+ น้ำหนักรถเปล่า +

อยากรู้เล่นๆครับ ว่าวันที่ชั่งน้ำหนัก อยู่พีระ

รถเปล่าไม่รวมคนขับของแต่ละคนหนักเท่าไหร่กันบ้างง

 

1180-83 = 1097 Kg กั๊บ

ไม่ถอดเบาะหลัง

 

1230 ครับ ไม่มีเบาะหลัง

 

1226 - 65 = 1161 เบาะครบ

 

แล้วคนถามน้ำหนักรถเท่าไรคร๊าฟยังม่ายบอกเลย หรือว่าจะซุ่มลดน้ำหนักเนี่ย

 

1069 - 55 = 1014 เบาะหลังไม่มี น้ำมัน1/3ถัง

 

รถไม่เคยชั่ง แต่คนขับ 89 กิโลกรัมอ่ะ

 

ไอ่น้าจะหนักเท่าพี่ต้นแล้วหรอ

 

ผมว่าน้ำหนักรถส่วนมากอยู่ที่น้ำมันด้วย

เพราะเต็มก็ทำให้รถหนักยิ่งขึ้น

เลยออกมาไม่ใกล้เคียงกันเลย

 

ลืมบอกของผม 1015 น้ำมัน 1/3

ถ้าถอดหางหลังคงเท่าๆ รถพี่โอ้ตพอดี

 

ไม่ทันได้ชั่งอะคร้าบบ

โดนเค้าไล่ไปใส่ที่รัดแบตซะก่อน

 

เหตุเพราะทำรถไม่เรียบร้อย....หรือว่าจะลดน้ำหนัก...อิอิ

 

1175 ไม่มีเบาะหลัง น้ำมัน 1/3
+ ซาวน์หลัง(ตู้ซับ,แอมป์)

คนชั่งบอกหนักพรมแดง 55

 

ชั่งแล้วแต่ไม่ได้ลงไปดูครับ

 

โห เบามากๆ เพราะรถโดมเครื่องแคมคู่นะตามหลักแล้วน่าจะหนักกว่าพอควรครับ

 

อัฟเกรดเป็นกระทู้ การปรับเซตรถไปเลย

ใครทำอะไรมาบ้าง

วิ่งแล้วเปนไง

เห็นถามกันจัง เลย เรื่องโช๊ค เรื่องยาง

ค้ำหน้า ค้ำหลัง กันโครง

เดี๋ยวมีคนมาตอบเพียบ รับรอง

 

ไปชั่งที่ไหนกันมาครับ

 

ไม่ได้ไปเลยไม่ได้ชั่งเลย
รู้แต่ว่าหลายเดือนผ่านมานี่น้ำหนักคนขับขึ้นไปจะ 15 กิโลแล้ว...เครียดๆ

 

1240 - 93 = 1147 ชุดแต่งรอบคัน สปอยเลอร์ มูนรูฟ โป่งหน้า หลัง
ล้อ 16 เบาะหลังครบ กากบาทหลัง ฝากระโปรงคาร์บอน น้ำมันครึ่งถัง

 

งั้นขอเริ่มคนแรกเลยนะ เป็น Preview การใช้งานก็แล้วกัน
ตอนที่แข่งใช้ KYB ตัวท๊อป ของปี 2009 อยู่ จับคู่กับยาง
Federal 595 คำหน้า - หลัง กันโครงหน้า - หลัง มีครบหมด

เริ่มที่ยางก่อน ค่อนข้างประทับใจกับยางตัวนี้ หลังจากที่เคยใช้
ทั้ง 01R และ AD07 ตัว 595 ให้การยึดเกาะที่ดีกว่ามาก เสียง
เงียบ(เพราะยังใหม่อยู่มั๊ง) การสึกหรอต้องดูต่อไป ว่าจะอยู่ได้นาน
ขนาดไหน กลัวแต่จะแข็งซะก่อน ผมใช้ยางมากี่ชุด ๆ ไม่เคยใช้
จนดอกหมดสักที ส่วนมากก็ดอกแข็งจนต้องเปลี่ยนทิ้งซะมากกว่า

ส่วน KYB เปลี่ยนจากเมื่อก่อนที่เคยใส่ Mugen คงไม่ได้เพราะ
มันคนละ Class กัน ตัว KYB เองปรับหนืดได้ 4 ระดับ เริ่มจาก
พอรับได้ - ค่อนข้างแข็ง - แข็งไปนะ - แข็งชิปหาย ตอนแรกโช๊ค
ชุดนี้มาพร้อมสปริงหน้า 20K หลัง 7K แต่ผมเปลี่ยนสปริงหน้าใหม่
เป็น 11K และหลังยังใช้ของเดิมคือ 7K อยู่

เริ่มการใช้งาน ผมลองปรับไว้กลาง ๆ คือ หน้า 3/4 และหลัง 3/4
พบว่าวิ่งแล้วท้ายค่อนข้างจะดิ้น วิ่งได้ห้า หกรอบเลยปรับเฉพาะ
ด้านหลังใหม่เป็น 2/4 ลองดูใหม่ โอเคเลย ถ้ายดิ้นน้อยลง แต่ยัง
ไม่ถึงกับนิ่ง ผมชอบขับฟิวที่ต้องแก้พวงมาลัยนิด ๆ แล้วเหยียบส่ง
ให้หมดคันเร่ง ตอนออกจากโค้ง เลยโอเค ปรับแบบนี้แหล่ะ

พอเอาไปขับจริง ปัญหาของโช๊คตัวนี้คือเป็นโช๊คที่ Rebound ช้า
ถึงช้ามาก ถ้าเจอหลุม หรือปีน Chicane หรือ Bank นั่นแหล่ะ
อันแรกจะผ่านไปเนียน ๆ แต่อันที่สองโช๊คจะ Rebound ไม่ทัน
ทำให้รู้สึกว่าล้อลอย หรือกระแทกซุ้ม วิธีแก้ก็คืออาจจะต้องใช้
สปริงที่แข็งกว่านี้ หรือปรับโช๊คให้นิ่มกว่านี้ ต้องลองดู

สำหรับการใช้งานบนท้องถนน กับโค้งกว้าง ๆ บนทางด่วนหรือ
โค้งแคบ ๆ ใช้ Feeling ที่ดีมาก คม แม่น ไว ส่วนการใช้งาน
บนถนนทั่วไป ถ้าชอบนุ่ม ๆ ไม่แนะนำ เพราะ KYB ตัวนี้ถูกออกแบบ
มาเพื่อเน้นในการขับ Circuit ซะมากกว่า ถึงแม้จะสไลด์กระบอก
จนสุด และขันสปริง Swift ขึ้นจนชิดแล้ว ตัวรถยังค่อนข้างที่จะเตี้ย
อย่างที่เห็นใส่ในรถผมอ่ะ เอาขึ้นจนสุดแล้วนะ

 

1184 ไม่รวมคนขับ ของครบ มีกระทั่งยางอะไหล่ 5555

 

ญี่ปุ่นมันใส่น้อตให้ไม่ครบ

 

- ไม่ได้ถามอะครับ เขาชวนคุยจนลืมถามเลย อดเลยเรา แต่คงจะหนักน่าดู เพราะน้ำมันเต็มถังเลย ขนาดวิ่งซ้อมแล้วน้ำมันยังลดลงมานิดเดียวเอง แต่ไม่มีเบาะหลัง ใส่หลังแข็ง 1ตัว

- ส่วนการปรับแต่ง ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเลยครับ เพียงแต่พยายามทำรถให้อยู่ในสภาพที่วิ่งได้ในความเร็วสูงนานๆๆๆ เปลียนเพียงน้ำมันเครื่องต่างๆๆๆใหม่หมด ส่วนช่วงล่าง ก็spoon กระบอกดำหน้า-หลัง ปรับได้ 5 ระดับ ขาไปสนามปรับข้างหน้ามา 3/5 หลัง2/5 ด้านหน้ากดหน้าลงเยอะมากมุดซุ้มเลย ส่วนด้านหลังแตะขอบซุ่มพอดี อยากเอาขึ้นอีกแต่ปรับแล้วมันไม่ยอมขึ้น มันขึ้นนิดเดียวเอง และก็มีกันโคลงหน้า EK9 ไทร์อาร์ ครับ ผ้าเบรค N เบรค สีเทา ยางRE001 ปรากฏว่าพอมาถึงสนามช้าไปครับ พอดีก็ลงซ้อมพอดีเลยไม่ทันได้ทำอะไรเลย หน้านี้ไปก่อนเสมอเลยครับ จะลงข้างทางตลอด เลยเข้าโค้งได้ไม่เต็มที่ พอซ้อมเสร็จเหนื่อยเลยไม่ปรับแหละคิดไม่ออกจะปรับยังไง เลยไม่ปรับ วิ่งไปอย่างนั้น เพราะมันไม่พร้อมจริงๆๆ จริงๆๆอยากมาซ้อมก่อนวันนึง เพื่อเซ็ตช่วงล่างให้เข้ากับสนาม จะได้วิ่งดีกว่านี้ครับ แต่ก็พอใจแล้วครับ

 

ของผมตั้งแต่รู้ว่าต้องมาวิ่งพีระก็ทำเรื่อยๆเลยครับ ตั้งแต่เปลี่ยนครัชที่มันหมด

เปลี่ยนบูชช่วงล่างอาร์มหลังตัวใหญ่เป็นยูริเทนของ Energy แล้วก็บูชปีกนกล่าง-หลัง

เบิกศูนย์ ผลที่ได้ก็ช่วงล่างแน่นขึ้นพอสมควรครับ อาจจะเป็นเพราะของเดิมมันขาดอยู่

จึงได้รู้สึกเห็นผลมากเวลาเปลี่ยน และก็เปลี่ยนโช๊คมาเป็น Ohlin สปริงหน้า10หลัง8

ที่ขับถนนก็นุ่มสบายขับในสนามก็ถือว่าใช้ได้เลยครับ โดยรวมแล้วพอใจเป็นอย่างมาก

และยังใส่ LSD ของเครื่องD15B ที่ได้มาจากน้องปอ Regent_Legend ในราคา

ที่ไม่แพง ทำให้การตอบสนองในโค้งดีขึ้น สามารถกดคันเร่งในโค้งได้ดีกว่าเดิมเยอะ

และก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่+แก้ปัญหาเกียร์3-4เข้ายาก ให้หายเป็นปกติและสมบูรณ์ที่สุด

ใส่ค้ำแก้มหน้า3จุดของ Ultra ทำให้หน้ารถแข็งขึ้น ตอบสนองดีขึ้น แต่ขับไปมาก็ชิน

เปลี่ยนผ้าเบรคหน้าเป็น NB-P สีเทาทนความร้อนได้ 500องศา ที่ผมคิดว่ามันเพียงพอ

สำหรับรถผม น้ำมันเบรค Bendix dot 5.1 เพื่อทนความร้อนได้มากขึ้น จานเบรค

ก็เปลี่ยนเนื่องจากจานเบรคเดิมมันบางมาก จึงเปลี่ยนเป็นจานของ Endless แบบเซาะร่อง

เนื้อจานแข็งขึ้นแต่ขนาดเท่าเดิมทุกอย่าง ทำให้หมดกังวลเรื่องจานคด หรือผ้าเบรคกินจาน

และยังสามารถทนความร้อนได้มากกว่าเดิม เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ล้างหม้อน้ำ เนื่องจากรถผม

เคยมีปัญหาเรื่องความร้อนจึงล้างกันไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย (แต่ตอนขับก็ยังไม่สบายใจอยู่)

ยางที่ใช้แข่งเป้น BFgoodrich S9B เป็นยางสลิคเก่าที่ใช้แข่งเมื่อปีที่ผ่านมา แต่สภาพ

ยังถือว่าใช้ได้อยู่ ครั้งแรกที่ลงไปขับตอนเช้าบอกตรงๆว่าไม่ชินขับยากเหมือนกัน เพราะยาง

เวลามันแถมันไม่มีเสียง และตอนที่มันยังไม่ร้อนเวลาเข้าโค้งยางมันจะดิ้นๆปลิ้นๆบอกไม่ถูก

แต่พอผ่านไปซัก3รอบเริ่มเข้าที่ก็ดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องโช๊คหน้านิ่มเกินไปทำให้รถเลี้ยวดีเกิน

ตอนหลังจึงต้องปรับให้หน้ารถมันทื่อมากขึ้น พร้อมกับเอาท้ายลงอีก1ซม. ก็เป็นอันโอเคพอใจ

ส่วนสาเหตุที่ต้องใส่ยางสลิคลงก็มี เนื่องจากอาทิตย์ก่อนที่จะแข่งได้มาที่สนามพีระ ผมได้นำ

รถลงไปขับอยู่1รอบ ตอนนั้นใส่ยางหน้า RE01R กับยางหลัง AD07 ที่เก่าแล้ว ลงไปไม่วอร์ม

ไม่อะไรทั้งนั้นซัดเข้าไปเต็มๆ ปรากฏว่าหมุนอยู่ตรงโค้งยูเทินบนเขา แบบว่ายางไม่เกาะเลย

จึงต้องหายางเปลี่ยนถ้าจะลงแข่ง เพราะยางมันไม่ไหวจริงๆอันตราย และก็ไม่รู้จะยืมยางใคร

พอดีมีเพื่อนที่เป็นนักแข่งอยู่เค้ามียางสลิคติดล้ออยู่พอดีจึงได้ยืมมา ถึงแม้จะเก่าไปนิดแต่ก็ยังเกาะ

ใช้ได้ครับ กับเครื่องยนตร์ก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มแค่เปลี่ยนหัวเทียนที่ได้มาจาก"พี่ต้อม"ที่ใจดีนำมาให้ใช้

เปลี่ยนพวงมาลัย+ต่อคอ ที่ดูไม่ค่อยจะเกี่ยวเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้ท่าทางการขับของผมถนัดขึ้นเยอะ

ที่ทำไปคร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ ที่เป็นของแต่งนี่น้อยมากมีแต่ของเดิมทั้งนั้น แต่หมดไปกับการทำให้มัน

เป็นของเดิมที่สมบูรณ์และอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานที่สุด แค่นี้ก็วิ่งในสนามได้อย่างสนุกแล้วครับ

สุดท้ายขอขอบคุณ
พี่ต้อม : ที่ใจดีให้หัวเทียนมาใช้
ดร.โม : ที่ช่วยจัดโช๊คให้ + หม้อลมเบรค + พวงมาลัย
พี่ปิ๊ก : ที่เป็นธุระให้เรื่องโช๊ค
น้ากานต์ : เรื่องครัช และ เรื่องจานเบรค (ถึงแม้จะอยากซื้อใส่เองแต่ก็ปล่อยให้น้อง) อิอิ
ต้อง : ที่ช่วยจัดการซื้อของให้
โอ๋ : อานนท์ ที่ให้ยืมล้อ+ยางสลิค
พี่เต้ : บูชยูริเทนในราคาไม่แพง
และพี่ๆอีกหลายท่านที่ดูแลกันอย่างดีเสมอมา ขาดตกบกพร่องใครไปต้องขออภัยด้วยครับ
น้ำใจและมิตรภาพของท่านช่างงดงาม ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน EK Group ครับ

 

>>> 1197 เต็มระบบ ไม่มีถอดอะไรเลย น้ำมัน 3/4 ยังไม่รวมน้ำหนักคนอีก 63 กก. <<<

 

เอาที่คาดแบตออก แต่ขนมเต็มรถเลยคร้าบ

ตอนแรกกะจะเอาไปกินกับแฟน แต่ตอนนี้แฟนหายไปแล้วค้าบ

 

รถเอน มีมันฝรั่งไว้กินตอนแข่งด้วย

 

จำไม่ค่อยได้ละ เอาเท่าที่จำได้น่ะ

เริ่มด้วย รื้อเกียร์มาเช็ค ซิงโครเมต เนื่องจาก เกียร์ 3 ที่รอบสูง เวลาเข้าเกียร์ ดังแกร๊ก

ก็เลยถ่ายน้ำมันเกียร์ ไปด้วยเลย

ต่อมา ก็จัดการเรื่องเบรค เปลี่ยนผ้าเบรคเป็น NB-P ทั้งหน้าหลัง เจียร์จานใหม่หมด เพื่อให้หน้าสัมผัสเต็มที่

เปลี่ยนน้ำมันเบรคเป็น Bendix dot 5.1 กันร้อน ตามที่โอ๊ต และน้ากานขู่ไว้

แล้วโอ๊ต ก็เอา LSD Mugen 2 way มาล่อ ด้วยราคาที่ไม่เอา ก็ไม่ใช่คนที่รักความแรง แล้ว

และเนื่องจาก คันนี้เคยติดแก๊สหัวฉีดมา แต่ถอดไปแล้ว ท่อไอดี จึงมี รูที่เจาะเผื่อฝังหัวฉีดแก๊ส

ทำให้ไม่สบายใจว่ าอากาศจะไหลดีมั้ย น็อตจะยื่นลงไปขวางทางไม๊ เลยโดน ท่อไอดีฝาแดงไปอีก 1 ชุด

สับยาง ตั้งศุนย์ ให้เรียบร้อย เปลี่ยนลูกหมากแรค ตัวนอก เพราะมันเสื่อมสภาพไปแล้ว

ที่ขาดไม่ได้ คือ ทำขาตั้งกล้อง เพื่อถ่ายวีดีโอ แต่แล้ว กล้องตัวที่ชัด ก็เมม เต็มไปซะก่อน เลยถ่ายไม่จบการแข่งขัน

คราวหน้า ไม่ซื้อกล้อง ก็ซื้อเมมแน่ ๆ



ปล. แล้วไม่พูดถึง เรื่องที่ต้องซ่อม หลังจากแข่งเสร็จกันบ้างหรอ ???

 

เอารถผมบ้าง ก่อนไปพัทยา รู้ว่าต้องไปวิ่งเซอร์กิต ก็เอาหลังรถลงมาเกือบเสมอกับข้างหน้า
ตอนแรกว่าจะเอารถไปดัดคอม้าตั้งแคมเบอร์ แต่ทำไม่ทัน เลยเช็ค ความสมบูรณ์ของรถคร่าวๆ
ผ้าเบรค บูชยางต่างๆ น้ำมันเครื่อง ก่อน

ตัวรถมีค้ำอยู่ 5 อัน หน้า 2 หลัง บน กลาง ล่าง อีก3 คิดว่าคงโอเค แม้ไม่มีโรลบาร์ คงพอวิ่ง
ได้ดีในระดับหนึ่ง

วันซ้อม ใส่ยาง re01-r สภาพดอกค่อนข้างเหลือน้อย ไม่ได้เปลี่ยนมาก่อน เพราะไม่มีตังค์
ใช้โช้ค e-spec ปรับเอาไว้ ระดับ 25 ทั้ง 4 ต้น แล้วลองเอาไปวิ่งดู ปรากฎว่าไปหมุนอยู่หลังเขา
กับ 100r อย่างละรอบ เลยคิดว่าทำไงดี ยางเราก็ยังไม่ได้เปลี่ยน มีมาดีสุดเท่านี้ จะเอารถเตี้ยลงอีก
ก็คงยุ่งยาก เลยปรับโช้คหลังให้อ่อนลงเอา

ปรับเส็ดเอาออกไปลอง ดีขึ้นครับ ท้ายเกาะขึ้น ไม่ออกง่ายเหมือนตอนแรก โดยรวมพอใจแล้ว

วันเสาร์ก่อนมาแช่ง เช็คน้ำมันเครื่องอีกรอบ หายไปเยอะมาก คิดไว้อยู่แล้ว เพราะแข่งแบบนี้
มันใช้รอบสูงตลอดเวลา เตรียมน้ำมันเครื่องมาพร้อม ทั้งๆที่รถผมน้ำมันเครื่องไม่เคยหาย
เลยเติมไปอีกเกือยลิตร เหลือไว้ดีกว่าขาด ขอเหนียวๆไว้ก่อน และระดับน้ำในหม้อน้ำยังเหลือเท่าเดิม
ค่อนข้างเป็นกังวล กลัว heat เพราะอากาศร้อน และครื่อง b16 มันไมี่ชอบเท่าไหร่ ตอนวิ่งความร้อนแตะ
เกือบ 110 ตลอด แต่ยังไม่สูงไปกว่านี้ ยังพอรับได้

วันแข่งจริงปรับโช้คหลังให้นิ่มลงอีกนิดหน่อย เอาออกไปวิ่งซ้อม พอใจมาก ทุกๆอย่าง ok ในระดับ
ที่มันควรจะเป็น

 

ไม่ได้อยู่ฟังคับ โดนไอ้ End โบกให้ไปช่วยส่งหาที่คาดแบต เรยออกมาเรย