ฺB20 จะแรงกันไปถึงไหน

การสนทนาใน 'Club SI' เริ่มโดย Tuned by Tommy, 29 มกราคม 2009

< Previous Thread | Next Thread >
  1. Tuned by Tommy

    Tuned by Tommy New Member Member

    766
    29
    0
    ช่วงนี้มีเพื่อนสมาชิกสุ่มทำ B20 และสูตรอภิมหาความแรงกันหลายคน :eek: ยังไงๆก็ขับรถกันระวังหน่อยนะครับ ความแรงไม่เคยปราณีใครจริงๆ :eek:
     
  2. bestza

    bestza New Member Member

    2,474
    13
    0
    ทำแรงกานจิงๆ พี่ชายพวกเราเนี่ย อิอิ

    มะเปนไร เด่วน้องมีงบ ค่อยตามไป


    เอ้า si ยาวไปยาวไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  3. thananonn

    thananonn New Member Member

    1,973
    34
    0
  4. tamako

    tamako New Member Moderator

    3,037
    88
    0
    :cry: แรง เครียด ตังค์หมด :cry:
     
  5. G Type R

    G Type R New Member Moderator VIP

    3,605
    99
    0
    ท่าน Tuned By Tommy ก็ใช่เล่นที่ไหนได้ข่าวว่าเต็มๆเหมือนกัน
    ปล. ช่วงนี้น้ำมันกำลังขึ้นนะ ทุกท่าน
     
  6. Tuned by Tommy

    Tuned by Tommy New Member Member

    766
    29
    0
    ^
    ^
    ^ รักจะแรงไม่มีคำว่าพอ

    ไหนๆ แล้ว ขอถือโอกาสแจกแจงอะไหล่และชิ้นส่วนในการทำ B20 สูตรยอดฮิตกันดีกว่าครับ เพื่อเป็นความรู้ให้น้องๆ ที่รักความแรง อย่างแรกที่ต้องมีเลย เครื่อง B16 หรือ B18 คราบ ที่ส่วนมากจะขับกันจนเบื่อเท้าแบบท่านประธาน ส่วนการประกอบร่างต้องมีอะไหล่คร่าวๆ ดังนี้ครับ
    1. ท่อนล่าง B20
    2. สาย Vtec จะเป็นสายถักหรือสายไฮโดรลิกส์ย้ำหัวก็ได้
    3. น๊อตฝาสูบเครื่อง B18 จะให้ดีก็ฝาแดง
    4. เฮดเดอร์ที่เหมาะสมกับขนาดเครื่องส่วนมากนิยมของ B18CR
    5. แคม สุดแล้วแต่จะหามาใส่ ตามความแรงที่อยากได้ ทั้งนี้ ควรมีสปริงวาล์วและรีเทนเนอร์ที่ match กันมาด้วย
    6. ท่อไอเสีย ต้องขยายขนาด + ประเก็นท่อไอเสีย
    7. คลัชถ้าของเดิมซิ่ง อยู่แล้วไม่เป็นไร แต่ถ้าแบบธรรมดาอาจมีลื่นครับ
    8. Spocket Cam เครื่องมันไม่ปรติแล้ว ควรมีไว้อย่างยิ่ง เพื่อให้แคมแรงๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
    9. ลิ้นผีเสื้อ ความจุเพิ่มขึ้นขนาดนี้ ต้องเอาอากาศเข้าให้เพียงพอด้วยครับ
    คราวๆ ก็ประมาณเนี้ยอะครับ ส่วนราคาลองคำนวณเองดูจะรู้ว่าซื้อเครื่อง B ได้อีกเครื่องแน่ๆ นอกจากนี้ ยังมีค่าจูนกล่องทำรอม และอะไหล่จุกจิกอีกบานตะไท ถ้ารักจะแรงตั้งแต่แรก กัดฟันซื้อ B18CR ไปเลยดีกว่าครับอย่างน้อยก็ทำเราจนไปสักพักก่อนคิดจะทำอะไรเพิ่ม ความแรงไม่เคยปราณีเงินในกระเป๋าจริง ๆ
    update อีกนิด ล่าสุดที่เห็นมามีสูตร B19 กับ B22 ออกมาสร้างความแรงให้ญี่ป่นได้ตะลึง จนวิศวกร honda ถึงกับเอ่ยปากบอกว่าจะรื้อสายการผลิตเครื่อง B มาทำใหม่ สำหรับขายให้ประเทศไทยโดยเฉพาะ (อันนี้เขียนมันส์มือ อย่าคิดมาก)
     
  7. tamako

    tamako New Member Moderator

    3,037
    88
    0
    สุดยอด กูรู้ B20 จริง คิดๆเป็น ตังค์ออกมาแล้ว หนาว จริงๆ เฮ้อ.........
     
  8. thananonn

    thananonn New Member Member

    1,973
    34
    0
    ภาษีน้ำมันขึ้น 2 บาท
    แต่แบงค์ได้ข่าวว่า โซฮอ95 จะขึ้น 5 บาทเลยรึ


    เจ๊ดเข้ !!
     
  9. yodyayee

    yodyayee New Member Member

    716
    10
    0
    แรงดีคับ ไม่ใช่แค่เอาไว้บูทอย่างเดียวนะ เวลาslowเสียงโหดดีแท้

    กลัวแค่subaruอย่างเดียวตอนนี้ - -"
     
  10. Blackcoupe

    Blackcoupe New Member Member

    141
    7
    0
    ใครซุ่ม พาไปนั่งหน่อยยย
     
  11. bestza

    bestza New Member Member

    2,474
    13
    0
    งุงิงุงิ อยากทำบ้างจัง แต่ยัง d16y อยุ่เลย ฮ่าๆ
     
  12. the_secretest

    the_secretest New Member Member

    746
    13
    0
    แค่นี้ก็เหลือๆแล้ว เบส
     
  13. TankEk

    TankEk New Member Member

    6,091
    562
    0
    ข้อมูลเยี่ยมมากๆคับ
     
  14. coupe4wd

    coupe4wd New Member Member

    872
    18
    0
    ขออนุญาติแปะข้อมูลหน่อยนะคับ และขออนุญาตคุณ AK ReGenT
    สำหรับข้อมูลที่มะประโยชน์กับเราชาว HONDA....ขอบคุณครับ

    B20B+B16A แนวทางประกบ
    &laquo; เมื่อ: กันยายน 02, 2008, 08:15:34 PM &raquo;

    --------------------------------------------------------------------------------
    b20b จากญี่ปุ่น จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นใหญ่ๆ ที่มีความแตกต่างกัน
    b20b ปี 96-98 เครื่องจะมีกำลังอัด 8.8 ต่อ 1
    b20b ปี 99-01 เครื่องจะมีกำลังอัด 9.6 ต่อ 1
    b20b รหัสฝา P75 วาวล์ไอดี 31 มม. ไอเสีย 28 มม. และรหัส P8R กำลังอัด 9.2 ต่อ 1 วาวล์ไอดี 33 มม.( เท่ากับฝาวีเทค) วาวล์ไอเสีย 28 มม.

    ** ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างไร? **
    ถ้าได้เครื่องปี 96-98 มาประกบกับฝา b16a กำลังอัดจะอยู่ แถวๆ 9.09 ต่อ 1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ (เมื่อเทียบกับของ b16a 10.2 ต่อ 1 ) ถ้าจะให้ได้กำลังอัดประมาณ 10.5 ต่อ 1 จะต้องไสฝาออกประมาณ 2 มม. ซึ่งจะทำให้ระยะวาวล์กับลูกสูบใกล้กันมากเข้าไปอีก โอกาสที่วาวล์จะกระทบลูกสูบมีมากขึ้น ยิ่งถ้าจะต้องขุดลูกสูบเพื่อให้หลบวาวล์ และรักษากำลังอัดไว้ คงจะต้องไสฝามากกว่า 2 มม. และมันก็จะมีปัญหาเรื่องสายพานไทม์มิ่ง ที่มีระยะที่หย่อนมากขึ้นอีกหน่อย โอกาสที่จะกระโดดข้ามร่องยามที่สายพานเก่าๆที่รอบสูงๆ จะมีมากกว่า
    ถ้าใช้กับฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะสูงกว่า เนื่องจากห้องเผาไหม้เล็กกว่า ( 42.7 cc. กับ 41.6 cc)
    ดังนั้นถ้าได้เครื่อง ปี 99-01 หรือ เครื่องที่มีรหัสฝา P8R มาใช้น่าจะดีกว่า เนื่องจากว่ากำลังอัดจะสูงกว่าถึงจะปาดฝาเพิ่มกำลังอัด ก็จะปาดออกไม่มาก
    สรุป จากการคำนวน
    เครื่อง ปี 96-98 ประกบฝา b16a กำลังอัดจะได้ 9.09 ต่อ 1
    เครื่อง ปี 99-01 ประกบฝา b16a กำลังอัดจะได้ 9.96 ต่อ 1
    เครื่อง ปี 96-98 ประกบฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะได้ 9.24 ต่อ 1
    เครื่อง ปี 99-01 ประกบฝา b18c ฝาดำ กำลังอัดจะได้ 10.14 ต่อ 1

    **แล้วถ้าประกบฝา 18 แดง ล่ะครับ จะเป็นยังงัย คุ้มค่าน่าทำมั๊ย ไม่ค่อยเห็นใครทำ เผื่อท่อนล่างผมเจ๊งก็อาจจะเปลี่ยนเป็น 20?**
    มันไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่นะครับ นอกเสียจากว่าท่อนล่างเจ๊ง หรือต้องการแบบสุดๆ (แต่เล่นหนักๆ ไม่ทน)
    เนื่องจากว่ามีข้อแตกต่างจากท่อนล่างของทั้งสองบล๊อกเป็นต้นว่า
    - ลูกสูบกำลังอัดสูง น้ำหนักเบา เคลือบกระโปรงลูกสูบด้วยเทฟล่อน
    - มีหัวฉีดน้ำมันเครื่องระบายความร้อนและหล่อลื่นด้านใต้ลูกสูบ (oil squiter)
    - มีตัวเพิ่มความแข็งแรงของประกับเมนแบริ่ง (gridle) ทำให้เครื่องไม่บิดตัวมากเมื่อใช้รอบสูงๆ
    - ข้อเหวี่ยงมีการบาล้านซ์น้ำหนักได้ละเอียดกว่าเพื่อการทำงานที่รอบสูงได้นิ่งมากขึ้น
    - ก้านสูบแบบกึ่งอัดขึ้นรูป น้ำหนักเบา แข็งแรงกว่า
    b20b มีดีแค่ความจุอย่างเดียวครับ เพิ่มขึ้นมาอีก ไม่เต็ม สองร้อย ซีซี ด้วยซ้ำ เหมาะสำหรับเอามาจิ๊ดจ๊าด ในเมือง นอกเมืองบ้างนิดหน่อย เอามาแข่งยาวๆ ในเซอร์กิต ดูเหมือนว่า มันไม่น่าจะทนซักเท่าไหร่นัก
    ใครทำท่อนล่าง ฝาแดงเจ๊งได้ โดยไม่ว่าวเกียร์ และมีการดูแลรักษาอย่างดีตลอด ผมว่า เก่งมากนะครับ..จริงๆ

    **ระหว่างฝา B 18 C (แดง) กับ B 16 B (แดง) อัดตากำลังอัดแตกต่างกันไหมครับ?**
    ฝาแดงทั้งคู่เป็นฝาเดียวกัน เป็นฝาที่มีพื้นฐานมาจากฝาของ b16a ฝาดำเดิมๆ แต่เอามาเปลี่ยนวาวล์ใหม่ให้น้ำหนักเบากว่าเดิม มีการขัดพอร์ทเพิ่มการไหลของอากาศ แล้วเอาสปริงวาวล์ด้านไอดี ทั้งนอกและในของ b18c ฝาดำ เอามาใส่ด้านไอเสีย ส่วนด้านไอดีก็เป็นอันใหม่ที่แข็งกว่าเดิม แคมไอดีไอเสียองศาสูงขึ้น โดยที่แคมไอดีฝาแดงของ b16b จะมากกว่าของ b18cr อยู่ 3 องศา แคมไอเสียของทั้งคู่ใช้ เบอร์อะไหล่เบอร์เดียวกัน (ก็ใช้อันเดียวกันนั่นแหละ)
    ร่ายซะยาว...กำลังอัดจะต่างกันนิดหน่อย เพราะลูกสูบของ b16b หัวสูงกว่า (ไฮโซ) กำลังจึงสูงกว่า นิดหน่อย แต่อยู่แถวๆ 11 กว่าๆ ต่อ 1 กระโปรงสูบเคลือบเทฟล่อนเหมือนกัน อ้อ ลูกสูบเป็นแบบกึ่งอัด forge ด้วยนะ น้ำหนักเบากว่าลูกสูบเดิมๆ ของ ฝาดำ...

    **แล้วถ้า อู่เค้าไม่รู้ข้อมูล พวกนี้อะครับ เช่น เอา เครื่อง ปี 00 มาปาดฝาแบบเครื่อง 96 คือประมาณว่า
    เคยทำสูตรนี้อยู่ก้อทำตามเดิมอะครับจะเป็นงัยบ้างครับ กำลังอัดจะได้เท่าไหร่ แล้วมีผลเสียอย่างอื่นไหมครับ?**
    ผมว่าถ้าเค้าทำประจำเค้าน่าจะรู้นะ เพราะเวลาเปิดฝาออกมาประกบ หน้าตาลูกสูบมันก็ไม่เหมือนกันแล้ว ถ้าเค้าไม่รู้จริงๆ กำลังอัดมันจะสูงมากครับ (น่าจะอยู่แถวๆ 12:1 )กลัวว่าเค้าจะแก้วิธีง่ายๆ โดยลดไฟให้อ่อนลง คราวนี้มันก็จะวิ่งไม่ออก หรือไม่ก็ต้องเสริมประเก็นเพื่อลดกำลังอัด อีกวิธีคือต้องขุดห้องเผาไหม้เพิ่ม ไม่อย่างนั้นใช้น้ำมัน 95 ไม่ได้

    เพิ่มเติมนะครับ เพิ่งนึกได้
    ใครที่จะประกบฝานะครับ ควรจะเปลี่ยนปั๊มน้ำด้วย เพราะปั๊มน้ำของ b20b เป็นแบบ 19 ฟัน ของ b16, 18 จะเป็นแบบ 22 ฟัน ซึ่งดูเผินๆ เหมือนว่าจะดี เพราะรอบปั๊มหมุนเร็วกว่า น้ำน่าจะระบายดีกว่า แต่...ถ้าน้ำหมุนเร็วเกินไปมันจะระบายความร้อนที่หม้อน้ำไม่ทัน ความร้อนยังไม่ทันที่จะระบายออกจากหม้อน้ำแล้ว แต่ต้องวนกลับไปที่เครื่องเพื่อรับความร้อนใหม่อีกแล้ว อาจจะเกิดความร้อนสะสมได้ แต่นั้นไม่เท่าไหร่ ขยายความจุหม้อน้ำใหม่ก็พอได้ ที่สำคัญก็คือ เมื่อเราใช้รอบสูงๆ ๆ ปั๊มน้ำจะหมุนในลักษณะ over speed อันอาจจะเกิดการ cativation (ฟองอากาศในระบบ) ทำให้การระบายความร้อนทำได้ไม่ดี น้ำระบายความร้อน ไม่เกิดการหมุนเวียนเนื่องจากติดฟองอากาศที่เกิดขึ้น และเกิด hot spot ขึ้นในห้องเผาไหม้ได้ จากนั้นความหายนะของเครื่องอาจจะมาเยือนได้ทุกเมื่อ และเมื่อเราลดรอบเครื่องลง ฟองอากาศจะเกิดการยุบตัวเกิดการการกระแทกของน้ำระบายความร้อน ทำให้ชิ้นส่วนที่น้ำไหลผ่านอย่างเช่น ปั๊มน้ำ ซีลต่างๆ หม้อน้ำ เกิดการกัดกร่อนทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งรั่วในที่สุด (ไม่ได้เห็นผลในทันที แต่ก็ทำให้ระบบสึกหรอเร็วกว่าปกติ) แต่ถ้าไม่ได้ใช้รอบสูงๆ ก็ไม่เป็นไร

    และ ถ้าใช้ ปั๊มน้ำของรุ่นไหน ก็ให้ใช้สายพานของรุ่นนั้นนะครับ อย่างเช่น ปั๊มน้ำของ b20b ก็ใช้สายพานไทม์มิ่งของ b20b ถ้าปั๊มน้ำของ b16,18 ก็ใช้สายพานของ b18 (ของ b16 สั้นไป)
    จำนวนฟันของสายพานไทม์มิ่ง
    B16A > 124 ฟัน
    B18C > 126 ฟัน
    B20B > 125 ฟัน
    เบอร์สายพานเคยลงไปแล้ว กระทู้ไหนก็ไม่รู้ เร็วๆ นี้แหละ ใครอยากรู้ก็อีกก็ถามได้ จะได้รวมกันอยู่ที่เดียวกันเลย

    เรื่องปั๊มน้ำมันเครื่อง ผมลองเช็คเบอร์อะไหล่ดูแล้ว โชคดีครับ ปั๊มน้ำมันเครื่องเบอร์เดียวกับฝาแดง

    **แล้วถ้ามีแต่ท่อนล่างล่ะครับจะดูยังไงครับ?**
    อันนี้สิดูยาก เพราะมันไม่ตัวหล่อเหมือนกับฝาสูบ มันดูได้แบบคร่าวๆเป็นช่วงปี อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่า ตัวปี 96-98 กำลังอัดต่ำกว่า หัวสูบมันจะเป็นหลุมมากกว่าตัวปี 99-01 (ใครไม่เคยเห็นทั้งสองตัวมาแล้ว มันก็ไม่รู้จะเทียบกันยังไงเหมือนกันครับ) อีกทางก็คือ ที่ตัวเสื้อสูบ ของปี 96-98 จะไม่มี knock sensor แต่จะมีตัวหล่อปูดๆ ออกมา แต่ไม่ได้ทำเกลียวสำหรับใส่ knock sensor มาด้วย ถ้ามาเจาะใส่ knock sensor เอง ก็จะเห็นว่าตัวหล่อไม่ได้ปาดให้เรียบ เหมือนกับตัวปี 99-01 ที่ปาดเรียบแล้วทำเกลียวใส่ เซนเซอร์ มาให้เรียบร้อย
    อีกทีก็ต้องดูที่เลขเครื่อง แต่ตอนนี้ผมไม่มีที่อ้างอิงว่า ปีไหนเลขเครื่องอะไร เอาไว้ถ้าหาได้จะเอามาลงไว้ให้ (ถ้าหาได้และไม่ลืม)

    เพิ่มตรงนี้อีกนิด เครื่องในญี่ปุ่นจะเป็นเครื่อง b20b ทั้งหมด (ตามความเข้าใจของผมนะ) แต่ว่าถ้านอกญี่ปุ่นจะมีเครื่องรหัส b20z ด้วย ซึ่งรายละเอียดของตัวเครื่องจะเหมือนกับ b20b ปี 99-01

    สำหรับใครที่เคยเห็นเครื่อง b20a, b21a สองตัวนี้ส่วนใหญ่จะวางอยู่ใน แอคคอร์ด และพรีลูด ในยุคปี 80 ทั้งสองเครื่องนี้ "เค้าว่า" ไม่ได้อยู่ในตระกูล b-series จริงๆ เพราะอะไหล่หลายอย่างใช้ร่วมกันไม่ได้ (ซึ่งน่าจะเอาไปประกบฝาไม่ได้ด้วย และเครื่องก็หายากด้วยเพราะมันเก่ามากแล้ว) แต่ก็เป็นต้นแบบของเครื่อง b ในยุคต่อมา รวมไปถึงเครื่อง zc twin cam ด้วย

    ถ้าอยากได้รายละเอียดของเครื่องรุ่นต่างๆ ลองหาอ่านใน wigipedia ดูครับ มีให้อ่านเยอะ...

    อ่านแล้วก็เหนื่อยใจ....ต้องใช้เงินทั้งนั้น -*-
    อยาก save ไหมล่ะ บอกมาเดี๋ยวแนะนำให้ เอาเครื่องเดิมนี่แหละ เหนียวดี ไม่ต้อง b20 หรอก เสียดายเครื่อง ทำที่ละสเต๊ป จะได้ไม่เปลืองตังมาก

    **โอ้ย เห็นแล้วอยากทำจังครับ ใครมีอู่แนะนำบอกกันบ้างนะ แล้วใครมีเกียร์กะปุก 16 รึ 18 บอกกันบ้างนะครับ จะเก็บเครื่องไว้ใช้เองแล้วคับพี่ก้อง ผมที่เคยโทรไปคุยนะครับ?**
    จำได้ครับ แต่ถ้าทำเป็น b20 คงต้องบวกหลายอย่างเหมือนกันนะครับ เพราะเห็นว่าจะใช้เกียร์กระปุกด้วย มันก็ต้องเพิ่มค่าเกียร์, กระบองเกียร์, ด้ามเกียร์, ขาคลัชท์, กระปุกน้ำมัน อีก ราวๆ สองหมื่น ค่าทำรวมเครื่องด้วยอีกสามหมื่น กลายเป็นครึ่งแสนแล้วนะครับ ไหนจะต้องเปลี่ยนเป็นกล่องเกียร์ธรรมดาพร้อมกับจูนรอมอีก อาจจะเกินไปอีกหน่อย อ้อ..คลัช กับฟลายวีลด้วยนะครับ โดยมากมักจะไม่มาพร้อมเกียร์ธรรมดา
    เรื่องอู่ลองถาม zero-start ดูเห็นในคลับก็ทำที่นี่กันเยอะ ของผมก็อยากจะทำเองเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยอยากลงทุนซื้อเครื่องมือหนักบางตัว ซื้อมาแล้วไม่ค่อยได้ใช้มันจะไม่คุ้ม ยอมเสียค่าแรงให้เค้าดีกว่า แต่ตอนนี้เครื่องยังกองอยู่ที่บ้านเลย จะครึ่งปีแล้ว ยังไม่ได้เวลาไปทำซะที
    หรือใครมีเครื่องมือให้เช่าบ้างจะได้ทำเองแล้วรับจ๊อบได้บ้าง... อิ อิ..

    วิธีประกบ ...
    เข้าเรื่องเลยนะ ความจริงเคยมีคนลอกจากหนังสือเอามาลงไปแล้ว ซักช่วงปลายๆปี 49 มั้ง เอาสั้นๆ แล้วกัน
    เมื่อเรามีท่อนล่างท่อนบนเรียบร้อย โดยอยู่บนสมมุติฐานว่าเป็นเครื่อง วีเทคอยู่แล้ว ก็ยกเครื่องออกมาแล้วก็ถอดฝาสูบออกมาจัดการทำเกลียวอุดรูน้ำมันเครื่องบนหน้าฝาสูบเพื่อไม่ให้น้ำมันเครื่องไหลออกมาเพราะ ที่เสื้อของ b20b จะไม่มีหน้าสัมผัสปิดรู หรือรูที่จะรับน้ำมันเครื่องที่ฝาของวีเทค
    จากนั้น ก็หาทางเอาปลั๊กเกลียวอุดรูน้ำมันเครื่องด้านใต้จานจ่าย หลังเครื่อง ฝั่งท่อไอดีออก แล้วใส่เกลียวสำหรับต่อท่อน้ำมันเครื่องเข้าไป

    บางอู่จะเอาฝาสูบไปเจาะขยายรูสำหรับใส่ dowel (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้) คือตัวบังคับให้ฝาสูบกับเสื้อสูบตรงอยู่ในแนวเดียวกันไม่ขยับไปมา ลักษณะเป็นทรงท่อสั้นๆ เนื่องจากว่าตำแหน่งของ dowel ของเครื่อง b20 กับเครื่อง vtec มันอยู่กันคนละตำแหน่งกัน
    อีกวิธีที่น่าจะดีกว่าเพราะไม่ต้องเจาะขยายรู ก็ให้กลึงตัว dowel ตัวใหม่ ให้มีลักษณะเป็นหยักลดขนาด (step) แล้วสวมลงไปในตำแหน่งเดิมของฝาสูบและต้องให้พอดีกับที่เสื้อสูบ ซึ่งฝรั่งเค้ามีชุดนี้ขาย แต่ของเรากลึงเอาน่าจะถูกว่าสั่งเข้ามา แต่วิธีเจาะน่าจะเป็นวิธีที่ถูกที่สุด (แต่ผมว่า ถ้าไม่มีการจับยึดที่ดีมันมีโอกาสเบี้ยวได้) ใครจะเอาฝาไปขัดทำพอร์ท หรือเปลี่ยนยางตีนวาวล์เปลี่ยนสปริง บดวาวล์ก็ทำเสียตรงนี้ได้เลย จะได้ไม่เสียเวลายกเข้ายกออกอีก

    สำหรับที่เสื้อสูบ ก็เตรียมการสำหรับเดินน้ำมันเครื่องไปเลี้ยงฝาสูบ แนะนำให้ใช้สาย แบบสายเทฟล่อนแสตนเลสถัก ประมาณเบอร์ 4 หรือ สายไฮดรอลิคทนแรงดันสูง แต่แนะนำแบบแรกมากกว่าราคาต่างกันไม่เท่าไหร่ เพราะมันสั้นแค่ 13-14 นิ้วเอง ทำหัวไว้สำหรับขันเข้ากับฝาสูบ อีกด้านเข้าสามตาที่ต่อมาจากตัววัดแรงดันน้ำมันเครื่อง ใกล้ๆ กับกรองน้ำมันเครื่อง แต่ก็แนะนำอีกว่าควรจะใช้อแด๊ปเตอร์ที่ต่อจากฐานกรองน้ำมันเครื่องจะดีกว่า สะดวกกว่า และ สามารถต่อพวกตัวเซนเซอร์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิน้ำมันเครื่องได้อีกด้วย ราคาตัวละประมาณไม่เกินพันบาทไทย ใครสนใจติดต่อมาเดี๋ยวไปเอามาให้ แต่หาไม่ยากหรอกมีขายเยอะแยะ ดีกว่าใช้สามตาตั้งเยอะ และไม่เสี่ยงที่สามตาจะแตกร้าวด้วยยิ่งโดยเฉพาะสามตาที่เป็นทองเหลืองเวลาร้อนจัดๆ มันชักจะออกอาการเนื้อทองเหลืองเปราะ ยิ่งถ้าต่อยาวๆหลายข้อต่อด้วยแล้วเวลาเครื่องสั่นสะเทือนมันจะแกว่งให้ข้อต่อร้าวได้ง่ายขึ้น

    ที่ลูกสูบ ตามที่ฝรั่งว่าไว้ ถ้าไม่ได้ใช้แคมลิฟสูงก็ไม่ต้องขุดหลบวาวล์เพิ่ม แต่ต้องไม่ advance แคมเพิ่ม แต่ผมว่าเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน ให้แต่งช่องหลบวาวล์บนลูกสูบสักเล็กน้อยโดยเฉพาะด้านไอดี เพราะวาวล์ของ b20b จะเล็กกว่าของวีเทคอยู่ 2 มม. อาจจะมีการสะกิดกันได้ที่รอบสูงๆ ถ้าปลอกวาวล์เริ่มมีการสึกหรอ และถ้าจะเล่นกับแคมภายหลังจะได้ไม่ต้องถอดฝาออกมาทำอีก เดี๋ยวนี้แคมฝาแดงก็ราคาเริ่มลงเรื่อยแล้ว จากที่หมื่นกว่าบาท สามารถหาได้ต่ำกว่าหมื่นลงมาถึง 7-8 พันได้แล้ว และแคม street ที่คุณแดนขาย skunk2 เห็นเซลส์อยู่แค่แถวๆ หมื่นหกเอง

    เพิ่มเติมเรื่องสปริงวาวล์หน่อยครับ ถ้าไม่ได้เบิกใช้ของฝาแดงหรือของแต่ง และอยากประหยัดงบ ให้เอาของด้านไอดี ย้ายมาใส่ด้านไอเสีย ก็จะได้ด้านไอเสียเป็นสปริงสองชั้น จากเดิมที่เป็นสปริงชั้นเดียว ส่วนด้านไอดีก็เอาของ b20 ด้านไอดีมาใช้เป็นตัวนอก ส่วนตัวในก็หาใหม่หรือเบิกใหม่เอา จะประหยัดไปได้อีกเยอะ เพราะ free length ของสปริงด้านไอดีของ b20 จะเยอะกว่าของสปริงสองชั้น นั่นก็หมายความว่ามันจะแข็งกว่า แต่ถ้าใช้แคมแต่งต้องดูด้วยนะครับว่าสปริงมันจะเอาไหวไหม เพราะถ้าลิฟสูงมากๆ สปริงอาจจะยันก็ได้ ทางที่ดีควรเป็นสปริงแต่งและรีเทนเนอร์แต่งไปด้วย

    จากนั้นก็ทำการประกอบฝาเข้ากับเครื่อง น๊อตฝาสูบให้ใช้ของวีเทค เพราะของ b20b มันสั้นเกินไป ขันให้ได้ตามสเปคของเครื่องวีเทค ถ้าฝาเปิดมาหลายครั้งแล้วให้เปลี่ยนน๊อตฝาสูบไปเถอะครับ อย่าไปเสียดายเพราะน๊อตมันจะยืดค่าที่ขันเข้าไปมันจะไม่ได้ตามสเป็ค แล้วมันจะทำให้เกลียวในเสื้อสูบเสียด้วย และมันจะทำให้เกิดอาการที่เค้าเรียกว่าเกลียวถอน หรือน๊อตถอน นั่นก็คือเกลียวมันรูดเวลาอัดหนักๆ ครับ
    หรือถ้าใช้สตัดเกลียวแต่งของ ARP ก็ได้ครับหมดปัญหาไปเลย ใครอยากได้สั่งที่ผมก็ได้จะสั่งเข้ามาให้ หรือที่คุณแดนก็ได้ (ไม่เกี่ยวกันนะครับ ต่างคนต่างสั่ง)...

    เสร็จแล้วก็เอาไปจูนรอมด้วยนะครับ อากาศมันเข้ามากกว่าเดิมต้องการน้ำมันที่มากกว่าเดิม หรืออย่างน้อยก็เพิ่มเร็กกูเลเตอร์เข้าไปอีกตัว แล้วเพิ่มแรงดันน้ำมันเข้าไปอีกหน่อย อย่างน้อยก็ 10% แต่ผมว่าจูนรอมถูกว่านะ เร็กกูเลเตอร์ของใหม่อย่างถูกๆ ก็สามพันกว่าบาทเข้าไปแล้ว จูนแบบ real time ได้เลย

    สำหรับปั๊มเชื้อเพลิงใครไม่เคยเปลี่ยนมานานแล้วก็ เปลี่ยนซะเลย เอาของ j มาใส่ได้เลย แต่ต้องเลือกเอาตัวผอมนะครับ ของ j มันจะมีอยู่สองแบบ แบบอ้วนกับ แบบผอม สีดำๆ denso ผลิตให้เหมือนกัน เอามาใส่แทนกันได้เลย ปลั๊กเหมือนกัน แต่ของ j ขั้วไฟเล็กกว่า แต่ใช้กันได้ ตัวปั๊มยาวกว่าเล็กน้อย แต่ยัดกันได้ไม่ติดอะไร เวลาใส่ท่อยางก็หาน้ำมันมาทาๆ ซะหน่อยนะครับ จะได้ยัดได้ง่ายๆ เดียวท่อหักขึ้นมาต้องวิ่งไปหาซื้อกันใหม่อีก ส่วนกรองตรงปลายก็ถอดสลับกันได้เลยช่องตรงกันหมด ทำเองได้ง่ายๆ...
     
    pichet62 ถูกใจสิ่งนี้
  15. G Type R

    G Type R New Member Moderator VIP

    3,605
    99
    0
    ข้อความข้างบนเนี่ย จริงๆแล้วของคุณ broom EG3D Club เขียนขึ้นครับ ตามกระทู้นี้เลย
    http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=266026
     
  16. bestza

    bestza New Member Member

    2,474
    13
    0
    ให้ข้อมูลดีมากงับป๋ม อิอิอิ
     
  17. bestza

    bestza New Member Member

    2,474
    13
    0
    หุหุหุ แต่แค่นี้ก้วิ่งแย้วน๊าๆ แต่เบสอยากสะใจก่านี้ นิโหน่ย อิอิ
     
  18. the_secretest

    the_secretest New Member Member

    746
    13
    0
    ยืมตัวแรงของคนในคลับไปลองเป็นครั้งคราว 555
     
  19. joiceSi

    joiceSi New Member Member

    816
    9
    0
    อยากแรงมั่งจัง แต่ตังค์ไม่มี^^

    Joice++Jum
     
  20. TankEk

    TankEk New Member Member

    6,091
    562
    0
    ข้อมูลดีมากเลยคับ
     
  21. Tuned by Tommy

    Tuned by Tommy New Member Member

    766
    29
    0
    แรงกันไปใหญ่แล้วคราบ เพิ่มพูนความรู้กันอีกนิด เรื่องการเปลี่ยนอะไหล่ เช่น หัวฉีด ปั้มติ๊ก regulator ฯลฯ

    หลายๆ คนที่ทำเครื่อง B20 หรือจูนกล่องจูนรอม อาจจะเจอคำถามจากช่างว่า "เปลี่ยนปั้มติ๊กยัง ของเดิมมันไม่พอนะ" เป็นคำถามที่ชวนสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าไอ้ที่ไม่พอมันไม่พอยังไง ไม่รู้ว่าจะมีใครสงสัยเหมือนผมหรือเปล่า? แล้วถ้าไม่พอ หัวฉีดเดิมมันน่าจะไม่พอไปด้วยหรือเปล่า? ทำไมให้เปลี่ยนปั้มติ๊กแล้วไม่ยักกะบอกให้เปลี่ยนหัวฉีด น่าสงสัยมาก แต่ก็เปลี่ยนๆ ไปเถอะของไม่กี่พัน ใช้ของ J ก็ได้ (แล้วมันดูดปริมาณมากกว่าของเดิมเท่าไรกันวะเนี่ย)

    คำตอบ
    จากประสบการณ์ที่ทำ B20 มากว่า 4 ปี ยังใช้ปั้มติ๊กเดิมอยู่ ไม่มี regulator ด้วยครับ ที่เขียนมาเนี่ยไม่ได้จะบอกว่าไม่ให้เชื่อช่างนะครับ แต่ก่อนจะทำอะไร อยากให้ลองถามเหตุผลในการเปลี่ยนหน่อย บางที่ช่างเค้าเชื่อต่อๆ มาอีกที ของเบบนี้มันคำนวณได้ครับ ไม่อยากให้เสียเงินโดยใช่เหตุ

    ส่วนเรื่องหัวฉีด ของเดิมยังพอสำหรับเครื่อง B20 แน่นอนครับ แต่ที่ผมเปลี่ยนเพราะว่าหัวฉีดเดิมของเครื่อง B มันค่อนข้างโบราณหัวเป็นแบบเข็ม เลยเปลี่ยนมาใช้ของ 1J ที่มันใส่พอดีกัน หัว J มันเป็นพสาลติกมี 4 รูซึ่งจะทำให้ฉีดน้ำมันเป็นฝอยได้ละเอียดมากกว่า ทำให้ลดการสิ้นเปลือง (นิดๆ) แล้วขับในรอบต่ำได้ดีมากขึ้นครับ จะให้ของ RB ก็ไม่ว่ากันถ้ามันใส่กันได้พอดี

    ส่วนที่น่าจะเปลี่ยนมากที่สุดแต่ช่างไม่เคยบอกเลยคือ เรื่อง คอล์ยครับ ถามว่าทำไมต้องเปลี่ยน? ของเดิมมันก็ใช้ได้ คำตอบ คือของเดิมมันใช้ได้แน่นอนครับ แต่ถ้ามาวิเคราะห์กันดูจะเห็นว่าเครื่อง B ยังใช้ระบบจานจ่ายซึ่งค่อยข้างโบราณเอามากๆ (จะเห็นได้ว่าเครื่อง K20 เค้าพัฒนามาเล่นคอล์ยแยกกันหมดแล้ว) ไหนๆ จะแรงแล้วก็ทำมันให้เต็มที่ดีกว่า โดยการเปลี่ยนไปใช้คอล์ยโรตี หรือคอล์ยแต่งก็ได้ แต่ให้บ้าครบสูตรทำคอล์ยแยก 4 สูบไปเลยแล้วจะเห็นความต่างแน่นอนครับ ผลที่ได้ก็คือ กำลังไฟที่จ่ายดีมากขึ้นทำให้การเผาไหม้ดีขึ้น กำลังเครื่องยนต์ก๊ดีขึ้นตามลำดับครับ
     
  22. bestza

    bestza New Member Member

    2,474
    13
    0
    ขอบคุณมากมายเพ่ชายๆ อิอิอิ
     
  23. tamako

    tamako New Member Moderator

    3,037
    88
    0
    อยากแรง แต่ ตังค์น้อย เฮ้อ....แย่จัง
     
  24. ECU 24

    ECU 24 New Member Member

    510
    7
    0
    ทั้งหมดที่พี่ว่ามาเนี้ยประมาณเท่าไรคับแล้วผมอยากถามอีกเรื่องหนึ่งถ้าเราใส่แคมB16Bอย่างเดี่ยวมันจะแรงขึ้น
    ไหม่คับแล้วมันราคาประมาณเท่าไรคับไอ้แคมที่ว่าคับรบกวนพี่ๆเพื่อนๆ
     
  25. G Type R

    G Type R New Member Moderator VIP

    3,605
    99
    0
    เอาใส่แคม B16B อย่างเดียวก่อน
    ค่าแคมประมาณ 8000-1xxxx บาทพอใส่แคมก็ต้องเปลี่ยนสปริงวาวล์+รีเทนเนอร์อีก
    4500-5500 (ของฝาแดงนะ) ใส่ทั้งทีไม่ขัดพอร์ทจะไม่วิ่งเอา ขัดพอร์ทอีกตีไป 5000 โดยประมาณ
    ค่าแรงรื้อใส่+ค่าอะไหล่ ปะเก็นฝา ยางตีนวาวล์ และอื่นๆ น่าจะ 7000 โดยประมาณ อ้อ ลืมใส่แคม
    แล้วต้องบิดแคมด้วย ต้องหาเฟืองแคมสไลด์มาใส่ เอาของเดิมไปทำที่โรงกลึงประมาณ 2000
    ใส่เสร็จประกอบเครื่องเสร็จ ต้องไปจูนเรียลทาม(จูนกล่องนั่นแหละ) ประมาณ 3500 (ราคาใหม่ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่)
    ราคาก็ประมาณ 30000 บาทครับ (ราคานี้ไม่แน่นอน เป็นเพียงการคาดเดาขึ้นอยู่กับค่าของค่าแรงแต่ละอู่)
    ใส่แล้วเห็นผลชัดเจน วิ่งดีขึ้นจริงๆ ไม่มีโม้แน่นอน

    ส่วนท่อนล่าง20 เคยถามมาเค้าบอกประมาณ 40000 จบ (อันนี้ถามที่อู่นึงมา)

    ถ้าทำท่อนล่างB20 + ใส่แคมฝาแดงด้วยรอ Best Si มาตอบครับ
     
  26. the_secretest

    the_secretest New Member Member

    746
    13
    0
    แล้วของพี่ละครับถึงไหนแล้ว
     
  27. Tuned by Tommy

    Tuned by Tommy New Member Member

    766
    29
    0
    มีค่า fly wheel ด้วย ส่วนค่าแรงประกอบน่าจะ 5000 ค่าขัดพอร์ตอีก 5000 ค่าประเก็นท่อไอเสียอีก ยังมีค่ามันต่างๆ อีก แพงฉิบ :confused:
    ตอนนี้รอดูพี่กอล์ฟผูกโบ ระวังตอนขันประเก็นนะพี่กลัวเสื้อสูบบิดเพราะความแรง :eek:
     
  28. G Type R

    G Type R New Member Moderator VIP

    3,605
    99
    0
  29. Tuned by Tommy

    Tuned by Tommy New Member Member

    766
    29
    0
    ^
    ^
    ^
    สงสัยส่งเสื้อสูบไปทำเยอรมันมีเครื่องหมายนาซี มีแท่งรอบเสื้อเลย ท่าจะบูสหนัก เอิ้ก เอิ้ก
     
  30. tamako

    tamako New Member Moderator

    3,037
    88
    0
    เสื้อบาง ไม่กลัวเป็นหวัดเหรอจ๊ะ หุหุ
    B20+B16+camฝาแดง ราคาค่าทำ มันรุนแรงจริงครับ
    ที่พี่ก็อฟ บอกแหระครับ ทำcam b16b งบ สามหมื่น
    ทำท่อนล่าง งบ สี่หมื่น
    ทำสองอย่าง จะประหยัดค่าแรง หน่อยนึง คือ ค่าแรง ทำเครื่องกะ จูนกล่อง เสีย ครั้งเดียว
    แต่เดี๋ยวก็มีจุกจิก อีก หมื่นแหงๆครับ แบบ ท่อเดิม เล็กไป เฮดเดิม ใช้ไม่ได้ เบรคเดิมไม่พอ
    เฮ้ออออออ...บานนนนนน.......ครับ
    แต่ มันต้องทำ
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้