ออกเดินทางจาก AOD ATEC SPEED SHOP SHIBUYA วันที่ 4 เวลา 0.00 น. หลังจากนั้นไปสมทบกับที่อีกคณะที่อยุธยา แล้วขึ้นเหนือไปตามเส้นทางสายเอเชีย (มั้งนะ) เข้านครสวรรค์ ผ่านกำแพงเพชร เข้าตาก โผล่ลำปาง แล้วก็มีการแข่งขึ้นเขาขุนตาล มันส์มากขอบอก
งานนี้ต้องขอขอบคุณ พี่อาร์มร่อง ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ส่วนรูปตอนงานฝนตก เลยขี้เกียจออกไปถ่าย 555 รอดูที่กล้องพี่อาร์มร่องล่ะกันครับ คลิปหลุด ๆ จากพี่ บก.วิเชษฐ์ ธรรมรุ่งพิทักษ์ http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=645266
ยอมากเดี๋ยวพลาดครับ........อยู่ลำปางแถวไหนครับผม อยากบอกว่า ถนน ลำปางเชียงใหม่ น่าเล่นมิดไนท์มากๆเลย .5555
อันนี้ผมอยากพูดให้เพื่อนๆที่อยากลองขับหรืออยากรู้เทคนิคเอาไว้ประดับรอยหยักในสมอง จิมคาน่า ไม่มีอะไรมาก ส่วนตัวคิดว่ามีหัวใจอยู่ด้วยกันคือ 1 ดึงโบ หรือยูเทิน 2 การสลาลมหรือโค้งหักศอก 3 โดนัท เพื่อนบางคนอาจะคิดว่าขับให้ถูกไลน์ไปให้เร็วโดยไม่สะดุดก็ชนะแล้วแต่ ความจริงมันมีอยู่ว่า ถ้าเราจะเร็วกว่าใครเราต้องเร็วกว่าเค้าทำได้ดีกว่าเค้า ถึงจะเป็นผู้ที่ชนะได้ การขับจิมคาน่าให้ ความคิดสร้างสรรค์มากกว่าที่คิดเพราะว่า จะต้องจินตนาการว่าเราต้องเลี้ยวตรงนี้ๆแล้ว ยังต้อง คิดอีกว่า เราต้องเลี้ยววงกว้างดีหรือวงแคบดี ความเร็วจะใช้ขนาดไหนถึงจะดี ถ้าเร็วไปก็ปัดไม่ก็ เลยจุดเบรคทะลุกรวย ทำให้รถเสียอาการ ออกหน้าดื้อหรือท้ายปัดได้ เรามาดูเทคนิกการหลักๆ การขับจิมคาน่ากันก่อนเลยดีกว่า..........หัวใจของมันก็คือ สนามๆนึงถ้าคุณวิ่งด้วยระยะทางที่สั้น ที่สุดคุณก็จะเร็วที่สุด แต่ถ้าในโค้งๆนึงถ้าคุณคุณวิ่งระยะทางไกลกว่า แต่วิ่งได้เร็วกว่า ตรงนี้อาจจะ ชดเชยกันได้ 1 ดึงโบ เพื่อนๆหลายคนมักจะ ดึงโบหรือ ดึงเบรคมือยูเทินโดยการดึงค้างไว้ ให้รถปัดจนใกล้จะจุดที่ ต้องการจะพุ่งไปข้างหน้าแล้วค่อยปล่อยลง แต่ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น การดึงเบรคมือเพื่อยูเทิน ดึงหลัง หลังจากหักเลี้ยวพวงมาลัยไปแล้ว พอดึงปุ๊บท้ายจะเริ่มออกตรงนี้แหละ ผมจะปล่อยเเบรคมือปล่อยครัช เดินค้นเร่งเพื่อควบคุมการหมุนทันที ข้อแตกต่างก็คือ การดึงเบรคมือค้างไว้ จะต้องแม่นเรื่องความเร็ว ที่พุ่งเข้ามาดึงเบรคมือหากมาแรงมากจะคุมไม่อยู่เพราะว่ารถจะท้ายปัดแรงมาก และการให้กำลังเครื่อง ควบคุมการปัดทำให้รถพยายามเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทำให้ออกจากโค้งได้เร็วกว่า และการเข้ามามายูเทินนั้น ให้เล็งแค่กลวยอยู่พอดีกับล้อหน้าแล้วหักพวงมาลัยเข้าหากลวยแล้วดึงเบรค มือทันที ถ้าดึงเบรคมือไม่ติดล้อหลังจะเหยียบและเบียดกลวย ถ้าดึงติดล้อหลังจะสไลด์หลบกลวย ถ้าหากดึงเบรคมือห่างจากกลวยมากเกินไป เมื่อรถปัดไปแล้วกลวยมันไปอยู่หน้ารถ และทำให้เราต้อง ดึงโบเป็นวงกว้าง ซึ่งทำยากและมีโอกาสผิดพลาสได้ง่ายนั่นเอง 2. การสลาลม หรือการหักเลี้ยว ต้องจำไว้ว่าล้อหลังจะต้องชิดกลวย ดังนั้นล้อหน้าต้องห่างจากกลวย สิ่งนี้จะทำได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับว่าใครชินรถกว่ากันและหมุนพวงมาลัยได้เร็วกว่ากัน ถ้าพลาด คิดว่าล้อหน้าชิดกลวยมากเกินไปล้อหลังต้องเหยียบกลวยแน่ๆ แก้ไขได้(ถ้าทำทันและรู้ทัน) อย่างแรก กดให้ล้อสปินเป็นเพาเวอร์สไลด์ให้ท้ายปัดหลบกลวย อีกอย่างคือ ดึงเบรคมือให้ท้ายปัด หลบแล้วไปต่อ 3 การเข้าทำโดนัท สิ่งแรกที่เพื่อนนักขับเจอแระเป็นประตูบานแรกที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ คือเรื่อง การฝืนธรรมชาติมันมีเทคนิคอยู่นิดเดียว ถ้ารับรู้และเข้าใจมัน ขอแค่ครั้งเดียว จะเหมือนกับการว่ายน้ำ ถ้าว่ายเป็นมันก็เป็นเลย แล้วทีนี้ก็จะทำให้คุณขับจิมคาน่าเป็นดริฟเหมือนผมนั่นเอง............สิ่งนั้นคือ ในจังหวะที่เราดึงโบให้ท้ายปัด(หรือกระชากครัช)..............หลับตาแล้วนึกภาพตาม ธรรมชาติของคนเรา เมื่อรถท้ายปัดแล้วจะตอบสนองอยู่ 2แบบ คือ -1 แก้พวงมาลัยและยังเปิดคันเร่งอยู่ -2 ยกไม่กล้ากดต่อ.......... ทั้งสองอย่างนี้เป็นอุปสรรคในการทำ โดนัทและดริฟ ขอให้เข้าไว้ว่า การทำโดนัทวงกว้างจะใช้เพาเวอร์สไลด์ คือต้องกดให้ท้ายปัดอยู่ ตลอดเวลาอันนี้ต้องทำตลอดการการโดนอันนี้ต้องฝึก อีกอย่างก็คือพวงมาลัยจะเอาไว้ควบคุมทิศทาง ให้วงกว้างหรือแคบ และช่วยให้เพาเวอร์สไลด์มากหรือน้อยได้ ยกตัวอย่าง เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 ต้องลองดูเอาเอง ถ้าเกียร์ 1 ต้องใช้รอบสูง ถ้าเกียร์ 2 ก็ใช้รอบกลาง ได้แต่เครื่องต้องมีแรงบิดที่ดี...... หมุนขวา นะ(หลับตาและจินตนาการไปด้วย) กระชากครัชพร้อมเลี้ยวขวาไปด้วย....... ท้ายปัดไปทางซ้ายแล้ว (ถ้าเราไม่คืนพวงมาลัยรถจะเป็นโดนัทที่อ้อมกลวยไม่ได้จะหมุนโดยมีล้อข้างขวา เป็นจุด0กลาง) ตรงนี้ต้องจับความรู้สึกให้ได้ว่าเราแต่งคันเร่ง กลางหรือสูง เพื่อควบคุม เพาเวอร์สไลด์ ในขณะที่มีท้ายปัดอยู่ ให้เราคืนพวงมาลัยให้ล้อตรง แต่รถยังหมุนอยู่ ก็เพราะว่าท้านที่ปัดรอบๆ ตรงนี้เรายังคงตั้งพวงมาลัยตรงอยู่จะทำให้รถหมุนเป็นวงกว้าง ขึ้นเรื่อย..........???~ ถ้าจะทำให้เป็นวงกลมเหมือนเดิมต้อง -1 เลี้ยวขวากลับมาที่เดิม เพราะว่าเมื่อเราเลี้ยวขวากลับมาที่เดิม(ประมาณ ครึ่งรอบ)ก็จะทำให้ท้ายปัด มากขึ้นอีกทั้งมุมเลี้ยวทำให้วงแคบเหมือนเดิม -2 กดคันเร่งมากขึ้นกว่าเดิมอีก เพื่อเพิ่มมุมการหมุนให้ท้ายปัดอ้อมบีบมุมให้รถหมุนเป็นมุมแคบเหมือน เดิมนั่นเอง ใกล้จะเทพแล้ว ดังนั้นถ้าเราหมุนขวาต่อจากเมื่อกี้ ถ้าเรา ไม่หลักเลี้ยวขวาล่ะ เราเลี้ยวซ้ายซะเลย มันก็จะทำให้เราโดนัทเป็นวงกว้างมากขึ้นแต่ เราก็ต้องใช้รอบที่สูงขึ้นให้เพียงพอที่ล้อจะสปินอยู่ ตลอดเวลานั่นเอง งงป่ะ......... จากนั้น ก็หัดท่ากบ ท่าฟรีสไตล์ ท่าผีเสี้อเอาเองครับ สวัสดี......!!!