รำลึกตำนาน " เจ้าฟ้าดาราทอง " ตำนานที่ยิ่งใหญ่ของmotorsportเมืองไทย

รำลึกตำนาน " เจ้าฟ้าดาราทอง "


"ณ ชานชาลาของรถไฟใต้ดินกรุงลอนดอน สถานีชื่อว่า BARON'S COURT

ที่กำลังพลุกพล่านด้วยผู้คนสัญจรไปมาอย่างเนืองแน่น

ร่างของชายชราชาวตะวันออกผู้หนึ่งล้มลงไปบนชานชาลานั้น

ผู้คนซึ่งกำลังเดินพลุกพล่านวิ่งมาดูกันอย่างตกอกตกใจ

เมื่อได้สติกัน พลเมืองดีชาวอังกฤษรุดไปโทรศัพท์แจ้งตำรวจและโรงพยาบาล

เมื่อแพทย์พร้อมรถพยาบาลมาถึงสถานีนั้น เร่งรีบช่วยชีวิตชายผู้นั้นไว้ด้วยการปั๊มหัวใจและทำทุกวิถีทาง

แต่ก็สายไปเสียแล้ว ชายผู้นั้นได้เสียชีวิตลงด้วยอาการของโรคหัวใจเฉียบพลัน

เสียชีวิตแน่นิ่งไปแล้ว ผู้คนตามชานชาลาทั้งสองฟากต่างก็ยืนดูเหตุการณ์กันอย่างสนอกสนใจ

แต่เมื่อรถใต้ดินมา ทุกคนก็แยกย้ายกันขึ้นรถไปโดยไม่ได้ใส่ใจเพียงแต่เป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น

เมื่อรถพยาบาลได้พาร่างนั้นไปที่โรงพยาบาล เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลและตำรวจที่ต้องสืบสวยว่าผู้นั้นคือใคร

ดูแล้วเป็นชายชราชาวตะวันออกแน่นอน แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร

เมื่อทำการค้นร่างเพื่อจะได้พิสูจน์หลักฐาน ในกระเป๋าของชายผู้นั้นซึ่งบ่งบอกได้ว่าอายุประมาณเจ็ดสิบเศษ

ตำรวจได้พบจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งเขียนเป็นภาษาที่บอกไม่ได้ชัดเจนว่าจากประเทศใด

กองพิสูจน์หลักฐานจึงส่งจดหมายฉบับนี้ไปยังมหาวิทยาลัยลอนดอน เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าภาษานั้นคือภาษาอะไร..

 

?????ǧ???? ???ͧ????Ҿ?þ????ҳ?പ ???? ???ͧ?????


? ?ǧ????ԭ?ҳ???????ͧ????????ǧ???ä? ???ͧ????鹾?Ъ??????ҧⴴ?????

??§?訴??????????˹?觩?Ѻ???ç???????????觷?????????Һ??Ҿ??ͧ??????

෾?觾??ͧ???ҹŧ?Ҩص????ҧ???ʧ?? ??й????â??¡?͹ʧ?????š???駷?? ? 价????š

???෾??Ӿ??ͧ???ҹ ? ??Ҵ??ҷͧ? ?ʴ稡?Ѻ???????ҧ???Ǵ?? ????͹???ä????????š????


(15 ?á?Ҥ? ?.?. 2457 - 23 ?ѹ?Ҥ? ?.?. 2528) ?ѡ??ö?????

 

ประวัติ

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช


เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชและ


หม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม ยงใจยุทธ เป็นพี่สาวของ ร้อยเอกชั้น ยงใจยุทธ บิดาของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)


ประสูติเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2457


เมื่อแรกประสูติทรงพระนามว่า หม่อมเจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช


จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนอีตัน


และเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ


และเปลี่ยนไปศึกษาด้านประติมากรรม ที่ Byam Shaw Art School

 

ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง (พ.ศ. 2479-2482)

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงแข่งรถโดยการสนับสนุนของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

ทั้งสองพระองค์มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในหมู่นักแข่งรถในชื่อ Prince Bira และ Prince Chula

ทรงขับรถยี่ห้อ อี.อาร์.เอ. (English Racing Automobiles - E.R.A.) ทาสีฟ้าสดใสในการแข่งขัน

ชื่อ รอมิวลุส (Romulus) รีมุส (Remus) และ หนุมาน (Hanuman) สีฟ้าแบบนี้ ปัจจุบันเรียกว่า ฟ้าพีระ (Bira blue)

ทรงชนะเลิศการแข่งขันครั้งแรก ในรายการ Coupe de Prince Rainier ที่เซอร์กิตเดอโมนาโก

(ปัจจุบันคือ โมนาโกกรังด์ปรีซ์) ได้รับถ้วยเจ้าชายเรนีย์แห่งโมนาโก เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2479

โดยทรงขับรถรอมิวลุส

ทรงชนะเลิศการแข่งรถกรังด์ปรีซ์ในยุโรปอีกหลายครั้ง ระหว่างปี ค.ศ. 1936, 1937 และ 1938

จนได้รางวัล ดาราทอง (BRDC Road Racing Gold Star) จากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร 3 ปีซ้อน

ได้รับการบรรจุชื่อในหอเกียรติยศของสมาคมนักแข่งรถอังกฤษ

เมื่อปลายปี พ.ศ. 2480 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช

เสด็จกลับมาเยี่ยมประเทศไทย และนำรถรอมิวลุส กลับมาขับโชว์ และจัดประลองความเร็วที่ถนนราชดำเนิน

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2480 โดยราชยานยนต์สมาคมแห่งสยาม และจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมที่วังจักรพงษ์

ขณะนั้นอยู่ในช่วงงานฉลองรัฐธรรมนูญ มีผู้คนเข้ามาชมเป็นจำนวนมาก

ในปี พ.ศ. 2482 พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช และพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงเป็นกำลังสำคัญ

ในการเตรียมการจัดการแข่งขันกรุงเทพกรังด์ปรีซ์ (ฺBangkok Grand Prix)

โดยเชิญนักแข่งชั้นนำมาแข่งขันบนเส้นทางรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ระยะทาง 2 ไมล์

ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2482 แต่การแข่งขันนี้ต้องยกเลิกไป เพราะเกิดสงครามโลกขึ้นเสียก่การแข่งรางวัลใหญ่กรุงเทพ ฯ ต้องล้มเลิกไปเสียก่อน เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้นในยุโรป

ทำให้การแข่งขันนี้ได้ชื่อว่าเป็น "The Race that was Never Run"

 

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง (พ.ศ. 2493-2497)


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พระองค์พีระทรงสมัครเข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษ ได้ยศเรืออากาศโท ตำแหน่งครูฝึกเครื่องร่อน

เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง จึงกลับมาขับรถสูตรหนึ่ง แข่งขันกรังด์ปรีซ์ในช่วง ค.ศ. 1950 - 1954

การแข่งขันครั้งที่ดีที่สุดของพระองค์พีระ คือ เฟรนช์กรังด์ปรีซ์ ปี 1954 ทรงขับรถ Maserati 250F

ในรอบสุดท้ายทรงอยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งจะได้ขึ้นโพเดียม แต่เกิดน้ำมันหมดถังก่อนจะเข้าเส้นชัยเพียงเล็กน้อย

ได้เพียงอันดับที่ 4 และเป็นสถิติที่ดีที่สุดในการแข่งขันรถสูตรหนึ่งของพระองค์

พระองค์พีระทรงเลิกแข่งรถสูตรหนึ่งในปลายปี ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสายตาสั้น

ต้องสวมแว่นแบบพิเศษ และทรงมีปัญหาในการขับเวลาฝนตก

F1 ชิงแชมป์โลกนับเริ่มนับคะแนนกันครั้งแรกในปี 1950 ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ หลายคนรู้กันอยู่แล้วครับ แต่การแข่งรถสูตรหนึ่งไม่ได้เริ่มครั้งแรกในปี 1950 นะครับ รถสูตรหนึ่งเริ่มแข่งกันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 1 sep 1946 แล้ว เป็น non championship races ไม่มีการเก็บคะนงคะแนนอะไร ชื่อรายการ Gran Premio del Valentino ที่อิตาลี และถึงแม้จะมีระบบการเก็บคะแนนสะสมเพื่อชิงแชมป์โลกแล้วก็ตาม การแข่งขัน F1 non championship races ก็ยังคงมีอยู่จนถึงปี 1957 ครับ เมื่อ FIA ขอถือสิทธิแต่ผู้เดียวในการจัดแข่งขัน และขายลิขสิทธิ์ในการจัดการแข่งขัน 100ปี ให้เจ้าหงอก เอกเค่อสโตน

พระองค์พีระ ชนะการแข่งขัน F1 non championship races อย่างน้อยก็หนึ่งครั้งแน่นอน ในรายการ Grand Prix des Fronti่res สนาม Chimay ประเทศ Belgium เมื่อวันที่ 6 june 1954 ครับ ที่บอกว่าอย่างน้อย 1ครั้ง เพราะบางคนก็นับการแข่งขันของสนาม Goodwood เป็นการแข่งขัน F1 non championship races ด้วย แต่บ้างก็ไม่นับครับ เพราะแข่งระยะทางสั้นมากๆ คือประมาณ 50 กิโลเมตร หรือประมาณ 12-13 รอบเท่านั้น พระองค์ชนะ F1 ที่สนาม Goodwood หนึ่งครั้งครับ ในรายการ Richmond Trophy เมื่อวันที่ 26 March 1951 ที่บอกว่าเป็น F1 non championship races นี่ไม่ใช่เอานักแข่งไร้ชื่อไร้ฝีมือมาแข่งนะครับ นักแข่งทั้งหมดก็ล้วนเป็นนักแข่งใน F1 World Championship แทบทั้งสิ้น

ปล.1934 Maserati 8CM Chassis 3011 ประวัติดีมากๆ เจ้าของล้วนเป็นนักแข่งมีชื่อเสียงทั้งสิ้น Whitney Straight (ทำสี white/blue) - Harry Rose - Richard Seaman - Prince Bira - Kenneth McAlpine(คนนี้เปลี่ยนสีรถเป็นสีดำ) - Leslie W. Boyce (คนนี้ทำรถสีแดง)

 

ชีวิตส่วนพระองค์


พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช เสกสมรสกับนางสาวซีริล เฮย์ค็อก ชาวอังกฤษ (หม่อมซีริล ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา)

เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2480 ก่อนจะหย่าขาดกันใน 11 ปี ต่อมา

ทรงสมรสใหม่กับหม่อมชลิต้า โฮวาร์ด [4] ชาวอาร์เจนตินา เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2499

หลังจากหม่อมชลิต้าตั้งครรภ์พระโอรส คือ หม่อมราชวงศ์พีรเดช ภาณุพันธุ์

ต่อมาพระองค์พีระทรงสมรสอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2500 กับหม่อมสาลิกา กะลันตานนท์

และหย่าขาดกันใน พ.ศ. 2506 จากนั้นทรงสมรสกับ หม่อมอรุณี จุลทะโกศล และหม่อมชวนชม ไชยนันท์

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช สิ้นพระชนม์ที่สถานีรถไฟบารอนส์คอร์ต กรุงลอนดอน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2528 ขณะสิ้นพระชนม์ไม่มีผู้ใดทราบว่าเป็นใคร ก่อนจะเป็นข่าวใหญ่ในสัปดาห์ต่อมา

 

อี.อาร์.เอ. รอมิวลุส

รอมิวลุส (Romulus) เป็นชื่อที่ใช้เรียกรถแข่ง ยี่ห้อ อี.อาร์.เอ. (English Racing Automobiles - ERA) รหัส R2B

ที่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ใช้ขับแข่งในช่วงปี พ.ศ. 2478 ถึง พ.ศ. 2482 เป็นคู่แฝดกับรถ รีมุส

ซึ่งเป็นรถรุ่นเดียวกัน เหมือนกันทุกประการ เป็นรถ อี.อาร์.เอ. หนึ่งในสามคันในสังกัด คอกหนูขาว (White Mouse team) รถอีกคันหนึ่งคือ หนุมาน

รถคันนี้เป็นรถแข่งที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงสั่งซื้อเป็นของขวัญให้แก่พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช

มีกำหนดส่งในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 ตรงกับวันคล้ายวันประสูติครบรอบ 21 ปี ในราคา 1,800 ปอนด์

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว ใช้ซุปเปอร์ชาร์จแบบเมเรย์ เจมิสัน เกียร์เดินหน้า 4 เกียร์

รถคันนี้พ่นสีฟ้าที่สั่งทำเป็นพิเศษ ตามสีของเสื้อคนขี่ม้าแข่งของสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

ซึ่งเป็นสีที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ชื่นชอบเป็นพิเศษ ในครั้งนั้นพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงหาตัวอย่างสีอย่างที่ต้องการให้กับบริษัทรถไม่ได้

บังเอิญวันหนึ่งได้ทรงพบกับนางสาวบาร์บารา กรุต (Barbara Grut) เพื่อนเก่าชาวสแกนดิเนเวีย และไปรับประทานอาหารค่ำกัน

วันนั้นนางสาวบาร์บารา สวมชุดราตรีซึ่งมีสีฟ้าตรงกับที่ทรงต้องการ จึงทรงขอผ้าชิ้นเล็กๆ จากชุดนั้นมาเป็นตัวอย่างให้กับบริษัทผลิตรถ

ทรงพ่นสีรถทุกคันด้วยสีนี้ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีว่า สีฟ้าพีระ (Bira Blue)

 

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงขับรถรถ อี.อาร์.เอ. คันนี้แข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2478

ใน Dieppe Grand Prix ที่ดิเอปป์ ประเทศฝรั่งเศส ได้ที่สอง ซึ่งความจริงแล้วหากไม่เสียเวลาในการเปลี่ยนหัวเทียน ถึง 2 นาที

เนื่องจากไม่มีช่างผู้ชำนาญ ก็อาจทรงชนะเลิศตั้งแต่การแข่งครั้งแรก

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงซื้อรถรุ่นเดียวกันอีกคันหนึ่ง เพื่อสลับใช้งานกัน โดยได้รับมอบในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2479

และทรงตั้งชื่อรถคันแรกว่า รอมิวลุส และคันหลังว่า รีมุส ตามชื่อของ รอมิวลุส และรีมุส เทพเจ้าโรมันฝาแฝด ผู้ก่อตั้งกรุงโรม

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงขับรถรอมิวลุส เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 35 รายการ (28 รายการ ในชื่อ รอมิวลุส)

ได้รางวัลชนะเลิศ 9 รายการ ที่สอง 9 รายการ ที่สาม 7 รายการ และได้นำมาจัดแข่งประลองความเร็ว บนถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2480

รถรอมิวลุสอยู่ในการครอบครองของ หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514

ปัจจุบันได้เปลี่ยนมือเป็นกรรมสิทธิ์ของ Gregory Whitten ชาวอเมริกัน และจะได้รับการปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ใหม่ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์

 

กรุงเทพกรังด์ปรีซ์ 2531

การแข่งขันรถยนต์ประวัติศาสตร์ กรุงเทพกรังปรีซ์ 2531 เป็นการแข่งรถที่จัดขึ้นในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2531 ที่ถนนราชดำเนิน และ 16 มกราคม พ.ศ. 2531 ที่พีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี



ที่มา

การจัดการแข่งขันนี้ริเริ่มโดย สรรพสิริ วิรยศิริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จากการปรึกษากับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช

ถึงความเป็นไปได้ที่จะนำรถแข่งที่ทรงเคยขับในอดีต มาจัดแข่งอีกครั้งเช่นเดียวกับที่เคยทรงทำเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2480

และในรูปแบบของกรุงเทพกรังด์ปรีซ์ ที่ไทยเคยจะจัดในปี พ.ศ. 2482

หลังจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2528 สรรพสิริ วิรยศิริ

ได้นำแนวคิดนี้ไปปรึกษากับหม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ธิดาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

และได้นำความไปปรึกษากับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ (ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานน้า ของพระองค์พีระ)

ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ตามคำแนะนำของพระองค์พีระที่ทรงให้ไว้ก่อนจะสิ้นพระชนม์

กองทัพบกไทย จึงได้จัดตั้งโครงการเทิดพระเกียรติเจ้าดาราทอง และดำเนินจัดการแข่งขันรถยนต์ประวัติศาสตร์ "กรุงเทพกรังด์ปรีซ์ 2531" ขึ้น

 

ความรู้คับ.....

 

ประวัติโดยละเอียด
http://www.vcharkarn.com/varticle/388/5

ชีวิตช่วงบั้นปลายของพระองค์พีระ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/03/K6455651/K6455651.html

คลิปCampbell Trophy at Brooklands 1937

[media]http://www.youtube.com/watch?v=MRLiWnP0JLI[/media]

ฺB.BIRA , Monaco Grand Prix 1950

[media]http://www.youtube.com/watch?v=P1dSXQGYVDQ[/media]

ถึงจะมีเพียง 39 วินาที
แต่สังเกตุได้ว่าีมีรถวิ่งจบเพียง 7 คันเท่านั้น
1 Juan Manuel Fangio Alfa Romeo 158 Alfa Romeo P 100 3:13:18,700
2 Alberto Ascari Ferrari 125 Ferrari P 99 +1 Runde
3 Louis Chiron Maserati 4CLT/48 Maserati P 98 +2 Runden
4 Raymond Sommer Ferrari 125 Ferrari P 97 +3 Runden
5 Prince Bira Maserati 4CLT/48 Scuderia Enrico Plate P 95 +5 Runden
6 Bob Gerard ERA B FR Gerard Cars D 94 +6 Runden
7 Johnny Claes Talbot-Lago T26C Ecurie Belge D 94 +6 Runden
Nicht klassifiziert
DNF Luigi Villoresi Ferrari 125 Ferrari P 73 Hinterachse
DNF Phillipe Etancelin Talbot-Lago T26C Philippe Etancelin D 36 Ölversorung
DNF Maurice Trintignant Simca-Gordini T15 Gordini E 0 Unfall
DNF Harry Schell Cooper-JAP T12 Horschell Racing Corporation D 0 Unfall
DNF Louis Rosier Talbot-Lago T26C Ecurie Rosier D 0 Unfall
DNF Franco Rol Maserati 4CLT/48 Maserati P 0 Unfall
DNF Robert Manzon Simca-Gordini T15 Gordini E 0 Unfall
DNF T. Cuth Harrison ERA B Cuth Harrison D 0 Unfall
DNF Jose Froilan Gonzalez Maserati 4CLT/50 Scuderia Achille Varzi P 0 Unfall/Feuer
DNF Nino Farina Alfa Romeo 158 Alfa Romeo P 0 Unfall
DNF Luigi Fagioli Alfa Romeo 158 Alfa Romeo P 0 Unfall
DNF Emmanuel de Graffenried Maserati 4CLT/50 Emmanuel de Graffenried P 0 Unfall
Nicht zum endgültigen Start angetreten
DNS Alfredo Pian Maserati 4CLT/48 Scuderia Achille Varzi ? 0 Motor
DNS Peter Whitehead Ferrari 125 Peter Whitehead D 0 Motor

 

ขอขอบคุณ

www.bangkokclassiccar.com สำหรับข้อมูลจากกระทู้ต้นแบบของคุณauseebkk http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=12553.160

และ ขอสดุดีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือ พระองค์พีระ สำหรับความสามารถ และเกียรติศักดิ์ ที่ทำให้ชาวmotorsportคนไทยได้ภาคภูมิใจ........

 

ขอบคุณครับ

 

ผมเองก็เคยได้ยินเรื่องของพระองค์พีระว่าเคยชนะที่โมนาโคมาจากหลายแหล่งข่าว แต่เวลาตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วพบว่าไม่มีชื่อของพระองค์พีระเลยที่เคยชนะโมนาโค อาจจะชนะที่โมนาโคแต่ว่าไม่ใช่ Grand Prix (เป็นรายการเสริมแบบพวก F3 หรือ GP2) หรือเปล่า ถ้าใครมีข้อมุลอะไรก็เอามาลงหน่อยครับ

ลองดู PDF ที่แนบมาแล้วกันครับ อันนี้ Download มาจากเว็บของ Autosport (คนที่ติดตามเรื่องรถแข่งในระดับอินเตอร์น่าจะพอคุ้นกันบ้าง) เพราะฝรั่งบางคนเองก็เข้าใจว่าเคยชนะ Monaco GP

เพิ่มเติมอีกนิดนึงครับ รถ ERA ในหลวงทรงซื้อมา ปัจจุบันอยู่ที่วังสวนจิตรฯนี่เองครับ

 

ขอบคุณมากครับ

 

อยากให้แข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นให้ได้

การแข่งครั้งนี้ที่ไม่เกิด

เปรียบเสมือน ตะปูตอก ทำให้วงการแข่งรถไทย ไปได้ไม่ไกล

และล้าหลังเพื่อนบ้าน อย่างไม่น่าเชื่อ

 

เยี่ยมเลยคับ

 

ขอบคุณมาก

 

ขอบ คุณ ค่ะ . . .

สุด ยอด เลย


^_____^

 

ทรงขับรถยี่ห้อ อี.อาร์.เอ. (English Racing Automobiles - E.R.A.) ทาสีฟ้าสดใสในการแข่งขัน

ชื่อ รอมิวลุส (Romulus) รีมุส (Remus) และ หนุมาน (Hanuman) สีฟ้าแบบนี้ ปัจจุบันเรียกว่า ฟ้าพีระ (Bira blue)

ทรงชนะเลิศการแข่งขันครั้งแรก ในรายการ Coupe de Prince Rainier ที่เซอร์กิตเดอโมนาโก

(ปัจจุบันคือ โมนาโกกรังด์ปรีซ์) ได้รับถ้วยเจ้าชายเรนีย์แห่งโมนาโก เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2479

 

++ ความรู้ล้วนๆ ++

 

อ่านแล้วครับ แต่ก็เพราะว่าอ่านแล้วนี่แหล่ะถึงได้โพสลงไปไงครับ...ไม่ใช่ว่าเข้ามาโพสต์แบบไม่ได้อ่านอะไรมาก่อน

เพราะเห็นว่าข้อมูลที่ไป Copy มาลงนั้นอาจจะไม่ถูกต้องแม่นยำ (เช่นยังบอกว่ารถอยู่ในความครอบครองของคนอเมริกันอยู่ทั้งๆที่ปัจจุบันในหลวงทรงเป็นเจ้าของแล้ว) หลายแหล่งข่าวที่ผมพยายามหามาได้บอกว่าไม่ได้ชนะ Monaco GP แต่เป็นรุ่น VOITURETTE (ใช้เครื่องขนาด 1500cc ไม่ใช่ Grand Prix ที่ใช้เครื่องขนาดใหญ่กว่า) มีแต่แหล่งข้อมูลภาษาไทยเท่านั้นที่บอกว่าเคยชนะ Monaco GP (ที่ที่คุณ Copy เอามาลง ผมก็เคยอ่านมาก่อน) ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาลบหลู่ในพระปรีชาสามารถ แต่ต้องการความถูกต้องและแม่นยำของข้อมูล เพราะที่จะคุยกับต่างชาติได้อย่างภูมิใจไม่ติดๆขัดๆครึ่งๆกลางๆ ดังนั้นถ้าใครจะมีข้อมูลอ้างอิงที่แม่นยำก็อยากจะให้ลงให้ดูด้วยครับ

ผมเพิ่มให้เพื่อความเข้าใจนะครับคำว่า Grand Prix เป็นภาษาฝรั่งเศส ถ้าเป็นอังกฤษคือ Grand แปลว่าใหญ่ Prize คือรางวัล รวมๆแล้วแปลว่ารางวัลใหญ่ ซึ่งก็จะหมายถึง Formula 1

ยกตัวอย่าง รถที่แข่งที่ Monaco ในปัจจุบันมีหลายรายการเช่น Formula 3, GP2, Porsche Carrera Cup ฯลฯ ถ้าเคยชนะที่ Monaco อาจจะเป็นรายการรถแข่งพวกนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะรายการแข่งที่ Monaco แต่ไม่ใช่ Monaco GP ซึ่งเป็น Formula 1

ทุกแหล่งข่าวที่ผมเคยหาข้อมูล พูดตรงกันหมดว่า Monaco GP ปีนั้น Rudolf Caracciola นักขับเยอรมันเป็นผู้ชนะ Monaco GP ครับ

 

อยากให้มีการจัดการแข่งขันเหมือนกันคับ

 

ขอบคุณสำหรับความรู้และข้อมูลดีๆคร้าบ

 

ขอบคุณมากคับ ข้อมูลดีมากเลยคับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและรูปภาพด้วยคับผม

 

เคยอ่านมาแบบคร่าวๆครับ
แต่ประวัติของท่านสุดยอดจริงๆ

 

รู้สึกปลาบปลื้มเปนอย่างยิ่งในพระปรีชาสามารถของพระองค์

 

พระองค์ท่านทรงพระปรีชาเหลือเกินครับ ทรงเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของmotosportเมืองไทยและของโลกด้วยครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล ครับ