่งของกลุ่มที่เล่นรถรุ่นนี้มีเยอะพอสมควร แต่จะมีสักกี่คันที่สามารถหาของแต่งได้ครบแบบนี้ นั่นเป็นเพราะเจ้าของรถอยากได้อุปกรณ์ชิ้นไหน ก็จะใช้วิธีบินไปเอาของจากต่างประเทศเองโดยตรง แบบนี้ซิ เขาถึงเรียกว่ารักรถจริง
SUBARU (GDB)ร้อนแรงแบบ SPORT SEDAN SUBARU GDB คันนี้นำเสนอไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ด้วยการตกแต่งที่ลงตัวทั้งความสวยและความแรง ภายนอกถูกเสริมแต่งให้โดดเด่นด้วยชุด AERO PART จาก INGS+1 พร้อมกับนำสปอยเลอร์หลัง ทรง GT ของ CUSCO มาใส่เข้าไป เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องคอแดงรุ่นใหม่ มีระบบวาล์วแปรผัน AVCS แต่เครื่องยนต์ตัวดังกล่าวถูกนำไปโมดิฟายเพิ่มเติม จากการขยายความจุเป็น 2,200 ซี.ซี. ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ข้อเหวี่ยงของรุ่น FORESTER พร้อมกับลูกสูบใหม่ขนาด 92.5 มม. ระบบอัดอากาศถูกเปลี่ยนไปใช้เทอร์โบ AVO พร้อมกับเปลี่ยนไปใช้อินเตอร์คูลเลอร์ชุดคิตของ GREDDY ที่ย้ายมารับลมอยู่หลังกันชนหน้า ส่วนกล่องควบคุมนั้นได้เสริมกล่อง PIGGY BACK ของ HKS รุ่น F-CON V PRO เข้าไปด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะมาให้ใช้อีกด้วย SUBARU IMPREZA คันนี้ถูกบรรจงตกแต่งและสร้างสรรค์โดยผู้ที่หลงใหลในรถยี่ห้อนี้ ซึ่งเป็นการตกแต่งเปลี่ยนแปลงกันใหม่ทุกจุด สำหรับแฟนพันธุ์แท้ SUBARU คงต้องยอมรับกันว่า รถคันนี้เป็นอีกหนึ่งคันที่สวยสมบูรณ์ในทุกด้านจริง ๆ การตกแต่งในรูปแบบดังกล่าว ถ้าเป็นกลุ่ม SUBARU คงพูดออกมาสั้น ๆ ว่า "ไม่ธรรมดา" -------------------------------------------------------------------------------- NISSAN STAGEA AUTECH VERSION 260 RS NISSAN STAGEA สุดยอดรถ WAGON จากค่าย NISSAN นำมาโชว์ให้เห็นกันในเดือน พฤศจิกายน ด้วยความพิเศษจึงถูกนำมาตกแต่งใหม่สไตล์ AUTECH (บริษัทที่รับทำ COMPLETE CAR MANUFACTURER) เริ่มต้นภายนอกจับมาใส่ชุดAERO PART รอบคันของ AUTECH VERSION 260 RS ประกอบด้วยชุดกันชนหน้า กระจังหน้า สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ความพิเศษของรถจาก AUTECH คือการนำเครื่องตัวแรงอย่าง RB26DETT พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะมาใส่เข้าไปแทน การทำงานของช่วงล่างเหมือนกับสปอร์ตตัวแรงอย่าง SKYLINE อยู่แล้ว สิ่งที่ต่างกันคงเป็นเพียงแค่ขนาดของล้อแม็กและระบบเบรกเท่านั้น ส่วนการตกแต่งของ AUTECH VERSION 260 RS คันนี้ มีระบบรองรับน้ำหนักด้วยโช้คอัพและสปริงจาก NISMO ระบบเบรกหน้า BREMBO 4 พอร์ตและหลัง 2 พอร์ต พร้อมใส่ล้อ NISMO รุ่น GT-3 ขอบ 18 นิ้วเข้าไป รถคันนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความแปลกที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในบ้านเรา และในอนาคตเจ้า STAGEA คันนี้จะถูกเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ กลายเป็น R34 GT-R ซึ่งเป็นการตกแต่งรถ WAGON ในสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริง หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายคงต้องบอกว่า เป็นการแต่งรถที่มีสมรรถนะระดับสปอร์ตคาร์ในคราบ WAGON นั่นเอง ...หมดและ...