intercooler นี่ใช้ได้กับรถเทอร์โบเท่านั้นหรือครับ

อยากทราบอ่ะครับ ว่าอินเตอร์คูลเลอร์นี่ต้องใช้กับรถเทอโบเท่านั้นเหรอครับ ถ้าไม่เทอโบมันจะใส่ได้ไหมครับ แบบว่ามันจะช่วยระบายความร้อนได้อะไรแบบนั้นไหม

ขอบคุณมากๆครับ มือใหม่ครับ

 

คงไม่ดีแน่ครับ ระยะทางที่อากาศจะเข้าสู่ห้องเผาไหม้จะเพิ่มขึ้น เปรียบเทียบคล้ายกับเราดูดน้ำด้วยหลอดสั้นกับหลอดยาว หลอดสั้นดูดสะดวกกว่าครับ ไม่กินแรงมากเท่าใช้หลอดยาวดูด

 

คงจะไม่มีประโยชน์หรอกคับ ทางเดินยาวขึ้น และไม่ได้เย็นกว่ารับอากาศสดๆจากข้างนอกหรอกคับ

ที่รถเทอร์โบต้องมีเพราะอากาศที่ปั่นผ่านโข่งมามันไม่ได้เย็นนะคับ ด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง แรงเสียดสี ความร้อนจากโข่งไอเสีย ฯลฯ

 

เครื่อง N/A พยายามไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางเดินอากาศ นั่นแหละจะทำให้แรงที่สุด

 

ความรู้ ทั้งนั้น

 

ตามเพื่อนๆว่าตามนั้นเรยครับ NA หากรองเปลือยดีๆมาใส่จะดีกว่านะครับ

 

เครื่องไม่มีเทอร์โบ อากาศต้องเร็ว โล่ง มาก และสั้น เท่านั้นครับ!!

 

ใส่หล่อ+โบออฟN/A อิอิ

 

อินเตอร์คูลเลอร์( INTER COOLER ) หรือ อัฟเตอร์คูลเลอร์ ( AFTER COOLER )
หรือตามอย่างช่างแต่งรถเมืองนอกเขาเรียกว่า HEAT EXCHANGER แปลตรงตัวเลยครับว่า ตัวแลกเปลี่ยนความร้อน หน้าที่ของมันคือ ระบายความร้อนของไอดีที่ถูกอัดมาจาก เทอร์โบชารจ์เจอร์ซึ่งมีความร้อนสูงให้เย็นตัวลง อากาศที่มีความร้อนสูงตามหลักฟิสิกส์ จะมีมวลอากาศน้อยความหนาแน่นต่ำ อากาศเย็นมวลอากาศมากความหนาแน่นสูงกว่า สังเกตุจากเวลาอากาศเย็นๆรถจะวิ่งดีขึ้น เจ้าอินเตอร์คูลเลอร์นี่หละจะคอยระบายความร้อน ของไอดีอุณหภูมิสูงให้ลดลงมวลไอดี จะมีความหนาแน่นขึ้น การเผาไหม้ดีขึ้น เครื่องยนต์พลังพลังแรงขึ้น

ทฎษฎี : อากาศที่ถูกอัดจากเทอร์โบจะมีความร้อนสูงเนื่องมาจาก โมเลกุลของอากาศผ่านการเสียดสีกับกังหันเทอร์โบด้วยความเร็วสูงเมื่ออัดเข้าสู่ท่อไอดีแรงดันของอากาศจะทำให้โมเลกุลเกิดการกระทบกันอีกความร้อนจะเพิ่มสูงมาก จากอุณหภูมิปกติ 35 – 45 องศาจะสูงขึ้นเป็น 90 – 120 องศา และทุกๆ 1 องศาของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น จะมีผลทำให้อุณหภูมิไอเสียเพิ่มขึ้นอีก 3 องศา ( ลองคำนวณดูว่าน่ากลัวขนาดไหน ) ดังนั้นอินเตอร์คูเลอร์จะทำหน้าที่ลดความร้อนไอดีให้กลับมาที่อุณหภูมิปกติ ในอินเตอร์ที่ดีน่าจะลดความร้อนให้กลับมาอยู่ที่ 20- 50 องศาการลดความร้อนที่ดีขึ้นอยู่กับ การเลือกใช้อินเตอร์ การติดตั้ง และคุณภาพของอินเตอร์ ที่ใช้ชนิดของอินเตอร์คูเลอร์มี 2 แบบคือ

1. แบบถ่ายเทความร้อนด้วยน้ำ จะอาศัยน้ำหล่อเย็นจากตัวหม้อน้ำเครื่องยนต์ หรือมีหม้อน้ำแยกโดยมีปั้มน้ำทำหน้าที่ปั้มน้ำจากหม้ อหล่อเย็นมาระบายความร้อนที่อินเตอร์ อินเตอร์แบบนี้เหมาะกับประเทศเมืองหนาวที่ไม่ต้องการ ให้อุณหภูมิการเผาไหม้เย็นเท่าไหร่ และในรถแข่งขันระยะสั้นที่ใช้วิธีเอาน้ำเย็นหรือน้ำแ ข็งเติมลงไปในอินเตอร์คูเลอร์เลย

2. แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ คืออาศัยอากาศที่ผ่านมาปะทะตัวอินเตอร์
เพื่อระบายความร้อน เหมาะกับเมืองร้อนที่ต้องการอุณหภูมิต่ำ

การติดตั้ง

แบบระบายความร้อนด้วยน้ำส่วนใหญ่แล้วจะติดตั้งติดกับ ตัวเครื่องยนต์ และติดตั้งหม้อหล่อเย็นไว้ด้านหน้ารถเพื่อใช้อากาศระบายความร้อน แบบนี้มีผลดีครับเพราะท่อไอดีมีขนาดสั้น บูชจะมาไวลดอาการเทอร์โบแร็ค แบบระบายความร้อนด้วยอากาศส่วนใหญ่แล้วจะติดตั้งด้านหน้ารถ หรือ ติดกับเครื่องยนต์ แล้วเจาะฝากระโปรงรถให้เกิดช่องรับลม แบบนี้ไม่ต้องดูแลมากเหมาะกับเมืองร้อน ต้องติดตั้งให้อากาศสามารถมาปะทะได้ง่ายมีสิ่งกีดขวางน้อยที่สุด และต้องไม่ไปกีดขวางการระบายความร้อนของหม้อน้ำและรั งผึ้งแอร์ จนทำให้ความร้อนเครื่องยนต์เพิ่มสูงขึ้น และแบบที่ติดตั้งบนฝากระโปรงส่วนใหญ่จะมีช่องดักอากาศ ( SCOOP ) แบบนี้มีผลดีเพราะติดตั้งง่าย ท่อไอดีสั้นบูชมาไว แต่การติดตั้งต้องคำนึงถึงรูปแบบอากาศพลศาสตร์ของรถแ ต่ละรุ่นด้วยเพราะรถส่วนใหญ่แล้วจะออกแบบให้อากาศที่ชนฝากระโปรงหน้าขึ้นข้ามหลังคาไป เลย เพื่อลดฝุ่น หิน ดิน และแมลงมาชนกระจกหน้ารถ มีโอกาสที่ลมจะไม่เข้าสคูปเลย

การเลือกซื้อ

อินเตอร์ที่ขายๆกันมีให้เลือกอยู่มากมายหลายยี่ห้อ หลายแบบโดยมี 2 แบบใหญ่ๆ คือแบบ ท่อเชื่อม( WELDED OR EXTRUDED TUBE ) แบบนี้จะมีโครงสร้างโดยใช้ท่ออลูมเนียมมาเชื่อมต่อกันเลย ไม่มีโครงสร้างเป็นแท่ง อย่างเช่นของ 1G , 7M , 1J , 4D56 จะมีลักษณะเป็นหลอดบางน้ำหนักเบา การระบายความร้อนดี แต่รับเเรงดันได้ไม่สูงมากเกิดการแตกได้ง่าย อินเตอร์แบบโครงสร้าง ( BAR AND PLATE )ทำขึ้นจากการนำหลอดอะลูมิเนียม มาเชื่อมติดกับโครงสร้างโดยใช้แผ่นอลูมิเนียม พวกนี้จะมีขนาดใหญ่น้ำหนักมาก แต่ความแข็งแรงสูง รับแรงบูชได้สูงขึ้น คุณสมบัติการระบายความร้อน ขึ้นอยู่กับการออกแบบและวัสดุที่ใช้ในแต่ละยี่ห้อ เช่น ARC เป็นอินเตอร์ที่ทำขึ้นโดยใช้แผ่นอลูมิเนียมพับเชื่อม ติดกับแท่งอะลูมิเนียมภายในท่อระบายอากาศจะมีครีบช่วยระบายอากาศรูปสามเหลี่ยม หลอดอากาศมีขนาดใหญ่ภายนอกทำเป็นมุมสามเหลี่ยมเพื่อให้อากาศไหลได้เร็วขึ้น

HKS เป็นอินเตอร์ออกแบบเป็นแบบท่อเชื่อมกับท่อด้วยตัวเอง ไม่มีแผ่นอะลูมิเนียมมาทำหน้าที่ยึด ภายในท่ออากาศเป็นทรงเหลี่ยมตรงๆ ภายนอกหลอดอากาศเป็นแบบเหลี่ยมแต่มีเอกลักษณ์ที่ครีบระบายความร้อนมี เยอะมากๆสามารถระบายความร้อนได้ดี

TURST เป็นท่อรับอากาศจะมีขนาดเล็กและแบนแต่จะมีท่อรับอากา ศมากกว่า ทำให้ไอดีไหลผ่านได้รวดเร็วกว่า ภายนอกท่อรับอากาศมีลักษณะมนๆ มีขนาดหนากว่าการระบายความร้อนดี

BLITZ เป็นท่อรับอากาศเชื่อมกับแผ่นอะลูมิเนียมภายนอกดูเหม ือนทั่วๆไปแต่ภายใน
หลอดอากาศมีครีบ ที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ช่วงทางเข้าจะเป็นแบบครีบธรรมดา พอถึงช่วงกลางจะเป็นครีบซ้อนกันสองชั้น และพอถึงทางออกจะเป็นแบบธรรมดา ช่วยในการถ่ายเทความร้อนได้ดี

APEX เป็นลักษณะทั่วไปเอกลักษณ์คือภายนอกท่อรับอากาศภายนอ กเป็นมุมเฉียง
เป็นลักษณะห่างๆ ช่วยให้อากาศไหลมาระบายความร้อนได้รวดเร็วขึ้น

ข้อดี

ช่วยระบายความร้อนให้กับไอดี ให้มีอุณหภูมิลดลง แรงม้าสูงขึ้นลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์
และไอเสีย เทอร์โบทนทานขึ้น ลดอาการน็อคในการสันดาปเนื่องมาจากการชิงจุดระเบิด

ข้อควรระวัง

การติดตั้งต้องอยู่ในจุดที่รับลมมาระบายความร้อนได้ด ีที่สุด ถ้าอยู่ในจุดที่ไม่ดีจะมีผลกลับกัน
ทำให้ความร้อนไอดีสูงขึ้นกลายเป็นอินเตอร์ฮีทเตอร์ได ้ ต้องไม่ไปบังการระบายความร้อน
ของหม้อน้ำอาจทำให้ความร้อนขึ้น ท่อยางและเหล็กรัดควรใช้อย่างดีที่ออกแบบมาเพื่อ
ท่อเทอร์โบ ที่ต้องทนแรงดันและความร้อน เพราะถ้ามีการรั่วอาจทำให้ หรือรถจะวิ่งไม่ออก
เครื่องสะดุด ถ้าแตกอาจทำให้ เครื่องดับ สตาร์ทไม่ติด

:THAISPEEDCAR.COM

 

ครบเลยงี้ ที่เดียวเข้าใจเลย

 

ความรู้ครับ

 

ขอบคุณคับ ความรู้เท่านั้น

 

ขอบคุณครับ

 

ความรู้ทั้งนั้น ขอบคุงคับ

 

ชอบจัง กระทู้มีความรู้

 

อ่านกระทู้นี้แล้วกระจ่างเลย

 

TURBO เท่านั้น คับ

 

เพิ่มอีกนิดนึงว่า ไม่ใช่ว่ารถเทอร์โบทุกคันต้องมีอินเตอร์คูลเลอร์นะคับ

ถ้าสโคปมาแคบๆนิดนึงก็ต้องใช้คำว่า รถเบนซินเทอร์โบ ใช้งานบนถนน น่าจะถูกต้องกว่า(มั้ง)

ผมเคยเหนรถที่เปน "รถแข่ง" แท้ๆ หลายๆคันก็ไม่จำเปนต้องใช้อินเตอร์ แรกๆก็ไม่เชื่อ แต่ได้เหนกะตาก็อึ้งไปเหมือนกัน

 

ความรู้ๆๆๆคับ

 

ต้องทำความเข้าใจครับ ว่า อินเตอร์สามารถ ใส่กับรถ NA ได้ครับ แต่แรงไม่แรงนี้อีกเรื่องนะ (ปกติไม่ใส่จะดีกว่าเยอะ)

 

ไม่ถูกต้องครับ รถดีเซลก็ควรมีอินเตอร์คูลเลอร์ครับ เพราะอินเตอร์คูลเลอร์มีหน้าที่ลดความร้อนของไอดีที่มีความร้อนสูงจากการอัดของเทอร์โบชาร์จเจอร์

ไม่ว่าจะรถดีเซล หรือเบนซินก็ต้องการความหนาแน่นของไอดีทั้งนั้น ดังนั้นรถดีเซลก็ควรมีอินเตอร์เช่นกัน บางครั้งอาจจำเป้นกว่ารถเบนซินเสียด้วย เนื่องจากรถดีเซลสามารถปรับบูสท์ได้สูงกว่าเครื่องเบนซินเสียอีก ดังนั้นไอดีก็จะถูกอัดจนมีความร้อนสูงกว่า

สังเกตุได้จากรถดีเซลเทอร์โบเกือบทุกรุ่น จะมีอินเตอร์คูลเลอร์มาจากโรงงานครบๆกันเลยทีเดียว

แต่กับเครื่องเบนซินที่มีแรงบูสท์ไม่สูงนัก(LIGHT TURBO) จะไม่มีอินเตอร์มาให้จากโรงงานครับ

ส่วนเรื่องที่รถแข่งไม่จำเป็นต้องใช้ นั่นอาจเป็นเพราะรถนั้นใช้ในการแข่งระยะสั้น หรือมีแรงบูสท์ไม่สูงนัก ถ้าเครื่องเทอร์โบที่ต้องการความแรง ไม่ลำบากนักควรมีไว้จะดีกว่าครับ

 

ขอเพิ่มเติมด้วยบทความขงอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ เกี่ยวกับอินเตอร์คูลเลอร์อีกนิดครับ

อินเตอร์คูลเลอร์

พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
วันนี้ผมขออนุญาตพูดเรื่องของอินเตอร์คูลเลอร์ที่มีหลายคนสงสัยว่า ทำหน้าที่อย่างไร รถที่มีเทอร์โบแต่ไม่มีอินเตอร์คูลเลอร์ติดตั้งมาให้ จะติดตั้งเพิ่มเติมได้หรือไม่ รถที่ไม่มีเทอร์โบ ติดอินเตอร์คูลเลอร์เพิ่มเข้าไปแล้วจะดีหรือไม่ และอินเตอร์คูลเลอร์แบบติดตั้งด้านหน้าตัวรถ กับแบบที่ติดตั้งด้านบนเครื่องยนต์ แบบไหนดีกว่ากัน คำถามมากมายเหล่านี้ผมขอเฉลยดังต่อไปนี้

เริ่มกันที่เรื่องของรูปร่างอินเตอร์คูลเลอร์ก่อน อินเตอร์คูลเลอร์ส่วนใหญ่จะมีรูปร่างคล้ายกับหม้อน้ำรถยนต์ทั่วไป คือมีครีบและมีแผงรังผึ้งอยู่ด้านนอกให้ลมไหลผ่าน ส่วนด้านในก็เป็นท่อสำหรับให้อากาศไหลวน แต่จะมีขนาดเล็กกว่าหม้อน้ำ บางชนิดมีขนาดเล็กเพียงแค่เท่ากับหนังสือพอคเก็ตบุ๊คหนาๆ หนึ่งเล่มเท่านั้น ชนิดที่มีขนาดเล็กส่วนใหญ่จะติดตั้งอยู่ที่ด้านหน้ารถ ชนิดที่มีขนาดใหญ่มักจะติดตั้งในแนวนอนด้านบนของเครื่องยนต์

ทั้งนี้หากมองลอดเข้าไปในห้องเครื่อง และพบว่ามีชิ้นส่วนที่มีลักษณะคล้ายหม้อน้ำขนาดเล็กติดตั้งอยู่ แต่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน หรืออาจจะติดตั้งในแนวนอนแต่มีขนาดเล็กและตั้งอยู่บริเวณใกล้เครื่องยนต์ อีกทั้งครีบของรังผึ้งมีขนาดใหญ่และไม่ค่อยให้อากาศไหลผ่านได้ง่ายนัก ชิ้นส่วนนั้นอาจจะไม่ใช่อินเตอร์คูลเลอร์ แต่อาจจะเป็นออยล์คูลเลอร์ของระบบเกียร์อัตโนมัติก็เป็นได้ ระวังอย่าสับสน

หน้าที่ของอินเตอร์คูลเลอร์ก็คือ ทำหน้าที่ให้อากาศที่ผ่านการอัดจากเทอร์โบชาร์จเจอร์ ซึ่งจะเกิดความร้อนสูงและมีมวลของอากาศเบาบางลง มาไหลผ่านท่อที่ซ่อนอยู่ในครีบเพื่อให้ลมพัดผ่านระบายความร้อนของอากาศจำนวนนั้นลงไปบ้าง เป็นการช่วยลดความร้อนในห้องเผาไหม้ และเพิ่มความหนาแน่นของมวลอากาศได้อีกส่วนหนึ่ง

การดูแลรักษาอินเตอร์คูลเลอร์ก็ทำได้ง่าย คล้ายกันกับการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์นั่นเอง กล่าวคือ ต้องระวังไม่ให้มีของแข็งไปกระทบกับครีบของแผงอินเตอร์คูลเลอร์ เพราะจะทำให้ครีบแผงล้ม กระแสลมไม่สามารถไหลพัดผ่านได้ง่าย ทำให้การระบายความร้อนเป็นไปได้ไม่ดี

อินเตอร์คูลเลอร์ที่ติดตั้งด้านหน้าของเครื่องยนต์ ต้องหมั่นตรวจสอบว่าไม่มีคราบโคลนหรือตัวแมลงมาบี้อุดตันตามร่องครีบรังผึ้ง เพราะจะทำให้ลมพัดผ่านได้ยาก หากพบว่ามีคราบตัวแมลงหรือเศษหินดินทรายมาอุดตัน ก็ให้ใช้ลมเบาๆ มาเป่าไล่ไปตามครีบ อย่าใช้ลมที่มีแรงดันสูงเป็นอันขาดเพราะจะทำให้ครีบล้มได้

ในกรณีที่มีตัวแมลงมาอุดตันหรือมีคราบโคลนกระเซ็นขึ้นมาอุดตัน ให้ใช้น้ำเปล่าราดลงไปจนชุ่มแล้วทิ้งไว้สักชั่วระยะหนึ่ง รอให้คราบแมลงหรือคราบโคลนนั้นโดนน้ำและเปื่อยอ่อนตัวลง จนง่ายต่อการล้างออก จึงใช้สายยางฉีดน้ำเข้าไปเบาๆ ให้คราบเหล่านั้นไหลออกไปเอง อย่าใช้แรงดันน้ำมาเป็นตัวฉีดไล่เป็นอันขาด

หากพบว่าคราบเหล่านั้นแข็งและไม่เปื่อยสลายตัวออกไปง่ายๆ หลังจากเอาน้ำราดลงไปจนโชกแล้ว ก็ให้ใช้น้ำยาล้างจานหรือแชมพูมาเทราดซ้ำลงไปและทิ้งไว้อีกสักพักหนึ่ง รอจนเปื่อยแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่าเท่านั้น อย่าใช้น้ำยาขัดพื้นที่มีความเป็นกรดรุนแรงมาราดลงไปเป็นอันขาด เพราะจะทำให้อินเตอร์คูลเลอร์ผุได้ง่ายขึ้น

เพียงแค่นี้อินเตอร์คูลเลอร์ก็สามารถอยู่ทำหน้าที่ได้ตามที่ถูกออกแบบมาอย่างยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินซ่อมกันบ่อยๆ แล้วครับ

ส่วนรถที่ไม่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์แต่เจ้าของรถอยากไปติดอินเตอร์คูลเลอร์ ผมว่าอย่าไปทำจะดีกว่า เพราะมีแต่จะเสียเงินเปล่าๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาแม้แต่น้อย มีแต่จะเพิ่มชิ้นส่วนที่ต้องดูแลมากขึ้น

และในรถที่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์ติดมาให้จากโรงงาน แต่ไม่มีการติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์มาให้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์เพิ่มเช่นกัน ยกเว้นแต่มีการนำเอาเทอร์โบชาร์จเจอร์ไปปรับบูสท์ให้สูงกว่ามาตรฐาน จนเกรงว่าอาจจะมีความร้อนสูงเกินไป อย่างนี้จะติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์เพิ่มเติมก็ได้

อินเตอร์คูลเลอร์ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้ารถ ส่วนใหญ่จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ข้อดีคือสามารถระบายความร้อนได้เต็มที่ในขณะรถวิ่ง เพราะจะอยู่บริเวณที่รับลมเป็นส่วนใหญ่ และในการใช้รถในเมืองที่มีการจราจรติดขัด รถไม่เคลื่อนที่ ก็ยังได้อาศัยพัดลมจากหม้อน้ำหรือจากพัดลมคอล์ยร้อนของระบบแอร์มาช่วยเป่าระบายความร้อนได้อีกด้วย ข้อเสียคือเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการอุดตันที่ครีบง่าย และเสียหายจากการโดนหินดีดกระเด็นมาใส่ได้ง่าย อีกทั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนก็จะเสียหายได้เช่นกัน

อินเตอร์คูลเลอร์ที่ติดตั้งด้านบนเครื่องมีข้อดีคือ สามารถใช้อินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ได้เต็มที่ และเมื่ออากาศถูกระบายความร้อนผ่านอินเตอร์คูลเลอร์ไปแล้ว จะถูกส่งไปยังท่อไอดีทันทีทำให้สูญเสียความเย็นน้อย ส่วนข้อเสียคือเมื่ออยู่ในสภาพการจราจรที่ติดขัด จะมีขีดความสามารถในการระบายความร้อนได้ต่ำ แถมยังต้องรับความร้อนจากเครื่องยนต์ที่ลอยตัวสูงขึ้นมาหาอีก อีกทั้งต้องมีการเจาะฝากระโปรงหน้าเพื่อดักกระแสลม ทำให้ทัศนวิสัยจากมุมผู้ขับขี่เสียไปครับ

 

ขอเเย้งนิดนึงนะครับ

อินเตอร์ไม่ได้ระบายความร้อน ไอดี นะครับ ระบายความร้อนอากาศ เฉยๆ ครับ

ไอดี คือ น้ำมันที่ผสมกับอากาศเเล้วนะครับ


ปล.ขอโทษนะครับถ้าให้ข้อมูลผิด เเต่ ผมค่อนข้างมั่นใจ ครับ

 

จริงๆแล้วตามศัพท์มันควรเป็นเช่นนั้น

"the mixture of gas and air which enters a motor engine through the inlet"

แต่ในภาษาพูดและความเข้าใจ เราสามารถเรียกว่าไอดีได้ครับ อย่างท่อที่ใช้เป็นทางเดินของอากาศก่อนเข้าเครื่องยนต์ เราก็เรียก"ท่อไอดี"ครับ