Laos Trip ตอนที่ 2 : Day 1 การเดินทางที่ผิดแผน - คืนแรกนอนม่านรูด !!!

การสนทนาใน 'Food & Travel' เริ่มโดย Emporio, 1 กุมภาพันธ์ 2010

< Previous Thread | Next Thread >
  1. Emporio

    Emporio Active Member ทีมงานสมาชิก Super Moderator

    378
    35
    28
    เช้าวันที่ 29 ธันวา 52 ถือเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของปีเพราะ 30 ผมลางาน
    ก็นั่งทำงาน + Serach ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้ในการไปเที่ยวลาวไปเรื่อยๆ อ่อลืมเล่าให้ฟังว่า 2 วันก่อนซื้อหนังสือ "เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยลาว" มา
    เป็นหนังสือที่เป็นการเล่าเรื่องราวการเที่ยวลาวแบบแบ็คแพ็คในเมืองต่างๆของลาว ซึ่งทำให้พอจะรู้ว่าในแต่ละเมืองมีอะไรให้ทำบาง
    รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ การกระทำต่างๆที่ไม่เหมาะสมในประเทศลาว
    และในหนังสือแถมแผนที่ลาวของเมืองต่างๆมาด้วย จึงถือว่าคุ้มมากๆสำหรับราคา 195 บาท ได้ประโยชน์พอสมควร
    ผมอ่านไปพลางนึกขำๆว่า ถ้ากุไปเที่ยวแล้วเขียนหนังสือบ้างล่ะ เป็นเป็นชื่อ "เที่ยวไม่ง้อหนังสือ" ก็น่าจะเวิร์ค
    แต่ใครจะมาซื้อวะ หนังสือก็บอกอยู่ว่าเที่ยวไม่ง้อหนังสือ แล้วใครจะซื้อหนังสือมึงไว้ใช้ไปเที่ยวล่ะครับ

    นั่งเพ้อเจ้ออยู่ทั้งวัน ก็ถึงเวลาเลิกงาน รีบกลับทันที เพราะของยังไม่ได้จัดเลย
    นัดพี่เก่งไว้เที่ยงคืน กะว่าเลิกงานแล้วยังมีเวลา 5 ชั่วโมงในการเตรียมรถและจัดของ
    แต่บังเอิญว่า วันนั้นดันมีธุระเข้ามาแทรก เลิกงานแล้วต้องไปรับของ รับของแล้วต้องวิ่งไปส่งของให้ลูกค้า 2 ที่
    โน่นแหละ กว่าจะเสร็จธุระวันนั้นก็ 3 ทุ่มกว่าๆเข้าไปแล้ว
    แถมไปนั่งกินข้าวที่คาร์ฟูร์อย่างใจเย็น ถึงบ้าน 4 ทุ่มครับพี่น้อง โดยที่ของยังไม่ได้จัด
    แร็คหลังคาที่ยืมเพื่อนมาก็ยังไม่ได้ติด ทะเบียนก็ยังไม่ได้เปลี่ยน รถก็ยังไม่ได้เช็ค เมื่อถึงบ้าน ผมกับแฟนจึงแบ่งหน้าที่กัน
    โดยให้แฟนผมเตรียมของ ส่วนผมลงไปเช็คความเรียบร้อยของรถ และติดแร็คหลังคา ซึ่งยังไม่เคยติดมาก่อน
    กว่าจะติดได้ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพราะยังทำไม่ค่อยเป็น กว่าจะเก็บของ จัดของ เอาของขึ้นรถ ... ตี 1 ครึ่ง !!!
    บึ่งรถไปรับพี่เก่ง กว่าจะได้ออกจากบ้านพี่เก่งจริงๆก็ ตี 2 เวรกรรม

    หลังจากเติมแก๊สเต็มถัง น้ำมันยังไม่เติมเพราะไม่อยากให้รถหนักมาก ก็มุ่งหน้าสู่เส้นทางสายอีสาน
    ซึ่งจากการคำนวนเวลาแล้ว ปกติขับ กรุงเทพ - อุดร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จึงคาดว่าจากเวลาที่เราออกช้า
    น่าจะถึงอุดรประมาณ 8 โมงเช้า แต่เมื่อได้ขับจริงๆ แร็คหลังคาและสัมภาระบนหลังคามีผลกับแรงลมพอสมควร
    จากที่เคยวิ่งต่างจังหวัดที่ความเร็ว 130 - 140 ตอนนี้เร่งไม่ขึ้นเลย ขับได้ที่ 100 - 110 เท่านั้นเพราะเจอลมต้าน

    คืนนั้นรถไม่ถึงกับเยอะ เพราะยังไม่ใช่วันหยุด และเป็นเวลาดึกมากๆแล้ว จึงขับรถมาสบายๆ
    ซึ่งมีผมขับเป็นมือแรก จากการที่ทำงานมาทั้งวัน และเหนื่อยกับการขับรถส่งของ จัดของเตรียมรถ
    ขับได้ไม่ทันได้เข้าสระบุรีเลยมั๊ง ก็หันไปถามพี่เก่งว่าวันนี้นอนตื่นกี่โมง ...
    คำตอบที่ได้คือ นอนทั้งวัน ตื่น 4 โมงเย็น .... หาที่จอดรถ สลับกันขับทันที

    ผมหลับสนิททันทีที่มาเป็นคนนั่ง มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนรถติด ผมก็ถามพี่เก่งว่าติดนานยังเนี่ยะ พี่เก่งก็ว่าซักพักแล้วแหละ
    ผมก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง จนเริ่มสว่าง รถก็ยังติดอยู่ โทรศัพท์พี่เก่งได้รับ SMS เป็นข่าวว่ามีรถชนรุนแรงในช่วงลำตะคอง
    เราเริ่มคำนวนเวลากันใหม่เลยครับ แผนในใจผมเริ่มเปลี่ยนแล้ว เพราะจากเวลาแล้วเนี่ยะ เราถึงช้าแน่นอน
    ปกติ 2 ชั่วโมงต้องถึงโคราชแล้ว นี่ 4 ชั่วโมงยังไม่ถึงโคราชเลย ข้างทางเต็มไปด้วยรถจอดเสีย จอดนอน
    เพราะรถติดมากๆขนาดนี้ บางคันคงมีความร้อนขึ้นกันบ้าง บางคนคงเหนื่อยก็จอดนอนรอรถหายติดค่อยไปต่อ

    เราผ่านลำตะคองมาได้รถก็เริ่มคล่องตัวมากขึ้น ผมก็เริ่มหลับยาวอีกครั้ง มาสะดุ้งตื่นอีกทีบนถนนเส้นโคราช - ขอนแก่น
    ติดอีกแล้วครับ ติดนานและยาวมากๆ มีรถชนกันอีกแล้ว ตอนนั้นฟ้าสว่างแล้วครับ กี่โมงไม่รู้จำไม่ได้
    แล้วก็มาสลับกันขับรถอีกครั้งช่วงขอนแก่นหรือไงนี่แหละ จนขับมาถึงอุดรตอนเที่ยงพอดี ....

    การเดินทางอันแสนทรมาน กะว่าถึงอุดรเช้ามืด ถึงจริงๆพระอาทิตย์ก็ส่องอยู่เหนือหัวแล้ว

    [​IMG]

    หมดกันครับ แผนที่วางไว้พังพินาศ ยังคิดอยู่ในใจว่าถ้าเราจองที่พักไว้ก่อนคงวุ่นวายน่าดูถ้าต้องเปลี่ยนแผน
    เสร็จธุระที่อุดร ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงหนองคายและก่อนถึงด่านก็แวะกินข้าว เติมแก๊ส เติมน้ำมันเต็มถัง

    รายละเอียดของการใช้แก๊สและน้ำมันเราวางแผนไว้ว่า ก่อนข้ามไปเติมเต็มถังไว้ทั้งสองอย่าง
    พอข้ามไปใช้แต่น้ำมันอย่างเดียวเผื่อแก๊สเก็บไว้ 1 ถังเพราะยังไม่รู้ว่าระหว่างทางจะมีปั๊มน้ำมันยังไงบ้าง
    อย่างน้อยถ้าน้ำมันหมดแล้วหาปั๊มไม่ได้ เราก็ยังมีแก๊สวิ่งได้ 1 ถัง

    [​IMG]

    เรามาถึงด่านตอนกี่โมงจำไม่ได้ แต่ก็เริ่มเย็นมากแล้ว น่าจะซัก 3 โมงครึ่งได้

    [​IMG]

    [​IMG]

    ด้วยความที่เราไม่เคยขับรถข้ามไป ทำให้ไม่คล่องในการกรอกเอกสาร เวลานั้นคนและรถรอข้ามไม่เยอะเท่าไหร่ ออกจะโล่งๆด้วยซ้ำไป

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เราใช้เวลาไปพอสมควร น่าจะเกือบ 2 ชั่วโมงได้ในการผ่านขั้นตอนต่างๆทั้งทางฝั่งไทยและลาว ถ้าคล่องแล้วผมว่าไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ
    เพราะช่องสำหรับรถส่วนตัวที่จะขับข้ามไปนั้นคนน้อยมาก ไม่เหมือนกับช่องสำหรับที่จะข้ามไปเฉพาะคนอย่างเดียวที่คนจะเยอะมากๆ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    หลังเสร็จขั้นตอนการผ่านแดน + แลกเงิน ก็เริ่มเย็นมากแล้วครับ เราขับรถแล้วเลี้ยวมาจอดหาที่ซื้อซิมลาวตรงตลาดชายแดน
    ที่นั้นมีซิมหลายยี่ห้อมาก ผมซื้อ Tigo และพี่เก่งซื้อ ETL สำหรับใช้ net โดยเฉพาะ และที่นั่นมีซิมใช้ 3G ได้ด้วย แต่ไม่ทันได้ถามรายละเอียด

    เรารีบปลีกตัวจากตลาดทั้งๆที่กลุ่มผู้หญิงยังอยากเดินดูของต่อ 555 รีบไปก่อนเห๊อะ ยังไม่มีที่นอนเลย
    อ่อ ลืมเล่าไปว่า ณ เวลานั้นแล้ว เราต้องนอนคืนแรกที่เวียงจันทน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเริ่มจะมืดแล้ว

    ผมขับรถออกจากชายแดนมุ่งหน้าสู่เวียงจันทน์ด้วยอาการเครียดพอสมควร เนื่องจากไม่ชินกับการขับชิดขวา
    ทางเราก็ไม่ค่อยรู้จัก และฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ต้องใช้สมาธิสูงมากๆเพราะยังไม่ชินกับเรื่องนี้
    ยังดีหน่อยที่พอเข้าเมืองมาแล้วพอจะจำทางได้บ้าง เพราะปีที่แล้วมาเดินเล่นรอบเมืองเวียงจันทน์มาแล้ว
    เราเริ่มขับรถวนหาที่พัก ซึ่งเน้นราคาถูก+มี internet หาอยู่นานครับ ไปหลายที่
    ทั้งที่สมาชิกใน Trekkingthai.com แนะนำ รวมถึงที่ในหนังสือแนะนำ แต่เวลานั้นเต็มซะส่วนมากครับ
    และบางที่ราคาก็สูงเกินความตั้งใจของเรา เราตั้งใจจะไปนอนราคาถูกไว้ก่อน เพราะยังต้องนอนอีกหลายคืน

    สุดท้ายเราตัดสินใจจะนอนโรงแรมนึง สอบถามได้ความว่าโรงแรมเพิ่งสร้างใหม่เพื่อรองรับงาน SEA Games
    ราคาห้อง 700 นอนได้ 2 คนพร้อมอาหารเช้ามื้อเล็กๆ และ 800 นอน 3 คนพร้อมอาหารเช้า แต่ไม่มี Wifi Internet
    แต่แล้วเหมือนมีอะไรมาดลใจ ก่อนที่เราจะจอดหน้าโรงแรม เหลือบไปเห็นเหมือนจะเป็นที่พักข้างๆกัน
    ดูเล็กๆหน่อย เลยลองแวะถามดูก่อน เห็นว่ามี Wifi Internet ด้วย ได้ความว่า ห้อง เตียงคู่ 480 นอนได้ 3 คน
    ห้องเตียงเดี่ยว 420 ไม่มีอาหารเช้า แอร์+น้ำอุ่น+ทีวี .... คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเรานอนกันที่ไหน ^_^

    เราช่วยกันขนของเก็บเข้าห้องพักราคาแสนถูก แล้วไปนั่งหาข้าวกินที่ริมน้ำโขง อ้อมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า
    พนักงานที่เค้าน์เตอร์โรงแรมเมื่อกี้เหมือนจะหยิบถุงยางให้ด้วย แต่พนักงานผู้หญิงดึงกลับไป 555
    ที่แท้มันคือม่านรูดนี่เอง พนักงานคงยิ้มในใจนะว่าไอ้ห้องที่นอนกัน 3 คนเนี่ยะคงจะสนุกสุดเหวี่ยงกันน่าดู

    [​IMG]

    [​IMG]

    บรรยากาศร้านอาหารริมโขงตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะครับ เริ่มมีการถมที่เพื่อก่อสร้างอะไรยังไม่แน่ชัด
    ถามคนแถวนั้นเค้าว่าสร้างสวนสาธารณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือไงนี่แหละ ต่างจากฝั่งไทยที่ริมโขงดูเงียบๆไม่ค่อยมีอะไร
    กินข้าวกันอิ่มแล้ว ก็เดินเล่นริมถนนริมโขงมีของขายเยอะแยะมากมาย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    รวมโคตรสารพัดสัตว์ยาดอง

    [​IMG]

    แล้วเราก็ขับรถชมเมืองเล่นๆ ไปตรงโซนน้ำพุ ซึ่งเป็นแหล่งกินข้าวของฝรั่ง
    ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเรียงรายกันเต็มไปหมด จุดหมายของเราคือร้านขนมปัง
    ที่ปีที่แล้วผมได้มาแวะซื้อ แต่ครั้งนี้เราไปดึกไปหน่อยร้านปิดไปซะก่อน

    คืนวันที่ 30 ปีนี้เงียบครับ เงียบทั้งเมือง ไม่แน่ใจว่าเกิดไรขึ้น ไม่มีวี่แววการเตรียมฉลองปีใหม่เลย
    ปีที่แล้วมานอนคืนวันที่ 30 เหมือนกัน ตามถนนจะติดไฟต้นไม้เต็มไปหมด และตรงน้ำพุก็จะมีการเตรียมงานฉลองปีใหม่ มีวงดนตรีมาซ้อมเล่นเพลง
    แต่ปีนี้ทุกอย่างเงียบหมดเลย

    รถยี่ห้อ BYD รถเล็กน่ารัก จอดอยู่แถวลาดน้ำพุ อยากจะให้เข้ามาขายในเมืองไทยบ้างจัง ท้ายเหมือนวอลโว่ C30
    เป็นรถเล็กที่ฐานล้อกว้างมากๆ เข้าไทยเมื่อไหร่วัยรุ่นคงซื้อมาแต่งกันเยอะแน่นอน

    [​IMG]

    เมื่อทุกอย่างเงียบหมด เราจึงกลับมาที่พัก เตรียมพักผ่อน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากห้องข้างๆที่พักเรา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผับ
    สอบถามพนักงานโรงแรม ทราบว่ามันคือคาราโอเกะ แบบร้องรวมๆกันครับ ไปนั่งเล่นได้ สั่งเครื่องดื่มเค้าแล้วเค้าก็จะเอาเพลงมาให้เลือก
    มาทั้งที ก็เอาซะหน่อย ลองไปนั่งเล่นดู สั่งเบียร์ลาวมานั่งกิน ตอนแรกไปนั่งกัน 4 คนเพราะพี่เก่งจะไปนั่งใช้ Internet เพื่อทำงาน
    แต่แล้ว Internet ใช้งานไม่ได้ครับ พี่เก่งเลยมานั่งคาราโอเกะด้วย

    เพลงที่นั่นเค้าร้องเพลงไทยกันซะเยอะเลยนะ มีเลือกเพลงลาวมาไม่กี่เพลง นอกนั้นร้องเพลงไทยกันหมดเลย
    และก็ถึงตอนที่เอาเพลงมาให้เราเลือก มันก็เลือกยากอยู่นะ เพราะนี่เล่นต้องร้องให้คนทั้งห้องฟัง
    แถมที่เลือกไปนี่เค้าจะเคยได้ยินเพลงที่เราจะร้องบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

    ผมจึงเลือกเพลง "เล่นของสูง" เพลงประจำที่ผมสามารถร้องได้ดี และเอาไว้ฆ่าเพื่อนๆเวลาไปร้องคาราโอเกะเพราะต้องใช้เสียงสูงมากๆ
    กะว่าร้องให้มันดีๆเพลงเดียวแล้วเลิกไปเลย และคิดว่าคนลาวน่าจะเคยได้ยินกันบ้าง
    ปรากฏว่าในห้องนั้นร้องตามกันได้ครับ บรรยากาศมันๆสนุกสนานกันใหญ่... รอดไป กลัวว่าร้องแล้วจะกร่อยกันหมด
    ส่วนเพลงอื่นๆที่ผู้หญิงเลือกกัน ชาวลาวก็ร้องตามกันได้หมดนะ

    แต่แล้วก็เกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้นมาเมื่อผ่านการร้องของโต๊ะผมไปแล้ว 3 - 4 เพลง
    หน้าจอก็แสดงเพลงถัดไปขึ้นมาครับ "เล่นของสูง" ผมคิดในใจทันที .... โต๊ะไหนเลือกอีกวะ เพิ่งร้องไปเมื่อกี้เองจะเลือกซ้ำทำไม
    และคิดไปว่า หรือว่าเป็นธรรมเนียมของที่นี่ คือประมาณว่าเลือกเพลงเดียวกัน เพื่อร้องประชันกันสนุกๆอะไรประมาณนี้หรือเปล่า
    ในใจเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ ฉิบหายแล้ว ธรรมเนียมอะไรของเค้าวะเนี่ยะ แล้วเราต้องร้องเพลงอื่นอีกหรือเปล่าเพื่อรักษาศักดิ์ศรีคนไทย
    เริ่มคิดเพลงอื่นที่มันร้องยากกว่าเพลงเดิม จะได้ไม่น้อยหน้าคนลาว ต้องเอาเพลงที่คนอื่นร้องยากๆที่คนอื่นร้องไม่ค่อยจะไหวขึ้นมาข่ม 555 สู้โว้ยยยย
    ในขณะที่กำลังคิดเพ้อเจ้อเตลิดไปไกล เพลง "เล่นของสูง" ก็ขึ้นมาครับ ....

    ความคิดทุกอย่างหยุดลง ไม่ใช่ร้องประชันกันหรือเป็นธรรมเนียมอะไรแล้วแหละ
    หยุดความคิดไว้แค่นั้นไม่ต้องคิดเพลงอื่นต่อ ไม่ขอวิจารณ์นะครับ แค่จะบอกว่าคืนนั้นกลุ่มคนไทยชนะเลิศ ^_^

    นั่งซักพักก็กลับห้องนอนครับ หมดเบียร์ไป 2 ขวดมั๊ง กับของกินเล่นและผู้หญิงสั่งอะไรหรือเปล่าจำไม่ได้
    แต่จำได้ว่าราคาทั้งหมดถูกมากๆ เหมือนที่นั่นไม่ได้ชาร์ตราคาอาหารและเครื่องเดิมเพิ่มเลย เค้าก็ยังขายราคาปกตินี่แหละ

    และเราก็แยกย้ายกันเข้านอนในโรงแรมม่านรูดของเรา.... อ่อ ก่อนเข้านอนมีรถเบนซ์ SVU คันใหญ่มาจอด
    ลักษณะเหมือนเสี่ยพาเด็กมา .... เบนซ์คันนั้นจอดถึงเช้าครับ ห้องข้างๆผมนี่เอง
    กลางคืนหลับสนิทด้วยความอ่อนล้า ผมเลยไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย.... น่าเสียดายจัง

    ตอนต่อไป Laos Trip ตอนที่ 3 : Day 2 โดนลาวหลอกที่ปั๊มน้ำมัน - ถนนโลกพระจันทร์สู่วังเวียง - ร่วมฉลอง Happy New Year 2010

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    Laos Trip ตอนที่ 1 : เตรียมการขับรถ ตะลุยลาว ...
    Laos Trip ตอนที่ 2 : Day 1 การเดินทางที่ผิดแผน - คืนแรกนอนม่านรูด !!!
    Laos Trip ตอนที่ 3 : Day 2 โดนลาวหลอกที่ปั๊มน้ำมัน - ถนนโลกพระจันทร์สู่วังเวียง - ร่วมฉลอง Happy New Year 2010
    Laos Trip ตอนที่ 4 : Day 3 วันแห่งวังเวียงที่สุดแสนจะวิงเวียน
    Laos Trip ตอนที่ 5 : Day 4 เก็บตกวิถีชีวิตวังเวียง กลับสู่ความเจริญที่เวียงจันทน์
    Laos Trip ตอนที่ 6 : Day 5 ชิมเฝอยักษ์ที่เวียงจันทน์ กลับสู่แผ่นดินแม่ ...
     
    แก้ไขล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2010
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้